วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

จังหวัดแพร่ กำหนดจัดพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันฉัตรมงคล ประจำปี 2557

จังหวัดแพร่เชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันฉัตรมงคล ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2557 ที่ศาลาประชาคมจังหวัดแพร่

นายศักดิ์ชัย จ.ผลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าวว่า วันฉัตรมงคล ซึ่งมีความหมายตามพจนานุกรมว่า พระราชพิธี ฉลองพระเศวตฉัตร ทำในวันซึ่งตรงกับวันบรมราชาภิเษก วันฉัตรมงคลจึงเป็นวันที่ระลึกในการครบรอบปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับพระบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี กล่าวคือ พระองค์ได้เสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติ ต่อจากสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาอยู่ ณ ทวีปยุโรป จนกระทั่งทรงบรรลุนิติภาวะแล้ว จึงได้เสด็จนิวัติประเทศไทย และรัฐบาลไทย ได้น้อมเกล้าฯ จัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกถวาย เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493  ดังนั้นในวันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปี จึงถือเป็นมงคลสมัยมหาดิถีฉัตรมงคล ซึ่งเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของชาติไทย งานรัฐพิธีฉัตรมงคล จึงเป็นเสมือนสิ่งยืนยันว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติมาครบรอบอีกวาระหนึ่ง ด้วยพระราชกรณียกิจและพระราชอัธยาศัยที่ทำให้เหล่าพสกนิกรปลื้มปิติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

จังหวัดแพร่จึงกำหนดจัดพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันฉัตรมงคล ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2557 ขึ้นที่ศาลาประชาคมจังหวัดแพร่ จึงขอเชิญชวนข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมพิธีถวายราชสดุดีดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียงกันตั้งแต่เวลา 07.30 น. เป็นต้นไป โดยจะประกอบพิธีทางศาสนา พิธีถวายเครื่องราชสักการะ พิธีกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พิธีถวายจัตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ สำหรับการแต่งกายนั้น ข้าราชการเครื่องแบบปกติขาว ไม่สวมหมวก หรือเครื่องแบบปฏิบัติราชการสีกากีคอพับแขนยาว บุคคลทั่วไปชุดสากลนิยม หรือชุดสุภาพ



ฉัตรชัย พวงขจร / ข่าว /พิมพ์        

ลูกจ้างภาครัฐที่รับบำเหน็จ สามารถนำสิทธิไปเป็นหลักทรัพย์ประกันการกู้สถาบันการเงินได้

ลูกจ้างภาครัฐที่รับบำเหน็จ สามารถนำสิทธิไปเป็นหลักทรัพย์ประกันการกู้สถาบันการเงินได้มีผลบังคับใช้ 14 มกราคม 2557 เป็นต้นไป

นางสัญญา ไชยเชียงของ คลังจังหวัดแพร่ แจ้งผ่าน สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่ว่า ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง(ฉบับที่ 10) พ.ศ.2557 ประกาศเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2557 มีผลบังคับใช้ 14 มกราคม 2557 การนำสิทธิในบำเหน็จตกทอดไปเป็นหลักทรัพย์ในการประกันการกู้เงิน ผู้รับบำเหน็จรายเดือน หรือ ผู้รับบำเหน็จพิเศษรายเดือน นำสิทธิในบำเหน็จตกทอดไปเป็นหลักทรัพย์ในการประกันการกู้เงินกับสถาบันการเงินได้

โดยกรณีผู้รับบำเหน็จรายเดือน หรือ ผู้รับบำเหน็จพิเศษรายเดือน นำสิทธิในบำเหน็จตกทอดไปเป็นหลักทรัพย์ในการประกันเงินกู้ถึงแก่ความตายหรือผิดสัญญาเงินกู้ ให้กระทรวงการคลังจ่ายเงินให้แก่สถาบันการเงินที่ผู้นั้นได้นำสิทธิในบำเหน็จตกทอดไปเป็นหลักทรัพย์ในการกู้เงินเท่ากับจำนวนที่ถูกบังคับแต่ไม่เกินจำนวนที่นำสิทธิ์ในบำเหน็จตกทอดไปเป็นหลักทรัพย์ในการประกันการกู้เงิน

กรณีผู้รับบำเหน็จรายเดือน หรือ ผู้รับบำเหน็จพิเศษรายเดือน นำสิทธิในบำเหน็จตกทอดไปเป็นหลักทรัพย์ในการประกันเงินกู้ หากสัญญากู้เงินสิ้นสุดลง โดยไม่มีการบังคับเอากับสิทธิในบำเหน็จตกทอดที่นำไปเป็นหลักทรัพย์ในการประกันการกู้เงิน ทายาทมีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอด หรือสัญญากู้สิ้นสุดลง โดยมีการบังคับเอากับสิทธิในบำเหน็จตกทอดที่นำไปเป็นหลักทรัพย์ในการประกันการกู้เงิน ทายาทมีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอดเท่ากับจำนวนที่เหลือหลังจากกระทรวงได้หักเงินจำนวนที่จ่ายให้แก่สถาบันการเงินออกจากสิทธิ



วัชระ เพชรพลอย / ข่าว /พิมพ์     

ความสำคัญของวันพืชมงคล

วันพืชมงคลนั้นถือว่าเป็นวันที่มีความสำคัญของชาวไทย โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ทำนา ซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวไทย และเป็นวัน พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า วันพืชมงคล ซึ่งปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม 2557 ในประไทยนั้น การแรกนาขวัญซึ่งกระทำโดยราชสำนักนั้นประกอบด้วยพิธีสองอย่างตามลำดับ คือ พระราชพิธีพืชมงคล เป็นพิธีพุทธซึ่งตั้งขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4  กับพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นพิธีพราหมณ์ซึ่งกระทำสืบเนื่องมาแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน เรียกวันแรกนาขวัญว่า วันพืชมงคล และกำหนดให้วันพืชมงคลเป็นวันเกษตรกรไทย เพื่อระลึกถึงความสำคัญของเกษตรกรรมในเศรษฐกิจไทย และให้เป็นวันหยุดราชการด้วย แต่ไม่เป็นวันหยุดธนาคาร

พระราชพิธีพืชมงคล เป็นพิธีทางพุทธศาสนา มีพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ เป็นพิธีสงฆ์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงกำหนดให้มีขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นพิธีทำขวัญเมล็ดพืชพันธุ์ต่างๆ เช่น ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเหนียว ข้าวฟ่าง ข้าวโพด ถั่ว งา เผือก มัน เป็นต้น มีจุดมุ่งหมายที่จะให้เมล็ดพันธุ์เหล่านั้น ปราศจากโรคภัยและให้อุดมสมบูรณ์เจริญงอกงามดี

พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นพิธีทางศาสนาพราหมณ์ ซึ่งมีมาแต่โบราณ เป็นพิธีเริ่มต้นการไถนาเพื่อหว่านเมล็ดข้าว มีจุดมุ่งหมายที่ว่า บัดนี้ฤดูกาลแห่งการทำนาและเพาะปลูกได้เริ่มขึ้นแล้ว พระราชพิธีทั้งสองนี้ ได้กระทำเต็มรูปแบบมาเรื่อยๆ จนถึงปี พ.ศ. 2479 ได้เว้นไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ด้วยสถานการณ์โลกและบ้านเมืองอยู่ในภาวะที่ไม่สมควรจะจัดงานใดๆ จึงว่างเว้นไป 10 ปี ต่อมาทางราชการพิจารณาเห็นว่าประเทศไทย เป็นประเทศกสิกรรม โดยเฉพาะทำนาควรจะได้รับการฟื้นฟู ประเพณีเก่าอันเป็นมงคลแก่การเพาะปลูก ดังนั้น ใน พ.ศ. 2490 จึงกำหนดให้มีพิธีพืชมงคลขึ้นอีก แต่มีแค่พระราชพิธีพืชมงคลเท่านั้น (พิธีเต็มรูปแบบว่างเว้นไปถึง 23 ปี) ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2503 จึงจัดให้มีราชพิธีจรดพระนาคัลแรกนาขวัญร่วมกับพิธีพืชมงคลนับแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้จึงจัดให้เป็นวันสำคัญของชาติ



ฉัตรชัย พวงขจร / ข่าว /พิมพ์


   

จังหวัดแพร่ คัดเลือกบุคคล หน่วยงาน และโครงการดีเด่นในระดับจังหวัด

จังหวัดแพร่พิจารณาคัดเลือกบุคคล หรือหน่วยงาน และโครงการดีเด่นในระดับจังหวัดแพร่เพื่อเสนอสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า เช้าวันนี้(30เม.ย.57) ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ นายศักดิ์ชัย จ.ผลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานการประชุมพิจารณาคัดเลือกบุคคล หน่วยงาน และโครงการดีเด่นในระดับจังหวัดแพร่เพื่อเสนอสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

คณะอนุกรรมการพิจารณาคัดเลือกบุคคล หน่วยงาน และโครงการดีเด่นของชาติ ในคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ได้ดำเนินการคัดเลือกบุคคล หน่วยงาน และโครงการดีเด่นของชาติ จำแนกออกเป็น 5 สาขา ได้แก่ สาขาพัฒนาสังคม สาขาพัฒนาเศรษฐกิจ สาขาอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสาขาเผยแพร่เกียรติภูมิไทย ประจำปี พ.ศ. 2557 เพื่อเข้ารับพระราชทานรางวัลจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติ ประกาศเกียรติคุณ สร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ได้รับรางวัล รวมทั้งเสริมสร้างและกระตุ้นให้ประชาชนและหน่วยงานอื่นๆ ยึดเป็นแบบอย่างในการประพฤติปฏิบัติและสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นคุณประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติต่อไป

ผลของการพิจารณาในระดับจังหวัดปรากฏว่า นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้รับการการคัดเลือกในสาขาพัฒนาสังคม และนายวิทยา สุริยะ ครู คศ.2 วิทยาลัยอาชีวศึกษาแพร่ ได้รับการคัดเลือก ในสาขาเผยแพร่เกียรติภูมิไทย โดยทั้งสองท่านที่ได้รับการคัดเลือกในระดับดับจังหวัด จะได้รับการเสนอชื่อให้กับคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตี เพื่อพิจารณาอีกครั้งเป็นลำดับสุดท้ายเพื่อเป็นผลงานดีเด่นระดับชาติ



วัชระ เพชรพลอย / ข่าว /พิมพ์     

วันที่ 1 พฤษภาคม เป็นวันแรงงานแห่งชาติ

วันที่ 1 พฤษภาคม เป็นวันแรงงานแห่งชาติ เพื่อให้ความสำคัญกับผู้ใช้แรงงาน ตลอดจนการจัดสวัสดิการต่างๆ แก่ผู้ใช้แรงงาน

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า ในวันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปีเป็นวันแรงงานแห่งชาติ โดยมุ่งเน้นการให้ความสำคัญของผู้ใช้แรงงาน เพื่อเป็นการยกย่อง และชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของแรงงาน เพื่อให้เกิดการพัฒนาทั้งในคุณภาพ ความเป็นอยู่ตลอดจนสิทธิอันชอบธรรมที่ผู้ใช้แรงงานสมควร จะได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างจริงจัง ซึ่งหลายพื้นที่มีการจัดกิจกรรมให้ผู้ใช้แรงงานได้รวมกลุ่มและทำกิจกรรมร่วมกัน 

ความเป็นมาของวันแรงงานแห่งชาติ พ.ศ. 2477 ได้มีการจัดตั้งกองกรรมกรขึ้น เพื่อทำหน้าที่ด้านการจัดหางาน และศึกษาภาวะความเป็นอยู่ของคนงานทั่วไป ในปี พ.ศ. 2499 รัฐบาลได้ มีการขยายกิจการด้านแรงงานสัมพันธ์มากขึ้น และประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับแรกในปี พ.ศ. 2508 และในปีเดียวกันนั้นได้มีการจัดตั้งกรมแรงงานขึ้น อีกทั้งประกาศใช้พระราชบัญญัติกำหนดวิธีระงับข้อพิพาทแรงงาน ปัจจุบันการบริหารแรงงานอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม โดยมีหน่วยงานดำเนินการทาง ด้านการจัดหางาน ด้วยการช่วยเหลือคนว่างงานให้มีงานทำ ช่วยเหลือนายจ้างให้ได้คนมีคุณภาพดีไปทำงาน รวบรวมเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับการทำงาน แหล่งงาน ภาวะตลาดแรงงาน การแนะแนวอาชีพ ให้คำปรึกษาแก่เยาวชนและผู้ประสงค์จะทำงาน เพื่อให้สามารถเลือกแนวทางประกอบอาชีพที่เหมาะสมตามความถนัด ความสามารถทางร่างกาย คุณสมบัติ บุคลิกภาพและความเหมาะสมแก่ความต้องการทางเศรษฐกิจ การพัฒนาแรงงาน มุ่งส่งเสริมพัฒนาฝีมือแก่คนงาน และเยาวชนที่ไม่มีโอกาสศึกษาต่อโดยการฝึกแบบเร่งรัด

การคุ้มครองแรงงาน วางหลักการและวิธีการเกี่ยวกับชั่วโมงทำงาน วันหยุดงาน ตลอดจนการจัดให้มีสวัสดิการต่างๆ และด้านแรงงานสัมพันธ์ ทำการส่งเสริมและสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างให้ ทั้งสองฝ่ายเข้าใจถึงลักษณะและสภาพของปัญหา ตลอดจน วิธีการที่เหมาะสมที่จะช่วยขจัดความเข้าใจผิดและข้อขัดแย้งอื่นๆ

ในส่วนของจังหวัดแพร่จัดงานวันแรงงานแห่งชาติขึ้นที่โรงยิมส์ 1,000 ที่นั่ง สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ควบคู่กับงานสัปดาห์ความปลอดภัยในการทำงาน ประจำปี 2557 ด้วย




ฉัตรชัย พวงขจร / ข่าว /พิมพ์     

กรมประชาสัมพันธ์กำหนดจัดงานวันคล้ายวันก่อตั้งกรมประชาสัมพันธ์

กรมประชาสัมพันธ์กำหนดจัดงานวันคล้ายวันก่อตั้งกรมประชาสัมพันธ์ ครบรอบ 81 ปี ในวันที่ 2-3 พฤษภาคม 2557 ที่กรมประชาสัมพันธ์

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า ตามที่กรมประชาสัมพันธ์เป็นหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง ในการเสริมสร้าง ความเข้าใจอันดี ระหว่างรัฐบาล และหน่วยงานของรัฐบาล กับประชาชน ตลอดจนระหว่างประชาชนด้วยกัน โดยวิธีการ ให้ข่าวสาร ความรู้ ข้อเท็จจริง และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อเสนอรัฐบาล และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่ โน้มน้าว ชักจูง ประชาชนเพื่อก่อให้เกิด ความร่วมมือ แก่รัฐบาล และหน่วยราชการต่างๆ ตามแนวทาง ที่ถูกที่ควร ในระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

กรมประชาสัมพันธ์เริ่มก่อตั้งเมื่อ 3 พฤษภาคม 2476 ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช มาเป็นระบอบประชาธิปไตย มีรัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ โดยมีชื่อ ในระยะเริ่มแรก ว่า "กองโฆษณาการ” และได้เปลี่ยนชื่อเป็น สำนักงานโฆษณาการ” เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2476 และได้มีการพัฒนา ผลงาน มาเป็นลำดับ โดยมีการปรับปรุง และขยายความรับผิดชอบ เพิ่มขึ้นทุกๆ ระยะ ตามความเจริญก้าวหน้า ทางวิชาการ สภาพของสังคม การเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ตลอดจนนโยบายของรัฐบาล ในแต่ละสมัย และเปลี่ยนชื่อมาเป็น "กรมโฆษณาการ” เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2483 หลังจากนั้น 12 ปี ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "กรมประชาสัมพันธ์” เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2495

กรมประชาสัมพันธ์เดิมตั้งอยู่ที่อาคารหัวมุมถนนราชดำเนิน แต่เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ทำให้อาคารกรมประชาสัมพันธ์ ถูกเพลิงไหม้ เสียหายอย่างหนัก จึงย้ายไปตั้ง ณ อาคารเลขที่ 9 ซอยอารีย์สัมพันธ์ ถนนพระรามที่ 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร จนถึงปัจจุบัน

กรมประชาสัมพันธ์ใช้สัญลักษณ์เป็นรูปพระอินทร์เป่าสังข์ เหาะลอยอยู่เหนือเมฆ มีวงกลมล้อมรอบ โดยอิงตามคติในวรรณคดีโบราณว่า พระอินทร์มีหน้าที่เป่าสังข์ชื่อ "ปาญจนันท์" ปลุกพระนารายณ์ให้ตื่นจากบรรทมสินธุ์ในสะดือทะเล เพื่อขึ้นมาปราบเหตุร้ายต่างๆ ในโลก และโดยความเชื่อในศาสนาฮินดู สังข์ถือเป็นมงคลสามประการคือ ถือกำเนิดจากพระพรหม ท้องสังข์เคยเป็นที่ซ่อนคัมภีร์พระเวท และตัวสังข์มีรอยนิ้วพระหัตถ์ของพระนารายณ์ ในพิธีทางศาสนาพราหมณ์ จึงมีการเป่าสังข์เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย สอดคล้องกับหลักการประชาสัมพันธ์ ที่เป็นการเผยแพร่ชี้แจงประชาชนให้เข้าใจอย่างกว้างขวาง และสร้างความเข้าใจอันดี จึงเปรียบได้กับการเป่าสังข์เพื่อเรียกประชุมของเทวดา ตราสัญลักษณ์นี้ใช้สีม่วงเป็นสีหลักของตรา ซึ่งเป็นสีของงานประชาสัมพันธ์ และใช้มาจนกระทั่งเป็นกรมประชาสัมพันธ์ในปัจจุบัน

ปีนี้มีการจัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันก่อตั้งครบรอบ 81 ปี โดยวันที่  2 พฤษภาคม 2557 มีการแข่งขันกีฬาภายในกรม และวันที่ 3 พฤษภาคม มีการทำบุญเลี้ยงพระ



ฉัตรชัย พวงขจร / ข่าว /พิมพ์


   

จังหวัดพะเยา ขอเชิญประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันฉัตรมงคล ในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ ณ ศาลาประชาคมจังหวัดพะเยา

นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า วันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันฉัตรมงคล ซึ่งถือเป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสทรงเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ จังหวัดพะเยาจึงกำหนดจัดพิธีถวายราชสดุดีเนื่องในวันฉัตรมงคล ในวันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป ณ ศาลาประชาคมจังหวัดพะเยา โดยจะมีพิธีสงฆ์ พิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์และกล่าวคำถวายราชสดุดี ทั้งนี้เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตลอดจนเพื่อเป็นการปลูกฝังความสามัคคีของคนในชาติและเทิดทูนสถาบัน รวมทั้งเสริมสร้างความรู้รัก ความสามัคคีของคนในชาติให้เกิดความสงบ สันติ

สำหรับการแต่งกาย ข้าราชการพลเรือน ตุลาการ อัยการ แต่งเครื่องแบบปกติขาว ส่วนทหาร-ตำรวจ เครื่องแบบปกติขาว คาดกระบี่และถุงมือ สำหรับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่งเครื่องแบบปฏิบัติราชการสีกากี สมาคม ชมรม สโมสร แต่งชุดตามสังกัดและประชาชนทั่วไปแต่งชุดสุภาพ จังหวัดพะเยาจึงขอเชิญประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันฉัตรมงคล ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน



ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ
หน่วยงาน : สวท.พะเยา

สำนักงานขนส่งจังหวัดพะเยา เปิดรับคำขอจัดสรรเงินเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ เนื่องจากประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน ประจำปี 2557

นายวิโรจน์ วิริยะจันทร์ ขนส่งจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก ได้กำหนดให้มีการเปิดรับคำขอจัดสรรเงินเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ อันเนื่องจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน ในส่วนที่นอกเหนือจากค่าสินไหมทดแทน ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 21 เมษายน 2557 - 2 พฤษภาคม 2557 โดยคุณสมบัติของผู้รับจัดสรรเงินเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ ต้องเป็นผู้พิการอันเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนมาก่อน หรือเคยได้รับความช่วยเหลือมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี ส่วนอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ ต้องเป็นอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ อาทิ แขนเทียม ขาเทียม รถนั่งสำหรับผู้พิการ ไม้เท้าและไม้ค้ำยัน อุปกรณ์อื่น ได้แก่ เบาะรองนั่งป้องกันแผลกดทับ เตียงนอนธรรมดา ที่นอนลมป้องกันแผลกดทับ รถสามล้อโยก เครื่องช่วยหายใจ และเครื่องดูดเสมหะ

ทั้งนี้จะพิจารณาให้ตามความเหมาะสมกับสภาพความพิการ และสภาพการใช้งานของผู้พิการเป็นรายบุคคลไป ผู้พิการที่จะขอรับจัดสรรเงินค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการฯ ให้ยื่นคำขอตามแบบที่กำหนด ได้ที่ สำนักงานขนส่งจังหวัดพะเยา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.054-431111 ในวันเวลาราชการ



ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ
หน่วยงาน : สวท.พะเยา

เลขาธิการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง และมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ นำคณะประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ติดตามความก้าวหน้าโครงการปิดทองหลังพระฯ ในพื้นที่ จังหวัดน่าน เป็นวันที่ 2

ที่ฝายห้วยโป่ง ลุ่นน้ำขว้าง และฝายผาเงิ้ม ลุ่มน้ำขว้าง และฝายต้นไฮ ตำบลวรนคร อำเภอปัว จังหวัดน่าน มรว. ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง และมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ได้นำ นายประภัทร์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ และคณะ ตรวจติดตามความก้าวหน้าของพื้นที่ต้นแบบ โครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริฯ ในพื้นที่ จังหวัดน่าน ที่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ได้ดำเนินกิจกรรมขึ้น ในการสร้างผ้าป่าแรงงาน การสร้างฝาย โดยมีมีค่าแรงงาน เพื่อพัฒนาในการบริหารจัดการน้ำ ให้กับ ชุมชนในลุ่มน้ำสาขา ของแล่น้ำขว้าง ลุ่มน้ำน่านในจังหวัดน่าน โดยมีนายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ให้การต้อนรับ พร้อมกันนี้ ทาง มรว. ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง และมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ ได้นำ นายประภัทร์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ และคณะได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ได้ร่วมกัน ใช้ผ้าป่าแรงงาน ในการทำแนวทำนบการสร้างฝาย เพื่อส่งน้ำเข้าแปลงเกษตร ของราษฎร ในพื้นที่ใช้ประโยชน์จากฝาย

ทั้งนี้ ในการดำรงชีวิตและหาเลี้ยงชีพด้วยการทำการเกษตรในรูปแบบต่างๆ อย่างไรก็ตามชุมชนเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ลุ่มน้า ได้แก่ ป่าไม้ แหล่งน้ำ และดินในการปลูกพืช การเกษตรแตกต่างกัน บางชุมชนอนุรักษ์ป่าธรรมชาติ เพื่อเป็นแหล่งน้าสาหรับการเกษตรโดยการปลูกพืชผสมผสาน บางชุมชนตัดไม้แผ้วถางป่าเพื่อทาไร่หมุนเวียนและปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น ข้าวโพด เพื่อความอยู่รอด แต่ชุมชนส่วนใหญ่ยังประสบปัญหาความยากจนอยู่ ซึ่งการแก้ไขปัญหาความยากจน และการยกระดับคุณภาพชีวิตตามแนวพระราชดำริฯ ที่มี 2. แนวทาง ตามการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ แต่ต่างก็มีจุดสำคัญร่วมกัน คือ ชุมชนเห็นด้วยและร่วมดำเนินการ ชุมชนอนุรักษ์ป่าธรรมชาติ แก้ไขปัญหาความยากจนทาด้วยการสนับสนุนเพิ่มเติมด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและดิน ให้สามารถปลูกพืช เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งปี ตามศักยภาพของแหล่งน้ำ และดินในพื้นที่ เช่น การสร้างหรือซ่อมแซมฝายเดิม และระบบส่งน้ำ ตลอดจนการปรับปรุงบำรุงดิน และลดการใช้สารเคมี เป็นต้น ตามแนวทางโครงการขยายผลโครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดาริ โดยภาคประชาคมจังหวัดน่าน ภายใต้แนวคิด "ผ้า...ป่าสามัคคี ฮักษาป่าต้นน้ำน่าน โดยใช้ผ้าป่าแรงงานในการสร้างฝาย จากเดิมต้องซ่อมแซมเป็นประจำทุกๆปี

โดยใช้ค่าใช้จ่ายการซ่อมฝายปีละ 5,701,900 บาท หลังจากที่โครงการปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริฯ และมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ได้เข้าไปช่วยเหลือ มีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 17,688,576 บาท ต่อปี ซึ่งการบริหารจัดการน้ำครั้งนี้ คนในชุมชน ลุ่มน้ำ ของทั้ง 22 หมู่บ้าน ที่ดูแลลุ่มน้ำ สามารถผันน้ำ (ปล่อยน้ำลงในพื้นแปลงนา ของตนเองได้ จำนวน 230,568 ไร่ จากนั้นคณะ ได้ร่วมดูพื้นที่เพาะกล้าไม้ ของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง โดยมีอาสาสมัครโครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริฯ ในพื้นที่บรรยายสรุปของการดำเนินงาน ในพื้นที่นำร่องต้นแบบการพัฒนา ในการแก้ปัญหาพื้นที่ลุ่มน้ำน่านโดยให้ชุมชนใช้ป่าธรรมชาติ แก้ไขความยากจน ในการบริหารจัดการน้ำ ในพื้นที่ทำกิน และในพื้นที่ป่าทั้งหมด ตาม "ดอยตุงโมเดล” โดยแบ่งเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ร้อยละ 60 ป่าใช้สอยร้อยละ 8 ป่าเศรษฐกิจร้อยละ 20 พื้นที่ทากินร้อยละ 10 และที่อยู่อาศัยร้อยละ 2 ของพื้นที่ลุ่มน้ำในเขตชุมชนทั้งหมด รวมถึงการส่งเสริมอาชีพต่างๆ เพื่อลดต้นทุนการผลิต เป็นต้น ภายใต้ โครงการปลูกป่า สร้างคน บนวิถีพอเพียง รักษาต้นน้ำ บรรเทาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดน่าน ส่วนพืชที่ทำให้ป่าหาย พืชเชิงเดี่ยว คือข้าวโพด ที่เป็นปัญหาสำคัญ ที่ประชาชน มีการบุกรุกพื้นที่ป่า ทำการแผ้วถางเพิ่มมากขึ้น ทำให้พื้นที่ป่ากลายเป็นภูเขาหัวโล้น และก่อให้เกิดปัญหาอุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก โดยฝีมือของมนุษย์




สมาน  สุทำแปง / ภาพข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน

อำเภอเมืองน่าน จัดงานประเพณีแปดเป็งนมัสการพระธาตุเขาน้อย เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา

อำเภอเมืองน่าน กำหนดจัดงานประเพณีแปดเป็งนมัสการพระธาตุเขาน้อย เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา ประจำปี 2557 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น

นายบุญยัง เรือนกุล นายอำเภอเมืองน่าน เปิดเผยว่า อำเภอเมืองน่านร่วมกับสภาวัฒนธรรมอำเภอเมืองน่าน เทศบาลตำบลดู่ใต้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านในเขตอำเภอเมืองน่าน กำหนดจัดงานประเพณีแปดเป็งนมัสการพระธาตุเขาน้อย เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา ประจำปี 2557 ในระหว่างวันที่ 12-13 พฤษภาคม 2557 ณ วัดพระธาตุเขาน้อย ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กและเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชน พุทธศาสนิกชน ได้น้อมรำลึกถึงพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในโอกาสเทศกาลวันวิสาขบูชา ตลอดจนเพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนา และสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น

สำหรับกิจกรรมวันที่ 12 พฤษภาคม 2557 เริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 น. ตั้งองค์ผ้าป่าพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญปิดทองพระเจ้าทันใจ และร่วมเป็นเจ้าภาพบูชาเทศน์มหาชาติฯ เวลา 09.00 น. พิธีเปิดงานประเพณีฯ และพิธีปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะ และการแสดงนิทรรศการวิสาขบูชาวันสำคัญของโลก ส่วนในภาคค่ำ เวลา 18.00 น. การแสดงพระธรรมเทศนา การแสดงตีกลองเอว การแสดงตีกลองปู่จา ส่วนกิจกรรมวันที่ 13 พฤษภาคม 2557 เริ่มตั้งแต่เวลา 05.00 น. การแสดงเทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดก กัณฑ์ที่ 1 เวลา 06.00 น. พิธีทำบุญตักบาตร พิธีถวายผ้าทิพย์ห่มองค์พระธาตุเขาน้อยและถวายน้ำสรงพระธาตุเขาน้อย จากนั้นขบวนครัวทานของทุกตำบลแห่เข้าวัด ส่วนในภาคค่ำ เป็นการแสดงดนตรีพื้นบ้านของเด็กและเยาวชนตำบลดู่ใต้ พิธีถวายทานผ้าป่าสามัคคี และการแสดงอื่นอีกมากมาย

ดังนั้น จึงขอเชิญชวนนักเรียน นักศึกษา ประชาชน และพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ร่วมงาน ประเพณีแปดเป็งนมัสการพระธาตุเขาน้อย เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา ประจำปี 2557 ในระหว่างวันที่ 12-13 พฤษภาคม 2557 ณ วัดพระธาตุเขาน้อย ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน โดยพร้อมเพรียงกัน




รดา บุญยะกาญจน์/ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน

กรมทรัพย์สินทางปัญญา จัดการสัมมนา เรื่อง AEC กับการจดเครื่องหมายทะเบียนการค้าระหว่างประเทศ

กรมทรัพย์สินทางปัญญา จัดการสัมมนา เรื่อง AEC กับการจดเครื่องหมายทะเบียนการค้าระหว่างประเทศ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการ สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับระบบและขั้นตอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศภายใต้พิธีสารมาดริด เพื่อรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

วันนี้ (30 เมษายน 2557) เวลา 09.00 น. นายสมศักดิ์ พณิชยกุล รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เป็นประธานเปิดการสัมมนา เรื่อง AEC กับการจดเครื่องหมายทะเบียนการค้าระหว่างประเทศ ณ ห้องดอย สุเทพ โรงแรมแคนทารี ฮิลล์ เชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการ สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับระบบและขั้นตอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศภายใต้พิธีสารมาดริด เพื่อรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

นายวรวุฒิ โปษกานนท์ ผู้อำนวยการสำนักเครื่องหมายการค้า สำนักเครื่องหมายการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้จัดการสัมมนาเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการในการเสริมสร้างศักยภาพ และพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทยในการดำเนินธุรกิจทางการค้า โดยเน้นประเด็นหลักเรื่องการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศ หรือพิธีสารมาดริด (Madrid Protocol) ถือเป็นช่องทาง และเครื่องมือที่สำคัญของผู้ประกอบการในการขยายโอกาส และเพิ่มช่องทางทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการ โดยในปีนี้จะเน้นผู้ประกอบการในภูมิภาคเป็นสำคัญ ได้แก่ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครศรีธรรมราช และภาคกลาง จังหวัดสมุทรปราการ โดยจังหวัดแรกของการจัดสัมมนาในภูมิภาคคือจังหวัดเชียงใหม่ โดยกลุ่มผู้เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้ประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม ในจังหวัดภาคเหนือทั้ง 9 จังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์

รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ว่างแผนแนวทางที่จะเข้าเป็นสมาชิกระบบการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศ หรือพิธีสารมาดริด (Madrid Protocol) ให้ได้ภายในปี 2558 ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถดำเนินการขอรับความคุ้มครองเครื่องหมายการค้าของตนเองในต่างประเทศได้สะดวกรวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการมากขึ้น ปัจจุบัน (ณ วันที่ 15 เมษายน 2557) มีสมาชิกพิธีสารมาดริด จำนวน 91 ประเทศ สำหรับในกลุ่มอาเซียนมีประเทศที่เป็นสมาชิกพิธีสารมาดริดแล้ว จำนวน 3 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ เวียดนาม และฟิลิปปินส์

กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้เตรียมการเข้าเป็นสมาชิกพิธีสารมาดริดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548 ทั้งด้านการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย การจัดเตรียมองค์กร และอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมต่อกับระบบการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ซึ่งเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2555 รัฐสภาได้เห็นชอบในการเข้าเป็นภาคีพิธีสารมาดริดของไทยแล้ว ส่วนการแก้ไขปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าฯ เพื่อรองรับการเข้าเป็นสมาชิกพิธีสารมาดริด ขณะนี้ อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาคาดว่าเมื่อมีรัฐบาลใหม่แล้ว กระทรวงพาณิชย์จะเร่งเสนอร่างแก้ไขพระราชบัญญัติเครื่องหมาย การค้าฯ ดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาพิจารณาตามลำดับต่อไป



ข่าวโดย : ณัฏฐ์ สินันตา
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมคณะกรรมการ ศพส.จ.ชม.และคณะกรรมการความมั่นคง ฯ

จังหวัดเชียงใหม่ประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดเชียงใหม่ (ศพส.จ.ชม.) และคณะกรรมการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 4/2557 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานในรอบเดือนที่ผ่านมา

นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดเชียงใหม่ และคณะกรรมการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ ที่ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ มีการประชุมรายงานวิเคราะห์สถานการณ์การเกิดอาชญากรรม สถานการณ์และแนวโน้มปัญหายาเสพติด ติดตามผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด

นอกจากนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานการวิเคราะห์สถานภาพการเกิดอาชญากรรม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นำเสนอสถานการณ์และแนวโน้มปัญหายาเสพติด ติดตามผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด แผนที่ 1 การสร้างพลังสังคมและพลังชุมชนเอาชนะยาเสพติด แผนที่ 2 การแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด แผนที่ 3 การสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติด แผนที่ 4 การปราบปรามยาเสพติดและบังคับใช้กฎหมาย แผนที่ 5 ความร่วมมือระหว่างประเทศ แผนที่ 6 การสกัดกันยาเสพติด และ แผนที่ 7 การบริหารจัดการแบบบูรณาการ เร่งรัดการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ปี 2557 จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงมีการรายงานผลการดำเนินงานกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำเดือนเมษายน 2557 ด้วย



ข่าวโดย : ณัฏฐ์ สินันตา / พรไพลิน นุชเครือ
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

การประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 4/2557


จังหวัดเชียงใหม่ ติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล นโยบายจังหวัดเชียงใหม่ในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 4/2557 พร้อมรับฟังความก้าวหน้าในโครงการต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่

การประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 4/2557 ณ ห้องประชุมเอนกประสงค์ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุม ติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล นโยบายจังหวัดเชียงใหม่ ผลการเบิกจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 สถานการณ์สินค้าเกษตร (ข้าว/หอมแดง/กระเทียม ) การจ่าย เงินโครงการรับจำานาข้าวเปลือกปี 2556/57 และมาตรการช่วยเหลือ สรุปผลการดำเนินงานการป้องกันและลดอุบัตเหตุ ทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2557 จังหวัดเชียงใหม่ สรุปผลการดำเนินการ 80วันแห่งการเฝ้าระวังและควบคุมหมอกควนไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่

ทั้งนี้มีการมอบการมอบเกียรติบัตรคนดีศรีเชียงใหม่ ประจําปี พ.ศ. 2557 แก่ นายนวพฤทธิ์ สวยงาม (สํานักงานจังหวัดเชียงใหม่) เนื่องจากเป็นตัวอย่างพลเมืองดีเก็บของคืนแก่เจ้าของ การรับมอบป้ายบอกทางสถานที่ราชการสําคัญในจังหวัดเชียงใหม่ จํานวน 100 ป้าย จาก บริษัท โตโยต้านครพิงค์ จํากัด และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้บริษัท โตโยต้านครพิงค์ จํากัด (สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่) มอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้อําเภอที่มีผลงานดีเด่นในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2557 จํานวน 7 อําเภอ ได้แก่ อําเภอสันกําแพง อําเภอแม่วาง อําเภอพร้าว อําเภอสะเมิง อําเภอดอยเต่า อําเภอดอยหล่อ และอําเภอกัลยาณิวัฒนา (สํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่) การมอบวุฒิบัตรให้ข้าราชการครู พนักงานครูและบุคลากรทางการศึกษาท้องถิ่นที่ผ่านการพัฒนาก่อนแต่งตั้งให้เลื่อนสู่วิทยฐานะชํานาญการพิเศษและเชี่ยวชาญ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2557 จํานวน 6 ราย (สํานักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่) การมอบโล่ประกาศเกียรติคุณของจังหวัดเชียงใหม่ตามโครงการรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดเชียงใหม่ (ที่ทําการปกครองจังหวัดเชียงใหม่)



ข่าวโดย : ณัฏฐ์ สินันตา / พัชรินทร์ คำนาศักดิ์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

ผวจ.เชียงราย ให้สัมภาษณ์กรณีการเดินทางเยือนและศึกษาดูงานประเทศญี่ปุ่น และการสร้างถนนสายซากุระ

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้สัมภาษณ์ในรายการ "การพัฒนาเชียงราย ตามนโยบายของผู้ว่า” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดเชียงราย FM 95.75 MHz. เมื่อวันอังคารที่ 29 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา กรณีการเดินทางเยือนและศึกษาดูงานด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่ประเทศญี่ปุ่น และเตรียมสร้างถนนสายซากุระให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดเชียงราย โดยมีนายเจริญพงษ์ คำมีสว่าง และนางสาวกนกพร เพียรชั่งคิด ดำเนินรายการ นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้สัมภาษณ์ว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา ตัวแทนจังหวัดกุนมะ ประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าเยี่ยมคารวะผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และได้มอบต้นซากุระจำนวน 2 ต้น เพื่อเป็นที่ระลึกและการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่าง จังหวัดเชียงราย กับจังหวัดกุนมะ เพื่อแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต จังหวัดเชียงราย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และคณะประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนของจังหวัดเชียงราย จึงได้เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ จังหวัดกุนมะ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 18 – 22 เมษายน 2557 เพื่อสร้างความสัมพันธ์ทั้งทางด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว

พร้อมทั้งศึกษาดูงานการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ศึกษาวิธีการปลูกและขั้นตอนการดูแลรักษาต้นซากุระ ซึ่งเป็นสายพันธุ์จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับโครงการถนนสายซากุระ ซึ่งจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ รวมทั้งการหารือการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง ระหว่างจังหวัดเชียงรายกับจังหวัดกุนมะ ประเทศญี่ปุ่น ทางด้านนายมาซาเอกิ โอซาว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดกุนมะ กล่าวกับคณะศึกษาดูงานว่า จังหวัดกุนมะมีความยินดีที่จะสนับสนุน และส่งเสริมการเชื่อมความสัมพันธ์เป็นเมืองพี่เมืองน้อง ระหว่างจังหวัดเชียงรายกับจังหวัดกุนมะ พร้อมส่งเสริมและผลักดันการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และสนับสนุนโครงการปลูกซากุระในจังหวัดเชียงราย โดยกำหนดจะส่งมอบต้นซากุระ จำนวน ๑,๐๐๐ ต้น ให้กับจังหวัดเชียงราย โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ในเดือนธันวาคม ๒๕๕๗ นี้ จังหวัดเชียงรายคาดว่าจะทำการปลูกต้นซากุระในวันพ่อแห่งชาติ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ ณ ถนนซากุระ สายหน้าสนามบินนานาชาติแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย โทรศัพท์ 053-150163

จังหวัดแม่ฮ่องสอน เตรียมจัดการแข่งขันกีฬาชาวไทยภูเขาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 27 แม่ฮ่องสอนเกมส์

เช้าวันนี้ (30 เมษายน 2557) นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เปิดเผยในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ครั้งที่4 ประจำปี 2557 ว่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน เตรียมจัดการแข่งขันกีฬาชาวไทยภูเขาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 27 แม่ฮ่องสอนเกมส์ ระหว่างวันที่ 6-10 กรกฎาคม 2557 เพื่อให้เยาวชน และประชาชน มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง และตื่นตัวในการเล่นกีฬา หรือออกกำลังกาย โดยสร้างวัฒนธรรมการเล่นกีฬาที่สอดคล้องกับวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตของกลุ่มชาวไทยภูเขา ได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนเอื้อประโยชน์ในการสรรหานักกีฬาที่มีความสามารถ เป็นตัวแทนจังหวัด เข้าร่วมแข่งขันกีฬาในระดับประเทศ โดยประเภทกีฬาที่กำหนดจัดการแข่งขัน ได้แก่ วิ่งแบกก๋วย ยิงหน้าไม้ วิ่งขาหยั่ง ขว้างสากมอง ตักน้ำใส่กระบอก และชักเย่อ ตราสัญลักษณ์เป็นรูปพระธาตุดอยกองมู และดอกบัวตอง และมาสคอตเป็นรูปช้างแต่งกายด้วยชุดพื้นเมือง ซึ่งเป็นสัตว์นำโชคเป็นประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยจะมีการจัดแถลงข่าว ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2557 ที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีการเสนอเรื่อง พิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันฉัตรมงคล ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 5 พฤษภาคม 2557 ที่ศาลาประชาคม จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย รวมถึง กิจกรรม Incoming และกิจกรรมพัฒนาผู้ประกอบการ ในการเข้าสู่ตลาดเมียนมาร์ ระหว่างวันที่ 4-8 พฤษภาคม 2557 เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558


ข่าวโดย : ชญานิศ/ชลนารถ นิสิตฝึกงานจุฬาฯ
    หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

กิจกรรมว่ายน้ำเพื่อสุขภาพ ประจำปี 2557 ของเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ได้สิ้นสุดลงแล้ว

วันนี้ (30 เมษายน 2557) นายปกรณ์ จีนาคำ นายกเทศมนตรีเมืองแม่ฮ่องสอน เป็นประธาน มอบวุฒิบัตรแก่นักเรียนผู้ผ่านการอบรมว่ายน้ำ และวิทยากรผู้ฝึกสอน กิจกรรมภาคฤดูร้อน กิจกรรมว่ายน้ำเพื่อสุขภาพ ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน โดยมีนักเรียนจำนวน 60 คน และผู้ปกครองร่วมเป็นเกียรติในพิธีจำนวนมาก ซึ่งกิจกรรมภาคฤดูร้อน กิจกรรมว่ายน้ำเพื่อสุขภาพ เป็นกิจกรรมในโครงการศูนย์เยาวชนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ประจำปี 2557 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 21เมษายน ที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนรักการออกกำลังกาย ห่างไกลจากยาเสพติด มีสุขภาพที่แข็งแรง และส่งเสริมให้เยาวชนมีทักษะด้านการว่ายน้ำ ที่สระว่ายน้ำเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน มีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญกีฬาว่ายน้ำ เป็นผู้ฝึกสอนจำนวน 4 คน

นายกเทศมนตรีเมืองแม่ฮ่องสอน ได้กล่าวให้โอวาท แก่เยาวชนผู้เข้ารับวุฒิบัตร พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณท่านผู้ปกครองที่อนุญาตให้บุตรหลานมาเข้าร่วมโครงการ และเปิดเผยว่าเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนเตรียมจัดตั้งชมรมกีฬาฟุตบอลภายในปีนี้ และจะมีการตั้งฟุตบอลอะคาเดมี่ เพื่อฝึกสอนกีฬาฟุตบอลแก่เยาวชนที่สนใจด้วย นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า มีเยาวชนชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้เข้าแข่งขันในกีฬาระดับโลก 2 คน คือ นักกีฬาวอลเลย์บอลชายหาดทีมชาติไทย ในการแข่งขันโอลิมปิกเยาวชนปีนี้ ที่ประเทศจีน และเข้ารอบสุดท้ายในการแข่งขันกอล์ฟชิงแชมป์เยาวชนโลก ที่สหรัฐอเมริกาต่อไป


ข่าวโดย : ศุภณัฐ สิริภัทรวณิช นิสิตฝึกงานจุฬาฯ
    หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เตรียมจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการสร้างสายส่งไฟฟ้าฮอด ถึงแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

รองศาสตราจารย์ ดร. นพภาพร พานิช หัวหน้าโครงการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เตรียมจัดการประชุมประชาสัมพันธ์โครงการและรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 การศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าระดับแรงดัน 115 กิโลโวลต์ ช่วงสถานีไฟฟ้าฮอด อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ถึงสถานีไฟฟ้าแม่สะเรียง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2557 ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอแม่สะเรียง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อนำเสนอผลการศึกษาวิเคราะห์ด้านสิ่งแวดล้อมจากการพัฒนาโครงการมาตรการป้องกันแก้ไขผลกระทบ และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ต่อมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

โครงการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าระดับแรงดัน 115 กิโลโวลต์ ช่วงสถานีไฟฟ้าฮอด อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ถึงสถานีไฟฟ้าแม่สะเรียง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ระยะทางประมาณ 110 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 108 ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด โดยสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับมอบหมายจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ให้ดำเนินการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม จากโครงการดังกล่าว




ข่าวโดย : ศุภณัฐ สิริภัทรวณิช นิสิตฝึกงานจุฬาฯ
    หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

รพ.ลำปาง เริ่มเปิดให้บริการหน่วยตรวจสวนหัวใจและหลอดเลือด รักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจอย่างครบวงจร ด้วยเครื่องมืออันทันสมัย

นายแพทย์ ธำรง หาญวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำปาง พร้อมด้วย นายแพทย์ ยศวีร์ โชติช่วง อายุรแพทย์และมัณฑนากรด้านโรคหัวใจ คณะทีมแพทย์ และคณะผู้บริหาร ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ในโอกาสเปิดห้องตรวจสวนหัวใจและหลอดเลือด ให้บริการแก่ผู้ป่วยโรคหัวใจ ที่ ห้องหน่วยตรวจสวนหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลลำปาง ตำบลสวนดอก อำเภอเมืองลำปาง ซึ่งการเปิดให้บริการครั้งนี้เป็นการเริ่มเปิดให้บริการของหน่วยตรวจสวนหัวใจและหลอดเลือด และถือเป็นความสำเร็จครั้งแรกของโรงพยาบาลลำปาง ในการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจ ซึ่งแต่เดิมที่ผ่านมาโรงพยาบาลลำปาง ต้องส่งตัวผู้ป่วยที่จำเป็นต้องทำการสวนหัวใจ ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เนื่องจากทางโรงพยาบาลขาดเครื่องมือทางการแพทย์

โดยนายแพทย์ธำรง หาญวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำปาง ได้เปิดเผยว่า ปัจจุบันในภาคเหนือมีโรงพยาบาล ที่สามารถรักษาโรคหัวใจได้เพียง 3 แห่ง เท่านั้น คือ โรงพยาบาลเชียงราย โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และล่าสุดคือ โรงพยาบาลลำปาง ที่ขณะนี้มีความพร้อม ที่จะให้บริการรักษาผู้ป่วย ที่ป่วยด้วยโรคหัวใจทุกชนิด ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสวนหัวใจและหลอดเลือด การผ่าตัด รวมถึงการกายภาพบำบัด โดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องรอคิวเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ อีกต่อไป ซึ่งโรงพยาบาลลำปาง จะยังเป็นศูนย์รักษาโรคหัวใจขนาดใหญ่ สามารถรองรับผู้ป่วยที่อยู่ในระบบประกันสุขภาพ ทั้งของจังหวัดแพร่ และน่าน ได้อีกด้วย

ขณะที่ นายแพทย์ ยศวีร์ โชติช่วง อายุรแพทย์และมัณฑนากรด้านโรคหัวใจ โรงพยาบาลลำปาง เปิดเผยว่า จำนวนผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจ ปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ล่าสุดจำนวนผู้ป่วยในของโรงพยาบาลต่างๆ มีรวมกันประมาณ 2,500 ราย และมีผู้ป่วยนอกอีกกว่า 12,000 ราย ขณะที่มีผู้ป่วยที่จะต้องทำการผ่าตัด ถึงปีละ 500 ราย ส่วนที่จังหวัดลำปาง ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่กำลังรอคิวเข้าทำการรักษาอีกกว่า 50 ราย เนื่องจากขณะนี้ทางโรงพยาบาลลำปาง ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของจำนวนบุคลากรแพทย์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ โดยในขณะนี้โรงพยาบาลลำปาง มีตนเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่เป็นบุคลากรแพทย์ด้านโรคหัวใจ ซึ่งจะต้องทำการรักษาผู้ป่วยถึงวันละ 6 ราย

สำหรับสาเหตุที่ทำให้แนวโน้มผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น มาจากหลายสาเหตุ อาทิ สาเหตุจากโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง และการสูบบุหรี่ นอกจากนี้ยังพบว่าอายุของผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจมีอายุโดยเฉลี่ยลดลง คือ จากเดิมจะพบผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจตีบ ในช่วงอายุประมาณ 50 ปี ขึ้นไป แต่ปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยอายุน้อยสุดที่ 20 ปี และมากสุดอยู่ที่ประมาณ 80-90 ปี ทั้งนี้ สิ่งที่จะทำให้ห่างไกลจากโรคหลอดเลือดตีบได้ก็คือ ประชาชนต้องหันมาใส่ใจ ตรวจดูแลสุขภาพ เพื่อควบคุมความดัน ควบคุมเบาหวาน ควบคุมไม่ให้ไขมันในเลือดสูง และต้องไม่สูบบุหรี่ ซึ่งการปฏิบัติตัวดังกล่าว จะสามารถช่วยให้จำนวนผู้ป่วยโรคหัวใจตีบลดลงได้


ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

มณฑลทหารบกที่32 จัดพิธีส่งทหารซึ่งรับราชการครบกำหนดและจะปลดจากกองประจำการ อำลาผู้บังคับบัญชา และธงไชยเฉลิมพล

(30 เม.ย.57) เช้าวันนี้ ที่สนามหน้า บก.พัน.ร.17พัน2 มณฑลทหารบกที่32 พลตรีอุกฤษณ์ อากาศวิภาต ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 เป็นประธานในพิธีปลดทหารจากกองประจำการ อำลาผู้บังคับบัญชาและธงไชยเฉลิมพล โดยมียอดพลทหารที่ปลดประจำการ ทั้งสิ้น จำนวน 304นาย ในการนี้หน่วยต้นสังกัดได้พิจารณาผลการปฏิบัติงาน ของพลทหาร ที่จะปลดประจำการ ที่มีผลงานดีเด่นเป็นกำลังพลที่มีความประพฤติดี ตั้งใจปฏิบัติงานด้วยความพากเพียร และผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ได้มอบใบประกาศเกียรติคุณให้แก่พลทหาร ที่จะปลดจากกองประจำการ มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น และมีความประพฤติดี จำนวน 9 นาย หลังจากนั้น เหล่าพลทหารได้ กล่าวปฏิญาณตน “ว่าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ พร้อมจะยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และจะเป็นทหารกองหนุนที่ดี พร้อมรายงานตัวเมื่อกองทัพต้องการ

พลตรีอุกฤษณ์ อากาศวิภาต ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ได้กล่าวชื่นชมทหารกองประจำการทุกนาย ที่เสียสละเวลา และความสุขส่วนตัว เข้ามารับราชการ รับใช้ประเทศชาติ และในห้วงระยะเวลาที่เข้ารับราชการ เป็นทหารกองประจำการ ทหารทุกนายได้รับการฝึกอบรมปลูกฝังระเบียบวินัยทหาร ซึ่งขอให้นำความรู้เหล่านี้ ไปประยุกต์ใช้ และปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้ในครอบครัว และ ชุมชน ต่อไป



ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์
    หน่วยงาน : สวท.ลำปาง

ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 ลำปาง จัดคาราวานสู้ภัย ประชาชนร่วมใจต้านหมอกควันไฟป่า ในเขตพื้นที่ภาคเหนือ 4 จังหวัด

นายประพันธ์ ภักดีนิติ รักษาราชการแทนอำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 ลำปาง กล่าวว่า ศูนย์ฯได้รับการจัดสรรงบประมาณจาก กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประจำปีงบประมาณ 2557 ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายอาสาป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ โครงการคาราวานสู้ภัย ประชาชนร่วมใจ ต้านหมอกควันไฟป่า ซึ่งจะดำเนินการ 8 รุ่น ฯ ละ 200 คน เป้าหมาย 1,600 คน ในพื้นที่ 4จังหวัดภาคเหนือตอนบน คือจังหวัดแม่ฮ่องสอน ดำเนินการวันที่ 30เมษายน – วันที่ 1 พฤษภาคม 2557 ณ ศาลาที่ว่าการอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินการวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2557 ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลม่อนปิน อำเภอฝาง จังหวัดลำปาง ดำเนินการวันที่ 15-16 พฤษภาคม 2557 ณ ศาลาที่ว่าการอำเภอเถิน และจังหวัดลำพูน ดำเนินการวันที่ 20-21 พฤษภาคม 2557 ณ ศาลาที่ว่าการอำเภอบ้านโฮ่ง

โดยการจัดอบรมดังกล่าว จะมีถ่ายทอดความรู้ทั้งภาคทฤษฎี และการแบ่งกลุ่มศึกษาเรียนรู้จากฐานกิจกรรม ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในระดับพื้นที่ โดยบูรณาการแนวคิดจากประชาชนในพื้นที่เสี่ยงจากการเกิดหมอกควัน ไฟป่า เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชนร่วมกัน เป็นการสร้างองค์ความรู้ใหม่และทบทวนบทบาท หน้าที่ของชุมชนในการเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังให้กับชุมชนในการลดการเผาโดยเฉพาะภาคเกษตรกรรม รวมทั้งมีแนวทางปฏิบัติรูปแบบใหม่ในการสนับสนุนให้ผลผลิตยังคงอยู่ในระดับมาตรฐาน และยังเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนได้ทดลองปฏิบัติด้านการติดต่อสื่อสาร การป้องกันไฟป่า และการป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากสาธารณภัยต่อไป


ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.ลำปาง
    หน่วยงาน : สวท.ลำปาง

จังหวัดลำพูน ดำเนินการบำบัดรักษาผู้เสพผู้ติดยาเสพติด จำนวน 455 ราย

เช้าวันนี้ ( 30 เมษายน 2557 ) ที่ศาลากลางจังหวัดลำพูน ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดลำพูน จัดประชุมคณะกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดลำพูน รับทราบผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการ ติดตามสถานการณ์ด้านตัวยาเสพติดที่แพร่ระบาด การแก้ไขปัญหาผู้เสพผู้ติดยาเสพติด การสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติด โดยมี นายจำลอง เณรแย้ม ปลัดจังหวัดลำพูน เป็นประธาน

สำหรับการแก้ไขปัญหาผู้เสพผู้ติดยาเสพติด ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดลำพูน ได้จัดส่งตัวผู้เสพผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษา จำนวน 455 คน ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดลำพูนจำนวน 380 คน และจังหวัดอื่นๆ 75 คน เป็นผู้เสพรายเก่าจำนวน 145 คน ผู้เข้ารับการบำบัดรักษาส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้าง รองลงมาคือ นักเรียนนักศึกษา , เกษตรกรและผู้ว่างงาน



ข่าวโดย : นศ.ฝึกประสบการณ์ นางสาวรุจิรา เสนานุช
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

ที่จังหวัดลำพูน พบว่าสถานการณ์หมอกควันวันนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ

กรมควบคุมมลพิษ รายงานว่า ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ วันนี้( 30 เมษายน 2557) พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 18 - 67 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศโดยรวม อยู่ในระดับดี ถึง ปานกลาง ปริมาณฝุ่นละอองลดลงกว่าวันก่อนหน้าเกือบทุกสถาน

จากการตรวจการเผาไหม้หรือจุดความร้อน (Hot spot) ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเมื่อวานนี้ (29 เมษายน 2557) พบว่ามีจุดความร้อนในพื้นที่ 2 จังหวัดคือ จังหวัดเชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน โดยพบมากที่สุดที่จังหวัดเชียงใหม่ 6 จุด

สำหรับที่จังหวัดลำพูน ตรวจวัดค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM10) ที่ สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนได้ 43 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากกว่าเมื่อวานนี้เพียงเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ



ข่าวโดย : น.ส. อุไรวรรณ ปิงแก้ว
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

จังหวัดลำพูน คืบหน้าผลการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านสหกรณ์มุ่งเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจการสหกรณ์แก่ประชาชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งด้านการสหกรณ์

คณะอนุกรรมการกำกับและขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ ด้านการสหกรณ์จังหวัดลำพูน ประชุมติดตามผลการดำเนินงานตามประเด็นยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านสหกรณ์ และเพื่อสร้างความเข้มแข็งด้านการสหกรณ์ โดยมีการคืบหน้าด้านการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจการสหกรณ์แก่ประชาชนมากขึ้น

บ่ายวันนี้ (30 เมษายน 2557) ที่ ศาลากลางจังหวัดลำพูน คณะอนุกรรมการกำกับและขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านการสหกรณ์จังหวัดลำพูน ได้ประชุมเพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ 3 ด้าน คือ การสร้างและพัฒนาการเรียนรู้และทักษะสหกรณ์สู่วิถีประชาชนในชาติ สนับสนุนและพัฒนาการรวมกลุ่มของประชาชนด้วยวิธีการสหกรณ์ให้เป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และด้านการเพิ่มศักยภาพการเชื่อมโยงเครือข่ายระบบการผลิต การตลาด และการเงินของสหกรณ์

ด้านยุทธศาสตร์การสร้างและพัฒนาการเรียนรู้และทักษะสหกรณ์สู่วิถีประชาชนในชาติ หน่วยงานต่างๆได้ร่วมกันจัดประชุม/อบรม/สัมมนา เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจวิธีการสหกรณ์แก่นักเรียน นักศึกษา ประชาชนรวมทั้งบุคลากรภาครัฐได้มีความรู้ความเข้าใจวิธีการสหกรณ์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

สำหรับยุทธศาสตร์ เพิ่มศักยภาพการเชื่อมโยงเครือข่ายระบบการผลิต การตลาด และการเงินของสหกรณ์ ได้มุ่งเน้นในการสร้างเครือข่ายกลุ่มผู้ผลิตสินค้าคุณภาพเพื่อยกระดับสินค้าสหกรณ์ และสร้างเครือข่ายการตลาดสินค้า โดยจัดโครงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์สหกรณ์สู่มาตรฐานสินค้า ส่งเสริมการพัฒนาการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกร และการพัฒนาเครือข่ายกลุ่มอาชีพในสถาบันเกษตรกรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น



ข่าวโดย : นศ.ฝึกประสบการณ์ รุจิรา เสนานุช
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

อุตุนิยมวิทยาลำพูน เผย วันที่ 5-6 พฤษภาคม 2557 ภาคเหนือจะมีพายุฝนร้อยละ 30-40 มีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง เตือนประชาชนเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง

อุตุนิยมวิทยาลำพูน เผย ช่วงวันที่ 1-4 พฤษภาคม 2557 ภาคเหนือมีฝนร้อยละ 20-30 จากนั้นวันที่ 5-6 พฤษภาคม 2557 ภาคเหนือจะมีพายุฝนร้อยละ 30-40 มีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง เตือนประชาชนเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งและไม่ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โล่งขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง

นายวิชัย ตินโนเวช ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาลำพูน เปิดเผยว่า สภาวะอากาศทั่วไป ช่วงวันที่ 1-4 พฤษภาคม 2557 ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน โดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเกิดขึ้นแต่การกระจายและความรุนแรงของสภาพอากาศลดน้อยลงกว่าช่วงที่ผ่านมา และในช่วงวันที่ 5-6 พ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณภาคเหนือจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่ สำหรับช่วงวันที่ 1-4 พฤษภาคม 2557 ภาคเหนือมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบน และด้านตะวันออกของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 5-6 พฤษภาคม 2557 ภาคเหนือจะมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส จังหวัดลำพูน อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-40 องศาเซลเซียส

ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาลำพูน กล่าวด้วยว่า ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งและไม่ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โล่งขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง แม้จะมีฝนตกแต่การกระจายยังไม่ทั่วถึง เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างเพียงพอโดยเฉพาะลำไยที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรให้น้ำอย่างเหมาะสมหากขาดน้ำในระยะนี้จะทำให้ผลชะงักการเจริญเติบโต ส่งผลให้ผลผลิตด้อยคุณภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนในระยะนี้ เกษตรกรควรลดอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์รวมทั้งจัดหาน้ำดื่มให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เครียดอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525565
    หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

ทต.ริมปิง จับมือทีโอที ให้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงแก่ประชาชนในพื้นที่ หวังพัฒนาตำบลให้เป็นตำบลแห่งการเรียนรู้

เทศบาลตำบลริมปิงจับมือทีโอที ให้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงแก่ประชาชนในพื้นที่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หวังพัฒนาตำบลให้เป็นตำบลแห่งการเรียนรู้ นำไปสู่การพัฒนาชุมชนให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

เทศบาลตำบลริมปิง นำโดย นายเอนก มหาเกียรติคุณ นายกเทศมนตรีตำบลริมปิง เปิดตัวโครงการศูนย์อินเตอร์เน็ตหมู่บ้านเพื่อการเรียนรู้เทศบาลตำบลริมปิง (Rimping Free WIFI) ที่อาคารศูนย์ฝึกอาชีพเทศบาลตำบลริมปิง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน จากความร่วมมือระหว่างเทศบาลตำบลริมปิง และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในการให้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง โดยผู้ใช้บริการไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น จุดให้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สาย (TOT Wi-fi I Live) จำนวน 11 จุด ในเขตเทศบาลตำบลริมปิง 10 หมู่บ้าน 1 เทศบาล เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการบริการอินเตอร์เน็ตแก่ประชาชนในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์จากการเข้าใช้อินเตอร์เน็ตซึ่งเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ สืบค้นข้อมูลข่าวสาร และองค์ความรู้อย่างทั่วถึง สนองนโยบายของรัฐด้านการส่งเสริมการศึกษาให้กับประชาชน ผลักดันให้ประเทศไทยเข้าสู่สังคมแห่งการสร้างภูมิปัญญาและการเรียนรู้ ขณะที่สังคมโลกมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารอย่างแพร่หลาย และสอดคล้องกับแนวทางในการดำเนินงานของผู้บริหารเทศบาลตำบลริมปิงที่ต้องการพัฒนาตำบลริมปิงให้เป็นตำบลแห่งการเรียนรู้ มุ่งเน้นส่งเสริม เพิ่มศักยภาพและขยายโอกาสการเรียนรู้แก่ประชาชน เป็นการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เทศบาลตำบลริมปิงเป็นที่ยอมรับจากประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่ นำไปสู่การพัฒนาชุมชนให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

นายพันธ์ศักดิ์ สมเปาจี ปลัดอาวุโส แทนนายอำเภอเมืองลำพูน กล่าวว่า การนำเทคโนโลยีสารสนเทศระบบเครือข่ายไร้สายมาใช้เพื่อเป็นสื่อสาธารณะ เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งข้อมูลความรู้ที่หลากหลาย สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ เกิดการศึกษาตลอดชีวิต จากความร่วมมือระหว่างเทศบาลตำบลริมปิง และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในการให้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงแก่ประชาชน เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงวิสันทัศน์อันกว้างไกลของผู้บริหารเทศบาลตำบลริมปิงที่เห็นความสำคัญของการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ




ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525565
    หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

กอ.รมน. จังหวัดอุตรดิตถ์ จัดฝึกอบรมหลักสูตรจัดตั้ง กนช. โครงการกองหนุนเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคง ระหว่างวันที่ ๓๐ เมษายน – ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ณ วิทยาลัยลูกผู้ชาย กองร้อย อส.จังหวัดอุตรดิตถ์ที่ ๑ จังหวัดอุตรดิตถ์

วันนี้ (๓๐ เม.ย.๕๗) ณ กองร้อย อส.จังหวัดอุตรดิตถ์ที่ ๑ ตำบลท่าเสา อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ นายวีระชัย ภู่เพียงใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอุตรดิตถ์(ฝ่ายพลเรือน) เป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตรจัดตั้ง กนช. โครงการกองหนุนเพื่อความมั่นคงแห่งชาติเพื่อแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคง ซึ่ง กอ.รมน.จังหวัดอุตรดิตถ์ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๓๐ เมษายน – ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เป้าหมายผู้เข้าร่วมอบรมเป็นทหารกองหนุนและทหารกองเกิน ในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน ๑๐๐ คน ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการดำเนินงานด้านมวลชน ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรกำหนดไว้ประจำปี ๒๕๕๗ โดยให้ความสำคัญในการฝึกทบทวนและฝึกจัดตั้งกองหนุนเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ (กนช.) อย่างเร่งด่วนประการแรกสำหรับกลุ่มมวลชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ หรือมวลชนกลุ่มอื่น ๆ เป็นการจัดทำแผนการเตรียมกำลังและการใช้กำลังมวลชนที่เป็นรูปธรรมในการเสริมสร้างอุดมการณ์ความรักชาติ ให้ทุกคนตระหนักในหน้าที่ที่ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ สร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติ รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและความสงบเรียบร้อยของสังคม

ในโอกาสนี้มี พ.อ.บุญประสิทธิ์ มีสอาด รองผู้อำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอุตรดิตถ์ (ฝ่ายทหาร) รายงานถึงวัตถุประสงค์ พร้อมกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่าการดำเนินงานตามแผนงานรณรงค์สร้างกระแสการรับรู้อุดมการณ์รักชาติตามกรอบแนวทางการสร้างความเข้าใจและเสริมสร้างอุดมการณ์ความรักชาติ สนับสนุนการขับเคลื่อนงาน ด้านมวลชน กอ.รมน.จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้งานด้านความมั่นคงมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน นับเป็นการดำเนินงานจัดตั้ง กนช. โครงการกองหนุนเพื่อความมั่นคงแห่งชาติฯ ระดับจังหวัดรุ่นแรก ในอันที่จะพัฒนากรอบแนวทางการทำงานของ กอ.รมน. รวมทั้งเจ้าหน้าที่ในสายงานที่ปฏิบัติงานได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ เสริมสร้างการดำเนินงาน ๔ ด้าน คือ ด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านการทหาร ให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ในโอกาสต่อไป



ข่าว/สุรีย์ แสงทอง นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ
ขอบคุณภาพประกอบข่าว โดย ผอ.สวท.อุตรดิตถ์

ราชบัณฑิตยสถาน เชิญครูอาจารย์ร่วมโครงการอบรม “ครูภาษาไทยสู่อาเซียน“

นางสาวกนกวลี ชูชัยยะ เลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน แจ้งว่า ราชบัณฑิตยสถานร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง จัดโครงการอบรม "ครูภาษาไทยสู่อาเซียน” สำหรับครูอาจารย์ผู้สอนภาษาไทยของสถาบันการศึกษาทุกระดับในเขตพื้นที่ภาคเหนือให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายภาษาแห่งชาติ และความสัมพันธ์ระหว่างภาษาไทยกับภาษาอาเวียนในด้านต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาความคิดและทัศนคติด้านภาษาไทยและภาษาอาเซียน คู่ขนานไปกับการพัฒนากระบวนการการเรียนการสอนที่ถูกต้องเหมาะสม เพื่อให้มีความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนต่อไป โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิและอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยและภาษาอาเซียนร่วมกันเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการอบรม เป้าหมายสำคัญคือครูผู้สอนภาษาไทย ที่นอกจากจะต้องมีความรู้อย่างดีเกี่ยวกับหลักภาษไทยแล้วยังจำเป็นต้องมีความรู้ด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในอันที่จะสนับสนุนการสอนให้ประสบผลสำเร็จดียิ่งขึ้น ประกอบกับรัฐบาลมีนดยบายนำประเทศเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) ในปี ๒๕๕๘ ราชบัณฑิตยสถานซึ่งได้จัดทำนโยบายภาษาแห่งชาติและดำเนินการเตรียมความพร้อมในการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับภาษาในกลุ่มประเทศอาเซียน จึงกำหนดจัดอบรมใน ๒ ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ วันที่ ๒๒ – ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง จังหวัดลำปาง และภาคใต้จัดร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี วันที่ ๑๒ – ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๗

จึงขอเชิญครูอาจารย์ผู้สอนภาษาไทยในสถานศึกษาระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษาในเขตพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ จำนวนภาคละ ๕๐๐ คน รวม ๑,๐๐๐ คน โดยมีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการอบรมสัมมนาตามระเบียบของทางราชการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการวิชาการ ราชบัณฑิตยสถาน สนามเสือป่า เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ (นางชวนพิศ เชาวน์สกุล และนางสาวกระลำภักษ์ แพรกทอง โทรศัพท์ ๐ – ๒๓๕๖ - ๐๔๖๖ - ๗๐ ต่อ ๓๐๑๑, ๓๐๐๙



ข่าว/สุรีย์ แสงทอง 
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๗

พิธีเปิดโครงการวันแรงงานแห่งชาติ ต้านยาเสพติดจังหวัดเพชรบูรณ์

วันนี้ (30 เม.ย.57) เวลา 09.30 น. นายสุชาติ ราษฎร์ดุษดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการวันแรงงานแห่งชาติ ต้านยาเสพติดจังหวัดเพชรบูรณ์ ณ โรงยิมเนเซียม โรงเรียนเทศบาล 3 (ชาญวิทยา) อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ เพื่อให้ผู้ใช้แรงงานและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ตระหนักถึงความสำคัญของผู้ใช้แรงงาน

กิจกรรมวันแรงงานแห่งชาติจังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปี 2557 จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้แรงงานและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ตระหนักถึงความสำคัญของผู้ใช้แรงาน โดยเฉพาะสถานการณ์ปัจจุบัน จำเป็นต้องเน้นให้ผู้ใช้แรงานมีบทบาทหน้าที่มีความตั้งใจมุ่งมั่นทำงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบ ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว สถานประกอบกิจการและผู้รับบริการ มีการดำเนินชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงและมีความสมานฉันท์เพื่อสร้างความมั่นคงและความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติ ซึ่งสถานประกอบกิจการ และแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน แข่งขันกีฬาฟุตซอล มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ในครั้งนี้ จำนวน 250 คน โดยมีบริษัทที่ให้การสนัลสนุนสิ่งของต่าง ๆ ดังนี้ บริษัทเพชรประเสริฐ จำกัด บริษัทไทวัสดุ จำกัด บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิสชั่นซีสเทม จำกัด บริษัทบุณยเกียรติไอศกรีม จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด น้ำแข็งอนามัยไพศาล บริษัทบิ๊กซี ซุปเปอร์เซนเตอร์ จำกัด บริษัทท็อปแลนด์ เพชรบูรณ์ จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด พริมา อาทิฟิเซียล ฟราวเวอร์ (ไทยแลนด์) และบริษัทสยามแม็คโคร จำกัด

สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ทบทวนการผลิตอาหาร GMP แก่ผู้ประกอบการรองรับการเข้าสู่ AEC

วันนี้ (30 เม.ย.57)  ที่ห้องพีชปุระ โรงแรมโฆษิตฮิลล์ นายแพทย์พิเชษฐ์ บัญญัติ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมทบทวนฟื้นฟูการผลิตอาหารตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดี (GMP) จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อให้ความรู้แก่สถานประกอบการ และดำเนินการตรวจสอบเฝ้าระวังแนะแนวทางการปฏิบัติสถานประกอบการให้มีมาตรฐานตามกฎหมายกำหนด เพื่อให้ประชาชนได้บริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีคุณภาพมาตรฐาน โดยมีผู้ประกอบการที่ผลิตอาหาร GMP ที่ไม่ใช่น้ำดื่ม น้ำแข็ง จำนวน 60 แห่ง และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบงานคุ้มครองผู้บริโภค เข้าร่วม จำนวน 96 คน

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า เรื่องมาตรฐานอาหาร จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เน้นย้ำเป็นพิเศษ ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์จังหวัด คือ ดินแดนแห่งความสุขของคนอยู่และผู้มาเยือน ดังนั้นอาหารจะต้องถูกสุขลักษณะ ที่สำคัญจะต้องเตรียมการเข้าสู่ประชาคมอาเซี่ยน ผู้ผลิตจะต้องเริ่มเข้าสู่ GMP เบื้องต้น มิฉะนั้น จะมีปัญหาตามมา เพราะการแข่งขันทางการตลาดจะมีมาก จะมีนักลงทุนเข้ามาลงทุน ทำให้ไม่สามารถต่อสู่ทางการค้าได้เพราะนักลงทุนต่างชาติจะมีความเชี่ยวชาญในระดับนานาชาติ หากเราไม่มีการเตรียมตัว ธุรกิจอาหารก็สู้ต่างชาติไม่ได้

ในปีที่ผ่านมาได้ทำการตรวจสถานประกอบการหลายแห่งยังไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งตามจริงแล้วไม่สามารถที่จะนำผลิตภัณฑ์ออกจำหน่ายและไม่สามารถต่อใบอนุญาตให้ได้ แต่ได้ให้ข้อแนะนำปรับปรุงให้ปฏิบัติตามมาตรฐาน GMP ซึ่งมี 6 ประการ ได้แก่ สถานที่ตั้ง อุปกรณ์เครื่องมือการผลิต กระบวนการผลิต การสุขาภิบาล การดูแลบำรุงรักษา ตัวผู้ผลิต เมื่อแนะนำแล้วจะออกตรวจประเมิน หากไม่ผ่านก็จะไม่ต่อใบอนุญาต และหากฝ่าฝืนอีกก็จะดำเนินการตามกฎหมาย

วัดวังเวิน จัดงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุวังเวิน หล่มเก่า

พระเขียด ฌาณสัมวโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดวังเวิน แจ้งว่า คณะกรรมการวัดและคณะกรรมการชุมชนบ้านวังเวิน ได้กำหนดจัดงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุวัดวังเวิน ขึ้น ในวันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม 2557 ณ วัดวังเวิน ตำบลหล่มเก่า อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อส่งเสริมให้คนรุ่นหลังตระหนักถึงความสำคัญของประเพณี เกิดความรักความหวงแหน อนุรักษ์ไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นของตนเอง ที่บรรพบุรุษได้ถือปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนาน พระธาตุวังเวิน นับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นศูนย์รวมใจและเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน มาอย่างยาวนาน

จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุวัดวังเวิน ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2557 เวลา 09.09 น. พิธีบวงสรวงพระธาตุและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์ เวลา 12.30 น. พิธีเข้าร่างทรงของเจ้าพ่อ เวลา 13.00 น. จัดขบวนแห่จากที่ว่าการอำเภอหล่มเก่า ไปยังวัดวังเวิน เวลา 15.00 น. พิธีสรงน้ำพระธาตุวังเวิน เวลา 16.00 น. พิธีจุดบั้งไฟ จึงขอเชิญชวนร่วมงานโดยพร้อมเพรียงกัน

เทศบาลตำบลหัวรอ นำรถแบคโฮเร่งขุดหลุมฝังกลบเศษวัสดุก่อสร้างที่ถูกผู้มักง่ายนำมาทิ้งที่บริเวณใต้สะพานข้ามทางรถไฟ หมู่ 11 และ 12 เป็นจำนวนมาก

เทศบาลตำบลหัวรอนำรถแบคโฮเร่งขุดหลุมฝังกลบเศษวัสดุก่อสร้างที่ถูกผู้มักง่ายนำมาทิ้งที่บริเวณใต้สะพานข้ามทางรถไฟ หมู่ 11 และ 12 เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีขยะครัวเรือนมามาทิ้งปะปนอยู่ด้วยเช่นกัน สร้างความเดือนร้อนรำคาญให้กับผู้สัญจรไปมาบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก

นายนพคุณ แถมพยัคฆ์ นายกเทศมนตรีตำบลหัวรอ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ที่ผ่านมาเทศบาลตำบลหัวรอไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ได้มีการติดป้ายห้ามทิ้งขยะในพื้นที่บริเวณดังกล่าว และมีการกำหนดบทลงโทษไว้อย่างชัดเจน โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลตำบลหัวรอ จัดเวรออกตรวจพื้นที่บริเวณดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่วายมีผู้มักง่ายนำเศษขยะมาทิ้งอยู่เสมอ ซึ่งขยะกว่า 90 % เป็นเศษวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากที่หลายปีที่ผ่านมาเทศบาลตำบลหัวรอมีการเติบโตทางด้านอสังหารินทรัพย์โดยเฉพาะหมู่บ้านจัดสรรที่เกิดขึ้นในพื้นที่หลายสิบโครงการ ทำให้เศษวัสดุก่อสร้างเหลือทิ้งเป็นจำนวนมาก และมีผู้รับเหมาบางรายที่มักง่ายแอบลักลอบนำเศษวัสดุก่อสร้างมาทิ้งตามสถานที่ลับตาคน ถึงขนาดมีผู้ประกอบการบางรายนำป้ายข้อความโฆษณารับเมางานเหล็กมามาติดประกาศเชิญชวนผู้ที่มาทิ้งเศษวัสดุก่อสร้างมาใช้บริการอีกด้วย โดยเบื้องต้นเทศบาลตำบลหัวรอ จึงต้องนำรถแมคโฮมาขุดหลุมฝังกลบขยะในบริเวณดังกล่าวเพื่อแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง มาช่วยเก็บกวาดขยะ เพื่อปรับทัศนียภาพให้สะอาดสวยงาม อย่างไรก็ตามปัญหาดังกล่าวในระยะยาว เทศบาลตำบลหัวรอเตรียมเรียกผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างในพื้นที่ตำบลหัวรอ เข้าร่วมประชุมเพื่อรับทราบปัญหาและหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป

สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ประจำเขต 2 พิษณุโลก จัดเวทีประชาสัมพันธ์การสรรหาคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ประจำเขต 2 (คพข)

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา ที่โรงแรมวังจันทน์ ริเวอร์วิว สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ประจำเขต 2 พิษณุโลก จัดเวทีประชาสัมพันธ์การสรรหาคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ประจำเขต 2 โดย พลโท บรรยงค์ สิรสุนทร เป็นประธานการเปิดงาน ซึ่งมีผู้แทนส่วนราชการ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายภาคประชาชน ผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยทุกภาคส่วน เข้าร่วมรับฟังการประชาสัมพันธ์สรรหาคณะกรรมการฯดังกล่าว (คพข) โดย กกพ.ได้ดำเนินการประกาศเขตพื้นที่ผู้ใช้พลังงานทั่วประเทสรวม 13 เขต กำหนดให้มี คพข จำนวนเขตละ 11 คนและมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี เมื่อ คพข. ได้รับการแต่งตั้งจาก กกพ. แล้ว ก็จะปฏิบัติหน้าที่ในเขต

โดยมีสำนักงาน กกพ. ประจำเขต เป็นฝ่ายเลขานุการในการกลั่นกรองการรับเรื่องร้องเรียนจากผู้ใช้ไฟฟ้า กรณีได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการประกอบกิจการพลังงานของผู้รับใบอนุญาต และเรื่องที่ผู้ใช้ไฟฟ้ามีเหตุอันควรสงสัยว่าอาจถูกเรียกเก็บค่าบริการที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม ซึ่งข้อร้องเรียนดังกล่าวจะนำมาสู่การไกล่เกลี่ยเพื่อพิจารณาหาข้อยุติต่อไป สำหรับการจัดเวทีประชาสัมพันธ์ครั้งนี้พี่น้องประชาชนในทุกภาคส่วนจะได้รู้จักกับ คพข. ว่ามีบทบาทหน้าที่ ภารกิจและมีความสำคัญอย่างไรในการดูแลคุ้มครองผู้ใช้พลังงาน โดยกำหนดจัดเวทีการประชาสัมพันธ์อีก 12 เขตทั่วประเทศ ซึ่งจะได้มีการประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนที่มีจิตอาสาและมีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดไว้ และพร้อมที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลคุ้มครองผู้ใช้พลังงาน ให้ร่วมส่งใบสมัครเข้ารับการสรรหาเป็น คพข. เพื่อร่วมเป็นกลไกในการสนับสนุนการทำงานของ กกพ. ในการคุ้มครองผู้ใช้พลังงาน ให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส มีประสิทธิภาพและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลต่อไป

จังหวัดพิษณุโลก ประชุมคณะกรรมการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย ประจำเดือนเมษายน 2557

จังหวัดพิษณุโลก ประชุมคณะกรรมการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย ประจำเดือนเมษายน 2557 โดยมีการสรุปผลงานในช่วงเดือนที่ผ่านมา พร้อมทั้งหัวหน้าส่วนราชการได้มีข้อเสนอแนะในการหาแนวทางป้องกัน และวางมาตรการรักษาความสงบภายในจังหวัด

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ชั้น 7 ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นาย วัฒนะ กันนะพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย ประจำเดือนเมษายน 2557 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมชี้แจงผลการดำเนินงานในรอบเดือนที่ผ่านมา สำหรับประเด็นที่น่าสนใจ หน่วยงานแรก ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก รายงานผลการดำเนินงานปราบปรามยาเสพติด ในช่วงระหว่างวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2557 – วันที่ 15 มีนาคม 2557 โดยมีการตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 53 ครั้ง มีการตั้งจุดตรวจ จำนวน 397 ครั้ง จับกุมได้ 545 ราย ผู้ต้องหา 569 คน จับกุมรายสำคัญได้ จำนวน 4 รายการ ผู้ต้องหา 4 คน ซึ่งจากผลการจับกุม มีของกลางดังนี้ ยาบ้า 45,074 เม็ด ไอซ์ 52.35 กรัม สารระเหย 1 กระป๋อง กัญชาแห้ง 757.39 กรัม และกัญชาสด 2,288.10 กรัม

ด้านพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก โดยนาง กัญญ์ฐญาณ์ ภู่สวาสดิ์ กล่าวว่า ปัญหาเด็กและเยาวชนในขณะนี้ เรื่องที่น่าเป็นห่วงและต้องเร่งแก้ไข ซี่งเป็นปัญหาสังคมต้นๆ ของทางจังหวัด คือปัญหาหอพัก ห้องพักรายวัน ซึ่งจังหวัดพิษณุโลก มีสถานศึกษาหลายแห่ง และมีนักเรียน นิสิตนักศึกษาจากต่างจังหวัดและในจังหวัด เข้ามาใช้บริการหอพักเป็นจำนวนมาก จึงฝากให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ช่วยกันเป็นหูเป็นตา และกวดขันการกระทำความผิด และภัยอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับเยาวชน ต่อจากนั้นนาย บุญเติม ตันสุรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก กล่าวในที่ประชุมเรื่อง อาหารเป็นพิษที่ผู้คุมสอบท้องถิ่นจังหวัดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกิดอาการท้องเสียแล้วต้องหามเข้าส่งโรงพยาบาลโดยเร่งด่วนนั้น โดยนายแพทย์กล่าวว่า ในช่วงนี้ต้องฝากเตือนประชาชน ในเรื่องของการรับประทานอาหาร ว่าควรกินอาหารที่ทำสุกใหม่ อย่าทิ้งไว้นาน เพราะช่วงนี้มีอากาศที่ร้อนจัด อาหารจะเสียเร็ว และเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคทางเดินอาหารได้ง่าย

ขณะที่ทางด้านกองรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิษณุโลก โดย พันเอก โอฬาร หาญสุรภานนท์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าในเขตจังหวัดพิษณุโลก ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของทางจังหวัด ซึ่งทางกอรมน.จังหวัดพิษณุโลก ได้รวมกับเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วน ลงพื้นที่ และแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง สำหรับพื้นที่ที่กำลังโดนบุกรุกพื้นที่ป่าอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ที่ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้ขึ้นไปตรวจสอบ และกำลังสอบสวนหาผู้กระทำความผิด คือพื้นที่ อ.นครไทย และ อ.วังทอง ซึ่ง 2 พื้นที่นี้ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จึงต้องมีการเฝ้าระวังการบุกรุกทำลายป่าเป็นพิเศษ นอกจากนี้สำหรับในพื้นที่อำเภอชาติตระการ ทางกอรมน.จังหวัดพิษณุโลก กำลังเร่งแก้ไข ปัญหาทำกิน ของหมู่ที่ 13 และหมู่ที่ 16 บ้านน้ำจวง ซึ่งไม่มีที่ทำกินกว่า 145 ครอบครัว ส่วนที่บ้านน้ำแจ้งพัฒนา มี 257 ครอบครัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ กำลังดำเนินการอพยพให้ชาวบ้าน ลงมาอยู่ในเขตพื้นที่ สปก.ที่ทางหน่วยงานภาครัฐจัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งน่าจะไม่เกินปลายเดือนมิถุนายนนี้

จังหวัดพิษณุโลก ประชุมคณะกรมการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการ ประจำเดือนเมษายน 2557

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา ที่ห้องพระพุทธชินราช ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานการประชุมคณะกรมการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการ ประจำเดือนเมษายน 2557 โดยก่อนเริ่มการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เป็นประธานในการมอบรางวัล ให้กับหน่วยงานราชการที่ชนะการประกวดการดำเนินกิจกรรมวันทำความสะอาด Big Cleaning Day อาคารและพื้นที่ศาลากลาง จังหวัดพิษณุโลก ให้กับหน่วยงานที่ได้รับคัดเลือก จำนวน 9 หน่วยงาน มอบเกียรติคุณให้กับหน่วยงาน ตามโครงการรณรงค์ส่งเสริมสนับสนุน การสวมหมวกนิรภัย 100 % ประจำปี 2557 ให้แก่ บริษัทไทยแอโรว์พิษณุโลก จำกัด

จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดประธานในที่ประชุม ได้แจ้งให้กับหัวหน้าส่วนราชการที่เข้าร่วมประชุมรับทราบในนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล กระทรวงต่างๆ และของจังหวัดพิษณุโลก ประกอบด้วย สำนักงานเกษตรจังหวัด เรื่องรายงานผลการการเตรียมความพร้อมหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง บ้านท่าช้าง หมู่ที่ 2 อำเภอพรหมพิราม การป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งและวาตภัยที่เกิดจากพายุฤดูร้อน รายงานความคืบหน้า โครงการช่วยเหลือผู้ด้วยโอกาส ทาง Facebook สถานีปันน้ำใจ และโครงการบูรณาการบำบัดรักษา ฟื้นฟูและพัฒนาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ศูนย์ขวัญแผ่นดิน ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดพิษณุโลก จากนั้นส่วนราชการได้ร่วมกันชี้แจงผลการดำเนินงานที่ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว และกำลังจะดำเนินการในเดือนหน้า ประกอบด้วย การประชาสัมพันธ์กิจกรรมของจังหวัดพิษณุโลกในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา

โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก การเตรียมจัดพิธีมอบเมล็ดพันธุ์ผักพระราชทานและการบรรยายพิเศษ การน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นวิถีชีวิตของประชาชนชาวพิษณุโลก โดย ด.ร สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ในวันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม 2557 เวลา 10.00 น. ณ หอประชุมอนุสรณ์ 100 ปี คุณย่าประสาท รักเลี้ยง มหาวิทยาลัยพิษณุโลก โดยสำนักงานจังหวัด การจัดโครงการสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม และการออกหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน โดยในครั้งต่อไป จะเดินทางไปที่ โรงเรียนชุมชน 8 ราชอุทิศพิทยา หมู่ที่ 3 บ้านสวนยาง ตำบลเนิ่นเพิ่ม อำเภอนครไทย ในวันพุธ ที่ 14 พฤษภาคม 2557 ที่จะถึงนี้

จ.พิษณุโลก ประชุมคณะกรรมการดำเนินการประชาสัมพันธ์การน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นวิถีชีวิตประชาชน

บ่ายวันนี้ (30 เม.ย. 57) นายนพรัตน์ ทองประกอบ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธาน ประชุมคณะกรรมการดำเนินการประชาสัมพันธ์การน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นวิถีชีวิตประชาชนชาวพิษณุโลก โดยมีนางสาวพรรณี สัสดีแพง ประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก กรรมการและเลขานุการ พร้อมด้วย หัวหน้าหน่วยงานภาครัฐ เอกชน เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ทั้งนี้ จังหวัดพิษณุโลก ได้มีนโยบายน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในวีถีชีวิตของประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลก โดยน้อมนำแนวทางพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รับพระราชทานให้ประชาชนได้ยึดถือ เป็นแนวทางปฏิบัติ คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว บนเงื่อนไขแห่งความสำเร็จ คือการใช้องค์ความรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรมประกอบการวางแผนในการดำรงชีวิต

นายนพรัตน์ ทองประกอบ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ที่ผ่านมา ด้านการประชาสัมพันธ์ได้ดำเนินการทำหนังสือรวบรวมคำบรรยายของ ดร.สุเมธ โดย ดร.สุเมธ ตันเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา จำนวน 1,500 เล่ม มอบให้ส่วนราชกา /อำเภอ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน และแจกสื่อมวลชน พร้อมนำข้อมูลลงทางเวปไซด์ของจังหวัด และขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาล จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ตามจุดสำคัญในจังหวัดพิษณุโลก อีกทั้งในวันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2557 เวลา 10.00 น.ได้ฝากเชิญชวนทุกภาคส่วน ร่วมพิธีมอบเมล็ดพันธุ์ผักพระราชทานให้กับราษฎรที่ประสบภัยแล้งจำนวน 8,000 ราย พร้อมรับฟังการบรรยายพิเศษ การน้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นวิถีของประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลก โดย ดร.สุเมธ ตันเวช ณ หอประชุมอนุสรณ์ 100 ปี คุณย่าประสาทรักเลี้ยง มหาวิทยาลัยพิษณุโลก อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน จัดกิจกรรมทัศนศึกษาดูงานศูนย์ภูฟ้าพัฒนา


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่านจัดกิจกรรมทัศนศึกษาดูงานศูนย์ภูฟ้าพัฒนาตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีฯ ในวันที่ 28 เมษายน 2557เพื่อนำความรู้ตามเเนวพระราชดำริมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันเเละเผยเเพร่เเก่บุคคลอื่น ให้รับรู้รับทราบคุณประโยชน์จากโครงการพระราชดำริฯในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ที่มีเเก่ประชาชนจังหวัดน่าน

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน นำโดย ว่าที่ร้อยตรีหญิง นิสารัตต์ นิลสว่าง ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน จัดกิจกรรมทัศนศึกษาดูงาน ตามโครงการประชาสัมพันธ์เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ณ ศูนย์ภูฟ้าพัฒนาตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ต. ภูฟ้า อ.บ่อเกลือ จ.น่าน การเดินทางมาทัศนะศึกษาดูงานในครั้งนี้มี นายธีรวุธ ปัทมาศ นักจัดการงานในพระองค์ ซึ่งเป็นผู้จัดการศูนย์ภูฟ้าพัฒนาฯ ได้ให้ความรู้เรื่องประวัติการจัดตั้งศูนย์ภูฟ้าพัฒนาฯ เรื่องการปลูกเเละการเเปรรูปชาอูหลง อีกทั้งยังได้ให้ความรู้การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อต้นไม้ รวมทั้งการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์ นอกจากนี้ยังได้เยี่ยมชมพระตำหนักทรงสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ศูนย์วัฒนธรรมภูฟ้า ร่วมทั้งชมโรงแปรรูปผลผลิตภัณฑ์อาหารเเละร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของศูนย์ภูฟ้าฯ การกิจกรรมทัศนศึกษาดูงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับความรู้ตามเเนวพระราชดำริ มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันเเละเผยเเพร่เเก่บุคคลอื่นให้รับรู้รับทราบคุณประโยชน์จากโครงการพระราชดำริฯ อีกทั้งสร้างจิตสำนึกของประชาชนในการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมไปถึงสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนโดยให้ตระหนักถึงพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันมหากษัตริย์ที่พรราชทานความช่วยเหลือเเก่ประชาชนจังหวัดน่าน

ทั้งนี้ คณะศึกษาดูงานได้มอบทุนให้แก่ผู้แทนชาวมลาบรีเพื่อใช้เป็นทุนในการประกอบอาชีพต่อไป




บุษรินทร์ /ข่าว

ผวจ.น่าน มอบรางวัลการประกวดธนาคารต้นไม้ ระดับภาคเหนือตอนบน ในวาระการประชุมประจำเดือนเมษายน 2557

วันนี้ (29 เมษายน 2557) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดน่าน นายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานการประชุมประจำเดือนเมษายน 2557 และมอบรางวัลการประกวดธนาคารต้นไม้ ระดับภาคเหนือตอนบน รับรางวัลเทพารักษ์ชนะเลิศ ประเภทชุมชน ได้แก่ ธนาคารต้นไม้บ้านนาเหลืองใน อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน และรางวัลชนะเลิศ ประเภทบุคคล ได้แก่ อาจารย์ประดิษฐ์ เพชรแสนอนันต์ พร้อมกล่าวถึงกิจกรรมการปลูกต้นไม้และการอนุรักษ์ต้นไม้ว่า เป็นกิจกรรมที่ดีสร้างความเข้มแข็งของชุมชน และทำให้เกิดการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายในหมู่บ้าน ที่ได้ช่วยกันดำเนินงานด้านการกระจายพันธุ์ไม้สู่ป่าชุมชน และต้นน้ำ และยังเป็นการช่วยกันคุ้มครองป่าและเพิ่มปริมาณต้นไม้ ตามวาระจังหวัดน่าน "สร้างเมืองน่านน่าอยู่ คู่ป่าต้นน้ำ” อีกด้วย

จากนั้น ในที่ประชุมได้แนะนำหัวหน้าส่วนราชการที่ย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่ในจังหวัดน่าน ประกอบด้วย นายสมพงษ์ อุดมวัฒนานันท์ อัยการจังหวัดน่าน นายอาคม นวพิพัฒนา อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดน่าน นายธนาธร ใหม่คำ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดน่าน และนายพัฒนพงษ์ สร้อยอินทรากุล นายอำเภอนาหมื่น

ส่วนทางด้านการดำเนินงานกิจกรรม โครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน ประจำปี 2557 ผวจ.น่าน ได้กล่าวว่า จังหวัดน่านได้มีโครงการออกเคลื่อนที่ไปตามอำเภอต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัด เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ โดยมีหน่วยงานราชการ องค์กร รัฐวิสาหกิจ และเอกชนต่างๆ ร่วมออกหน่วยเคลื่อนที่เพื่อให้คำแนะนำและให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดน่านทุกอำเภอ และจังหวัดน่าน พร้อมให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งในแต่ละเดือนการจัดกิจกรรมโครงการ "หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” ได้สร้างร้อยยิ้มและความพึงพอใจให้กับประชาชนที่มารับบริการเป็นจำนวนมาก





รดา บุญยะกาญจน์/ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน

เชียงใหม่เน้น กระจายผลผลิตหอมแดงออกนอกแหล่งผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรง


จังหวัดเชียงใหม่ วางแผนดำเนินการกระจายผลผลิตหอมแดงออกนอกแหล่งผลิต ในการจัดกิจกรรมของจังหวัดต่าง ๆ ประสานผู้ผลิตสินค้าแปรรูปที่ใช้ผลผลิตหอมแดง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันการทำตลาดในต่างประเทศ เพื่อส่งผลผลิตถึงผู้บริโภคโดยตรง

นายไพโรจน์ กุลละวณิชย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตร ระดับจังหวัด (คพจ.) เปิดเผยว่า ในปี 2557 จังหวัดเชียงใหม่มีแหล่งผลิตหอมแดงที่สำคัญ ได้แก่ อำเภอแม่แจ่ม ดอยเต่า ไชยปราการ การปลูกหอมแดงมี 2 ฤดู คือฤดูแล้งและฤดูฝน ขณะนี้เป็นช่วงการผลิตหอมแดงฤดูแล้ง ซึ่งเริ่มปลูกช่วงปลายเดือนตุลาคม 2556 ถึงกุมภาพันธ์ 2557 โดยเกษตรกรจะปลูกมากช่วงเดือนธันวาคม หลังจากเกี่ยวข้าวนาปีแล้ว ปัจจุบันมีเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดงทั้งหมด 1,818 ราย พื้นที่รวม 9,440 ไร่ พื้นที่เก็บเกี่ยว 8,354 ไร่ ผลผลิตรวม 33,331.75 ตัน ผลผลิตเฉลี่ย 3,555 กิโลกรัม/ไร่ ขณะนี้เก็บเกี่ยวไปแล้ว จำนวน 29,510.75 ตัน คิดเป็น 88 % ซึ่งเป็นผลผลิตของอำเภอแม่แจ่ม 80% ที่เหลืออีก 20 % เป็นหอมดอย

ซึ่งมีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาด จังหวัดเชียงใหม่ได้วางแผนการกระจายผลผลิตหอมแดงออกนอกแหล่งผลิต โดยได้ประสานไปยังจังหวัดที่ไม่ใช่แหล่งผลิตเพื่อขอพื้นที่วางจำหน่าย ประสานจังหวัดที่มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อขอพื้นที่ในการวางจำหน่ายภายในงาน ประสานผู้บริโภครายใหญ่ อาทิ ผู้ผลิตน้ำพริกรายใหญ่ในจังหวัดนครสวรรค์ ประสานผ่านศูนย์การกระจายสินค้าของกระทรวงมหาดไทย สหกรณ์ และผู้รวบรวมในแต่ละจังหวัด โดยเริ่มที่ตลาดหัวอิฐ จังหวัดนครศรีธรรมราช นอกจากนั้นยังผลักดัน การส่งออกไปยังต่างประเทศ ทั้งหอมแดงแห้งและหอมแดงดอง โดยมอบหมายสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศภาคเหนือ (เชียงใหม่) ประสานทูตพาณิชย์ไทยประจำประเทศบังคลาเทศและอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีการบริโภคหอมดองมาก ศึกษาหาลู่ทางตลาด และสำนักงานการค้าต่างประเทศเขต 1 เชียงใหม่ ให้ผลักดันตลาดต่างประเทศเพิ่มนอกจากประเทศอินโดนีเซีย

พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดเชียงใหม่ ได้วางแผนการกระจายหอมแดง โดยการหาตลาดนอกพื้นที่แหล่งผลิตภายในประเทศ และตลาดต่างประเทศ โดยเน้นให้เกษตรกรทำเรื่องคุณภาพผลผลิตให้ได้มาตรฐาน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและทำตลาดอย่างยั่งยืน



ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

กกพ.จัดเวทีประชาสัมพันธ์การรับสมัคร คพข.ที่เชียงใหม่เป็นเขตแรก


สำนักงาน กกพ.จัดเวทีประชาสัมพันธ์การรับสมัครคณะกรรมการผู้ใช้พลังงานประจำเขต (คพข.) แทน คพข.ชุดแรกซึ่งจะหมดวาระลงในวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 โดยครั้งแรกจัดขึ้นที่โรงแรมเซ็นทารา ดวงตะวัน จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2557 โดยมี คพข.เขต 1 พลังงานจังหวัด และตัวแทนผู้ใช้พลังงานในพื้นที่สำนักงาน กกพ.ประจำเขต 1 (เชียงใหม่) ใน 6 จังหวัด ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำพูน พะเยา และแม่ฮ่องสอน ร่วม 200 คนเข้าร่วมเวทีประชาสัมพันธ์ในครั้งนี้

วานนี้ (28 เม.ย.57) เวลา 13.00 น. ณ โรงแรมเซนทารา ดวงตะวัน จังหวัดเชียงใหม่ นายพิสิษฐ์ สุนทรีรัตน์ กรรมการกำกับกิจการพลังงาน เป็นประธานพิธีเปิดเวทีประชาสัมพันธ์การสรรหาคณะกรรมการผู้ใช้พลังงานประจำเขต แทนคณะกรรมการผู้ใช้พลังงานประจำเขต หรือ คพข. ชุดแรกซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี ในวันที่ 31 กรกฏาคม 2557 โดยมีนายนาวิน สินธุสะอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะตัวแทนประชาชนจังหวัดเชียงใหม่กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมเวที ซึ่งประกอบด้วย คพข.เขต 1 พลังงานจังหวัด และตัวแทนผู้ใช้พลังงานในพื้นที่สำนักงาน กกพ.ประจำเขต 1 (เชียงใหม่) ใน 6 จังหวัด ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำพูน พะเยา และแม่ฮ่องสอน ร่วม 200 คน รวมทั้งได้ขอบคุณคณะกรรมการผู้ใช้พลังงานประจำเขตชุดแรกซึ่งกำลังจะหมดวาระลงและได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันด้วยจิตอาสาที่ไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทน รวมทั้งได้เชิญชวนประชาชนผู้ใช้พลังงานได้เสียสละและอุทิศตนเพื่อร่วมกันเข้าร่วมการคุ้มครองสิทธิ และทำหน้าที่ของประชาชนผู้ใช้พลังงานอย่างเต็มความสามารถ โดยสมัครเข้าไปเป็น คพข.ประจำเขต 1 ต่อไป

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีของเมืองหลักแห่งหนึ่งจากหลาย ๆ จังหวัดในประเทศไทย ที่มีแนวโน้มของการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับมหภาคของประเทศ การขยายตัวอย่างรวดเร็วย่อมนำมาซึ่งปริมาณความต้องการการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยปริมาณความต้องการการใช้พลังงาน นอกจากเพื่อสนับสนุนการขยายตัวในภาคเศรษฐกิจของประเทศแล้ว สิ่งที่ต้องตระหนักและต้องให้ความสำคัญสูงสุดคือ การพัฒนาภาคพลังงานอย่างเป็นธรรม เพื่อการยกระดับความเป็นอยู่ที่ดี ความผาสุกของประชาชนนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนเป็นสำคัญควบคู่กันไปอย่างสมดุลด้วย

ด้านนายพิสิษฐ์ สุนทรีรัตน์ กรรมการกำกับกิจการพลังงาน กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 กำหนดให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. มีภารกิจหน้าที่หลายประการ อาทิ การกำกับดูแลหลักเกณฑ์การกำหนดราคาพลังงาน การอนุญาตการประกอบกิจการพลังงาน การให้ความเห็นชอบในมาตรฐานการให้บริการของการไฟฟ้า การกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้า การกำกับดูแลหลักเกณฑ์การจ่ายค่าทดแทนตามแนวเขตของโครงข่ายสายส่งพลังงานและที่สำคัญคือ การกำหนดมาตรการในการคุ้มครองผุ้ใช้พลังงานให้เกิดความเป็นธรรมในหลายมิติ โดยมาตรการด้านการคุ้มครองผู้ใช้พลังงานนั้นได้กำหนดให้มีคณะกรรมการผู้ใช้พลังงานประจำเขต หรือ คพข.ทำหน้าที่เพื่อเป็นกลไกให้แก่ กกพ. ในด้านการคุ้มครองผู้ใช้พลังงาน โดย คพข. จะมีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องรอ้งเรียนของผู้ใช้พลังงาน ให้คำปรึกษาในการคุ้มครองผู้ใช้พลังงาน รวมทั้งเสนอมาตรการในการแก้ไขปรับปรุงการให้บริการพลังงาน เป็นต้น ซึ่งจากเจตนารมณ์และหลักการของกฎหมายดังกล่าว กกพ.ได้ดำเนินการที่เกี่ยวข้องโดยประกาศเขตพื้นที่ผู้ใช้พลังงานทั่วประเทศรวม 13 เขต ดังนั้น เมื่อผนวกกับกฎหมายที่กำหน้ดให้มี คพข.จำนวนเขตละ 11 คน ภายใต้เขตพื้นที่ผู้ใช้พลังงาน รวม 13 เขตทั่วประเทศ โดยจะมี คพข.ทั้งสิ้น 143 คน และมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี โดยเมื่อ คพข.ได้รับการแต่งตั้งจาก กกพ.แล้วก็จะปฏิบัติหน้าที่ในเขต โดยมีสำนักงาน กกพ.ประจำเขต เป็นฝ่ายเลขานุการในการกลั่นกรองการรับเรื่องร้องเรียนจากผู้ใช้ไฟฟ้า ซึ่ง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ได้กำหนดประเภทของเรื่องร้องเรียนที่สามารถเสนอต่อ คพข.ไว้ตามมาตรา 100 และมาตรา 103 คือ การที่ผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการประกอบกิจการพลังงานของผู้รับใบอนุญาต และเรื่องที่ผู้ใช้ไฟฟ้ามีเหตุอันควรสงสัยว่าอาจถูกเรียกเก็บค่าบริการที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม ซึ่งข้อร้องเรียนดังกล่าวจะนำมาสู่การไกล่เกลี่ยเพื่อพิจารณาหาข้อยุติต่อไป

สำหรับความคืบหน้าการคุ้มครองผู้ใช้พลังงานที่เกิดขึ้นทั่วประเทศภายใต้บทบาทการทำหน้าที่ของ คพข. ได้แก่ การแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์ทการขยายระยะเวลาการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าจากเดิมที่ผู้ใช้ไฟฟ้าจะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าภายในกำหนดระยะเวลา 10 วัน โดยมีการขยายออกไปเป็น 15 วัน นอกจากนั้นยังมีกรณีของการเรียกเก็บอัตราค่าธรรมเนียมตัดต่อกระแสไฟฟ้าในอัตรา 107 บาท นอกจากนั้นยังได้สร้างหลักเกณฑ์เพื่อให้ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีหนี้ค้างชำระและเป็นกรณีที่อาจต้องถูกตัดไฟฟ้าได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น โดยผู้ประกอบการจะสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมได้ก็ต่อเมื่อถูกงดจ่ายไฟฟ้าแล้วเท่านั้น โดยประเด็นปัญหาเหล่านี้ก็จะพัฒนาไปสู่การยกระดับเป็นสัญญาบริการที่จะเกิดความเป็นธรรมกับผู้ใช้พลังงานทั้ง 20 ล้านรายมากขึ้น

สำหรับการรับสมัครและการสรรหา คพข. ชุดที่ 2 ได้กำหนดเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 9 – 30 พฤษภาคม 2557 โดยส่งใบสมัครทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สมัคร คพข.) 319 อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้น 19 ถนนพญาไท เขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 โดยสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ทาง www.erc.or.th



ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ จัดสัมมนาเสริมสร้างความรู้ ด้านการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่จัดสัมมนาเสริมสร้างความรู้ ด้านการป้องกันแก้ไขปัญหา หมอกควันและไฟป่า เพื่อให้การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเกิดความตระหนักในปัญหาที่เกิดจากไฟป่า หมอกควันที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำ และเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยมีผู้รับผิดชอบเสียงตามสาย หอกระจายข่าว และผู้ดำเนินรายการวิทยุชุมชนในพื้นที่ 5 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ที่มีจุดความร้อนจำนวนมาก จำนวน 60 คนเข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้

นางอุบลรัตน์ คงกระพันธ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสภาพพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ทำให้อากาศในแอ่งเมืองเชียงใหม่แห้งและเคลื่อนไหวน้อยมาก เมื่อเกิดการเผาป่าไม่ว่าด้วยสาเหตุใดก็ตาม ส่งผลให้เกิดหมอกควันปกคลุมอยู่เป็นบริเวณกว้าง โดยจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม – พฤษภาคมของทุกปี หมอกควันดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจของประชาชนที่อยู่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ซึ่งปัญหาวิกฤติหมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง มีสาเหตุหลายประกาณ บางสาเหตุเป็นสิ่งที่สุดวิสัยที่จะป้องกันได้ โดยเป็นปัจจัยภายนอกและเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ เช่น หมอกควันอันเกิดจากความกดอาศสูงจากประเทศจีนที่ปกคลุมพื้นที่ภาคเหนือของไทย จึงทำให้หมอกควันไม่สามารถลอยตัวขึ้นสูงได้ แต่สาเหตุสำคัญ ๆ ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมหรือการกระทำของมนุษย์ เช่น การเผาป่า จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องดำเนินโครงการต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชนในการแก้ปัญหาวิกฤตหมอกควัน

ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้พยายามแก้ไขปัญหากันมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีภาคีเครือข่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานแก้ไขปัญหา โดยยึดกรอบแผนจัดการหมอกควันจากการเผาในที่โล่ง ปี 2555 – 2559 ของกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ การควบคุมการเผาในพื้นที่ชุมชน การควบคุมการผาในพื้นที่เกษตรกรรม การควบคุมไฟป่า การณรงค์ประชาสัมพันธ์ และเสริมสร้างการมีส่วนร่วม และการส่งเสริมการวิจัยและขยายองค์ความรู้ ดังนั้นเพื่อให้การรณรงค์ ประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างการมีส่วนร่วมตามยุทธศาสตร์ที่ 4 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนเกิดความตระหนักในปัญหาที่เกิดจากไฟป่าหมอกควันที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำ และเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง จังหวัดเชียงใหม่จึงได้มอบหมายให้ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินการจัดสัมมนาเสริมสร้างความรู้ด้านการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าขึ้นในพุธที่ 30 เมษายน 2557 ณ โรงแรมราชพฤกษ์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมสัมมนาเป็นผู้ทำหน้าที่ด้านการประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงตามสาย หอกระจายข่าว และผู้ดำเนินรายการวิทยุชุมชน ในพื้นที่ซึ่งมีสถิติจุดความร้อนสูงในปี 2557 รวม 5 อำเภอ จำนวน 60 คน ประกอบด้วย อำเภอจอมทอง 20 คน อำเภอดอยหล่อ ฮอด อมก๋อย และ แม่แจ่ม อำเภอละ 10 คน โดยมี คณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจาก สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ผศ.ดร.ศุทธินี ดนตรี อาจารย์ประจำภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ ทีมวิทยากร ซึ่งเป็น ซีอีโอ บจก. JukeBox sound good (Sattellite + FM 30 Station) มาบรรยายให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมสัมมนา เพื่อนำไปขยายผลด้านการประชาสัมพันธ์ทางสื่อในความรับผิดชอบ



ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

กรมประชาสัมพันธ์ เตรียมจัดงานวันคล้ายวันก่อตั้ง ปีที่ 81


กรมประชาสัมพันธ์ เตรียมจัดงานวันคล้ายวันก่อตั้งกรมประชาสัมพันธ์ ครบ 81 ปี กรมประชาสัมพันธ์เป็นหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐบาลกับประชาชน ตลอดจนระหว่างประชาชนด้วยกัน

กรมประชาสัมพันธ์ เตรียมจัดงานวันคล้ายวันก่อตั้ง ปีที่ ระหว่างวันที่ 1-3 พฤษภาคม 2557 โดยจัดให้มีกิจกรรม การร่วมงานลีลาศ , การแข่งขันกีฬาภายในประเภทต่างๆ , การร่วมแสดงความยินดีของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และรัฐวิสาหกิจ , พิธีมอบประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับกรมประชาสัมพันธ์ , การมอบเกียรติบัตรแก่ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และเจ้าหน้าที่ดีเด่น , การมอบรางวัลแก่สถานีวิทยุกระจายเสียง และสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดดีเด่น โดยอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ณ ห้องประชุม หอประชุม กรมประชาสัมพันธ์ ชั้น 1

นอกจากนี้ยังมีการเสวนา เรื่อง “นโยบายจากผู้บริหารสู่ผู้ปฏิบัติ” โดย อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และรองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งดำเนินรายการโดย นางสาวประวีณา ธาดาพรม , ในภาคกลางคืนจัดให้มีงานเลี้ยงสังสรรค์ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ กรมประชาสัมพันธ์ “กปส. 81 ปี สีสันสดใส” , พิธีมอบรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศการแข่งขันกีฬาภายใน และในวันที่ 3 พฤษภาคม จะมีพิธีบวงสรวงสักการะพระพรหม พระอินทร์ และพระภูมิเจ้าที่ พระสงฆ์จำนวน 9 รูป , การเจริญชัยมงคลคาถา ณ ห้องประชุม หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ ชั้น 1

วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เป็นวันคล้ายวันก่อตั้งกรมประชาสัมพันธ์ ครบ 81 ปี กรมประชาสัมพันธ์เป็นหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐบาลกับประชาชน ตลอดจนระหว่างประชาชนด้วยกัน โดยการให้ข่าวสาร ความรู้ข้อเท็จจริง และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อเสนอรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านสื่ออย่างหลากหลาย

นับตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2476 ถึงปัจจุบัน บทบาทหน้าที่และโครงสร้างปรับเปลี่ยนไปตามสภาพบ้านเมือง ในฐานะหน่วยงานหลักด้านการประชาสัมพันธ์ภาครัฐ กรมประชาสัมพันธ์มีภารกิจทั้งเชิงนโยบายและปฏิบัติการ เพื่อให้การดำเนินงานประชาสัมพันธ์ของชาติเป็นไปอย่างมีระบบ ด้วยการประชาสัมพันธ์เสริมสร้างความเข้าใจ และภาพลักษณ์ที่ดีแก่ประชาชน และประชาคมโลก ในยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายสำคัญของรัฐบาล ในฐานะองค์กรสื่อสารมวลชน กรมประชาสัมพันธ์ใช้เครือข่ายสถานีวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ทั่วไประเทศ และเครือข่ายอินเทอร์เน็ต พัฒนาศักยภาพประชาชนในทุกมิติของชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดยการกระจายข้อมูลสารสนเทศที่มีคุณภาพให้ผู้บริโภคสื่อมีทางเลือก รู้เท่าทัน และสามารถใช้สื่อหรือข้อมูลข่าวสารเพื่อประโยชน์ในการแก้ปัญหาพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชนและสังคม



ข่าวโดย : ณัฏฐ์ สินันตา
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

จังหวัดพะเยา ขอเชิญชมศึกยอดมวยโลกกระทิงแดง-วันแรงงานแห่งชาติจังหวัดพะเยา ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ณ เวทีมวยชั่วคราว สนามกลางเวียงพะเยา

ที่หอประชุมสมาคมพะเยา (ศาลเจ้าพะเยา) นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยนายวรวิทย์ บุรณศิริ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา และนายหัสนัย แก้วกุล ประธานหอการค้าจังหวัดพะเยา ร่วมกันแถลงข่าวศึกยอดมวยโลกกระทิงแดง- วันแรงงานแห่งชาติจังหวัดพะเยา ซึ่งจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม 2557 ณ เวทีมวยชั่วคราว สนามกลางเวียงพะเยา อำเภอเมืองพะเยา ถ่ายทอดสดทางไทยทีวีสีช่อง 3 ตั้งแต่เวลา 13.55-15.55 น. โดยคู่เอกเป็นการชกป้องกันตำแหน่งแชมป์มวยโลก รุ่นซูเปอร์แบนตัมเวต 122 ปอนด์ PABA ระหว่าง ณพ กระทิงแดงยิม ในฐานะเจ้าของเข็มขัด จะเจอกับ เรน เรน ปาซิกนาฮิน รองแชมป์ชาวฟิลิปปินส์

นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า การจัดการแข่งขันในครั้งนี้เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัดพะเยา พร้อมประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจทราบว่าพะเยานั้น มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายและเป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนห่างไกลจากยาเสพติดและผลักดันให้นักมวยไทยได้พัฒนาฝีมือขึ้นมาเป็นนักมวยในระดับแนวหน้าของโลกด้วย

อย่างไรก็ตามยังมีคู่มวยประกอบรายการที่น่าสนใจ อาทิ ขวัญไทย ศิษย์หมอเส็ง พบกับ แซมมี่ แฮคเลอร์ (อินโดนีเซีย) พิกัด 107 ปอนด์ , แสตมป์ กระทิงแดงยิม พบกับ ซาฟวัน ลอมบุ๊ค (อินโดนีเซีย) พิกัด 110 ปอนด์, อินทะนนท์ ศิษย์ชะมวง พบกับ น้องเดียร์ ส.บางครุ พิกัด116 ปอนด์ และ อามิน ส.หวังมุ๊ พบกับ ลายเสือ ส.บางครุ พิกัด 130 ปอนด์ และยังมีการแข่งขันมวยไทยดาวรุ่งภาคเหนือให้ชมอีก 7 คู่อีกด้วย



ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ
หน่วยงาน : สวท.พะเยา

อบจ.พะเยา เตรียมฝึกอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี "ติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศ" เพื่อการบริหารจัดการน้ำจังหวัดพะเยา ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้

นายวรวิทย์ บุรณศิริ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า จังหวัดพะเยาได้มีการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของจังหวัด พบว่า ศักยภาพทางกายภาพเป็นสิ่งสำคัญและมีส่วนช่วยให้สามารถพัฒนาขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดไปได้ เพราะมีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ เป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างอาชีพทั้งภาคเกษตรและครัวเรือน ซึ่งสถานการณ์น้ำในช่วงที่ผ่านมาประสบปัญหาอุทกภัยในช่วงฤดูฝน และประสบปัญหาน้ำการเกษตรไม่เพียงพอในช่วงของฤดูแล้ง รวมทั้งปัญหาความเสื่อมโทรมของคุณภาพน้ำ มีแนวโน้มความถี่และความรุนแรงเพิ่มขึ้น ดังนั้นการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบจึงเป็นเรื่องสำคัญต่อจังหวัดพะเยาอย่างมาก และต้องอาศัยภาคีเครือข่ายแบบบูรณาการ องค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา จึงเตรียมจัดฝึกอบรมสัมมนา เชิงปฏิบัติการถ่ายทอดความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี “ติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศ” เพื่อการบริหารจัดการน้ำจังหวัดพะเยา โดยมี ดร.รอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและเกษตร (องค์กรมหาชน) เป็นวิทยากรร่วมบรรยายให้ความรู้ด้านบริหารจัดการน้ำ ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2557 เวลา 08.00 – 16.40 น. ณ ห้องประชุมภูกามยาว ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดพะเยา

ทั้งนี้ การฝึกอบรมสัมมนาดังกล่าว จะเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตัวอย่างการดำเนินงานของศูนย์บริหารจัดการน้ำระดับจังหวัด ตลอดจนการใช้ข้อมูลจากเว็บไซต์ศูนย์บริหารจัดการน้ำจังหวัดพะเยาเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศ มีการสาธิตการใช้งานอุปกรณ์ติดตามสถานการณ์น้ำอัตโนมัติ (media box) ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา ได้ดำเนินการจัดสรรงบประมาณ 1,500,000 บาท(หนึ่งล้านห้าแสนบาท) เพื่อจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำจังหวัดพะเยา ที่อาคารด้านหน้า ชั้น 1 องค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานเรื่องข้อมูลน้ำ โดยจะมีการติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์และมีเจ้าหน้าที่ประจำ



ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ
หน่วยงาน : สวท.พะเยา