วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ตาก-จัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ และเปิดงานรณรงค์การขึ้นทะเบียนเกษตรกรและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าว คืนความสุขให้ชาวนา

ตาก-จัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ และเปิดงานรณรงค์การขึ้นทะเบียนเกษตรกรและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าว คืนความสุขให้ชาวนา

วันนี้ (๓๐ ก.ค.๕๗) เวลา ๑๑.๐๐ น นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ  ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และงานรณรงค์การขึ้นทะเบียนเกษตรกรและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าว คืนความสุขให้ชาวนา ณ โรงเรียนวังหินกิตติวิทยาคม ตำบลวังหิน อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ เกษตรกร และประชาชน เข้าร่วมงาน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดทำโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ อันเป็นโครงการฯที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โปรดเกล้าฯ รับโครงการไว้ในพระราชานุเคราะห์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการแก่เกษตรกรในการแก้ไขปัญหาด้านการผลิตทางการเกษตรได้อย่างรวดเร็ว และสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกรให้สามารถทำการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนโดยมีเกษตรกรจากพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอใกล้เคียงมารับบริการ

จากนั้น เวลา ๑๑.๓๐ น. นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นประธานเปิดงานรณรงค์การขึ้นทะเบียนเกษตรกรและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าว คืนความสุขให้ชาวนา ซึ่งมีเกษตรกรเข้าร่วมงาน จำนวน ๑,๐๐๐ คน วัตถุประสงค์ เพื่อให้ชาวนาและประชาชนที่สนใจทราบถึงมาตรการการช่วยเหลือของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เปลี่ยนแปลงนโยบายการช่วยเหลือชาวนาจากการรับจำนำข้าว เป็นการช่วยเหลือโดยการลดราคาปัจจัยการผลิตและสนับสนุนองค์ความรู้การลดต้นทุนการผลิตข้าว และเร่งรัดให้ชาวนาเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือ และนอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การจำหน่ายปัจจัยการผลิตและสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาถูก การประกวดเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดี การตอบปัญหาด้านการเกษตร รวมทั้งการแสดงดนตรี สร้างความสุขให้ประชาชนโดยวงดนตรีจากจังหวัดทหารบกตาก

จังหวัดพิษณุโลก ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเตรียมฝึกซ้อมแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย

จังหวัดพิษณุโลก ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเตรียมฝึกซ้อมแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เพื่อป้องกันความเสียหาย ทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุม 772 ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นาย ประทีป ศิลปเทศ ปลัดจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานการประชุมการเตรียมการฝึกซ้อมแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ของจังหวัดพิษณุโลก โดยในที่ประชุม ได้มีการชี้แจงความพร้อมและหน้าที่รับผิดชอบของหน่วยงานต่างๆ การพิจารณา วิเคราะห์สภาพพื้นที่ กำหนดสถานที่ฝึกซ้อม พิจารณาจัดทำร่างสถานการณ์สมมุติ ร่วมทั้งขั้นตอนในการปฏิบัติ และได้รับมอบหมายภารกิจหน้าที่ในการฝึกซ้อมแผน นาย บุญยิ่ง คุ้มสุพรรณ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ เป็นการซักซ้อมพูดคุยทำความเข้าใจ ในการร่างกำหนดการซ้อมแผน อุทกภัย น้ำล้นตลิ่ง โดยจะมีการซ้อมจริงในเดือนสิงหาคมนี้ ที่วัดวังพิกุล หมู่ที่ 2 ตำบลวังพิกุล อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ส่วนการซ้อมแผน อัคคีภัย กำหนดการซ้อมแผนที่ โรงเรียนอนุบาลนครพิษณุโลก หรือโรงเรียนเทศบาล 1 (วัดน้อย ) เดิม ในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ เวลา 10.00 -12.00 น. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยทุกระดับ บูรณาการร่วมกัน มีความคุ้นเคยและชำนาญในการปฏิบัติงาน และพัฒนาขีดความสามารถในการปฏิบัติงานเพิ่มมากขึ้น

จังหวัดพิษณุโลกประชุมเตรียมความพร้อมรับเสด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ฯ ในโอกาสที่จะเสด็จมาทรงเปิดศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัว

จังหวัดพิษณุโลกประชุมเตรียมความพร้อมรับเสด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ฯ ในโอกาสที่จะเสด็จมาทรงเปิดศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัว ศรีภิรมย์ ตำบลศรีภิรมย์ อำเภอพรหมพิราม

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมาที่ห้องประชุมสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก นายวิทูรัช ศรีนาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการเตรียมความพร้อมรับเสด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ในโอกาสที่จะเสด็จมาทรงเปิดศูนย์ 3 วัย สานสายใยรักแห่งครอบครัว ศรีภิรมย์ จังหวัดพิษณุโลก ในพระอุปถัมภ์ ตำบลศรีภิรมย์ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ในวันที่ 8 กันยายน 2557 นี้ ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ เพื่อมอบหมายงานให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการเตรียมการรับเสด็จให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ จังหวัดพิษณุโลกจึงขอเชิญประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลก ร่วมรับเสด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร โดยพร้อมเพรียงกัน

สุดรันทด พบเด็กหญิง ม.1 อาศัยอยู่กับน้องชายตามลำพัง ที่ตำบลบ้านแยง อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก สภาพบ้านผุพังวอนช่วยเหลือ

สุดรันทด พบเด็กหญิง ม.1 อาศัยอยู่กับน้องชายตามลำพัง ที่ตำบลบ้านแยง อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก สภาพบ้านผุพังวอนช่วยเหลือ ล่าสุด พระนักบุญเมืองสองแคว พร้อมคณะผู้ใจบุญ และชมรมสื่อมวลชนพิษณุโลก เดินทางไปให้กำลังใจ พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีเด็กหญิงวัย 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนบ้านแยง อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก มีความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก ใช้ชีวิตอยู่กับน้อยชาย เพียงลำพัง พ่อแม่แยกทาง โดยเด็กหญิงรายนี้ คือ เด็กหญิงสายบัว ดุงสูงเนิน อายุ 13 ปี อาศัยอยู่ในบ้านสภาพผุพัง ไม่คุ้มแดด คุ้มฝน โดยเฉพาะห้องน้ำ ที่มีเพียงผ้าเก่า ๆ มาขึงกั้นไว้ อยู่ห่างออกไปจากตัวบ้าน จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า น้องสายบัว อาศัยอยู่กับน้องชายคือเด็กชายนันทยศ พาสีดา วัย 8 ขวบ เพียงลำพัง เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน และแม่ต้องไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร โดยจะส่งเงินมาให้น้องสายบัว กับน้องชาย ไว้เป็นค่าใช้จ่ายเพียงเดือนละ 500 บาทเท่านั้น คุณครูประจำชั้นของ น้องสายบัว เล่าให้ฟังว่า หลังจากที่มาเยี่ยมบ้าน ตามโครงการเยี่ยมบ้านนักเรียนของ สพฐ. ทำให้ทราบปัญหา และมีความเป็นห่วงถึงความปลอดภัยของ น้องสายบัว ที่ต้องอาศัยอยู่เพียงลำพัง ไม่มีผู้ใหญ่คอยดูแล เนื่องจากน้องสายบัวเริ่มโตเป็นสาว อีกทั้งฐานะก็ยากจน ซึ่งหลังจากนี้ก็จะประสานไปยังหน่วยงานต้นสังกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป เบื้องต้น ได้ประสานไปยังมารดาของเด็กทั้ง 2 คนให้กลับมาอยู่บ้านเพื่อดูแล เด็ก ๆ แล้ว โดยล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ 29 กรกฎาคม 2557 พระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ พร้อมคณะผู้ใจบุญ และชมรมสื่อมวลชนพิษณุโลก ได้เดินทางไปมอบเครื่องอุปโภคบริโภคจำเป็น เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวหลายสำนัก ได้เห็นสภาพบ้านที่น้องบัวกับน้องชายอาศัยอยู่ จึงสอบถามว่าน้องบัวกับน้องอาศัยอยู่ยังไง น้องบัวเล่าให้ฟังว่า ตนเองต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 ลุกขึ้นมาหุงข้าว และทำกับข้าวให้น้อง ก่อนที่จะอาบน้ำและพากันไปโรงเรียน หากวันไหนอยู่บ้านแล้วถ้าฝนตก ก็ต้องคอยหลบฝนตามมุมบ้านเอา เพราะหลังคาบ้าน รั่ว ไม่คุ้มแดดคุ้มฝน ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า อยากให้ใครมาช่วยอะไรเป็นพิเศษไหม น้องบัวกล่าวว่า อยากได้บ้าน เพื่อไว้ให้แม่กับน้องชายได้พักอาศัย ที่ดีกว่านี้ จะได้ไม่ต้องลำบากเหมือนอย่างที่เป็น ส่วนตนเองอยากมีโอกาสเรียนให้สูง และอยากเลือกอาชีพเป็นหมอ ถ้าหากได้เรียนจริง ก็จะนำวิชาชีพที่ได้เรียน นำไปช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป สำหรับผู้ใจบุญท่านใดต้องการช่วยเหลือ เด็กหญิงสายบัว ดุงสูงเนิน สามารถบริจาคเงินได้ที่บัญชีธนาคารออมสิน เลขที่ 02 0103 8693 09 ชื่อบัญชี เด็กหญิงสายบัว ดุงสูงเนิน สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 089- 856 6625

จังหวัดพิษณุโลก ประชุมคณะกรรมการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการ ประจำเดือนกรกฎาคม 2557

ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ประชุมคณะกรรมการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการ ประจำเดือนกรกฎาคม 2557

เช้าวันนี้ (30 ก.ค.57) ที่ห้องประชุมพระพุทธชินราช ชั้น 7 ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดพิษณุโลก ก่อนวาระการประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เป็นประธานในการมอบรางวัลและเกียรติบัตร ให้กับ น้องไนซ์ อายุ 5 ปี เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนโรจนวิทย์มาลาเบี่ยง พร้อมนางพัชรมัย เนียมสุภาพ มารดา หลังจากเก็บถุงใส่เงินจำนวน 30000 บาทได้ และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ แก่ สถานประกอบการดีเด่นในจังหวัด ตามโครงการเพิ่มศักยภาพและการสร้างแรงจูงใจในการติดตามเร่งรัดหนี้ จำนวน 6 รางวัล และมอบเครื่องวัดแอกอฮอล์ทางลมหายใจ ให้แก่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก สำหรับวาระการประชุมในวันนี้ ได้มีการติดตามผลการเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนารถ เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 12 สิงหาคม 2557 บริเวณเวทีกลาง หน้าศาลากลางจังหวัด แนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ตามนโยบายของ คสช. การจัดงานรณรงค์และถ่ายทอดเทคโนโลยีการลดต้นทุนการผลิตข้าวเพื่อคืนความสุขให้ชาวนา ในวันที่ 5 สิงหาคม 2557 ณ หอประชุมอนุสรณ์ 100 ปี คุณย่าประสาท รักเลี้ยง มหาวิทยาลัยพิษณุโลก เป็นต้น

ตำรวจเมืองสองแคว แถลงข่าวรวบหนุ่ม ซ่อมมอเตอร์ไซค์ขายอะไหล่ซิ่ง ย่านโคกมะตูม หลังเดินทางผิด คิดรวยทางลัด ขายยาบ้าให้กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่

ตำรวจเมืองสองแคว แถลงข่าวรวบหนุ่ม ซ่อมมอเตอร์ไซค์ขายอะไหล่ซิ่ง ย่านโคกมะตูม หลังเดินทางผิด คิดรวยทางลัด ขายยาบ้าให้กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ทัน จัดการล่อซื้อ สารภาพสิ้นว่างานนี้ทำคนเดียว

เมื่อเวลา 13.00 น.ของวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา พ.ต.ท.นนทวร สีอินทร์ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก พร้อมด้วยชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา ในความผิดฐานจำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย สืบเนื่องจากชุดปฏิบัติการพิเศษ นำโดย พ.ต.ท.ไชยวิญญ์ อินทรทรัพย์ สารวัตรป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ได้ทำการล่อซื้อยาบ้านจากนายนราศักดิ์ หรือบรีส ดำคุ้ม อายุ 23 ปี ที่บริเวณหน้าร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์บรีสอะไหล่ซิ่ง เลขที่ 132/515 ถ.พระองค์ดำ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก โดยได้ของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 200 เม็ด จากนั้นได้ทำการขยายผลไปทำการตรวจค้นยาบ้าได้เพิ่มอีกจำนวน 1 พันเม็ด ที่บริเวณใต้บานเกล็ดหลังตู้ใส่รองเท้า ภายในบ้านเลขที่ 88/255 ม.7 ต.บึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งนายนราศักดิ์ หรือบรีสฯ ได้ให้การรับสารภาพว่า ปกติตนได้ประกอบอาชีพเปิดร้านขายอะไหล่รถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง ชื่อร้านบรีสอะไหล่ซิ่ง ต่อมาช่วงที่มีการประกาศกฎอัยการสึก ประกอบกับหลายหน่วยงาน ได้รณรงค์กวาดล้าง แก๊งค์เด็กซิ่งในพื้นที่อำเภอเมืองพิษณุโลกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ร้านของตนรายได้เริ่มลดลงเนื่องจากกลุ่มเด็กแวนซ์ ไม่ค่อยนำรถมาแต่งซิ่ง เพราะกลัวโดนยึดรถ จึงได้เริ่มนำยาบ้ามาจำหน่ายให้กับกลุ่มผู้เสพในเขตพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกจริง

โดยได้ติดต่อขอซื้อยาบ้ามาจากนายนัท ไม่ทราบนามสกุลที่แท้จริง ซึ่งเป็นนักโทษชาย อยู่ในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก และได้ทำการขยายผลยึดทรัพย์ ตามพระราชบัญญัติมาตรการยาเสพติด ตรวจยึดรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแม๊ค สีขาว หมายเลขทะเบียน กพ 5447 พิษณุโลก จำนวน 1 คัน โครงรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า จำนวน 2 คัน สร้อยคอทองคำจำนวน 1 เส้น สร้อยข้อมือ 1 เส้น และแหวนทองคำจำนวน 1 วง รวมทรัพย์สินที่ทำการตรวจยึดมูลค่า 8 แสนบาท ด้าน พ.ต.ท.นนทวร สีอินทร์ รองผู้กับการป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ขณะนี้จากการสอบสวนขยายผลพบกว่าเกี่ยวข้องกับผู้ค้ายาเครือข่ายเรือนจำ ซึ่งทราบเพียงว่าชื่อนายนัทฯ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง โดยใช้การติดต่อทางโทรศัพท์ออกมาจากเรือนจำ ซึ่งจะมีการเปลี่ยนเบอร์ติดต่อตลอดเวลา ซึ่งนายบรีส ผู้ต้องหาเองก็ไม่เคยเห็นหน้าแต่อย่างใด ประกอบกับการโอนเงินก็จะใช้การหมุนเวียนบัญชีไปเรื่อย ไม่ซ้ำ แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวน อย่างละเอียดและค้นหาผู้ค้ายาเครือข่ายเรือนจำ หากมีตัวตนจริงก็จะดำเนินคดีตามกฏหมายจนถึงที่สุดต่อไป

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดพิธีเปิดศูนย์ดำรงธรรม ตามประกาศ คสช. เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน

จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดพิธีเปิดศูนย์ดำรงธรรม ตามประกาศ คสช. เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน

วันนี้ (30 ก.ค.57) ณ ห้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีนายสุชาติ ราษฎร์ดุษดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นผู้กล่าวรายงานต่อท่านประธาน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมในพิธี

เนื่องด้วยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีประกาศฉบับที่ 96/2557 ประกาศลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2557 เรื่องการจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานระดับจังหวัดและให้การปฏิบัติงานของส่วน ราชการในจังหวัดสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเสมอภาค เพื่อทำหน้าที่ในการรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ ให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นไปตามประกาศของคณะรักษาความสงบ แห่งชาติ และตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างรวดเร็วทั่วถึง และเป็นรูปธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์จึง ได้จัดตั้งศูนย์ดำรงค์ธรรม ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยมีกรอบภารกิจที่สำคัญ อาทิ การอำนวยความเป็นธรรม การรับเรื่องราวร้องทุกข์ และการรับเรื่องปัญหาความต้องการของประชาชน การบริการข้อมูลข่าวสาร และการรแก้ไขปัญหาประชาชน โดยเฉพาะงานที่เป็นนโยบายสำคัญ และการช่วยเหลือประชาชนฉุกเฉินในกรณีต่างๆต่อไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เผยทุกส่วนราชการมีผลปฏิบัติราชการภายใต้นโยบาย คสช.อย่างเข้มแข็ง

ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์เผยทุกส่วนราชการมีผลปฏิบัติราชการภายใต้นโยบาย คสช.อย่างเข้มแข็ง

วันนี้ (30 ก.ค.57) เวลา 09.45 น. ที่ห้องประชุม 1 ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อมอบนโยบายและติดตามผลดำเนินงานสำคัญ

โดยก่อนวาระการประชุม มีพิธีมอบถ้วยรางวัลพระราชทานและใบประกาศเกียรติคุณให้กับนักกีฬาเปตองจังหวัดเพชรบูรณ์ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ทีมผสมอาวุโส ในการแข่งขันกีฬาเปตองชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และมอบประกาศเกียรติคุณแก่ผู้มีผลงานดีเด่น อาทิ โล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลที่มีผลงานดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดประจำปี 2557 ให้กับ นายคณีธิป บุณยเกตุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์

จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ได้กล่าวเน้นย้ำให้ทุกส่วนราชการปฏิบัติราชการภายใต้นโยบายของ คสช.อย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง ซึ่งจังหวัดเพชรบูรณ์มีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ ทั้งด้านการรักษาความสงบเรียบร้อย สร้างความปรองดองสมานฉันท์คืนความสุขให้ประชาชน ทั้งด้านการปราบปราม อาวุธสงคราม ยาเสพติด การบุกรุกทำลายป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ บ่อนการพนัน จัดระเบียบสังคม แรงงานต่างด้าว วินรถตู้โดยสาร มอเตอร์ไซต์ สามล้อรับจ้าง การทวงหนี้เงินกู้ผิดกฎหมาย การทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ รวมทั้งการออกอากาศของวิทยุชุมชน ให้เป็นไปตามประกาศของ คสช.

จังหวัดเพชรบูรณ์ขอเชิญร่วมประกวดร้องเพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงพระราชนิพนธ์งานมหกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

นายกฤษณ์ คงเมือง ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ว่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้จัดโครงการจัดงานมหกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหามหาราชินี ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ดำเนินการจัดการประกวดร้องเพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมี แบ่งเป็นประเภททีมนักเรียน ทีมละ 50 คน ระดับป.4 – ป.6 และ ม.1 – ม.3 และการประกวดเพลงพระราชนิพนธ์หมู่ 20 คน ประเภทหน่วยงาน องค์กร สถานศึกษา ประเภททั่วไปไม่จำกัดอายุ เพศ จัดประกวดในวันที่ 11 สิงหาคม 2557 ณ ห้องโถงใต้ฐานพระพุทธมหาธรรมราชาเฉลิมพระเกียรติ พุทธอุทยานเพชบุระ

รางวัลการประกวดแต่ละประเภท ชนะเลิศ ได้โล่พร้อมเงินสด 5000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับโล่พร้อมเงินสด 4000 บาท รองอันดับ 2 ได้รับโล่พร้อมเงินสด 3000 บาท และรางวัลชมเชย 2 รางวัล ๆ ละ 1500 บาท ส่วนการประกวดเพลงพระราชนิพนธ์หมู่ ชนะเลิซ ได้รับโล่พร้อมเงินสด 5000 บาท รองอันดับ 1 ได้รับโล่พร้อมเงินสด 4000 บาท รองอันดับ 2 ได้รับโล่พร้อมเงินสด 3000 บาท และรางวัลชมเชยอีก 2 รางวัล ๆ ละ 1500 บาท ผู้เข้าร่วมประกวดทุกคนจะได้รับประกาศเกียรติบัตร

 เพื่อร่วมแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี จึงขอเชิญชวนผู้สนใจ สถานศึกษา องค์กรต่าง ๆ ส่งทีมเข้าร่วมประกวด ได้ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ศาลากลางจังหวัด 056-729780 ส่งใบสมัครภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2557 หรือติดต่อได้ที่ ผศ.ดร.ประยูร ลิ้นสุข มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ 081-6056855

จังหวัดเพชรบูรณ์ ขอเชิญร่วมงานมหกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหามหาราชินี

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้จัดโครงการจัดงานมหกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหามหาราชินี เพื่อแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเพื่อให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่าได้แสดงออกถึงความรักความสามัคคีปรองดองในการเข้าร่วมกิจกรรมทำบุญตักบาตร พิธีถวายพระพรชัยมงคล เดินเทิดพระเกียรติ และจุดเทียนชัยถวายพระพร โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 12 สิงหาคม 2557 ณ บริเวณพุทธอุทยานเพชบุระ และหอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดเพชรบูรณ์

สำหรับกิจกรรมในงานวันที่ 8 สิงหาคม ได้จัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติ แสดงพระราชกรณียกิจ โครงการในพระราชดำริ และพิธีเปิดงานในเวลา 18.30 น. วันที่ 9 สิงหาคม การประกวดวาดภาพเทิดพระเกียรติแม่ ประเภทบุคคล ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้อน มัธยมศึกษาตอนปลาย และอาชีวศึกษา อุดมศึกษา บุคคลทั่วไป ภาคค่ำการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านวันที่ 10 สิงหาคม การประชุมศาสนิกสัมพันธ์ปรองดองสมานฉันท์ 3 ศาสนา ณ หอประชุมศูนย์ราชการ ภาคค่ำ งานปฏิบัติธรรมเวียนเทียนคืนความสุขให้ประชาชนถวายเป็นพระราชกุศล วันที่ 11 สิงหาคม ภาคเช้าการประกวดร้องเพลงชาติเพลงสรรเสริญพระบารมี ประเภททีมนักเรียน 50 คน ระดับชั้น ป.4-ป.6 และชั้น ม.1-ม.3 การประกวดร้องเพลงพระราชนิพนธ์หมู่ 20 คน ประเภทหน่วยงาน องค์กร สถานศึกษา ประเภททั่วไปไม่จำกัดอายุ เพศ ภาคค่ำชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน

 กิจกรรมในวันที่ 12 สิงหาคม เริ่มตั้งแต่ 07.00 น. พิธีตักบาตร ณ พุทธอุทยาน เวลา 09.00 น. พิธีถวายพระพรชัยมงคล และพิธีถวายพระพรของผู้นำ 3 ศาสนา ณ หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เวลา 17.00 น. เดินเทิดพระเกียรติและพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร ณ สนามศูนย์ราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ทุกวันชมนิทรรศการเทิดพระเกียรติ การจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์โอท็อป สินค้าวัฒนธรรม และผลผลิตทางการเกษตร ณ พุทธอุทยานเพชบุระ จึงขอเชิญชวนร่วมกิจกรรมโดยพร้อมเพรียงกัน

ปภ.ลำพูน เตือนประชาชนระวังอันตรายและเตรียมป้องกันความเสียหายจากอุทกภัย

ปภ.ลำพูน เผย สัปดาห์นี้ภาคเหนือยังคงมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เตือนประชาชนระวังอันตรายและเตรียมป้องกันความเสียหายจากอุทกภัย

นายชุมพร อินตะเทพ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ภาคเหนือยังคงมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งเคยมีน้ำท่วมมาก่อน ควรระวังอันตรายและเตรียมป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยหมั่นติดตามข้อมูลสภาพอากาศและปริมาณน้ำในพื้นที่ จัดสภาพแวดล้อมรอบบ้านให้ปลอดภัยจากน้ำท่วม จัดเก็บเครื่องใช้ในบ้านให้เป็นระเบียบ ขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ขึ้นที่สูง จัดเตรียมสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นไว้ใช้ในช่วงที่เกิดน้ำท่วม จัดเตรียมวัสดุที่สามารถลอยน้ำได้ใช้ยึดเกาะขณะเดินลุยน้ำท่วม เคลื่อนย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นที่สูง พร้อมตัดกระแสไฟฟ้าทันทีที่น้ำท่วมเข้าบ้าน เมื่อเกิดเหตุควรอพยพหนีภัยไปตามเส้นทางที่ปลอดภัยทันทีที่สถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงและระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ และเพิ่มความระมัดระวังในการทำความสะอาดบ้านเรือนหลังน้ำลด

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นอุบัติเหตุ ภัยพิบัติ หรือต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้บ้าน หรือสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำพูน โทรศัพท์หมายเลข 0-5356-2963 หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525519
    หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

ผู้ตรวจกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ จ.ลำพูน ตรวจเยี่ยมล้งรับซื้อลำไย เพื่อประเมินราคาและปริมาณผลผลิต

ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขต 14 ลงพื้นที่ จ.ลำพูน ตรวจเยี่ยมล้งรับซื้อลำไยสดช่อและลำไยรูดร่วง เพื่อประเมินราคาและปริมาณผลผลิต

นายโอภาส กลั่นบุศย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขต 14 พร้อมด้วย นายชาตรี บุญนาค ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 6 จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมตรวจเยี่ยมล้งรับซื้อลำไยสดช่อและลำไยรูดร่วง เพื่อประเมินราคาและปริมาณผลผลิตลำไยในพื้นที่จังหวัดลำพูน โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ดร.สมสวย ปัญญาสิทธิ์ เกษตรจังหวัดลำพูน นางสาวรัตนาภรณ์ กิติกาศ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดลำพูน ให้การต้อนรับและนำเยี่ยมล้งลำไย ที่จุดรับซื้อลำไยสหกรณ์ส่งเสริมเกษตรกรป่าซาง รับซื้อลำไยมัดปุ๊กจากสมาชิกและเกษตรกรทั่วไป ในราคา กิโลกรัมละ 18 บาท เป็นเกรดรวม AA และ A ซึ่งบรรจุกล่องขนาด 5 กิโลกรัม ส่งทางไปรษณีย์ และจุดรับซื้อลำไยร่วง ที่บ้านสันป่าเหียง ตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมืองลำพูน ตรวจเยี่ยม 3 จุด ราคาอยู่ที่ AA ราคา 19 บาทต่อกิโลกรัม A ราคา 10 บาทต่อกิโลกรัม B ราคา 4 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับเกรด c ขนาดเล็ก ราคา 1 บาทต่อกิโลกรัม ล้งบางแห่งไม่รับซื้อ


ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525519
    หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

ปภ.ลำพูน แนะประชาชนปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากอุบัติภัยทางถนนโดยเฉพาะช่วงฤดูฝน

นายชุมพร อินตะเทพ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยติดตามสภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์สภาวะอากาศว่า ช่วงวันที่ 28 กรกฎาคม - 3 สิงหาคม 2557 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ทำให้บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝน และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ราบลุ่มริมน้ำ ที่ลาดเชิงเขาและบริเวณพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม อันเกิดจากสภาวะฝนตกหนักและลมกระโชกแรงจากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พืชผลทางการเกษตร ประชาชนและผู้ขับขี่ยานพาหนะบริเวณที่เกิดฝนฟ้าคะนองให้ระมัดระวังอันตราย ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และระมัดระวังการใช้เครื่องมือสื่อสาร โทรศัพท์มือถือในที่โล่งแจ้งขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง

สำหรับการปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากอุบัติภัยทางถนนโดยเฉพาะช่วงฤดูฝน สภาพถนนเปียกลื่น ประชาชนควรเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม หมั่นตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน ตรวจสอบและศึกษาเส้นทางให้ละเอียด จัดเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินไว้ประจำรถ จัดท่านั่งและอุปกรณ์ต่างๆ ในรถให้พร้อมก่อนขับรถ ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ใช้อุปกรณ์นิรภัยอย่างถูกวิธีทุกครั้งที่เดินทาง เพิ่มความระมัดระวังในการขับรถผ่านเส้นทางที่ทัศนวิสัยไม่ดี หรือในช่วงที่มีฝนตก หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงและพฤติกรรมที่ทำให้เสียสมาธิในขณะขับ กรณีประสบอุบัติเหตุให้เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินพร้อมทำสัญลักษณ์เตือนผู้ขับขี่รถรายอื่น



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525519
    หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

สพป.ลำพูน เขต1 เชิญร่วมชมเชียร การแข่งขันกีฬา – กรีฑา นักเรียนประจำปี 2557

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต1 จะจัดการแข่งขันกีฬา – กรีฑา นักเรียนประจำปี 2557 ณ สนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 08.00น. เป็นต้นไป

นายชุมพล รัตน์เลิศลบ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต1 เปิดเผยว่าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต1กำหนดจัดการเขตขันกีฬา – กรีฑา นักเรียนประจำปี 2557 ณ สนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 โดยจะมีการเดินพาเหรดของขบวนนักกีฬาเริ่มตั้งขบวนที่ศาลากลางจังหวัดลำพูน เดินเข้าสู่สนามกีฬากลางจังหวัดลำพูน และชมการแสดงของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลลำพูน กว่าร้อย 100 คน และการแข่งขันของนักเรียน จึงขอเชิญชวนผู้สนใจและผู้ปกครองเข้าร่วมให้กำลังใจบุตรหลาน โดยทั่วกัน


ข่าวโดย : เชาวรินทร์ สอนปาละ
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

จังหวัดลำพูนเปิดศูนย์ดำรงธรรมประจำจังหวัด เพื่อ รับเรื่องราว ปัญหา ข้อเสนอแนะ ของประชาชน ที่มีต่อ หน่วยงานราชการ และ ให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนในด้านกฎหมาย

จังหวัดลำพูน เปิดศูนย์ดำรงธรรม เพื่อ ให้บริการประชาชน ในการรับเรื่องราวร้องทุกข์ และ ให้คำปรึกษา ด้านกฎหมาย แก่ ประชาชน โดยมีการ บูรณาการ ระหว่าง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง , เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการ ให้บริการสร้างความพึงพอใจ ให้ประชาชน ตามแนวทางของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช. )

วันนี้ ( 30 กรกฎาคม 2557 ) ที่ ศาลากลางจังหวัดลำพูน นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธาน เปิด ศูนย์ดำรงธรรม ประจำจังหวัดลำพูน เพื่อ ให้บริการ แก่ประชาชน ตามแนวทางของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานระดับจังหวัด และ ให้การปฏิบัติงานของ จังหวัด สามารถให้บริการประชาชน ได้อย่างเสมอภาค มีคุณภาพ รวดเร็ว ลดขั้นตอน การปฏิบัติงาน และ ให้ประชาชน ได้รับความพึงพอใจ โด ในพิธีเปิด มี นายอาณัติ วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน , พันเอกบุญยืน อินกว่าง ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความเรียบร้อย กองพลทหารราบที่ 7 ส่วนแยก 1 , พลตำรวจตรี จรัญฐค์ วรพัฒนานันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน , นายจำลอง เณรแย้ม ปลัดจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมในพิธี

ศูนย์ดำรงธรรมประจำจังหวัดลำพูน ตั้งอยู่ บริเวณ ชั้น 1 ภายในศาลากลางจังหวัดลำพูน โดย มีการปฏิบัติงาน แบบ บูรณาการ โดย มีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันดำเนินงานอาทิ ที่ทำการปกครองจังหวัดลำพูน , สำนักงานจังหวัดลำพูน , ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน , สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำพูน และ สำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมจัดเจ้าหน้าที่มาประจำศูนย์

นายบำรุง รื่นบันเทิง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน กล่าวว่า ศูนย์ดำรงธรรม มีหน้าที่ ปฏิบัติงาน หลัก 3 ด้าน คือ งานด้านรับเรื่องร้องทุกข์ ให้คำปรึกษา รับข้อเสนอแนะ ต่าง ๆ ของประชาชน , งานด้านการให้บริการข้อมูลข่าวสาร และ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวแก่ประชาชน และ งานด้านการบริการประชาชน แบบ ลดขั้นตอน เพื่อให้บริการแก่ประชาชนให้เสร็จในที่แห่งเดียว



ข่าวโดย : เชาวรินทร์ สอนปาละ
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

จังหวัดลำพูน เดินหน้าส่งเสริมหมู่บ้านแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง เพื่อคืนความสุขให้แก่ประชาชน สร้างความสงบสุขแก่ประเทศชาติอย่างยั่งยืน

เช้าวันนี้ ( 30 กรกฎาคม 2557 ) ที่ ศาลากลางจังหวัดลำพูน ได้มีการประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด นายอำเภอ และหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำเดือน กรกฎาคม โดยมี นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธาน เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานตามนโยบาย คสช. และเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการพัฒนาจังหวัดลำพูนในภาพรวม รวมทั้ง เรื่อง การส่งเสริมความปรองดอง สมานฉันท์ คืนความสุขให้แก่ประชาชน

สำหรับการส่งเสริมความปรองดอง สมานฉันท์ คืนความสุขให้แก่ประชาชน และการสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นแก่ประเทศชาติอย่างยั่งยืน นั้น จังหวัดลำพูนได้เตรียมการส่งเสริมการจัดตั้งหมู่บ้านแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ขึ้น ทุกอำเภอ พันเอกบุญยืน อินกว่าง ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองพลทหารราบที่ 7 ส่วนแยกที่ 1 จังหวัดลำพูน กล่าวว่า การจัดตั้งหมู่บ้านแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง มุ่งให้ประชาชน ปฏิบัติตามค่านิยม เพื่อความสงบสุข 12 ประการ ที่สำคัญคือ การเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม , มีศีลธรรม รักษาความซื่อสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปัน , ยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา เป็นผู้มีจริยธรรม ดำรงชีวิตด้วยความประหยัด , ถือปฏิบัติตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว , คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม และต่อชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง

ในการดำเนินงาน ส่งเสริมหมู่บ้านแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ของจังหวัดลำพูน มุ่งที่จะพัฒนาทั้งบ้าน - วัด - โรงเรียน ( บวร )ไปพร้อมๆกัน โดยจะดำเนินการอย่างเร่งด่วน ในระยะเวลา 2 เดือน คือ ตั้งแต่ 1 สิงหาคม – 30 กันยายน 2557


ข่าวโดย : นศ. ฝึกประสบการณ์ นางสาวเกศกนก แสงจันทร์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

ศูนย์ดำรงธรรม จ.ลำพูน เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมบูรณาการทุกภาคส่วนให้บริการประชาชนแล้วเสร็จในแห่งเดียว

ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำพูนเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมบูรณาการทุกภาคส่วนรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ ปัญหาความต้องการของประชาชนให้แล้วเสร็จในแห่งเดียว

นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานเปิดศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำพูน ที่ศาลากลางจังหวัดลำพูน ชั้น 1 โดย นายบำรุง รื่นบรรเทิง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน กล่าวว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีประกาศ ฉบับที่ 96/2557 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2557 ให้ทุกจังหวัดจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานระดับจังหวัดและให้การปฏิบัติงานของส่วนราชการในจังหวัดสามารถให้บริการประชาชน ได้อย่างเสมอภาค มีคุณภาพ รวดเร็ว ลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน และประชาชนได้รับความพึงพอใจ รวมทั้งเป็นศูนย์บริการร่วมตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 จังหวัดลำพูนดำเนินการจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำพูนขึ้น ณ บริเวณชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดลำพูน โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วนในจังหวัด เพื่อทำหน้าที่ในการรับเรื่อง ร้องเรียนร้องทุกข์ ให้คำปรึกษา รับเรื่องปัญหาความต้องการและข้อเสนอแนะของประชาชน ให้บริการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนบริการประชาชนให้แล้วเสร็จในที่แห่งเดียว บริการรับเรื่องจากประชาชนเพื่อส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการจนแล้วเสร็จ

สำหรับช่องทางการร้องเรียน/ร้องทุกข์ มี 4 ช่องทาง คือ ร้องเรียน/ร้องทุกข์ ด้วยตนเอง ณ จุดให้บริการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำพูน ศาลากลางจังหวัดลำพูน ชั้น 1 หรือโทรศัพท์สายด่วน 1567 และ 1111 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือโทรศัพท์หมายเลข 0-53 51-1000 ในเวลาราชการ หรือส่งไปรษณีย์ ถึง ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำพูน ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดลำพูน ถนนอินทยงยศ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน 51000



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525519
    หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

เตือนสภาพอากาศในวันนี้ ภาคเหนือยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกอยู่ในเกณฑ์กระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย

อนึ่ง พายุโซนร้อน “นากรี” (NAGRI) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกหรือด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเคลื่อนตัวไปบริเวณตอนเหนือของเกาะไต้หวัน โดยพายุนี้ไม่มีต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย

ภาคเหนือ มีเมฆมากโดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมี ฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


ข่าวโดย : อุไรวรรณ ปิงแก้ว
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

เดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา เหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน ได้รับบริจาคโลหิต จากผู้มีจิตศรัทธา 595 ราย ปริมาณโลหิตที่ได้รวม 267,750 มิลลิลิตร

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน รายงานว่า เดือน มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา เหล่ากาชาดจังหวัดลำพูน ได้ออกหน่วยรับบริจาคโลหิต จากผู้มีจิตศรัทธาในอำเภอต่างๆ เพื่อนำโลหิตไปใช้ช่วยเหลือ ผู้เจ็บป่วย ที่ต้องการโลหิต มีผู้บริจาคโลหิต รวม 595 คน ได้โลหิต 267,750 มิลลิลิตร

อย่างไรก็ตาม เหล่ากาชาดยังมีความต้องการโลหิตที่ใช้ในแต่ละเดือนเป็นจำนวนมาก และเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 จึงขอเชิญชวนประชาชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคโลหิต ประจำเดือนสิงหาคม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ตั้งแต่วันที่ 1 – 29 สิงหาคม 2557 เวลา 09.00 – 12.00 น.

สำหรับกำหนดการรับบริจาคโลหิตประจำเดือน สิงหาคม จะเริ่มออกหน่วยรับบริจาคโลหิต ดังนี้วันที่ 1 สิงหาคม ที่ บริษัท ประชาอาภรณ์ จำกัด (มหาชน) , 3 สิงหาคม ที่ บริษัท บิ๊กซีซุปเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด สาขาลำพูน (ตั้งแต่เวลา 11.00 – 16.00 น. ) , 5 สิงหาคม ที่ บริษัท แม่ทา วี.พี. จำกัด , 7 สิงหาคม ที่ สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ , 12 สิงหาคม ที่ ศาลากลางจังหวัดลำพูน (วันแม่แห่งชาติ) , 14 สิงหาคม ที่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮอนด้าแสงชัยพาณิชย์ ลำพูน , 18 สิงหาคม ที่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ลำพูน , 20 สิงหาคม ที่ ที่ว่าการอำเภอแม่ทา , 22 สิงหาคม ที่ บริษัท เคอีซี (ประเทศไทย) จำกัด , 25 สิงหาคม ที่ บริษัท สยามแมคโคร จำกัด (มหาชน) ลำพูน , 27 สิงหาคม ที่ บริษัท ฮานาไมโครอิเล็กทรอนิกส์ จำกัด (มหาชน) และ วันที่ 29 สิงหาคม ที่ โรงเรียนจักรคำคณาทร

จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมบริจาคโลหิต โดยทั่วกัน


ข่าวโดย : นศ. ฝึกประสบการณ์ นางสาวเกศกนก แสงจันทร์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

อุตุนิยมวิทยาลำพูน ระบุ ช่วงวันที่ 30 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม 2557 ภาคเหนือจะมีฝนตกหนักบางแห่ง ขณะที่พายุโซนร้อน "นากรี" ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

อุตุนิยมวิทยาลำพูน ระบุ ช่วงวันที่ 30 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม 2557 ภาคเหนือจะมีฝนตกหนักบางแห่ง ขณะที่พายุโซนร้อน "นากรี" มีแนวโน้มการเคลื่อนตัวเลียบชายฝั่งประเทศจีนไปยังประเทศเกาหลีและญี่ปุ่น ช่วงวันที่ 1-3 สิงหาคม 2557 ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

นายวิชัย ตินโนเวช ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาลำพูน เปิดเผยว่า สภาวะอากาศทั่วไป ในช่วงวันที่ 30 กรกฎาคม - 5 สิงหาคม 2557 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยตลอดช่วง สำหรับในช่วงวันที่ 30 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม 2557 มีหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 2-5 สิงหาคม 2557 บริเวณภาคเหนือจะมีฝนลดลง สำหรับพายุโซนร้อน “นากรี” (NAKRI) บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์มีแนวโน้มการเคลื่อนตัวเลียบชายฝั่งประเทศจีนไปยังประเทศเกาหลีและญี่ปุ่น ในช่วงวันที่ 1-3 สิงหาคม 2557 โดยไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย สำหรับภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 30 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม 2557 มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย จากนั้นช่วงวันที่ 2-5 สิงหาคม 2557 ภาคเหนือจะมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส จังหวัดลำพูน มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส

ระยะนี้ทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาคเหนือยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศมีความชื้นสูง และความชื้นในดินมีมาก เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่และพืชผักในระยะนี้ควรป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบจุด โรคราสนิม และโรคเน่าคอดิน เป็นต้น สำหรับลำไยที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เกษตรกรควรรีบตัดแต่งกิ่ง และทำแผลรอยตัดด้วยสารป้องกันเชื้อรา รวมทั้งเก็บกวาดผลที่เน่าเสียร่วงหล่นไปกำจัดไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรค



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525519
    หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

ลำปางแถลงจับกุมยาบ้า 4 แสนเม็ด ผู้ต้องหา 6 ราย

จังหวัดลำปางแถลงผลจับกุมยึดยาบ้า 4 แสนเม็ด พร้อมผู้ต้องหา 6 ราย

วันที่ 30 กรกฎาคม 2557 นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย พล.ต.อุกฤษณ์ อากาศวิภาต ผบ.มทบ.32 พล.ต.ต.พรชัย พักตร์ผ่อนศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดลำปาง ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมยาบ้า จำนวน 400,400 เม็ด พร้อมด้วยผู้ต้องหา 6 ราย ที่สำนักงานกองอำนวยรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดลำปาง

คดีแรก ตำรวจภูธรอำเภอเถิน พบรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อ อีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน ผค 8143 เชียงใหม่ คนขับท่าทางมีพิรุธ พอเห็นเจ้าหน้าที่ ขับรถหนีอย่างรวดเร็ว ตำรวจสายตรวจสกัดเพื่อตรวจค้นที่บริเวณหน้า วัดสบคือ หมู่10 ตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง มีนายอานนท์ แสนศิริ เป็นคนขับ ตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 400,400 เม็ด ซุกซ่อนไว้ใต้เบาะนั่ง และคอนโซลหน้ารถ นอกจากนี้ ตำรวจได้จับกุม รถกระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า สีเทา ทะเบียน ผค 6440 เชียงใหม่พร้อมคนขับ คือ นายปรีชา ชยุตเดชาการ สอบสวนยอมรับสารภาพว่ารับค่าจ้างขนยาบ้าครั้งนี้ในราคา1แสนบาท

คดีที่สอง ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง จับกุมผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 3,512 เม็ด อาวุธปืน 3 กระบอก และได้ยึดรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีแดง ทะเบียน กค-3873 ลำปาง สร้อยคอทองคำ และเงินสด มูลค่า 50,000 บาท แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อ ดำเนินคดีต่อไป


ข่าวโดย : น.ส.ณัฐพร ขัดทองงาม น.ศ ฝึกประสบการณ์ มร.ลป
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

ลำปาง จัดตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One stop service)

จังหวัดลำปางจัดตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One stop service) เพื่อพิจารณาออกใบอนุญาตทำงานชั่วคราวให้แก่คนต่างด้าวและจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวที่มีสัญชาติเมียนม่าร์ ลาว และกัมพูชา ขึ้นที่ อาคารโรงพยาบาลลำปาง ชั้น 1 ตึกเก่า อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง

นายธานินทร์ สุภาแสน เปิดเผยว่า ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 70/2557 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2557 เรื่อง มาตรการชั่วคราวในการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ ให้จัดตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One stop service) ในทุกจังหวัด เพื่อพิจารณาออกใบอนุญาตทำงานชั่วคราวให้แก่คนต่างด้าวและจัดทะเบียนแรงงานต่างด้าว ซึ่งเป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา โดยให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลัก และปฏิบัติงานร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณะสุข สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา และสำนักทะเบียนกลางได้จัดทำแนวทางการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา ตามประกาศคณะรักษาความสงบดังกล่าว เพื่อให้สำนักทะเบียนต่างๆดำเนินการศึกษาและทำความเข้าใจแนวทางการจัดทำทะเบียนแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา

เพื่อให้การดำเนินการรับจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จังหวัดลำปาง จึงจัดตั้ง “ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One stop service) จังหวัดลำปาง” ขึ้น อาคารโรงพยาบาลลำปาง ชั้น 1 ตึกเก่า อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง


ข่าวโดย : พัชรียา เขียวถา นศ.ฝึกประสบการณ์ มร.ลป
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

จ.แม่ฮ่องสอน เปิดศูนย์ดำรงธรรม

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประธานเปิดศูนย์ดำรงธรรม ณ ศาลากลางหลังเก่า เพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์และให้คำปรึกษาแก่ราษฎรในพื้นที่ ๗ อำเภอ

เวลา ๐๙.๐๐ น วันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗ นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประธานเปิดศูนย์ดำรงธรรม โดยทำหน้าที่รับเรื่องเรียนร้องทุกข์ ให้บริการประชาชน และทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการร่วม โดยมีวัตถุประสงค์ ๑ รับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนในทุกเรื่อง ๒.ให้บริการข้อมูล ข่าวสารต่าง ๆ ของทางราชการ ๓.ให้คำปรึกษาแก่ประชาชน ๔.รับฟังปัญหาความต้องการและข้อเสนอของประชาชน ๕.ทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการร่วมมาตรา ๓๒ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.๒๕๕๖ ซึ่งมีส่วนราชการ หน่วยงาน รัฐวิสาหกิจ เข้าร่วมบริการแก่ประชาชน จำนวน ๑๕ หน่วย การจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมดังกล่าว ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชิ ฉบับที่ ๙๖/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗


ข่าวโดย : ดำเนิน ท้วมจอก ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
    หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

ผู้ว่า ฯ มส.สั่งฟันไม่เลี้ยงราชการเกี่ยวข้องยาเสพติด

ที่ประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน สั่งฟันไม่เลี้ยงราชการเกี่ยวข้องยาเสพติด

ที่ห้องบประชุมขุนลุมประพาศ ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดแม่ฮ่องสอน ครั้งที่ ๑๐ / ๒๕๕๗ ว่า คำสั่งคณะรักษาวามสงบแห่งชาติ ( คสช ) ในการปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดของทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการปราบรามยาเสพติดและจับกุมผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้นำเข้าและส่งออก รวมทั้งทั้งผู้สมคบและสนับสนุนช่วยเหลือ ให้ได้อย่างอย่างจริงจัง ซึ่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน หากข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องกับปัญหายาเสพติดจะต้องถูกดำเนินคดีทางอาญาวินัยอย่างแน่นอน ดังนั้นหน่วยงานด้านความมั่นคงจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้เร่งปราบปรามผู้กระทำความผิด ให้ตรวจสถานบริการ เกสเฮาส์ หอพัก ต่าง ๆ เพื่อป้องกันปัญหายาเสพติด



ข่าวโดย : ดำเนิน ท้วมจอก ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
    หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดศูนย์ดำรงธรรม ที่ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอนหลังเก่าทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการร่วมเบ็ดเสร็จ หรือ one stop service

จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดศูนย์ดำรงธรรม ที่ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอนหลังเก่าทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการร่วมเบ็ดเสร็จ หรือ one stop service

เช้าวันนี้ (30 ก.ค.)  นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอนหลังเก่า สนองนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยมีหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ของประชาชนในทุกเรื่อง ให้บริการข้อมูลข่าวสารต่างๆของทางราชการ ให้คำปรึกษาแก่ประชาชน รับฟังปัญหาความต้องการและข้อเสนอแนะของประชาชน ทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการร่วมเบ็ดเสร็จ หรือ one stop service เพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างเสมอภาค มีคุณภาพ สะดวก รวดเร็วลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน ซึ่งจะสร้างความพึงพอใจแก่ประชาชน

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ให้บริการประชาชนจำนวน 15 หน่วยงาน เพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างกว้างขวาง ทำให้ลดขั้นตอนในการเดินทาง สะดวกแก่ผู้รับบริการมากยิ่งขึ้น



    ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว
    หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

หน่วยพัฒนาที่ดินที่ 6 อำเภอแม่ลาน้อย จัดอบรมหมอดินอาสาประจำหมู่บ้านรุ่นที่ 5 ประจำปี 2557 คืนความสุขสู่ เกษตรกร

เช้าวันนี้ (30ก.ค.57) นายนิพนธ์ ปิ่นธิดา สาธารณสุขอำเภอแม่ลาน้อยเป็นประธานเปิดการอบรมหมอดินอาสาประจำหมู่บ้าน หลักสูตร "การพัฒนาหมอดินอาสาประจำหมู่บ้าน" รุ่นที่ 5 ประจำปี 2557 คืนความสุขสู่ เกษตรกร ที่ศาลาประชาคมอำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อให้ความรู้การดูแลบำรุงรักษาดิน น้ำ ป่า รณรงค์ด้านเกษตรอินทรีย์ แนะนำความรู้ประชาชนในหมู่บ้านของตน พร้อมทั้งให้หมอดินอาสาได้เข้าใจบทบาทหน้าที่ ภารกิจของหมอดินอาสา ประจำหมู่บ้าน และ ระเบียบกรมพัฒนาที่ดินว่าด้วยการบริหารงานหมอดินอาสา รวมถึงทบทวน การใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของกรมพัฒนาที่ดินในการพัฒนาพื้นที่การเกษตรต่อไป


ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด เพื่อสรุปและรายงานผลการปฏิบัติงานประจำเดือน

จังหวัดแม่ฮ่องสอนประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด เพื่อสรุปและรายงานผลการปฏิบัติงานประจำเดือน

บ่ายวันนี้ (30 กรกฎาคม 2557) นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธาน การประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อสรุป และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำเดือน ซึ่งสรุปผลตามแผนการปราบปรามยาเสพติด ในรอบเดือนที่ผ่านมา โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งฉบับที่ 41/2557 ให้ ปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด ของทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการปราบปรามและจับกุมผู้ผลิตผู้ค้า ผู้นำเข้าส่งออก รวมทั้งผู้สมคบและสนับสนุนช่วยเหลือ ให้ได้ผลอย่างจริงจัง พร้อมทั้งตรวจสอบสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ ที่พักอาศัยในเชิงพาณิชย์ประเภทหอพัก อาคารชุด หรือเกสเฮาส์ ที่ผู้อื่นเช่า หากพบว่ามีการปล่อยปละละเลยให้มีการซุกซ่อน จำหน่าย และเสพยาเสพติด ให้ดำเนินการลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และเจ้าหน้าที่ของรัฐคนใดที่ปล่อยปละละเลย หรือเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะต้องถูกดำเนินการทางวินัยและทางอาญาทันที

ด้านศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด อำเภอปาย แจ้งว่า ได้ทำการจับกุมผู้กระกะทำผิดคดียาเสพติด จำนวน 27 คดี ได้ผู้ต้องหา 28 คน แยกเป็นเสพยาบ้า 23 คน เฮโลอีน 1 คน และอำเภอขุนยวมแจ้งว่าจับกุมผู้กระทำผิด จำนวน 1คน คดียาเสพติด จำนวนยาบ้า 1,355 เม็ด จึงได้ส่งตัวดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน
    หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

สำนักงานวัฒนธรรม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประกาศผลการคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม

สำนักงานวัฒนธรรม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประกาศผลการคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม

เมื่อวานนี้ (29 กรกฎาคม 2557) นายบุญเสริม จิตเจนสุวรรณ ปลัด จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานประชุมคณะกรรมการคัดเลือกผู้ทำประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม ประจำปี 2557 ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคล และองค์กรที่ดำเนินงาน และส่งเสริมงานด้านศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมที่เกิดประโยชน์แก่ชุมชน สังคมพร้อมทั้งส่งเสริมและสนับสนุน บุคคล และองค์กร ที่ดำเนินงานและส่งเสริมงานด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ให้มีขวัญ กำลังใจ และภาคภูมิใจในการปรับปรุง ต่อยอด และพัฒนามาตรฐานการดำเนินงานของตนเองและสามารถบูรณาการงานร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม และให้เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม

ผลการคัดเลือกมีดังนี้ ประเภทบุคคลด้านศาสนา /ศิลปะ / วัฒนธรรม
    ด้านศาสนา ได้แก่ นายสุริยา อร่ามวงค์ อำเภอแม่สะเรียง
    ด้านศิลปะ ได้แก่ นายสมัคร สุขศรี อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน
    ด้านวัฒนธรรม ได้แก่ นางอาภรณ์ แสงโชติ อำเภอปาย
    ประเภทองค์กร ได้แก่ เทศบาลเมืองแม่สะเรียง /


ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน
    หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาแม่ฮ่องสอน จัดงาน "จับรางวัลเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค ระดับจังหวัด ครั้งที่ 1 ประจำปี 2557

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาแม่ฮ่องสอน จัดงาน "จับรางวัลเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค ระดับจังหวัด ครั้งที่ 1 ประจำปี 2557

บ่ายวันนี้ (30กรกฎาคม 2557) นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธาน จับรางวัลเงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค ระดับจังหวัด ครั้งที่ 1 ประจำ 2557 เวลา ที่โรงแรมอิมพีเรียลแม่ฮ่องสอน อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน โดยจับรางวัลสำหรับผู้ฝากเงิน “ออมทรัพย์ทวีโชค” ของธนาคารสมุดเล่มสีแดง เพื่อเป็นการตอบแทนผู้มีอุปการคุณ ทั้งหมดจำนวน 91 รางวัล มูลค่ากว่า1ล้าน 2แสนบาท
    ผลปรากฏว่า นางอุบล บุญมาลา ลูกค้าจากสาขาแม่ฮ่องสอน ได้รับรางวัลที่ 1 รถกระบะ
    รางวัลที่ 2 รถจักรยานยนต์ 9 รางวัล
    รางวัลที่ 3 ทีวีสี 32 นิ้ว 16 รางวัล
    รางวัลที่ 4 ตู้เย็น 17 รางวัล
    รางวัลที่ 5 เครื่องซักผ้า 16 รางวัล
    รางวัลที่ 6 พัดลม 32 รางวัล

สำหรับผลการจับรางวัลจะแจ้งให้ทราบในรายการชุมเพื่อคน ธกส.เวลา 18.35-19.00 น.ทาง สวท.แม่ฮ่องสอน เอฟเอ็ม 104 เมกกาเฮิร์ท

นอกจากนั้น มีพิธีมอบคอมพิวเตอร์ให้แก่สถาบันการเงินในชุมชน กองทุนหมู่บ้านบ้านแก่นฟ้า และ สถาบันการเงินชุมชนหมอกจำแป่ รวมถึงพิธีมอบทุน”โครงการทุนอาหารกลางวันในโรงเรียนแก่ โรงเรียนบ้านนาปลาจาด และมอบทุนการศึกษา”โครงการเงินออมให้แก่เยาวชน”


ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว
    หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

จังหวัดแพร่ จัดโครงการรณรงค์ไถกลบตอซัง ใช้ปุ๋ยพืชสดธรรมชาติ

จังหวัดแพร่จัดโครงการรณรงค์ไถกลบตอซัง ใช้ปุ๋ยพืชสดธรรมชาติ เพื่อปรับปรุงบำรุงดิน และลดต้นทุนการผลิตและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า จังหวัดแพร่โดยสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดแพร่ร่วมกับประชานในพื้นที่บ้านวังเย็น หมู่ 1 ตำบลห้วยม้า อำเภอเมือง จังหวัดแพร่จัดโครงการรณรงค์ไถกลบตอซังและปุ๋ยพืชสด ขึ้นที่แปลงนาบ้านวังเย็น หมู่ 1 ซึ่งเป็นหมู่บ้านผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของกรมการข้าว โดยมีนายธนากร อึ้งจิตรไพศาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ไถกลบตอซัง และปุ๋ยพืชสดดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อปรับปรุงบำรุงดิน และบรรเทาภาวะโลกร้อน ซึ่งจะเป็นการพัฒนาที่ดิน การปรับปรุงบำรุงดิน ที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีต่างๆ ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพปัญหา ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อันเป็นการลดต้นทุนการผลิตและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การรณรงค์ปลูกปอเทืองแล้วไถกลบนั้นว่าเป็นการเพิ่มปุ๋ยในดินโดยเฉพาะในนาข้าว หลังจากนี้เกษตรกรจะสามารถทำนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากปอเทืองเป็นพืชที่ให้คุณค่า เป็นพืชตระกูลถั่วที่ให้น้ำหนักสดต่อไร่สูง เมื่อไถกลบจะปลดปล่อยธาตุอาหารโดยเฉพาะไนโตรเจนในปริมาณสูง นิยมปลูกเป็นปุ๋ยพืชสดเพื่อเพิ่มปริมาณธาตุอาหารให้กับดิน โดยเฉพาะในการปลูกพืชในระบบเกษตรอินทรีย์ โดยปลูกในรูปแบบของพืชหมุนเวียนเมื่อไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสดแล้ว เปรียบเสมือนการสร้างโรงงานปุ๋ยไว้ในไร่นา รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกร ใช้น้ำหมักชีวภาพ อีกด้วย



ฉัตรชัย พวงขจร / ข่าว /พิมพ์           

ตำรวจกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดแพร่จับ สท. ค้ายาบ้า

ตำรวจสืบสวนจากกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดแพร่จับกุมสมาชิกสภาเทศบาลตำบลทุ่งกวาว อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ค้ายาบ้า พร้อมของกลางยาบ้า 189 เม็ด

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. วันนี้(30ก.ค.57) ทางตำรวจชุดสืบสวนกองกำกับการตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดแพร่นำโดย พ.ต.อ. ถนัด พลพานิช ผู้กำกำการ พร้อมด้วย พ.ต.ท.มนัส เกิดสุขโข รองผู้กำกับ กับพวกร่วมกับทหารจากกองพันทหารม้าที่ 12 นำโดย ร.ต. พัฒธพล สุทธพันธ์ ทำการล่อซื้อยาบ้าซึ่งทราบชื่อภายหลังว่านายภิเษก หรือเสก ชัดดง อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 1/3 หมู่ 2 ตำบลทุ่งกวาว อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ซึ่งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลทุ่งกวาวอีกด้วย  โดยทำการล่อซื้อและจับกุมที่ถนนในหมู่บ้านเวียงทอง หมู่ 1 ตำบลเวียงทอง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 189 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 ปลอกสีแดง จำนวน 10 นัด เทปกาวสีดำ 1 ม้วน

ซึ่งสายลับได้ดำเนินการล่อซื้อยาบ้าทั้ง 189 เม็ด ในราคา 19,000 บาท และแสดงตัวจับกุม จนผู้ต้องหาสารภาพว่ายาบ้าเป็นของตนเอง และธนบัตรที่ได้รับมีหมายเลขตรงกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจถ่ายเอกสารไว้ จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองแพร่สอบสวนดำเนินคดีต่อไป


ฉัตรชัย พวงขจร / ข่าว /พิมพ์   

จังหวัดแพร่ เปิดศูนย์ดำรงธรรมเพื่อให้บริการประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ

จังหวัดแพร่เปิดศูนย์ดำรงธรรมเพื่อให้บริการประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ห้องเทพวงศ์ ศาลากลางจังหวัดแพร่ พร้อมเร่งเปิดศูนย์ดำรงธรรมเพิ่มขึ้นในทุกอำเภอ

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า เช้าวันนี้ (30ก.ค.57)   นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่เป็นประธานเปิดศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ ซึ่งจัดตั้งขึ้น ณ ห้องประชุมเทพวงศ์ ชั้น 2 อาคาร 1 ศาลากลางจังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ได้แจ้งให้ทุกจังหวัดจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานระดับจังหวัดมากขึ้น จังหวัดแพร่ได้จัดให้มีศูนย์ดำรงธรรมมาตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ความช่วยเหลือเยียวยาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ในการดำเนินงานจะได้ประสานไปยังหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือแก้ปัญหาให้กับประชาชนที่ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม

ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าวว่า ในการเปิดศูนย์ดำรงธรรมในวันนี้ จะเป็นการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริการประชาชน เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการดำเนินการศูนย์ดำรงธรรมในการให้บริการประชาชนเป็นไปอย่างเสมอภาค รวดเร็ว ลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน ซึ่งจะสามารถอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหาการร้องเรียน ร้องทุกข์ได้อย่างรวดเร็ว

ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าวอีกว่าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่จะดำเนินการในเรื่องรับเรื่องราวร้องทุกข์ ให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษาและให้ข้อเสนอแนะแก่ประชาชน ให้บริการข้อมูลข่าวสาร  และให้บริการร่วม โดยจะเปิดให้ครบทุกอำเภอ ซึ่งศูนย์แห่งนี้จะมีระบบมีเจ้าหน้าที่ให้บริการลงทะเบียน รับเรื่อง ติดตามผล และรายงานผล ซึ่งเรื่องเร่งด่วนจะดำเนินการภายใน 3 วัน เรื่องด่วนปกติ ดำเนินการภายใน 5 วัน เรื่องที่รอได้จะดำเนินการภายใน 7 วัน ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมายจะดำเนินการภายใน 30 วัน หากศูนย์อำเภอรับเรื่องแล้วไม่สามารถดำเนินการได้ให้ส่งมายังศูนย์จังหวัดทันที

นอกจากนี้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ยังจะมีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว กรณีต้องลงไปดูพื้นที่ โดยสนธิกำลังกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง



ฉัตรชัย พวงขจร / ข่าว /พิมพ์           

สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพะเยา เตรียมจัดงานวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก ประจำปี 2557 ในวันพรุ่งนี้ ณ บริเวณลานค้าชุมชนเทศบาลเมืองพะเยา

นายจำลอง อริยะจักร ปศุสัตว์จังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า ตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) ได้กำหนดให้วันที่ 28 กันยายนของทุกปี เป็นวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก เพื่อปลูกจิตสำนึกประชาชนให้ตระหนักถึงภัยอันตรายที่เกิดจากโรคพิษสุขนัขบ้า โดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพะเยา ร่วมกับเทศบาลเมืองพะเยา และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา เตรียมจัดงานวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก (World Rabies Day) ขึ้น ในวันพรุ่งนี้ (31 ก.ค.57) ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณลานค้าชุมชนเทศบาลเมืองพะเยา

สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขและแมวที่มีอายุตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป , บริการผ่าตัดทำหมันสุนัขและแมวฟรี ตั้งแต่เวลา 09.00 – 12.00 น. , การประกวดสุนัขสุขภาพดี ตลอดจนนิทรรศการให้ความรู้เรื่องโรคพิษสุนัขบ้าและสัตว์อื่นๆ ทั้งนี้สุนัขและแมวที่จะนำมาผ่าตัดทำหมันต้องงดอาหารอย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมง และต้องมีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ ไม่ป่วย



ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ
หน่วยงาน : สวท.พะเยา

ผวจ.พะเยา เผยมาตรการกระจายลำไยออกนอกพื้นที่

วันนี้ (30 ก.ค.57) นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า จังหวัดพะเยา ได้ออกประกาศมาตรการในการแก้ไขปัญหาลำไย ปี 2557 ประกอบด้วยมาตรการกระจายลำไยออกนอกแหล่งผลิตภายในประเทศเป้าหมาย 2,300 ตัน แบ่งเป็นกิจกรรมรวบรวมและกระจายลำไย ออกนอกแหล่งผลิตภายในประเทศ (1,800ตัน) โดยชดเชยค่าขนส่ง และค่าการตลาดเหมาจ่าย อัตราเหมาจ่าย 2.5 บาท/กิโลกรัม (ค่าขนส่ง 1.5 บาท/กก.และค่าการตลาดเหมาจ่าย 1 บาท/กก.) ให้แก่สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และ อปท.ในการกระจายผลผลิตระยะทางไม่เกิน 400 กิโลเมตร (ต้องไม่ใช่ กทม.และปริมณฑล) จำนวน 1800 ตัน โดยประกาศใช้มาตรการเมื่อราคาลำไยสดช่อ(เกรดเอ) รายวันตามประกาศของสำนักงานการค้าภายในจังหวัดมีราคาต่ำกว่ากิโลกรัมละ 14.39 บาท

กิจกรรมเสริมสภาพคล่องในการซื้อขายลำไย 500 ตัน โดยการสนับสนุนเงินชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปีวงเงินกู้ยืมให้แก่สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน อปท.มาเพื่อกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน (ธกส. กรุงไทย และSME) ไปซื้อลำไยสดเพื่อกระจายออกนอกแหล่งผลิตระยะทางไม่น้อยกว่า 400 กิโลเมตร และต้องไม่ใช่ กทม.และปริมณฑล

มาตรการส่งเสริมการแปรูป จำนวน 4000 ตัน สนับสนุนเงินชดเชยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 3 ต่อปี ให้ แก่สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ เพื่อกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินเพื่อใช้ในการซื้อลำไยสดเพื่อแปรรูปเป็นลำไยอบแห้งจำนวน 4000 ตัน ทั้งนี้กำหนดระยะเวลาสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพะเยา โทร.054431636 ในวันเวลาราชการ



ข่าวโดย : ทีมข่าว ส.ปชส.พะเยา
หน่วยงาน : ส.ปชส.พะเยา

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพะเยา แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีระหว่างถูกนำตัวไปยื่นคำร้องขอฝากขัง พร้อมรวบตัวผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 ราย ของกลางยาบ้าอีก 1,700 เม็ด

วันนี้ (30 ก.ค.57) พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพะเยา แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 1,700 เม็ด อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก กระสุนปืน 11 มม. 10 นัด หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมนายอนุพล เทพวัง อายุ 31 ปี ชาว ต.แม่ต๋ำ อ.เมือง จ.พะเยา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพะเยาในคดีมียาเสพติดให้โทษที่ได้หลบหนีระหว่างนำตัวไปยื่นคำร้องขอฝากขังที่ศาลจังหวัดพะเยาเมื่อวานนี้ (29 ก.ค.57) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจนทราบว่ามาหลบซ่อนตัวที่บ้านเลขที่ 21/2 ม.11 ต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา ซึ่งอยู่ห่างจากศาลฯ ประมาณ 1 กิโลเมตร

ทั้งนี้ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบได้มีนายสมชาย อาหะหมัด อายุ 19 ปี ชาว ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา และนายบุญส่ง ปรีกมล อายุ 26 ปี ชาว ต.แม่กา อ.เมืองพะเยา ได้ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาที่บ้านที่เกิดเหตุ แสดงอาการพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้นที่รถจักรยานยนต์พบยาบ้า 1,700 เม็ด ซุกซ่อนในช่องเก็บของรถจักรยานยนต์ จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายดำเนินคดีต่อไป ส่วนผู้ต้องหารายแรกนั้นได้เพิ่มข้อหาหลบหนีขณะถูกควบคุมตัวอีกหนึ่งข้อหา



ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.พะเยา
หน่วยงาน : สวท.พะเยา

จังหวัดพะเยา เปิดศูนย์ดำรงธรรม เพื่อรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ของประชาชน ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

วันนี้ (30 ก.ค.57) นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา อัยการจังหวัดพะเยา รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกพะเยา และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมเปิดศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพะเยา เพื่อทำหน้าที่ในการรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ ให้บริการข้อมูลข่าวสาร ให้คำปรึกษา รับเรื่องปัญหาความต้องการและข้อเสนอแนะของประชาชนตามนโยบายของคณะรักษาความสงบ ณ ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดพะเยา

สืบเนื่องจาก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้มีประกาศฉบับที่ 96/2557 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2557 เรื่อง การจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรม เพื่อทำหน้าที่ในการรับเรื่องร้องเรียน/ ร้องทุกข์ ให้บริการข้อมูลข่าวสาร ให้คำปรึกษา รับเรื่องปัญหาความต้องการและข้อเสนอแนะของประชาชน และทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการร่วม ตามมาตรา 32 แห่งพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริการจัดการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 โดยให้ทุกกระทรวง กรม ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐสนับสนุนการดำเนินการของศูนย์ดำรงธรรม เพื่อสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างทั่วถึง

สำหรับประชาชนสามารถติดต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพะเยา ได้ดังนี้ 1) สามารถติดต่อด้วยตนเองได้ที่ ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดพะเยา(หลังใหม่) 2) ทางไปรษณีย์ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ศาลากลางจังหวัดพะเยา ถ.พหลโยธิน ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา 56000 วงเล็บมุมซองว่า ศูนย์ดำรงธรรม 3) ทางโทรศัพท์หมายเลข 054-449-601 โทรสารหมายเลข 054-449-588 หรือ ทางเว็บไซต์จังหวัดพะเยา http://www.phayao.go.th ได้อีกด้วย



ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.พะเยา
หน่วยงาน : สวท.พะเยา

น่าน ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดน่านช่วง Low Season และรองรับการร่วมมือในกลุ่มประชาคมอาเซียน ในปี 2558

จังหวัดน่าน จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการในช่วง Low Season เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบสัมผัสวัฒนธรรมวิถีชีวิตในหลากหลายแง่มุม สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในระดับจังหวัด และรองรับการร่วมมือในกลุ่มประชาคมอาเซียน ในปี พ.ศ. 2558

นายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เปิดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ โครงการส่งเสริมบริหารจัดการและพัฒนารูปแบบ กิจกรรมท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม เพื่อแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยวที่ไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว (Low Season) กิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพเด็กก่อนวัยเรียน และงานอาหารปลอดภัย ประจำปี 2557 ณ บริเวณสวนสาธารณะหนองสะเนียน ตำบลสะเนียน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน โดยมี นายสโรช รัตนมาศ วัฒนธรรมจังหวัดน่าน กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานฯ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมการท่องเที่ยวในรูปแบบการได้สัมผัสวัฒนธรรมวิถีชีวิตในแง่มุมต่างๆ ซึ่งแสดงถึงวัฒนธรรมในท้องถิ่นที่โดดเด่น ส่งผลต่อการพัฒนาท้องถิ่นให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน อันจะเป็นประโยชน์ในการสร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวม อีกทั้งยังเป็นการรองรับความร่วมมือในกลุ่มประชาคมอาเซียน ในปี พ.ศ. 2558

ภายในงานจัดให้มี กิจกรรม "หลากหลายชาติพันธุ์ อยู่ร่วมกันได้ใต้พระบารมี” กิจกรรม "กาดมะเก่า เล่าความหลัง” และกิจกรรม "วิถีพอเพียงตำบลถืมตอง” ประกอบด้วย กลุ่มเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรธรรมชาติ กลุ่มสมุนไพรพื้นบ้านและการรักษาโรคด้วยภูมิปัญญา กลุ่มจักสาร ผลิตประดิษฐ์ใบตอง กลุ่มอาชีพผลิตสินค้าโอท๊อป แหล่งเรียนรู้วัดถืมตอง การบรรยายแนะนำวิถีชนเผ่าตำบลสะเนียน การแสดงอัตลักษณ์ศิลปะของชนเผ่า การจัดซุ้มจำลองวิถีชนเผ่า การจำหน่ายสินค้าวิถีชีวิตชนเผ่า การสาธิตอาชีพวิถีชนเผ่า เช่น การปักผ้า การต่างกายวิถีชนเผ่า การผลิตเครื่องเงิน การสาธิตอาหารชนเผ่า และการแสดงศิลปวัฒนธรรมอื่นๆ อีกมากมาย การจัดงานฯได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่ตำบลสะเนียน ตำบลถืมตอง อำเภอเมืองน่าน และนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าการจัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติในครั้งนี้ จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวจังหวัดน่าน และได้สัมผัสวัฒธรรมกับวิถีชีวิตในแง่มุมต่างๆ ของชนเผ่าในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว (Low Season) ได้เป็นจำนวนมากด้วย



รดา บุญยะกาญจน์/ ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน

กสทช.ลำปาง จัดประชุมชี้แจงผู้ทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง 31 ก.ค.ศกนี้

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน ได้รับแจ้งจาก สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เขต 3 (ลำปาง) ว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม 2557 เวลา 13.00 น. ณ สโมสรนายทหารค่ายสุรศักดิ์มนตรี จังหสัดลำปาง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เขต 3 (ลำปาง) และมณฑลทหารบกที่ 32 จะดำเนินการประชุมชี้แจง และลงนามการแสดงความประสงค์และบันทึกข้อตกลงการออกอากาศวิทยุกระจายเสียง สำหรับผู้ที่ได้รับใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง พื้นที่จังหวัดลำปาง พะเยา เชียงราย แพร่ น่าน และอุตรดิตถ์

ดังนั้น จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งให้ผู้ทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง ที่ได้รับใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง ในพื้นที่ดังกล่าว ร่วมประชุมฯ ในวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว โดยพร้อมเพรียงกัน



พวงพยอม  คำมุง / ข่าว

บทความพิเศษ : โมเดล 3ดี หมู่บ้านทรายขาวชุมชนต้นแบบชายแดนใต้

ตำบลทรายขาวอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี มีประชาชนกว่า 4,000 คนเป็นชุมชนแบบอย่างที่สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ จุดแข็งและทำให้ชาวบ้านยืนหยัดอยู่ด้วยรอยยิ้มและดำเนินชีวิตประจำวันอย่างปกติสุขอยู่ได้นั้นเนื่องจากเป็นชุมชนที่การไม่แบ่งแยกศาสนาและเลือกอยู่ร่วมกันเสมือนญาติพี่น้องโดยผู้นำชุมชนและชาวบ้านจะร่วมกันจัดทำโครงการเพื่อสร้างความสันติสุขระหว่างชนชาวพุทธและมุสลิมอย่างต่อเนื่อง อีกหนึ่งโครงการที่สานต่อจุดแข็งและเป็นโมเดลให้กับพื้นที่อื่น ๆ คือ "โมเดล 3ดี ชุมชนทรายขาว" องค์ประกอบสำคัญของ "โมเดล 3ดี ชุมชนทรายขาว" ได้แก่
         1. ศาสนาดีเนื่องจากที่แห่งนี้มีประชาชนนับถือศาสนาพุทธและมุสลิมแต่อยู่ร่วมกัน ดุจญาติพี่น้องการเผยแพร่หลักธรรมของสองศาสนาให้เป็นที่รับทราบจึงช่วยจรรโลงใจให้
         2. วัฒนธรรมดีชุมชนแห่งนี้จะมีชาวพุทธไปช่วยงานชาวมุสลิมในวันสำคัญทางศาสนา เช่นเดียวกันถึงงานบุญของไทยพุทธชาวมุสลิมจะมาช่วยงานเช่นกัน
         3. ภูมิประเทศดีชุมชนแห่งนี้วางตัวอยู่กลางเทือกเขารายล้อมมีความเป็นอยู่ที่ดีจาก การทำสวน ทำไร่นาและท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
        ลักษณะดี 3 ประการนี้เปรียบเสมือนเบ้าหลอมที่ทำให้ประชาชนกว่า 400 หลังคาเรือนอยู่ในกรอบแห่งความรัก สามัคคียากที่ใครจะปลุกปั่น ยุยงให้แตกแยกจนนำไปสู่รอยร้าวเพื่อสถานการณ์ได้ถือเป็น "โมเดล"ที่ทุกฝ่ายพยายามสะท้อนแนวทางการบริหารและจัดการท้องถิ่นด้วยพลังของผู้นับถือพุทธและมุสลิมที่ไร้ซึ่งความแตกแยกจนนำพาความเข้มแข็งมาสู่ชุมชนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองซึ่งนับเป็นแนวทางสำคัญที่จะช่วยสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ได้


พวงพยอม คำมุง / เรียบเรียง

จังหวัดน่าน จัดเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้ต้องขัง ตามโครงการน้ำพระทัยพระราชทานฯ

นายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน แจ้งว่า ด้วยจังหวัดน่าน โดยสมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมหญิงจังหวัดน่าน เหล่ากาชาดจังหวัดน่าน ชมรมแม่บ้านมหาดไทย สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ ประจำจังหวัดน่าน สมาคม/ชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัดน่าน ได้กำหนดจัดเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้ต้องขัง ตามโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ ประจำจังหวัดน่าน ในวันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2557 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ณ เรือนจำจังหวัดน่าน เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2557



พวงพยอม  คำมุง / ข่าว

จังหวัดเชียงใหม่จัดพิธีเปิดศูนย์ดำรงธรรมอย่างเป็นทางการ เพื่อให้บริการรับเรื่องร้องเรียน รวมถึงจัดบริการแก่ประชาชนเพื่อให้เป็นไปตามประกาศ คสช.

จังหวัดเชียงใหม่ จัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ณ ห้องรับรอง 1 ชั้น 1 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทำหน้าที่ในการรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ รวมทั้งนำงานบริการหลากหลายรูปแบบมาให้บริการ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนภายในศูนย์ ฯ ในรูปแบบ ONE STOP SERVICE อาทิ การชำระภาษีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ การรับแจ้งความและรับแจ้งเบาะแสต่าง ๆ เป็นต้น โดยกำหนดพิธีเปิดศูนย์อย่างเป็นทางการในวันนี้ (30 ก.ค.57)

วันนี้ (30 ก.ค.57) เวลา 08.30 น. นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจัดตั้งขึ้น ณ ห้องรับรอง 1 ชั้น 1 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยศูนย์ดังกล่าวจัดตั้งขึ้นตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 96/2557 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2557 เรื่องจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานระดับจังหวัด และให้การปฏิบัติงานของส่วนราชการในจังหวัด สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเสมอภาค มีคุณภาพ รวดเร็ว ลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน และประชาชนได้รับความพึงพอใจ ดังนั้น คสช.จึงได้กำหนดให้จังหวัดจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมขึ้นในจังหวัด เพื่อทำหน้าที่ในการรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ ให้บริการข้อมูลข่าวสาร ให้คำปรึกษา รับเรื่องปัญหาความต้องการ และข้อเสนอแนะของประชาชน และทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการร่วมตามมาตรา 32 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 โดยให้จัดตั้งขึ้น ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่อื่นตามที่เห็นสมควร และประกาศให้ประชาชนทราบ พร้อมทั้งให้ทุกกระทรวง กรม ส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐ สนับสนุนการดำเนินการของศูนย์ดำรงธรรมทั้งด้านวัสดุ อุปกรณ์ และบุคลากร ให้สามารถบริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ทั้งนี้ในกรณีที่จำเป็นจะต้องดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของศูนย์ดำรงธรรมให้สามารถแก้ไขปัญหาของประชาชนให้เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว การพัฒนาจังหวัดตามนโยบายของรัฐบาล การป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า และทรัพยากรธรรมชาติ การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว และการค้ามนุษย์ การคุ้มครองป้องกันหรือช่วยเหลือประชาชนผู้ด้อยโอกาสให้ได้รับความเป็นธรรม และการบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในสังคมตามนโยบายของรัฐบาล ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจสั่งการ บังคับบัญชา กำกับ ดูแล บรรดาข้าราชการและพนักงานของรัฐในเขตจังหวัด ยกเว้น ข้าราชการพลเรือนในพระองค์ ข้าราชการทหาร ข้าราชการฝ่ายตุลาการ ข้าราชการอัยการ ข้าราชการในสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน พนักงานในสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด และข้าราชการในสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติประจำจังหวัด

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เพื่อให้การดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เป็นไปตามประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมถึง สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และเป็นธรรม จังหวัดเชียงใหม่จึงได้กำหนดพิธีเปิด “ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่” ขึ้นในวันนี้ (30 ก.ค.57) ทั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากหน่วยงานภายในจังหวัด จัดงานบริการมาอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ในรูปแบบ ONE STOP SERVICE หรือ บริการแบบเบ็ดเสร็จในที่แห่งเดียว โดยไม่ต้องเดินทางไปติดต่อขอรับบริการจากหลายหน่วยงานซึ่งมีที่ตั้งห่างไกลกัน อาทิ สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ จัดบริการชำระภาษีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับแจ้งความ และรับแจ้งเบาะแสต่าง ๆ สำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ จัดส่งเจ้าหน้าที่ มาประจำเพื่อให้ข้อมูล ระเบียบ ขั้นตอนการทำนิติกรรมต่าง ๆ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดเชียงใหม่ ให้การสนับสนุนเคาน์เตอร์ศูนย์ดำรงธรรม และหน่วยงานสนับสนุนอื่น ๆ อีกหลายหน่วยงานอยู่ระหว่างจัดส่งงานบริการมาร่วมอำนวยความสะดวกและให้บริการประชาชนต่อไป ดังนั้นจึงขอเชิญชวนประชาชนไปขอรับบริการจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ได้ในวัน และเวลาราชการ



ข่าวโดย : ราตี จักร์แก้ว
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ National Science and Technology Fair

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) กระจายความรู้สู่ภูมิภาคกับงานมหกรรมวิทย์ และเทคโนโลยี ประจำปี 2557 กิจกรรมทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ที่ยิ่งใหญ่ ที่สุดแห่งปี ตั้งแต่วันที่ 12 - 28 ส.ค. 2557 ณ ศูนย์ประชุมการแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่

นายสาคร ชนะไพฑูรย์ รองผู้อำนวยการ รักษาการผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เป็นกิจกรรมที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมี อพวช. เป็นผู้ประสานงานหลัก เพื่อเทิดพระเกียรติพระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย รัชกาลที่ 4 รวมถึง พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย และพระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย รัฐกาลที่ 9 โดยภายในงานจะมีการรวบรวมผลงานวิจัยและพัฒนาความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั้งในและต่างประเทศ มาจัดแสดงได้อย่างยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เพื่อหวังกระตุ้นให้สังคมไทยหันมาใส่ใจและเกิดแรงบันดาลใจในการคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์กับสังคมต่อไป

โดยในปี 2557 เป็นปีแรกที่งานมหกรรมวิทย์ฯ ออกสู่ภูมิภาค เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนที่อยู่ในต่างจังหวัดได้เข้าถึงกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้มากขึ้น และขอเชิญชวนผู้สนใจมาเที่ยวงานมหกรรมวิทย์ฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 12 – 28 สิงหาคม 2557 ณ ศูนย์ประชุมการแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2577 9999 ต่อ 2101 หรือ www.most.go.th , www.nsm.or.th


 ข่าวโดย : ณัฏฐ์ สินันตา/วิมลฉัตร สุดวิลัย
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์คลินิก มช. จัดงานสำหรับคนรักสุขภาพ Health Care2014

ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์คลินิก คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดงานส่งเสริมสุขภาพ ภายใต้ชื่อกิจกรรม AMS.CSC.CMU Health Care 2014

วานนี้ (29 ก.ค.57) เวลา 10.00 น. นายวิสิตศักดิ์ สุขสะอาดพสุ ผู้อำนวยการศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์คลินิก เข้าร่วมการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ ณ ห้องประชุม 4 ชั้น 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยแถลงในวาระ AMS.CSC.CMU Health Care 2014

นายวิสิตศักดิ์ สุขสะอาดพสุ กล่าวว่าในการจัดงานในครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้กับประชาชนได้เข้ารับการตรวจสุขภาพในแพคเกจราคาพิเศษ เช่น ตรวจไวรัสตับอักเสบบี ตรวจคัดกรองภาวะกระดูกพรุน มะเร็งปากมดลูก และอีกหลายโรค รวมถึงให้คำปรึกษาทางกายภาพบำบัดฟรี จำนวน 150 ท่าน ภายในงานยังมีกิจกรรมการแสดง กิจกรรมตอบคำถามชิงรางวัลมากมาย ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ในวันที่ 12 สิงหาคม 2557 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ชั้น 2 ลานหน้าลิฟท์แก้ว ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.ams.cmu.ac.th/amscsc


ข่าวโดย : ไผท สุวรรณเสวตร/สมัชญา หน่อหล้า
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดพิษณุโลกจัดโครงการรณรงค์การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ ประจำปี 2557

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดพิษณุโลกจัดโครงการรณรงค์การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ ประจำปี 2557

เช้าวันนี้ ( 29 ก.ค.57 ) ที่ห้องประชุมสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดพิษณุโลก ตำบลบ้านคลอง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ทางสถานีจัดโครงการรณรงค์การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ ประจำปี 2557 โดยมีผู้ดำเนินรายการวิทยุกระจายเสียง ผู้ดำเนินรายโทรทัศน์/เคเบิ้ลทีวี และผู้สนใจเข้าร่วมโครงการได้ใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารได้อย่างถูกต้อง นายนุกูล นาคคชฤทธิ์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดพิษณุโลกหรือสวท.พิษณุโลก กล่าวว่า สวท.พิษณุโลก ได้รับคัดเลือกให้เป็นเครือข่ายด้านวัฒนธรรมจากกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งเห็นความสำคัญของการใช้ภาษาไทยในการสื่อสารโดยเฉพาะผู้ดำเนินรายการวิทยุกระจายเสียง ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ จึงได้จัดโครงการรณรงค์การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ วันที่ 29 กรกฎาคม 2557 โดยมีผู้ดำเนินรายการวิทยุกระจายเสียงทั้งคลื่นหลักและวิทยุชุมชน ผู้ดำเนินรายโทรทัศน์/เคเบิ้ลทีวี และผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ จำนวน 20 คน เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารได้อย่างถูกต้อง และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชนและเยาวชน เกิดความรู้สึกรักและหวงแหนภาษาไทย ซึ่งเป็นภาษาของชาติ โดยได้รับเกียรติจากนางอรุณี แดงพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนสื่อข่าวและผลิตรายการข่าว สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ผู้ดำเนินรายการ รู้รักษ์ภาษาไทย ทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และได้รับรางวัลผู้ใช้ภาไทยดีเด่น จากราชบัณฑิตยสถาน เป็นวิทยากร ในการอบรม

โดยมีทั้งการให้ความรู้หลักการใช้ภาษาไทยและฝึกการอ่านออกเสียงภาษาไทยที่ถูกต้อง ผอ.สวท.พิษณุโลก ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าสำหรับวันภาษาไทยแห่งชาติ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 เห็นชอบให้วันที่ 29 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันภาษาไทยแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินไปเป็นประธาน และทรงร่วมอภิปรายในการประชุมทางวิชาการของชุมนุมภาษาไทย ที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ ห้องประชุมคณะอักษรศาสตร์ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 ทรงเปิดอภิปรายในหัวข้อ "ปัญหาการใช้คำไทย" โดยพระองค์ทรงดำเนินการอภิปรายและทรงสรุปการอภิปราย ที่แสดงถึงพระปรีชาสามารถและความสนพระราชหฤทัยรวมถึงความห่วงใยในภาษาไทย ซึ่งเป็นที่ประทับใจกับผู้ร่วมเข้าประชุมในครั้งนั้นเป็นอย่างยิ่ง สำหรับพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในครั้งนั้น มีใจความตอนหนึ่งว่า "เรามีโชคดีที่มีภาษาของตนเองแต่โบราณกาล จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะรักษาไว้ ปัญหาเฉพาะในด้านรักษาภาษาก็มีหลายประการ อย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในทางออกเสียง คือให้ออกเสียงให้ถูกต้องชัดเจน อีกอย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในวิธีใช้ หมายความว่าวิธีใช้คำมาประกอบประโยค นับเป็นปัญหาที่สำคัญ ปัญหาที่สามคือความร่ำรวยในคำของภาษาไทย ซึ่งพวกเรานึกว่าไม่ร่ำรวยพอ จึงต้องมีการบัญญัติศัพท์ใหม่มาใช้... สำหรับคำใหม่ที่ตั้งขึ้นมีความจำเป็นในทางวิชาการไม่น้อย แต่บางคำที่ง่ายๆ ก็ควรจะมี ควรจะใช้คำเก่าๆ ที่เรามีอยู่แล้ว ไม่ควรจะมาตั้งศัพท์ใหม่ให้ยุ่งยาก..."

กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 3แถลงข่าวผลการกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ

กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 3แถลงข่าวผลการกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ

เช้าวันนี้ ( 29 ก.ค. 57 ) ที่สโมสรบันเทิงทัพ ค่ายสมเด็จพระนเรศวร อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พลโท ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 3 ได้เป็นประธานแถลงข่าวผลการปฏิบัติงาน ของกองกำลังรักษาความสงบความเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 3 โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ร่วมในการแถลงข่าว จากสถานการณ์ที่ผ่านมาในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ มีความสงบเรียบร้อยดี ไม่เกิดความรุนแรงรวมทั้งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนสำหรับด้านการส่งเสริมความมั่นคงและปลอดภัย ทางคณะคสช. ได้ประกาศคำสั่งและกำหนดกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคต่างๆ ให้ดำเนินการปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย ใน 4 เรื่องสำคัญ ทั้งการปราบปรามอาวุธสงคราม อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน เพื่อมิให้นำมาใช้ในการกระทำผิดอันก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การปราบปรามด้านยาเสพติด การปราบปรามด้านการพนัน และหยุดยั้งปัญหาการบุกรุกการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ สำหรับห้วงการปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย. – 25 ก.ค. ที่ผ่านมา มีการจับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ มีการจับกุมทั้งหมด 213 ครั้ง ได้ผู้ต้องหา 190 ราย อาวุธปืน 293 ประบอก ในจำนวนนี้มีอาวุธสงครามจำนวน 5 กระบอก ลูกระเบิด 7 ลูก และเครื่องกระสุนปืน 6,6629 นัด การจับกุมยาเสพติดจับกุมทั้งหมด 294 ครั้ง ผู้ต้องหา 381 คน ตรวจยึดยาบ้า 1,880,186 เม็ด และยาเสพติดประเภทอื่นทั้งเฮโรอิน และยาไอซ์ อีกจำนวนมาก นอกจากนี้ยังสามารถขยายผลการยึดของกลาง และทรัพย์สินจำนวนมาก การจับกุมบ่อนการพนัน จำนวน 24 ครั้ง ผู้ต้องหา 82 คน อุปกรณ์การเล่นทั้งอุปการณ์การเล่นไฮโล และโพยพนันหวยใต้ดิน และการจับกุมการทำลายทรัพยากรป่าไม้ จำนวน 141 ครั้ง ผู้ต้องหา 102 คน ตรวจยึดไม้สักท่อน 2,796 ท่อน ไม่สักแปรรูป 9,258 แผ่น ไม้กระยาเลยท่อน 469 ท่อน และไม้กะยาเลยแปรรูป 1,770 แผ่น ด้าน พลโท ปรีชา แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า สำหรับการทำงานของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 3 ในห้วงต่อไป จะเป็นการรักษาสภาพแวดล้อมให้เกิดความสงบเรียบร้อย ด้วยการติดตามจับกุมการกระทำความผิดกฎหมาย และการตรวจจับอาวุธสงคราม รวมทั้งควบคุมความเคลื่อนไหวของมวลชนกลุ่มต่างๆ เพื่อให้การทำงานของ คสช. และรัฐบาลในการบริหารประเทศ โดยไม่ต้องกังวลต่อกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง จะเน้นหนักในการเข้าสู่หมู่บ้านและชุมชน โดยเน้นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก นอกจากนี้ทางแม่ทัพกองทัพภาคที่ 3 ยังได้ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ที่มีข้อมูลข่าวสาร หรือเบาะแส เกี่ยวกับกลุ่มบุคคล หรือขบวนการที่มีความเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย โดยสามารถแจ้งมาได้ที่หน่วยทหารที่อยู่ใกล้เคียง หรือศูนย์ประชาสัมพันธ์ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 3 โทรศัพท์หมายเลข 055-242859

พัฒนาชุมชนจังหวัดพิษณุโลกจัดประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการปฎิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาชนบทตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัด

สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพิษณุโลกจัดประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการปฎิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาชนบทตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัด และการนำเสนอผลการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบบูรณาการ จังหวัดพิษณุโลก

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมาที่โรงแรมเมย์ ฟราวเวอร์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพิษณุโลกได้จัดการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการปฎิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาชนบทตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัด และการนำเสนอผลการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบบูรณาการ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งการประชุมดังกล่าวเพื่อบริหารจัดการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบบูรณาการ ในพื้นที่ทั้ง 9 อำเภอ ของจังหวัดพิษณุโลก โดยมีคณะกรรมการศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาชนบทตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จังหวัดพิษณุโลก ทีมบูรณาการการแก้ไขปัญหาความยากจนระดับอำเภอ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ ทีมปฏิบัติการระดับตำบล และผู้แทนครัวเรือนยากจน เข้าร่วมประชุมและนำเสนอผลการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบบูรณาการ ด้านนายปรีชา พรหมบุตร พัฒนาการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่าสำหรับจังหวัดพิษณุโลกมีครัวเรือนที่จะต้องแก้ไขปัญหาความยากจนทั้งหมด 414 ครัวเรือน ซึ่งทางจังหวัดได้ดำเนินการมาเป็นเดือนที่ 5 ตามเป้าหมายของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายระพี ผ่องบุพกิจ ที่ให้ประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลกน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถยกระดับรายได้ครัวเรือนไม่น้อยกว่า 198 ครัวเรือน ซึ่งแนวทางการดำเนินงานบริหารจัดการครัวเรือนยากจนแบบบูรณาการ 4 กระบวนการ ได้แก่ การชี้เป้าชีวิต การจัดทำเข็มทิศชีวิต การบริหารจัดการชีวิต และ การดูแลชีวิต เพื่อให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมีภูมิคุ้มกันที่มั่นคงสามารถพึ่งตนเองได้ ซึ่งผลจากการวิเคราะห์สภาพปัญหาครัวเรือน พบสภาพปัญหาพบว่า ประชาชนมีอาชีพและรายได้ไม่แน่นอน ขาดแคลนเงินทุนในการประกอบอาชีพ ปัญหาหนี้สิน ปัญหาขาดแคลนปัจจัยการผลิต ปัญหาด้านสุขภาพ การมีสมาชิกในครอบครัวมาก ไม่มีอาชีพ ไม่สมารถประกอบอาชีพได้ ทั้งนี้ในที่ประชุมได้นำปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะการแก้ปัญหาความยากจน รวมถึงข้อเสนอแนะเชิงนโยบายให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อการบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันต่อไป

กอ.รมน.จังหวัดพิษณุโลกสนธิกำลังตรวจสอบพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ พื้นป่าสวนเมี่ยง หลังพบปัญหาการถือครองสิทธิ์ที่ทำกินบางราย มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ

กองรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิษณุโลก สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอชาติตระการ ตรวจสอบพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ พื้นป่าสวนเมี่ยง บ้านโคกใหญ่ หลังพบปัญหาการถือครองสิทธิ์ที่ทำกินบางราย มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา กองรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิษณุโลก ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอชาติตระการ เข้าตรวจสอบพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสวนเมี่ยง บ้านโคกใหญ่ หมู่ 6 ห้วยหมากหล่ำ ตำบลสวนเมี่ยง อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก หลังมีผู้ร้องเรียนไปยังกองรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิษณุโลก ว่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พื้นป่าสวนเมี่ยงนี้ มีการบุกรุกพื้นที่ป่า ซึ่งจากการตรวจสอบของทางเจ้าที่ พบว่ามีปัญหาการถือครองสิทธิ์ที่ทำกินบางราย ซึ่งอาจจะเป็นนายทุนรายใหญ่ ได้มีการบุกรุกพื้นที่ป่า โดยทางเจ้าหน้าที่ ได้ดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้นพร้อมเก็บข้อมูลหลักฐาน ซึ่งเจ้าหน้าป่าไม้ ได้นำเครื่องจับพิกัด มาเช็คกับแผนที่ทางอากาศ ปี 2545 และหากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการกระทำความผิดจริง ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ ได้เข้าชี้แจ้ง กับชาวบ้านที่เข้าร้องทุกข์ต่อทางเจ้าหน้าที่กองรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิษณุโลก ว่ามีการปฎิบัติโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยนางทองลัน ทองศรีจันทร์ อายุ 44 ปี เปิดเผยว่า ตนเองกับพี่น้องอีก 4 คน มีพื้นที่ทำกิน 51 ไร่ แต่ถูกเจ้าหน้าของรัฐ แจ้งความจับ ฐานความผิด ร่วมกันสร้าง แผ้วถาง ยึดถือครอบครองป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 25 ไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการชี้แจ้ง กับ นางทองลัน ว่าพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติไม่สามารถ ทำการใดๆ ได้ และพื้นที่ดังกล่าว เป็นลักษณะของเส้นทางลำห้วย ซึ่งเป็นทางน้ำ และเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของป่าไม้ ซึ่งไม่อาจให้บุคคลใด มาบุกรุกหรือทำกินได้ นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าของรัฐจะเข้ามาดำเนินการจับพิกัด พื้นที่ดังกล่าวให้ละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งมีการผ่อนปรนให้ชาวบ้านได้เก็บเกี่ยวผลผลิตที่ปลูกเอาไว้แล้วอีกด้วย ด้านพันเอก โอฬาร หาญสุรภานนท์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิษณุโลก ฝ่ายทหาร กล่าวว่า สำหรับการแก้ปัญหาพื้นที่ การบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ พื้นป่าสวนเมี่ยงนี้ ทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย กำลังรวบรวมข้อมูลผู้ที่ทำการบุกรุกพื้นป่า และจะมีการกำหนดพื้นที่ทำกินของชาวบ้านที่ทำมาอยู่เดิม เพื่อให้เป็นการแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการต่อไป

กองพลทหารราบที่ 4 กองทัพภาคที่ 3 ร่วมเทศบาลนครพิษณุโลกและอีกหลายหน่วยงานจัดระเบียบทางเท้า เพื่อเป็นเมืองน่าอยู่

กองพลทหารราบที่ 4 กองทัพภาคที่ 3 ร่วมเทศบาลนครพิษณุโลกและอีกหลายหน่วยงานจัดระเบียบทางเท้า เพื่อเป็นเมืองน่าอยู่

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมาที่บริเวณสวนชมน่านเฉลิมพระเกียรติฯ กองพลทหารราบที่ 4 กองทัพภาคที่ 3 ได้มีการบูรณาการร่วมกับเทศบาลนครพิษณุโลก อำเภอเมืองพิษณุโลก สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก แขวงการทางพิษณุโลก และสถานีรถไฟพิษณุโลก ร่วมกันดำเนินโครงการจัดระเบียบทางเท้า ภายในเขตเทศบาล เพื่อให้บ้านเมืองมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด สวยงาม และเป็นการคืนทางเท้าให้ประชาชน สามารถใช้ทางเท้าในการสัญจรไปมาได้โดยสะดวกและปลอดภัย และเพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายการจัดระเบียบสังคมของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)โดยจะเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินโครงการจัดระเบียบทางเท้าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ จึงขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน และพ่อค้า แม่ค้า ร่วมสนับสนุนการดำเนินโครงการจัดระเบียบทางเท้า คือ 1. ห้ามมิให้ผู้ใดติดตั้ง ตาก วาง หรือแขวนสิ่งใดๆ บนถนนหรือทางเท้า 2. ห้ามมิให้ผู้ใดปรุงอาหารขายหรือจำหน่ายสินค้าบนถนนหรือทางเท้า 3. ห้ามมิให้ผู้ใดจอดหรือขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์หรือล้อเลื่อนบนทางเท้า 4. ห้ามมิให้ผู้ใดใช้ส่วนหนึ่งส่วนใดของถนนเป็นสถานที่ซ่อม เปลี่ยนแปลง ต่อเติมหรือติดตั้งอุปกรณ์รถยนต์ รถจักรยานยนต์หรือล้อเลื่อน 5. ห้ามทิ้งขยะมูลฝอยลงบนถนนหรือทางเท้า ซึ่งหากมีการฝ่าฝืนข้อห้ามดังกล่าว ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองแก้ไขให้ถูกต้อง หรือขจัดความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยนั้นเสีย ถ้าหากละเลยเพิกเฉย ทางพนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จังหวัดเพชรบูรณ์ ขานรับนโยบาย คสช.บูรณาการทุกภาคส่วนร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอย

จังหวัดเพชรบูรณ์ขานรับนโยบาย คสช.บูรณาการทุกภาคส่วนร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอย

วันนี้ (29 กค.57) เวลา 10.00 น. ที่กองร้อยทหารช่างที่ 1 กองพันทหารช่างที่ 8 ค่ายพ่อขุนผาเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ นายกฤษณ์ คงเมือง ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมบูรณาการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอย ระหว่างเครือข่าย ทสม.และหน่วยงานราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ภายใต้โครงการพัฒนาเครือข่าย ทสม.จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดโดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพชรบูรณ์ มีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเครือข่าย ทสม. จำนวนกว่า 80 คน เข้าร่วมประชุม

วัตถุประสงค์จัดประชุมเพื่อให้ความรู้และกำหนดแนวทางและมาตรการดำเนินการบริหารจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ให้มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและสุขอนามัยของประชาชน

โอกาสนี้ พท.อมร พิมพ์สี ผู้บังคับการกองพันทหารช่างที่ 8 ได้บรรยายเรื่อง นโยบายการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจรในค่ายพ่อขุนผาเมือง และนำศึกษาดูงาน ซึ่งเริ่มจากได้จัดทำโครงการธนาคารขยะ ข.พัน.8 ตั้งแต่ปี 2546 สามารถบริหารจัดการขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยใข้ทฤษฎี 3 Rs คือ Reduce ลดการใข้ Reuse ใช้ซ้ำ และ Recycle นำกลับมาใช้ใหม่ ควบคู่กับการปลูกจิตสำนึกให้กับลูกหลานกำลังพลให้ตระหนักถึงคุณประโยชน์ของขยะรีไซเคิล เพิ่มมูลค่าเพิ่มและรายได้จากขยะ ปัจจุบันได้จัดตั้งเป็นโครงการบริหารจัดการขยะค่ายพ่อขุนผาเมือง มี 15 หน่วยงานเข้าร่วมโครงการ บริหารจัดการขยะเดือนละ 22 ตัน ได้อย่างครบวงจร

จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดอบรมสัมมนาคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ต่อต้านยาเสพติดปี 2557

จังหวัดเพชรบูรณ์จัดอบรมสัมมนาคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ต่อต้านยาเสพติดปี 2557

วันนี้ (29 ก.ค.57) ณ ห้องลักษมี โรงแรมบูรพาโฮเต็ล อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ นายคณีธิป บุณยเกตุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานโครงการอบรมสัมมนาคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ต่อต้านยาเสพติดปี 2557 จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ และความเข้าใจในบทบาท อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการหมู่บ้าน เนื่องจากสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในปัจจุบันของสังคมไทยมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น เห็นได้จากการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชนทุกประเภท ที่มีข่าวสารการจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด ทั้งผู้ค้า และผู้เสพ แต่ปัญหายาเสพติดก็ไม่ได้หมดสิ้นไปจากสังคมไทย

จังหวัดเพชรบูรณ์จึงได้จัดโครงการอบรมสัมมนาคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ต่อต้านยาเสพติดปี 2557 ขึ้นเพราะการแก้ไขปัญหายาเสพติดต้องได้รับการร่วมมือจากทุกภาคส่วน ที่จะสามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอาศัยองค์กรสำคัญในหมู่บ้าน คือคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ต้องทำหน้าที่เหมือนเป็น”ตาสับปะรด”ที่จะคอยดูแลป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของหมู่บ้าน ซึ่งการจัดอบรมฯ ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คณะกรรมการฯ ได้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ และเป็นผู้ประสานงานกับหน่วยงาน/องค์กรต่างๆร่วมกับชุดปฏิบัติการประจำตำบลหรือกลุ่มแกนนำ ทั้งในและนอกหมู่บ้าน ให้การขับเคลื่อนงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมทั้งให้คณะกรรมการฯได้แลกเปลี่ยนข้อมูล ข้อเสนอแนะ หรือวิธีการแก้ไข และป้องกันปัญหายาเสพติดให้กับคณะกรรมการฯ ต่างอำเภอในจังหวัดเพชรบูรณ์ได้รับทราบ เพื่อนำไปปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดพิธีมอบเข็มตราสัญลักษณ์กองทุนแม่ของแผ่นดิน ที่ระลึกในวาระ 1 ทศวรรษ กองทุนแม่ของแผ่นดิน

จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดพิธีมอบเข็มตราสัญลักษณ์กองทุนแม่ของแผ่นดิน ที่ระลึกในวาระ 1 ทศวรรษ กองทุนแม่ของแผ่นดิน

วันนี้ (29 ก.ค.57) ที่หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีมอบเข็มตราสัญลักษณ์กองทุนแม่ของแผ่นดิน ที่ระลึกในวาระ 1 ทศวรรษ กองทุนแม่ของแผ่นดินให้กับตัวแทนหมู่บ้าน/ชุมชน กองทุนแม่ จำนวน 179 หมู่บ้าน /ชุมชน ใน 11 อำเภอ เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี ของการดำเนินการ "กองทุนแม่ของแผ่นดิน” ได้จัดทำเข็มกลัด สำหรับมอบให้แก่ ประธาน รองประธาน และกรรมการหมู่บ้าน/ชุมชน กองทุนแม่ของแผ่นดินทั่วประเทศ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในหมู่บ้าน/ชุมชน จังหวัดเพชรบูรณ์จึง ได้ดำเนินการจัดพิธีมอบเข็มตราสัญลักษณ์กองทุนแม่ของแผ่นดิน ที่ระลึกในวาระ 1 ทศวรรษ กองทุนแม่ของแผ่นดินขึ้นในวันนี้

โดยกองทุนแม่ของแผ่นดิน มีจุดเริ่มต้นจากการที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จแปรพระราชฐาน เพื่อทรงงานเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ผ่านเลขาธิการ ป.ป.ส. (พลตำรวจเอกชิดชัย วรรณสถิต) เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2546 เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของราษฎรอาสา ที่ร่วมป้องกันยาเสพติดของหมู่บ้าน/ชุมชน สำนักงาน ป.ป.ส. จึงน้อมเกล้าฯจัดสรรงบประมาณขึ้นร่วมสมทบกับพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ โดยตั้งชื่อว่า "กองทุนแม่ของแผ่นดิน”

ในโอกาสนี้ ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ ได้กล่าวให้กำลังใจและสนับสนุนให้หมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดเพชรบูรณ์ทุกท่านที่ร่วมกันป้องกันหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ร่วมกันสนับสนุนการดำเนินงานร่วมกันปกป้องการแพร่ระบาดของยาเสพติด เพื่อความผาสุกของประเทศชาติให้สืบไป