วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2557

งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2557 จังหวัดเชียงใหม่ สำเร็จเกินคาด ปลื้มคนแห่ชมล้นหลาม มียอดผู้เข้าชมทะลุกว่า 850,000 คน

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวผลสำเร็จของการจัดงาน งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ที่เชียงใหม่ ครั้งแรกของการจัดงานส่วนภูมิภาค ผู้คนแห่ชมอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะไฮไลท์สำคัญ คือ โรงหนังสี่มิติ หุ่นยนต์แมมมอธและโครงกระดูกไดโนเสาร์ยาวที่สุดในโลก

วันนี้ (27 สิงหาคม 2557) เวลา 14.30 น. รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมด้วยนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายสาคร ชนะไพฑูรย์ รองผู้อำนวยการ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวความสำเร็จในการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2557 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่

รศ.ดร. วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ เปิดเผยว่า ถือเป็นปีที่ 9 แห่งความสำเร็จของการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำปี 2557 โดยปีนี้เป็นการผนึกกำลังร่วมกับ 7 กระทรวง 5 ประเทศ มากกว่า 100 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเปิดโลกแห่งการเรียนรู้นอกห้องเรียน ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” ซึ่งปีนี้จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นครั้งแรกของการเปลี่ยนสถานที่จัดงานจากกรุงเทพฯ มาเป็นส่วนภูมิภาค ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยมีผู้เข้าชมงานทั้งจากจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงมากกว่าที่คาดไว้ โดยตั้งแต่ วันเปิดงานจนถึงวันที่ 26 สิงหาคม เป็นระยะเวลา เป็นระยะเวลา 15 วัน ได้มีผู้เข้าชมงานกว่า 850,000 คน ทางกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจึงขอขอบคุณชาวเชียงใหม่ รวมทั้งสถาบันการศึกษา โรงเรียนในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงที่ให้ความสนใจเข้าชมงานอย่างหนาแน่น และหวังว่าการจัดงานในครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่นำความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีถ่ายทอดผ่านการเรียนรู้ในรูปแบบ interactive ที่สร้างความตื่นเต้น สร้างแรงบันดาลใจและความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ และเพื่อการจุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้แก่เยาวชนและผู้เข้าชมงานต่อไป

นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวตลอด 15 วันที่ผ่านมางานมหกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ได้สร้างปรากฏการณ์การเรียนรู้ครั้งใหม่ให้กับเยาวชนและประชาชนชาวเชียงใหม่ ในรูปแบบแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน ที่มีความตื่นเต้นและความสนุกสนาน ซึ่งเยาวชนชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงได้สัมผัสกับนิทรรศการแปลกใหม่ เช่น หุ่นยนต์แมมมอธ โครงกระดูกไดโนเสาร์ยาวที่สุดในโลก โรงหนังสี่มิติ และนิทรรศการผลงานความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์มากมาย ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เป็น talk of the town ของชาวเชียงใหม่อีกครั้ง ทางจังหวัดเชียงใหม่จึงขอขอบคุณ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อีกทั้งกระทรวงอื่นๆ และหน่วยงานต่างๆ ที่มอบโอกาสให้แก่เยาวชนเชียงใหม่ได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าประทับใจ และขอขอบคุณที่คัดเลือกจังหวัดเชียงใหม่ให้เป็นสถานที่จัดงานในครั้งนี้

นายสาคร ชนะไพฑูรย์ รองผู้อำนวยการ รักษาการผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ในฐานะผู้ดำเนินการจัดงานครั้งนี้กล่าวเสริมว่า แม้งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะสิ้นสุดวันที่ 28 สิงหาคม นี้แต่ด้วยเสียงเรียกร้องของคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้มีโอกาสมาชมงานที่จังหวัดเชียงใหม่ ทาง (อพวช.) จึงได้นำ 2 นิทรรศการไฮไลท์สำคัญของงานปีนี้ไปจัดแสดงต่อที่องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) คลองห้า ปทุมธานี คือ นิทรรศการโลกและการเปลี่ยนแปลงและโรงหนังสี่มิติ และนิทรรศการไดโนเสาร์เพื่อให้คนไทยที่พลาดชมได้สัมผัสและเรียนรู้อีกครั้ง โดยจะเริ่มจัดแสดงตั้งแต่เดือนกันยายน – ธันวาคมนิยม เช่น นิทรรศการ Science Idol นิทรรศการมหัศจรรย์แห่งผลึก นิทรรศการ Biomimetics (เทคโนโลยีเลียนแบบธรรมชาติ) จากประเทศญี่ปุ่น ทาง อพวช. ก็จะนำไปพัฒนาต่อและจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์เพื่อให้ความรู้กับผู้เข้าชมต่อไป



ข่าวโดย : ณัฏฐ์ สินันตา/สมัชญา หน่อหล้า
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

ปภ.เชียงใหม่จัดประชุมเชิงปฏิบัติการชุมชนต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมเชิงปฏิบัติการตามโครงการชุมชนต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน โดยนำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและมีความพร้อมเข้ามามีส่วนร่วมสร้างชุมชนต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน

วันนี้ (27 ส.ค.57) เวลา 09.00 น. ณ โรงแรม ฮอลิเดย์การ์เด้นท์ แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดเชียงใหม่ นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการชุมชนต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน ซึ่งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่จัดขึ้นเป็นระยะเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 27 – 28 สิงหาคม 2557 โดยมีคณะกรรมการศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงใหม่ ผู้บริหารและผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 15 แห่ง รวม 50 คนเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

นางวาสนา วปินานนท์ หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์และการจัดการจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ และ สงกรานต์ ปี 2556 – 2557 ซึ่งสร้างความสูญเสียอย่างรุนแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมาก โดยพบว่าสาเหตุส่วนใหญ่ของการเกิดอุบัติเหตุเกิดจากการเมาสุราของผู้ขับขี่ยานพาหนะ การขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด การไม่เคารพกฎจราจร โดยเกิดขึ้นกับรถผู้ขับขี่จักรยานยนต์สูงสุดถึงร้อยละ 88.23 ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุส่วนใหญ่อยู่ในวัยแรงงาน โดยมีช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 43.96 พื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดอยู่ในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง แม่ริม ฝาง สันกำแพง สันทราย หางดง ดอยสะเก็ด และ สารภี ซึ่งจากความสูญเสียดังกล่าวนับเป็นภัยอย่างร้ายแรงที่จะส่งผลเสียหายต่อสังคมในภาพรวมแม้จะมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนระดับจังหวัดและอำเภอ โดยเน้นการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสำคัญเป็นหลัก ด้วยมาตรการต่าง ๆ ที่ภาครัฐพยายามคิดรูปแบบและนำไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม แต่เมื่อพิจารณาถึงจำนวนสถิติที่ผ่านมากลับพบว่าจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนก็ยังเกิดขึ้นให้เห็นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ ดังนั้นจึงพิจารณาเห็นว่าการดำเนินการโดยภาครัฐเพียงฝ่ายเดียวคงไม่เพียงพอ โดยเห็นควรที่จะแสวงหารูปแบบอื่น ๆ โดยเฉพาะการนำภาคประชาชนในท้องถิ่นที่มีความพร้อมหรือมีศักยภาพเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันอุบัติเหตุอีกทางหนึ่ง โดยการนำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและมีความพร้อมเข้ามามีส่วนร่วมสร้างชุมชนต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนนซึ่งน่าจะเป็นทางเลือกใหม่ที่มีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติจึงเป็นที่มาของโครงการนี้ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก โครงการสนับสนุนการดำเนินงานป้องกันอุบัติเหตุจราจรในระดับจังหวัด หรือ สอจร. และคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงใหม่

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลของจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนใหญ่จะเกิดบนถนนในพื้นที่ อบต./เทศบาล และผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเกือบ 100% เป็นคนในพื้นที่ โดยสาเหตุมักจะเกิดจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ยานพาหนะ คือ เมาสุราและขับรถเร็วซึ่งมากกว่าร้อยละ 80 เป็นรถจักรยานยนต์ ดังนั้นควรใช้มาตรการควบคุมทางสังคมในพื้นที่ชุมชน/หมู่บ้าน เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในการเข้าไปบริหารจัดการต่อความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ลงได้



ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่