วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2557

คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดลำพูน จัดสัมมนาเครือข่ายภาคประชาชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เครือข่าย


คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดลำพูน จัดสัมมนาเครือข่ายภาคประชาชนของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดลำพูน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เครือข่าย และส่งเสริมหน่วยงานภาครัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ปฏิบัติงานโดยยึดหลักบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี

เช้าวันนี้ ( 25 เมษายน 2557 ) ที่โรงแรมลำพูนวิล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมกับจังหวัดลำพูน และคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดลำพูน จัดสัมมนาเครือข่ายภาคประชาชนของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดลำพูน ประจำปี พ.ศ.2557 โดยมีนายจำเริญ ยุติธรรมสกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดสัมมนา

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดลำพูนซึ่งมีภาระกิจในการสอดส่องการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ประการสำคัญ ให้ยึดหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน เพื่อให้การปฏิบัติงานของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงได้ขอความร่วมมือให้ภาคประชาชนผู้มีจิตอาสา เสียสละ เข้ามาเป็นเครือข่ายภาคประชาชนของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดลำพูน เพื่อช่วยสอดส่องการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น

การจัดสัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เครือข่ายภาคประชาชนของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดลำพูน จากอำเภอต่างๆจำนวน 100 คน มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาท อำนาจหน้าที่และแนวทางการปฏิบัติงาน เพื่อจะได้ช่วยคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดลำพูนในการสอดส่องการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐ ให้ยึดหลักบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนสืบไป



ข่าวโดย : นศ.ฝึกประสบการณ์ นางสาวรุจิรา เสนานุช
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

จ.ลำพูน สรุปผลการดำเนินการงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกากาลสงกรานต์


ตามที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดลำพูนได้มีคำสั่งที่ 478/2557 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2557 ให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อดำเนินการตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน 2557 เป็นระยะเวลา 7 วัน

จากการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2557 ได้ดำเนินการตามมาตรการและแนวทางดังกล่าว ซึ่งผลการดำเนินงานพบว่า จังหวัดลำพูนมีจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น 44 ครั้ง จำนวนผู้บาดเจ็บ 46 ราย แยกเป็นชาย 35 ราย หญิง 11 ราย และจำนวนผู้เสียชีวิต 4 ราย แยกเป็นชาย 3 รายหญิง 1 ราย



ข่าวโดย : นศ.ฝึกประสบการณ์ นางสาวรุจิรา เสนานุช
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

จ.ลำพูน ดำเนินงานตาม 10 มาตรการงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกากาลสงกรานต์ 2557 พบว่า จำนวนการเรียกตรวจพร้อมดำเนินคดี 2,827 ราย


สืบเนื่องจาก ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา จังหวัดลำพูนได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อดำเนินการตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน

ตามที่ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยบนท้องถนน ได้กำหนด10 มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติของผู้ใช้ถนนให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ ดังนี้ สวมหมวกนิรภัย ,พกพาใบขับขี่ , คาดเข็มขัดนิรภัย , เมาไม่ขับ , ขับรถด้วยความเร็วตามมาตราฐานกำหนด (ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) , มอเตอร์ไซค์มีความปลอดภัย , ห้ามฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร , ห้ามขับรถย้อนศร , ห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ และห้ามแซงในที่คับขัน ทั้งนี้ ทางศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2557จังหวัดลำพูนได้ดำเนินการตาม 10 มาตรการตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน 2557 เป็นระยะเวลา 7 วัน พบว่า มีการเรียกตรวจ จำนวน 9,020 ราย และถูกดำเนินคดี 2,827 ราย



ข่าวโดย : นศ.ฝึกประสบการณ์ นางสาวรุจิรา เสนานุช
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ออกประกาศ ฉบับที่ 1 เตือนประชาชนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน


ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ออกประกาศ ฉบับที่ 1 เตือนประชาชนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่

นายวิชัย ตินโนเวช ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาลำพูน เปิดเผยว่า ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ออกประกาศ ฉบับที่ 1 เรื่อง พายุฤดูร้อน แจ้งว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงได้แผ่ปกคลุมประเทศจีนตอนกลางแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันที่ 26 เมษายน 2557 ต่อจากนั้นจะแผ่ปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยจะปกคลุมต่อเนื่องจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2557 ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่ เริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน สำหรับภาคเหนือจะได้รับผลกระทบในช่วงวันที่ 27-30 เมษายน 2557 ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุลมแรงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งอาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน ป้ายโฆษณา ต้นไม้ใหญ่ และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย สำหรับในช่วงวันที่ 26 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2557 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณภาคเหนือมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกในบางพื้นที่ และอากาศจะคลายความร้อนลงได้ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส จังหวัดลำพูน อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-40 องศาเซลเซียส

ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาลำพูน กล่าวด้วยว่า ระยะนี้สภาพอากาศร้อนจัดและมีพายุฝนลมแรง ประชาชนควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย และควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงขณะลมแรง รวมทั้งหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง ส่วนชาวสวนผลไม้ควรสำรวจวัสดุที่ผูกยึด และอุปกรณ์ที่ค้ำยันกิ่งและลำต้นของพืชที่รับน้ำหนักมากให้มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันการฉีกหักและโค่นล้มของกิ่งและลำต้น เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนในระยะนี้ เกษตรกรควรลดอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ รวมทั้งจัดหาน้ำดื่มให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เครียดอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย




ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525565
    หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

จังหวัดลำพูน รายงานสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ลดลงเกินเป้า


ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดลำพูนได้รายงานสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา พบว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุ ลดลงจากปี 2556 จำนวน 24 ครั้งหรือคิดเป็นร้อยละ 54 อยู่ในระดับสูงจากเป้าหมาย ( ร้อยละ 5 ) ที่วางไว้ในแผนการปฏิบัติงาน

จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2556 มีจำนวนการเกิดอุบัติเหตุจำนวน 38 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 64 ราย และผู้เสียชีวิต 4 ราย สำหรับปี 2557 ทางศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนจังหวัดลำพูน ได้สรุปยอดการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์จำนวน 60 ครั้ง ลดลงจากปี 2556 จำนวน 24 ครั้งคิดเป็นร้อยละ 54 ส่วนผู้บาดเจ็บจำนวน 64 ราย ลดลง 18 รายและผู้เสียชีวิตจำนวน 4 ราย



ข่าวโดย : นศ.ฝึกประสบการณ์ นางสาวรุจิรา เสนานุช
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

จังหวัดลำพูน ประกอบพิธีเนื่องในวันคล้าย วันสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรมหาราช


ข้าราชการ , ประชาชนทุกหมู่เหล่า ในจังหวัดลำพูน ร่วมพิธีเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 25 เมษายน 2557เพื่อ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงกอบกู้เอกราชของชาติ จากการเป็นเมืองขึ้นของพม่าใน สมัย กรุงศรีอยุธยา และ แสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

ช่วงเช้าวันนี้ ( 25 เมษายน 2557 ) เวลา 9.09 น. ที่ ศาลาประชาคม จังหวัด ศาลากลาง ลำพูน นายอาณัติ วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธาน ในพิธี วันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณ และ แสดงถึงความกตัญญูกตเวที แด่ องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดย หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดลำพูน ได้วางพวงมาลาถวายราชสักการะ หน้าพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนได้กล่าว คำถวายราชสดุดี สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เชิดชูพระเกียรติคุณ ที่ได้ทรง กอบกู้เอกราชของชาติ และ ปราบเหล่าอริราชศัตรู สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อแผ่นดินประเทศสยาม ทรงกอบกู้เอกราชชาติสยามจากการเป็นเมืองขึ้นของพม่าในสมัยอยุธยา ทรงยอมเสียสละและอดทนต่อการเป็นตัวประกันแลกเปลี่ยน ฝึกปรือฝีมือและตำราวิชัยยุทธ เมื่อได้รับอิสสระภาพกลับมาประเทศสยามได้รวบรวมไพล่พล และ ประกาศอิสสระภาพหลังจากถูกกดขี่ข่มเหงจากเจ้าผู้ครองนครพม่า ทรงกระทำยุทธหัตถีจนชนะพระมหาอุปราชผู้สำเร็จราชการกรุงหงสาวดี และทำศึกสงครามต่อเนื่องหลายครั้งจนชนะพม่าอย่างเด็ดขาดในสมัยนั้น ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยหลักทศพิธราชธรรม ประชาชนอยู่ดีมีสุข สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเสด็จสวรรคตเนื่องจากทรงพระประชวรในขณะยกทัพไปทำ ศึกที่เมืองห้างหลวง ปีมะเส็งพุทธศักราช 2148 เดือน 6 ขึ้น 8 ค่ำในขณะพระชนมายุ 50 พรรษา รัฐบาลไทยโดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 กำหนดให้ทุกวันที่ 25 เมษายน ของทุกปีเป็นวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช .



ข่าวโดย : เชาวรินทร์ สอนปาละ
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมขยายผลต่อยอดนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ต้นแบบเตาเผาขยะชีวมวลไร้ควัน หวังลดปัญหาหมอกควัน ไฟป่าและการเผาในที่โล่ง


ที่โรงแรมลำพูนวิล อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน นายสากล ฐินะกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดโครงการและมอบเตาเผาขยะชีวมวลไร้ควันแก่ผู้แทนเครือข่ายจังหวัดลำพูน จำนวน 30 เตา ในการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เตาเผาขยะชีวมวลไร้ควัน นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ ลดมลพิษ ลดหมอกควัน ซึ่งกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดขึ้นภายใต้โครงการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ สร้างจิตสำนึก ป้องกันลดการเผาในที่โล่งและหมอกควัน โดย นายบรรพต อมราภิบาล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและเผยแพร่ กล่าวว่า สถานการณ์หมอกควันของประเทศไทยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน มีหมอกควันปกคลุมหนาแน่นเป็นบริเวณกว้าง ส่วนใหญ่เกิดจากการเผาในที่โล่ง และการเผาวัสดุการเกษตร กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมตระหนักถึงปัญหามลพิษจากการเผาในที่โล่งจึงดำเนินการวิจัยโครงการพัฒนาเตาเผาขยะชีวมวลสำหรับชุมชนอย่างง่าย ตั้งแต่เดือนเมษายน 2555 ได้มีการคิดค้น ออกแบบ พัฒนาและจัดสร้างนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ เตาเผาขยะชีวมวลไร้ควัน ต้นทุนต่ำ นำไปขยายผลต่อยอดได้ในชุมชน โดยมีเป้าหมายการนำไปใช้กำจัดของเหลือทิ้งจากการเกษตรที่เป็นของเสียชีวมวลแทนการเผาในที่โล่ง เพื่อลดปัญหามลพิษจากหมอกควันและไฟป่า

โดยศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นคณะผู้วิจัยได้พัฒนารูปแบบและทดสอบประสิทธิภาพการเผาไหม้ จนได้ต้นแบบเตาเผาขยะชีวมวลไร้ควันที่มีประสิทธิภาพสูง ปล่อยก๊าซพิษจากการเผาน้อยมาก เมื่อเทียบกับการเผาในที่โล่งแบบเดิมๆ ดังนั้น เพื่อให้เกิดการนำไปใช้ประโยชน์จึงจัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง เตาเผาขยะชีวมวลไร้ควัน ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน เป็นการให้ความรู้ด้านเทคนิค วิธีการสร้างและใช้เตาเผาขยะชีวมวลไร้ควัน ฝึกปฏิบัติการใช้เตาเผาขยะชีวมวลไร้ควัน และทดสอบประสิทธิภาพการเผาไหม้ หวังเสริมสร้างให้ภาคีเครือข่ายมีความรู้ความเข้าใจ ส่งเสริมการจัดกิจกรรมที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย สร้างจิตสำนึกและกระตุ้นให้เกิดความตระหนัก ส่งเสริมความร่วมมือด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ นำไปสู่การลดปัญหาหมอกควัน ไฟป่าและการเผาในที่โล่ง

ต้นแบบเตาเผาขยะชีวมวลไร้ควันของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ มีผลคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2555 ลักษณะโครงสร้างเป็นเตาทรงจรวด ทำด้วยโลหะเหล็ก มีส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน คือ เตาเผาล่าง เตาเผาบน และปล่องควัน ใช้กำจัดของเหลือทิ้งจากการเกษตรที่เป็นของเสียชีวมวลแห้ง จำพวก เศษไม้ ใบหญ้า ฟางข้าว แกลบ ชานอ้อย เป็นต้น ให้การเผาไหม้สมบูรณ์กว่าการเผาทั่วไป ช่วยลดภาวะโลกร้อนจากการเผาในที่โล่ง สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซค์ลงได้ถึงร้อยละ 98 เมื่อเทียบกับการเผาในที่โล่งแบบเดิม



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525565
    หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ระบุ การบริหารจัดการไฟป่าและหมอกควันเชิงรุกแบบเบ็ดเสร็จ เน้นป้องกันและแก้ไขปัญหา


รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ระบุ การบริหารจัดการไฟป่าและหมอกควันเชิงรุกแบบเบ็ดเสร็จ เน้นป้องกันและแก้ไขปัญหา มิให้มีการเผาในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างเข้มข้นช่วงวิกฤตหมอกควัน

นายสากล ฐินะกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวในโอกาสเป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เตาเผาขยะชีวมวลไร้ควัน นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ ลดมลพิษ ลดหมอกควัน ที่โรงแรมลำพูนวิล อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ว่า สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือทั้ง 10 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ พะเยา ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน น่าน ตาก และอุตรดิตถ์ เป็นพื้นที่เป้าหมายป้องกันและเฝ้าระวังปัญหาไฟป่าและหมอกควันที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น รุนแรงขึ้น เกิดความเสียหายมากขึ้น และมีประชาชนผู้ได้รับผลกระทบมากขึ้น ส่วนราชการและจังหวัดได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาระดับหนึ่งแล้ว โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้จังหวัดบริหารจัดการไฟป่าและหมอกควันเชิงรุกแบบเบ็ดเสร็จ เน้นป้องกันและแก้ไขปัญหา มิให้มีการเผาในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างเข้มข้น คุมเข้มมิให้มีการเผาในพื้นที่เสี่ยงช่วงวิกฤตหมอกควัน ภายใต้การทำงานของศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ ในทุกระดับ โดยกำหนดใช้มาตรการเดิม 5 ข้อ คือ ปรับมาตรการจาก ควบคุมการเผา เป็น ไม่มีการเผา ใช้ระบบ Single Command

ในการสั่งการโดยมีคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้รับผิดชอบ ใช้ระบบ Area Approach โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบ ตั้ง Forward Command ทั้งในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ และปรับเฝ้าระวังจากเดิม 80 วัน เป็น 100 วัน ระหว่างวันที่ 21 มกราคม - 30 เมษายน และได้เพิ่มมาตรการ 13 ข้อ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ปี 2557 ประกอบด้วย เน้นการป้องกันเป็นอันดับแรก สร้างความเข้าใจให้ประชาชนถึงระดับชุมชน สร้างแรงจูงใจให้กับประชาชนในการปฏิบัติตามแนวทางของภาครัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัด คือ ผู้สั่งการสูงสุดในระดับจังหวัด ตามแนวทาง Area Approach และ Regional Single Command ให้ความสำคัญกับการจัดการในพื้นที่เสี่ยงสูง จัดตั้งหน่วยระดับการในพื้นที่ การประชาสัมพันธ์ต้องทั่วถึงทุกระดับ ดำเนินการควบคุมไฟป่าในช่วง 100 วันอันตราย จัดชุดลาดตระเวนร่วมระหว่างหน่วยงานต่างๆ ให้ความสำคัญกับอาสาสมัครป้องกันไฟป่า พิจารณาป้องกันการเผาตอซังข้าวโพดในพื้นที่สูงเป็นพิเศษ สั่งใช้รถดับเพลิงเข้าร่วมปฏิบัติการดับไฟป่าในพื้นที่เส้นทางคมนาคมเอื้ออำนวย พื้นที่สองข้างถนนให้หน่วยงานกระทรวงคมนาคมดูแลอย่างใกล้ชิดและให้ตำรวจทางหลวงร่วมตรวจตราเฝ้าระวัง



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525565
หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

ปภ. เตือนประชาชน 17 จังหวัดภาคเหนือ ระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากพายุฤดูร้อน ในช่วงวันที่ 26-30 เมษายนนี้


นายชุมพร อินตะเทพ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ติดตามสภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 26-30 เมษายน 2557 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงได้แผ่ปกคลุมประเทศจีนตอนกลางแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันที่ 26 เมษายน 2557 ต่อจากนั้นจะแผ่ปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยจะปกคลุมต่อเนื่องจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2557 ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน 17 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ สุโขทัย แพร่ พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ อุทัยธานี และเพชรบูรณ์ ระวังอันตรายจากพายุลมแรงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งอาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน บ้านเรือน โรงเรือน พืชผลทางการเกษตร ป้ายโฆษณา ต้นไม้ใหญ่ และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย ประชาชนที่ใช้เครื่องมือสื่อสารและโทรศัพท์มือถือควรหลีกเลี่ยงการใช้ในที่โล่งแจ้ง ขณะมีฝนฟ้าคะนอง ส่วนผู้ขับขี่ยานพาหนะบริเวณที่มีฝนตกหนักให้ระมัดระวังอันตรายและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ดูแลบ้านเรือนสิ่งก่อสร้างให้แข็งแรง ตัดแต่งต้นไม้ สำหรับเกษตรกรควรตรวจสอบสภาพวัสดุที่ผูกยึดและค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลให้มีความมั่นคงแข็งแรง

หากประชาชนพบเห็นอุบัติเหตุ ภัยพิบัติ หรือต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้บ้าน หรือสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำพูน โทรศัพท์หมายเลข 0-5356-2963 หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง




ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525565
หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

จ.ลำพูน ประกอบพิธีถวายราชสักการะพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี 2557


จ.ลำพูน ประกอบพิธีถวายราชสักการะพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี 2557 น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงกอบกู้เอกราชรักษาชาติบ้านเมืองมาตราบจนทุกวันนี้

นายอาณัติ วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนทุกหมู่เหล่า ประกอบพิธีถวายราชสักการะพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี 2557 ณ ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดลำพูน เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงกอบกู้เอกราชรักษาชาติบ้านเมืองมาตราบจนทุกวันนี้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงมีพระราชกรณียกิจเป็นคุณประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองด้วยการทรงอุทิศพระวรกายทำราชการสงครามเกือบตลอดรัชสมัย พระบรมเดชานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์นั้นแผ่ไพศาล ทำให้อริราชศัตรูเกิดความยำเกรงในอำนาจ ส่งผลให้แผ่นดินไทยร่มเย็นเป็นสุขว่างจากการศึกสงคราม เป็นเวลาถึง 100 ปีเศษ โดยใน พ.ศ.2147 สงครามอังวะ เมืองอังวะบุกรุกเข้ามายังเมืองนายและเมืองแสนหวีได้เสด็จกรีธาทัพพร้อมสมเด็จพระเอกาทศรถขึ้นไปยังเมืองเชียงใหม่ โดยแยกเป็นสองทางสมเด็จพระเอกาทศรถยกทัพไปทางเมืองฝาง ส่วนพระองค์ยกทัพไปทางเมืองหาง ขณะประทับแรมที่ทุ่งแก้ว เกิดประชวรเป็นหัวละลอกขึ้นที่พระพักตร์จนเป็นพิษ ถึงกับเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ.2148 ขณะพระชนมพรรษา 50 พรรษา เสด็จอายุในราชสมบัติ 15 ปี

สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงทำสงครามป้องกันประเทศและแผ่พระราชอาณาเขตรวมทั้งสิ้น 15 ครั้ง ทำให้เขตแดนของกรุงศรีอยุธยาแผ่ออกไปได้กว้างไกลที่สุดนับแต่สถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีเป็นต้นมา คือ ครอบคลุมทั้งเขตแดนมอญ พม่า ล้านนา ไทยใหญ่ ล้านช้าง และเขมร นับว่าแผ่นดินไทยได้รอดพ้นจากอริราชศัตรูมีความเจริญวัฒนาสถาพร ดำรงความเป็นชาติเอกราชก็ด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงกอบกู้เอกราชรักษาชาติบ้านเมืองมาตราบจนทุกวันนี้



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525565

จ.ลำพูน ชูโครงการส่งเสริมเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาลำไย ขับเคลื่อนระบบส่งเสริมการเกษตรมิติใหม่ MRCF system


จ.ลำพูน ชูโครงการส่งเสริมเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาลำไย ปี 2557 เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนระบบส่งเสริมการเกษตรมิติใหม่ MRCF system นำไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกรมากที่สุด

นายไพรัช หวังดี รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการ การจัดแนวทางการขับเคลื่อนระบบงานส่งเสริมการเกษตรโดยมิติ MRCF มี นายชาตรี บุญนาค ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 6 จังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้ดำเนินการประชุม และ ว่าที่ร้อยตรี ดร.สมสวย ปัญญาสิทธิ์ เกษตรจังหวัดลำพูน นำหัวหน้ากลุ่มทุกกลุ่ม เกษตรอำเภอทุกอำเภอและนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรเข้าร่วมประชุม พร้อมนำเสนอผลการดำเนินงานส่งเสริมการเกษตรตามระบบ MRCF ของจังหวัดลำพูนที่นำโครงการส่งเสริมเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาลำไย ปี 2557 เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน โดย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า นโยบายกรมส่งเสริมการเกษตร ปี 2557 มุ่งเน้นการทำงานโดยใช้หลักวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ความเป็นเหตุเป็นผลในการกำหนดรูปแบบและทิศทางการทำงานให้เกิดรูปธรรมที่ชัดเจน มุ่งเน้นการใช้ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์เข้ามามีบทบาทการอ้างอิงเชิงวิทยาศาสตร์ในการประกอบการตัดสินใจ เพื่อสร้างความชัดเจน สามารถตอบสนองปัญหาและแก้ไขได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น

โดยยึดหลักการระบบส่งเสริมการเกษตรมิติใหม่ MRCF system (Mapping Remote Sensing Community Participation Specific Field Service) ประกอบด้วย M (Mapping) หมายถึง การศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเตรียมเข้าทำงานในพื้นที่ โดยเน้นการใช้ข้อมูลแผนที่ R (Remote Sensing) หมายถึง การประสานงานและให้บริการเกษตรกรด้วยวิธีการติดต่อสื่อสารและการเข้าถึงข้อมูลระยะไกล C (Community Participation) หมายถึง ใช้วิธีการจัดเวทีชุมชนในการทำงานและร่วมดำเนินการกับเกษตรกร ชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องแบบมีส่วนร่วม F (Specific Field Service) หมายถึง การเข้าทำงานในพื้นที่แบบเฉพาะเจาะจง โดยมีเป้าหมายและจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ตรงจุดและยั่งยืน

ทั้งนี้ คาดว่า การนำนโยบายการดำเนินงานตามระบบส่งเสริมการเกษตรมิติใหม่ ที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เห็นบทบาท ตัวตนและอัตลักษณ์ของนักส่งเสริมการเกษตรอย่างชัดเจนในฐานะของผู้จัดการการเกษตรในพื้นที่ ผู้นำการเปลี่ยนแปลง “การเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดีที่สุด หรือ Change to the Best” บนพื้นฐานข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์และระบบการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็ว เกิดประโยชน์สูงสุด มาปรับใช้ในระดับพื้นที่ ที่มีความแตกต่างกันทั้งสภาพภูมิประเทศ สังคม วัฒนธรรมประเพณีของพื้นที่ จะนำไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกรมากที่สุด




ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525565
หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

จังหวัดอุตรดิตถ์ จัดพิธีถวายราชสักการะเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี ๒๕๕๗ เพื่อเป็นการถวายความจงรักภักดี และน้อมรำลึกถึงพระราชวีรกรรมและคุณูประการอันยิ่งใหญ่ของพระองค์


วันนี้ (๒๕ เมษายน ๒๕๕๗) ณ บริเวณศาลาประชาคมจังหวัดอุตรดิตถ์ นายชัช กิตตินภดล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยนำคณะข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พนักงานราชการ รัฐวิสาหกิจ ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่และกล้าหาญที่ทรงมีต่อประประเทศไทย ในอดีตพระองค์ได้กอบกู้อิสรภาพของไทย และทำนุบำรุงบ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนปกปักรักษาเอกราชของชาติ จนทำให้มี ประเทศไทยอย่างเช่นทุกวันนี้ ทั้งนี้ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ กำหนดให้วันที่ ๒๕ เมษายนของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และกำหนดให้มีการจัดพิธี วางพวงมาลา เพื่อเป็นการถวายความจงรักภักดี กตัญญูกตเวที และน้อมรำลึกถึงพระราชวีรกรรม พระมหากรุณาธิคุณและคุณูประการอันยิ่งใหญ่ของพระองค์




ทีมข่าวสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์

จังหวัดอุตรดิตถ์ หารือทุกภาคส่วนเตรียมจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวิสาขบูชาโลก ประจำปี ๒๕๕๗

จังหวัดอุตรดิตถ์ หารือทุกภาคส่วนเตรียมจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาล วิสาขบูชาโลก ประจำปี ๒๕๕๗ และกิจกรรมตักบาตรพระ ๑,๑๑๑ รูป ฉลองสมโภช ๙๙ ปี เมืองอุตรดิตถ์

วันนี้ (๒๕ เม.ย.๕๗) ที่ห้องประชุมศิลาอาสน์ ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ นายชัช กิตตินภดล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวิสาขบูชาโลก ประจำปี ๒๕๕๗ พร้อมด้วยนายวีระชัย ภู่เพียงใจ และ นายสมชัย กมลเทพเทวินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือแนวทางการจัดงานฯ ตามที่กระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวิสาขบูชา ประจำปี ๒๕๕๗ ในส่วนภูมิภาค ระหว่างวันที่ ๑๑ – ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๗ โดยมีการมอบหมายภารกิจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบให้เกิดการบูรณาการขับเคลื่อนกิจกรรม

ซึ่งมีกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ การรณรงค์ให้พุทธศาสนิกชนแต่งกายชุดสีขาวหรือชุดปฏิบัติธรรมสีขาวโดยพร้อมเพรียงกัน รวมทั้งรณรงค์การลด ละ เลิกอบายมุข การประดับธงทิวตามอาคารบ้านเรือน ร้านค้า สถานที่ราชการฯตามความเหมาะสมตลอดงานเทศกาลวิสาขบูชาโลก ประจำปี ๒๕๕๗ การจัดพิธีทอดผ้าป่ามหากุศล "กองบุญพุทธชยันดี” สมทบการอบรมคุณธรรม จริยธรรมให้แก่เด็ก และเยาวชน เพื่อใช้จ่ายในการอบรมเยาวชน ในวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๗.๐๐ น. ณ วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง อำเภอลับแล และพิธีเวียนเทียน เนื่องในวันวิสาขบูชา เวลา ๑๘.๐๐ น. ทั้งยังเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมอุปสมบทหมู่ ๑๙๙ รูป ระหว่างวันที่ ๔ – ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ณ มณฑลพิธี ท้องสนามหลวง เป้าหมายจังหวัดละ ๒ คน โดยจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้มีผู้เข้าร่วมอุปสมบทหมู่ดังกล่าวแล้วจากอำเภอเมืองและอำเภอลับแล

นอกจากนี้ยังจัดให้มีพิธีตักบาตรพระ ๑,๑๑๑ รูป ฉลองสมโภช ๙๙ ปี เมืองอุตรดิตถ์ ในวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๖.๓๐ น. ณ บริเวณถนนประชานิมิตร ตั้งแต่หน้าอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหักถึงสี่แยกหน้าโรงเรียนอุตรดิตถ์ ตำบลท่าอิฐ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ทุกท่าน ร่วมบุญสนับสนุนกิจกรรมพระพุทธศาสนา กองบุญกิตติมศักดิ์ กองบุญละ ๑๐,๐๐๐ บาท กองบุญกิตติมสุข กองบุญละ ๕,๐๐๐ บาท กองบุญกิตติเสริม กองบุญละ ๒,๐๐๐ บาท และทำบุญตามจิตศรัทธา สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือร่วมทำบุญได้ที่ศูนย์ประสานงานโครงการ ตักบาตรพระ ๑,๑๑๑ รูปฯ กลุ่มงานปกครองที่ทำการปกครองจังหวัด ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ โทรศัพท์ ๐ – ๕๕๔๑ – ๓๗๗๕ และ ๐ – ๕๕๔๑ – ๕๙๘๑



ข่าว/สุรีย์ แสงทอง ทีมข่าวสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์

ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร นำเหล่าข้าราชการจัดพิธีถวายราชสักการะเนื่องในวันคล้ายวันเสด็จสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2557 ที่หอประชุมใหญ่อศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร นายสุรพล วาณิชเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะและถวายราชสดุดีสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดกำแพงเพชร ทหาร ตำรวจ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และประชาชนจังหวัดกำแพงเพชรร่วมวางพานพุ่มทองพุ่มเงิน เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีพระคุณอนันต์ต่อแผ่นดินไทย โดยพระองค์ได้ทรงกอบกู้อิสรภาพของประเทศไทยจากการเสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่พม่า และนับตั้งแต่สมเด็จพระนเรศวร ประกาศอิสรภาพเป็นต้นมา แม้หงสาวดีจะเพียรพยายามส่งกองทัพเข้ามารบหลายครั้งแต่ก็ถูกกองทัพของกรุงศรีอยุธยาตีแตกพ่ายไปทุกครั้ง โดยพระองค์ทรงเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2133 ซึ่งในขณะนั้นมีพระชนมายุได้ 35 พรรษา และได้ทรงแผ่อำนาจของราชอาณาจักรไทยไปอย่างกว้างใหญ่ไพศาล ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ปกครองบ้านเมืองด้วยหลักทศพิธราชธรรม ทำให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขเสมอมา และทรงเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ.2148 รวมพระชนมมายุ 50 พรรษา สิริรวมการครองราชสมบัติ 15 ปี ดังนั้น เพื่อเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเชิดชูพระเกียรติคุณ พระปรีชาสามารถของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่เลื่องลือปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์ รัฐบาลไทยโดยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 จึงกำหนดให้ทุกวันที่ 25 เมษายนของทุกปีเป็นวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช



นิพนธ์ รอดทรัพย์ / ข่าว
ผู้ตรวจ นายรวีโรจน์ ส่องศรี
ประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร

ส.ปชส.กำแพงเพชรชี้แจงการประชาสัมพันธ์ป้องกันสาธารณภัยและภาวะวิกฤต


เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2557 ที่ห้องประชุมเยาวมาลย์ โรงแรมชากังราวริเวอร์วิว อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร จัดประชุมชี้แจงแนวทางการประชาสัมพันธ์และการรณรงค์ป้องกันสาธารณภัยและภาวะวิกฤตจังหวัดกำแพงเพชร โดยนายรวีโรจน์ ส่องศรี ประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานตามโครงการประชาสัมพันธ์เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาสาธารณภัยและภาวะวิกฤต ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร เกี่ยวกับมาตรการในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของหน่วยงานภาครัฐ แก่ประชาชนและแนวทางปฏิบัติในการเตรียมความพร้อมให้เข้าถึงประชาชนและนำไปสู่การปฏิบัติในเบื้องต้น สำหรับการประชุมฯในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมการประชุมฯ ประกอบด้วยสื่อมวลสาขาวิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค นักจัดรายการวิทยุกระจายเสียง อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชน หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมรวมทั้งสิ้นกว่า 50 คน




นิพนธ์ รอดทรัพย์ / ข่าว
ผู้ตรวจ นายรวีโรจน์ ส่องศรี
ประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร

จังหวัดเพชรบูรณ์จัดงานวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ แห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้ทรงกอบกู้อิสรภาพของไทย


เช้าวันนี้ (25 เม.ย.) ที่ศาลสมเด้จพระนเรศวรมหาราช อำเภอวิเชียรบุรี นายสุชาติ ราษฎร์ดุษดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะและถวายราชสักการะสดุดี หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เดนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ ทรงกอบกู้อิสรภาพของไทย และทำนุบำรุงบ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนปกปักรักษาเอกราชของชาติจนทำให้มีประเทศไทยอย่างเช่นทุกวันนี้

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 2 มีพระนามเดิมว่า พระองค์ดำ พระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาและพระวิสุทธิกษัตริย์ ทรงพระราชสมภพ ณ พระราชวังจันทน์ เมื่อปี พ.ศ. 2098 พระองค์ทรงมีพระเชษฐภคินีและพระอนุชา คือ พระสุพรรณกัลยา และสมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 ทรงเป็นกษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์สุโขทัย ทรงเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 รวมพระชนมพรรษา 50 พรรษา

การจัดงานครั้งนี้เพื่อเผยแพร่เกียรติคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้เป็นพระมหากษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ เป็นการถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ทำนุบำรุงบ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนปกปักรักษาเอกราชของชาติ มีข้าราชการทุกหมู่เหล่าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง

จังหวัดพิษณุโลก จัดงานรัฐพิธีเนื่องในวันวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช


ในวันนี้ (25 เม.ย.57 ) ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายในพระราชวังจันทน์ นายรพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้นำเหล่าบรรดาข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ตุลาการและพสกนิกรชาวจังหวัดพิษณุโลก ประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายราชสดุดีพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อน้อมรำลึกถึงพระ เกียรติคุณและพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อแผ่นดินไทยและชนชาติไทยนับตั้งแต่ที่พระองค์ยังทรงพระเยาว์ พระชนมายุเพียง 9 พรรษาจำต้องจากแผ่นดินไปประทับอยู่ ณ เมืองหงสาวดีในฐานะตัวประกันเป็นเวลาถึง 8 ปี ก่อนที่พระองค์จะกลับยังแผ่นดินไทย ทรงประกาศอิสรภาพและกอบกู้เอกราชของไทยสืบทอดมาจนทุกวันนี้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชหรือที่ชาวบ้านทั่วไปในครั้งนั้นเรียกว่า พระองค์ดำ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาและพระวิสุทธิกษัตริย์ พระราชธิดาของสมเด็จพระศรีสุริโยทัยและสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. 2098 ที่พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก

ในช่วงทรงพระเยาว์ของพระองค์ทรงประทับ ณ พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก หลังจากที่เสด็จกลับแผ่นดินไทยพระองค์ทรงได้รับการสถาปนาเป็นพระมหาอุปราชปกครองเมืองพิษณุโลก และประกาศอิสรภาพไม่ยอมเป็นประเทศราชของกรุงหงสาวดีอีกต่อไป พระองค์ทรงเป็นนักรบที่กล้าหาญและพระปรีชาสมารถเลืองลือทั้งการทำสงครามยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา และได้ทรงแผ่อำนาจของราชอาณาจักรไทย อย่างกว้างใหญ่ไพศาล นับตั้งแต่ประเทศพม่าตอนใต้จากฝั่งมหาสมุทรอินเดียทางด้านตะวันตก ไปจนถึงฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทางด้านตะวันออก ทางด้านทิศใต้ตลอดไปถึงแหลมมลายู ทางด้านทิศเหนือก็ถึงฝั่งแม่น้ำโขงโดยตลอด และยังรวมไปถึงรัฐไทใหญ่บางรัฐ สมเด็จพระนเรศวร ราชาธิราช เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 สิริรวมการครองราชย์สมบัติ 15 ปี เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 รวมพระชนมพรรษา 50 พรรษา

จังหวัดพิษณุโลก ออกหน่วยบริการประชาชน ตามโครงการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน ที่ตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์

เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา ที่วัดบ้านน้ำโจน หมู่ 4 ตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์จังหวัดพิษณุโลก นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นำส่วนราชการและเอกชน ออกหน่วยบริการให้กับพี่น้องประชาชนชาวตำบลคันโช้ง ตามโครงการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ให้สามารถเข้าถึงงานบริการของรัฐได้อย่างสะดวก โดยที่ไม่ต้องลำบากและเสียเวลาเดินทางไปถึงตัวจังหวัด อีกทั้งเป็นการกระจายงานด้านบริการของรัฐสู่ประชาชน ให้เป็นไปอย่างทั่วถึง โดยในครั้งนี้ได้นำบริการจากหน่วยงานราชการมาให้บริการแก่พี่น้องประชาชน อาทิเช่น สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำต้นไม้มาแจกจ่าย สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แนะนำอาชีพ สำนักงานจัดหางานจังหวัดให้ความรู้ด้านแรงงานและรับสมัครงาน สำนักงานขนส่งจังหวัดรับต่อทะเบียนรถ ออกใบอนุญาตขับขี่ กองบิน 46 มอบน้ำมันไบโอดีเซล หน่วยแพทย์ พอ.สว. ให้บริการรักษาผู้เจ็บป่วย สำนักงานประมงจังหวัดมอบพันธุ์ปลา เป็นต้น ซึ่งนอกจากงานบริการจากหน่วยงานของรัฐแล้ว ทางสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลกยังได้มอบอุปกรณ์การกีฬา ชุดนักเรียนพร้อมรถจักรยานให้กับเด็กนักเรียนที่ขาดแคลนเพื่อใช้เป็นพาหนะเดินทางไปโรงเรียน และมอบถุงน้ำใจ ให้กับประชาชนที่มาร่วมโครงการในครั้งนี้อีกด้วย

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17 ตรวจติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาภัยแล้งและโครงการปิดทองหลังพระที่จังหวัดพิษณุโลก


เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา นางสาวอัมพวัน เจริญกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17 ลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ตรวจติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาภัยแล้งและติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการปิดทองหลังพระ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยในช่วงเช้า ได้ประชุมติดตามโครงการฯ ดังกล่าว มี หัวหน้าหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมติดตามโครงการต่างๆ ซึ่งในส่วนของสถานการณ์การแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ผลการดำเนินการโครงการขุดบ่อน้ำบาดาลตามแผน 42 บ่อ ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 26 บ่อ อยู่ระหว่างการดำเนินการ 16 บ่อ และโครงการตามแนวพระราชดำริ "ปิดทองหลังพระ” มี หมู่3 บ้านหนองพระ และ หมู่ 4บ้านดงพลวง ตำบลหนองพระ อำเภอวังทอง โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ชี้แจงความคืบหน้าของโครงการฯดังกล่าว ช่วงบ่ายได้ออกตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ณ หมู่9 ตำบลพันชาลี อำเภอวังทอง ซึ่งทาง อบต.พันชาลีร่วมกับอบจ.พิษณุโลก ได้นำรถบรรทุกน้ำไปแจกจ่ายน้ำให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อนเป็นการแก้ปัญหาภัยแล้งในเบื้องต้น

ต่อจากนั้นเดินทางไปติดตามโครงการตามแนวพระราชดำริ "ปิดทองหลังพระ” ที่หมู่3 บ้านหนองพระ และ หมู่ 4บ้านดงพลวง ตำบลหนองพระ อำเภอวังทอง ผู้ตรวจราชการฯ กล่าวว่า จังหวัดพิษณุโลก มีการแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้ดี ทั้งการบริการน้ำ อุปโภค-บริโภค น้ำเพื่อการเกษตร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แต่ที่จะต้องดำเนินการคือการแก้ไขปัญหาระยะยาว โดยนำเอานโยบายของพระเจ้าอยู่หัวฯมาใช้ คือการขุดบ่อน้ำแบบหลุมขนมครก สร้างแหล่งน้ำในพื้นที่สาธารณะและในพื้นที่ของเกษตรกรเอง เพื่อกักเก็บไว้ใช้ในยามน้ำแล้ง และยังรณรงค์ให้ปลูกต้นไม้คลุมดินเพื่อปรับสภาพดินให้ดีขึ้น ส่วนโครงการปิดทองหลังพระนั้น ทางประชาชน จังหวัดพิษณุโลกให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี รู้จักการพึงตนเอง สร้างความภูมิใจที่ประชาชนสามารถยืนด้วยลำแข่งของตัวเองได้ อีกทั้งจะได้เป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญให้กับจังหวัดและประเทศชาติต่อไป

ท้องถิ่นจังหวัดพิษณุโลกจัดอบรมโครงการพัฒนาศักยภาพครูผู้ดูแลเด็ก และผู้ดูแลเด็ก ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดพิษณุโลก ประจำปี 2557


เช้าวันนี้ ( 25 เม.ย.57 ) ที่โรงแรมท็อปแลนด์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก นายวัฒนะ กันนะพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมโครงการพัฒนาศักยภาพครูผู้ดูแลเด็ก และผู้ดูแลเด็ก ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดพิษณุโลก ประจำปี 2557 เนื่องจากการจัดการศึกษาปฐมวัยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นภารกิจที่สำคัญอีกประการหนึ่ง ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งได้กำหนดนโยบายเพื่อพัฒนาเด้กปฐมวัยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นสถานศึกษาปฐมวัยที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน สามารถพัฒนาเด้กปฐมวัยให้มีการพัฒนาการเป็นไปตามวัยเต็มศักยภาพทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา

ซึ่งผู้ที่มีบทบาทสำคัญ และใกล้ชิดกับเด็กเล็กดังกล่าว ที่มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาการของเด็กทุกๆด้าน ได้แก่ผู้ดูแลเด็ก ซึ่งปฎิบัติหน้าที่อยู่ในเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล ดังนั้นสำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดพิษณุโลก จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพครูผู้ดูแลเด็ก และผู้ดูแลเด็ก ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดพิษณุโลก ประจำปี 2557 ขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุนและให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ตลอดจนได้ทราบปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไขเกี่ยวกับการพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตลอดจนเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รับการพัฒนาความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ในการจัดการศึกษาปฐมวัยให้กับเด็กภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้อย่างมีประสิทฺธิภาพ เหมาะสมตามวัย และเป็นพื้นฐานสำคัญแก่เด็ก สำหรับการศึกษาในขั้นสูงและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคูณภาพในอนาคตต่อไป ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมในครั้งนี้ประกอบด้วย ครูผู้ดูแลเด็ก และผู้ดูแลเด็ก ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ในสังกัดเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล ในจังหวัดพิษณุโลก จำนวนกว่า 300 คน

จังหวัดพิษณุโลกร่วมกับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด จัดการแข่งขันศึกมวยไทยมาราธอน วีโก้ แชมป์ และคาราวาน ซีพีเอฟ

บ่ายวันนี้ ( 25 เม.ย.57 ) ที่โรงยิมเนเซี่ยม 600 ที่นั่งภายในสนามกีฬากลางจังหวัดพิษณุโลก นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเป็นประธานเปิดการแข่งขันศึกมวยไทยมาราธอน วีโก้ แชมป์ และคาราวาน ซีพีเอฟ ซึ่งการจัดการแข่งขันชกมวยในรายการดังกล่าว จังหวัดพิษณุโลกร่วมกับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัดและบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้นักมวยไทยได้แสดงฝีมือและพัฒนาทักษะแม่ไม้มวยไทย ให้ก้าวไปสู่สังเวียนการแข่งขันมวยไทย ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติ ซึ่งบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัดเป็นผู้ริเริ่มจัดการการแข่งขัน มวยไทยมาราธอน 3 ยกเป็นครั้งแรก โดยจัดการแข่งขัน "ศึกมวยไทยมาราธอน วีโก้ แชมป์ และคาราวาน ซีพีเอฟ” ซึ่งถือได้ว่าเป็นการแข่งขันมวยไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดรายการหนึ่งของประเทศ ทั้งในด้านมาตรฐานการจัดการแข่งขัน การประกบคู่มวยในรายการ ตลอดจนมูลค่ารางวัลการแข่งขัน โดยการจัดในครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจาก เพชรยินดี บ็อกซิ่ง โปรโมชั่น โปรโมเตอร์มวยชื่อดัง เป็นผู้ดำเนินการจัดการแข่งขัน โดยจะจัดการแข่งขันจำนวนทั้งสิ้น 5 สนาม ระหว่างเดือนเมษายน ถึงตุลาคมศกนี้

โดยในครั้งนี้ถือเป็นสนามแรก โดยศึกมวยไทยมาราธอน วีโก้ แชมป์ และคาราวาน ซีพีเอฟ ได้รวบรวมสุดยอดนักมวยไทยที่ดีที่สุดในรุ่น ซุปเปอร์ไลต์เวต น้ำหนักไม่เกิน 65 กิโลกรัม โดยมีสมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก และยอดมวยชาวไทย พบกับนักมวยไทยนานาชาติ 6 คน ทำการแข่งขันในรูปแบบมวยไทยมาราธอน 3 ยก จบภายใน 1 วัน โดยใช้วิธีจับฉลากแบ่งคู่ขึ้นชกในระบบแพ้คัดออก เพื่อหาคู่ชิงชนะเลิศที่จะเข้าไปร่วมชิงเงินรางวัล มูลค่ากว่า 500,000 บาท นอกจากนี้บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัดยังได้ร่วมมือกับเครือเจริญโภคภัณฑ์อาหาร ซีพี นำสินค้าบริโภค อาทิเช่น ไข่ไก่ ผลิตภัณฑ์อาหารสด อาหารแปรรูป และอาหารสำเร็จรูป มาจัดจำหน่ายให้กับประชาชนในราคาพิเศษ ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่เป็นผลิตผลจากเกษตรกรในชุมชน ที่จำหน่ายให้กับเครือเจริญโภคภัณฑ์เพื่อนำมาแปรรูป จึงนับได้ว่าเป็นการสร้างงาน และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายสินค้าโอท็อปของชุมชน เพื่อช่วยส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชนอีกด้วย

จังหวัดพิษณุโลก เตรียมความพร้อม ประสานทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวกในการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่นวันที่ 27 เมษายน นี้


เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเตรียมความพร้อมในการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้ขอความร่วมมือส่วนราชการในการดำเนินงานเกี่ยวกับการจราจร การคมนาคม การประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการสอบ สถานที่สอบ การควบคุมราคาอาหาร สินค้าอุปโภค บริโภค ที่พัก และด้านการปฐมพยาบาล เนื่องจากคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น ได้กำหนดให้มีการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ในวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2557 โดยมีตำแหน่งที่รับสมัครตามที่ อปท. ร้องขอ จำนวน 68 ตำแหน่ง รวม 6,889 อัตรา มีผู้สมัครสอบทั้งสิ้น 58,7874 คน โดยมีสนามสอบทั่วประเทศจำนวน 10 เขต สำหรับจังหวัดพิษณุโลกกำหนดให้เป็นศูนย์สอบภาคเหนือเขต 2 ประกอบด้วย จังหวัดกำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี มีสนามสอบแข่งขัน จำนวน 10 แห่ง จำนวนผู้มีสิทธิการสอบทั้งสิ้น 46,189 คน มีตำแหน่งว่างที่จะบรรจุ จำนวน 663 ตำแหน่ง จำนวนผู้ที่มาสอบในสนามสอบจังหวัดพิษณุโลก รวมทั้งสิ้น 20,092 คน

โดยแยกสถานที่สอบดังนี้ มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม ส่วนทะเลแก้ว 7,351 คน มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม ส่วนวังจันทน์ 1,120 คน โรงเรียนเซนต์นิโกลาส 1,575 คน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ภาคเหนือ 1,050 คน โรงเรียนผดุงราษฎร์ 2,100 คน โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม 1,950 คน โรงเรียนพุทธชินราชพิทยา 1,440 คน โรงเรียนอนุบาลโรจนวิทย์ 1,155 คน วิทยาลัยเทคโนโลยีบริหารธุรกิจพิษณุโลก 1,092 คน วิทยาลัยอาชีวศึกษาพณิชยการพิษณุโลก 1,225 คน และมีผู้เข้าสอบกระจายไปสอบในจังหวัดกำแพงเพชร 17,111 คน จังหวัดพิจิตร 4,025 คน จังหวัดสุโขทัย 4,961 คน ทั้งนี้ในวันสอบขอให้ผู้เข้าห้องสอบต้องใส่เสื้อยืด ไม่มีปก ไม่มีกระดุม ไม่มีกระเป๋า สวมกางเกงวอร์มขายาว และห้ามสวมถุงเท้าและรองเท้าเข้าห้องสอบโดยเด็ดขาด โดยมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต จะประกาศผลการสอบแข่งขันในวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 สำหรับผู้มีสิทธิสอบ สามารถเข้าไปตรวจสอบสนามสอบล่วงหน้าได้ที่ สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดพิษณุโลก www.dlaapplicant.com หรือ โทรศัพท์ 055-232490-1

สพป.พล.1 จัดกิจกรรมไหว้พระสวดมนต์สร้างวัฒนธรรมองค์กรตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน


เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 (ผอ.สพป.พล.1) เป็นประธานในกิจกรรมไหว้พระสวดมนต์ของข้าราชการและบุคลากรสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 ณ ห้องประชุมขวัญมณฑล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 โดยมีผู้บริหารการศึกษา ข้าราชการ ลูกจ้าง จำนวน 115 คน เข้าร่วมกิจกรรม โดยมีพระมหาธนศักดิ์ จินตกวี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสและเลขานุการเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหารเป็นพระวิทยากร

สำหรับกิจกรรมไหว้พระสวดมนต์มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้าราชารครูและบุคลากรทางการศึกษาได้น้อมนำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนามาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตที่จะส่งผลให้เกิดความเป็นสิริมงคลสงบสุขร่มเย็น ต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และ เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กร สร้างสังคมต้นแบบ บุคคลต้นแบบ ตอบสนองอุดมการณ์ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 "เราจะสร้างเด็กดีและเด็กเก่ง สู่สังคมไทยและสังคมโลก" โดยใช้วิธีการ "ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน" และจะต่อยอดลงไปในระดับโรงเรียนด้วยการให้ผู้บริหารโรงเรียน คณะครู ได้ไหว้พระสวดมนต์เดือนละ 1 ครั้ง และลงสู่นักเรียนด้วย การนั่งสมาธิก่อนเข้าเรียนเช้า-บ่ายและสวดมนต์ก่อนกลับบ้านทุกวัน ทำให้การปฏิบัติตนในการสวดมนต์ไหว้พระทำสมาธิเป็นวิถีชีวิต ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนต่อไป

จังหวัดพิษณุโลก สนองพระราชดำริโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

จังหวัดพิษณุโลก สนองพระราชดำริโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา ในปี พ.ศ. 2558

สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก สนองพระราชดำริโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา ในปี พ.ศ. 2558 โดยเริ่มดำเนินโครงการปลูกในพื้นที่ของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลกมีการขยายผลสู่พื้นที่ของสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรและชุมชน เน้นการประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้บุคลากรของสำนักงานสหกรณ์จังหวัด สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรและประชาชนทั่วไป เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ฟื้นฟูพันธุ์พืชท้องถิ่นและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ว่าที่ ร.ต. ทรงศักดิ์ ภูมิฐานนท์ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลกเปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าและเยี่ยมชมโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีในนิคมสหกรณ์วังทอง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก พบพันธุ์เฟินชายผ้าสีดา ซึ่งหาดูยากในธรรมชาติทั่วไป ปรากฏว่ามีขึ้นติดอยู่ที่ลำต้นจามจุรีเป็นจำนวนมาก บริเวณด้านหลังสำนักงานนิคมสหกรณ์วังทอง จากการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า พันธุ์เฟินชายผ้าสีดาที่พบในนิคมสหกรณ์วังทอง เป็นตระกูลสายพันธุ์ P.wallichii (วอ-ลิ-ชิ-ไอ) ใบกาบมีลักษณะชูตั้งขึ้นเป็นตะกร้า หรือมงกุฎ มีขนาด 30-60 ซ.ม. ปลายขอบเป็นแฉกลึก เกือบถึงครึ่งของขนาดใบ แตกแฉกเป็นคู่มากกว่า 1 ครั้ง ใบกาบจะงอกออกมาทีละคู่และเปลี่ยนเป็นเป็นสีน้ำตาลเมื่อใบแก่ ในขณะที่ใบชายยังคงสภาพเขียวอยู่ส่วนใบชายมีลักษณะงอกออกมาเป็นคู่ ใบชายห้อยลง ยาวถึง 30-60 ซ.ม. ใบชายผ้าช่วงโคนออกมาเป็นแผ่นแผ่กว้าง ปลายใบแผ่สยายเป็นแฉกริ้ว ปลายแฉกแคบ ขอบเรียบ เส้นใบหลักแตกกิ่งสาขาเป็นคู่ พันธุ์เฟินชายผ้าสีดาที่พบในนิคมสหกรณ์วังทองคือหนึ่งใน 4 สายพันธุ์ที่พบในประเทศไทยและหาดูยาก จึงให้อนุรักษ์ไว้ในโครงการฯ ดังกล่าว สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลกกล่าวอีกว่า ได้มอบให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันดูแลรักษาพันธุ์เฟินชายผ้าสีดาที่พบในนิคมสหกรณ์วังทองเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นชนิดปลูกเลี้ยงยาก

โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายน นี้ ซึ่งมีสภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้ลำต้นเหี่ยวเฉา จึงให้วางระบบน้ำเปิด-ปิดเป็นเวลาป้องกันปัญหาลำต้นเน่าและตายได้เพื่อเป็นการส่งเสริมร่วมอนุรักษ์พันธุกรรมพืชท้องถิ่นและเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ดี ซึ่งนับวันจะหาดูได้ยากไว้ในโครงการอนุรักษ์พันธุ์กรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีซึ่งที่ผ่านมา นิคมสหกรณ์วังทอง ได้มีการประชาสัมพันธ์โครงการฯ โดยมีสหกรณ์นิคมวังทอง จำกัด สหกรณ์นิคมเนินมะปรางจำกัด สหกรณ์นิคมพันชาลี จำกัด มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมดังกล่าวเพื่อรวบรวมพันธุ์ไม้ท้องถิ่นหายากนำมาปลูกไว้ในเขตพื้นที่ของนิคมสหกรณ์วังทอง เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติให้คงความสมดุล ใช้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้อันจะเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลังต่อไป นายอภิชาต มนัสตรง ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ กล่าวว่า สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก มอบให้กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์รับผิดชอบประสานงานและจัดทำทะเบียนข้อมูลทางพฤกษศาสตร์ของพันธุ์ไม้การใช้ประโยชน์ การกระจายพันธุ์การปลูกเลี้ยง และการอนุรักษ์ไว้ที่ Websitehttp://webhost.cpd.go.th/plkcoop/ ซึ่งมีพันธุ์ไม้ที่ร่วมอนุรักษ์ไว้ในโครงการกว่า 50 ชนิดประเภทพันธุ์ไม้ยืนต้น พันธุ์ไม้พื้นเมือง และพืชสมุนไพรสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการหรือสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลพันธุ์ไม้ ติดต่อประสานงานได้ที่ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก เลขที่ 263 หมู่ที่ 8 ตำบลท่าทอง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก หมายเลขโทรศัพท์ 0-5522-7530 ต่อ 208 เพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลพันธุ์ไม้ระหว่างกัน สร้างเครือข่ายความร่วมมือ ความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเชื่อมโยงให้เกิดการเรียนรู้การนำมาใช้ประโยชน์และร่วมกันอนุรักษ์พันธุ์ไม้ในที่สุด

จังหวัดตาก จัดงานรัฐพิธีวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต

นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ กำหนดให้วันที่ ๒๕ เมษายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ และเพื่อถวายราชสดุดีและแสดงความกตัญญูกตเวทิตาคุณ รวมทั้งเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์ต่อปวงชนชาวไทย และทรงปกป้องบ้านเมืองและคนไทยทั้งมวล โดยเฉพาะราชการสงคราม ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่งของชาติไทย และพระองค์ได้กู้อิสรภาพของไทยจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก รวมทั้งได้ทรงทำสงครามเข้าไปในประเทศที่เป็นข้าศึกของไทย ในทุกทิศทาง จนประเทศไทยอยู่เป็นปกติสุขปราศจากศึกสงครามและเป็นเอกราช ซึ่งเป็นวีรกรรมที่เลื่องลือปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์ตราบจนทุกวันนี้

จังหวัดตาก จึงได้จัดพิธีวางพวงมาลาและพิธีถวายราชสดุดีสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในวันนี้ (๒๕ เม.ย.๒๕๕๗) เริ่มตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ น. ณ บริเวณศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ พนักงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มพลังมวลชน และประชาชน ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก