วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2557

สมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เล่จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดพิธีเปิดตัวสมาคมฯ อย่างเป็นทางการ

วันนี้ (24 เม.ย. 57) ณ โรงเรีนบ้านลานบ่า ตำบลลานบ่า อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เวลา 10.00 น. นายสุชาติ ราษฎร์ดุษดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2557 สมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์จังหวัดเพชรบูรณ์ (ส.ย.พ.) สมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เล่จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดพิธีเปิดตัวสมาคมอย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศพันธกิจในการสนับสนุนการปลูกใบยาสูบและส่งเสริมคุณภาพของใบยาสูบเบอร์เล่ รวมทั้งรณรงค์ให้สมาชิกปลูกยาสูบตามแนวทางการทำการเกษตรที่ดี พร้อมต่อสู้เพื่อปกป้องอาชีพชาวไร่ยาสูบ เนื่องจากอาชีพการปลูกยาสูบมีความสำคัญและสร้างรายได้ให้แก่จังหวัดเพชรบูรณ์มาเป็นเวลานาน ซึ่งทางสมาคมฯให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมเพื่อสังคมในชุมชนเพื่อเสริมสร้างความสามัคคี ความร่วมมือและการประสานงานระหว่างสมาชิก และนโยบายกฎระเบียบเกี่ยวกับยาสูบที่เป็นธรรมมีเหตุมีผลกับทั้งสมาชิกและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งความยั่งยืนและความปลอดภัยในการทำไร่ยาสูบ

นายสุชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า การปลูกยาสูบมีความสำคัญต่อจังหวัดเพชรบูรณ์มาก ในจังหวัดเพชรบูรณ์มียาสูบพันธุ์เบอร์เลย์คุณภาพดี ที่เป็นพืชเศษรฐกิจสำคัญประจำจังหวัด ทั้งยังสร้างรายได้และยกระดับความเป็นอยู่ให้แก่ชาวเพชรบูรณ์กว่า 5000 ครอบครัว ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นด้วยกับทางสมาคมฯ ในการส่งเสรมการปลูกยาสูบที่ได้มาตรฐาน ซึ่งท้ายที่สุดจะเป็นการช่วยให้คนในจังหวัดมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจรวมทั้งรายได้รวมของประเทศ พร้อมกันนี้ได้เปิดป้ายชื่อสมาคมฯ อย่างเป็นทางการ

ประกันสังคมจังหวัดเพชรบูรณ์ จัดการประชุมแกนนำเครือข่ายประกันสังคม

วันนี้ (24 เม.ย. 57) ที่โรงแรมโฆษิตฮิลล์ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ เวลา 11.30 น. นายสุชาติ ราษฎร์ดุษดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานการประชุมแกนนำเครือข่ายประกันสังคม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ แกนนำเครือข่ายประกันสังคมที่มีความเข้มแข็ง อาทิ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน อาสาสมัครแรงงาน จากทั้ง 11 อำเภอในจังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวนทั้งสิ้น 60 คน จัดขึ้นโดยประกันสังคมจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อให้แกนนำเครือข่ายประกันสังคมได้ทราบถึงภารกิจงานของสำนักงานประกันสังคม โดยเฉพาะงานขยายความคุ้มครองแรงงานนอกระบบ (ผู้ประกันตนมาตรา 40) และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประชาสัมพันธ์ และเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ให้เข้าใจถึงประโยชน์ของการประกันสังคมภาคสมัครใจ กระตุ้นให้ประชาชนในพื้นที่สมัครเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 มีการชำระเงินสมทบอย่างต่อเนื่อง และชำระเงินสมทบล่วงหน้าทำให้ประชาชนไม่ขาดสิทธิการขอรับประโยชน์ทดแทน เป็นการรักษาอัตราคงอยู่ของการจ่ายเงินสมทบ

การสัมนา/ประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการตลาดโคเนื้อ และศึกษาดูงานโครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตโคเนื้อคุณภาพ จังหวัดเพชรบูรณ์

วันนี้ (24 เม.ย. 57) ณ โรงแรมโอเอซิส จังหวัดเพชรบูรณ์ เวลา 09.00 น. นายสุชาติ ราษฎร์ดุษดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดการสัมนา/ประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการตลาดโคเนื้อ และศึกษาดูงานโครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตโคเนื้อคุณภาพ จังหวัดเพชรบูรณ์ การสัมนาครั้งนี้ จัดขึ้นโดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อให้เกษตรกรสมาชิกกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อมีความรู้ความเข้าใจในกลไกการตลาดโคเนื้อ และเพื่อเพิ่มศักยภาพเครือข่ายผุ้เลี้ยงโคเนื้อ ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และวิเคราะห์การตลาดร่วมกัน โดยมีวิทยากรที่มากไปด้วยประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถด้านดคเนื้อโดยเฉพาะให้เกียรติมาบรรยายให้ความรู้ แก่ผู้เข้าร่วมการสัมนาประกอบด้วยเกษตรกรสมาชิกกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 80 ราย และเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 24 ราย รวม 104 ราย

จังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ จัดทำโครงการ การอบรมทหารกองประจำก่อนปลดเป็นทหารกองหนุน

จังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ ได้จัดทำโครงการ การอบรมทหารกองประจำก่อนปลดเป็นทหารกองหนุน ซึ่งจะปลดประจำการ ในวันที่ 1 พ.ค.57 นี้ รุ่นที่ 3 ของการดำเนินโครงการ โดยได้เริ่มดำเนินการในรุ่นแรกเมื่อ เม.ย. 56 สำหรับในครั้งนี้ มีจำนวนยอดพลทหารกองประจำการในสังกัด พล.ม.1 และ จทบ.พ.ช. เข้ารับการอบรม จำนวนทั้งสิ้น 806 นาย โดยได้รับความอนุเคราะห์จาก พล.ม.1 ในการจัดกำลังพลเข้ารับการอบรม ที่โรงฝึกกีฬาเอนกประสงค์ พล.ม.1 เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ตระหนักถึงความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ และทราบถึงสิทธิ หน้าที่ บทบาท ของทหารกองหนุน ภายหลังการปลดประจำการไปแล้ว และเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกทหารกองหนุนตามที่ จทบ.พ.ช. ได้จัดตั้งชมรมทหารกองหนุนอย่างเป็นรูปธรรม เป็นการพบปะและปฏิสัมพันธ์ ระหว่างทหารกองประจำการก่อนปลดเป็นทหารกองหนุน ซึ่งทาง จทบ.พ.ช. ได้จัดวิทยากรมาบรรยายให้ความรู้ทั้งวิทายกรภายในหน่วย ประกอบด้วย ฝกร.จทบ.พ.ช. ฝ่ายสรรพกำลัง จทบ.พ.ช. สัสดี จว.พ.ช. และวิทยากรภายนอก อาทิ พลโท ดร.ไพโรจน์ วรรณตรง ประธานชมรมข้าราชการบำนาญทหาร และทหารผ่านศึก จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมคณะ มาให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการอบรม

เกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำหลายพื้นที่ในจังหวัดเพชรบูรณ์

เกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำหลายพื้นที่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ 23 เม.ย.57 เวลาประมาณ 19.00 น.ที่ตำบลพุเตย อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ มีพายุลมและฝนคะนอง มีลูกเห็บตกขนาดเท่าปลายนิ้วมือ ต้มไม้ลมขวางบนถนนสายสระบุรี-หล่มสัก ระหว่างตำบลพุเตย-อำเภอศรีเทพ ต...ลอดเส้นทาง มีหลังคาบ้านเรือนประชาชนปลิวลงมาบนถนนสายพุเตย-ซับน้อย บริเวณ ม.1 ต.พุเตย อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ มีต้มไม้ล้มทับสายไฟฟ้าขาดทำให้ไฟฟ้าดับหลายหมู่บ้าน ส่วนที่อำเภอบึงสามพันเกิดลมแรงต้มไม้ล้มขวางทางการจรจร เสาไฟฟ้าหัก สัญญาณไฟแยกราหุลดับ เขต ต.วังพิกุล ต้นไม้หักโค่นขวางทางการจราจร สายตรวจ,กู้ภัย,อส.ตร.,ชาวบ้านช่วยกัน รถผ่านได้ เขตบ้านลำตะคล้อ เสาไฟฟ้าหัก 13 ต้น ทุกฝ่ายช่วยกัน พ้นกีดขวาง ไฟฟ้าดับใน ต.กันจุ มีสายตรวจ,กู้ภัย,การไฟฟ้า กำลังดำเนินการ บริเวณสี่แยกราหุล สัญญาณไฟดับ ส่วนที่อำเภอหนองไผ่ เกิดพายุ ฝนฟ้าคะนอง มีฝนตกลงมา มีต้นไม้หักโค่นขวางเส้นทางหลายสาย บ้านเรือนราษฎรถูดพายุพัดได้รับความเสียหายไปตาม ๆ กัน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำลังเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือ ต่อไป

โรงสีไฟไทยเสรี เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรม “จิบกาแฟ แชร์ความคิด”

เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2557 เวลา 07.00 น. ที่โรงสีไฟไทยเสรี อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรม "จิบกาแฟ แชร์ความคิด” โดยมี นายสุรพล วาณิชเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานในการจัดกิจกรรม และมี นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดกำแพงเพชรเข้าร่วมในการจัดกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง กิจกรรม"จิบกาแฟ แชร์ความคิด” เป็นกิจกรรมที่จังหวัดกำแพงเพชร จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ได้มีโอกาสพบปะ สนทนา ถึงการดำเนินงานต่าง ๆ ในจังหวัดกำแพงเพชร ตลอดจนการปรึกษาหาลือเพื่อหาแนวทางพัฒนาจังหวัดในด้านต่างๆร่วมกัน โดยมุ่งหวังให้ประโยชน์จากการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เกิดผลแก่จังหวัด และประชาชนอย่างสูงสุด



นิพนธ์ รอดทรัพย์ / ข่าว
ผู้ตรวจ นายรวีโรจน์ ส่องศรี
ประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร

ททท. ขอเชิญร่วมกิจกรรมเปิดนิทรรศการถาวรพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำแพงเพชร และการเฉลิมฉลอง 500 ปี การประดิษฐานพระอิศวรเมืองกำแพงเพชร

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2557 ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำแพงเพชร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ กรมศิลปากร มีนายอเนก สีมาตย์ อธิบดีกรมศิลปกร นายสุรพล วานิชเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร และรองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ได้จัดงานแถลงข่าว กิจกรรมเปิดนิทรรศการถาวรพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำแพงเพชรและการเฉลิมฉลอง 500 ปี การประดิษฐานพระอิศวรเมืองกำแพงเพชร ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 13 พฤษภาคม 2557 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำแพงเพชร และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร

กิจกรรมเปิดนิทรรศการถาวรพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำแพงเพชรและการเฉลิมฉลอง 500 ปี การประดิษฐานพระอิศวรเมืองกำแพงเพชร เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเมืองวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยว (สุโขทัย ศรีสัชนาลัย กำแพงเพชร) ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองท่องเที่ยวให้เป็นเมืองที่มีชีวิต เชื่อมโยงระบบขนส่ง พัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน และลดการใช้พลังงาน โดยจะมีพิธีเปิดนิทรรศการถาวรพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำแพงเพชร ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2557 เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในการดำเนินโครงการพัฒนาเมืองวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยวในหมู่นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป ตลอดจนการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ท้องถิ่นให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้มากยิ่งขึ้น เกี่ยวกับโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุของท้องถิ่นและเป็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติสาสตร์ของชาติให้เป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นกรมศิลปากรจึงได้จัดกิจกรรมการเปิดนิทรรศการถาวรฯ ขึ้นตลอดทั้ง 5 วัน คือตั้งแต่วันที่ 9 – 13 พฤษภาคม 2557 โดยจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจต่าง ๆ ดังนี้ นิทรรศการถาวรพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำแพงเพชร นิทรรศการพระอิศวรเมืองกำแพงเพชร นิทรรศการศิลปะจากซากปรักหักพัง รวมทั้ง กิจกรรมทางวัฒนธรรมมากมาย อาทิ การแสดงโขนกรมศิลปากร การแสดงหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ การแสดงแสง สี เสียง และสื่อผสม "เล่าเรื่อง เมืองกำแพงเพชร” การจัดแสดงสาธิตผลิตภัณฑ์ต้นแบบการต่อยอดมรดกทางศิลปวัฒนธรรม การออกร้านผลิตภัณฑ์ชุมชน และโอท็อปวัฒนธรรม ตลาดย้อนยุค การประกวดพระเครื่องเมืองกำแพงเพชร การจัดงานสัปดาห์วันวิสาขบูชา และเชิญร่วมเวียนเทียนเนื่องในวันวิสาขบูชา 13 พฤษภาคม 2557

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมทางวิชาการโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายหน่วยงาน ได้แก่ การเสวนา เรื่อง "พระอิศวรเมืองกำแพงเพชร กับหลักเมืองกำแพงเพชร” และ "ศิลปะจากซากปรักหักพังในอุทยานประวัติศาสตร์มรดกโลกในจังหวัดสุโขทัย และจังหวัดกำแพงเพชร” และการปาฐกถาเรื่อง "การขยายพรมแดนในประวัติศาสตร์ไทยสมัยก่อนสุโขทัยและสมัยสุโขทัย” ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย โทร. 0 5569 7364



นิพนธ์ รอดทรัพย์ / ข่าว
ผู้ตรวจ นายรวีโรจน์ ส่องศรี
ประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร

สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำพูน เชิญร่วมงาน "วันแรงงานแห่งชาติ" สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำพูน เชิญร่วมงาน "วันแรงงานแห่งชาติ"

นายประเสริฐ ปาลี สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า จังหวัดลำพูนโดยคณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติจังหวัดลำพูน ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นที่ปรึกษาการจัดงานกำหนดจัดงานวันแรงงานแห่งชาติประจำปี 2557 ในวัพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม 2557 ที่สนามกีฬาโรงเรียนจักรคำคณาทร อำเภอเมือง จังหวัดลำพูนลำพูน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนทั่วไปตระหนักในความสำคัญและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ใช้แรงงาน ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกจ้างกับนายจ้างและประชาชนทั่วไป

ในงานมีการประกวดพาเหรดของผู้ใช้แรงงาน เพื่อรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด การค้ามนุษย์และการเอาเปรียบด้านแรงงาน อีกทั้งมีการแข่งขันขันกีฬา ประกวดกองเชียร์ การทำบุญทอดผ้าป่า เพื่อสมทบทุนสร้างกุฏิสงฆ์ วัดห้วยไซ ตำบลห้วยยาบ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน และการแสดงอื่นๆอีกมากมาย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำพูน โทรศัพท์ 053-537-704 โทรสาร 053-525-541




ข่าวโดย : นศ.ฝึกประสบการณ์ นางสาวรุจิรา เสนานุช
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

กระทรวงมหาดไทย แจ้งผลตรวจสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม พบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารจริง กระทรวงมหาดไทย แจ้งผลตรวจสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม พบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารจริง

ด้วยกระทรวงมหาดไทย ได้รับแจ้งจากสถาปนิกว่า สภาสถาปนิกได้ตรวจสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม พบว่า มีการปลอมแปลงใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม จำนวน 2 ราย

สภาสถาปนิกได้ตรวจสอบแล้วพบว่า กรณีบริษัท บางกอก เดค-คอน จำกัด ปรากฎสำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม ของนายอภิชาต ยางสูง ใบอนุญาตเลขที่ ภ-สถ 18524 เป็นผู้จักการโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่ ซึ่งข้อเท็จจริงแล้ว นายอภิชาต ยางสูง ใบอนุญาตเลขที่ ภ-สถ 18524 มิได้เป็นสมาชิกของสถาปนิกและไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม

ส่วนกรณีบริษัท แกรนด์ คาแนลแลนด์ จำกัด (มหาชน) ที่มีนายชิกกวัช เรืองเวชภักดี หรือชื่อเดิม นายชิราวัฒน์ เรืองเวชภักดี ใช้สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม เลขที่ ส-สถ 1784 ประกอบการสมัครงาน ซึ่งข้อเท็จจริงแล้ว นายชิกกวัช เรืองเวชภักดี หรือชื่อเดิม นายชิราวัฒน์ เรืองเวชภักดี ใบอนุญาต เลขที่ ส-สถ 1784 มิได้เป็นสมาชิกของสถาปนิกและไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม ดังที่กล่าวอ้าง

ทั้งนี้เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทย สภาสถาปนิกจึงได้แจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลสุทธิสารแล้ว




ข่าวโดย : นศ.ฝึกประสบการณ์ นางสาวรุจิรา เสนานุช
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

จังหวัดลำพูน แจ้งเตือนโรคที่เกิดในฤดูร้อน จังหวัดลำพูน แจ้งเตือนโรคที่เกิดในฤดูร้อน

สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดลำพูน ได้รับแจ้งจากกรมควบคุมโรค เรื่อง การป้องกันโรคที่เกิดขึ้นในฤดูร้อน เพื่อประกาศแจ้งเตือนและเผยแพร่ข่าวสารให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบและระมัดระวัง

ด้วยขณะนี้กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง อาจส่งผลให้ประชาชนเกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆที่เกิดจากอากาศร้อน เช่น โรคติดต่อทางอาหารและน้ำ โรคพิษสุนัขบ้า โรคลมแดด รวมถึงพฤติกรรมของประชาชนที่อาจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคและภัยสุขภาพ โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่ทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้ชี้แนะแนวทางให้ประชาชนได้ทราบอาการสำคัญ วิธีป้องกัน การบำบัดรักษาเบื้อต้นสำหรับโรคที่จะเกิดในฤดูร้อน ดังนี้ โรคติดต่อทางอาหารและน้ำ ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนปรุงอาหาร รับประทานอาหารและหลังอาหาร หากมีอาการควรรับประทานเกลือแร่ละลายน้ำต้มสุก

โรคพิษสุนัขบ้า ผู้เลี้ยงสัตว์ควรนำสัตว์เลี้ยงไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และควรระวังเด็กไม้ให้คลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงมากเกินไป ส่วนโรคลมแดด ที่เกิดจากร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป ดังนั้นควรมีการเตรียมตัวให้ร่างกายชินกับอากาศร้อนด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หากเกิดอาการควรนำผู้มีอาการเข้าร่ม ใช้ผ้าเย็นประคบร่างกาย เพื่อช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายให้ลดต่ำลง




ข่าวโดย : นศ.ฝึกประสบการณ์ นางสาวรุจิรา เสนานุช
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

จังหวัดลำพูนมีการจ้างงานคนพิการตามกฎหมาย จังหวัดลำพูนมีการจ้างงานคนพิการตามกฎหมาย

นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน และนางสาวราณี วงศ์ประจวบลาภ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลำพูน ได้ร่วมกันเปิดเผยว่า จังหวัดลำพูนเรียกร้องให้นายจ้างและสถานประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายจ้างงานคนพิการหรือส่งเงินสมทบเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เพื่อเป็นการเปลี่ยนภาระให้เป็นพลัง ซึ่งขณะนี้ นายจ้างหรือสถานประกอบการได้ดำเนินการจ้างงานคนพิการตามกฎหมายแล้ว

ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ.2556 ได้กำหนดให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป ต้องรับคนพิการเข้าทำงานในอัตราส่วน 100:1 หรือกรณีที่ไม่จ้างงานคนพิการเลือกวิธีการให้สัมปทานให้กับคนพิการ

ปัจจุบันจังหวัดลำพูนมีสถานประกอบการจำนวน 1,521 แห่ง มีสถานประกอบการที่จ้างคนพิการแล้ว 40 แห่งจากทั้งหมด 62 แห่ง มีสถานประกอบการที่ส่งเงินสมทบเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ 20 แห่ง และมีสถานประกอบการที่ยังไม่ได้จ้างคนพิการเข้าทำงาน 2 แห่ง




ข่าวโดย : นศ.ฝึกประสบการณ์ นางสาวรุจิรา เสนานุช
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดลำพูน จัดสัมมนาเครือข่ายภาคประชาชน วันที่ 25 เมษายน นี้ คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดลำพูน จัดสัมมนาเครือข่ายภาคประชาชน วันที่ 25 เมษายน นี้

คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดลำพูน จะจัดสัมมนา การจัดตั้งเครือข่ายภาคประชาชนของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดลำพูน ในวันที่ 25 เมษายน 2557 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 15.00 น. ที่ห้องหละปูน โรงแรมลำพูนวิล จังหวัดลำพูน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เครือข่าย และส่งเสริมหน่วยงานภาครัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐในจังหวัดให้ปฏิบัติงานโดยยึดหลักบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดลำพูน ซึ่งมีภาระกิจในการสอดส่องการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐในจังหวัด ให้มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ประการสำคัญ ให้ยึดหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน เพื่อให้การปฏิบัติงานของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงได้ขอความร่วมมือให้ภาคประชาชนผู้มีจิตอาสา เสียสละ เข้ามาเป็นเครือข่ายภาคประชาชนของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดลำพูน เพื่อช่วยสอดส่องการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น

เพื่อให้เครือข่ายภาคประชาชนของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดลำพูน มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาท อำนาจหน้าที่และแนวทางการปฏิบัติงาน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมกับจังหวัดลำพูน จึงได้จัดสัมมนาการจัดตั้งเครือข่ายภาคประชาชนของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดลำพูน ประจำปี 2557 ขึ้น โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาจากอำเภอต่างๆจำนวน 100 คน




ข่าวโดย : นศ.ฝึกประสบการณ์ นางสาวรุจิรา เสนานุช
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ สรุปผลการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ลดปริมาณหมอกควันในอากาศ

ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ สรุปผลการปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร เพิ่มความชุ่มชื้นให้พื้นที่ป่าไม้ ลดปริมาณหมอกควันในอากาศ ระหว่างวันที่ ๗ – ๑๓ เมษายน ๒๕๕๗

นางสาวรัตนาพร กิติกาศ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า ช่วงระหว่างวันที่ ๗ – ๑๓ เมษายน ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ได้ดำเนินการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ ช่วยลดปริมาณหมอกควันในอากาศ เพิ่มปริมาณน้ำอุปโภค – บริโภค และเพิ่มปริมาณน้ำให้กับแหล่งน้ำต่างๆ ในพื้นที่เป้าหมาย โดยออกปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน ๒๐ เที่ยวบิน ใช้สารทำฝนหลวง ๒๑ ตัน และน้ำจำนวน ๓ ตัน ซึ่งผลการปฏิบัติทำให้มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง ในบริเวณพื้นที่อำเภอลี้ อำเภอทุ่งหัวช้าง และอำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน



ข่าวโดย : ศักดิ์สิทธิ์ กิตินันทน์
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จัดตั้งสำนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ภาค ๓ ที่จังหวัดเชียงใหม่

กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จัดตั้งสำนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ภาค ๓ ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึง สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เปิดดำเนินการแล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

นายไพฑูรย์ สว่างกมล รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยว่า กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม มีภารกิจเกี่ยวกับการส่งเสริมความรู้และคุ้มครองเสรีภาพแก่ประชาชนที่พึงได้รับตามกฎหมาย ให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา ตาม พ.ร.บ. ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ ให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากกระบวนการยุติธรรมโดยกองทุนยุติธรรม สนับสนุนการจัดหาทนายความให้แก่ผู้ต้องหาในชั้นสอบสวนคดีอาญา รมทั้งสร้างหลักประกันสิทธิตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยจะต้องปฏิบัติตาม

รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวต่อไปอีกว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนการบริการประชาชนให้เข้าถึงบริการอย่างทั่วถึง และปฏิบัติงานตามภารกิจของกรมในพื้นที่ให้สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงได้จัดตั้งสำนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ภาค ๑ – ๔ ขึ้น เป็นหน่วยงานสังกัดบริหารราชการส่วนกลาง กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม มีที่ทำการตั้งอยู่ในภูมิภาค สำหรับในพื้นที่ภาคเหนือได้จัดตั้งสำนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ภาค ๓ เพื่อรับผิดชอบตามภารกิจกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ รวมทั้งสนับสนุนงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานยุติธรรมจังหวัด พื้นที่ ๑๗ จังหวัดภาคเหนือ ที่ตั้งสำนักงานเลขที่ ๕๙/๒๐ หมู่ที่ ๑ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ รหัสไปรษณีย์ ๕๐๓๐๐ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๕๓๐๑ ๐๖๔๑ – ๓ ซึ่งได้เปิดดำเนินการแล้วตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๗ เป็นต้นไป




ข่าวโดย : ศักดิ์สิทธิ์ กิตินันทน์
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

แรงงานจังหวัดลำพูนระดมสมองจัดทำยุทธศาสตร์การบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ แรงงานสูงอายุ และแรงงานคนพิการ ให้การดำเนินงานมีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

สำนักงานแรงงานจังหวัดลำพูนจัดประชุมจัดทำยุทธศาสตร์การบริหารจัดการแรงงานกลุ่มเฉพาะ (แรงงานนอกระบบ แรงงานสูงอายุ และแรงงานคนพิการ) พ.ศ.2557-2559 จังหวัดลำพูน ณ ศูนย์ประชุมโชควัฒนา สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ จังหวัดลำพูน เพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวสภาพแวดล้อม ปัญหาอุปสรรค แผนงาน/โครงการเกี่ยวกับแรงงานกลุ่มเฉพาะ นำมาจัดทำยุทธศาสตร์การบริหารจัดการแรงงานกลุ่มเฉพาะ ให้การดำเนินงานมีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง เป็นการยกระดับแผนให้มีการบูรณาการอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ผู้เข้าร่วมประชุมมาจากส่วนราชการประจำจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนแรงงานนอกระบบ และเครือข่ายอาสาสมัครแรงงาน จำนวน 100 คน มีการแบ่งกลุ่มเพื่อระดมความคิดเห็น การเสวนา เรื่อง การขับเคลื่อนแผนงาน/โครงการเกี่ยวกับแรงงานนอกระบบ แรงงานสูงอายุ และแรงงานคนพิการ จากสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบ และสำนักงานแรงงานจังหวัด โดยมี นายอาณัติ วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม

นายชิตชัย สมอุปฮาด แรงงานจังหวัดลำพูน กล่าวว่า แรงงานนอกระบบ หมายถึง ผู้มีงานทำที่ไม่ได้รับการคุ้มครองและไม่มีหลักประกันทางสังคมจากการทำงาน สามารถจำแนกประเภทของแรงงานนอกระบบได้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ทำงานรับจ้างและมีรายได้ประจำ หรือไม่ประจำ เช่น แรงงานที่รับจ้างเอางานไปทำที่บ้าน แรงงานรับจ้างทำของ แรงงานรับจ้างทำการเกษตรตามฤดูกาล แรงงานประมง คนขับรถส่วนตัวตามบ้าน เป็นต้น และกลุ่มที่ทำงานอาชีพอิสระทั่วไป เช่น คนขับรถรับจ้าง เกษตรกร ชาวนา ชาวสวน แม่ค้า หาบเร่ แผงลอย ช่างเสริมสวย เจ้าของร้านขายของชำขนาดเล็ก เป็นต้น นอกจากนี้ แรงงานผู้สูงอายุ และแรงงานคนพิการก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่สำคัญยิ่งในการเข้าไปพัฒนา ส่งเสริมและดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยเน้นการพัฒนาอาชีพและส่งเสริมให้มีงานทำตามศักยภาพ สามารถช่วยเหลือและพึ่งตนเองได้

ผลการสำรวจจำนวนแรงงานนอกระบบของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2556 ประเทศไทยมีจำนวนผู้มีงานทำทั้งสิ้น 39.1 ล้านคน พบว่า เป็นแรงงานที่ไม่ได้รับการคุ้มครองและไม่มีหลักประกันทางสังคมจากการทำงาน หรือเรียกว่าแรงงานนอกระบบ 25.1 ล้านคน คิดเป็น ร้อยละ 64 ในส่วนของจังหวัดลำพูน มีจำนวนผู้มีงานทำทั้งสิ้น 284,249 คน เป็นแรงงานนอกระบบ จำนวน 184,863 คน คิดเป็นร้อยละ 65.03 ที่เหลือเป็นแรงงานในระบบ จำนวน 99,386 คน



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525565
หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

จ.ลำพูน เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนและประชาชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 23-27 เมษายนนี้ จ.ลำพูน เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนและประชาชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 23-27 เมษายนนี้

จ.ลำพูน เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนและประชาชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 23-27 เมษายน 2557 เพื่อคัดเลือกทีมที่ชนะเลิศเป็นตัวแทนเขตภาคเหนือตอนบน เข้าร่วมการแข่งขันในระดับประเทศ

นายอาณัติ วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานเปิดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนและประชาชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2557 รอบคัดเลือกตัวแทนระดับเขต ณ สนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน นางดวงเดือน สดแสงจันทร์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน กล่าวว่า กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มอบหมายให้จังหวัดลำพูน โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน เป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการจัดโครงการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนและประชาชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 10 ประจำปี 2557 รอบคัดเลือกตัวแทนระดับเขต โดยมีนักกีฬาจาก 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน เชียงราย พะเยา และแม่ฮ่องสอน เข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 2 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นอายุ 12 ปี และรุ่นประชาชน รวม 16 ทีม ดำเนินการแข่งขันระหว่างวันที่ 23-27 เมษายน 2557 เพื่อคัดเลือกทีมที่ชนะเลิศเป็นตัวแทนเขตภาคเหนือตอนบน เข้าร่วมการแข่งขันในระดับประเทศต่อไป ทั้งนี้ จังหวัดลำพูนโดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูนมอบเงินสนับสนุนทุกทีม ทีมละ 20,000 บาท

รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า การแข่งขันฟุตบอลดังกล่าว เป็นการแข่งขันรอบคัดเลือกตัวแทนระดับเขต เพื่อหาทีมชนะเลิศเป็นตัวแทนเขตภาคเหนือตอนบน เข้าร่วมการแข่งขันในระดับประเทศ ตามนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการสนับสนุนส่งเสริมการดำเนินงานจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลนักเรียน นักศึกษา เยาวชนและประชาชน ตั้งแต่ระดับรากหญ้า จนถึงให้มีการแข่งขันชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย เพื่อยกระดับมาตรฐานกีฬาฟุตบอลไปสู่ฟุตบอลอาชีพต่อไป ขอขอบคุณคณะกรรมการดำเนินการจัดการแข่งขัน เจ้าหน้าที่ คณะกรรมการตัดสิน หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้บริหารสถานศึกษาและนักกีฬาทั้ง 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ในการเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525565
หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

จ.ลำปาง ร่วมกับ ม.ขอนแก่น จัดประชุมปัจฉิมนิเทศ "การจัดทำแผนบริหารจัดการ และพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ" เตรียมวางแนวทางร่วมกับทุกภาคส่วน จัดทำแผนแม่บท เพื่อการจัดการทรัพยากรน้ำในระดับพื้นที่ จ.ลำปาง ร่วมกับ ม.ขอนแก่น จัดประชุมปัจฉิมนิเทศ "การจัดทำแผนบริหารจัดการ และพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ" เตรียมวางแนวทางร่วมกับทุกภาคส่วน จัดทำแผนแม่บท เพื่อการจัดการทรัพยากรน้ำในระดับพื้นที่

สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำปาง ร่วมกับ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดการประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการ "การจัดทำแผนบริหารจัดการ และพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการจังหวัดลำปาง" เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และตรวจสอบการจัดเก็บข้อมูลรวบรวมสภาพปัญหา ที่เกี่ยวข้องกับน้ำ จากตัวแทนหน่วยงานองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดลำปาง ที่ ห้องเวียงพนา โรงแรมลำปางเวียงทอง ตำบลสวนดอก อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง มีนายสำเริง ไชยเสน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำปาง เป็นประธานเปิดการประชุม โดยมี ผู้แทนหน่วยงานองค์กรระดับพื้นที่ จำนวน 150 คน เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานราชการทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชน รวมถึงผู้นำท้องถิ่น และผู้แทนภาคประชาสังคม

สำหรับโครงการดังกล่าว จังหวัดลำปาง ได้มีแนวทางที่จะจัดทำแผนบริหารจัดการน้ำ พร้อมทั้งแผนพัฒนาในเขตพื้นที่ลุ่มลำน้ำวัง โดยมีศูนย์วิจัยและพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการฯ ของ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นที่ปรึกษาในการจัดทำแผน ศึกษาวิจัย และทำการเก็บรวบรวมข้อมูลปัญหา และความต้องการโครงการฯ ให้มีสอดคล้องกับพื้นที่ เพื่อจะหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำเสีย และน้ำแล้ง ที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่ทำการสำรวจความต้องการตามโครงการฯ เพื่อการแก้ไขปัญหา ทั้งในระดับตำบล อำเภอ และระดับจังหวัด ซึ่งได้เน้นความชัดเจนในพื้นที่ที่มีปัญหา ด้วยกระบวนการสำรวจในพื้นที่จริง เพื่อให้การแก้ไขปัญหามีลักษณะแบบบูรณาการอย่างเป็นระบบ มีความเชื่อมโยงกัน และมีความยั่งยืน สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนในระดับพื้นที่ได้ โดยทางคณะที่ปรึกษาได้ดำเนินการศึกษา สำรวจ รวบรวม และสังเคราะห์สาระข้อมูลที่เป็นแผนงาน/โครงการ พร้อมได้จัดทำระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ในระบบ Geographic Information System (GIS) เพื่อแสดงที่ตั้งแหล่งน้ำ และสิ่งปลูกสร้าง ทั้งที่เป็นแผนงาน และที่เป็นความจำเป็นของชุมชน

โดยการประชุมในครั้งนี้ ได้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 เพื่อให้ผู้แทนหน่วยงานองค์กรระดับพื้นที่ ได้ประชุมร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง ความเหมาะสม และความครบถ้วนของร่างแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และเสนอแนะข้อคิดเห็นต่อผลการศึกษาโครงการฯ ทั้งนี้เพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้อง ครบถ้วน เป็นไปได้ในทางปฏิบัติ และเพื่อให้ทางคณะที่ปรึกษา จะได้นำข้อมูลที่รวบรวมได้ทั้งหมดไป จัดทำเป็นร่างรายงานฉบับสมบูรณ์ของโครงการฯ ต่อไป




ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน สนธิกำลังร่วมกันบุกทลายแหล่งลักลอบตัดไม้ ในพื้นที่ จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน สนธิกำลังร่วมกันบุกทลายแหล่งลักลอบตัดไม้ ในพื้นที่ จ.ลำปาง

กำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน นำโดย พ.ต.ประวิธ ธรรมชาติ ผู้บังคับกองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 3 ค่ายประตูผา ประกอบด้วย ทหารจากหน่วยรบพิเศษที่ 3 ค่ายประตูผา ทหารพรานชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วกรมทหารพรานที่ 31 กองทัพภาคที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งส่วนกลาง และภาค 5 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่เมาะ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ รวมจำนวนกว่า 50 นาย ได้สนธิกำลังร่วมกันเดินลาดตระเวนไปตามเส้นทางเดินป่า ในบริเวณป่าสงวนแห่งชาติแม่งาว ฝั่งขวา เขตลำห้วยละอู ชุมชนบ้านวังตม หมู่ที่ 5 ตำบลจางเหนือ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ป่าต้นน้ำ และมีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าเป็นบริเวณกว้าง

การปฏิบัติการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฯ ต้องเดินทางด้วยเท้า เข้าสำรวจพื้นที่ป่าเป็นระยะทางรวมกว่า 4 กิโลเมตร จึงจะเข้าไปถึงยังพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งได้พบป่าไม้ถูกตัดทำลายเป็นบริเวณกว้าง และในพื้นที่ยังพบกลุ่มคนน่าสงสัยจำนวนหนึ่ง และคนกลุ่มนี้ได้อาศัยความชำนาญในพื้นที่วิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ฯ ไปได้ ทิ้งไม้ของกลางไว้บางส่วน ทางเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ยิงปืนขู่ขึ้นฟ้า เพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้หวาดกลัว และไม่กล้ากลับมาตัดไม้ในป่าอีก จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุในเบื้องต้น และตลอดเส้นทางของการเดินสำรวจ เจ้าหน้าที่ฯ พบร่องรอยการตัดไม้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นไม้ชิงชัน ไม้ประดู่ ไม้แดง ซึ่งแต่ละต้นมีอายุมากกว่า 80 ปี ได้ถูกตัดทำลายมาตลอดเส้นทาง รวมกว่า 50 ต้น และยังพบร่องรอยการแปรรูปไม้ การชักลากไม้ออกจากป่า โดยบางส่วนกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมการ

สำหรับการเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าดังกล่าว สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้รับการร้องเรียนจากราษฎรในหมู่บ้านว่า มีกลุ่มนายุทนเข้ามาว่าจ้างชาวบ้านบางคน เข้าไปตัดไม้เหล่านี้ และให้ชักลากไม้ออกมาจากป่า โดยไม้ที่ถูกตัดจะถูกส่งต่อให้แก่นายทุน เฉพาะอย่างยิ่งไม้ชิงชันที่จะถูกส่งขายต่อไปยังประเทศจีนอีกทอดหนึ่ง โดยที่ผ่านมาทางกลุ่มชาวบ้าน ได้มีการออกกฎชุมชน และได้มีการว่ากล่าวตักเตือนกลุ่มคนที่ละเมิดกฎ แต่กลุ่มคนเหล่านั้นก็ยังไม่เชื่อฟัง ชาวบ้านจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ฯ เข้ามาดำเนินการ โดยทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้เข้าปฏิบัติการในทันที แต่ผู้กระทำผิดก็ยังหลบหนีไปได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฯ จะได้เร่งติดตามหาตัวผู้กระทำผิด เพื่อจะนำตัวมาดำเนินคดี และสอบสวนทำการขยายผลต่อไป อย่างไรก็ตามการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฯ ต้องพบกับอุปสรรค์ คือ เกิดมีพายุฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันนานกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้เจ้าหน้าที่ฯ ต้องรีบถอนกำลังออกจากป่าทันที เกรงจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากตรวจพบว่าปริมาณน้ำในลำห้วยหลายแห่งเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้เอ่อท่วมพื้นที่เส้นทางถนนหลายจุด แต่ระดับน้ำก็ได้ลดปริมาณลงอย่างรวดเร็วหลังพายุฝนผ่านพ้นไป ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่า หากอย่างเข้าสู่ฤดูฝนจริงๆ ในพื้นที่แห่งนี้อาจจะเกิดอุทกภัยที่รุนแรงได้ เพราะสภาพพื้นที่ป่าทั่วไป เริ่มเป็นเขาหัวโล้นหมดแล้ว




ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดกิจกรรมงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ วันแห่งครอบครัว สมัชชาครอบครัว และสมัชชาสภาเด็กและเยาวชน

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สภาเด็กและเยาวชน และสาขาสมาคมผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดกิจกรรมงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ วันแห่งครอบครัว สมัชชาครอบครัว และสมัชชาสภาเด็กและเยาวชน ประจำปี 2557

เช้าวันนี้ 24 เม.ย. 57 ณ ศาลาประชาคมจังหวัดแม่ฮ่องสอน นางสารภี ศิลา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้กล่าวต้อนรับ ผู้สูงอายุ สภาเด็กและเยาวน สมัชชาครอบครัว เนื่องในวัน ผู้สูงอายุแห่งชาติ วันแห่งครอบครัว สมัชชาครอบครัว และสมัชชาสภาเด็กและเยาวชน ประจำปี 2557 ซึ่งสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะที่มีหน้าที่ดูแลคุ้มครอง และพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุ ส่งเสริมและสร้างความอบอุ่นแก่สถาบันครอบครัว ส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมของเด็กและเยาวชน จึงได้ส่งเสริม สนับสนุน และเอื้ออำนวยให้ สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับสาขาสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน และหน่วยงาน/องค์กร ที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมในครั้งนี้ขึ้นมา ในลักษณะ “เด็กนำ ผู้ใหญ่หนุน” ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชน ได้มีส่วนร่วม ที่จะสืบสานประเพณีที่ดีงาม ตระหนักถึงบุญคุณ แสดงออกถึงความกตัญญู กตเวที และให้ความสำคัญต่อผู้สูงอายุ ผู้ซึ่งเป็นหลักชัย เป็นร่มโพธิ์ ร่มไทร ของครอบครัว และสังคม

กิจกรรมในช่วงเช้าจะเป็น พิธีรดน้ำดำหัว ขอพรจากผู้สูงอายุ การส่งเสริมให้สถาบันครอบครัวมีความอบอุ่นเข้มแข็ง พิธีมอบโล่ แก่ครอบครัวร่มเย็น ปี 2557 การแสดงวัฒนธรรมประเพณีของผู้สูงอายุ และในภาคบ่ายจะเป็นกิจกรรมเชิงวิชาการ เวทีสมัชชาครอบครัวและเวทีสมัชชาเด็กและเยาวชน ซึ่งจะได้นำประเด็นและข้อเสนอ จากทั้งสองเวที ไปเป็นแนวทางในการพัฒนาสถาบันครอบครัว และส่งเสริมกิจกรรมของสภาเด็กและเยาวชน ภายในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ต่อไป




ข่าวโดย : วรสิทธิ์ อุดมพาณิชย์
หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

ศูนย์พัฒนาทักษะและการเรียนรู้ ICT แม่ฮ่องสอน จัดอบรมหลักสูตรคอมพิวเตอร์ประจำเดือนเมษายน ๒๕๕๗

ศูนย์พัฒนาทักษะและการเรียนรู้ ICT แม่ฮ่องสอน จัดอบรมหลักสูตรคอมพิวเตอร์ประจำเดือนเมษายน ๒๕๕๗ เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับ ผู้สนใจ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่บุคลากรในหน่วยงาน องค์กรในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตลอดจนกลุ่มธุรกิจร้านค้าและบริการ

ดร. โยธิน บุญเฉลย ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาทักษะและการเรียนรู้ ICT แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ศูนย์พัฒนาการเรียนรู้ ICT แม่ฮ่องสอน โดยความร่วมมือของวิทยาลัยชุมชนแม่ฮ่องสอน เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน และสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวณ์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) SIPA ได้มีกำหนดจัดอบรมหลักสูตรคอมพิวเตอร์ เพื่อเป็นประโยชน์กับ ผู้สนใจ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่บุคลากรในหน่วยงาน องค์กรในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตลอดจนกลุ่มธุรกิจร้านค้าและบริการ ได้มีโอกาสเรียนรู้โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์ ในการพัฒนาศักภาพการทำงานและเป็นพื้นฐานสู่การเรียนรู้ที่สูงขึ้น โดยมีหลักสูตรฝึกอบบรมประจำเดือนเมษายน ๒๕๕๗ ดังนี้ หลักสูตรการใช้งานโปรแกรม Microsoft Word ขั้นสูงเพื่อการทำงาน โดยเปิดอบรมด้านการจัดรูปแบบและพิมพ์เอกสาร การจัดเอกสารรูปแบบอัตโนมัติ การใช้ Style การจัดตกแต่งเอกสารรายงาน วิทยานิพนธ์ การทำสารบัญอัตโนมัติ เทคนิคการใช้ Word ให้รวดเร็วทันการณ์ และการทำจดหมายเวียน ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๓ เมษายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๗.๐๐-๒๑.๐๐ น. ค่าลงทะเบียน ๑๕๐ บาท หลักสูตรการถ่ายและตกแต่งภาพด้วยมือถือ Smartphoe โดยเปิดอบรมด้านเทคนิคการถ่ายภาพให้ดูดี และแต่งภาพให้เนียน พร้อมเทคนิคการจัดแต่งภาพสำหรับการแชร์ไปยัง Social Network ระหว่างวันที่ ๒๔-๒๕ เมษายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๗.๐๐-๒๑.๐๐ น. ค่าลงทะเบียน ๑๐๐ บาท หลักสูตรการใช้งาน Computer tablet และอินเตอร์เน็ต การสื่อสารออนไลน์ผ่าน Line & Facebook สำหรับชุมชน โดยเปิดอบรมด้านการใช้งานแท็บเล็ต การพูดคุยออนไลน์ / โทรทางไกลไม่เสียตังค์ / โฆษณาประชาสัมพันธ์ และด้านการใช้งานคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต ค้นหาข้อมูล รู้ทุกเรื่องและการทำบัญชีครัวเรือน ฯลฯ ระหว่างวันที่ ๒๔-๒๕ เมษายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.๐๐-๑๖.๐๐ น. จัดฝึกอบรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ณ ศูนย์ ICT แม่ฮ่องสอน ชั้น ๓ อาคารหมอกใหม่ ทุกคนที่ผ่านการอบรมรับใบประกาศจากวิทยาลัยชุมชนแม่ฮ่องสอน

ศูนย์พัฒนาทักษะและการเรียนรู้ ICT แม่ฮ่องสอน ขอเชิญส่วนราชการ บุคลากรในหน่วยงาน และผู้สนใจที่รับรู้ทางสื่อหรือหน่วยงาน เข้าร่วมอบรมในวันและเวลาดังกล่าว ผู้สนใจส่งแบบตอบรับการเข้าร่วมอบรมที่ ศูนย์พัฒนาทักษะและการเรียนรู้ ICT แม่ฮ่องสอน ชั้น ๓ อาคารหมอกใหม่ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ ๐๕๓-๖๑๓๔๕๐ โทรสารต่อ ๑๐๕ และมือถือ ๐๘๗-๑๘๑๘๙๔๓ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http: //www.mhsict.org , www.facebook.com/mhsICT




ข่าวโดย : อ่อนศรี ศรีอัมพร ข่าว ส.ปชส.แม่ฮ่อง
หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

จังหวัดแม่ฮ่องสอนจัดประชุมคณะทำงานศึกษาออกแบบการวางผังจุดผ่อนปรนการค้าบ้านห้วยต้นนุ่น พิจารณาแผนการก่อสร้างโครงการพัฒนาด่านการค้าชายแดนห้วยต้นนุ่น อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

เช้าวานนี้ (23 เมษายน 2557) นายสุทธา สายวาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศึกษาออกแบบการวางผังจุดผ่อนปรนการค้าบ้านห้วยต้นนุ่น อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ครั้งที่ 2 ประจำปี 2557 ที่ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอนหลังเดิม เพื่อพิจารณาแผนการก่อสร้าง โครงการพัฒนาด่านการค้าชายแดนห้วยต้นนุ่น ตำบลแม่เงา อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน และร่วมพิจารณาความเหมาะสมของอาคารต่างๆ และถนนที่จะเดินทางไปยังจุดผ่อนปรนการค้าบ้านห้วยต้นนุ่น

โครงการพัฒนาด่านการค้าชายแดนห้วยต้นนุ่น ตำบลแม่เงา อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อเตรียมรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ปี 2558 ที่จะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยให้ราษฎรทั้งสองฝ่ายสามารถทำการค้าได้อย่างคล่องตัว และมีประสิทธิภาพ ซึ่งจังหวัดแม่ฮ่องสอนอยู่ห่างจากเมืองเนปิดอร์ เมืองหลวงของประเทศพม่า เพียง 200 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น




ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

องค์การบริหารส่วนตำบลผาบ่อง จัดกิจกรรมพืชผักปลอดภัยชิมอาหารไทยใหญ่ที่ผาบ่อง

องค์การบริหารส่วนตำบลผาบ่อง จัดกิจกรรมพืชผักปลอดภัยชิมอาหารไทยใหญ่ที่ผาบ่อง เพื่อพัฒนาให้เกษตรกรสามารถผลิตและจำหน่ายสินค้า ณ บ้านผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน

นายอภิสิทธิ์ จันทร์โอพาส นายกองค์การบริหารส่วนตำบลผาบ่อง เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนตำบลผาบ่อง จัดกิจกรรมพืชผักปลอดภัยชิมอาหารไทยใหญ่ที่ผาบ่องร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ณ บ้านผาบ่อง หมู่ ๑ ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุน เชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิต ผู้ค้า และผู้บริโภค เป็นการพัฒนาให้เกษตรกรสามารถผลิต และจำหน่ายสินค้าโดยเน้นการผลิตพืชผักปลอดภัยจากสารพิษ เกิดความยั่งยืนในระบบการผลิตสินค้าที่ตำบลผาบ่อง โดยจัดงาน วันศุกร์ และวันเสาร์ เวลา ๑๕.๐๐ น.

บ้านผาบ่องมีแหล่งการทำเกษตรธรรมชาติ เกษตรอินทรีย์ เกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริและการเรียนรู้ปลูกผักพื้นบ้านปลอดสารพิษ ด้วยการฝึกฝนวิธีการปลูกผักพื้นบ้าน สำหรับบริโภคได้เอง การเรียนรู้ภูมิปัญญาไทยในการทำเกษตรยั่งยืนแผนใหม่ ไร้ปุ๋ย ไร้ยาฆ่าแมลง ราษฎรบ้านผาบ่องส่วนใหญ่เป็นชาวไตหรือไทยใหญ่ ยังรักษาวิถีของชาวไต ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ มีบ้านพักโฮมสเตย์รองรับนักท่องเที่ยว มีบ่อน้ำแร่ตามธรรมชาติขนาดใหญ่ และจัดให้มีห้องอาบน้ำแร่ไว้รองรับนักท่องเที่ยว มีทั้งห้องแช่เดี่ยวและห้องแช่รวม เพื่อความสะดวกในการใช้บริการของนักท่องเที่ยว นอกจากนั้นกลุ่มแม่บ้านรวมตัวกันทำอาหารไต หรืออาหารไทใหญ่ ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว และมีกลุ่มเยาวชนรวมตัวการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น



ข่าวโดย : ทีมข่าว ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ "เตาเผาขยะชีวมวลไร้ควัน" ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน

เช้าวันนี้ (24 เมษายน 2557) นายสากล ฐินะกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดงานโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “เตาเผาขยะชีวมวลไร้ควัน” นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ ลดมลพิษ ลดหมอกควัน ภายใต้การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ สร้างจิตสำนึก ป้องกันลดการเผาในที่โล่งและหมอกควัน ที่ โรงแรมโกลเด้นท์ ปาย แอนด์ สวีท รีสอร์ท จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเสริมสร้างให้ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องมีความรู้ ความเข้าใจ และลดปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และการเผาในที่โล่ง รวมถึงสร้างจิตสำนึกและกระตุ้นให้เกิดความตระหนัก และส่งเสริมความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมเพื่อการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ ตามบทบาทของตน พร้อมทั้งผลักดันสู่ประเทศใกล้เคียง และเพื่อให้ความรู้ด้านเทคนิค วิธีการสร้าง และใช้เตาเผาชีวมวลไร้ควัน

กิจกรรมในงานประกอบด้วย การบรรยายสรุปบทเรียน และเส้นทางการขับเคลื่อน “รวมพลัง หนุนชุมชน ลดไฟป่า ลดหมอกควัน” ปี 2556 และทิศทางการเสริมสร้างกระบวนการมีส่วนร่วม ภาคีเครือข่ายลดมลพิษ ลดหมอกควัน ลดการเผาในที่โล่ง ปี 2557 พร้อมทั้งการบรรยายเรื่อง “ปัญหาหมอกควันจากการเผาในที่โล่ง และนวัตกรรมเตาเผาขยะชีวมวลไร้ควัน” และความรู้ด้านเทคนิค วิธีการสร้าง และใช้งานเตาเผาขยะชีวมวลไร้ควัน รวมถึงมีการฝึกปฏิบัติเป็นกลุ่มย่อย และมีการมอบ เตาเผาขยะชีวมวลไร้ควัน ให้แก่ผู้แทนเครือข่าย จำนวน 25 เตา และมอบชุดนิทรรศการให้กับ ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อนำไว้ใช้ประโยชน์ต่อไป



ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน จัดงาน "วันมุทิตาจิต รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุตำบลจองคำ"

วันนี้ (24 เมษายน 2557) นายปกรณ์ จีนาคำ นายกเทศมนตรีเมืองแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันมุทิตาจิต รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ โดยกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับชมรมผู้สูงอายุเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ที่ สำนักงานเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน มีผู้สูงอายุร่วมงานประมาณ 300 คน จากทั้ง 6 ชุมชนในเขตเทศบาลตำบลจองคำ ประกอบด้วย ชุมชนปางล้อ ดอนเจดีย์ หนองจองคำ กลางเวียง ตะวันออก และกาดเก่า เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้สูงอายุ พร้อมทั้งสืบสานประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามของไทย และส่งเสริมให้ผู้สูงอายุนำความรู้ความสามารถ หรืออีกนัยหนึ่งว่า “ภูมิปัญญาชาวบ้าน” นำมาพัฒนาและถ่ายทอดให้แก่ชนรุ่นหลังได้รับทราบสืบต่อกันไป

โดยกิจกรรมในงานประกอบด้วย การตรวจคัดกรองข้อเข่าเสื่อม ตรวจต้อกระจก และตรวจฟัน ให้กับผู้สูงอายุ โดยโรงพยาบาลศรีสังวาลย์ รวมถึงมีการแสดงปาฐกถาธรรมเรื่อง “ผู้สูงอายุ อยู่อย่างไรให้เป็นสุข” โดยพระมหาสุนทร อัครปัญโญ พร้อมทั้งมีการมอบรางวัลแก่ผู้สูงอายุดีเด่นด้านสุขภาพใน 3 มิติ คือ ด้านสุขภาพกายดี สุขภาพจิตดี สุขภาพทางสังคมดี และมีการรดน้ำดำหัวแก่ตัวแทนผู้สูงอายุใน 6 ชุมชน




ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 ร่วมกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน เตรียมจัดพิธีถวายราชสักการะเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี 2557

พันโทสุรศักดิ์ สุขแสง เสนาธิการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 เปิดเผยว่า หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 ร่วมกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน เตรียมจัดพิธีถวายราชสักการะเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี 2557 ในวันที่ 25 เมษายน 2557 ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช บ้านม่อนตะแลง ตำบลผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อรำลึกถึงเกียรติประวัติ และพระมาหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่มีต่อปวงชนชาวไทย

 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อพุทธศักราช 2133 ทรงประกาศอิสรภาพให้ชาติไทย ไม่เป็นเมืองขึ้นของใคร ในปีพุทธศักราช 2127 และเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 25 เมษายน พุทธศักราช 2148 รวมพระชนมพรรษา 50 พรรษา




ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

สำนักงานจัดหางานจังหวัดแม่ฮ่องสอน ชี้แจงกรณีการเก็บเงินประกันค่าใช้จ่ายในการส่งคนต่างด้าว กลับออกไปนอกราชอาณาจักร

นายบุญณรงค์ ปิ่นทรัพย์ นักวิชาการแรงงานปฎิบัติการ สำนักงานจัดหางานจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ตั้งแต่ออกประกาศให้แรงงานต่างด้าว ตำแหน่งงานรับใช้ในบ้านและงานกรรมกร ส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อการส่งคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2557 ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2557 มีผู้มาชำระเงินเข้ากองทุนแล้ว 180 ราย โดยมีกำหนดชำระเงินเป็นงวด ระหว่างเดือนเมษายน ถึงเดือนกรกฎาคม 2557 หากไม่ได้ชำระเงินงวดก่อน ตั้งแต่เดือนเมษายน จะต้องชำระเงินเพิ่ม ร้อยละ 2 ต่อเดือน ทั้งนี้ บุคคลที่ไม่มาชำระเงิน จะมีการดำเนินคดี ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาโทษ

 กองทุนเพื่อการส่งคนต่างด้าวกลับออกนอกราชอาณาจักร ตั้งขึ้นเพื่อเป็นการหักค่าใช้จ่าย ในการส่งลูกจ้างกลับ ออกไปนอกราชอาณาจักร โดยแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ พม่า /ลาวและกัมพูชา ที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานตำแหน่งรับใช้ในบ้าน และงานกรรมกรจะต้องจ่ายเงินจำนวน 1,000 บาท เข้า โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2557 เป็นต้นไป โดยสามารถแบ่งจ่ายชำระได้ 4 งวด ชำระเงินได้ที่ สำนักงานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ และเมื่อแรงงานต่างด้าวเดินทางกลับภูมิลำเนา ก็จะได้เงินเป็นจำนวนนี้คืน




ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.แม่ฮ่องสอน
 หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

ผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรีย้ำ ต้องแก้ที่คนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน

ผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรีเขต 16 ย้ำ ต้องแก้ปัญหาที่คนเพราะไฟป่าเกิดจากคน หลังเดินทางตรวจติดตามการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน และปัญหาภัยแล้งที่จังหวัดแพร่

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า วันนี้(24เม.ย.57) ที่ห้องจดหมายเหตุ ศาลากลางจังหวัดแพร่ นายนพปฎล เมฆเมฆา ผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรีเขต 16 พร้อมคณะได้ประชุมติดตามผลการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน และปัญหาภัยแล้ง ของจังหวัดแพร่ โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงรายละเอียดในการแก้ไขปัญหาไฟป่า และภัยแล้งให้รับทราบ

โดยที่ผ่านมานั้นจังหวัดแพร่พบ HotSpot ในพื้นที่จำนวน 512 จุด เป็นอันดับ 7 ของ 9 จังหวัดภาคเหนือที่รณรงค์งดการเผา โดยมีสถิติการเข้าดับไฟตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2556 ถึง 21 เมษายน 2557 จำนวน 193 ครั้ง พื้นที่ป่าเสียหาย 2,083 ไร่ มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกินค่ามาตรฐานจำนวน 23 วัน อยู่ในระดับ 4 ของภาคเหนือ ทั้งนี้เนื่องจากพื้นที่ของจังหวัดแพร่เป็นลักษณะแอ่งกระทะ มีความกดอากาศที่กดดันฝุ่นละอองไม่ให้ลอยขึ้น ประกอบกับมีการลักลอบเผา ความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ อากาศแห้ง ปริมาณฝุ่นละอองจึงสูงกว่าค่ามาตรฐาน

โดยที่ผ่านมาพบปัญหาไฟไหม้ป่าที่อยู่ในพื้นที่ภูเขาสูง ยากแก่การเข้าดับไฟ ที่ผ่านมาได้เน้นการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจ สร้างความตระหนักของผลเสียจากการเผากับประชาชนในพื้นที่

ผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรีเขต 16 กล่าวว่า ทางที่ดีต้องแก้ไขปัญหาที่คนเผา ทำอย่างไรให้เขามีอาชีพ มีรายได้ ทดแทนการออกไปเผาป่าเพื่อหาของป่า ล่าสัตว์

ในส่วนของการแก้ไขปัญหาภัยแล้งจังหวัดแพร่นั้น จากภูมิประเทศจังหวัดแพร่มีพื้นที่ลาดชัน แม่น้ำยมซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักฤดูฝนจะมีน้ำมาก แต่ก็ไหลเร็วและแห้งในฤดูแล้ง จึงใช้ระบบการกั้นน้ำด้วยกระสอบทรายแล้วสูบเข้าระบบชลประทาน ฤดูแล้งนี้มีพื้นที่ทำการเกษตรจำนวน 145,115 ไร่ ประสบภัยแล้ง 78,175 ไร่ จังหวัดแพร่นั้นมีน้ำต้นทุนเพียง 200 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ความต้องการน้ำมีถึง 1,600 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนน้ำอุปโภค-บริโภค ได้มีการมอบถังใส่น้ำจำนวน 755 ถัง ให้กับพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำ ซึ่งการแก้ไขปัญหาในอนาคต ต้องมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มารองรับ และให้ทุกหมู่บ้านมีแหล่งน้ำประจำหมู่บ้าน




ฉัตรชัย พวงขจร /ข่าว /พิมพ์

กลุ่มเกษตรกรบ้านตอนิมิตร อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวขายสร้างรายได้เป็นอย่างดี

กลุ่มเกษตรกรบ้านตอนิมิตร ตำบลร่องกาศ อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ รวมกลุ่มผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวขายแก่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวแพร่ สร้างรายได้เป็นอย่างดีและไม่มีปัญหาเหมือนโครงการรับจำนำข้าว

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า ที่บ้านตอนิมิต หมู่ 1 ตำบลร่องกาศ อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ มีเกษตรกรจำนวน 59 ราย ได้รวมกันทำนาข้าว เพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวขาย แทนการสีข้าวขายหรือนำไปจำนำเหมือนเกษตรกรรายอื่น โดยในปีนี้ได้ปลูกข้าวหอมมะลิ 105 และข้าวเหนียวพันธุ์สันป่าตอง 1 จำนวน 700 ไร่ ได้ผลผลิตจำนวน 400 ตันถึง 500 ตัน โดยขายเมล็ดพันธุ์ข้าวให้กับศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวแพร่ในราคาตันละ  2 หมื่นกว่าบาท ซึ่งสูงกว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ทำให้สร้างรายได้เป็นอย่างดีแก่เกษตรกรสมาชิกกลุ่ม ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่มีการรวมกลุ่มกันต่างคนต่างทำนาขายข้าวไม่ได้อะไร กำไรเป็นของโรงสีข้าวหมด จึงรวมกลุ่มกันตั้งแต่ปี 2537 ตั้งเป็นกลุ่มเกษตรกรผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวบ้านตอนิมิตร ขึ้น ซึ่งปีนี้ขายเมล็ดพันธุ์ข้าวให้กับศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวแพร่ไปแล้วกว่า 300 ตัน ขายแก่เกษตรกรทั่วไป 100 ตัน




นายฉัตรชัย พวงขจร /ข่าว /พิมพ์

จังหวัดพะเยา จัดฝึกอบรมให้ความรู้การเลี้ยงโคเนื้อโคขุน ตามโครงการผลิตโคเนื้อคุณภาพ เพื่อการตลาดแบบครบวงจร

วันนี้ (24 เม.ย. 57) นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมให้ความรู้การเลี้ยงโคเนื้อโคขุน ตามโครงการผลิตโคเนื้อคุณภาพ เพื่อการตลาดแบบครบวงจร ยั่งยืน และอาหารปลอดภัยสู่ครัวโลกในเขตภาคเหนือตอนบน ณห้องประชุมสหกรณ์การเกษตรเมืองพะเยา อ.เมือง จ.พะเยา ซึ่งสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพะเยา จัดขึ้นจำนวน 2 รุ่น โดยรุ่นแรก จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-23 เม.ย.57 และรุ่นที่2 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-25 เม.ย. 57 โดยมีเกษตรกรที่ประกอบอาชีพเลี้ยงโคเนื้อโคขุนจากอำเภอเมืองและพื้นที่ใกล้เคียง จำนวนกว่า 200 ราย เข้ารับการอบรมในครั้งนี้

นายจำลอง อริยะจักร ปศุสัตว์จังหวัดพะเยา กล่าวว่า การดำเนินการตามโครงการแผนปฏิบัติราชการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ตามโครงการผลิตโคเนื้อคุณภาพ เพื่อการตลาดแบบครบวงจร ยั่งยืน และอาหารปลอดภัยสู่ครัวโลกในเขตภาคเหนือตอนบน มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการผลิตของผลิตภัณฑ์โคเนื้อ โคขุนคุณภาพดีสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพิ่มมูลค่าโคเนื้อที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนให้เป็นโคขุนคุณภาพดีที่มีราคาสูง เสริมสร้างรายได้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อโคขุน ตลอดจนจูงใจให้เกษตรกรหันมาประกอบอาชีพการผลิตโคขุนคุณภาพดี เพื่อเป็นอาชีพที่มั่นคงสร้างรายได้ที่แน่นอนให้แก่กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน อีกด้วย




ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ
หน่วยงาน : สวท.พะเยา

สยามสปอร์ต มอบอุปกรณ์กีฬาให้กับจังหวัดพะเยา เติมฝันเยาวชนสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ โดยจะมอบให้ครบทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ

บ่ายวันนี้ (24 เม.ย. 57) ที่ห้องศรีโคมคำ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดพะเยา นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานรับมอบอุปกรณ์กีฬา จากตัวแทนบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ประกอบด้วย ลูกฟุตบอล ลูกบาสเกตบอล ลูกวอลเลย์บอล และลูกตะกร้อ รวมจำนวน 400 ลูก และมอบวารสารด้านกีฬา พร้อมทั้งหนังสือ 40 ปีภาพนี้มีเรื่องเล่า เพื่อมอบให้แก่โรงเรียนและสถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดพะเยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้กล่าวขอบคุณบริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ซึ่งอยู่คู่กับคนไทยมานาน และได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬา ซึ่งบางโรงเรียนยังขาดแคลนอยู่จึงได้นำเอาอุปกรณ์กีฬาดังกล่าวมามอบให้ เพื่อให้เยาวชนในพื้นที่จังหวัดพะเยา ได้มีอุปกรณ์กีฬาในการฝึกซ้อมและออกกกำลังกายมากยิ่งขึ้นต่อไป

ทั้งนี้บริษัท สยามสปอร์ต ชินดิเคทจำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรมคืนกำไรสู่ชุมชนและสังคมผ่านกิจกรรมพิเศษที่เชื่อยมโยงกับกีฬาในโครงการ 40 ปี สยามสปอร์ต พลานุภาพกีฬาโลก ฉลองวาระครบ 40 ปี ของการก่อตั้งบริษัท เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทย ที่มีฝันและอยากเดินตามรอยนักกีฬาฮีโร่ เติบโตสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพที่ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจาก 8 ฮีโร่ นักกีฬาสำคัญในประวัติศาสตร์นักกีฬาไทยให้เกียรติมาเป็นสยามสปอร์ต แอมบาสเตอร์ของโครงการ อาทิ เขาทราย แกแลคซี่แชมป์โลกตลอดกาล , สมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก 1996 และสมจิตร จงจอหอ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก 2008 ประเดิมกิจกรรมแรกของโครงการด้วย คนเติมฝันมอบความสุข 77 จังหวัดทั่วไทย เดินทางมอบหนังสือ 40ปี ภาพนี้มีเรื่องเล่าและอุปกรณ์กีฬา อาทิ ลูกฟุตบอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล ฯลฯ ให้แก่โรงเรียนและสถานศึกษาใน 77 จังหวัดทั่วประเทศในระหว่างวันที่ 1 เมษายน -12 พฤษภาคม 2557



ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ
หน่วยงาน : สวท.พะเยา

จังหวัดน่าน เสนอตัวขอรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 34 (พ.ศ. 2561)

ศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดน่าน จัดประชุมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอรับเป็นเจ้าภาพกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ระดับชาติ ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดน่าน โดย นายอดิศร พิทยายน รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ที่เข้าร่วมประชุมและสำรวจสนามต่าง ๆ ในครั้งนี้ด้วย

ว่าที่ร้อยตรี จำนง ยาวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดน่าน (กกท.จังหวัดน่าน) กล่าวว่า ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการกีฬาจังหวัดน่าน เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2556 มีมติเห็นชอบในการขอรับเป็นเจ้าภาพกีฬาเยาวชนแห่งชาติแห่งชาติครั้งที่ 34 (พ.ศ. 2561) โดยมอบหมายให้ ศูนย์ กกท.จังหวัดน่าน และสมาคมกีฬาจังหวัดน่าน เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการเสนอขอรับเป็นเจ้าภาพฯ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดน่าน อีกทั้งยังเป็นแรงจูงใจให้เยาวชนหันมาเล่นกีฬากันมากขึ้น ซึ่งจังหวัดน่านมีศักยภาพและมีความพร้อมสามารถดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 34 ปี 2561 ได้เป็นอย่างดีและมีมาตรฐานสากลมีชนิดกีฬาที่จัดแข่งขัน 37 ชนิดกีฬา ได้แก่ กรีฑา กอล์ฟ กาบัดดี้ กีฬาทางอากาศ คาราเต้-โด จักรยาน ลู่ ถนน ภูเขา ซอฟท์เทนนิส ซอฟท์บอล เซปัคตะกร้อ-ตะกร้อมลอดห่วง เทควันโด เทนนิส เทเบิลเทนนิส บาสเกตบอล บริดจ์ แบดมินตัน เปตอง ปันจักสีลัด ฟันดาบสากล ฟุตบอลชาย-หญิง ฟุตซอส มวยไทยสมัครเล่น มวยปล้ำ มวยสากลสมัครเล่น ยกน้ำหนัก ยิงปืน ยิมนาสติก ยูโด รักบี้ฟุตบอล เรือพาย ลีลาศ วอลเล่ย์บอลในร่ม-ชายหาด วูซู ว่ายน้ำ วู้ดบอล สนุกเกอร์ หมากล้อม และแฮนด์บอล ด้านที่พักมีความพร้อมสำหรับที่พักนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ตลอดจนผู้ติดตาม และนักท่องเที่ยว ที่สามารถรองรับได้ ด้านการคมนาคม มีรถโดยสารประจำทาง รถแท็กซี่ มีท่าอากาศยานน่าน ที่สะดวกสบายสามารถเดินทางได้ตลอดเวลา ด้านการรักษาความปลอดภัย จังหวัดน่านมีองค์กรและบุคลากรที่จะอำนวยความสะดวกด้านการรักษาความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อย การจราจร และการให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ซึ่งจังหวัดน่านมีประสบการณ์การจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ภาค 5 ครั้งที่ 42 ระหว่างวันที่ 22 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดียิ่ง

ผู้อำนวยการศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดน่าน (กกท.จังหวัดน่าน) กล่าวต่อว่า จึงขอเชิญชวนชาวจังหวัดน่านทุกภาคส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอตัวจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 34 (พ.ศ. 2561) เพื่อแสดงถึงศักยภาพและความพร้อมของจังหวัดน่าน ให้ได้รับการพิจารณาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 34 (พ.ศ. 2561) ต่อไป



พวงพยอม  คำมุง / ข่าว

จังหวัดน่าน ส่งเสริมทักษะว่ายน้ำให้เด็กและเยาวชนภาคฤดูร้อนฟรี

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน ได้รับแจ้งจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 37 แจ้งว่า ด้วยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 37 ร่วมกับองค์การบริหารจังหวัดน่าน ได้จัดโครงการส่งเสริมทักษะว่ายน้ำเด็กและเยาวชนภาคฤดูร้อนจังหวัดน่าน ประจำปี 2557 ฟรี เพื่อฝึกหัดให้เด็กและเยาวชนที่ว่ายน้ำไม่เป็นให้สามารถว่ายน้ำเป็น และเอาตัวรอดจากการเสียชีวิตเมื่อประสบเหตุทางน้ำ ตลอดจนรู้จักวิธีช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทางน้ำอย่างถูกต้องตามหลักมาตรฐานสากล ทั้งนี้ ผู้ที่สมัครเรียนว่ายครั้งนี้ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น โดยเปิดสอนว่ายน้ำ จำนวน 3 รุ่น ๆ ละ 70 คน รับเด็กและเยาวชน อายุระหว่าง 9 – 18 ปี ทั้งชาย-หญิง ดังนี้

รุ่นที่ 1 เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 25 เมษายน 2557 และเริ่มเรียนวันที่ 26 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2557 เวลา 09.30 – 11.30 น. เรียนทุกวัน ณ สระว่ายน้ำองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน

รุ่นที่ 2 เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 2 พฤษภาคม 2557 และเริ่มเรียนวันที่ 10 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2557 เรียนเฉพาะวันเสาร์ และวันอาทิตย์ เวลา 09.30 – 11.30 น. ณ สระว่ายน้ำองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน

รุ่นที่ 3 เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 2 พฤษภาคม 2557 และเริ่มเรียนวันที่ 10 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2557 เรียนเฉพาะวันเสาร์ และวันอาทิตย์ เวลา 13.30 – 15.30 น. ณ สระว่ายน้ำองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน

สำหรับเด็กและเยาวชนที่สนใจ ให้ไปสมัครเรียนฟรีได้ที่ ศูนย์ประสานงานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 37 ถนนหน่อคำ ข้างโรงเรียนบ้านดอน (ศรีเสริมกสิกร) หรือ สมัครได้ที่ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน บริเวณสนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน ในวันและเวลาราชการ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08-9164-6515 หรือ 0-5471-0568




พวงพยอม  คำมุง / ข่าว

บทความพิเศษ วันงดสูบบุหรี่โลก

วันงดสูบบุหรี่โลก ตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี เริ่มจัดครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2531 โดยองค์การอนามัยโลก เพื่อให้เห็นอันตรายของการสูบบุหรี่ต่อสุขภาพของผู้สูบบุหรี่ และผู้ไม่สูบบุหรี่แต่ได้รับควันบุหรี่ การจัดงานวันสูบบุหรี่โลกก็เพื่อกระตุ้นให้ผู้สูบบุหรี่เลิกสูบ และให้รัฐบาล ชุมชน ประชากรโลก ตระหนักถึงความสำคัญและเข้าร่วมกิจกรรม

จุดมุ่งหมายของการจัดงานวันงดสูบบุหรี่โลก เพื่อกระตุ้นให้ทุกประเทศตระหนักถึง อันตราย และความสูญเสียทั้งทางสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมที่เกิดจากการสูบบุหรี่ องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้มีการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ โดยใช้ชื่อว่า World Spidemic หรือ การสูบบุหรี่เป็นโรคระบาดที่ระบาดอยู่ทั่วโลก และประกาศเตือนเยาวชนที่เริ่มสูบบุหรี่เมื่ออายุยังน้อย และสูบเป็นประจำว่าจะทำให้เสียชีวิตก่อนอายุขัยปกติ (ประมาณ 70-80 ปี) ถึง 22 ปี สำหรับรัฐบาลไทย ได้ตระหนักถึงความสูญเสียชีวิตของประชากร ที่เกิดจากการสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปี จึงได้มีการรณรงค์ให้เลิกสูบบุหรี่ และกำหนดมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลนำมาใช้ โดยการดูแลของกระทรวงสาธารณสุข ผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบุคลากรสาธารณสุข ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผู้สูบบุหรี่พยายามเลิกสูบบุหรี่ เช่น การประกาศบังคับใช้ มาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2535 ให้มีการพิมพ์ คำเตือน โทษของการสูบบุหรี่ที่ข้างซอง ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2548 และโทษของการสูบบุหรี่นั้นมีโทษร้ายแรงตั้งตัวผู้สูบและบุคคลรอบข้าง

สำหรับประเทศไทยได้ใช้ "ดอกลีลาวดี” เป็นสัญลักษณ์ในวันงดสูบบุหรี่ เนื่องจาก ความหมายของดอกไม้ชนิดนี้คือการขจัดสิ่งที่ไม่ดีออกไปจากตัวเรา อันเป็นความหมายจากชื่อเดิมของดอกลีลาวดี ซึ่งก็คือ ดอกลั่นทม ที่มีคนบางส่วนเข้าใจว่าเป็นดอกไม้อัปมงคล ไม่นิยมปลูกในบ้าน เพราะชื่อลั่นทมออกเสียงเหมือนคำว่าระทม หากปลูกแล้วก็จะมีแต่ความทุกข์ระทม และทางด้านภาษา คำว่า ลั่นทม เป็นคำผสมจาก ลั่น+ทม รวมความได้ว่า ละทิ้งความระทม ความเศร้าหมองต่างๆ นั่นก็คือ มีความสุข สดใส

ดังนั้น ผู้ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่ มีกลยุทธ์ที่จะรับมือกับการเลิกสูบบุหรี่ ประกอบด้วย ปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่

1. เลิกโดยเด็ดขาดทันทีทันใด จะเห็นผลดีกว่าการลดปริมาณ หากเราสามารถอดทนได้ใน 2-3 วันแรก โอกาสเลิกสูบบุหรี่ก็จะเป็นไปได้สูง

2. ออกกำลังกายเบาๆ อย่างน้อยวันละ 30-40 นาที เพื่อสร้างกิจกรรมระหว่างการเว้นว่างเพื่อสูบบุหรี่ แต่การออกกำลังกายกลับเป็นการกระตุ้นและ ซ่อมแซมร่างกายที่เสียหายจากบุหรี่อีกด้วย

3. หายใจช้าๆ ลึกๆ และ หลีกเลี่ยงสุรา ชา หรือกาแฟ เพราะจะทำให้เกิดอาการอยากสูบบุหรี่

4. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเดิมๆ ที่จะก่อให้เกิดการสูบบุหรี่

5. สามารถใช้หมากฝรั่งเคี้ยวระหว่างวัน เพื่อทำให้รู้สึกปากไม่ว่างได้


ผู้ที่สนใจจะเลิกสูบบุหรี่สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ 1600




รดา บุญยะกาญจน์ /เรียบเรียง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน
24 เมษายน 2557

จังหวัดน่าน แจ้งเตือนประชาชนระวังภัยจากพายุฝนฟ้าคะนองในช่วงนี้

กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งลักษณะอากาศทั่วไป ประจำวันที่ 24 เมษายน 2557 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน บริเวณประเทศไทยจะมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ของภาคเหนือ และภาคกลาง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ลำปาง แพร่ ตาก สุโขทัย นครสวรรค์ อุทัยธานี และกาญจนบุรี ส่วนลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง

ภาคเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ลำปาง แพร่ ตาก และสุโขทัย โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงราย น่าน อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ขอให้ประชาชนเตรียมการป้องกันอันตรายจากลักษณะอากาศดังกล่าวไว้ด้วย

นายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน แจ้งว่า ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 26 - 29 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย ด้วยความห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดน่าน จึงขอแจ้งเตือนประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่เกี่ยวกับภัยอันเกิดจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ให้เตรียมการป้องกันระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติในระยะนี้ไว้ด้วย ซึ่งอาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและเกษตรกร โดยให้ดูแลบ้านเรือน โรงเรือน ฟืชผลทางการเกษตร สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ให้แข็งแรง ตัดแต่งกิ่งไม้ ระมัดระวังการใช้วิทยุสื่อสาร โทรศัพท์มือถือกลางที่โล่งแจ้งขณะเกิดฟ้าคะนอง และขอกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบสิ่งก่อสร้างและป้ายโฆษณา หากพบว่าไม่ปลอดภัยหรือติดตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยเคร่งครัด และตัดกิ่งไม้ใหญ่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่อยู่ปฏิบัติงานเฝ้าระวังเพื่อเตรียมสถานการณ์ หากเกิดสาธารณภัยขึ้นในพื้นที่ให้รายงานสถานการณ์ให้จังหวัดทราบ และให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นทันที ทางโทรศัพท์หมายเลข 0-5471-6174 หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง



พวงพยอม  คำมุง / ข่าว

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยทรงเป็นองค์ประธานพิธีเปิดการแข่งขันดาราศาสตร์โอลิมปิกระดับชาติ ครั้งที่ 11 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทรงประกอบพิธีเปิดศูนย์ราชการอำเภอกัลยาณิวัฒนาและที่ว่าการอำเภอกัลยาณิวัฒนา ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างโรงเรียนมัธยมศึกษาประจำอำเภอกัลยาณิวัฒนา และยกช่อฟ้าอุโบสถ วัดจันทร์ อำเภอกัลยาณิวัฒนา

วันนี้ (24 เม.ย.57) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเพื่อปฏิบัติ พระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ดังนี้

เวลา 10.30 น. เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดการแข่งขันดาราศาสตร์โอลิมปิกระดับชาติ ครั้งที่ 11 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งจัดโดยมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและการพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (มูลนิธิ สอวน.) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันดาราศาสตร์แห่งชาติ ร่วมกับ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 24-29 เมษายน 2557 ณ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีนักเรียนผู้เข้าแข่งขันทั่วประเทศ จำนวน 11 ศูนย์

เวลา 12.40 น. ได้เสด็จโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ศูนย์ราชการอำเภอกัลยาณิวัฒนา เพื่อทรงประกอบพิธีเปิดศูนย์ราชการอำเภอกัลยาณิวัฒนาและที่ว่าการอำเภอกัลยาณิวัฒนา ซึ่งเป็นอำเภอที่ 878 และอำเภอสุดท้ายของการจัดตั้งอำเภอของประเทศไทย โดย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กราบบังคมทูลรายงานว่า อำเภอกัลยาณิวัฒนา เป็นอำเภอที่ก่อสร้างขึ้นเป็นกรณีพิเศษเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องด้วยทรงมีพระมหากรุณาธิคุณในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรบนพื้นที่สูงในทุกเรื่อง และทรงเลือกให้อำเภอแม่แจ่มเป็นต้นแบบทางการศึกษาของผู้ด้อยโอกาสบนพื้นที่สูง ให้มีโอกาสทางการศึกษา ประกอบกับ สภาพพื้นที่อำเภอแม่แจ่มอยู่ห่างไกล ทุรกันดาร ราษฎรมีปัญหาในด้านคุณภาพชีวิต การปกครอง และปัญหายาเสพติด จังหวัดเชียงใหม่พิจารณาเห็นว่าหากมีการแบ่งแยกเขตการปกครองของอำเภอแม่แจ่ม โดยเอาพื้นที่ตำบลบ้านจันทร์ ตำบลแม่แดด และตำบลแจ่มหลวง ไปรวมกันจัดตั้งเป็นอำเภอก็จะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรได้อย่างเป็นรูปธรรม จังหวัดเชียงใหม่จึงได้เสนอเรื่องผ่านกระทรวงมหาดไทยเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีซึ่งมีมติเห็นชอบในหลักการให้มีการจัดตั้งอำเภอวัดจันทร์เฉลิม พระเกียรติ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งต่อมาเมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงได้พระราชทานชื่ออำเภอว่า “อำเภอกัลยาณิวัฒนา” ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2552 ยังความปลื้มปิติแก่พสกนิกรชาวจังหวัดเชียงใหม่เป็นล้นพ้น

ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบพระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอกัลยาณิวัฒนา เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2552 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม พุทธศักราช 2552 เป็นอำเภอลำดับที่ 25 ของจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นอำเภอลำดับที่ 878 ของประเทศ โดยประกอบด้วยพื้นที่ 3 ตำบล 21 หมู่บ้าน ซึ่งภายหลังจากมีพระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอกัลยาณิวัฒนา กระทรวงมหาดไทยได้บูรณาการทุกภาคส่วน พิจารณาจัดสรรงบประมาณในการก่อสร้างอาคาร ที่ว่าการอำเภอกัลยาณิวัฒนา และอาคารอื่น ๆ รวมถึง โครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ได้ออกแบบและควบคุมดูแลการก่อสร้าง โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น 45,531,960 บาท ซึ่งการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และปัจจุบันได้เปิดให้บริการประชาชนได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ จึงได้ขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงประกอบพิธีเปิดศูนย์ราชการอำเภอกัลยาณิวัฒนา และที่ว่าการอำเภอกัลยาณิวัฒนา ซึ่งนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ขอพระราชทานพระราชวโรกาสเบิกผู้มีจิตศรัทธาทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราช-อัธยาศัย และผู้ให้การสนับสนุนเข้ารับพระราชทานของที่ระลึก จำนวน 120 ราย จากนั้นจึงเสด็จพระราชดำเนิน ทรงปลูกต้นไม้ และทอดพระเนตรนิทรรศการความเป็นมาในการก่อตั้งอำเภอกัลยาณิวัฒนาภายในอาคารตามลำดับ

หลังจากทรงประกอบพิธีเปิดศูนย์ราชการอำเภอกัลยาณิวัฒนาและที่ว่าการอำเภอกัลยาณิวัฒนาแล้ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างโรงเรียนมัธยมศึกษาประจำอำเภอกัลยาณิวัฒนา ซึ่งตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนแล้ว บนเนื้อที่ 88 ไร่ 3 งาน 69 ตารางวา ณ บริเวณบ้านห้วยบง หมู่ 4 ตำบลบ้านจันทร์ อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีรูปแบบการจัดการเรียนการสอน เป็นแบบกึ่งพักนอนสำหรับเด็ก ในอำเภอกัลยาณิวัฒนา และเด็กที่พักอาศัยในพื้นที่เขตรอยต่อจังหวัดเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน เปิดการเรียนการสอนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1–6 ตั้งแต่ ปีการศึกษา 2554 เป็นต้นมา

ต่อมาได้เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งไปทรงประกอบพิธียกช่อฟ้าอุโบสถวัดจันทร์ ตำบลบ้านจันทร์ อำเภอกัลยาณิวัฒนา ซึ่งเป็นวัดแรกในอำเภอกัลยาณิวัฒนา ที่มีการก่อสร้างมานานกว่า 300 ปี ที่เป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยได้อบรมสั่งสอนชุมชนชาวไทยภูเขาที่นับถือพระพุทธศาสนาให้รูหลักคำสอน เป็นคนดีของสังคม รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยเมื่อปีพุทธศักราช 2473 ครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ได้เดินธุดงค์ผ่านมาโดยได้พักค้างคืนที่วัดบ้านจันทร์และได้นำชาวบ้านช่วยกันบูรณะ พระเจดีย์จนแล้วเสร็จจึงได้เดินทางไปจาริกแสวงบุญต่อที่อำเภอสะเมิง และเมื่อปีพุทธศักราช 2522 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม-ราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรชาวเขาในถิ่นทุรกันดารในพื้นที่วัดจันทร์แห่งนี้ และได้ริเริ่มให้มีการจัดตั้งศูนย์ศิลปาชีพ เพื่อสร้างรายได้จากการทอผ้าของชาวบ้านในตำบลวัดจันทร์

สำหรับการจัดสร้างอุโบสถวัดจันทร์นั้น พระพลชัย พะละรักโข พระที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่วัดจันทร์ แต่ไปจำพรรษาที่วัดส้มเกลี้ยง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ได้นำพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาจากรุงเทพมหานคร มาร่วมกันก่อสร้างพระอุโบสถหลังแรกในวัดจันทร์ ร่วมกับคณะศรัทธาบ้านวัดจันทร์ โดยอุโบสถหลังนี้มีขนาดกว้าง 12 เมตร ยาว 25 เมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น 5,900,000 บาท เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบกิจทางศาสนา โดยมีเจ้าภาพหลัก คือ พลเอก ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ โดยได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2552 ถือเป็นพระอุโบสถหลังแรกและวัดแรกในอำเภอกัลยาณิวัฒนา ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ขอพระราชานุญาตเบิกผู้มีจิตศรัทธา จำนวน 100 ราย เข้ารับพระราชทานของที่ระลึกด้วย ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นพิธีการ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จประทับรถยนต์พระที่นั่งไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ศูนย์ราชการอำเภอกัลยาณิวัฒนา เพื่อประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งไปยังท่าอากาศยานกองบิน 41 จากนั้นจึงเสด็จประทับเครื่องบินพระที่นั่งเสด็จกลับกรุงเทพมหานคร





ข่าวโดย : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่