วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์มอบปูนซีเมนต์ถุง ในโครงการพระราชดำริเพื่อการก่อสร้างฝายชะลอน้ำ อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์

องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์มอบปูนซีเมนต์ถุง ในโครงการพระราชดำริเพื่อการก่อสร้างฝาย ชะลอน้ำ อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์

องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์ดำเนินการจัดทำโครงการตามพระราชดำริเพื่อการก่อสร้างฝายชะลอน้ำในพื้นที่ตำบลผาเลือดและตำบลจริม อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗ เพื่ออนุรักษ์ต้นน้ำให้มีความสมบูรณ์และสร้างสมดุลให้กับผืนป่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ประสบภัยแล้ง เพื่อได้ใช้ประโยชน์จากน้ำด้วยการเพาะปลูกพืชผักทางการเกษตร เพื่อสร้างความรัก ความสามัคคีในชุมชน เพื่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์ได้ทำหน้าที่ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การดำเนินงานครั้งนี้เป็นการดำเนินงานในลักษณะการบูรณาการร่วมกัน ระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์,องค์การบริหารส่วนตำบลผาเลือดและสำนักงานเทศบาลตำบลจริม อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ในส่วนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์จัดซื้อ/จัดหาปูนซีเมนต์สปอร์ตแลนด์จำนวน ๕๓๖ ถุง ๆ ละ ๑๔๕ บาท เป็นเงิน ๗๗,๗๒๐ บาท องค์การบริหารส่วนตำบล ผาเลือด จัดซื้อ/จัดหาทรายหยาบ,หินเบอร์ ๑ - ๒, น้ำยาผสมคอนกรีตและแรงงานจากประชาชนในพื้นที่ - เทศบาลตำบลจริม จัดซื้อ/จัดหา ทรายหยาบ, หินเบอร์๑-๒, น้ำยาผสมคอนกรีตและแรงงานจากประชาชนในพื้นที่ในวันนี้ได้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์ได้มอบปูนซีเมนต์ถุง ให้กับ อบต.ผาเลือด ๓๓๖ ถุง เพื่อก่อสร้างฝายชะลอน้ำ ๑๘ จุด เทศบาลตำบลจริม จำนวน ๒๐๐ ถุง เพื่อใช้ในการก่อสร้างฝายชะลอน้ำ จำนวน ๑๓ จุด เพื่อบรรเทาน้ำแล้งในพื้นที่ในอนาคต

โดย นายชัยศิริ ศุภรักษ์จินดา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์ นายไพบูลย์ วิรบุตร์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์(๒) นายสมชายไชยพันธุ์ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์ และ นายดำรงค์ ทองศรี รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์(๒) ได้ร่วมกันมอบปูนซีเมนต์ถุง จำนวน ๕๓๖ ถุง ให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลท่าปลา และเทศบาลตำบลจริม อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมี นายสุรพล กิตติคุณ รองนายกเทศมนตรีตำบลจริม และคณะเข้ารับมอบปูนซีเมนต์ถุง ตามโครงการตามพระราชดำริเพื่อการก่อสร้างฝายชะลอน้ำในพื้นที่ตำบลผาเลือดและตำบลจริม อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗



ข่าว/สุรีย์ แสงทอง สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์

เลขาธิการ เสธ ทน.๓/เลขาธิการ รมน.ภาค ๓ เป็นประธานพิธีเปิดเวทีเสวนาปัญหาและความต้องการของประชาชนเพื่อการปฏิรูป ในพื้นที่อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์

เลขาธิการ เสธ ทน.๓/เลขาธิการ รมน.ภาค ๓ เป็นประธานพิธีเปิดเวทีเสวนาปัญหาและความต้องการของประชาชนเพื่อการปฏิรูป ในพื้นที่อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์

บ่ายวันนี้ ( ๒๓ มิ.ย.๕๗) พล.ต.กิตติศักดิ์ แม้นเหมือน เลขาธิการ เสธ ทน.๓/เลขาธิการ รมน.ภาค ๓ เดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิดเวทีเสวนาปัญหาและความต้องการของประชาชนเพื่อการปฏิรูป ณ ห้องประชุมธรรมาภิบาล องค์การบริหารส่วนตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นการจัดเวทีเสวนา เพื่อศึกษาถึงปัญหาและความต้องการที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และร่วมระดมความคิดเห็นในการหาแนวทางการแก้ไขปัญหานำไปสู่การปฎิรูป ตามแนวทางของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สร้างความปรองดองสมานฉันท์ สร้างความรัก ความสามัคคีให้เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยมี พ.อ.บุญประสิทธิ์ มีสอาด รอง กอ.รมน.จังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย นายสถิตพงษ์ ศิวะวามร นายอำเภอพิชัย ตลอดจน นายศิลปชัย ถาวรพัฒนาสกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลในเมือง ให้การต้อนรับ โดยมี ผู้นำชุมชน ตัวแทนประชาชนจากทุกหมู่บ้าน ของตำบลในเมือง อำเภอพิชัยเข้าร่วมการเสวนาจำนวนมาก



ข่าว/สุรีย์ แสงทอง สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์

จังหวัดอุตรดิตถ์ เร่งให้แต่ละหน่วยงานปฏิบัติงานการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง

จังหวัดอุตรดิตถ์ เร่งให้แต่ละหน่วยงานปฏิบัติงานการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง

นายวีระชัย ภู่เพียงใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดจังหวัดอุตรดิตถ์ ณ ห้องประชุมศรีพนมมาศ โดยมที่ประชุมมีการมอบหมายให้แต่ละหน่วยงานเร่งรัดการรายงานผลการปฏิบัติงานการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมทั้งให้เข้มข้นในการตรวจ ติดตามการปฏิบัติตามนโยบาย คสช. ให้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ และให้แต่ละอำเภอเร่งรัดการอบรมกลุ่มผู้เสพยาเสพติด รุ่นละ ๙ วัน และฝึกอาชีพ อีก ๕ วัน โดยให้แล้วเสร็จภายในกลางเดือนสิงหาคม ๒๕๕๗ และนอกจากนี้ แต่ละหน่วยงานได้รายงานผลการปฏิบัติงานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ที่ประชุมทราบ ซึ่งผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ



ข่าว/สุรีย์ แสงทอง สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์

กกท.ลำพูน เชิญชวนชาวลำพูนร่วมเป็นกำลังใจให้นักกีฬา เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 43 ณ จังหวัดแพร่ ระหว่างวันที่ 20-30 มิถุนายนนี้

นายนพดล เกิ้งบุรี ผู้อำนวยการศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า จังหวัดลำพูน โดยสมาคมกีฬาจังหวัดลำพูน และศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดลำพูน ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ภาค 5 ครั้งที่ 43 เมืองแพร่เกมส์ ระหว่างวันที่ 20-30 มิถุนายน 2557 จำนวน 25 ชนิดกีฬา คือ กรีฑา ว่ายน้ำ ฟุตบอล ฟุตซอล วอลเลย์บอล วอลเลย์บอลชายหาด กอล์ฟ เทเบิลเทนนิส เทนนิส เพาะกาย ซอฟท์เทนนิส ยกน้ำหนัก วูซู มวยไทยสมัครเล่น มวยสากลสมัครเล่น เทควันโด แบดมินตัน เรือพาย ตะกร้อลอดห่วง คาราเต้โด บริดจ์ เปตอง จักรยาน ยิงปืน โดยมีนักกีฬา 283 คน ผู้ฝึกสอน 82 คน รวม 365 คน ศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดลำพูนเชิญชวนประชาชนชาวลำพูนร่วมเป็นกำลังใจให้นักกีฬา ผู้ฝึกสอน และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาด้วยความถูกต้องตามกติกา มีความยุติธรรม มีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เพื่อนำความสำเร็จและชื่อเสียงมาสู่ตนเอง ครอบครัว และจังหวัดลำพูนต่อไป


ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525519
หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

จ.ลำพูน เปิดตัวโครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนและศักยภาพของพื้นที่

จ.ลำพูน เปิดตัวโครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเน้นการทำงานแบบบูรณาการ หวังปรับเปลี่ยนกระบวนการพัฒนาให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนและศักยภาพของพื้นที่

สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดลำพูนเปิดตัวโครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ปีงบประมาณ 2557 พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือบูรณาการพัฒนาการเกษตรภายใต้พื้นที่โครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจรในพื้นที่ที่มีศักยภาพจังหวัดลำพูน และกิจกรรมนัดลงพื้นที่พร้อมกันเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเกษตรและสหกรณ์ ที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตำบลป่าสัก อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โดยมี นายอาณัติ วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานในพิธี นางสาวรัตนาพร กิติกาศ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดลำพูน กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินโครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรระดับจังหวัด มาตั้งแต่ปี 2554 และในปี 2557 ได้เปลี่ยนชื่อโครงการเป็น โครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ มุ่งเน้นการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการของหน่วยงานทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเครือข่ายทุกภาคส่วน

โดยคำนึงถึงสภาพพื้นที่และความต้องการของชุมชน หวังให้เกิดประโยชน์โดยตรงกับเกษตรกร เพื่อปรับเปลี่ยนกระบวนการพัฒนาการเกษตรระดับพื้นที่ให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนและศักยภาพของพื้นที่ในลักษณะบูรณาการ โดยพัฒนาแหล่งน้ำให้เต็มศักยภาพและใช้พื้นที่ที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาแหล่งน้ำเป็นศูนย์กลางการบูรณาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต การเพิ่มมูลค่า การตลาด และการบริหารจัดการ เป็นการพัฒนาชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งและยั่งยืน เพื่อเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า ในปีนี้ คณะอนุกรรมการบูรณาการแผนปฏิบัติการ พัฒนาด้านการเกษตรจังหวัดลำพูนได้คัดเลือกพื้นที่รับประโยชน์จากน้ำฝายมหาโชค หมู่ที่ 1, 3, 5 และ 6 ตำบลป่าสัก อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เป็นพื้นที่ดำเนินการเพิ่มอีก 1 แห่ง แผนระยะ 5 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2557-2561 พื้นที่มีระบบน้ำเพื่อการเกษตรค่อนข้างสมบูรณ์ เหมาะสำหรับการปลูกพืช ได้แก่ ข้าวและลำไย การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และการผลิตและเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ สุกร และไก่เนื้อ มีพื้นที่รับประโยชน์จากน้ำทั้งหมด 3,700 ไร่ พื้นที่เป้าหมาย 1,862 ไร่ เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 132 ราย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนชื่นชมทุกหน่วยงานที่ได้ให้ความร่วมมือกันขับเคลื่อนการบูรณาการโครงการดังกล่าว โดยส่งเสริมการจัดหาแหล่งน้ำให้มีใช้อย่างทั่วถึง เพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต การเพิ่มมูลค่า การตลาดและการบริหารจัดการ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกร เช่น รายได้เฉลี่ยต่อปีของเกษตรกรเพิ่มขึ้น และพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้นอย่างยั่งยืน



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525519
    หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

จังหวัดลำพูน จัดพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคล และ พิธีเททอง วัตถุมงคล รุ่น 1 บารมี 2 มหาราช

วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดลำพูน จัดสร้าง วัตถุมงคล รูปหล่อ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ เหรียญ ครูบาศรีวิชัย

ที่ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรามหาวิหาร อ.เมืองลำพูน พุทธศาสนิกชนชาว จ.ลำพูน ร่วมประกอบพิธี มหาพุทธาภิเษก การจัดสร้าง วัตถุมงคล รูปหล่อ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ เหรียญ ครูบาศรีวิชัย โดยมี พระธรรมคุณาภรณ์ รองเจ้าคณะภาค 7 วัดประทุมคงคา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มี พลโท สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพน้อย ที่ 3 เป็นประธาน ฝ่ายฆราวาส และ มี นาย สุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน หัวหน้าส่วนราชการ และ คณะศรัทธา เข้า ร่วมใน พิธี เป็นจำนวนมาก

การจัดสร้างวัตถุมงคล ในครั้งนี้ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ได้ร่วมกับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดลำพูน จัดสร้าง ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ หารายได้จัดพิธี เททองหล่อรูปเหมือน สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ขนาดเท่าองค์จริง เพื่อ ประดิษฐานหน้าตึก กองกำลังนเรศวร ค่าย นเรศวร จ.ตาก , เพื่อ หารายได้ เททองหล่อรูปเหมือน ครูบาศรีวิชัย เพื่อ ประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย อ.เมืองลำพูน , เพื่อ หารายได้ เททองหล่อ องค์พระธาตุหริภุญชัย จำลอง เพื่อ ใช้ในงานพิธี สรงน้ำของ วัดพระธาตุหริภุญชัย , สนับสนุน การจัดหา อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เพื่อการศึกษา ของ โรงเรียนแม่ตืนวิทยา อ.ลี้ จ.ลำพูน , สนับสนุนการก่อสร้างห้องเอกซ์เรย์ ให้กับ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลแม่ตืน อำเภอ ลี้ จังหวัด ลำพูน , สนับสนุน กิจกรรม ของ กิ่งกาชาด จังหวัดลำพูน

ในการจัดสร้าง มีการ สร้าง รูปเหมือน ครูบาศรีวิชัย ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว , ชุดล๊อกเกตครูบาดัง เมือง หริภุญชัย ( เมืองลำพูน ) , พระกริ่งนเรศวร วัดพระธาตุหริภุญชัยฯ , พระรูปเหมือน พระเจ้าตากสินมหาราช , พระรูปเหมือน , พระรูปหล่อ ครูบาศรีวิชัย รุ่นแรก , ล๊อกเกต ครูบาศรีวิชัย รุนแรก วัด พระธาตุหริภุญชัย ซึ่ง ผู้มีจิต ศรัทธา สามารถ เช่า บูชา วัตถุมงคล ดังกล่าว โดย สามารถ สอบถามได้ที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดลำพูน หมายเลขโทรศัพท์ 053 – 510 150 , กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 053 – 112 721 , สำนักงานสัสดี จังหวัดลำพูน หมายเลขโทรศัพท์ 053 511 381 หรือ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ที่ พระมหาพิสดาร ปิยวณฺโณ หมายเลขโทรศัพท์ 089 - 955 2174 และ ตัวแทนส่วนกลาง กรุงเทพฯ หมายเลขโทรศัพท์ 092 – 252 0922


ข่าวโดย : นศ. ฝึกประสบการณ์ นางสาวเกศกนก แสงจันทร์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

ผู้ว่าฯ ลำพูน สั่งการทุกส่วนราชการ ปฏิบัติตามแนวทาง คสช. เพื่อขับเคลื่อนศูนย์ปรองดองสมานฉันท์

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนสั่งการทุกส่วนราชการ ปฏิบัติตามแนวทางของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างเข้มข้น เพื่อขับเคลื่อนการจัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ โดยให้ถือเป็นวาระสำคัญของชาติ

นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า เพื่อให้การดำเนินงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการจัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จึงสั่งการให้ทุกส่วนราชการปฏิบัติตามแนวทางของ คสช. อย่างเข้มข้น โดยให้ถือเป็นวาระสำคัญของชาติ เพื่อให้ประชาชนในทุกพื้นที่สามารถดำรงชีวิตร่วมกันได้อย่างมีความสุข คิดต่างได้แต่ไม่แตกแยก ภายใต้สังคมที่เคารพรักษากฎหมายและกฎระเบียบทางสังคม ซึ่งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ควบคู่กับการร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาพื้นที่ของตนเอง ทั้งนี้ในเบื้องต้น บุคลากรในภาครัฐทุกคนต้องช่วยกันเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยให้มีระบบการปกครองแบบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง เที่ยงธรรม มีธรรมาภิบาล โดยมีพระมหากษัตริย์ทรเป็นประมุข และมุ่งสู่ระบบการปกครองตามครรลองของประชาธิปไตยแบบสากล ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง ไม่สร้างความแตกแยก และไม่ปลูกฝังลัทธิประชานิยมที่ขัดหลักธรรมชาติ โดยให้สถาบันหลักของจังหวัด เช่น ศาสนา โรงเรียน องค์กรภาคเอกชนทุกแห่ง ตลอดจนอาสาสมัครทุกกลุ่ม เป็นพลังช่วยขับเคลื่อนอีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรภาคเอกชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ในการจัดกิจกรรมสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัวให้กลับคืนมา โดยเน้นปลูกฝังการสร้างวินัย การใช้หลักธรรมในการครองเรือน ครองตน ซึ่งประกอบด้วย ความซื่อสัตย์ต่อกัน การรู้จักข่มใจม่โกรธง่าย มีความอดทนที่จะฟังความคิดเห็นของบุคคลอื่นอย่างไม่มีอคติ มีความเสียสละ ไม่เห็นแก่ตัว ทำประโยชน์ให้กับสังคม ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการพนันและยาเสพติด รวมทั้งสร้างกระบวนการให้เกิดความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ โดยจัดเวทีชี้แจงเหตุผลที่ต้องมีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และความจำเป็นที่จะต้องช่วยกันสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและการปฏิรูปให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศต่อไปได้อย่างยั่งยืน


ข่าวโดย : ศักดิ์สิทธิ์ กิตินันทน์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

จังหวัดลำพูน เชิญชมการประกวดหนังสั้น ในงาน วันต่อต้านยาเสพติดโลก และกิจกรรม TO BE NUMBER ONE ร่วมปกป้องลูกหลานให้ห่างไกลยาเสพติด

นายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน เปิดเผยเกี่ยวกับการจัดประกวดหนังสั้น งานวันต่อต้านยาเสพติดโลก และกิจกรรม TO BE NUMBER ONE ว่า ตามที่จังหวัดลำพูนร่วมกับ อบจ.ลำพูน กำหนดจัดงาน วันต่อต้านยาเสพติดโลก และกิจกรรม TO BE NUMBER ONE เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก ในวันที่ 26 มิถุนายน 2557 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ที่ สนามฟุตบอลสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัด ตำบลป่าสัก อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เพื่อสนับสนุนเด็กและเยาวชนร่วมเป็นจิตอาสาต่อต้านยาเสพติด เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนทำกิจกรรมสร้างสรรค์ แสดงพลัง ในการต่อต้านยาเสพติด และทำความดีเพื่อสังคมนั้น

ในงานจะจัดให้มีการประกวดหนังสั้น วันต่อต้านยาเสพติดโลก มีเนื้อหาที่สร้างสรรค์ ก่อให้เกิดกระแสคุณธรรม จริยธรรม การตระหนักถึงโทษ/พิษภัยของยาเสพติด การให้ข้อคิด ข้อเตือนใจ ไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ละเรื่องมีความยาวไม่เกิน 5 นาที

จึงขอเชิญผู้สนใจ ร่วมชมการประกวดหนังสั้น ในวันที่ 26 มิถุนายน 2557 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัด


ข่าวโดย : นศ. ฝึกประสบการณ์ นางสาวเกศกนก แสงจันทร์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

วัดโบสถ์น้ำดิบ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน จัด พิธี ถวาย แสงพระหัตถ์ อัญมณี พระพุทธชัยวัฒนมิ่งมงคลพระเจ้าหมื่นล้าน

พุทธศาสนิกชน ชาว อ.ป่าซาง ร่วม ประกอบพิธี ถวาย แสงพระหัตถ์ อัญมณี พระพุทธชัยวัฒนมิ่งมงคล พระเจ้าหมื่นล้าน ซึ่ง เป็นพระพุทธรูป ประจำวัด ซึ่ง ต่อจากนี้ จะมีการ ก่อสร้าง วิหาร วัด เพื่อ นำพระพุทธรูปดังกล่าว ไป ประดิษฐาน ให้ พุทธศาสนิกชน ได้สัการะบูชา

ที่ วัดโบสถ์น้ำดิบ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน พระครูปลัดทนงค์ ชยาภรโณ เจ้าอาวาส วัดโบสถ์ น้ำดิบ , พระ เถระ ใน อำเภอ ป่าซาง และ พุทธศาสนิกชน ใน อำเภอป่าซาง ร่วมกัน ประกอบ พิธี ถวายแสงพระหัตถ์ อัญมณี พระเจ้าหมื่นล้าน ซึ่ง เป็นพระพุทธรูป ของ วัด ที่จัดสร้าง ขึ้น เพื่อ เตรียม ที่จะ นำไป ประดิษฐาน ในวิหาร ที่ จะจัดสร้าง ขึ้น ใหม่ แทน ศาลาหลังเดิม ที่ ชำรุด ทรุดโทรม โดยมี พระมหาอาวรณ์ ภูริปัญโญ วัดปันเสา จ.เชียงใหม่ ประธานอุปถัมภ์ การสร้างวิหาร วัดโบสถ์น้ำดิบ ได้ ถวาย แสงพระหัตถ์ อัญมนี

วัดโบสถ์ น้ำดิบเป็นวัดเก่าแก่ วัดหนึ่ง ใน อ.ป่าซาง ซึ่ง มีอายุ หลายร้อยปี แต่ เนื่อง จาก ไม่มี วิหาร สำหรับใช้ประกอบพิธี ทางพระพุทธศาสนา คณะศรัทธา จึง จัดโครงการ ก่อสร้างวิหาร โดยจะใช้ ทุนทรัพย์ ในการก่อสร้าง จำนวน 5 ล้านบาท ซึ่ง จะมี พิธี วางศิลาฤกษ์ ก่อสร้างวิหาร ในวันที่ พฤศจิกายน ( ตรงกับวันลอยกระทง )

ในการนี้ พระพุทธชัยวัฒนมิ่งมงคล พระ พุทธรูป ประจำวิหาร ที่ได้จัดสร้าง แล้วเสร็จ ได้ตั้ง ประดิษฐาน บริเวณอุโบสถ ของวัด เป็นการชั่วคราว สำหรับ ผู้ที่มีจิตศรัทธา จะร่วมทำบุญ สร้างวิหาร วัดโบสถ์น้ำดิบ สามารถแจ้งความประสงค์ ได้ ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 087 175 4176 และ 084 717 1374 หรือ บริจาค ผ่าน ธนาคาร เพื่อการเกษตรและ สหกรณ์ การเกษตร ( ธ.ก.ส. ) สาขาป่าซาง ชื่อ บัญชี วัดโบสถ์น้ำดิบ เลขที่ บัญชี 01147 262 88 99 หรือ ธนาคาร กรุงไทย ชื่อ บัญชี พระทนง วงศ์สายะ เลขที่บัญชี 5110 050 481 .



ข่าวโดย : นศ. ฝึกประสบการณ์ นางสาวเกศกนก แสงจันทร์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

จังหวัดลำพูน จัดแถลงข่าว การจัดงาน “ ลำไยไทย ลำไยลำพูน คืนความสุขให้ประชาชน”

บ่ายวันนี้ ( 23 มิถุนายน 2557 ) ที่ศาลากลางจังหวัดลำพูน นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธาน เปิดการแถลงข่าวการจัดงาน ลำไยไทย ลำไยลำพูน คืนความสุขให้ประชาชน ซึ่งกำหนดจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2557 ณ บริเวณถนนริมแม่น้ำกวง ตั้งแต่เชิงสะพานท่าขาม ถึง เชิงสะพานท่านาง (หน้าวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร) อำเภอเมืองลำพูน เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงลำไยของจังหวัดลำพูนให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและเพื่อส่งเสริมด้านการตลาดของลำไย ตลอดจนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดลำพูน

ในงานจะมีการออกร้านจำหน่ายลำไยของเกษตรกรชาวสวน ผลิตภัณฑ์จากลำไย และสินค้าเกษตรอื่นๆ รวมทั้งสินค้า OTOP ชั้นนำ ของจังหวัดลำพูน สำหรับวันเปิดงานจะจัดให้มีขบวนแห่รถประดับลำไย 11 ขบวน และการประกวดขบวนแห่ และขบวนช้าง 9 เชือก ซึ่งจะเคลื่อนขบวนจากบริเวณประตูช้างสี ไปตามถนนอินทยงยศ เข้าสู่บริเวณงานริมแม่น้ำกวง ที่น่าสนใจในงาน คือ การประกวดธิดาชาวสวนลำไย การแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้าน การแสดงแสง สี เสียง และการแสดงของช้าง ชุด “ ยิ่งยศยุทธหัตถีสดุดีองค์นเรศวร ” พร้อมทั้งการแสดงบันเทิงของศิลปินชั้นแนวหน้าทุกคืน

จึงขอเชิญชวนเที่ยวงาน “ ลำไยไทย ลำไยลำพูน ” วันที่ 25 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2557



ข่าวโดย : นศ. ฝึกประสบการณ์ นางสาวเกศกนก แสงจันทร์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

จ.ลำพูน เชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมช้อป ชิม ลำไย สินค้าโอท็อป ในงาน ลำไยไทย ลำไยลำพูน และคืนความสุขให้ประชาชน ระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน - 2 กรกฎาคมนี้

จ.ลำพูน เชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมช้อป ชิม ผลิตภัณฑ์ลำไย สินค้าโอท็อป ในงาน ลำไยไทย ลำไยลำพูน และคืนความสุขให้ประชาชน ระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2557

นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า จังหวัดลำพูน ร่วมกับศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดลำพูน กำหนดจัดงาน ลำไยไทย ลำไยลำพูน และคืนความสุขให้ประชาชน ระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2557 ที่บริเวณถนนหน้าวัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ตั้งแต่เชิงสะพานท่าขามถึงเชิงสะพานท่านาง เพื่อประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูนด้านการท่องเที่ยว และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายพืชผลสินค้าเกษตรต่างๆ โดยเฉพาะลำไย ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัด รวมถึงผลิตภัณฑ์โอท็อปของจังหวัดลำพูน ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ตลอดจนสร้างความปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขให้ประชาชน ภายในงานจะมีกิจกรรมบนเวทีทุกค่ำคืน มีการจำหน่ายลำไยสด ผลิตภัณฑ์จากลำไย นิทรรศการวิชาการด้านการเกษตร การพัฒนาและนวัตกรรมลำไยลำพูน การประกวดธิดาลำไยไทย ลำไยลำพูน การแสดงและจำหน่ายสินค้าโอท็อปของดีเมืองลำพูน การออกร้านของกลุ่มผ้าไหมยกดอก ผ้าฝ้ายทอมือ กลุ่มผ้าบาติกและผ้ามัดย้อม กลุ่มผู้จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์บ้านม้า กลุ่มผู้ผลิตไม้แกะสลักแม่ทา ผลผลิตทางการเกษตร พร้อมการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาประหยัด

จังหวัดลำพูนขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมช้อป ชิม ผลไม้นางเอกของงานอย่างลำไยลำพูนอันเลื่องชื่อ และชมการแสดงจินตภาพประกอบแสง สี เสียง สามมิติ เรื่อง ยิ่งยศยุทธหัตถี สดุดีองค์นเรศวร ในระบบ 3 มิติ สุดยิ่งใหญ่อลังการ นับเป็นอีกงานหนึ่งที่จะให้ความคุ้มค่า และคืนความสุขให้ประชาชนที่มาเที่ยวชมอย่างแน่นอน ทั้งนี้ จะมีขบวนแห่รถประดับลำไยพร้อมผู้เข้าร่วมประกวดธิดาลำไยไทยลำไยลำพูน ขบวนช้างและพิธีเปิดงาน ในวันที่ 25 มิถุนายน 2557 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป โดยมีการถ่ายทอดสดการจัดงาน ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่ ด้วย



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525519
    หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

ผวจ.ลำปาง นำมวลชนชาวลำปาง รวมพลทำกิจกรรมเทิดทูนสถาบัน แสดงพลังรักชาติสามัคคีปรองดอง เดินหน้าสร้างความสมานฉันท์ คืนสุขให้แผ่นดิน

นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย พลตรีอุกฤษณ์ อากาศวิภาต ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรีลำปาง ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยมณฑลทหารบกที่ 32 และคณะผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดลำปาง ร่วมกันนำคณะเจ้าหน้าที่ของรัฐ ข้าราชการ ทั้งฝ่ายพลเรือน อัยการ ทหาร ตำรวจ กลุ่มนิสิต นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มพลังมวลชนในพื้นที่ รวมกว่า 2,000 คน ทำกิจกรรม "รวมพลคนลำปาง ฮักกั๋นแต้หนา" ที่บริเวณข่วงนคร เทศบาลนครลำปาง ห้าแยกหอนาฬิกา ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เพื่อเดินหน้าสร้างจิตสำนึกรักชาติ รักแผ่นดิน สร้างความสมานฉันท์ สร้างความรัก ความสามัคคีปรองดอง ให้เกิดขึ้นแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และเพื่อจะนำนครลำปางสู่การเป็น "นครแห่งความสุข"

กิจกรรมการรวมพลครั้งนี้ มีข้าราชการจากทุกสังกัดหน่วยงาน และประชาชนจากทุกหมู่เหล่า ทุกพื้นที่ชุมชน หมู่บ้าน ซึ่งในมือของแต่ละคนต่างถือธงชาติขนาดเล็ก และเทียนไขหนึ่งเล่ม เดินทางมาร่วมกิจกรรม โดยเมื่อถึงเวลา 18.00 น. นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้นำประชาชนผู้มาร่วมกิจกรรมทุกหมู่เหล่า ร่วมกันร้องเพลงชาติไทยอย่างพร้อมเพรียงกัน และได้นำผู้ร่วมงาน ทำกิจกรรมเทิดทูนสถาบัน ด้วยการร่วมกันถวายเครื่องราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมกล่าวถวายราชสดุดีแสดงความกตัญญูกตเวทิตา ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และได้พร้อมใจร่วมกันกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ ที่จะน้อมนำพระราชดำริทั้งหลายทั้งปวงไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม พร้อมจะอัญเชิญไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม และจะร่วมกันพัฒนาประเทศชาติด้วยความปรองดองสมานฉันท์ เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการรู้รักสามัคคี ภายใต้การดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง พร้อมกันนี้ผู้ร่วมงานได้รวมใจเป็นหนึ่งเดียว ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี, สดุดีมหาราชา ซึ่งเมื่อจบเพลงสดุดีมหาราชา ประชาชนผู้มาร่วมงานต่างพร้อมใจกันถวายความจงรักภักดี เปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” พร้อมกันจนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ

โอกาสนี้ นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และพลตรีอุกฤษณ์ อากาศวิภาต ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานจากองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน สถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้แทนภาคประชาชน ได้ร่วมกันลงนามในบันทึกข้อตกลง “ร่วมปรองดองสมานฉันท์ สร้างสุขให้แผ่นดิน” เพื่อเป็นสัญญาแห่งการปรองดองสมานฉันท์ เป็นข้อตกลงในการที่จะร่วมกันพัฒนาจังหวัดลำปาง ให้มีความสุข ร่มเย็น ยั่งยืน และปลอดจากอบายมุขทั้งหลายทั้งปวง ทั้งนี้เพื่อให้ “นครลำปาง เป็นนครแห่งความสุข” และเพื่อแสดงถึงความสมัครสมานสามัคคีปรองดองที่จะเกิดขึ้นใน “นครลำปาง” ผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนได้ร่วมกันจุดเทียนไขคนละหนึ่งเล่ม เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งแสงสว่าง พร้อมกับได้ร่วมกันร้องเพลงสามัคคีชุมนุม และเพลงคืนความสุขให้ประเทศไทย โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความสมานฉันท์ ภายใต้รอยยิ้มที่เปี่ยมสุขของผู้ร่วมกิจกรรมทุกคน

ดูคลิป http://youtu.be/wGJcDyIg9Bs



ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

ศพส.อำเภอเกาะคา เปิดค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและพัฒนาทักษะชีวิต จัดฝึกอบรม ฟื้นฟูสมรรถภาพแก่เยาวชน และราษฎรที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอเกาะคา จัดกิจกรรมฝึกอบรม โครงการ "ค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและพัฒนาทักษะชีวิต" นำเยาวชนและผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพ ที่ วัดสันตินิคม บ้านสันป่าสัก ตำบลใหม่พัฒนา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง มีนายสุรพล สัตยารักษ์ ปลัดจังหวัดลำปาง ให้เกียรติเป็นประธานพิธีเปิดโครงการฯ พร้อมได้พบปะเยี่ยมเยือนให้กำลังใจแก่ที่ผู้เข้ารับการบำบัดฟื้นฟู โดยมีเยาวชนและประชาชน ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ซึ่งเป็นราษฎรในพื้นที่ตำบลต่างๆ ของอำเภอเกาะคา สมัครใจเข้ารับการฝึกอบรมตามโครงการฯ จำนวน 50 คน

โครงการ “ค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและพัฒนาทักษะชีวิต” ได้จัดทำขึ้น เพื่อเป็นการสนองต่อการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ที่มีแนวทางการดำเนินงาน นำผู้ที่มีพฤติกรรม ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ได้รู้จักคุณค่าของตนเอง รักตนเอง รักครอบครัวและสังคม รวมทั้งได้รับความรู้เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องถึงโทษและพิษภัยของยาเสพติด อีกทั้งเพื่อให้เกิดเจตคติที่ดี เกิดการปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมไปในทางที่ถูกต้องเหมาะสมไม่กระทำผิดกฎหมาย สามารถที่จะเลิกเสพยาเสพติด และไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดได้อย่างสิ้นเชิง ตลอดจนสามารถที่จะนำความรู้ที่ได้รับในการฝึกอบรม ไปประยุกต์ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ทั้งตนเอง และสังคม

โดยการฝึกอบรมตามโครงการดังกล่าว ได้นำแนวทางหลักสูตร การบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ของสถาบันธัญญารักษ์ กรมการแพทย์กระทรวงสาธารณสุข เข้ามาประยุกต์ใช้ผสมผสานกับการฝึกระเบียบวินัยทางทหาร ด้วยการใช้กลยุทธ์สำคัญในการดำเนินงาน ประกอบด้วย 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง เน้นการสร้างความเข้าใจ และการให้ความไว้วางใจ นอกจากนี้ในการฝึกอบรม ยังได้นำหลักสูตรทางด้านพระพุทธศาสนา เข้ามาใช้ในการบำบัดฟื้นฟูร่วมด้วย เพื่อให้ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ได้ใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนา มีโอกาสได้ศึกษารู้ซึ้งถึงหลักธรรมและปฏิบัติธรรม เพื่อจะได้นำไปพัฒนาตนเอง ตลอดจนเพื่อช่วยในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ขัดเกลาจิตใจของผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด อันจะเป็นการป้องปราม สร้างภูมิคุ้มกันที่ดี เกิดการพัฒนาจิตใจและการเรียนรู้ด้วยปัญญา รู้จักที่จะดำเนินชีวิตอย่างมีเหตุ มีผล และมีคุณธรรม ตามหลักธรรมคำสอน เกิดจิตสำนึกที่ดีต่อตนเอง ต่อครอบครัว และต่อบุคคลอื่นในสังคม เห็นคุณค่าของการบำเพ็ญตนเพื่อประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม อันเป็นการวางรากฐานให้ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว และสามารถที่จะปรับเปลี่ยนพัฒนาทักษะ ในการดำรงชีวิตร่วมกับผู้อื่นด้วยการพึ่งพาตนเอง ซึ่งจะทำให้ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดสามารถที่จะกลับไปเป็นที่ยอมรับของคนในสังคมได้ต่อไป.

ดูคลิป http://youtu.be/WF762qdidNE



ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

จ.ลำปาง ร่วมกับ มทบ.32 ตรวจความพร้อมกำลังพลและอุปกรณ์เครื่องมือของ 42 หน่วยงานในพื้นที่ เตรียมความพร้อมป้องกันแก้ไขปัญหาอุทกภัย และดินโคลนถล่ม

หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรมูลนิธิเพื่อการกุศลในพื้นที่จังหวัดลำปาง รวม 42 หน่วยงาน ร่วมระดมกำลังพล และอุปกรณ์เครื่องมือช่วยเหลือทุกรูปแบบ ชุมนุมพร้อมกัน ที่บริเวณสนามกีฬาค่ายสุรศักดิ์มนตรี ตำบลพิชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เพื่อเข้ารับการตรวจความพร้อมจากผู้บังคับบัญชา เตรียมดำเนินการตามแผนงาน "การป้องกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินโคลนถล่มในพื้นที่จังหวัดลำปาง ประจำปี 2557" โดยมีนายฤทธิพงศ์ เตชะพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย พลตรีอุกฤษณ์ อากาศวิภาต ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรีลำปาง ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยมณฑลทหารบกที่ 32 ร่วมเป็นประธานตรวจความพร้อม นำทีมคณะผู้บริหาร ผู้บังคับบัญชาระดับสูง ตรวจแถวกำลังพล และตรวจดูความเรียบร้อยของอุปกรณ์เครื่องมือ สำหรับใช้ในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย

การดำเนินงานตามกิจกรรมดังกล่าว จังหวัดลำปาง ได้ร่วมกับ มณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรีลำปาง จัดขึ้น เพื่อเป็นการจัดเตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักรกล ยานพาหนะ เครื่องมืออุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในระบบสาธารณภัยประเภทต่างๆ ทั้งของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรการกุศลและมูลนิธิ ที่อยู่ในพื้นที่ และเพื่อจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์เครื่องมือ กำลังพลที่มีอยู่ประจำ ในหน่วยงานต่างๆ ให้มีความพร้อมในการที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ หากเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติขึ้นจริง ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการแสดงศักยภาพในความสามัคคีของทุกหน่วยงาน ที่จะพร้อมปรองดองสมานฉันท์ ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนในทุกสถานการณ์ ซึ่งเป็นแนวทางที่จะเพิ่มความสุขให้แก่พี่น้องประชาชนในจังหวัดลำปาง ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และเพื่อเป็นการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ของจังหวัดที่จะนำนครลำปางไปสู่การเป็น “นครแห่งความสุข”

สำหรับการดำเนินการเตรียมความพร้อม ในการป้องกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินโคลนถล่มของจังหวัดลำปาง กำลังพลเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยเครื่องมืออุปกรณ์จากทุกหน่วยงานที่เข้ารับการตรวจความพร้อมในครั้งนี้ทั้งหมด จะได้มีการเข้าฝึกซ้อมแผนปฏิบัติการร่วมกันอีกครั้ง เพื่อให้ทุกหน่วยงานมีความพร้อมต่อการปฏิบัติงานจริง ทั้งในระยะก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และภายหลังการเกิดภัยพิบัติ โดยจะร่วมกันทำการฝึกซ้อมแผนบนโต๊ะ หรือ TTX ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2557 ในเวลา 10.00-16.00 น. ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านขอ อำเภอเมืองปาน และจะทำการฝึกซ้อมแผนภาคสนาม หรือ FTX ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2557 ที่โรงเรียนบ้านขอวิทยา หมู่ที่9 ตำบลบ้านขอ อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป.

ดูคลิป http://youtu.be/II3ZHAKoxYk



ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

โครงการรณรงค์เชิญชวนสมาชิก TO BE NUMBER ONE และประชาชนทั่วไปร่วมบริจาคเงินคนละ 1 บาทขึ้นไป เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานมูลนิธิ TO BE NUMBER ONE

นายฤทธิพงศ์ เตชะพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ตามที่มูลนิธิ TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้จัดทำโครงการรณรงค์เชิญชวนสมาชิก TO BE NUMBER ONE และประชาชนทั่วไปร่วมบริจาคเงินคนละ 1 บาทขึ้นไป เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานมูลนิธิ TO BE NUMBER ONE ในการสนับสนุนการจัดกิจกรรมต่างๆ และช่วยเหลือสมาชิกฯ ที่ได้รับความเดือดร้อน ตามที่มูลนิธิเห็นสมควร ตั้งแต่เดือนเมษายน 2556 เป็นต้นมา และเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2557 องค์ประธานได้มีพระดำรัสในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการฯ ณ กระทรวงสาธารณสุข ได้ทรงมีพระดำรัสขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้การสนับสนุนมูลนิธิ TO BE NUMBER ONE ให้สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ นั้น

จังหวัดลำปาง จึงขอเชิญชวนประชาสัมพันธ์ให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน/สมาชิก TO BE NUMBER ONE และประชาชนทั่วไป ร่วมบริจาคเงินเข้ากองทุนมูลนิธิ TO BE NUMBER ONE เพื่อรวบรวมทูลเกล้าถวายเงินบริจาคให้องค์ประธานโครงการฯ ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2557 ณ Hall 9 IMPACT เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี โดยรวบรวมเงินพร้อมแบบแจ้งยอดเงินฯ ให้สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดลำปาง ภายในวันที่ 10 กรกฎาคม 2557



ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์
    หน่วยงาน : สวท.ลำปาง

สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา สร้างความปรองดองสมานฉันท์ ให้กับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน ในพื้นที่ ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย

23 มิ.ย.57 พลตรีชัยพฤกษ์ อัยยะภาคย์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย มอบหมายให้ พันเอก ณัฎฐพัชร สกุลรังสฤษฏ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 3 และ พันเอกกิติชาติ นิลขำ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 จ.แม่ฮ่องสอน ร่วมกับนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเวียงใต้ สร้างความปรองดองสมานฉันท์ ให้เกิดความรักความสามัคคี เสริมสร้างจิตสำนึก รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่บุกรุกทำลายป่า ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ ให้กับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน 10 หมู่บ้าน ในพื้นที่ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน

โดยพันเอกกิติชาติ นิลขำ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 ได้จัดทำแผนพัฒนาโครงการต่าง ๆ เข้าไปพัฒนาให้ความช่วยเหลือประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อาทิ โครงการส่งเสริมอาชีพการทำขนมงา สนับสนุนส่งเสริมการปลูกพืชผักปลอดสารพิษ การส่งเสริมให้ประชาชนในหมู่บ้านเลี้ยงโคพันธุ์ สุกรพันธุ์ เพื่อสร้างรายได้ให้ประชาชนในชุนชน


ข่าวโดย : นวรัตน์ ศรีแก้วเลิศ
    หน่วยงาน : สวท.แม่สะเรียง-แม่ฮ่องสอน

จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

จังหวัดแม่ฮ่องสอนจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ "เยาวชนไทย ร่วมใจต้านภัยยาเสพติดถวายพ่อหลวง" 23 มิถุนายน 2557 ณ ศาลาประชาคม จังหวัดแม่ฮ่องสอน นักเรียน ๕ โรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรมประกวด กล่าวสุนทรพจน์ วาดภาพ ส่งผลงานการประกวด เขียนบทความ จำนวนกว่า 50 คน

นางอ่อนศรี ศรีอัมพร ประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ตามที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้ความสำคัญกับการใช้กระบวนการประชาสัมพันธ์ สนับสนุนนโยบายรัฐบาล ในการส่งเสริมให้ประชาชนมีโอกาสรับรู้ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้จากภาครัฐอย่างทั่วถึง ถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม ให้ยุติสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดที่ส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนของประชาชน ให้บังเกิดผลเร่งด่วน เร่งด่วน จึงได้กำหนดจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ “เยาวชนไทย ร่วมใจต้านภัยยาเสพติด ถวายพ่อหลวง” การประกวดบทความ การประกวด วาดภาพ และ การกล่าวสุนทรพจน์ ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็ก เยาวชนในสถานศึกษาได้รับความรู้ โทษ พิษ ภัย ของยาเสพติด สร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันความเสี่ยง และยุติปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด รวมทั้ง เป็นการปลูกฝังค่านิยมที่ดี ร่วมสำนึกรับผิดชอบต่อปัญหาสังคม มีความปลอดภัยจากยาเสพติด โดยผู้เข้าร่วมประกวดกิจกรรมจะได้รับเงินรางวัล และเกียรติบัตรจากผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน

สถานศึกษา โรงเรียนต่างๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วย โรงเรียนห้องสอนศึกษา โรงเรียนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 34 ปางมะผ้า โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 22 ปาย และโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว สอดรับกับยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด กลยุทธ์ 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง โดยเฉพาะ เร่งแก้ไขปัญหาเยาวชนกลุ่มเสี่ยง ทั้งในและนอกสถานศึกษา การสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันยาเสพติด ทั้งนี้คาดว่า เด็กเยาวชนผู้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรม จะสามารถขยายผล องค์ความรู้ ประสบการณ์สู่ครอบครัว ชุมชน โรงเรียน



ข่าวโดย : ทีมข่าว ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
    หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

ปชส.แม่ฮ่องสอน จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "เยาวชนไทย ร่วมใจต้านยาเสพติด ถวายในหลวง"

นางอ่อนศรี ศรีอัมพร ประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า “ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ “ เยาวชนไทย ร่วมใจต้านยาเสพติด ถวายในหลวง “ ในวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๗ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐-๑๖.๐๐ น ณ ศาลาประชาคมจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยการประกวดบทความ การประกวดวาดภาพ และกล่าวสุนทรพจน์ การจัดกิจกรรม ฯ ดังกล่าว เพื่อให้เด็กและเยาวชนในสถานศึกษาได้รับรู้ โทษ พิษ ภัย ของยาเสพติด และสร้างภูมิคุ้ม ป้องกันความเสี่ยง และยติปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด รวมทั้งเป็นการปลูกฝังค่านิยมที่ดี ร่วมสำนึกผิดชอบต่อปัญหาสังคม มีความปลอดภัยจากยาเสพติด โดยผู้เข้าร่วมประกวดกิจกรรมจะได้รับเงินรางวัล และเกียรติบัตรจากผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีเด็กนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน ๙ ซึ่งผู้ชนะเลิศได้รับเงินรางวัล ๒,๐๐๐ บาท รางวัลที่ ๑ เงินสด ๑,๕๐๐ บาท รางวัลที่ ๒ เงินสด ๑,๐๐๐ บาท และรางวัลชมเชย ๕๐๐ บาท พร้อมใบประกาศเกียรติบัตร โดยนายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประธานมอบเงินรางวัลและใบประกาศเกียรติบัตร



ข่าวโดย : ดำเนิน ท้วมจอก ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
    หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

ผู้ว่าแม่ฮ่องสอน เร่งเปิดด่านถาวรช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่นเตรียมรับ AEC

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2557 นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวเปิดเผย ว่า หลังจากที่ประธานประชุมคณะกรรมการพิจารณาเปิดด่านถาวรห้วยต้นนุ่น อำเภอขุนยวม โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร เกษตรและสหกรณ์ โยธาธิการและผังเมือง และหน่วยงานภาคเอกชน หอการค้าและสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งนี้เพื่อพิจารณาในการขับเคลื่อนจุดผ่อนปรนห้วยต้นนุ่นให้เป็นด่านถาวร ซึ่งได้สอบถามความคืบหน้าของการทำงาน โดยผู้แทนอุทยานได้ชี้แจงในการขอใช้พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าจะต้องมีขั้นตอนของการขออนุญาตตามขั้นตอน เพื่อให้ถูกต้องตามกฏหมาย

นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า จุดผ่อนปรนห้วยต้นนุ่น ได้สั่งการให้คณะทำงานไปดำเนินการพิจารณาเป็นด่านถาวรเป็นเวลานานกว่า 8 เดือนแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าเนื่องจากติดปัญหาการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้ ประกอบกับปัญหาภายในประเทศที่มีการชุมนุมกันเป็นระยะเวลานาน แต่ขณะนี้ทุกอย่างเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ที่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติเข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศ เราก็จะต้องรีบดำเนินการในเรื่องด่านถาวรต่อไป โดยจะเสนอผ่านไปทางแม่ทัพภาคที่ 3 เพื่อนำเสนอคณะ คสช.พิจารณา โดนให้หน่วนงานที่เกี่ยวข้องเตรียมเสนอของบประมาณในการดำเนินการ เพราะปี 2558 ก็จะเปิดประตูสู่อาเซียน ด่านถาวรห้วยต้นนุ่นเป็นจุดสำคัญที่จะติดต่อค้าขายสินค้าได้ง่ายและใกล้เมืองหลวงของเมียนมาร์

สำหรับการเตรียมเปิดด่านถาวรห้วยต้นนุ่น ได้มีการดำเนินการมาโดยตลอด ซึ่งมีทั้งรัฐมนตรีและผู้แทนของเมืองต่าง ๆ ด้านการค้าการพาณิชย์ของฝ่ายเมียนมาร์ก็ได้เดินทางมาศึกษาดูช่องทางหลายครั้งจนล่าสุดเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2557 ได้มีการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 กับ เมืองมัณฑะเล เมืองตองอู เมืองตองกี และเมืองลอยก่อ ของเมียนมาร์ด้วย


ข่าวโดย : สมาน ต้นใส / สวศ.แม่ฮ่องสอน
    หน่วยงาน : สวศ. แม่ฮ่องสอน

สำนักงานการค้าภายในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เตรียมจัดงานธงฟ้าราคาประหยัด เพื่อช่วยลดค่าครองชีพประชาชน ได้เลือกซื้อสินค้าราคาถูก

นางนัยนภัส สังขนุกิจ การค้าภายในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า สำนักงานการค้าภายในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เตรียมจัดงานธงฟ้าราคาประหยัด ระหว่างวันที่ 27-29 มิถุนายน 2557 ที่ถนนสัมพันธ์เจริญเมือง ข้างศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพ แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย โดย จำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นแก่การครองชีพมาจำหน่าย ในราคาประหยัด เช่น น้ำมันพืช,น้ำตาลทราย,ไข่ไก่ , นอกจากนั้น ยังมีเครื่องมือการเกษตร,ปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูพืช และอื่นๆอีกมากมาย

จึงขอเชิญชวน ท่านที่สนใจเลือกซื้อสินค้าราคาพิเศษ ได้ ตามวันและเวลาดังกล่าว


ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน
    หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

โรงเรียนห้องสอนศึกษา อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เตรียมจัดการแข่งขันกีฬาสีประจำปี 2557 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนรักการออกกำลัง

โรงเรียนห้องสอนศึกษา อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เตรียมจัดการแข่งขันกีฬาสีประจำปี 2557 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนรักการออกกำลัง

นายชัยวัฒน์ ใจภักดี ผู้อำนวยการโรงเรียนห้องสอนศึกษา เปิดเผยว่า โรงเรียนห้องสอนศึกษา เตรียมจัดการแข่งขันกีฬาสีประจำปี 2557 ในวันที่ 27 มิถุนายน 2557 ที่ สนามกีฬาโรงเรียนห้องสอนศึกษา อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนรักการออกกำลัง พร้อมทั้งฝึกให้นักเรียนทำงานเป็นหมู่คณะ มีความรัก ความสามัคคี ให้มีทักษะทางการกีฬาในการแข่งขัน พัฒนาการเล่นกีฬาให้สูงขึ้น สามารถเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาภายนอกในระดับที่สูงขึ้น และเปิดโอกาสให้ นักเรียนเล่นกีฬา นันทนาการตามความถนัด และความสนใจ ต่อไป

กิจกรรมในงานประกอบด้วย ขบวนพาเหรดนักกีฬา ซึ้งตั้งขบวนจากสนามบินแม่ฮ่องสอน แล้วเคลื่อนขบวนมาตามถนนสายต่างๆ และมาสิ้นสุดที่สนามกีฬาโรงเรียนห้องสอนศึกษา จึงขอเชิญชวนประชาชน และผู้ปกครองที่สนใจ ร่วมพิธีเปิด และให้กำลังใจกับนักกีฬา ได้ ตามวันเวลาดังกล่าว



เวียงสอน ดอนแก้ว / ทีมข่าว สวท.แม่ฮ่องสอน
    ข่าวโดย : เวียงสอน ดอนแก้ว / ทีมข่าว สวท.แม่ฮ่องสอน
    หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ "เยาวชนไทย ร่วมใจต้านภัยยาเสพติด ถวายพ่อหลวง" 23 มิถุนายน 2557 ณ ศาลาประชาคม เด็ก เยาวชน นักเรียน เข้าร่วมกิจกรรมประกวด กล่าวสุนทรพจน์ วาดภาพ ส่งผลงานการประกวด เขียนบทความ จำนวนกว่า 50 คน

นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในงานเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ "เยาวชนไทย ร่วมใจต้านภัยยาเสพติด ถวายพ่อหลวง" ภายใต้โครงการประชาสัมพันธ์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแบบบูรณาการ โดยคำขวัญ วันต่อต้านยาเสพติดโลกปีนี้ “สังคมปลอดภัย ชุมชนอุ่นใจ ได้ลูกหลานกลับคืน” ประธานในพิธีกล่าวว่า ปัญหายาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติ วาระแห่งจังหวัด ที่ให้ความสำคัญในการดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตอาชีพ ให้ประชาชนชาวไทยจากการทำไร่ฝิ่น เป็นการปลูกไม้ดอก พืชผัก ไม้ผลเมืองหนาว ให้ชาวบ้านมีรายได้ตลอดปี ทดแทนการเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ด้วยพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ และพร้อมน้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ในเรื่องยาเสพติดมาปฏิบัติ ให้สำเร็จลุล่วง ด้วยยุทธศาสตร์ พลังแห่งแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด กลยุทธ์ 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง ซึ่งทั้งหน่วยงานภาครัฐทุกภาคส่วน ภาคประชาคม เด็กเยาวชนต้องร่วมแรง ร่วมใจ เป็นพลังแผ่นดิน ช่วยกันต่อต้านยาเสพติดทุกวิถีทาง

ในขณะที่เด็กนักเรียนผู้เข้าประกวดกิจกรรมทั้ง 3 ประเภท ให้ความสนใจ และเตรียมตัวพร้อมในการมีส่วนร่วมผลการประกวดการกล่าวสุนทรพจน์ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ นางสาวจิตสุภา ไพรคงลือเดช โรงเรียนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน นางสาวจันธิมา รัตนะ โรงเรียนห้องสอนศึกษา นางสาวกาญจนา ฐิตินันท์พัชรกุล โรงเรียนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน รางวัลชมเชย นางสาวณัฐปภัสร์ ชยุตพงษ์ โรงเรียนห้องสอนศึกษา นายกิติศักดิ์ นามคำยง โรงเรียนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน การเขียนบทความ “เยาวชนไทย ร่วมใจต้านภัยยาเสพติด ถวายพ่อหลวง” รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เด็กหญิงณัชชา ณ มาตคำ โรงเรียนห้องสอนศึกษา เด็กหญิงศิริพร ขจัดดี โรงเรียนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน เด็กหญิงศุภักษร สาธิมา โรงเรียนห้องสอนศึกษา รางวัลชมเชย เด็กหญิงวรรณพร จำชา โรงเรียนห้องสอนศึกษา เด็กหญิงสายชื่น โรงเรียนห้องสอนศึกษา ตามลำดับ ส่วนการประกวดวาดภาพ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เด็กชายจีระชัย จิตเมตตาบริสุทธิ์ โรงเรียนชุมชนบ้านผาบ่อง เด็กหญิงหมวย โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 34 เด็กหญิงณัฐรีพร อินทจักร์ โรงเรียนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน รางวัลชมเชย เด็กหญิงบัวสาย โรงเรียนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน เด็กหญิงมุ้ง โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 34 ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้มอบรางวัลพร้อมเกียรติบัตร และกำหนดขยายผลองค์ความรู้ในงานวันต่อต้านยาเสพติดโลกของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ณ ศูนย์ออกกำลังกายเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ในวันที่ 24 มิถุนายน 2557 ต่อไป



ข่าวโดย : อ่อนศรี ศรีอัมพร ทีมข่าว ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
    หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่องสอนพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้ว 106 ราย สาธารณสุข วอนประชาชนร่วมมือกำจัดยุงลาย

วันนี้ (23 มิถุนายน 2557 สาธารณสุขอำเภอแม่สะเรียง ร่วมกับเทศบาลตำบลแม่สะเรียง ออกพ่นสารเคมีกำจัดยุงชนิดฝอยละอองควบคู่ไปกับการพ่นสารเคมีชนิดหมอกควันชนิดหมอกควัน ฆ่ายุงตัวเต็มวัยภายในบ้านและรอบบ้าน อาคาร บ้านเรือน โรงเรียน โรงแรมโรงงาน โรงธรรม วัด/มัสยิด/โบสถ์ ในเขตเทศบาลตำบลแม่สะเรียง ภายหลังพบมีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกมากถึง 68 ราย

ด้าน นพ. ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เผยสถานการณ์ไข้เลือดออกในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้ป่วยสูงต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 17 มิถุนายน 2557 มีผู้ป่วยแล้ว 106 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งมีการระบาดเพิ่มมากขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยกระจายอยู่ในทั่วทุกอำเภอ

จากการรายงานพบอำเภอแม่สะเรียงมีการระบาดมากที่สุด 68 ราย รองลงมาอำเภอแม่ลาน้อย 26 ราย อ.เมือง 5 ราย อ. สบเมย 4 ราย อ.ปาย 2 ราย อ. ขุนยวม 1 ราย ส่วนอำเภอปางมะผ้าไม่พบผู้ป่วย ส่วนใหญ่พบในช่วงอายุ 10-14 ปี

จึงขอให้ประชาชนช่วยกัน กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยปิดภาชนะขังน้ำให้มิดชิด ป้องกันยุงลายลงไปวางไข่ เปลี่ยนน้ำในแจกัน ถังเก็บน้ำ ทุก 7 วัน เพื่อตัดวงจรลูกน้ำที่จะกลายเป็นยุง ปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะใส่น้ำถาวร ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมให้ปลอดโปร่ง โล่งสะอาด ลมพัดผ่านไม่เป็นที่เกาะพักของยุงลาย ขัดล้างไข่ยุงลาย ที่อาจติดอยู่กับภายในภาชนะต่างๆ ที่ใช้ใส่น้ำ เช่น อ่าง แจกัน กระถาง เพื่อกำจัดไข่ยุงลาย

หากสงสัยบุคคลในครอบครัวป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก ไข้สูงลอยสูง 39-40 องศาเซลเซียส นานเกิน 2 วัน ร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน ซึม เบื่ออาหาร หน้าแดง คอแดง ปวดศีรษะหรือปวดกระบอกตา อาจพบจุดเลือดที่ผิวหนัง กดเจ็บชายโครงด้านขวา มักไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ให้สงสัยเป็นไข้เลือดออก โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงอย่างเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือผู้ใหญ่ในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดโรคไข้เลือดออก หากมีอาการตามข้างต้นให้รีบไปรับการตรวจรักษาที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านทันที



ข่าวโดย : นวรัตน์ ศรีแก้วเลิศ
    หน่วยงาน : สวท.แม่สะเรียง-แม่ฮ่องสอน

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่เตือนเกษตรกรทำนาระวังโรคฉี่หนู

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่เตือนเกษตรกรทำนาระวังโรคฉี่หนู ในฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงของการทำนาซึ่งอาจมีการปนเปื้อนของฉี่หนูปนในน้ำ ในโคลน

นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่กล่าวว่า ในระยะนี้เป็นช่วงของฤดูฝนซึ่งหลายพื้นที่ในประเทศถือว่าเป็นฤดูกาลทำนาของเกษตรกร โดยโรคที่พบได้บ่อยและมีอันตรายถึงแก่ชีวิตต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือโรคเลปโตสไปโรซีส หรือโรคฉี่หนู โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. เร่งให้ความรู้ประชาชนป้องกันตนเองไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย โดยรักษาความสะอาดบ้านเรือน ภาชนะใส่อาหาร น้ำดื่ม สวมถุงมือขณะทำความสะอาดอาคารบ้านเรือน และเก็บอาหารให้มิดชิดในภาชนะที่มีฝาปิดไม่ให้หนูมาฉี่รด

สำหรับเกษตรกรชาวนาควรสวมรองเท้าบูต หรือถุงพลาสติกคลุมเท้าในการลงท้องนา รีบอาบน้ำทันทีหากต้องย่ำน้ำหรือโคลน ผักสดที่เก็บมาจากแปลง หรือในทุ่งนา ต้องล้างน้ำให้สะอาดก่อนรับประทาน หากมีไข้สูงเกิน 2 วัน ปวดศีรษะรุนแรง ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรงโดยเฉพาะที่น่องขา โคนขา ตาแดง ขอให้รีบพบแพทย์ทันที เพราะสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตส่วนใหญ่จากการมาพบแพทย์ช้า ทำให้เชื้อโรคลุกลามไปทำลายอวัยวะอื่นๆ ทำให้เกิดไตวาย สมองอักเสบ



ฉัตรชัย พวงขจร / ข่าว /พิมพ์

อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่จับกุมกลุ่มวัยรุ่นพร้อมอาวุธปืน เงินสดเพื่อซื้อยาบ้าและเล่นพนันบอลโลก

ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจอำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่จับกุมกลุ่มวัยรุ่นพร้อมอาวุธปืน เงินสด กัญชาแห้ง ยาบ้า เพื่อเตรียมไปซื้อยาบ้ามาเสพและขาย และเล่นพนันบอลโลก

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า ทางนายธนกิจ กงยัง ปลัดอำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่พร้อม พ.ต.ท. สมบัติ ชัยนันท์  สารวัตรป้องกันและปราบปรามสถานีตำรวจภูธรร้องกวาง นำกำลังตำรวจและสมาชิกอาสารักษาดินแดนจับกุมกลุ่มวัยรุ่นซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ขณะเตรียมลักลอบเดินทางไปยังบ้านบ่อหอย ตำบลหยาบหัวนา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน เพื่อติดต่อซื้อยาเสพติดหรือยาบ้า โดยสามารถจับกุมได้พร้อมยาบ้า กัญชาแห้ง อาวุธปืนแบบไทยประดิษฐ์ และเงินสดเป็นจำนวนมาก พร้อมอุปกรณ์ในการเสพยา ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้จะนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพและขายในพื้นที่อำเภอร้องกวาง จึงเข้าสกัดจับกุมพร้อมตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย และคาดว่าเงินส่วนนี้จะนำมาเล่นพนันบอลโลกด้วย

ด้านนายสหวิช อภิชัยวิศรุตกุล นายอำเภอร้องกวาง กล่าวว่า ทางอำเภอได้ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และนโยบายของจังหวัดในการดูแลความสงบในพื้นที่ทั้งอาชญากรรม การลักลอบเล่นการพนัน ตู้ม้า ตู้เกมส์ หอพัก ดูแลทรัพยากรธรรมชาติ การบุกรุกทำลายป่า ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการชี้เบาะแสในการจับกุม


ฉัตรชัย พวงขจร / ข่าว /พิมพ์

จังหวัดแพร่ จัดโครงการปลูกฝังจิตสำนึกรักสามัคคีปรองดองสมานฉันท์

จังหวัดแพร่จัดโครงการปลูกฝังจิตสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ได้เข้าควบคุมอำนาจการปกครองของประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา เนื่องจากเกิดความแตกแยกด้านความคิดทางการเมืองอย่างรุนแรงของประชาชน มีการชุมนุมทางการเมืองที่ยืดเยื้อ มีการทุจริตประพฤติมิชอบ ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งของประชาชนในหลายพื้นที่

และเพื่อเป็นการเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และขับเคลื่อนแผนงานส่งเสริมการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและธำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติในระดับพื้นที่ ด้วยการปลูกฝังและเสริมสร้างแนวคิดของเยาวชนและผู้นำกลุ่มต่างๆ ทางจังหวัดแพร่จึงจัดโครงการปลูกฝังจิตสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดอง ประจำปี 2557 ขึ้น เพื่อให้เยาวชนและผู้นำกลุ่มต่างๆ ได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับหลักการทรงงาน แนวทางพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่งเสริมให้เยาวชนได้เรียนรู้หลักการมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์แก่พื้นที่ของตนเอง อันจะเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกความจงรักภักดีที่ยั่งยืนอยู่ในจิตใจควบคู้ไปกับการตระหนักถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน

สำหรับโครงการปลูกฝังจิตสำนึกรักสามัคคีและเสริมสร้างความปรองดองของจังหวัดแพร่จัดขึ้นที่หอประชุมอำเภอเมืองแพร่มีระหกว่างวันที่ 23-27 มิถุนายน 2557 มีนายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผวจ.แพร่เป็นประธานเปิดการโครงการ มีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 100 คน ประกอบด้วยเยาวชนอายุ 15-20 ปี จำนวน 40 คน ผู้ใหญ่บ้าน กรรมการหมู่บ้าน และ อสม.จำนวน 60 คน


ฉัตรชัย พวงขจร / ข่าว /พิมพ์

ชาวนาพะเยา ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/2557 ได้รับเงินจำนำข้าวครบทุกรายแล้ว

นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า จากการที่คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ได้อนุมัติให้ดำเนินการจ่ายเงินตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/2557 ให้กับชาวนาทั่วประเทศที่ยังค้าจ่ายกว่า 800,000 ราย วงเงิน 92, 431 ล้านบาท มาตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา ในส่วนของจังหวัดพะเยามีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวฤดูกาลผลิต 2556/2557 จำนวน 37,475 ราย ปริมาณข้าวเปลือก 182,291 ตัน เป็นเงิน 3,467 ล้านบาท และคงเหลือค้างจ่ายแก่เกษตรกรที่รอรับเงินนานหลายเดือน จำนวน 17,217 ราย รวมเป็นเงินกว่า 1,300 ล้านบาท ซึ่งในวันที่ 18 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา คสช. ร่วมกับกระทรวงการคลังอนุมัติให้จ่ายเงินตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกที่เหลือให้ชาวนาทั้งหมด โดย ธ.ก.ส.พะเยาทั้ง 15 สาขา ได้จ่ายเงินให้กับเกษตรกรตามคิวใบประทวนที่ยื่นไว้ทั้งหมดครบทุกรายแล้ว



ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ
หน่วยงาน : สวท.พะเยา

จังหวัดทหารบกพะเยา ปกครอง และอบจ.พะเยา มอบฝ่ายชะลอน้ำ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

วันนี้ (23 มิ.ย. 57) นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานพิธีเมอบฝายชะลอน้ำ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ณ ลำน้ำร่องช้าง บ้านปงสะเด็จ หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านปิน อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา โดยมีพล.ต.ชัยวัฒน์ ธนารุณ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกพะเยา หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนร่วมในพิธี เพื่อสานต่อแนวพระราชดำริให้ต่อเนื่อง ในการสร้างฝายต้นน้ำลำธาร เป็นการเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทให้เป็นที่ประจักษ์คงความชุ่มชื่นให้ผืนดินอย่างยั่งยืน นายวรวิทย์ บุรณศิริ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด กล่าวว่า ในปัจจุบัน การเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติทั้งอุทกภัย วาตภัย และภัยแล้ง สร้างความเสียหายต่อพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนและทรัพย์สินของเกษตรกรเป็นอย่างมาก และภัยที่มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในพื้นที่จังหวัดพะเยาก็คือ ภัยแล้ง ส่งผลทำให้เกษตรกรประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ ไว้ใช้ทำการเกษตรกรรม ในช่วงหน้าแล้ง องค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา ได้เล็งเห็นถึงความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพะเยา จึงได้จัดสรรงบประมาณจำนวนหนึ่ง มาสนับสนุนในการก่อสร้างฝายหลวงชะลอน้ำเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ

โดยมีจังหวัดทหารบกพะเยา อำเภอดอกคำใต้ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านปิน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อชะลอการไหลและลดความรุนแรงของกระแสน้ำในลำธาร เพิ่มโอกาสให้น้ำซึมลงสู่ใต้ดิน เป็นปริมาณน้ำใต้ดินมากขึ้น เพื่อสานต่อแนวพระราชดำริให้ต่อเนื่อง ในการสร้างฝายต้นน้ำลำธาร เป็นการเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทให้เป็นที่ประจักษ์ คงความชุ่มชื่นให้ผืนดินอย่างยั่งยืน และเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยแล้ง ให้มีแหล่งกักเก็บน้ำ ไว้สำหรับหล่อเลี้ยงพื้นที่การเกษตรได้อย่างเพียงพอ สามารถปลุกพืชผลทางการเกษตร และปลูกพืชผักสวนครัว ในช่วงหน้าแล้ง เพื่อประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ประชาชนหันมาร่วมกันปลุกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูป่าต้นน้ำลำธาร ให้ฟื้นคืนกลับมาดังเดิม



ข่าวโดย : ทีมข่าว ส.ปชส.พะเยา
หน่วยงาน : ส.ปชส.พะเยา

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจรโครงการ Eco Village พื้นที่อำเภอฝาง

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจรโครงการ Eco Village โครงการภายใต้โครงการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ระหว่างวันที่ 19 – 20 มิถุนายน 2557 ณ บ้านห้วยงู หมู่ 5 ตำบลสันทราย และ โรงเรียนบ้านเหมืองแร่ หมู่ 6 ตำบลแม่คะ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีสื่อมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ และอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้าน เข้าร่วมกิจกรรม 25 คน

นางอุบลรัตน์ คงกระพันธ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสภาพเมืองและสิ่งแวดล้อม ในปัจจุบันซึ่งเกิดจากการพัฒนาในทุกด้าน ได้ส่งผลกระทบกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กลุ่มจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากสิ่งที่เกิดจากมนุษย์ สิ่งแวดล้อม เมือง ป่าไม้และพันธุ์พืช อากาศ แผ่นดิน และแหล่งน้ำ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและการท่องเที่ยว ถึงแม้ว่าเจ้าภาพที่รับผิดชอบพื้นที่ในกลุ่มจังหวัดจะได้ทำการพัฒนาแก้ไขในทุกมิติแล้ว แต่ทิศทางในการดำเนินงานยังขาดมาตรฐานเดียวกัน การพัฒนาจึงเป็นลักษณะ “ต่างคนต่างทำ” ทำให้ศักยภาพในเชิงพื้นที่ที่ประกอบด้วยภูมิประเทศอันงดงาม พืชพันธุ์ที่หลากหลาย ประชากรมีวิถีชีวิต มรดกทางวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีที่เก่าแก่สืบทอดมายาวนานน่าสนใจ ฯลฯ ขาดโอกาสในการแข่งขันกับพื้นที่อื่น อีกทั้งประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ยังต้องใช้ชีวิตอยู่ในทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ขาดมาตรฐานที่เท่าเทียมกัน ดังนั้นการปรับปรุง ส่งเสริมให้พื้นที่ที่มีศักยภาพขับเคลื่อนไปสู่ความเป็นหมู่บ้านเชิงนิเวศ (Eco Village) ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดีมีมาตรฐานระดับประเทศจึงเป็นแนวทางที่จะต้องนำมาดำเนินการ

ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าว กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 เห็นว่า เพื่อเป็นการสร้างความสุขให้กับประชาชนให้อยู่ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดีมีมาตรฐาน และสร้างโอกาสในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวให้กับพื้นที่เป้าหมาย จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างมาตรฐานด้านทรัพยากรธรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับพื้นที่เป้าหมาย เพื่อให้เป็น “หมู่บ้านเชิงนิเวศ “Eco Village)ที่ยั่งยืน โดยุมุ่งเน้นชุมชนและองค์กรที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อป้องกันรักษาสภาพแวดล้อมที่ดีไว้ รวมทั้งจัดให้มีการจัดการการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เพื่อการท่องเที่ยวและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ราษฎรและผู้ประกอบการในพื้นที่ ซึ่งเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการที่จะกระจายความรู้ทางด้านทรัพยากรธรรมชาติ การเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่อนุรักษ์ในด้านการท่องเที่ยว ตลอดจนสร้างเครือข่ายในการร่วมกันดูแลป่าอนุรักษ์ให้มีความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืน สามารถอำนวยประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม นอกจากนี้ การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและการเกษตรในชุมชนล้วนมีความสำคัญ ก่อให้เกิดการใช้ทุนทางสังคมและโดยชุมชนมีส่วนร่วม ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน และส่งเสริมเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนในพื้นที่

สำหรับกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจรพื้นที่หมู่บ้านเชิงนิเวศ (Eco Village) ระหว่างวันที่ 19 - 20 มิถุนายน 2557 ณ บ้านห้วยงูใน หมู่ที่ 5 ตำบลสันทราย และ โรงเรียนบ้านเหมืองแร่ หมู่ที่ 6 ตำบลแม่คะ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งดำเนินการโดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมตามโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นสื่อมวลชน และอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 25 คน เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ทั้งนี้เพื่อนำข้อมูลการพัฒนาอย่างมีส่วนร่วมของประชาชนในชุมชนในมิติต่าง ๆ เพื่อให้เป็นชุมชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นตัวอย่างหมู่บ้านน่าอยู่อย่างพอเพียง พออยู่ พอกิน พอใช้ อยู่ได้อย่างยั่งยืน และเกิดความร่วมมือในเครือข่ายเพื่อการใช้ประโยชน์ ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์เพื่อการท่องเที่ยวและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไปประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในหมู่บ้านต่าง ๆ รับทราบและเกิดการเรียนรู้เพื่อนำไปขยายผลการดำเนินงานในหมู่บ้านตนเองต่อไป

หมู่บ้านห้วยงูใน ตำบลสันทราย อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ Eco Village ภายใต้ความรับผิดชอบของสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ การดำเนินโครงการในเบื้องต้นได้สร้างความเข้าใจกับคนในชุมชน เพื่อชี้แจงกระบวนการดำเนินงานและหาข้อสรุปร่วมกันเกี่ยวกับความพร้อมของชุมชนในการเข้าร่วมโครงการดังกล่าว จากนั้นจึงได้มีการคัดเลือกคณะทำงานเพื่อร่วมกันจัดทำแผนแม่บทภายใต้วิสัยทัศน์ “น้ำซับบริสุทธิ์ หมู่บ้านสะอาด เป็นแหล่งท่องเที่ยว ป่าเขียวขจี วิถีที่พอเพียง” โดยมุ่งสร้างกระบวนการเรียนรู้ของคนในชุมชนเพื่อให้เกิดการพัฒนาในชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการพึ่งพาตนเองและการดำเนินวิถีชีวิตตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง โดยแผนแม่บทชุมชน ประกอบด้วย แผนบริหารจัดการน้ำ การอนุรักษ์ป่า การพัฒนาเกษตรแบบยั่งยืน การท่องเที่ยว การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน การอนุรักษ์วัฒนธรรมชุมชน การพัฒนาสุขภาพ และการพัฒนาการเรียนรู้ของชุมชน

ในส่วนของโรงเรียนบ้านเหมืองแร่ ได้เข้าร่วมโครงการเมืองท่องเที่ยวเชิงนิเวศ มิตรสิ่งแวดล้อม (Eco Town Eco Tour) ตามโครงการกล่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ในปีการศึกษา 2556 โดยมี สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เป็นหน่วยงานเจ้าภาพหลัก โดยได้นำโรงเรียนบ้านเหมืองแร่ เป็นโรงเรียนนำร่องตามโครงการโรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Eco School) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนโครงการ และเพื่อให้เป็นโรงเรียนต้นแบบในการจัดการศึกษา เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักเรียน ชุมชน ตลอดจนองค์กร หน่วยงานต่าง ๆ ที่สนใจ โดยโรงเรียนได้ปรับปรุงสถานที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้และจัดกิจกรรมให้กับผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริง มีการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ตามโครงการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับการยอมรับจากคนในชุมชน องค์กร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยปัจจุบันนอกจากโรงเรียนได้รับการประเมินผ่านการเป็นสถานศึกษาพอเพียงแล้ว ยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นศูนย์แนะแนวประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนเข้าเรียนต่อในสายอาชีวศึกษา : สายสามัญในอัตราร้อยละ 51 : 49 ในปีการศึกษา 2558



ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

สำนักงานคณะกรรมการเสริมสร้างความสมานฉันท์แห่งชาติจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อวางทิศทางการเสริมสร้างความสมานฉันท์

สำนักงานคณะกรรมการเสริมสร้างความสมานฉันท์แห่งชาติจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อวางทิศทางการเสริมสร้างความสมานฉันท์ เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการเสริมสร้างความสมานฉันท์ที่เชียงใหม่ในวันที่ 23 มิถุนายน 2557

นายชาตรี โชไชย ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะ เลขาธิการคณะกรรมการเสริมสร้างความสมานฉันท์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ในสภาวะการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยสู่กระแสโลกาภิวัฒน์ และโครงสร้างสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ทำให้สภาพสังคมไทยในปัจจุบันต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นรากฐานของความขัดแย้งและความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนชาวไทยมากขึ้นทั้งทางด้านการเมือง วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้นสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นยังเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่ต้องเผชิญในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับบุคคล ครอบครัว กลุ่มคน ท้องถิ่น และลุกลามขยายตัวเป็นความรุนแรงในระดับภูมิภาคและระดับชาติ จากปัญหาดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการเสริมสร้างความสมานฉันท์แห่งชาติจึงได้จัดทำโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อวางทิศทางการเสริมสร้างสมานฉันท์ขึ้นในวันที่ 23 มิถุนายน 2557 เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ โรงแรมเซนทารา ดวงตะวัน เชียงใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นการเสริมสร้างองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์และทัศนคติที่เกี่ยวข้องในหลากหลายพื้นที่ เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาสังคมไทยให้เกิดความสามัคคี และการเสริมสร้างความสมานฉันท์อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อขจัดความขัดแย้งในสังคมร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิฯ นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ ร่วมประชุมในครั้งนี้ ทั้งนี้เพื่อรับทราบถึงองค์ความรู้ ทักษะ และทิศทางการพัฒนาการเสริมสร้างความสมานฉันท์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเสริมสร้างความสมานฉันท์ ซึ่งผลการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้จะนำไปเสนอต่อคณะกรรมการเสริมสร้างความสมานฉันท์แห่งชาติเพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายเพื่อการเสริมสร้างความสมานฉันท์และสันติวัฒนธรรมต่อไป



ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

จังหวัดกำแพงเพชร จัดงานสร้างความปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขสู่ประชาชน

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2557 ที่หอประชุมโรงเรียนพรานกระต่ายวิทยาคม ตำบลพรานกระต่าย อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร พันเอก อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 และผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ กองพลทหารราบที่ 4 พร้อมด้วย นายสุรพล วานิชเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประเสริฐ กาฬรัตน์ ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร ร่วมกันจัดงานสมานฉันท์ คืนความสุขสู่ประชาชน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงาน พ่อค้า ประชาชน องค์กรภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสุข และรอยยิ้มของประชาชน ซึ่งภายในงานยังได้จัดบูทให้บริการต่างๆของหน่วยงานราชการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ห่างไกลศูนย์ราชการ พร้อมทั้ง มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียน และเด็กด้อยโอกาส มอบรถจักรยานให้กับนักเรียนที่อยู่ไกลโรงเรียนเพื่อสะดวกแก่การมาเรียน และมอบถุงยังชีพให้กับประชาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้น พร้อมทั้งมีกิจกรรมเล่นเกมส์ แจกของรางวัลให้ประชนได้ร่วมสนุกและรับของรางกลับบ้าน

ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า ตามที่จังหวัดกำแพงเพชร จัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป จังหวัดกำแพงเพชร ขึ้น เพื่อสร้างความปรองดอง ลดความขัดแย้ง สร้างความสามัคคีจากหมู่บ้านสู่ประเทศ เพื่อเตรียมเข้าสู่การปฏิรูปประเทศ ซึ่งการดำเนินงานในครั้งนี้ได้กำหนดจัดกิจกรรม "คืนความสุขสู่ประชาชน” ร่วมปรองดองสมานฉันท์ชาวกำแพงเพชร ซึ่งจัดให้มีกิจกรรมร่วมกันทุกภาคส่วน วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง สลายแนวคิดที่แตกต่าง ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติโดยรวม และสร้างสำนึกทุกกลุ่มทุกฝ่าย มีความรัก ความสามัคคีปรองดองโดยตระหนักถึงพื้นฐาน จารีต วัฒนธรรม ประเพณีและสิ่งแวดล้อมในสังคมร่วมกัน ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักด้วยผู้คนที่หลั่งไหลทยอยร่วมกิจกรรม สร้างความสุขในโครงการหลายพันคน ทุกคนต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ท่ามกลางความสุขสนุกสนานและอบอุ่นของชาวกำแพงเพชร



นิพนธ์ รอดทรัพย์ / ข่าว

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17ประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ลงพื้นที่ตรวจโครงการตามแผนพัฒนาจังหวัดเพชรบูรณ์ปีงบประมาณ 2557

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17 ประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ลงพื้นที่ตรวจโครงการตามแผนพัฒนาจังหวัดเพชรบูรณ์ปีงบประมาณ 2557

บ่ายวันนี้ (23 มิ.ย.57)นางสาวอัมพวัน เจริญกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17 ในฐานะประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมคณะกรรมการธรรมภิบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ (กธจ.เพชรบูรณ์) ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามแผนงาน/โครงการตามพัฒนาจังหวัดเพชรบูรณ์ประจำปีงบประมาณ 2557 โดยจุดแรก ได้ตรวจติดตามโครงการส่งเสริมการพัฒนาข้าวอินทรีย์ กิจกรรมพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อประสิทธิภาพหนองโคม ต.หินฮาว อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ โครงการชลประทานเพชรบูรณ์ดำเนินงานขุดลอกแหล่งน้ำ 1 แห่ง และงานอาคารรับน้ำ-ระบายน้ำ 3 แห่ง งบประมาณอนุมัติ 5,000,000 บาท งบตามสัญญาจ้าง 4,986,000 บาท เริ่มสัญญา 11 เมษายน 2556 สิ้นสุดสัญญา 7 กันยายน 2557 อายุสัญญา 150 วัน ผลงานแล้วเสร็จร้อยละ 30 ในการดำเนินงานพบปัญหาอุปสรรค พื้นที่บริเวณตอนล่างของแหล่งน้ำมีชั้นหินแข็ง ไม่สามารถขุดลอกได้ลึกตามแบบงาน ซึ่งโครงการชลประมานเพชรบูรณ์หน่วยควบคุมงาน จะขอเสนออนุมัติปรับขุดลอกแหล่งน้ำตอนบนให้ลึกเพื่อชดเชยกับปริมาณชั้นหินแข็ง

จุดที่สองได้ตรวจติดตามโครงการส่งเสริมการพัฒนาข้าวอินทรีย์ กิจกรรมพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหนองเกาะ ต.นาเกาะ อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ โครงการชลประทานเพชรบูรณ์ดำเนินงานขุดลอกแหล่งน้ำ 1 แห่ง งบประมาณอนุมัติ 4,000,000 บาท งบตามสัญญา 2,259,900 บาท ผลงานแล้วเสร็จร้อยละ 20 เป็นงานสร้างแหล่งน้ำขึ้นใหม่ เมื่อสร้างแล้วเสร็จจะระบายน้ำสู่แหล่งน้ำข้างเคียง ซึ่งราษฎรในพื้นที่ต้องการให้เชื่อมแหล่งน้ำ 2 แหล่ง เข้าด้วยกัน โดยรื้อคันดินออก ซึ่งผู้อำนวยการโครงการชลประทานเพชรบูรณ์จะดำเนินงานก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแบบโครงการ จากนั้นจะเสนอความต้องการของราษฎรต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ต่อไป ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17 ได้กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ว่า การตรวจติดตามดังกล่าว เป็นภารกิจสอดส่องของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ในการตรวจติดตามการแผนงาน/โครงการตามพัฒนาจังหวัด รวมทั้งโครงการที่ดำเนินงานโดยภาครัฐ ในพื้นที่จังหวัด ให้การดำเนินงานเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ และหลักการบริหารจัดที่ดี ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ ทั้งนี้ จะได้นำผลการสอดส่องติดตามและข้อเสนอแนะต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์

หัวหน้าแก๊งส์อาวุธสงคราม เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ หลังถูกกดดันอย่างหนัก

วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่สถานีตำรวจภูธรตำบลท่าพล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ นายขจรศักดิ์ กองชัย หรือ เตี้ย อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่25 ม.12 ต.ช้างตะลูด อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ พร้อมทนาย เข้ามามอบตัวกับ พันตำรวจเอกปริญญา วิศิษฐฎากุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ และ ร้อยเอกณัฐพล ทัพวัฒน์ ผู้บังคับกองร้อยรถถัง กองพันทหารม้าที่ 26 ทั้งนี้นายขจรศักดิ์ และพวกอีก 3 คน ได้ทำการขนอาวุธปืนสงครามจำนวนมาก มาซุกซ่อนอยู่ที่ป่าละเมาะ ต.นางั่ว อ.เมืองเพชรบูรณ์ และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เมื่อหลายวันก่อน แต่ว่านายขจรศักดิ์ สามารถหลบหนีการจับกุมไปได้ จากการสอบสวน นายจรศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า อาวุธปืนสงครามจำนวน 16 กระบอก เครื่องกระสุนจำนวนมาก พร้อมยาบ้ากว่า 2 พันเม็ด เป็นของตนจริง โดยส่วนตัวเป็นคนชอบสะสมอาวุธปืน และสั่งซื้ออาวุธปืนสงครามดังกล่าวผ่านทางเซ็ปไซค์แห่งหนึ่ง กระทั่ง คสช.ได้ประกาศรัฐประหาร และตรวจจับอาวุธปืน จึงได้ขนอาวุธทั้งหมดมาซุกซ่อนในป่าละเมาะตำบลนางั่ว กระทั่งมาถูกตรวจพบและจับได้ ส่วนตนหลังจากหลบหนีออกมาได้ เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยในชีวิต จึงติดต่อทนายและขอเข้ามอบตัว ขณะที่รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า แม้นายขจรศักดิ์ จะให้การรับสารภาพ เบื้องต้นไม่ปักใจเชื่อว่าจะทำคนเดียว ซึ่งจะทำการสืบสวน หาเครือข่าย เพื่อดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า อายุธปืนสงครามที่ตรวจยึดได้ ยังไม่มีการใช้สำหรับการก่อเหตุแต่อย่างใด

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17 ประชุมคณะกรรมการธรรมภิบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อติดตามการดำเนินงานด้านการสอดส่องโครงการตามแผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557

วันนี้ (23 มิ.ย.57) ที่ห้องประชุม 4 ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ นางสาวอัมพวัน เจริญกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17 เป็นประธานประชุมคณะกรรมการธรรมภิบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อติดตามการดำเนินงานด้านการสอดส่องโครงการตามแผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยที่ประชุมได้พิจารณาลงพื้นที่สอดส่องแผนงาน/โครงการตามแผนพัฒนาจังหวัดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 จำนวน 13 โครงการ จาก 26 โครงการผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 17 ได้ชี้แจง แนวทางการปฏิรูประบบราชการของสำนักนายกรัฐมนตรี ใน8 มาตรการหลัก ซึ่งตอบสนอง ต่อนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื้อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การปฏิรูประบบราชการในหลายมิติ สร้าวความเชื่อมั่นศรัทธาแก่ประชาชน โปร่งใส เป็นธรรม บริหารราชการแบบบูรณาการ ยึดระเบียบกฏหมายและหลักธรรมาภิบาล เกิดผลประโยชน์สูงสุด โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์ ตลอดจนการขยายผลโครงการภายใต้ร่มพระบารมี พร้อมสร้างความพร้อมระบบราชการไทยเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนพร้อมทั้งได้ชี้แจงคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 69/2557 เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดและขอให้คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเพชรบูรณ์และเครือข่ายได้ปฏิบัติบทบาทหน้าที่การสอดส่องดูแลโครงการของรัฐอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งผลของการสอดส่องรวมทั้งข้อเสนอแนะต่างๆจะนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดต่อไป

สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ จัดการประกวดนวัตกรรมการออกกำลังกาย เต้าเต๋อ ซิ่นซี และ ไลน์แดนซ์บาสโลป เพื่อสุขภาพ

เช้าวันนี้ (23 มิ.ย.57) ที่หอวัฒนธรรมนครบาลเพชรบูรณ์ ดร.รวิวรรณ ถิ่นยืนยง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดการประกวดนวัตกรรมการออกกำลังกาย เต้าเต๋อ ซิ่นซี และ ไลน์แดนซ์บาสโลป เพื่อสุขภาพระดับจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อคัดเลือกทีมตัวแทนเข้าร่วมแข่งขันในระดับเขต โดยมีทีมเจ้าหน้าที่และ อสม. จาก 11 อำเภอเข้าร่วมแข่งขัน เต้าเต๋อซินซี่ เป็นการประสานความคิดปรัชญากับทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ นำธรรมชาติเข้าสู่ร่างกาย ฝึกกายและใจไปพร้อมๆ กัน ทำให้สุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจในเวลาอันสั้น การปฏิบัติเทคนิคเต้าเต๋อซิ่นซีเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลนั้น ต้องประกอบกันทั้ง 8 สาขา มวยเต้าซิ่น กระตุ้นการหมุนเวียนโลหิต 9 ระบบใหญ่ๆ ในร่างกายให้เป็นปกติ และมีความสมดุล ทั้งระบบหมุนเวียนโลหิต หัวใจและหลอดเลือด สมอง ทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร เนื้อเยื่อพังผืด ทางเดินปัสสาวะ เส้นโลหิตฝอยและโครงกระดูก ประกอบด้วย 9 ท่า และทุกท่าต้องทำประกอบเพลงเต้าซิ่นเพื่อความผ่อนคลาย โดยทุกท่าต้องวาดมือเป็นครึ่งวงกลม และทำติดต่อกันเป็นระยะเวลา 15 นาที กายบริหารเต้าซิ่น รับพลังธรรมชาติจากทุกทิศทาง พัฒนาสมองซีกขวา ลดความตึงเครียด ช่วยให้สมองมีความจำดีและมีความคิดสร้างสรรค์ ช่วยให้ผ่อนคลายความเครียดและเสริมสติปัญญาให้เฉลียวฉลาด นันทนาการเต้าซิ่น เป็นการเต้นรำเข้าจังหวะกับดนตรี สามารถขับพิษที่สะสมในร่างกาย เพิ่มภูมิคุ้มกันและเสริมความงาม ช่วยให้ร่างกายมีความสมดุลและจิตใจผ่อนคลาย

มหาวิทยาลัยนเรศวรร่วมกับกรมการข้าว จัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการสร้างผู้ตรวจประเมินรุ่นใหม่

มหาวิทยาลัยนเรศวรร่วมกับกรมการข้าว จัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการสร้างผู้ตรวจประเมินรุ่นใหม่ ภายใต้โครงการพัฒนาและส่งเสริมระบบการตรวจสอบและรับรองคุณภาพข้าวให้ได้มาตรฐาน ปี 2557

เช้าวันนี้ ( 23 มิ.ย.57 ) ที่โรงแรมท็อปแลนด์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก นายนิวัติ เจริญศิลป์ ที่ปรึกษาอธิบดีกรมการข้าว เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการสร้างผู้ตรวจประเมินรุ่นใหม่ ภายใต้โครงการพัฒนาและส่งเสริมระบบการตรวจสอบและรับรองคุณภาพข้าวให้ได้มาตรฐาน ปี 2557 ซึ่งการฝึกอบรมในโครงการดังกล่าวมหาวิทยาลัยนเรศวรร่วมกับกรมการข้าวจัดขึ้น เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ตรวจประเมินรุ่นใหม่ ภายใต้โครงการพัฒนาและส่งเสริมระบบการตรวจสอบและรับรองคุณภาพข้าวให้ได้มาตรฐาน ปี 2557 สอดคล้องกับเป้าหมายในการตรวจสอบและรับรองของกรมการข้าว ในรองรับการเพิ่มเป้าหมายการตรวจสอบและรับรองระบบการผลิตข้าว GAP ตามแผนยุทธศาสตร์ความปลอดภัยด้านอาหารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนเพื่อส่งเสริมความรู้ด้านการตรวจประเมินมาตรฐาน GAP ให้กับสถานศึกษา ซึ่งการอบรมในครั้งนี้มีนักศึกษาชั้นปีที่ 4 และนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้วไม่เกิน 2 ปี พร้อมด้วยนักวิชาการ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตพิษณุโลก มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบูรณ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยนเรศวร เข้ารับการฝึกอบรมจำนวนกว่า 100 คนโดยมีนักวิชาการจากกรมการข้าว ศูนย์วิจัยข้าว และศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว มาเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการอบรม

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 จัดประชุมระดมความ คิดเห็นการรับนักเรียนปีการศึกษา 2558

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 มิถุนายน 2557 ที่โรงแรมน่านเจ้า นายสุชน  วิเชียรสรรค์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 ประธานในประชุมระดมความคิดเห็นการรับนักเรียนปีการศึกษา 2558  ระดับเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 โดยมีผู้บริหารโรงเรียนในสังกัด   เข้าร่วมระดมความคิดเห็นจากทั้งจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 58 โรงเรียน   เพื่อนำข้อสรุปนำเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน   พร้อมได้เชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง  เช่นคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียน จำนวน 9 ท่าน   จากโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง  โรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงเทียมและโรงเรียนที่เปิดห้องเรียนพิเศษ   เพื่อระดมความคิดเห็น การรับนักเรียน ในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ได้กำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2558   ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 ประชุมระดมความคิดเห็น การรับนักเรียนจากผู้อำนวยการโรงเรียน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง มาให้ข้อคิดเห็น ในการยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยการค้นหาสาเหตุและวิธีการที่จะพัฒนาการศึกษาทั้งนโยบาย วิธีการดำเนินงาน รวมทั้งการจัดการในส่วนต่างๆ ซึ่งการรับนักเรียนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ต้องทบทวนทั้งนโยบายและแนวปฏิบัติโดยมีประเด็น  ด้านนโยบายการรับนักเรียนเข้าเรียนชั้น ม.3 และ ม.4 โดยใช้ผลการเรียนเฉลี่ย 5 ภาคเรียน  ผลคะแนน O-Net การออกข้อสอบในการคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียน สัดส่วนนักเรียนในพื้นที่บริการและนักเรียนทั่วไป ปัญหาอุปสรรคที่พบและข้อเสนอแนะ  ซึ่งบทสรุปการระดมความคิดเห็นทางสำนักเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 จะนำเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานต่อไป

ผู้บังคับการ กองตำรวจสื่อสาร พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจในสังกัด ร่วมพิธีเปิดแพรคุมป้าย อาคารที่ทำการใหม่ ฝ่ายการสื่อสาร 5 กองตำรวจสื่อสาร

ผู้บังคับการ กองตำรวจสื่อสาร พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจในสังกัด ร่วมพิธีเปิดแพรคุมป้าย อาคารที่ทำการใหม่ ฝ่ายการสื่อสาร 5 กองตำรวจสื่อสาร

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา ที่บริเวณสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก พลตำรวจตรี พรกุศล ยศธร ผู้บังคับการ กองตำรวจสื่อสาร พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจในสังกัด ร่วมพิธีเปิดแพรคุมป้าย อาคารที่ทำการใหม่ ฝ่ายการสื่อสาร 5 กองตำรวจสื่อสาร โดยในพิธี พระสงฆ์ 9 รูป สวดเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล ต่อจากนั้น ผู้บังคับการ กองตำรวจสื่อสาร สื่อสาร พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจในสังกัด และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมทำพิธีเปิดแพรคุมป้าย อาคารที่ทำการใหม่ สำหรับอาคารฝ่ายการสื่อสาร 5 กองตำรวจสื่อสารหลังนี้ ได้รับจัดสรรงบประมาณในการจัดสร้าง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น 6,110,000 บาท ก่อสร้างแล้วเสร็จ และได้ทำการส่งมอบอาคารที่ทำการใหม่ ในวันที่ 18 เมษายน 2555 และได้ย้ายจากที่เดิม ถนนพุทธบูชา ตำบลในเมือง จังหวัดพิษณุโลก เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ ณ ที่ทำการแห่งใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจล้อมจับกุมหนุ่มค้ายาบ้า ในหมู่บ้าน หลังจากทำการล่อซื้อ และหลบหนีลงบึงน้ำขนาดใหญ่ ดำน้ำหลบใต้ผักกระเฉด นานกว่า 2 ชม.ต้องยอมมอบตัว

เจ้าหน้าที่ตำรวจล้อมจับกุมหนุ่มค้ายาบ้า ในหมู่บ้าน หลังจากทำการล่อซื้อ และหลบหนีลงบึงน้ำขนาดใหญ่ ดำน้ำหลบใต้ผักกระเฉด นานกว่า 2 ชม.ต้องยอมมอบตัว รับสารภาพรับจากเอเยนต์แล้วนำมาขาย หวังหาเงินเลี้ยงภรรยาและลูกน้อย

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา ร.ต.ท.อภิชาติ พุ่มทอง รองสารวัตรปราบปราม สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมด้วยชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก ทำการล่อซื้อยาบ้าจากนายวุฒิชัย หรือ เอ็ม ทองอ่อน อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 2 ต.หินลาด อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก หลังจากสืบทราบว่านายวุฒิชัย ได้ลักลอบค้ายาบ้าในพื้นที่ หมู่บ้านฉัตรแก้ว หมู่ 4 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการล่อซื้อยาบ้า จำนวน 10 เม็ด ซึ่งขณะล่อซื้อนั้นนายวุฒิชัย ไหวตัวทันวิ่งหลบหนีลงบึงน้ำหลังหมู่บ้าน และหลบอยู่ใต้ผักคะเฉด ไม่ยอมให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้แต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน นำเรือลงไปค้นหาและต้องใช้มีดสับผักคะเฉด เพื่อทำการค้นหา นานเกือบ 2 ชม.จนนายวุฒิชัย ทนไม่ได้ เนื่องจากอ่อนแรง ไม่สามารถดำน้ำได้อีก จึงได้ยกมือยอมมอบตัวและเดินขึ้นมาจากบึงน้ำดังกล่าว หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายวุฒิชัย หรือ เอ็ม มาค้นบ้านพักเลขที่ 465/66 ซอย 5 หมู่บ้านฉัตรแก้ว หมู่ 4 ต.สมอแข พบภรรยาและลูกของนายวุฒิชัย อยู่ในบ้าน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบ กลับพบว่ามียาบ้าที่อยู่ในชักโครก อีก 1 เม็ด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้ทำการตรวจสอบ เบื้องต้นนายวุฒิชัย ให้การรับสารภาพว่า ได้รับยาบ้า มาจากเอเย่นต์รายหนึ่งในต่างจังหวัด เพื่อนำมาขายให้กับลูกค้าในเมืองพิษณุโลก ในราคาเม็ดละ 300 บาท เนื่องจากตนเองไม่มีอาชีพอะไร จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการล่อซื้อและจับกุมตัวได้ในที่สุด อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ทำการขยายผลหาตัวเอเยนต์รายใหญ่ต่อไป

จังหวัดพิษณุโลกประชุมใหญ่สหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ สหกรณ์นิคมวังทอง จำกัดเพื่อรายงานผลการดำเนินงานของสหกรณ์ให้ที่ประชุมใหญ่รับทราบ ในปีสิ้นสุด

จังหวัดพิษณุโลกประชุมใหญ่สหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ สหกรณ์นิคมวังทอง จำกัดเพื่อรายงานผลการดำเนินงานของสหกรณ์ให้ที่ประชุมใหญ่รับทราบ ในปีสิ้นสุด

เมื่อวันที่20 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมสหกรณ์นิคมวังทอง ตำบลบ้านน้อยซุ้มขี้เหล็ก อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ว่าที่ ร.ต.ทรงศักดิ์ ภูมิฐานนท์ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2557 ครั้งที่ 38 ของสหกรณ์นิคมวังทอง จำกัดเพื่อรายงานผลการดำเนินงานของสหกรณ์ให้ที่ประชุมใหญ่รับทราบ ปีสิ้นสุด 31 มีนาคม 2557 โดยมีนายนพดลจัตุรัส ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์วังทอง และผู้แทนสมาชิกสหกรณ์ เข้าร่วมประชุม จำนวน 235 คน ด้านนายบุญยิ่ง ดอกรัก ประธานคณะกรรมการสหกรณ์นิคมวังทองจำกัด กล่าวว่าสหกรณ์นิคมวังทอง จำกัด ได้รับการจดทะเบียนจากนายทะเบียนสหกรณ์เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2519 สหกรณ์ดำเนินงานมาเป็นระยะเวลา 38 ปี สหกรณ์ได้มุ่งมั่นพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องจากการส่งเสริมสนับสนุนของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก และมีหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมให้คำแนะนำปรึกษาที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสหกรณ์และแก้ไขปัญหา

ซึ่งผลจากความร่วมมือทำให้ปัญหาของสมาชิกได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม สามารถสร้างความเชื่อมั่น สร้างแรงศรัทธาแก่มวลสมาชิก ทำให้เกิดความร่วมมือและมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆส่งผลให้การดำเนินกิจการของสหกรณ์มีความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งจะเห็นได้จากผลการดำเนินงานในปีนี้ สหกรณ์มีสมาชิก จำนวน5,656 คน มีทุนดำเนินงาน ทั้งสิ้น112,897,913.38บาท กำไรสุทธิประจำปี 2,169,912.02บาท โดยที่ประชุมใหญ่ได้จัดสรรกำไรสุทธิประจำปีตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 มาตรา 60 และตามข้อบังคับของสหกรณ์ในหมวดต่างๆ ซึ่งในปีนี้สหกรณ์ได้จัดสรรเป็นเงินปันผลตามหุ้น ร้อยละ67.11และเงินเฉลี่ยคืน ร้อยละ4.13 เพื่อสร้างแรงจูงใจให้สมาชิกมีส่วนร่วมและช่วยสนับสนุนกิจการของสหกรณ์ ว่าที่ ร.ต. ทรงศักดิ์ ภูมิฐานนท์ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่าการที่สหกรณ์นิคมวังทอง จำกัด ได้เข้ารับพระราชทานโล่รางวัลสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2557ประเภทสหกรณ์นิคมถือเป็นความสำเร็จของสหกรณ์เป็นเกียรติประวัติและความภาคภูมิใจของสมาชิกสหกรณ์ทุกคนซึ่งเป็นเจ้าของกิจการการช่วยเหลือตนเองและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในระบบสหกรณ์ ความปรองดองและความสามัคคีในหมู่สมาชิกคือคำตอบและผลลัพธ์ที่ทำให้สหกรณ์นิคมวังทอง จำกัด แห่งนี้ เป็นที่ยอมรับสมเจตนารมณ์ในการจัดตั้งสหกรณ์ ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการอยู่ดีมีสุขของสมาชิกทุกคน

เทศบาลนครพิษณุโลกเชิญร่วมบริจาคเงินเข้ากองทุน “บ้านทอฝัน ปันรัก” พัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้ด้อยโอกาสทางสังคม

เทศบาลนครพิษณุโลกจัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาสทางสังคม โดยเปิดรับความช่วยเหลือจากผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคเงินเข้ากองทุน "บ้านทอฝัน ปันรัก” เพื่อสมทบทุนช่วยเหลือผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ยากไร้ในเขตเทศบาลที่มีอยู่อีกมากมาย

นายบุญทรง แทนธานี นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก กล่าวว่า เทศบาลนครพิษณุโลกได้จัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาสทางสังคม โดยเทศบาลนครพิษณุโลกร่วมกับคณะที่ปรึกษาด้านการออกแบบสภาพการอยู่อาศัย (คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร) และกองพันทหารช่างที่ 302 ค่ายบรมไตรโลกนารถทำการสำรวจข้อมูลสภาพแวดล้อมภายในบ้านและที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุที่ยากไร้และมีสภาพร่างกายที่เสื่อมถอยและมีการจัดตั้งกองทุน "บ้านทอฝัน ปันรัก” เพื่อรับบริจาคเงินจากผู้ที่ใจบุญและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาสทางสังคมเหล่านั้น ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น โดยการปรับปรุงซ่อมแซมที่พักอาศัยให้เหมาะสมกับสภาพทางด้านร่างกายของคนพิการและผู้สูงอายุให้สามารถใช้ชีวิตภายในบ้านได้อย่างมีความสุขและถูกสุขลักษณะโดยเน้นการมีส่วนร่วม เชิงบูรณาการของหน่วยงานในพื้นที่ ล่าสุดได้มีการสำรวจและได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุในชุมชนพระยาสุพรรณ คือ นายฮุย เปล่งสุกใส อยู่บ้านเลขที่ 841/1 ถนนพุทธบูชา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ชุมชนพระยาสุพรรณ โดยจะมีการดำเนินการปรับปรุงสภาพที่พักอาศัยให้มีความมั่นคงแข็งแรง มีความเหมาะสมกับลักษณะทางกายภาพและถูกสุขลักษณะ มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิตส่งผลดีต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตต่อไป เทศบาลนครพิษณุโลกเชิญร่วมบริจาคและเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาสทางสังคม สามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาพิษณุโลก ชื่อบัญชี "เพื่อจัดสวัสดิการด้านที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ยากไร้” บัญชีเลขที่ 601-0-86491-7 หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครพิษณุโลก โทร.0-5598-3221 ต่อ 121,122,123