วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

มูลนิธิราชประชาฯ มอบเครื่องแบบนักเรียนพระราชทานแก่นักเรียน โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเบ็ดตี้ดูเมน

มูลนิธิราชประชาฯ มอบเครื่องแบบนักเรียนพระราชทานแก่นักเรียน โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเบ็ดตี้ดูเมน ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา

วันนี้ ( 4 ก.พ.57) ที่ หอประชุมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเบ็ดตี้ดูเมน ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้นำเครื่องแบบนักเรียนพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ มามอบให้แก่นักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเบ็ดตี้ดูเมน ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา จำนวน 138 คน โดยมีนายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชา นุเคราะห์ประจำจังหวัดพะเยา เป็นประธานมอบมอบสิ่งของพระราชทานร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดพะเยา

ปัจจุบันโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเบ็ดตี้ดูเมน เปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่เด็กก่อนวัยเรียนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนทั้งสิ้น 138 คน



ข่าวโดย : ทีมข่าว ส.ปชส.พะเยา

จังหวัดพะเยา ร่วมกับ อบจ.พะเยา และอำเภอดอกคำใต้ร่วมแถลงข่าว "บอกรักที่ทุ่งทานตะวัน มนต์รักดอกคำใต้" 14 ก.พ.นี้

นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมนายวรวิทย์ บุรณศิริ นายกองค์การบริหารจังหวัดพะเยาและเรืออากาศตรีอดุลย์ พรหมวาทย์ ปลัดอาวุโส อำเภอดอกคำใต้ ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงโครงการ จดทะเบียนสมรสเนื่องในเทศกาลวันแห่งความรัก ประจำปี 2557 ภายใต้ชื่อ “บอกรักที่ทุ่งทานตะวัน มนต์รักดอกคำใต้” ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์2557 นี้ ที่ทุ่งทานตะวัน ต.ป่าซาง อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ทุ่งทานตะวันจำนวนกว่าพันไร่กำลังเบ่งบาน พร้อมรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยจะภายในงานได้จัดเตรียมความพร้อม ทั้งทางด้านสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ สิ่งของที่ระลึกมอบให้แก่คู่รักที่จดทะเบียนสมรส

โดยทุกคู่รักที่ประสงค์จะจดทะเบียนสมรส ณ ทุ่งทานตะวัน ต.ป่าซาง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา สามารถยื่นใบสมัครตั้งแต่วันที่ 3 – 13 กุมภาพันธ์ 2557 ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. ณ ที่ว่าการอำเภอดอกคำใต้ ส่วนคุณสมบัติของผู้จดทะเบียนสมรสนั้น ผู้ที่อายุต่ำกว่า 17 ปี จะต้องได้รับอนุญาตจากศาลให้ทำการสมรสได้ ส่วนผู้มีอายุไม่ต่ำกว่า 17 ปีบริบูรณ์แต่ไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ จะต้องนำบิดา มารดา หรือผู้ปกครองมาให้ความยินยอมด้วย และผู้ที่มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเอง

ทั้งนี้การจดทะเบียนสมรสที่ทุ่งทานตะวันนั้น เพื่อให้คู่รักได้มีความทรงจำที่ดีๆ และความประทับใจในวันแห่งความรัก 14 กุมภาวันวาเลนไทน์ ทางผู้จัดได้เตรียมขบวนแห่ให้คู่รักอย่างสมเกียรติ โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 07.00น. เป็นต้นไป จากนั้นให้คู่รักได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรและประกอบพิธีทางสงฆ์ พร้อมจัดพิธีจดทะเบียนสมรส และมอบทะเบียนสมรส การบันทึกภาพคู่รัก การจับฉลากและมอบรางวัลแก่คู่รัก การเลี้ยงฉลองการจดทะเบียนสมรสให้แก่คู่รัก ผลที่คาดว่าจะได้รับนอกเหนือจากการประชาสัมพันธ์ทุ่งทานตะวันแล้วยังทำให้เกิดรายได้และสร้างเม็ดเงินแก่ชุมชนอีกด้วย



ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

ผู้แทนในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เป็นประธานห่มผ้าพระนาคปรก วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง จังหวัดแพร่

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า วันนี้ (4 ก.พ.57) เวลา 09.19 น. นายสุริยพันธุ์ ราชวังเมือง ผู้แทนในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เป็นประธานประกอบพิธีห่มผ้าพระนาคปรกหรือพระพุทธโลกนารถบพิตร ในพระอุโบสถ วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ โดยมีนายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่พร้อมด้วยข้าราชการ ประชาชนในพื้นที่ร่วมพิธีดังกล่าว

พระนาคปรกมีชื่อว่าพระพุทธโลกนารถบพิตร เป็นพระพุทธรูปทองเหลืองลงรักปิดทองปางนาคปรก พระประธานในวิหารด้านล่างของวัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง สร้างเมื่อ พ.ศ. 2534 โดยนายแสน นางบุญปั๋น มนกลม พร้อมด้วยนายปรีชา นางฉันท์ทิพย์ กลิ่นโสภณ และครอบครัวร่วมกันสร้าง องค์พระขนาดหน้าตักกว้าง 3.60  เมตร สูง 7  เมตร โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพุทธโฆษาจารย์ เป็นประธานเททองหล่อและเบิกพระเนตร



ฉัตรชัย พวงขจร /ข่าว /พิมพ์

กกต.แม่ฮ่องสอน ชี้แจงกรณีประชาชน พบการ ทุจริต การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สามารถแจ้งได้ที่ กกต.

นายพันธุ์รัตน์ แก้ววิเชียร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า หากประชาชนพบเห็นการทุจริตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เช่น การแจกเงินสิ่งของ หรือการเรียกรับเงิน หรือทรัพย์สิน สามารถแจ้งเบาะแส หรือรวบรวมหลักฐานการทุจริต โดยแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หรือแจ้งให้ กกต. ได้รับทราบ ทางสายด่วนเลือกตั้ง โทร1171 และที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน โทรศัพท์หมายเลข 053 612827



ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน

กกต.แม่ฮ่องสอน ชี้แจงกรณี การคัดค้าน การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ภายใน 30 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง

นายพันธุ์รัตน์ แก้ววิเชียร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า กรณีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง ซึ่งมีสมาชิกสมัครรับเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้งใด เขตเลือกตั้งหนึ่ง มีสิทธิยื่นคัดค้าน กรณีเห็นว่าการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น เป็นไปโดยไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย สามารถคัดค้านได้ ก่อนวันประกาศผลการเลือกตั้ง หรือภายใน 30 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง และเห็นว่าผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด ใช้จ่ายเงินในการหาเสียงเกินจำนวนที่ กกต.กำหนด สามารถคัดค้านได้ ภายใน 180 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง และกรณี ผู้สมัครไม่ยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายในการเลือกตั้ง สามารถคัดค้านได้ ภายใน 90 วันหลังจากการเลือกตั้ง

โดยผู้ที่จะคัดค้าน สามารถ แจ้งได้ทางสายด่วนเลือกตั้ง โทร1171 หรือที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน โทรศัพท์หมายเลข 053 612827



ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน

สำนักงานการค้าภายใน จ.แม่ฮ่องสอน จัดงานธงฟ้า ราคาประหยัด ลดค่าครองชีพประชาชน ครั้งที่ 7 /2557 ที่ อำเภอปาย

วันนี้ (4 ก.พ.57)  นางนัยนภัส สังขนุกิจ การค้าภายใน จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ จัดงานธงฟ้า ราคาประหยัด ลดค่าครองชีพประชาชน ครั้งที่ 7 /2557 ที่บริเวณข้างโรงแรมดิอาร์ท ออฟปาย อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นการช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยจะมีพ่อค้า แม่ค้า กว่า 40 ร้านค้า มาจำหน่ายสินค้า มีทั้งของใช้ประจำวัน อุปโภค บริโภค เช่น ไข่ไก่ ฟองละ 2.50 บาท น้ำมันพืชขวดละ 30 บาท น้ำตาลทรายกิโลกรัมละ 18 บาท นอกจากนั้นมีการจำหน่ายสินค้าจากชายแดนภาคใต้เช่น ไข่มุกอันดามัน ชาชักจากจังหวัดสตูล และอื่นๆอีกมากมาย

งานธงฟ้า ราคาประหยัด ลดค่าครองชีพประชาชน ครั้งที่ 7 จะมีไปถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557



ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว

จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประชุมคณะกรรมการตัดสินการประกวดธิดาชนเผ่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในงานฤดูหนาวและงานรื่นเริงประจำปี 2557

เช้าวันนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2557)  นางพนิดา เชาวนปรีชา ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานประชุมคณะกรรมการตัดสินการประกวดธิดาชนเผ่า ในงานฤดูหนาวและงานรื่นเริงประจำปี 2557 จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งจัดขึ้นคืนวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2557 ที่บริเวณถนนนาวาคชสาร หน้าสถานีขนส่งโดยสาร จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อพิจารณาเกณฑ์การตัดสิน ซึ่งดูจากเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ มีความสวยงามและถูกต้อง เหมาะสมกับบุคลิกภาพ ร่วมถึงการตั้งคำถามให้ผู้เข้ารอบ 5 คนสุดท้ายตอบ เพื่อดูปฏิภาณไหวพริบ และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยผู้ครองตำแหน่งธิดาชนเผ่า ประจำปี 2557 จะได้รับเงินรางวัล 25,000 บาท สายสะพาย และสลุงเงินดอกไม้สด รวมทั้งปฏิบัติหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ ตลอดจนการท่องเที่ยว ในฐานะทูตวัฒนธรรมของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นระยะเวลา 1 ปี พร้อมกันนี้มีการจับฉลากผู้เข้าประกวด ซึ่งปีนี้มีผู้เข้าประกวดจำนวน 31 คน
งานฤดูหนาวและงานรื่นเริงประจำปี 2557 จังหวัดแม่ฮ่องสอน กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-15 กุมภาพันธ์นี้



ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน

กกต.ลำปางแจ้งเตือนผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งให้ไปแจ้งเหตุภายใน 9 กุมภาพันธ์

กกต.ลำปาง แจ้งประชาชนที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิได้ เนื่องจากมีธุระจำเป็นหรือเหตุสุดวิสัยอื่น ต้องไปแจ้งเหตุที่ทำให้ไม่อาจเลือกตั้ง

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง แจ้ง วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นวันสุดท้ายที่จะมีการรับเรื่องแจ้งเหตุของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แต่ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ ที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานี้ได้ เนื่องจากติดธุระจำเป็นหรือมีเหตุสุดวิสัยอื่นใด ซึ่งได้มีกำหนดให้ไปแจ้งเหตุที่ทำให้ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม ถึง 9 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อจะได้ไม่เป็นคนเสียสิทธิ
การแจ้งเหตุที่ทำให้ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ มีกรณีดังต่อไปนี้ มีกิจธุระจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเดินทางไปพื้นที่ห่างไกล เจ็บป่วย พิการ สูงอายุ ไม่สามารถไปใช้สิทธิได้ พิการ หรือสูงอายุและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ เดินทางออกนอกราชอาณาจักร มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลจากที่เลือกตั้งเกินกว่า 100 กม. หรือมีเหตุสุดวิสัยอื่นที่ กกต.กำหนด โดยการกรอกแบบฟอร์มหนังสือแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ (ส.ส. 28) ระบุหมายเลขประจำตัวประชาชน และที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้าน พร้อมแนบหลักฐานเหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ ยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอและนายทะเบียนท้องถิ่นที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ได้ 3 วิธีการ คือ ยื่นด้วยตนเองหรือมอบหมายบุคคลอื่นไปยื่นแทนหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน

หากผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้ง ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและไม่ไปแจ้งเหตุ จะทำให้เสียสิทธิ 3 ประการ คือ 1.เสียสิทธิการยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. 2.เสียสิทธิการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส., ส.ว., สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น และสิทธิได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. และ 3.เสียสิทธิการสมัครรับเลือกเป็นกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งสิทธิทั้ง 3 ประการ จะได้กลับคืนมาเมื่อไปใช้สิทธิการเลือกตั้งอย่างใดอย่างหนึ่ง ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งระดับชาติหรือท้องถิ่น



ข่าวโดย : กมลรัตน์ เพ็ชรแสนงาม

ตำรวจวิสามัญขบวนการขนยาเสพติดเครือข่ายพันโทยี่เซ ขณะขับรถแหกด่านขึ้นดอยขุนตาน 1 ราย ยึดยาบ้าได้1 ล้าน 2 แสนเม็ด

เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 พ.ต.ท.จำลอง แก้วทิพย์ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรแม่ทา อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ได้รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ได้ไล่สกัดจับรถยนต์ของขบวนการค้ายาเสพติดและมีการยิงปะทะกัน ทำให้ฝ่ายขบวนการขนยาเสพติดถูกยิงเสียชีวิต 1 คน เหตุเกิดบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์สายเชียงใหม่-ลำปาง ขาล่อง หลักกิโลเมตรที่ 46 หมู่ที่ 11 บ้านทุ่งยาว ตำบลทาสบเส้า อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ห่างจากด่านตรวจแม่ทาประมาณ 1 กิโลเมตร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกับผู้บังคับบัญชา พล.ต.ต.จรัณฐค์ วรพัฒนานันน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน และแพทย์เวร โรงพยาบาลแม่ทา เมื่อไปถึงพบรถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ สีบรอนเงิน ทะเบียน บฉ-3456 ตาก บรรทุกตะกร้าสำหรับใส่ผลไม้มาเต็มกระบะหลัง ห่างจากรถกระบะไปประมาณ 100 เมตร พบผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นชายสวมเสื้อกีฬาสีเขียวกางเกงวอร์มสีน้ำเงิน ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก 1 นัด กลางหลัง 1 นัด ขาขวา 1 นัด และไหล่ขวา 1 นัด รวม 4 นัด ทราบชื่อต่อมาคือนายนพพล เพชรคีรีรัตน์ อายุ 25 ปี ชาวเขาเผ่าม้ง อยู่บ้านเลขที่ 16/2 หมู่ที่ 3 ตำบลคิรีราช อำเภอพบพระ จังหวัดตาก

จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่าก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 สืบทราบว่ามีการขนยาบ้าจากพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำไปส่งให้เครือข่ายขบวนการค้ายาบ้าที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเครือข่ายของพันโทยี่เซ ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 นำโดย พ.ต.อ.วรพล คำลือ ผู้กำกับการกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรภาค 5 จึงไล่ติดตามรถคันดังกล่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ ขณะเข้าเขตจังหวัดลำพูน ได้ประสานเจ้าหน้าที่ด่านตรวจแม่ทา จังหวัดลำพูน เพื่อสกัดจับ พอมาถึงด่านตรวจปรากฏว่ารถยนต์คันดังกล่าวได้ขับแหกด่านตรวจแม่ทา เพื่อมุ่งหน้าข้ามไปยังจังหวัดลำปางซึ่งเป็นทางขึ้นดอยขุนตาน ทำให้รถวิ่งได้ช้ากว่าปกติ คนร้ายเห็นท่าไม่ดี จึงจอดรถและวิ่งลงจากรถ พร้อมชักปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงสวนไป ถูกคนร้าย จนเสียชีวิต จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายถูกกระสุนเข้าที่บริเวณหน้าอก 1 นัด กลางหลัง 1 นัด ขาขวา 1 นัด และไหล่ขวาอีก 1 นัด รวมทั้งหมด 4 นัด นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนชนิดลูกซองสั้น ตกอยู่ใกล้ผู้เสียชีวิตอีก 1 กระบอก ในกระเป๋ากางเกงด้านซ้ายผู้เสียชีวิตพบมีเงินสดเกือบ 10,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจค้นด้านท้ายกระบะซึ่งบรรทุกตะกร้าสำหรับใส่ผลไม้สีฟ้ามาเต็มคันรถ พบยาบ้า จำนวน 1 ล้าน 2 แสนเม็ด ห่อหุ้มด้วยพลาสติกใสเป็นมัดๆ บรรจุซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเป้คละสีจำนวนหลายใบ วางไว้ที่กระบะ แล้วนำแผ่นไม้อัดยาว 2 เมตร วางทับไว้บนกระเป๋าเป้ที่ซ่อนยาบ้าเอาไว้ จากนั้นได้นำเอาตะกร้าผลไม้มาวางทับไว้ข้างบนไม้อัดอีกทีเพื่ออำพราง ซึ่งทางตำรวจจะได้สืบสวนขยายผลหาแหล่งที่มาของขบวนการค้ายาเสพติดต่อไป



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 

ผวจ.ลำพูนคาดว่า จังหวัดลำพูน จะรักษา สถิติมีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากที่สุดของประเทศเป็น สมัย ที่ 10

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน คาดว่า จังหวัดลำพูน จะยังคงรักษา สถิติ มีประชาชนมาใช้สิทธิ์ เลือกตั้ง มากที่สุดของประเทส เป็น สมัย ที่ 10 ซึ่งจากข้อมูล เบื้องต้น มีปริมาณผู้มาใช้สิทธิ ที่ร้อยละ 75

นายสุวรรณ กล่างสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า ในการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จังหวัดลำพูน ก็ได้รับผลกระทบ จาก หลายปัจจัย ทำให้มีปริมาณ ผู้มาใช้สิทธิลดลง เช่นเดียวกับ จังหวัด อื่น ๆ แต่ ข้อมูล จำนวนสถิติ ประชาชน ผู้มาใช้สิทธิ ของจังหวัดลำพูน ยังเป็นที่น่าพอใจ โดย มีสถิติ ที่ร้อยละ 75 ส่วนการจัดสถิติ ผู้มาใช้สิทธิระดับประเทศเมื่อเทียบกับ จังหวัดอื่น ๆ จังหวัดลำพูน น่าจะติด อันดับ อยู่ 1 ใน 5 ของประเทศ ซึ่ง กกต.กลางยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ ก็คาดว่า จังหวัดลำพูน น่าจะยังรักษา สถิติมีผู้มาใช้สิทธิ ลงคะแนนเลือก ตั้ง มากที่สุดของประเทศ เป็นสมัยที่ 10 .


ข่าวโดย : เชาวรินทร์ สอนปาละ

กกต.ลำพูน ขอให้ ผู้ที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ แจ้งเหตุ ที่ไม่สามารถ ไปใช้สิทธิ จน ถึง วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557

กกต.ลำพูน ขอให้ ผู้ที่ไม่ได้ไปลงคะแนนเลือกตั้ง ใช้สิทธิเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เพราะมีกิจธุระจำเป็น ต้องไปแจ้งเหตุที่ทำให้ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเทียนท้องถิ่นที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เสียสิทธิ 3 ประการ

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำพูน แจ้งให้ผู้มีสิทธิ ที่ไม่ได้ไปลงคะแนนเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ แจ้งเหตุ ที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิได้ที่ นายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเทียนท้องถิ่นที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เสียสิทธิ 3 ประการ โดย แจ้งเหตุที่ทำให้ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งผู้ที่มีกิจธุระจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเดินทางไปพื้นที่ห่างไกล , ผู้ที่เจ็บป่วย พิการ สูงอายุ ไม่สามารถไปใช้สิทธิได้ , พิการ หรือสูงอายุและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ , ผู้ที่เดินทางออกนอกราชอาณาจักร , ผู้มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลจากที่เลือกตั้งเกินกว่า 100 กม. หรือ มีเหตุสุดวิสัยอื่นที่ กกต.กำหนด

ซึ่งประชาชนสามารถ แจ้งเหตุ ในระหว่างก่อนวันเลือกตั้ง 7 วัน จนถึงหลังวันเลือกตั้ง 7 วัน ( 29 มกราคม – 9 กุมภาพันธ์ 2557 )โดย กรอกแบบฟอร์มหนังสือแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ (ส.ส. 28) โดยระบุหมายเลขประจำตัวประชาชน และที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้าน แนบหลักฐานเหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ ยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอและนายทะเบียนท้องถิ่นที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ได้ 3 วิธีการ คือ ยื่นด้วยตนเอง , มอบหมายบุคคลอื่นไปยื่นแทน และ ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน
ทั้งนี้ ผู้ที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิ เลือกตั้ง และ ไม่แจ้งเหตุ ที่ไม่ได้ไปเลือกตั้ง จะเสียสิทธิ 3 ประการ คือเสียสิทธิการยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. , เสียสิทธิการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส., ส.ว., สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น และสิทธิได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. และ เสียสิทธิการสมัครรับเลือกเป็นกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน สิทธิทั้ง 3 ประการ จะได้กลับคืนมาเมื่อไปใช้สิทธิการเลือกตั้งอย่างใดอย่างหนึ่ง ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งระดับชาติหรือท้องถิ่น .



ข่าวโดย : เชาวรินทร์ สอนปาละ

จ.ลำพูน มอบเกียรติบัตรให้แก่อำเภอและสถานีตำรวจภูธรที่มีผลการดำเนินงานดีเด่นในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557

ที่ห้องประชุมจามเทวี ศาลากลางจังหวัดลำพูน นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน มอบเกียรติบัตรให้แก่อำเภอและสถานีตำรวจภูธรที่มีผลการดำเนินงานดีเด่นในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 จังหวัดลำพูน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจต่อผู้ปฏิบัติงานศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดลำพูน โดยอำเภอที่ไม่มีอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ได้แก่ อำเภอป่าซางและอำเภอเวียงหนองล่อง สถานีตำรวจภูธรที่มีผลการเรียกตรวจและการดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด 10 มาตรการ สูงสุด 3 แห่ง ตามลำดับ ได้แก่ สถานีตำรวจภูธรเมืองลำพูน สถานีตำรวจภูธรป่าซาง สถานีตำรวจภูธรเวียงหนองล่อง ในการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงปีใหม่ 2557 จังหวัดลำพูนกำหนดช่วงเวลาการดำเนินงานไว้ 2 ช่วง คือ ช่วงเตรียมความพร้อมและรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน – 26 ธันวาคม 2556 ช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2556 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2557 การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 ระดับจังหวัด อำเภอ และการบูรณาการจัดตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจร่วม อำเภอ ตามมาตรการ 10 มาตรการ ได้แก่ เมาไม่ขับ การสวมหมวกนิรภัย มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย การคาดเข็มขัดนิรภัย ไม่มีใบขับขี่ การขับรถเร็วกว่าที่กำหนด แซงในที่คับขัน การขับรถย้อนศร ฝ่าฝืนสัญญาณไฟ และโทรศัพท์ขณะขับรถ ผลการดำเนินการในช่วง 7 วัน มีจำนวนอุบัติเหตุ 71 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 76 คน ชาย 56 คน หญิง 20 คน ผู้เสียชีวิต 7 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 3 คน ผลการเรียกตรวจและดำเนินคดีตามมาตรการ 10 มาตรการของสถานีตำรวจภูธร 11 แห่ง มีการดำเนินคดีผู้กระทำผิด จำนวน 4,656 ราย

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า ขอให้อำเภอ และสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ที่เป้าหมายยังไม่บรรลุผลสำเร็จ ให้ร่วมกันนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ปรับแผนการดำเนินงานและกำหนดมาตรการให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาและพฤติกรรมเสี่ยง ที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ทั้งยามปกติและช่วงเทศกาลต่อไป



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 

เจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับแก๊งขนส่งยาบ้ายึดของกลาง ได้ 1 ล้าน 2 แสน เม็ด และ วิสามัญ ผู้ค้า 1 ราย ที่ อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน

ตำรวจภูธร ภาค 5 ร่วมกับ ตำรวจภูธร จังหวัดลำพูน สกัดจับรถขนส่งยาบ้า จนเกิดการปะทะกัน ซึ่งเจ้าหน้าตำรวจที่ วิสามัญผู้ค้ายาบ้าเสียชีวิต 1ราย และ ตรวจสอบของกลาง พบบ้า ซุกซ่อนอยู่ในรถ จำนวน 1 ล้าน 2 แสนเม็ด

วานนี้ ( 3 กุมภาพันธ์ 2557 ) ตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน จับกุม ขบวนการขนส่งยาบ้า โดยเมื่อ เวลา 21.30 น. พ.ต.ท.จำลอง แก้วทิพย์ พนักงานสอบสวน สภ.แม่ทา อ.แม่ทา จ.ลำพูน ได้รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนภูธรภาค 5 ได้ ไล่สกัดจับรถยนต์ ของ ขบวนการขนส่งยาเสพติด และ ได้มีการยิงปะทะกัน จน ทำให้ผู้ขนยาเสพติดถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิต 1 ราย โดยเหตุดังกล่าว เกิดบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่ -ลำปาง ขาล่อง หลักกิโลเมตรที่ 46 หมู่ที่ 11 บ้านทุ่งยาว ต.ทาสบเส้า อ.แม่ทา จ.ลำพูน ซึ่งพล.ต.ต.จรัณฐค์ วรพัฒนานันน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ลำพูน , นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการ จ.ลำพูน และ แพทย์เวร โรงพยาบาลแม่ทา ก็ได้ไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบรถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ สีบรอนเงิน ทะเบียน บฉ 3456 ตาก บรรทุกตระกร้าสำหรับใส่ผลไม้มาเต็มกระบะหลัง ห่างจากรถปิคอัพไปประมาณ 100 เมตร พบผู้ เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายสวมเสื้อกีฬาสีเขียวกางเกงวอล์มสีน้ำเงิน ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก 1 นัด กลางหลัง 1 นัด ขาขวา 1 นัด และไหล่ขวา 1 นัด รวม 4 นัด ทราบชื่อต่อมาคือนายนพพล เพชรคีรีรัตน์ อายุ 25 ปี ชาวเขาเผ่าม้ง อยู่บ้านเลขที่ 16/2 หมู่ที่ 3 ต.คิรีราช อ.พบพระ จ.ตาก

ซึ่งก่อนเกิดเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรภาค 5 สืบทราบว่า ขบวนการค้ายาเสพติดจะมีการขนยาบ้าจาก จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำไปส่งให้เครือข่าย ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเครือข่ายของพันโทยี่เซ ซึ่งตำรวจสืบสวนภาค 5 นำโดย พ.ต.อ.วรพล คำลือ ผกก.ปพ. ภาค 5 จึงได้ สั่งการให้จัดชุดไล่ติดตามรถคันดังกล่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ จนมาถึงพื้นที่จังหวัดลำพูน ก็ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจแม่ทา จ.ลำพูน เพื่อสกัดจับรถคันดังกล่าว พอมาถึงด่านรถยนต์คันดังกล่าวได้ฝ่าด่านตรวจ เพื่อข้ามไปยังจังหวัดลำปางซึ่งเป็นทางขึ้นดอยขุนตาน แต่เนื่องจากถนนมีความชัน ทำให้รถวิ่งได้ช้ากว่าปกติ คนขับ จึงได้จอดรถ และ วิ่งออกมา ชักปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ จนเกิดการปะทะกัน ทำให้ ถูกคนร้ายถูกวิสามัญ จนเสียชีวิต จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายถูกกระสุนยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก 1 นัด กลางหลัง 1 นัด ขาขวา 1 นัด และไหล่ขวาอีก 1 นัด รวมทั้งหมด 4 นัด นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนลูกซองสั้น ตกอยู่ใกล้ผู้เสียชีวิต 1 กระบอก ในกระเป๋ากางเกงด้านซ้ายผู้เสียชีวิตพบมีเงินสดเกือบ 10,000 บาท
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ตรวจค้นด้านท้ายกระบะซึ่งบรรทุกตะกร้า ใส่ผลไม้ มาเต็มคันรถ พบยาบ้าจำนวน 1,200,000 เม็ด ( 1 ล้าน 2 แสนเม็ด ) อยู่ในพลาสติกใส แบ่งเป็นมัด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเป้ วางไว้ท้าย กระบะ แล้วนำแผ่นไม้ วางทับไว้บนกระเป๋าเป้ แล้วเอาตระกร้าผลไม้วางทับอีกชั้นหนึ่ง เพื่ออำพรางสายตาเจ้าหน้าที่ ซึ่งตำรวจจะสืบสวนขยายผลหาแหล่งที่มาของขบวนการค้ายาเสพติดต่อไป .



ข่าวโดย : เชาวรินทร์ สอนปาละ

กกต.กลางแถลงผลข้อมูล ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. 2 กุมภาพันธ์ 2557 พบว่า จ.ลำพูน มีสถิติจำนวนผู้มาใช้สิทธิเป็น อันดับ 1 ของประเทศ

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลงผลการจัดการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประจำปี 2557 โดยได้รายงาน สถิติ อย่างไม่เป็นทางการ จาก จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ 44,649,742 คน มาใช้สิทธิ 20,468,646คน ซึ่ง จังหวัดลำพูน มีสถิติผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด โดยมีสถิติ ผู้มาใช้สิทธิ ร้อยละ 72.80

วานนี้ ( 3 กุมภาพันธ์ 2557 ) ที่อาคารโดมบริหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลงจำนวนผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 กุมภาพันธ์ 2557 โดยได้ รายงาน สถิติอย่างไม่เป็นทางการ จาก จำนวน จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ 44,649,742 คน (สี่สิบสี่ล้านหกแสนสี่หมื่นเก้าพันเจ็ดร้อยสี่สิบสองคน) มาใช้สิทธิ 20,468,646คน ( ยี่สิบล้านสี่แสนหกหมื่นแปดพันหกร้อยสี่สิบหกคน) คิดเป็นร้อยละ 45.84 โดยไม่ได้นำ ข้อมูล จาก 9 จังหวัดในภาคใต้ ที่งดลงคะแนนมาประกอบ แต่หากจังหวัดใด สามารถจัดการเลือกตั้ง และ มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ก็ได้นำข้อมูลมาประกอบด้วย เช่น จ.นครศรีธรรมราช มี ผู้มีสิทธิ 1,153,060 คน มาใช้สิทธิ 1,292 คน

ซึ่ง จังหวัดที่มีผู้มาลงคะแนนใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด ได้แก่ จังหวัดลำพูน มีจำนวน ผู้มีสิทธิ328,667 คน (สามแสนสองหมื่นแปดพันหกร้อยหกสิบเจ็ดคน) มาใช้สิทธิ 241,209 คน (สองแสนสี่หมื่นหนึ่งพันสองร้อยเก้าคน) คิดเป็นร้อยละ 72.80 , อันดับที่ 2 คือ จ.หนองบัวลำภู มีสถิติร้อยละ 72.50 , อันดับ 3 คือ จังหวัด บึงกาฬ มีสถิติร้อยละ 70



ข่าวโดย : เชาวรินทร์ สอนปาละ

กำแพงเพชรจัดประชุมคณะทำงานการจัดทำผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) รายสาขา

 เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมทุ่งเศรษฐี ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร นายสุรพล วาณิชเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานการประชุมคณะทำงานการจัดทำผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) รายสาขา จำนวน 16 สาขา ซึ่งสำนักงานคลังจังหวัดกำแพงเพชรจัดขึ้น เพื่อทบทวนผลการจัดทำผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ปี 2555 และแนวทางในการจัดทำผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ปีงบประมาณ 2557 ให้มีคุณภาพสอดคล้องความเป็นจริงในพื้นที่ ซึ่งเป็นการทบทวนผลการจัดทำ GPP ในปีที่ผ่านมา และวางแผนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นตามระดับขั้นความสำเร็จ (Milestone) ของการจัดทำสถิติผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ในขั้นตอนที่ 1 จากทั้งหมด 5 ขั้นตอน ซึ่งในปีงบประมาณ 2556 จังหวัดกำแพงเพชร ได้รับการประเมินระดับความสำเร็จของการพัฒนาคุณภาพการจัดทำผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ที่ระดับ 4.9999 คะแนน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 0.003 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 99.998 เป็นลำดับที่ 29 ของประเทศ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 4 อันดับ และเป็นลำดับที่ 2 ของเขต สูงกว่าปีที่ผ่านมา 1 อันดับ ในโอกาสนี้ นายเจษฎา โพธิจินดา คลังจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า จังหวัดกำแพงเพชรได้มีคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการเศรษฐกิจจังหวัดกำแพงเพชรและคณะทำงานจัดทำผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดรายสาขา เพื่อสนับสนุนและดำเนินการจัดทำผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีความถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ และเชื่อถือได้ ใน 16 รายสาขา และที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาทบทวนผลการจัดทำผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ที่ผ่านมา และแนวทางการนำข้อมูล GPP ไปใช้ประโยชน์ โดยในปีงบประมาณ 2556 คณะทำงานจัดทำผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดรายสาขาได้ร่วมกันดำเนินงานจัดเก็บข้อมูล บันทึก และประมวลผลกิจกรรมการผลิตทั้งหมดของจังหวัด ปี 2554 และ 2555 ซึ่งข้อมูลปี 2554 ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว สำหรับข้อมูลปี 2555 คณะทำงานฯ รายสาขาได้ดำเนินการจัดทำข้อมูลส่งให้สำนักงานคลังหวัดแล้ว และในปีงบประมาณ 2557 จะต้องดำเนินการจัดเก็บข้อมูล GPP ปี พ.ศ. 2556 และร่วมกันตรวจสอบ วิเคราะห์ผลข้อมูล GPP ปี พ.ศ. 2555 ต่อไป ซึ่งผลการวิเคราะห์ภาพรวม (เบื้องต้น) ภาวะเศรษฐกิจจังหวัดกำแพงเพชรปี 2555 ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด ณ ราคาประจำปี มีค่าเท่ากับ 79,423 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2554 เท่ากับ 8,603 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัว ในปี 2555 เท่ากับ 109,398 บาท เพิ่มขึ้นจาก 97,953 บาท ในปี 2554 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.7 โดยโครงสร้างการผลิตที่สำคัญ พิจารณาจากมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาประจำปี 2555 จังหวัดกำแพงเพชรมีโครงสร้างการผลิตที่สำคัญรายสาขา ได้แก่ สาขาเหมืองแร่และเหมืองหิน สัดส่วนร้อยละ 31.0 สาขาเกษตรกรรม การล่าสัตว์และการป่าไม้ สัดส่วนร้อยละ 22.8 สาขาอุตสาหกรรม มีสัดส่วนร้อยละ 16.3 สาขาขายส่ง ขายปลีกฯ สัดส่วนร้อยละ 5.0 และสาขาอื่น ๆ สัดส่วนร้อยละ 17.0 ส่วนอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจังหวัดกำแพงเพชรในปี 2555 ขยายตัวร้อยละ 8.6 ขยายตัวในอัตราคงที่จากปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการขยายตัวภาคเกษตรขยายตัวร้อยละ 15.1 จากการขยายตัวร้อยละ 9.5 ในปี ผ่านมา ส่วนภาคนอกเกษตรชะลอตัวเล็กน้อย จากสาขาการผลิตที่สำคัญ ได้แก่ การขายส่งขายปลีกฯ และสาขาตัวกลางทางการเงิน โดยสาขาการขายปลีก ขายส่งฯ อยู่ในภาวะชะลอตัวร้อยละ 6.6 จากที่ขยายตัว ร้อยละ 25.7 ในปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการค้าปลีกขนาดใหญ่เปิดกิจการในปี 2554 ทำให้สาขาขายส่ง ขายปลีกฯ ขยายตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนปี 2555 ผู้ประกอบการขายส่ง ขายปลีกฯ เริ่มมีการปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้ /สาขาขายส่ง… - 2 - สาขาขายส่ง ขายปลีกชะลอตัว ในปี 2555 ส่วนสาขาตัวกลางทางการเงิน ชะลอตัวร้อยละ 8.9 จากที่ขยายตัวร้อยละ 12.5 ในปีที่ผ่านมา เนื่องจากธนาคารพาณิชย์เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นสำคัญ ประกอบกับมีมาตรการพักชำระหนี้และเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับผู้ประกอบการและประชาชนที่ประสบอุทกภัย ส่วนแนวทางการนำข้อมูล GPP ไปใช้ประโยชน์นั้น ข้อมูล GPP เป็นข้อมูลที่ใช้ประโยชน์ในการ ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจรายพื้นที่ (ภาค/จังหวัด) และในการจัดทำยุทธศาสตร์ระดับภาค/จังหวัดเพื่อพัฒนาจังหวัดและภาคเป็นไปในแนวทางที่ถูกต้องสอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ ใช้ในการจัดสรรงบประมาณให้จังหวัดเพื่อการจัดสรรงบประมาณลงสู่ภูมิภาคและมีความโปร่งใส และยุติธรรมมากขึ้น สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริง ใช้ในการวิเคราะห์โครงการลงทุนของรัฐวิสาหกิจในด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า ประปา logistic และอื่น ๆ จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นข้อมูลที่ช่วยในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและความแตกต่างด้านรายได้ของประชาชนระหว่างพื้นที่ จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ใช้ในการวางแผนการผลิตและการลงทุนของเอกชน ใช้เป็นฐานข้อมูลในการจัดทำแบบจำลองทางเศรษฐกิจ (Model) ของจังหวัดต่อไป และใช้สำหรับงานศึกษาวิจัยของนักวิชาการและนักศึกษาทุกระดับ


                                                                           

ชานิกา กันภัย / ข่าว

จังหวัดกำแพงเพชร แจ้งประชาสัมพันธ์การยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือจากการชุมนุมทางการเมือง

ด้วยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งขยายระยะเวลาการยื่นคำร้องเพื่อลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรม สำหรับผู้ที่ทรัพย์สินเสียหายจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง (พ.ศ.2548 – 2553) ซึ่งได้มีการลงทะเบียนไว้แล้ว ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2555 ออกไปถึงวันที่ 31 มีนาคม 2557 ดังนั้น จังหวัดกำแพงเพชรจึงแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้ที่ทรัพย์สินเสียหายจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง (พ.ศ.2548 – 2553) ที่มีความประสงค์จะยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยา ยื่นคำร้องเพื่อลงทะเบียนขอรับการเยียวยา ได้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกำแพงเพชร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร ตั้งแต่บัดนี้ – วันที่ 31 มีนาคม 2557 พร้อมนำเอกสารมาประกอบคำร้อง ดังนี้ 1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 2. สำเนาทะเบียนบ้าน 3. สำเนาบันทึกประจำวันแจ้งความเสียหาย 4. เอกสารหลักฐานแสดงความเสียหาย เช่น ภาพถ่ายความเสียหาย ฯลฯ 5. สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร 6. หนังสือรับรอง (ผู้นำชุมชน หรือข้าราชการตั้งแต่ระดับ 3 หรือประเภทวิชาการระดับปฏิบัติการ หรือเทียบเท่าขึ้นไป)                                            
 
                                                     

 
ชานิกา กันภัย / ข่าว

มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรม “จิบกาแฟ แชร์ความคิด”


เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 07.00 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรม "จิบกาแฟ แชร์ความคิด”พร้อมจัดเวธีเสนาเรื่องการเตรียมตวามพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมี นายสุรพล วาณิชเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานในการจัดกิจกรรม ดังกล่าว และมี นายศักดิ์ สมบุญโต นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร นายรณชัย จิตวิเศษ ปลัดจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดกำแพงเพชรเข้าร่วมในการจัดกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง

กิจกรรม"จิบกาแฟ แชร์ความคิด” เป็นกิจกรรมที่จังหวัดกำแพงเพชร จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ได้มีโอกาสพบปะ สนทนา ถึงการดำเนินงานต่าง ๆ ในจังหวัดกำแพงเพชร ตลอดจนการปรึกษาหาลือเพื่อหาแนวทางพัฒนาจังหวัดในด้านต่างๆร่วมกัน โดยมุ่งหวังให้ประโยชน์จากการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เกิดผลแก่จังหวัด และประชาชนอย่างสูงสุด      

มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร มุ่งเน้นให้โอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชน สร้างศักยภาพให้เป็นขุมพลังแห่งปัญญา พัฒนาท้องถิ่น ผลิตกำลังคนที่มีความรู้ ความสามารถและมีคุณธรรม โดยเน้นที่ จิตสำนึกในการรับใช้ท้องถิ่นและประเทศชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร เป็นมหาวิทยาลัยที่เป็นที่พึ่งของท้องถิ่น และมีคุณภาพสู่ประชาคมอาเซียน ตามพันธกิจ คือ 1. ผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ มาตรฐาน 2. สร้างองค์ความรู้ งานวิจัยและ นวัตกรรมเพื่อพัฒนาท้องถิ่น 3. เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน 4. ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม 5. ผลิต และพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา 6. บริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
                                     


นิพนธ์ รอดทรัพย์ / ข่าว

ผู้ว่าฯ จังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดงานประกวดโคเนื้อบึงสามพันครั้งที่ 9 จัดขึ้นแล้วอย่างยิ่งใหญ่

ผู้ว่าฯ จังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดงานประกวดโคเนื้อบึงสามพันครั้งที่ 9 จัดขึ้นแล้วอย่างยิ่งใหญ่

ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายวิเชียร จันทรโณทัย เป็นประธานในพิธีเปิดงานประกวดโคเนื้อบึงสามพันครั้งที่ 9 พร้อมทั้งเป็นประธานในการเปิดกรวยพระราชทานถ้วยรางวัลเกียรติยศสำหรับโคยอดเยี่ยมจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 10.00 น. ณ บริเวณ ศูนย์สินค้าโอท็อป หมู่ 7 ต.หนองแจง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์

พร้อมด้วย นายสุชาติ ราษฎรดุษดี รองผู้ว่าฯ จังหวัดเพชรบุรณ์ และหัวหน้าจากทุกภาคส่วน ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงานการประกวดดคเนื้อบึงสามพัน ครั้งที่ 9 โดยการจัดงานประกวดในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความรู้ และสนับสนุนการพัฒนาพันธุ์โคเนื้อของเกษตรกร รวมถึงสนับสนุนการประชาสัมพันธ์สินค้าโอท็อป , สินค้าเกษตร โคเนื้อ และฟาร์มเนื้อของเกษตรกร ทำให้เกษตรกรสามารถขายโคเนื้อได้ราคาดีขึ้น และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบูณ์ กิจกรรมภายในงานมีการประกวดโคเนื้อ การแสดงจากหนุ่มคาวบอย และการเปิดประมูลโคเนื้อพันธุ์ดีต่าง ๆ อาทิ โคพันธุ์ผสมอเมริกันบราห์มัน และพันธุ์ผสมยุโรป

นายวิเชียร ผู้ว่าฯ จังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ผมขอแสดงความชื่นชมชาวอำเภอบึงสามพัน และทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันพัฒนาการจัดงานประกวดโคเนื้อบึงสามพันมาโดยตลอด จนเป็นสนามประกวดโคเนื้อในระดับสากลซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานถ้วยรางวัลเกียรติยศสำหรับโคยอดเยี่ยม จึงถือว่าเป็นงานที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ขอให้ช่วยกันรักษาและพัฒนาให้เกิดความยั่งยืนตลอดไป

นายวิเชียร ผู้ว่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ทางจังหวัดได้ปรึกษาหารือกับกรมปศุสัตว์แล้วว่าโคเนื้อเป็นอาชีพที่มีความเหมาะสมกับเกษตรกรชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ในการที่จะเสริมสร้างรายได้ ซึ่งทางจังหวัด และกรมปศุสัตว์จะร่วมกันวางยุทธศาสตร์ในการพัฒนาโคเนื้อในเรื่องของการผลิต และการปรับปรุงพันธุ์ ให้มีคุณภาพ รวมถึงเรื่องของการตลาดเราจะสร้างให้มีตลาดกลาง เพื่อขายโคเนื้อในลักษณะของการใช้น้ำหนักเป็นหลักในการประมูลซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้

สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตพิษณุโลก จัดพิธี วันทหารผ่านศึก เพื่อระลึกถึงบุญคุณของทหารที่ได้เสียสละชีพเพื่อประเทศชาติ

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา ที่สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตพิษณุโลก พ.ต.วิเชียร ดิษมา รองหัวหน้าสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตพิษณุโลก เป็นประธานในพิธี วันทหารผ่านศึก เพื่อระลึกถึงบุญคุณของทหารที่ได้เสียสละชีพเพื่อประเทศชาติ ซึ่งกำหนดไว้วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ซึ่งใช้ดอกป๊อปปี้เป็นสัญลักษณ์ของทหารผ่านศึก และจัดจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปเพื่อนำรายได้ไปช่วยเหลือทหารผ่านศึก และครอบครัวทหารผ่านศึกในการสงเคราะห์บางอย่างที่นอกเหนือจากระเบียบที่กำหนด สำหรับสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตพิษณุโลก ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๑ ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ เลขที่ ๕๒๔/๑๘ ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก มีพื้นที่รับผิดชอบในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพิจิตร และจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยให้การบริการและการสงเคราะห์แก่ทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก ทหารนอกประจำการ และผู้ที่กำลังปฏิบัติการรบเพื่อให้เขาเหล่านั้นสามารถดำรงชิวิตอยู่ได้อย่างมีเกียรติ มีงานทำ มีที่อยู่อาศัย มีความกินดีอยู่ดี และมีความมั่นคงในชีวิตครอบครัวสมควรแก่อัตภาพ ให้สมกับที่ได้สร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติมาแล้ว

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดพิษณุโลก จัดงานวันคนพิการประจำปี 2557 เพื่อให้คนพิการได้มีโอกาสมาทำกิจกรรมร่วมกัน

เช้าวันนี้ 4 ก.พ. 57 ที่ โรงยิมเนเซี่ยม สนามกีฬากลางจังหวัดพิษณุโลก สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดพิษณุโลก ได้จัดงานวันคนพิการประจำปี 2557 ขึ้น โดยนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเป็นประธานเปิดงาน ภายในงานมีกิจกรรม การมอบเกียรติบัตรให้แก่คนพิการดีเด่น รวมทั้งบุคคล หน่วยงาน องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ให้การสนับสนุนงานคนพิการดีเด่นและการแสดงความยินดีกับหน่วยงานที่ได้รับรางวัลสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการระดับประเทศ การรับมอบเงินและสิ่งของจากผู้ให้การสนับสนุนงานวันคนพิการ การมอบเงินทุนกู้ยืมประกอบอาชีพให้คนพิการรายละ 20,000 - 40,000 บาท จำนวน 16 ราย การแสดงความสามารถของเด็กพิการจากโรงเรียนพิษณุโลกปัญญานุกูลและจากสมาคมคนพิการจังหวัดพิษณุโลก
นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคนพิการรวมทั้งให้บริการเคลื่อนที่แก่คนคนพิการ เช่น การรับสมัครคนพิการเข้าเรียนและฝึกอาชีพการจดทะเบียนคนพิการ บริการนวดแผนไทย การจัดงานในวันนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสมาคมคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย จำนวนเงิน 60,000 บาท และได้รับการสนับสนุนของขวัญรวมทั้งการจัดอาหารและเครื่องดื่ม จาก และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนถิ่นอีกด้วย

ผู้แทนพระองค์ มอบถุงพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่จังหวัด พิษณุโลก

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผู้แทนพระองค์ มอบถุงพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่จังหวัด พิษณุโลก

เมื่อเวลา 13.45 น.ของวันนี้ (4 ก.พ.57 ) สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลโท ฐิตะฐาน สุขศรี รองประธานที่ปรึกษากองงานพระวรชายาฯ เป็นผู้แทนพระองค์นำถุงพระราชทานภัยหนาว จำนวน 1,000 ถุง นำไปมอบให้แก่ราษฎรที่กำลังประสบภัยหนาว ที่โรงเรียนบ้านห้วยน้ำไซ สาขาร่องกล้าวิทยา ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ทั้งนี้ได้จัดให้มีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทานในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร มาตรวจรักษาผู้ประสบภัยหนาวที่มีอาการเจ็บป่วยในพื้นที่ด้วย สำหรับสถานการณ์ภัยหนาวจังหวัดพิษณุโลก มีราษฎรประสบภัยหนาวจำนวน 1 แสน 3 หมื่น 1 พัน 605 คน ซึ่งจังหวัดได้ดำเนินการแจกจ่ายเครื่องกันหนาวให้แก่ผู้ประสบภัยไปแล้ว