จังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมการเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

จังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมการเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งถือว่าเป็นสิทธิและหน้าที่ของประชาชนชาวไทยทุกคนที่ต้องปฏิบัติ

วันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2557) เวลา 09.45 น. นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีในการจัดกิจกรรมการเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มเดินทางจากสวนสาธารณะตรงข้ามสถานีรถไฟเชียงใหม่ ไปยังประตูท่าแพ ตามที่มีราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2556 และกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ชมรมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ จึงกำหนดการเดินรณรงค์เพื่อประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในวันดังกล่าว

การเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี ผู้บริหาร สมาชิกสภาท้องถิ่น ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง นักเรียน และขบวนจักรยานยนต์ รณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เวลา 08.30 น. ขบวนเริ่มเดินจากสวนสาธารณะตรงข้ามสถานีรถไฟเชียงใหม่ไปยังประตูท่าแพ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประธานในพิธี กล่าวชื่นชมการจัดกิจกรรมการเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ พิธีกรกล่าวเชิญตัวแทนหน่วยงาน กลุ่มมวลชน ปล่อยผ้าแพรรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ และปล่อยลูกโป่งรณรงค์การเลือกตั้ง ขึ้นสู้ท้องฟ้าพร้อมกัน

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า กิจกรรมการเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งถือว่าเป็นสิทธิและหน้าที่ของประชาชนชาวไทยทุกคนที่ต้องปฏิบัติ กิจกรรมนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มพลังสตรี กลุ่ม อสม. กลุ่ม กสน. ประชาชนนักศึกษา และกลุ่มพลังมวลชนต่างๆ ซึ่งเป็นแกนนำกิจกรรม รวมทั้งเสียสละเวลามาร่วมแสดงถึงความเป็นอธิปไตยในวันนี้ ขอชื่นชมทุกภาคส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่ทำให้กิจกรรมการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ตลอดจนยังเป็นการแสดงออกถึงความพร้อมที่จะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 อีกด้วย

ข่าวโดย : ณัฏฐ์ สินันตา/อนันต์ ชุ่มใจ

ประธาน.กกต.เชียงใหม่ ประชุมซักซ้อมขั้นตอนการดำเนินงานของ ประธาน กกต.เขต และ ผอ.กกต.เขตเลือกตั้งทั้ง 10 เขต

ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ จัดประชุมประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งทั้ง 10 เขตของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเลือกตั้ง

วันนี้ (1 ก.พ. 57) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ มีการประชุมประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งทั้ง 10 เขตของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธาน โดยเป็นการประชุมซักซ้อมขั้นตอนวิธีปฏิบัติทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้งของคณะกรรมการประจำหน่วย และหลังปิดหีบเลือกตั้งในเวลา 15.00 น. กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจะยังคงนับคะแนน ณ ที่เลือกตั้งโดยเปิดเผยจนเสร็จสิ้นในรวดเดียว เพื่อป้องกันการทุจริตเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้นจากการขนย้ายหีบบัตร หรือป้องกันการประวิงเวลาการนับคะแนนเลือกตั้ง จากนั้นจึงรวบรวมและจัดส่งผลการเลือกตั้งและบัตรเลือกตั้งไปยัง กกต.เขต ซึ่งจะรวบรวมผลการเลือกตั้งจากทุกหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งของตนเองนำไปส่งมอบให้ สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดเชียงใหม่เก็บรักษาต่อไป แต่จะยังไม่มีการเปิดเผยผลการรวมคะแนนในระดับเขตและจังหวัดได้ เนื่องจากต้องรอผลการเลือกตั้งล่วงหน้าของผู้มีสิทธิเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดและไม่สามารถใช้สิทธิเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2557 ได้จากสาเหตุของการปิดล้อมมิให้มีการจัดการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 83 หน่วยเลือกตั้ง ซึ่งกำหนดจัดขึ้นใหม่ในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 รวมทั้งจะเบิกบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าของผู้มีสิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าที่สามารถออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2557 จาก 10 เขตเลือกตั้งของจังหวัดเชียงใหม่ที่มีการนำเก็บรักษา ณ สถานีตำรวจในเขตเลือกตั้งมานับคะแนนรวมกัน ณ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนที่จะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการให้รับทราบกันต่อไป

ข่าวโดย : ไผท สุวรรณเสวตร/วสันต์ มีจินดา

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เร่งสร้างเครือข่ายการคุ้มครองแรงงานนอกระบบ พร้อมผลักดันกฎหมายคุ้มครองแรงงานนอกระบบ ก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จัดสัมมนา โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตในการทำงานของแรงงานนอกระบบ และอบรมแกนนำอาสาสมัครแรงงานและผู้สื่อข่าว เพื่อเป็นเครือข่ายการคุ้มตรองแรงงานนอกระบบประจำอำเภอและจังหวัด เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

ที่โรงแรมโพธิ์วดล รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดเชียงราย นายพานิช จิตร์แจ้ง อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้เป็นประธานในการสัมมนา โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตในการทำงานของแรงงานนอกระบบ และอบรมแกนนำอาสาสมัครแรงงานและผู้สื่อข่าว ในพื้นที่ 13 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อเป็นเครือข่ายการคุ้มครองแรงงานนอกระบบประจำอำเภอและจังหวัด และเตรียมพร้อมการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการคุ้มครองแรงงานนอกระบบในแต่ละจังหวัด โดยมี อาสาสมัครแรงงานและผู้สื่อข่าวในพื้นที่ 17 เข้าร่วมสัมมนากว่า 100 คน

อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีกลุ่มผู้ใช้แรงงานนอกระบบกว่า 25 ล้านคน อยู่ในกลุ่มแรงงานประเภทรับงานไปทำที่บ้าน แรงงานเกษตรกรรมพันธสัญญา แรงงานรับจ้างบริการ(ขับรถรับจ้าง) และแรงงานบริการทางด้านการท่องเที่ยว(ไกด์) ซึ่งแรงงงานดังกล่าวยังไม่ได้มีการคุ้มครองตามกฎหมายแรงงาน และหากถูกเอารัดเอาเปรียบก็ไม่สามารถที่จะเรียกร้องความรับผิดชอบจากใครได้เลย

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน มีแนวทางที่จะดำเนินการช่วยเหลือแรงงานดังกล่าว โดยการให้กลุ่มอาชีพต่างๆ ที่มีอยู่ในแต่ละอำเภอรวมตัวกัน แล้วคัดเลือกตัวแทนเป็นตัวแทนในระดับอำเภอ ที่มีศูนย์ปฏิบัติการคุ้มครองแรงงานนอกระบบอำเภอเป็นจุดรับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้ใช้แรงงาน จากนั้นตัวแทนในระดับอำเภอคัดเลือกตัวแทนเข้ามาทำงานในระดับจังหวัด โดยมีศูนย์ปฏิบัติการคุ้มครองแรงงานนอกระบบอำเภอเป็นจุดรับเรื่องราวร้องทุกข์จากอำเภอสู่การแก้ไขปัญหา และการพัฒนาทักษะทางอาชีพ รวมถึงการเข้าสู่มาตรา 40 ของกฏหมายประกันสังคม

การจัดการสัมนาในครั้งนี้ เพื่อต้องการที่จะให้ผู้เข้าร่วมสัมนาซึ่งเป็นอาสสมัครแรงงานและผู้สื่อข่าวท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ เป็นผู้นำความรู้ในการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการคุ้มครองแรงงานนอกระบบไปกระจายต่อให้กับเครือข่ายแรงงานนอกระบบในสาขาต่างได้รับทราบ

อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เปิดเผยอีกว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเชียและเพื่อให้แรงงานนอกระบบได้รับการดูแลมากยิ่งขึ้น กรมสวัสดิการและคุมครองแรงงานงาน จะเสนอกฎหมายการคุ้มครองแรงงานนอกระบบ ต่อรับสภาเพื่อบังคับใช้ต่อไปด้วย

ข่าวโดย : ณัฏฐ์ สินันตา

กกต.น่าน แจ้งเตือนประชาชนห้ามจำหน่ายจ่ายแจกหรือจัดเลี้ยงสุราในวันเลือกตั้ง ส.ส.ตั้งแต่เย็นวันนี้ (1 ก.พ.57) ถึงเที่ยงคืนพรุ่งนี้ (2 ก.พ.57)

นายวิทยา กามนต์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดน่าน แจ้งเตือนประชาชนห้ามจำหน่ายจ่ายแจกหรือจัดเลี้ยงสุราในวันเลือกตั้ง ส.ส.ตั้งแต่เย็นวันนี้ (1 ก.พ.57) ถึงเที่ยงคืนพรุ่งนี้ (2 ก.พ.57)

ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดน่าน แจ้งว่า ตามที่จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 นั้น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 155 บัญญัติว่า "การขาย จำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดน่าน แจ้งต่อว่า จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดน่าน งดการจำหน่าย จ่ายแจกและจัดเลี้ยงสุราทุกชนิด ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่เสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 จนถึงเวลา 24.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ งานการมีส่วนร่วม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดน่าน โทร.0-5460-0000 ต่อ 21

พวงพยอม  คำมุง / ข่าว

กกต.น่าน แจ้งไปเลือกตั้งไม่ได้รีบแจ้งเหตุป้องกันสิทธิ ถึงวันที่ 9 ก.พ. 57

นายวิทยา กามนต์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด แจ้งว่า ในวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่สามารถใช้สิทธิได้ เพราะติดธุระจำเป็นหรือมีเหตุสุดวิสัยอื่นใด ต้องไปแจ้งเหตุที่ทำให้ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ ถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557 หากไม่แจ้งเหตุไม่ไปเลือกตั้งต้องเสียสิทธิ 3 ประการ คือ เสียสิทธิการยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. เสียสิทธิการรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น และเสียสิทธิการรับสมัครรับเลือกเป็นกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน สิทธิทั้ง 3 ประการจะได้กลับคืนมาเมื่อไปใช้สิทธิการเลือกตั้งอย่างใดอย่างหนึ่งในการเลือกตั้งครั้งต่อไปไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งระดับชาติหรือท้องถิ่น

ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด แจ้งต่อว่า สำหรับการแจ้งเหตุไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามแบบฟอร์ม ส.ส.28 โดยระบุหมายเลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้าน แนบหลักฐานที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอ นายทะเบียนท้องถิ่นที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ยื่นด้วยตนเอง หรือมอบหมายบุคคลอื่นไปยื่นแทน หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน

พวงพยอม  คำมุง / ข่าว

กกต.น่าน แจ้งเตือนผู้ทุจริตในการเลือกตั้ง มีความผิดตามกฎหมาย พร้อมทั้งถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี

นายวิทยา กามนต์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด แจ้งว่า ตามที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 มาตรา 77 บัญญัติห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใด เรียกรับหรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เพื่อลงคะแนนเลือกตั้งหรืองดเว้นไม่ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด และมาตรา 152 ได้บัญญัติโทษไว้กรณีที่มีการฝ่าฝืนมาตรา 77 ให้จำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี แต่ในกรณีที่ผู้ฝ่าฝืนเป็นผู้รับหรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ถ้าได้แจ้งถึงการกระทำดังกล่าวต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งมอบหมาย ทั้งก่อนวันเลือกตั้งและในวันเลือกตั้ง หรือภายหลังวันเลือกตั้งไม่เกิน 7 วัน ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษและไม่ต้องถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง

ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด แจ้งต่อว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดน่าน จึงขอแจ้งเตือนผู้ที่จะทำการทุจริตการเลือกตั้ง หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมายดังกล่าว หากพบเห็นการทุจริตในการเลือกตั้ง ให้แจ้งไปที่โทรศัพท์หมายเลข 0-5460-0000 ต่อ 21

พวงพยอม  คำมุง / ข่าว

กกต.น่าน แจ้งผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิ สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.57 ได้

นายวิทยา กามนต์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดน่าน แจ้งผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขต ที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิ สามารถมาใช้สิทธิเลือกตั้งได้ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ ได้

นายวิทยา กามนต์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด จากการที่เปิดให้มีการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าและกำหนดเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ผู้ที่ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ แล้วไม่ได้ไปใช้สิทธิ สามารถมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 โดยไม่ถูกตัดสิทธิ หากต้องการรักษาสิทธิ สามารถแจ้งเหตุไม่ไปเลือกตั้งได้ ก่อนเลือกตั้ง7 วัน หรือ หลังวันเลือกตั้ง 7 วัน

พวงพยอม  คำมุง / ข่าว

กกต.น่าน แจ้งคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. จะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย ถ้าแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี

นายวิทยา กามนต์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดน่าน แจ้งคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. จะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย ถ้าแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นอกจากนี้บัตรประจำตัวประชาชนที่หมดอายุ ยังสามารถใช้เป็นหลักฐานในการใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ได้
             
แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 นั้น คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. จะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย ถ้าแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ในวันที่ 1 มกราคมของทุกปีที่มีการเลือกตั้ง เป็นผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วันนับตั้งแต่วันเลือกตั้ง สำหรับบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิในวันเลือกตั้ง คือ บุคคลที่เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช บุคคลที่อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง บุคคลที่ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงบุคคลวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟืองไม่สมประกอบ

พวงพยอม  คำมุง / ข่าว

กกต.น่าน แจ้งบัตรประจำตัวประชาชนหมดอายุ สามารถใช้ยื่นแสดงสิทธิเลือกตั้งได้

นายวิทยา กามนต์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด แจ้งว่า ในวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 หลักฐานที่ใช้ในการใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. คือ บัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งบัตรที่หมดอายุก็สามารถใช้ได้ หรือจะใช้บัตรหรือหลักฐานที่ทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐออกให้ โดยให้มีรูปถ่ายและหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก เช่น บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)

พวงพยอม  คำมุง / ข่าว

จ.น่าน เตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง และเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์นี้

จังหวัดน่าน พร้อมสำหรับการเลือกตั้ง และเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 08.00 - 15.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้งที่มีรายชื่อ

นายวิทยา กามนต์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด แจ้งว่า ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 จังหวัดน่าน ได้เตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้เรียบร้อยแล้ว โดยดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเตรียมกรรมการในการดำเนินการจัดการเลือกตั้งทุก ๆ ภารกิจ การจัดอบรมสัมมนาให้ความรู้ เพื่อสร้างเครือข่ายในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง การเตรียมเจ้าหน้าที่ชุดป้องปรามและเคลื่อนที่เร็ว เพื่อทำให้การเลือกตั้งสุจริตและโปร่งใส สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดน่าน จึงขอเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 08.00-15.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้งที่มีรายชื่อ

พวงพยอม  คำมุง / ข่าว

กกต.ฝ่ายจัดการเลือกตั้งอธิบายถึงการ No vote กับ Vote no

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ฝ่ายจัดการเลือกตั้ง กล่าวว่า มีประชาชนเป็นจำนวนมากถาม ว่า No vote กับ Vote no มีผลต่างกันอย่างไร ได้อธิบายดังนี้

1. ไม่ไปใช้สิทธิ์ No vote มีผลทำให้สถิติการใช้สิทธิ์ของไทยต่ำลงจนประจักษ์ต่อชาวโลกและบันทึก ในประวัติศาสตร์ไทยให้น่าอับอาย แต่ไม่มีผลต่อการทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ แม้จะมีคนไปใช้สิทธิ์ไม่ถึง   24 ล้านคนจึงไม่เกี่ยวข้อง แต่หากไม่ใช้สิทธิ แล้วไปแจ้งเห ตุของการไม่ใช้สิทธิต่อเขตหรืออำเภอภายใน 7 วัน หลังเลือกตั้ง โดยแจ้งเหตุที่เหมาะสมจะไม่เสียสิทธิทางการเมือง


2. ไปใช้สิทธิแต่กาช่องไม่ประสงค์จะลงคะแนน Vote no ลงในบัตร ส.ส.เขต จะมีผลเฉพาะเขตที่มีผู้สมัครคนเดียว ถ้า Vote no มากกว่าคะแนนผู้สมัคร หากแต่พอเลือกซ้ำถึงครั้งที่สาม เกณฑ์นี้จะหายไป ส่วนบัตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ กา Vote no เท่าไหร่ ก็ไม่มีผลอะไร แม้จะมีมากกว่าคะแนนทุกพรรคก็ตาม


นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ฝ่ายจัดการเลือกตั้ง กล่าวในตอนท้าย ว่า จะ   Vote หรือ  No vote หรือ  Vote no ตัดสินกันกันให้ดี

นิสารัชต์ นิลสว่าง เรียบเรียงจาก facebook นายสมชัย ศรีสุทธิยากร

ประธาน ก.ก.ต.น่าน ขอเชิญผู้มีสิทธิเลือกตั้งในจังหวัดน่านไปเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อรักษาสิทธิทางการเมือง

ประธาน ก.ก.ต.น่าน ขอเชิญผู้มีสิทธิเลือกตั้งในจังหวัดน่านไปเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อรักษาสิทธิทางการเมือง

นายวิทยา กามนต์ ประธาน ก.ก.ต.น่าน กล่าวว่า วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการรักษาสิทธิทางการเมือง ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ตามมาตรา 72 ว่าด้วย "บุคคลมีหน้าที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง บุคคลชึ่งไปใช้สิทธิหรือไม่ไปใช้สิทธิโดยไม่แจ้งเหตุอันสมควรที่ทำให้ไม่อาจไปใช้สิทธิได้ ย่อมได้รับสิทธิหรือเสียสิทธิตามกฎหมายบัญญัติ”

สำหรับจังหวัดน่าน มีเขตเลือกตั้ง 3 เขต โดยทั้ง 3 เขต มีผู้สมัคร ส.ส. เพียงพรรคเดียวคือเขต 1 คนเท่านั้น ส่วนระบบบัญชีรายชื่อ มีพรรคการเมืองลงสมัคร 53 พรรรค

จึงขอเชิญผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปเลือกตั้ง ณ หน่วยเลือกตั้งที่ท่านมีชื่อ ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 15.00 น.

นิสารัชต์ นิลสว่าง /ข่าว

กกต.พะเยา เตือนประชาชนห้ามจำหน่ายจ่ายแจกหรือจัดเลี้ยงสุราในวันเลือกตั้ง ส.ส.ตั้งแต่เย็นวันนี้ (1 ก.พ.57) ถึงเที่ยงคืนพรุ่งนี้ (2 ก.พ.57)

นางสาวพัชรินทร์ รัตนวิภา ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยา ขอแจ้งเตือนให้ประชาชนทั่วไปทราบว่า ตามที่ได้ประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 นั้น พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 155 บัญญัติว่า “การขาย จำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยา จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดพะเยา งดการจำหน่าย จ่ายแจกและจัดเลี้ยงสุราทุกชนิด ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่เสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 จนถึงเวลา 24.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ งานการมีส่วนร่วม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยา โทร.054 - 449517 - 8 ต่อ 104

ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

กกต.พะเยา จัดเวทีกลางปราศรัยของผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งทั้ง 3 เขต ให้ประชาชนใช้ประกอบการตัดสินใจในการลงคะแนนเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้

ช่วงค่ำวานนี้ (31 ม.ค.57) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยา จัดเวทีกลางปราศรัยของผู้สมัครสมาชิสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้งทั้ง 3 เขต ในพื้นที่จังหวัดพะเยา ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 ที่บริเวณลานจอดรถหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา , เขตเลือกตั้งที่ 2 ที่ สวนสุขภาพ อำเภอเชียงคำ , และเขตเลือกตั้งที่ 3 ที่ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอดอกคำใต้ โดยแถลงนโยบาย แสดงวิสัยทัศน์ พร้อมแนะนำตัวได้อย่างทั่วถึงเพื่อให้ประชาชนให้ประกอบการตัดสินใจในการลงคะแนนเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ ตลอดจนเป็นการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างโปร่งใส สุจริต และเที่ยงธรรม ทั้งนี้ผู้สมัครแต่ละคนจะทำการจับฉลากเพื่อจัดลำดับหาเสียงก่อน จากนั้นจะแบ่งการหาเสียงออกเป็นคนละ 2 รอบ โดยรอบแรกไม่เกินคนละ 15 นาที ส่วนรอบที่ 2 ไม่เกินคนละ 10 นาที ซึ่งบรรยากาศโดยทั่วไปไม่ค่อยคึกคักเหมือนการหาเสียงครั้งที่ผ่านมาเมื่อปี 2554 มีแค่ผู้สนับสนุน และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมรับฟัง

สำหรับจังหวัดพะเยามีผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตจังหวัดพะเยา จำนวน 6 คนจาก 4 พรรคการเมือง โดยเขต 1 คือ นางสาวอรุณี ชำนาญยา พรรคเพื่อไทย และนายจิรโรจน์กีรติศักดิ์สกุล พรรคพลังประชาธิปไตย , เขต 2 คือ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ พรรคเพื่อไทย และนายนายอนุชา มุสิกะ พรรคชาติพัฒนา , และเขต 3 คือ ดร.ไพโรจน์ ตันบรรจง พรรคเพื่อไทย และนายธงศักดิ์ แสงจันทร์ พรรคประชาราช

ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

ประธาน กกต.พะเยา เผย คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. จะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย ถ้าแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี

ประธาน กกต.พะเยา เผย คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. จะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย ถ้าแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นอกจากนี้บัตรประจำตัวประชาชนที่หมดอายุ ยังสามารถใช้เป็นหลักฐานในการใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ได้

นายสุเทพ เตียวตระกูล ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. จะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย ถ้าแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ในวันที่ 1 มกราคมของทุกปีที่มีการเลือกตั้ง เป็นผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วันนับตั้งแต่วันเลือกตั้ง สำหรับบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิในวันเลือกตั้ง คือ บุคคลที่เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช บุคคลที่อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง บุคคลที่ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงบุคคลวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟืองไม่สมประกอบ

ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยา กล่าวด้วยว่า สำหรับหลักฐานที่ใช้ในการใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. คือ บัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งบัตรที่หมดอายุก็สามารถใช้ได้ หรือจะใช้บัตรหรือหลักฐานที่ทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐออกให้ โดยให้มีรูปถ่ายและหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก เช่น บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)

ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

เตือนระวังความผิดเกี่ยวกับการลงคะแนนเลือกตั้ง

เตือนประชาชนให้ระวังความผิดเกี่ยวกับการลงคะแนนเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้เกิดเป็นความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไปนั้น ในการไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มีสิ่งที่ต้องระมัดระวังซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยที่ผู้ไปใช้สิทธิต้องระวังและไม่กระทำคือ

การลงคะแนนเลือกตั้งโดยรู้อยู่ว่าตนเองไม่สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง โดยใช้เอกสารแสดงตน อันเป็นเท็จ เป็นความผิดมีโทษจำคุก 1 ปี - 10 ปี และปรับ 20,000 บาท – 200,000 บาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี (ตามมาตรา 70 ประกอบมาตรา 137)

การขัดขวางไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป ณ หน่วยเลือกตั้ง หรือลงคะแนนเลือกตั้ง เป็นความผิดมีโทษจำคุก 1 ปี - 5 ปี หรือปรับ 20,000 บาท – 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี (ตามมาตรา 76 ประกอบมาตรา 152 วรรคหนึ่ง)

การถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ได้ลงคะแนนเลือกตั้งไว้แล้ว หรือการแสดงบัตรเลือกตั้งที่ได้ลงคะแนนเลือกตั้งไว้แล้วให้ผู้อื่นทราบถึงการลงคะแนนเลือกตั้ง เป็นความผิดมีโทษจำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ตามมาตรา 73 มาตรา 75 ประกอบมาตรา 153)

ผู้บังคับบัญชา หรือนายจ้าง ขัดขวางการไปใช้สิทธิเลือกตั้งของผู้ใต้บังคับบัญชา หรือลูกจ้าง เป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ตามมาตรา 136)

ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด เพื่อลงคะแนน หรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองใด เป็นความผิดมีโทษจำคุก 1 ปี - 5 ปี หรือปรับ 20,000 บาท – 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี (ตามมาตรา 77 ประกอบมาตรา 152)

ฉัตรชัย พวงขจร /ข่าว /พิมพ์

ห้ามจำหน่าย จ่าย แจก จัดเลี้ยงสุราตั้งแต่ 18.00 น.ก่อนวันเลือกตั้ง

ห้ามจำหน่าย จ่าย แจก จัดเลี้ยงสุราตั้งแต่ 18.00 น.ของวันนี้(1ก.พ.57)จนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า ตามที่มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2556 และทางคณะกรรมการเลือกตั้งได้กำหนดให้วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นวันเลือกตั้งทั่วไปนั้น กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งได้ระบุชัดเจนว่า ห้ามมีการขาย จำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวัน  จนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง ซึ่งก็หมายถึงตั้งแต่ เวลา 18.00 น. ของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นต้นไปจนถึงวันพรุ่งนี้คือวันเลือกตั้งนั้น ห้ามมีการขาย การจำหน่าย จ่าย แจก สุรา เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด หากมีการฝ่าฝืนจะมีความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

จึงขอเตือนร้านค้าต่างๆให้หยุดขายสุรา เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิดตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันนี้ และตลอดทั้งวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง

ฉัตรชัย พวงขจร /ข่าว /พิมพ์

พุทธศาสนิกชนร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนซ่อมแซมสะพานซูตองเป้ สวนธรรมภูสมะ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน

เย็นวานนี้ ( 31 มกราคม 2557) พันเอกบรรณวัฒน์ พรหมจรรย์ ผู้บังคับ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 17 เป็นประธานพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี ที่ สวนธรรมภูสมะ บ้านกุงไม้สัก ตำบลปางหมู อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีพุทธศานิกชนร่วมพิธิจำนวนมาก ได้จตุปัจจัยทั้งหมด 300,917 บาท (สามแสนเก้าร้อยสิบเจ็ดบาทถ้วน) เพื่อนำไปใช้ในการซ่อมแซมสะพานไม้ซูตองเป้ สวนธรรมภูสมะ ให้เป็นสะพานแห่งศรัทธาของพุทธศาสนิกชนต่อไป สะพานซูตองเป้ เป็นสะพานไม้ไผ่ สร้างขึ้นเมื่อปี 2555 เพื่อเชื่อมต่อระหว่างสวนธรรมภูสมะผ่านน้ำแม่สะงา และทุ่งนาบริเวณบ้านกุงไม้สัก มีสภาพชำรุด ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อพระภิกษุสามเณรชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม จึงต้องซ่อมแซมครั้งใหญ่

ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว

แนะนำผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 5 คน ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.แม่ฮ่องสอนมีผู้สมัคร 5 คน

จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีประชากร สองแสนสี่หมื่นหกพันหกสิบคน (246,060) มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวน 157,931 คน มีหน่วยเลือกตั้ง 457 หน่วยมีเขตการเลือกตั้งเดียว มี ส.ส. ได้ 1 คน ขณะที่มีผู้สมัครสส. รวม 5 คน ประกอบด้วย

หมายเลข 1 นายปัญญา จีนาคำ อายุ 73 ปี วุฒิการศึกษาปริญญาโท อาชีพข้าราชการบำนาญ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแม่ฮ่องสอนหลายสมัย สังกัดพรรคชาติพัฒนา ชูนโยบายเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นเดือนละ 1 พันบาท ส่งเสริมครัวไทยสู่ครัวโลก และสินค้าโอท็อป ตั้งกองทุนสนับสนุนกีฬา ประกันราคาพืชผลทางการเกษตร และขยายพื้นที่ชลประทาน จัดสรรรายได้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ครบร้อยละ 35 และเพิ่มอายุเกษียณอายุราชการเป็น 65 ปี และปรับโครงสร้างอัตราเงินเดือนข้าราชการ

หมายเลข 5 นายพันธ์ศักดิ์ วรอัคร ( วอ-ระ-อัก-คะ-ระ) อายุ 64 ปี วุฒิการศึกษาปริญญาตรี อาชีพข้าราชการบำนาญ อดีตข้าราชการบำนาญ โยธาธิการจังหวัดแม่ฮ่องสอน สังกัดพรรคพลังสหกรณ์ ชูนโยบายด้านเศรษฐกิจ การศึกษา การเมือง สังคม ด้านสหกรณ์ ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านการปรับโครงสร้างส่วนราชการ

หมายเลข 14 นายสมบูรณ์ ไพรวัลย์ อายุ 55 ปี วุฒิการศึกษาปริญญาตรี อาชีพนักการเมือง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแม่ฮ่องสอน สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา ชูนโยบายให้คนไทย อยู่ดี กินดี
   
จ.แม่ฮ่องสอน สังกัดพรรคเพื่อไทย ชูนโยบายพัฒนานโยบายพัฒนา จ.แม่ฮ่องสอนให้ก้าวไกล ให้พัฒนาทั่วถึงกัน

หมายเลข 32 นายอำนาจ แสงสกาย อายุ 37 ปี วุฒิการศึกษาปริญญาตรี อาชีพค้าขาย สังกัดพรรคคนขอปลดหนี้ ชูนโยบายปลดหนี้ให้คนไทยคนละไม่เกิน 5 แสนบาท เรียนฟรีถึงปริญญาตรี รักษาพยาบาลฟรี จัดสรรเงินกองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 5 ล้านบาททุกปี

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เข้าคูหา เวลา 08.00 -15.00 น. เลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบ

ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว

สวท.แม่ฮ่องสอนร่วมกับ สวท.แม่สะเรียง เตรียมล้มผังรายการปกติเพื่อจัดรายการพิเศษเกาะติดเลือกตั้ง สมาชิกสภาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย อ.แม่สะเรียง เตรียมเกาะติดสถานการณ์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้(2 กุมภาพันธ์ 2557)เพื่อเผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์ บรรยากาศการเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทั้ง 7 อำเภอ อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ โดยเตรียมแผนการปฎิบัติงานกระจายผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ อำเภอต่างๆ รายงานความเคลื่อนไหว ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป จนถึงเวลา 16.00 น. อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านหรืออปม.และประชาชนมีส่วนร่วมรายงานข่าวการเลือกตั้งได้ที่ โทร. 095- 674 4958 หรือ 082 1855 539

ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว

หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 17 จัดกิจกรรมหมู่บ้านคู่ขนาน ที่ บ้านห้วยทราย สหภาพเมียนมาร์

วันนี้ (1 ก.พ.57) พันเอกบรรณวัฒน์ พรหมจรรย์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 17 กองกำลังนเรศวร พร้อมด้วยกำลังพล ราษฎรบ้านเสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน พบปะ พลตรีซอมิ้น ผู้บังคับการทหารลอยก่อ และชาวบ้านห้วยทราย อ.แม่แจ๊ะ จ.บอละแคะ สหภาพเมียนมาร์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทหาร ประชาชนไทยและสหภาพเมียนมาร์ พร้อมมอบพันธ์กบ 10 คู่ และมอบผ้าห่มกันหนาวให้แก่ราษฎรบ้านเสาหินและบ้านห้วยทราย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ดีระหว่างทหารและประชาชนไทย และทหารและประชาชนสหภาพเมียนมาร์ ที่อยู่ตามแนวชายแดน และวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 17 เตรียมกิจกรรมหมู่บ้านคู่ขนาน ที่บ้านห้วยโป่งเลา สหภาพเมียนมาร์ ซึ่งเป็นบ้านคู่ขนานกับบ้านน้ำเพียงดิน อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน

ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.แม่ฮ่องสอน

อำเภอเสริมงาม เปิดข่วงลานวัฒนธรรม นำประชาชนจาก 4 ตำบล ร่วมกิจกรรมสืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้าน

อำเภอเสริมงาม ร่วมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ จัดกิจกรรมงาน "ลานวัฒนธรรม" ประจำปี 2557 ที่ บริเวณลานเอนกประสงค์หน้าอาคารที่ทำการอำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง มีนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ให้เกียรติมาเป็นประธานพิธีเปิดงาน โดยมี นางสาวนิติยา พงษ์พานิช นายอำเภอเสริมงาม พร้อมด้วย คณะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ทั้ง 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลทุ่งงาม ตำบลเสริมขวา ตำบลเสริมซ้าย และตำบลเสริมกลาง นำประชาชน ชนเผ่ากะเหรี่ยง และชาวบ้านในชุมชนต่างๆ จาก 42 หมู่บ้าน รวมมากกว่า 500 คน เข้าร่วมกิจกรรม สืบสานวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น

งาน “ลานวัฒนธรรม อำเภอเสริมงาม” เป็นงานกิจกรรมหนึ่งที่ได้จัดทำขึ้น เพื่อร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดลำปาง “หนึ่งอำเภอหนึ่งประเพณี” สนับสนุนปีแห่งการท่องเที่ยวนครลำปาง อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ รากวัฒนธรรม “ของดีบ้านฉัน” ซึ่งเป็น 1 ใน 17 โครงการสำคัญของกระทรวงวัฒนธรรม โดยการจัดงานมีจุดมุ่งหมาย เพื่อต้องการให้ประชาชน ในทุกพื้นที่ทุกชุมชน ทั้ง 4 ตำบล ของอำเภอเสริมงาม ได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อสร้างความรักความสามัคคีระหว่างชุมชน และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐ กับประชาชนในพื้นที่ รวมถึงเพื่อเป็นการเปิดเวทีให้ประชาชน และเยาวชน ได้แสดงออกด้านศิลปวัฒนธรรม ที่น่าภาคภูมิใจของท้องถิ่น ตลอดจนเพื่อให้ผู้สูงอายุ ผู้เป็นปราชญ์ชาวบ้าน ได้นำความรู้ ภูมิปัญญาพื้นบ้านมาจัดแสดง ให้เยาวชนคนรุ่นหลังได้ร่วมศึกษาเรียนรู้ เพื่อเป็นการถ่ายทอดกิจกรรมอันเป็นภูมิปัญญาและเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ให้เผยแพร่ไปสู่ชุมชนและสังคม ทั้งนี้เพื่อเป็นการทำนุบำรุง อนุรักษ์ ฟื้นฟูวัฒนธรรม และวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้าน ให้มีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อจะดำรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมท้องถิ่น และคงความเป็นชาติไทยไว้สืบต่อไป

โดยภายในงานได้จัดกิจกรรมในบรรยากาศย้อนยุค กาดมั่วคัวแลง รับประทานอาหารขันโตก พร้อมกับเปิดซุ้มของดีประจำถิ่นจำหน่ายสินค้าโอท๊อป ของกิน ของใช้ ของที่ระลึก ผักปลอดสารพิษ และการเปิดซุ้มวัฒนธรรมจัดนิทรรศการให้ความรู้ในเรื่องต่างๆ เช่น การปั่นฝ้ายสำหรับทอผ้า การนวดแผนไทย การปรุงยาพืชสมุนไพรพื้นบ้าน และการจัดขันโตกอาเซียน เปิดให้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม 10 ประเทศ ในกลุ่มสมาชิกประชาคมอาเซียน เตรียมความพร้อมเข้าสู่ AEC ให้แก่ประชาชนและเยาวชนในพื้นที่ นอกจากนี้ได้จัดให้มีการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ของชาวบ้านและเยาวชน ทั้งที่เป็นของคนในพื้นที่ราบ และของชนเผ่ากะเหรี่ยง อาทิเช่น การทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ รับขวัญแขกผู้มาเยือน โดยกลุ่มผู้สูงอายุของอำเภอเสริมงาม, การแสดงตีกลองปู่จา, การแสดงฟ้อนรำเชิญแอ่วเสริมงาม, การตีกลองสะบัดชัย, การรำแจ้ก และการฟ้อนแม้ว เป็นต้น

ดูคลิป http://youtu.be/e3m7KPsxLkc

ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต

เยาวชนนักศึกษา ม.ราชภัฏลำปาง ร่วมกันทำกิจกรรม "จุดเทียนย้อนแสง" แสดงความคิดเห็นต่อต้านความรุนแรง พร้อมเชิญชวนประชาชนออกไปเลือกตั้ง 2 ก.พ. นี้

คณาจารย์ และกลุ่มเยาวชนนิสิต นักศึกษา จากหลายคณะวิชา ทุกระดับชั้นปี ของมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง จำนวนกว่า 50 คน ได้ออกมารวมตัวกัน ที่ บริเวณใต้ต้นโพธิ์หน้าอาคารเรียนภายในสถาบันราชภัฎลำปาง ของนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ และคณะสังคมศาสตร์ เพื่อร่วมกันทำกิจกรรม "จุดเทียนย้อนแสง" แสดงพลังและความคิดในฐานะประชาชนผู้มีสิทธิเท่าเทียมกับประชาชนทุกคน ภายใต้การปกครองตามระบอบประชาธิปไตย พร้อมกับเรียกร้องให้ยุติการเคลื่อนไหวที่จะนำไปสู่ความรุนแรง ต่อต้านการทำรัฐประหาร สนับสนุนให้เคารพสิทธิของคนทั้งประเทศเดินหน้าเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้

สำหรับการทำกิจกรรม กลุ่มคณาจารย์และนักศึกษาได้นั่งล้อมวงร่วมกัน จุดเทียนไขส่องสว่างในพื้นที่กลางแจ้ง นับถอยหลังเข้าสู่วันเลือกตั้ง ร่วมกับการเสวนาพูดคุยถึงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น กับกรณีความวุ่นวายทางการเมืองที่กำลังรุนแรงอยู่ในขณะนี้ พร้อมกับได้เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมในวงกิจกรรม ได้พูดคุยแสดงความคิดเห็นกันอย่างอิสระ ซึ่งส่วนใหญ่ได้แสดงความรู้สึกว่าเบื่อหน่าย กับการทะเลาะเบาะแว้งของกลุ่มมวลชนต่างๆ โดยทางตัวแทนอาจารย์ และนักศึกษา ได้ออกมากล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เป็นการรวมกลุ่มกันของกลุ่มคนที่อยากเห็นบ้านเมืองเกิดความสงบ ไม่อยากให้มีการใช้ความรุนแรง เพราะทุกวันนี้บ้านเมืองเต็มไปด้วยความแตกแยกแบ่งพรรคแบ่งพวก มีการชุมนุมทางการเมือง และได้มีการใช้ความรุนแรง ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนส่วนใหญ่ทั่วไป ของประเทศ การจุดเทียนไขเล่มเล็กๆ ก็เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง ที่จะให้แสงน้อยๆ จากเทียนเล่มเล็กๆ ได้ช่วยให้ผู้มีแสงสว่างจากเทียน ได้หลุดพ้นจากความมืดมิด และเมื่อแสงเทียนนี้ได้จุดต่อไป เป็นร้อยเป็นพันเล่ม แสงจากเทียนจะได้มีพลังสว่างมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถนำพาให้ทุกคนได้หลุดพ้นออกไปจากความมืดพร้อมๆ กัน เปรียบได้กับการเลือกตั้งที่ต้องใช้ 1 สิทธิ 1 เสียงของประชาชน ร่วมเป็นพลังตัดสินชี้ทางเดินให้กับประเทศไทย ซึ่งในตอนท้ายของการทำกิจกรรมกลุ่มอาจารย์ และนักศึกษา ได้ร่วมกันเปล่งเสียงความว่า “ไปเลือกตั้ง” เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนคนไทยผู้มีสิทธิออกเสียง ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 นี้ พร้อมกับได้นำเทียนที่จุดไฟไว้ ไปปักรวมกันที่ใต้ต้นโพธิ์ และได้ร่วมกันเขียนข้อความต่างๆ ฝากถึงรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ลงบนกระดาษสีขาว นำมาร้อยต่อกันด้วยเชือก ไปผูกติดไว้รอบต้นโพธิ์ เพื่อเป็นคำอธิษฐาน ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิได้รับรู้และช่วยดลบันดาลให้ข้อความต่างๆ นั้นเป็นจริง

ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต

ลำปาง ตั้งวอร์รูมรับแจ้งเหตุและติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางเปิดวอร์รูม ศูนย์รับแจ้งเหตุไฟป่า ติดตามสถานการณ์ช่วง 100 วันอันตราย กำชับนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าเวรยามตลอด 24 ชั่วโมง

นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง ที่ศูนย์รับแจ้งเหตุ รวบรวมข้อมูลและสั่งการ(War Room) เพื่อป้องกันปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จังหวัดลำปาง ภายในสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำปาง ถนนท่ามะโอ ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมืองลำปาง ภายหลังจังหวัดลำปางประกาศช่วงห้ามเผา 100 วัน อันตราย เมื่อวันที่ 27 มกราคม เป็นต้นมา จากการติดตามสถานการณ์ พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM10 ในจังหวัดลำปางสูงเกินมาตรฐาน(120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร) แล้ว 3 วัน สาเหตุมาจากการเผาป่าและเผาในที่โล่งจึงได้กำชับให้หน่วยปฏิบัติให้ดำเนินการอย่างจริงจังตามมาตรการที่กำหนดไว้ในช่วง 100 วันอันตราย

จังหวัดลำปางได้มีคำสั่งให้ตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจทั้งในระดับจังหวัด และระดับอำเภอ 13 แห่ง เพื่อบริหารสั่งการ และปฏิบัติงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน โดยในช่วง 100 วันอันตราย ให้จัดเจ้าหน้าที่อยู่ประจำศูนย์ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงกำชับผู้ปฏิบัติ ตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ บุคคลที่เข้าป่าล่าสัตว์และหาของป่า หากพบหลักฐานการกระทำความผิดซึ่งหน้า ในการเผาป่าให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที ขณะเดียวกันให้ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจทุกอำเภอ รายงานจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดทาง Line อย่างต่อเนื่อง หากเกิดวิกฤตขึ้นในพื้นที่ใดจะได้ระดมกำลังจากหน่วยอื่นลงไปให้ความช่วยเหลือได้ทันที

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า จังหวัดได้แบ่งพื้นที่รับผิดชอบ โดยพื้นที่ป่าอนุรักษ์ มอบให้ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์ที่ 13 ประสานอำเภอ และองค์กรท้องถิ่นในพื้นที่เข้าดำเนินการทันที หากพบเห็นและได้รับแจ้งการเกิดไฟป่า ในพื้นที่ชุมชน หมู่บ้าน มอบให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดูแลรับผิดชอบ พื้นที่การเกษตรให้หน่วยงานเกษตรเข้าไปทำความเข้าใจกับชาวบ้าน และตามถนน มอบให้แขวงการทาง และทางหลวงชนบทเป็นหน่วยงานดูแลรับผิดชอบ เพื่อให้ทุกฝ่ายดำเนินการอย่างจริงจังในช่วง 100 วัน อันตราย

ทั้งนี้ หากพบเห็นไฟป่าในพื้นที่จังหวัดลำปาง ให้แจ้งที่ศูนย์รับแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ 054-230549 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้ให้หน่วยปฏิบัติระดับพื้นที่เข้าดำเนินการได้ทันที

ข่าวโดย : อธิชัย ต้นกันยา

กลุ่มประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในจังหวัดลำพูน รวมตัวให้กำลังใจ กกต.ลำพูน ให้จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 อย่างโปร่งใส ยุติธรรม

ประชาชนชนชาวจังหวัดลำพูน ผู้รักประชาธิปไตย จำนวน 200 คน เดินทางมาให้กำลังใจ กรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดลำพูน เพื่อ ให้ การจัดเลือกตั้ง ในวัน 2 กุมภาพันธ์ นี้เป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมกับ ปล่อยลูกโป่ง สีขาวแสดงสัญลักษณ์ จัดขบวนแรลลี่ จักรยานยนต์ ตระเวนรณรงค์เลือกตั้ง ในเขต เทศบาลเมืองลำพูน

วานนี้ ( 31 มกราคม 2557 ) ทีหน้าสำนักงาน กกต.ลำพูน กลุ่มประชาชนประชาธิปไตย จังหวัดลำพูน จำนวน 200 คน ได้เดินทางมาให้ กำลังใจ เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน ในการจัดการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประจำปี 2557 โดยได้ มอบช่อดอกไม้เพื่อให้กำลังใจแก่ นางพิมประไพ ดิชวงศ์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำพูน รวมทั้งขอให้ กกต.ลำพูน ดำเนินการจัดการเลือกตั้งอย่างโปร่งใสยุติธรรม ซึ่งหลังจาก ให้ กำลังใจ กกต.ลำพูนแล้ว กลุ่มประชาชน ได้ร่วมกันปล่อยลูกโป่งสีขาว แสดงสัญลักษณ์ สนับสุนุนการเลือกตั้ง และ จัดขบวนรณรงค์ โดย ขับรถจักรยานยนต์ เชิญชวนผู้มิสิทธิ ให้ออกมาลงคะแนนในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 อย่างพร้อมเพรียงกัน

ข่าวโดย : เชาวรินทร์ สอนปาละ

กกต.ลำพูนจัดเวทีกลาง ให้ผู้สมัคร ส.ส.ลำพูน เขต 1 โฆษณาหาเสียงในการเลือกตั้งประจำปี 2557

ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 จังหวัดลำพูน ปราศรัย แสดงนโยบาย ให้แก่ประชาชน โดย กกต.ลำพูน ได้จัดเวทีกลางการโฆษณาหาเสียงการเลือกตั้ง ประจำปี 2557 ที่ ถนนคนเดินเทศบาลเมืองลำพูนโดย มีประชาชน เยาวชน ร่วมรับฟังอย่างเนืองแน่น

วานนี้ ( 31 มกราคม 2557 ) ที่ เชิงสะพานท่านางถนนคนเดินเทศบาลเมืองลำพูน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดลำพูน จัดเวทีกลางให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดลำพูน เขต 1 ได้แนะนำตัวแก่ประชาชน และเข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งในทุกพื้นที่ของเขต 1 อย่างทั่วถึง เป็นการเปิดโอกาส ให้ผู้สมัคร แสดงนโยบายของพรรคต้นสังกัด ให้แก่ ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งได้รับฟัง โดยมี นายบรรหาร บูรณะประภา ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำพูน เป็นประธานในพิธีเปิดเวทีกลาง โดย ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 1 จังหวัดลำพูน ทั้ง 2 คน คือ นาย สงวน พงษ์มณี ผู้สมัครหมายเลข 15 พรรค เพื่อไทย และ นายอุดมศักดิ์ พรหมสิทธิ์ ผู้สมัครหมายเลข 8 พรรคพลังประชาธิปไตย ได้มา ปราศรัย แสดงวิสัยทัศน์ ให้แก่ประชาชน ซึ่งสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.ลำพูน Fm 95.0 Mhz ได้ มาร่วมถ่ายทอดเสียง ให้ผู้ที่อาศัยอยู่ที่บ้านได้รับฟัง การแสดงวิสัยทัศน์ ของผู้สมัคร อย่างทั่วถึง ซึ่ง บรรยากาศโดยรอบมีประชาชนให้ความสนใจมาฟังการปราศรัย ของผู้สมัครอย่างเนืองแน่น ซึ่ง นายนาวิน สินธุสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน , นายจำลอง เณรแย้ม ปลัดจังหวัดลำพูน และ นายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายก อบจ.ลำพูน ได้มาร่วมฟังการปราศรัย ของผู้สมัครด้วย นอกจากบนเวทีจะมีการปราศรัยของผู้สมัครแล้ว วงดนตรีลูกทุ่งของ ร.ร.ส่วนบุญโญปถัมภ์ลำพูน ยังได้ มาร่วมร้องเพลง และ จัดกิจกรรมเชิญชวน ให้ประชาชน ไปร่วมลงคะแนนเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้ ซึ่ง เขตเลือกตั้งที่ 1 ของจังหวัดลำพูน มีพื้นที่ครอบคลุม 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลำพูน , อำเภอบ้านธิ และ อำเภอ แม่ทา ,

ข่าวโดย : เชาวรินทร์ สอนปาละ

เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งพื้นที่อำเภอทุ่งหัวช้าง รับวัสดุอุปกรณ์ หีบบัตรเลือกตั้ง พร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์นี้

ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งประจำหน่วยเลือกตั้ง การลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ประกอบด้วย ผู้อำนวยการประจำหน่วยเลือกตั้ง 1 คน กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง 9 คน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหน่วยเลือกตั้ง 2 คน รวม 12 คนต่อหน่วยเลือกตั้ง จำนวน 39 หน่วยเลือกตั้ง เดินทางมาตรวจสอบและรับวัสดุอุปกรณ์ หีบบัตรเลือกตั้ง บัตรเลือกตั้ง เอกสารเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ก่อนนำไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย เพื่อเตรียมการเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 08.00–15.00 น. ทั้งนี้ อำเภอทุ่งหัวช้าง อยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 2 มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 15,396 คน

ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ

รายงานพิเศษ ทุกหน่วยเลือกตั้งใน จ.ลำพูน พร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์นี้

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งประจำหน่วยเลือกตั้ง การลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป แต่ละหน่วยเลือกตั้ง ประกอบด้วย ผู้อำนวยการประจำหน่วยเลือกตั้ง 1 คน กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง 9 คน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหน่วยเลือกตั้ง 2 คน รวม 12 คนต่อหน่วยเลือกตั้ง ทั้งจังหวัดลำพูน มี 8 อำเภอ 684 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งประจำหน่วยเลือกตั้งแต่ละหน่วย ได้ดำเนินการตรวจสอบและรับวัสดุอุปกรณ์ หีบบัตรเลือกตั้ง บัตรเลือกตั้ง เอกสารเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ณ ที่ว่าการอำเภอ ทั้ง 8 อำเภอ เรียบร้อยแล้ว ก่อนนำไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย เพื่อเตรียมการเลือกตั้ง ขณะนี้ จังหวัดลำพูนพร้อมแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 08.00–15.00 น.

การแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. จำนวน 2 เขตเลือกตั้ง ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 ได้แก่ อำเภอเมือง จำนวน 205 หน่วยเลือกตั้ง จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 118,084 คน อำเภอบ้านธิ จำนวน 36 หน่วยเลือกตั้ง จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 14,817 คน และอำเภอแม่ทา จำนวน 84 หน่วยเลือกตั้ง จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 32,432 คน รวม 325 หน่วยเลือกตั้ง 165,333 คน เขตเลือกตั้งที่ 2 ได้แก่ อำเภอเวียงหนองล่อง จำนวน 29 หน่วยเลือกตั้ง จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 13,936 คน อำเภอป่าซาง จำนวน 101 หน่วยเลือกตั้ง จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 46,888 คน อำเภอบ้านโฮ่ง จำนวน 80 หน่วยเลือกตั้ง จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 34,703 คน อำเภอลี้ จำนวน 110 หน่วยเลือกตั้ง จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 53,269 คน และอำเภอทุ่งหัวช้าง จำนวน 39 หน่วยเลือกตั้ง จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 15,396 คน รวม 359 หน่วยเลือกตั้ง 165,213 คน รวม 8 อำเภอ 684 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง รวม 330,546 คน

ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ

ผู้แทนพระองค์มอบถุงพระราชทานผู้ประสบภัยหนาวที่จังหวัดตาก

วานนี้ (๓๑ ม.ค.๕๗) เวลา ๑๔.๐๐ น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ร้อยเอกไพบูลย์ สุขเจตนี รองผู้อำนวยการกองงานพระวรชายาฯ เป็นผู้แทนพระองค์ อัญเชิญถุงพระราชทาน ประกอบไปด้วยเครื่องกันหนาว อาทิ ผ้าห่ม หมวกไหมพรม ผ้าขนหนู ถุงมือ และถุงเท้า จำนวน ๑,๐๐๐ ชุด มอบให้แก่ราษฎร ผู้ประสบภัยหนาว ที่ โรงเรียนขุนห้วยบ้านรุ่ง ตำบลหนองหลวง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้จัดให้มีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทานในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มาตรวจสุขภาพทำการรักษาราษฎรผู้ประสบภัยหน­าวที่มีอาการเจ็บป่วย ในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ จากสภาพอากาศปัจจุบัน ที่มีความกดอากาศสูงกำลังแรง จากประเทศจีนได้พัดปกคลุมพื้นที่ประเทศไทย­ตอนบน ตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ เป็นต้นมา ทำให้บริเวณพื้นที่ในภาคเหนือของประเทศไทย รวมถึงจังหวัดตาก มีสภาพอากาศหนาวเย็นและหนาวจัดทั่วทุกพื้น­ที่ ราษฎรที่อยู่ในท้องถิ่นทุรกันดารได้รับความ­เดือดร้อนจากสภาพอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำกว่า ๑๕องศาเซลเซียส โดยอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ได้ดำเนินการสำรวจจำนวนราษฎรที่ยังขาดแคลนเครื่องกันหนาวในพื้นที่อีกจำนวน ๒๗,๗๖๖ คน

กลุ่มเครือข่ายสุราพื้นบ้านอำเภอเวียงสา จังหวัดน่านจำนวนกว่า 100 คน ร้องขอความเป็นธรรม

เครือข่ายสุราพื้นบ้านตำบลปงสนุก อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน จำนวนกว่า100 คน เข้าพบสรรพสามิตพื้นที่น่าน เพื่อให้ชี้แจงกรณีเจ้าหน้าที่สรรพสามิตเขตอำเภอเวียงสา เข้าตรวจค้นบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีมารยาท สร้างความไม่พอใจแก่กลุ่มผู้ผลิตสุราพื้นบ้านเป็นอันมาก จึงได้เข้ามาร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรม

วันนี้ (31 มกราคม 2557) นายประเสริฐ สบานงา ประธานเครือข่ายสุราพื้นบ้านจังหวัดน่าน พร้อมกลุ่มเครือข่ายสุราพื้นบ้านจังหวัดน่าน จำนวนกว่า 100 คน เข้าพบ นางวารุณี อยู่สุข สรรพสามิตพื้นที่น่าน ณ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่น่าน เพื่อขอให้ชี้แจงกรณีเจ้าหน้าที่สรรพสามิตเขตอำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน เข้าตรวจค้นบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีมารยาท สร้างความไม่พอใจแก่กลุ่มผู้ผลิตสุราพื้นบ้านเป็นอันมาก จึงได้เข้ามาร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรม ซึ่งในเรื่องดังกล่าว นางวารุณี อยู่สุข สรรพสามิตพื้นที่น่าน ได้รับปากกับกลุ่มเครือข่ายฯ ว่าจะได้เรียกเจ้าหน้าที่ชุดตรวจในวันดังกล่าว มาสอบสวนหาข้อเท็จจริงตามที่กล่าวหา หากมีความผิดจริงจะได้ดำเนินการว่ากล่าวตักเตือนและดำเนินการตามวินัยของข้าราชการต่อไป

รดา บุญยะกาญจน์ /ข่าว

อบจ.น่าน เปิดเวทีเสวนา “ร่วมคิด พัฒนาชีวิต เด็กน่าน” ภายใต้โครงการ พัฒนาหน่วยจัดการดูแลรายกรณี เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กด้อยโอกาสนอกระบบการศึกษา และเด็กกลุ่มเสี่ยงในระบบการศึกษา

นายกาจพล เอิบสุขศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในการเปิดเวทีเสวนา โครงการ"ร่วมคิด พัฒนาชีวิต เด็กน่าน” ตามที่ รัฐบาลมีนโยบายในการจัดทำแผนปฏิรูปประเทศไทย"เพื่ออนาคตคนไทยที่เท่าเทียมและเป็นธรรม”ในด้านการสร้างอนาคตของชาติ ด้วยการพัฒนาคน เด็กและเยาวชน  ณ เวทีสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดน่าน

ตามที่ รัฐบาลมีนโยบายในการจัดทำแผนปฏิรูปประเทศไทย"เพื่ออนาคตคนไทยที่เท่าเทียมและเป็นธรรม”ในด้านการสร้างอนาคตของชาติ ด้วยการพัฒนาคน เด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลพยายามเร่งแก้ปัญหาเรื่องการศึกษาของคนไทยที่ยังไม่ทั่วถึง และมีคุณภาพเพียงพอจึงให้ดำเนินการใน 2 ด้าน คือ ด้านสังคมไทยร่วมกัน คืนครูดีให้ศิษย์ เชิดชูยกย่องครูสอนดีและการสร้างโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาทักษะอาชีพ ให้กลุ่มเด็กและเยาวชนให้สามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืนโดยที่รัฐบาลมีความประสงค์จะให้เกิดกระบวนการปฏิรูปการเรียนรู้เพื่อคุณภาพชีวิตด้วยการมีส่วนร่วม ของสังคมและชุมชน เพื่อการสร้างโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาทักษะอาชีพให้กลุ่มเด็กและเยาวชนให้สามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน จังหวัดน่านได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาหน่วยจัดการดูแลรายกรณี เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กด้อยโอกาสนอกระบบการศึกษา และเด็กกลุ่มเสี่ยงในระบบการศึกษาในระดับท้องถิ่น จังหวัดน่าน โดยมีเป้าหมายที่ต้องการให้ประชาคมในชุมชนท้องถิ่น เกิดความเข้าใจและมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนในชุมชนท้องถิ่นของตนเอง

โครงการฯ ดังกล่าว ได้จัด ให้มี เวทีเสวนา เพื่อให้โรงเรียนและท้องถิ่นที่เข้าร่วมโครงการฯ มีการทำงานที่เป็นระบบเกิดกลไกเชิงบูรณาการความร่วมมือ และเพื่อให้สามารถดำเนินโครงการนำร่องการพัฒนาหน่วยจัดการดูแลรายกรณี เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กด้อยโอกาสนอกระบบการศึกษา และเด็กกลุ่มเสี่ยงในระบบการศึกษา ในระดับท้องถิ่น จังหวัดน่าน ไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดความยั่งยืนในการป้องกันและแก้ไขเด็กด้อยโอกาส โดยมี นายกนรินทร์ เหล่าอารยะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ที่ปรึกษาวิชาการ สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ว่าที่ร้อยตรีสมเดช อภิชยกุล ประธานคณะกรรมการโครงการพัฒนาหน่วยจัดการดูแลรายกรณี (CMU) จังหวัดน่าน มาเป็นวิทยากรและร่วมเสวนาในครั้งนี้

จังหวัดน่าน น้อมบำเพ็ญกุศล ทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก ครบรอบวันสิ้นพระชนม์ครบ สัตตมวาร ครบ 100 วัน

จังหวัดน่าน โดยนายกาจพล เอิบสุขสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน จัดพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 100 วัน ณ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหารพระอารามหลวง

นับตั้งแต่เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สิ้นพระชนม์ลง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม 2556 เวลา 19.30 น. ณ ห้องประทับ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทองค์สมเด็จพระบรมบพิตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โศกสลดพระราชหฤทัย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศไว้ทุกข์ในพระราชสำนัก 30 วัน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญพระศพเจ้าพระคุณสมเด็จกลับมายังวัดบวรนิเวศวิหาร ประดิษฐาน ณ พระตำหนักเพ็ชร พระราชทานพระโกศกุดั่นใหญ่ เพื่อเป็นเครื่องเชิดชูพระเกียรติยศ ตามราชประเพณี ประดิษฐานภายใต้เศวตฉัตร 3 ชั้น แวดล้อมด้วยเครื่องสูงทองแผ่ลวด บนพระแท่นแว่นฟ้าทอง แวดล้อมด้วยพวงมาลาที่พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ พระราชทานถวายและประทานถวายด้วยความอาลัยเบื้องหน้าพระโกศได้เชิญพัดยศสมเด็จพระสังฆราช ตลอดจนเครื่องประกอบพระสมณศักดิ์ทั้งปวงมาประดิษฐานไว้ และได้เชิญพระศพประดิษฐานบำเพ็ญพระราชกุศลตามราชประเพณีในโอกาสต่างๆ เรื่อยมา ทั้งพระราชกุศลครบสัตตมวาร (7 วัน) บำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร (50 วัน) และในการบำเพ็ญกุศลครบ 100 วัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลสัตมวาร ในวันที่ 31 มกราคม 2557

การจัดพิธีในวันนี้ จังหวัดน่านได้จัดประกอบพิธีสวดพระพุทธมนต์ธรรมนิยามสูตร และพิธีสวดพระอภิธรรม และมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา พุทธศาสนิกชนชาวน่าน และผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาเข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน การแต่งกายชุดสุภาพสีเทา หรือสีนวล หรือชุดขาวปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระราชกุศล

สมาน สุทำแปง/ รดา บุญยะกาญจน์ /ภาพข่าว

กลุ่มโรงเรียนในเขตเทศบาลเมืองน่าน ร่วมเดินรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง

โรงเรียนในเขตเทศบาลเมืองน่าน ร่วมเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเชิญชวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อธำรงไว้ ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งนี้ การเดินรณรงค์ มีการเดินรณรงค์ไปตามถนนสายรอบเมืองในเขตเทศบาลเมืองน่าน โดยมีนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆเข้าร่วมเดินรณรงค์กว่า 1,000 คน ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ชาวจังหวัดน่านได้ตระหนักถึงความสำคัญในการใช้สิทธิการเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งเป็นหน้าที่ที่ประชาชนคนไทยต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งจังหวัดน่านมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้จำนวน 3 คน มี 3 เขตเลือกตั้ง มีหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 922 หน่วย และมีประชาชนผู้มีสิทธิ์ในการเลือกตั้งจำนวน 377,101 คน

ศรายุทธ  ประเสริฐนิรมล   ภาพ / ข่าว

กกต.พะเยา เตือนผู้ที่ทุจริตในการเลือกตั้ง หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมาย พร้อมทั้งถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี

นางสาวพัชรินทร์ รัตนวิภา ผู้อำนวยการการเลือกตั้งจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า ตามที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 มาตรา 77 บัญญัติห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใด เรียกรับหรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เพื่อลงคะแนนเลือกตั้งหรืองดเว้นไม่ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด และมาตรา 152 ได้บัญญัติโทษไว้กรณีที่มีการฝ่าฝืนมาตรา 77 ให้จำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 5 ปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี แต่ในกรณีที่ผู้ฝ่าฝืนเป็นผู้รับหรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ถ้าได้แจ้งถึงการกระทำดังกล่าวต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งมอบหมาย ทั้งก่อนวันเลือกตั้งและในวันเลือกตั้ง หรือภายหลังวันเลือกตั้งไม่เกินเจ็ดวันผู้นั้นไม่ต้องรับโทษและไม่ต้องถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง

ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยา จึงขอแจ้งเตือนผู้ที่จะทำการทุจริตการเลือกตั้ง หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมายดังกล่าว หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร . 054 – 449517 – 8

ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดพะเยา จัดการอบรมสัมมนา โครงการพัฒนาผู้ประกอบการและธุรกิจเตรียมความพร้อมสู่สากล เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในด้านต่าง ๆ

วันนี้ (31 ม.ค.57) นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานเปิดการอบรมสัมมนา โครงการพัฒนาผู้ประกอบการและธุรกิจเตรียมความพร้อมสู่สากล ในหัวข้อ “การค้ากับต่างประเทศ ปี 2557” เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในด้านต่างๆ ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการรายย่อย พร้อมทั้งพัฒนาธุรกิจไทยให้เข้มแข็งแข่งขันได้ โดยตระหนักถึงความสำคัญในการรวมกลุ่มธุรกิจ และการสร้างเครือข่ายระหว่างกัน โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมสัมมนาในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

นายบุญรัตน์ บุ้นมัจฉา หัวหน้าสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดพะเยา กล่าวว่า การจัดอบรมสัมมนาดังกล่าว เป็นการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจ ปีงบประมาณ 2557 ซึงกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีภารกิจในการเสริมสร้างความเข้มแข็ง ให้ผู้ประกอบการรายย่อย และยกระดับธุรกิจสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพ พร้อมทั้งพัฒนาธุรกิจไทยให้เข้มแข็งแข่งขันได้ โดยตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างความเข้มแข็งของการรวมกลุ่มธุรกิจ การสร้างขีดความสามารถและศักยภาพของผู้ประกอบธุรกิจ การสร้างเครือข่ายในพื้นที่ ดังนั้นการอบรมสัมมนาในครั้งนี้ จึงเป็นการช่วยพัฒนาผู้ประกอบธุรกิจ ให้สามารถปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเหมาะสมรู้เท่าทันสถานการณ์ แข่งขันได้ในตลาดการค้าเสรี และพร้อมที่จะอยู่แนวหน้าของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ได้อย่างเข้มแข็งมั่นคงยั่งยืนต่อไป

ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

ผู้ตรวจราชการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เผยสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดพะเยาไม่น่าเป็นห่วงในการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้

นายสุรัตน์ กองเทียม ผู้ตรวจราชการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวในโอกาสเข้าร่วมงานกาแฟยามเช้าที่ สำนักงานคระกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยาจัดขึ้น ว่า การจัดการเลือกตั้งที่จังหวัดพะเยาหลังจากได้มีการประเมินสถานการณ์แล้วจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เหมือนเช่นการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 26 ม.ค.57 ที่ผ่านมา ประกอบกับสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดพะเยาได้มีการเตรียมการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย อย่างไรก็ตามหากมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทางสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดพะเยา ก็ได้มีการประสานบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ตำรวจภูธรจังหวัด จังหวัดทหารบกพะเยา หน่วยงานปกครองจังหวัด พร้อมที่จะเข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยประจำหน่วยเลือกตั้งต่างๆ ทั้ง 3 เขต

ผู้ตรวจราชการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ยังกล่าวเน้นย้ำถึงผู้ที่กระทำการขัดขวางไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปลงคะแนนได้นั้น จะมีความผิดทางกฎหมายอาญา พร้อมกันนี้ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวพะเยาออกไปใช้สิทธิใช้เสียงในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ โดยทาง กกต. ก็จะดำเนินการไปตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบต่างๆ กำหนดไว้

ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

กกต.พะเยา จัดกิจกรรมรณรงค์เลือกตั้งโค้งสุดท้าย

วันนี้ (31 ม.ค.57) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยา ได้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์การเลือกตั้งโค้งสุดท้าย โดยใช้ชื่อว่า “โคมลอย ร้อยใจ เพื่อประชาธิปไตย ที่ยั่งยืนการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557” ซึ่ง ประกอบด้วยการแสดงรณรงค์การเลือกตั้งของนักเรียน นักศึกษาสถาบันต่างๆในจังหวัดพะเยา และการเดินรณรงค์ซึ่งนำโดยนายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา , หัวส่วนราชการระดับจังหวัด นักเรียนนักศึกษาและประชาชนกว่า 2,000 คนด้วยการถือป้ายเดินรณรงค์ไปตามเขตเทศบาลเมืองพะเยา เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้

สำหรับจังหวัดพะเยา มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวน 396,705 คน แบ่งเป็น 3 เขตเลือกตั้ง มี ส.ส.ได้ 3 คน

ข่าวโดย : นายสมชาติ เมฆมงคล นักศึกษาฝึกงาน

หลายภาคส่วนในจังหวัดพะเยาร่วมเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง ส.ส. โค้งสุดท้ายบนเส้นทางการเลือกตั้ง "โคมลอย ร้อยใจ เพื่อประชาธิปไตย ที่ยั่งยืนการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557"

วันนี้ (31 ม.ค.57) ที่บริเวณข่วงวัฒนธรรม ข้างอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยา ได้จัดกิจกรรมเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านโครงการโค้งสุดท้ายบนเส้นทางการเลือกตั้ง “โคมลอย ร้อยใจ เพื่อประชาธิปไตย ที่ยั่งยืนการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557” โดยมีนายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานปล่อยขบวนรณรงค์ และได้ร่วมเดินขบวนรณรงค์กับนายนิมิต วันไชธนวงศ์รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา , นายสุรัตน์ กองเทียม ผู้ตรวจราชการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมด้วย ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกพะเยา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนนักเรียน นักศึกษา รวมกว่า 1,000 คน ด้วยการถือป้ายเดินรณรงค์ไปตามเขตเทศบาลเมืองพะเยาเพื่อเชิญชวนให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้

พันตำรวจตรีสุพจน์ บัวดี กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ในวันนี้ถือเป็นโค้งสุดท้ายก่อนจะถึงวันเลือกตั้งวันอาทิตย์ที่ 2 กุมพาพันธ์ 2557 สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยา จึงได้ทำโครงการดังกล่าวประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในจังหวัดพะเยา ซึ่งมีจำนวนประชากร 486,744 คน และมีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 396,705 คน ทั้ง 3 เขต ได้รับทราบถึงบทบาทและภารกิจของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ต้องดำเนินการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม และตรวจสอบได้ ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่ประชาชนมีความเห็นออกเป็นหลายๆ ฝ่าย ทั้งสนับสนุนและคัดค้านการเลือกตั้ง ประกอกับการทำงานของ กกต. ต้องปฎิบัติหน้าที่โดยยึดกฎหมายและระเบียบ เพื่อลดหรือตัดเงื่อนไขที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะมาอ้างเพื่อประโยชน์ของฝ่ายตน

ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

คณะกรรมการการเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดพะเยา จัดประชุมชี้แจงคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ในการทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งและการอำนวยความสะดวกให้กับผู้มาใช้สิทธิ์

วานนี้ (30 ม.ค.57) เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา จำนวนกว่า 500 คน ได้เข้ารับฟังคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ปกครองและเจ้าหน้าที่ กกต.ประจำจังหวัด ในเรื่องแนวทางการจัดการเลือกตั้งและข้อกฎหมายสำหรับการปฏิบัติหน้าที่สำหรับการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันและสามารถปฏิบัติหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งอย่างถูกต้อง โดยในพื้นที่จังหวัดพะเยามีความพร้อมอย่างเต็มที่ ที่สามารถจัดการเลือกตั้งได้อย่างไม่มีปัญหา ถึงแม้สถานการณ์จะไม่ค่อยปกตินัก แต่ก็มีความพร้อมที่จะจัดการเลือกตั้งได้อย่างไม่มีปัญหา พร้อมกันนี้ได้เรียกคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเข้าอบรมเพื่อให้การเลือกตั้งเกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างเต็มที่รวมทั้งช่วยกันในการสอดส่องดูแลความเรียบร้อยหากเกิดปัญหาที่จะทำให้การเลือกตั้งไม่สามารถดำเนินการได้ ก็จะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้

ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

จังหวัดแพร่จัดพิธีทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก

จังหวัดแพร่จัดพิธีทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เนื่องในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 100 วัน

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า เช้าวันนี้(31ม.ค.57) ที่ศาลาพุทธสถาน วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร อำเภอเมืองแพร่ นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่เป็นประธานนำคณะข้าราชการ ประชาชนทุกหมู่เหล่าประกอบพิธีทางศาสนา  ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เนื่องในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 100 วัน

โดยเวลา 09.00 น. ปรานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ถวายสักการะพระรูปสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จำนวน 10 รูปสวดพระพุทธมนต์ จากนั้นมีพิธีทอดผ้าไตรบังสุกุล พระสงฆ์สดับปกรณ์ และพิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนา ประธานในพิธี กรวดน้ำ รับพร เป็นอันเสร็จพิธี /.

ฉัตรชัย พวงขจร / ข่าว /พิมพ์   

กลุ่มประชาชนสวมเสื้อขาวเดินทางมาให้กำลังใจ กกต.แพร่เพื่อสนับสนุนการเลือกตั้ง

กลุ่มประชาชนสวมเสื้อขาวประมาณ 300 คน เดินทางมาให้กำลังใจคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแพร่ เพื่อให้กำลังใจและสนับสนุนการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า ที่บริเวณสนามหลวง สวนสุขภาพเฉลิมพระเกียรติ ร. 9 อำเภอเมืองแพร่ ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมสวมเสื้อขาวประมาณ 300 คนเดินทางมารวมตัวกันโดยมีแกนนำแต่ละอำเภอประกอบด้วยนายประเดิมชัย ใจต่อ แกนนำจำอำเภอสูงเม่น นายธนกิจ ตุ้ยดี แกนนำจากอำเภอร้องกวาง นายปัญญา ชุมณี แกนนำจากอำเภอวังชิ้น นายจิรเดช ฝากมิตร แกนนำจากอำเภอเด่นชัย และนางพิสมัย ฝ้ายศักดิ์ แกนนำจากอำเภอหนองม่วงไข่ ผลัดกันขึ้นปราศรัยโจมตีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ขัดขวางการเลือกตั้ง

โดยกลุ่มเสื้อขาวได้ร่วมกันจุดเทียนแสดงเชิงสัญลักษณ์สนับสนุนการเลือกตั้ง โดยมีนายชัยสิทธิ์ รัตนชัยสิทธิ์ ปลัดจังหวัดแพร่ พร้อมด้วยนายยรรยง สมจิตต์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแพร่เดินทางมาพบปะ ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมได้มอบดอกกุหลาบให้เพื่อสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 พร้อมรณรงค์เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามเส้นทางต่างๆของอำเภอเมืองแพร่

ด้านนายยรรยง สมจิตต์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแพร่กล่าวว่า ขณะนี้การเตรียมการเลือกตั้งของจังหวัดแพร่นั้น มีความพร้อมที่จะดำเนินการเลือกตั้งแล้ว 99 % และขอเชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิใช้เสียงของท่าน ซึ่งได้ตั้งเป้าหารใช้สิทธิไว้ร้อยละ 71.26

ฉัตรชัย พวงขจร / ข่าว /พิมพ์   

วัดนาแหลมเหนือ เชิญร่วมบริจาคเงินบูรณะโบสถ์หลังจากเหตุเพลิงไหม้

วัดนาแหลมเหนือเชิญร่วมบริจาคเงิน บูรณะโบสถ์ภายหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้พระอุโบสถ สามารถบริจาคผ่านบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เลขบัญชี 01-008-2-54627-2 ธนาคาร ธ.ก.ส. ชื่อบัญชี เงินอุดหนุนบูรณะวัดนาแหลมเหนือ 

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า จากเหตุเพลิงไหม้จากพระอุโบสถวัดนาแหลมเหนือ หมู่ 3 ตำบลทุ่งกวาว อำเภอเมืองแพร่ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2557 เวลา 20.30 น. ส่งผลให้ให้พระอุโบสถเสียทั้งหลัง ทางวัดนาแหลมเหนือจึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมทำบุญด้วยการบริจาคเงินเพื่อบุรณะพระอุโบสถโดยบริจาคผ่านทางบัญชีของวัด ธนาคาร ธ.ก.ส. ชื่อบัญชี เงินอุดหนุนบูรณะวัดนาแหลมเหนือ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เลขบัญชี 01-008-2-54627-2

พระครูประยุต วรการ เจ้าอาวาสวัดนาแหลมเหนือ เจริญพรกล่าวว่า แม้ตอนนี้จะมีหลายหน่วยและพุทธศาสนิก เมื่อทราบข่าวและเข้าช่วยเหลือแล้ว แต่การบูรณะยังต้องใช้ปัจจัยเป็นจำนวนมากในการบูรณะจึงฝากบอกบุญขอรับบริจาคในบัญชีของวัดด้วย

ฉัตรชัย พวงขจร / ข่าว /พิมพ์   

อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่พร้อมแจกจ่ายคูหาและหีบบัตรเลือกตั้งแล้ว

อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่พร้อมแจกจ่ายคูหาและหีบบัตรเลือกตั้งแล้ว โดยคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเขต 1 ทั้ง 10 ตำบล สามารถรับได้ที่หอประชุมอำเภอสูงเม่น ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557

นายสัมฤทธิ์ สุกใส ประธานคณะอนุกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดแพร่ กล่าวว่า ทางอำเภอสูงเม่น ได้จัดเตรียมคูหา หีบบัตรเลือกตั้ง เอกสารและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 และพร้อมที่จะแจกให้กับคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งต่างๆ แล้ว ซึ่งได้กำหนดให้วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นวันแจก คูหา หีบบัตรเลือกตั้ง เอกสารและอุปกรณ์ที่ใช้ในการเลือกตั้ง โดยได้แจ้งให้กับคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ให้มารับได้ที่ หอประชุมอำเภอสูงเม่น ตั้งแต่เวลา 09.00 เป็นต้นไป โดยจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลตามจุดของตำบลต่างๆ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังได้มีการตรวจสอบคูหา หีบบัตรเลือกตั้ง เอกสาร อุปกรณ์ ต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วน เพื่อความมั่นใจว่าสามารถใช้งานได้ ไม่มีความเสียหาย และเพื่อความโปร่งใส ก่อนที่จะนำไปแจกจ่ายให้กับคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง เขต 1 ต่อไป

ฉัตรชัย พวงขจร / ข่าว /พิมพ์   

นปช.แม่ฮ่องสอน นำมวลชนในพื้นที่จำนวน 40 คน เดินทางมามอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจ กกต.จังหวัด

วันนี้ ( 31 ม.ค. 57 ) เวลา 13.30 น. ที่ กกต.จังหวัดแม่ฮ่องสอน ศาลากลางจังหวัด นายพยนต์ สารวาท แกนนำ นปช.แม่ฮ่องสอน นำมวลชนในพื้นที่บ้านหัวน้ำแม่สะกึ้ด ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 40 คน เดินทางมามอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจ กกต.จังหวัดแม่ฮ่องสอนและสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.57 โดยมีนายพันธุ์รัตน์ แก้ววิเชียร ผอ.กกต.จังหวัดแม่ฮ่องสอน รับมอบ และสลายตัวกลับเมื่อเวลา 14.00 น.ของวันเดียวกัน

ข่าวโดย : ทีมข่าว ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดแถลงข่าวการจัดงานฤดูหนาวและงานรื่นเริง ประจำปี 2557 และจัดงานวันรวมน้ำใจสู่กาชาด

เช้าวันนี้ ( 31 ม.ค. 57 ) ที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยนางหทัยชนก พนัสอำพล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน แถลงข่าวการจัดงานฤดูหนาวและงานรื่นเริงจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 6 - 15 กุมภาพันธ์ 2557 บริเวณถนนสัมพันธ์เจริญเมือง ( ข้างศาลจังหวัด ) และบริเวณถนนนาวาคชสาร โดยภายในงานมีทั้งการออกร้านมัจฉากาชาด การประกวดสาวงามธิดาชนเผ่า การแสดงนิทรรศการของหน่วยงานราชการต่าง ๆ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP และการแสดงจากศิลปินมากมาย

จากนั้นเวลา 10.00 น. เหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดงานวันรวมน้ำใจสู่กาชาด เพื่อรับบริจาคทรัพย์และสิ่งของจากผู้มีจิตรศรัทธา ทั้งนี้ ทรัพย์และสิ่งของที่ได้จะนำไปออกร้านมัจฉากาชาด ในงานฤดูหนาวและงานรื่นเริง ประจำปี 2557 เพื่อหารายได้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการออกรับบริจาคโลหิต การบรรเทาทุกข์ให้แก่ราษฎรยากจน ราษฎรผู้ประสบความเดือดร้อนจากสาธารณภัย และงานสาธารณกุศล ของเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งสรุปยอดวันรวมน้ำใจสู่กาชาด ได้รับการสนับสนุนเงินสด จำนวน 268,200 บาท และสิ่งของรวมมูลค่า 327,189 บาท

ข่าวโดย : พักตร์ภูมิ ปัญญาไชยพัฒน์

จ.แม่ฮ่องสอนจัดงาน วันรวมน้ำใจสู่กาชาด เพื่อรับบริจาคของรางวัลในร้านมัจฉากาชาด งานฤดูหนาวและงานรื่นเริง ประจำปี 2557

เช้าวันนี้ (31 ม.ค.) นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยนางหทัยชนก พนัสอำพล นายกเหล่ากาชาด จ.แม่ฮ่องสอน เป็นประธานงาน วันรวมน้ำใจสู่กาชาด ที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อรับมอบสิ่งของต่างๆจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน และ ภาคประชาชน จำนวนมาก เช่น รถจักรยานยนต์/รถจักรยาน/เครื่องใช้ไฟฟ้าและของใช้ต่างๆอีกมากมาย ซึ่งจะนำไปเป็นของรางวัลให้กับร้านมัจฉากาชาด ในงานฤดูหนาวและงานรื่นเริง ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 6 – 15 กุมภาพันธ์ 2557 ที่บริเวณถนนนาวาคชสาร ถนนสัมพันธ์เจริญเมือง ตรงข้ามสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว

จังหวัดแม่ฮ่องสอน แถลงข่าวการจัดงานฤดูหนาวและงานรื่นเริง ประจำปี 2557 จังหวัดแม่ฮ่องสอน แถลงข่าวการจัดงานฤดูหนาวและงานรื่นเริง ประจำปี 2557

เช้าวันนี้ (31 ม.ค.) นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยนางหทัยชนก พนัสอำพล นายกเหล่ากาชาด จ.แม่ฮ่องสอน เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานฤดูหนาวและงานรื่นเริง ประจำปี 2557 ที่หน้าสำนักงานกาชาด จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งงานดังกล่าวจะจัดระหว่างวันที่ 6- 15 กุมภาพันธ์ 2557 ที่บริเวณถนนสัมพันธ์เจริญเมือง ถนนนาวาคชสาร หน้าสถานีขนส่งโดยสาร จ. แม่ฮ่องสอน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสืบสานวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น ตลอดจนเป็นการหารายได้ไว้ใช้จ่ายในงานสาธารณกุศลของเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้สนุกสนานรื่นเริงหลังฤดูการเกษตร โดยไม่เก็บบัตรค่าผ่านประตู แต่อย่างใด

ในงานมีการออกร้านของส่วนราชการต่างๆ การออกร้านมัจฉากาชาด การประกวดธิดาชนเผ่า การเดินแฟชั่นโชว์การกุศลโดยนายแบบนางแบบกิตติมศักดิ์ การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง พร้อมหางเครื่อง วงสตริงเยาวชน การจำหน่ายสินค้า OTOP การแข่งขันชกมวยไทย-พม่า การแข่งขันกีฬาชนเผ่า และการแสดงต่างๆมากมาย

ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว

สภาสื่อสร้างสรรค์จังหวัดแม่ฮ่องสอนร่วมกับเครือข่ายสื่อเพื่อเด็กเยาวชนและครอบครัวภาคเหนือตอนบนจัดประชุม เพื่อพัฒนายุทธศาสตร์งานสื่อสร้างสรรค์

เช้าวันนี้ (31 ม.ค.) นายประเสริฐ ประดิษฐ์ ประธานสภาสื่อสร้างสรรค์จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นประธานการประชุมเพื่อพัฒนายุทธศาสตร์งานสื่อสร้างสรรค์ ที่ วิทยาลัยชุมชนจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์การดำเนินงานระดับภาคเหนือบน ด้านสื่อ 3 ด้าน ได้แก่ด้านพื้นที่สร้างสรรค์ ด้านครอบครัวเข้มแข็งและด้านคนทำงานด้านเด็กและเชื่อมโยงแผนยุทธศาสตร์การดำเนินงานนี้กับการหนุนเสริมงานสภาสื่อสร้างสรรค์และขบวนงานเมืองสุขภาวะจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเวทีดังกล่าวสรุปว่าให้สภาสื่อสร้างสรรค์ และเครือข่ายสื่อเพื่อเด็กเยาวชนและครอบครัวแต่ละจังหวัด ไปดำเนินการตามแผนของตนเอง พร้อมทั้งกำหนดประชุมครั้งต่อไประหว่างวันที่ 10-11 พฤษภาคม 2557 ที่จ.ลำปาง และเตรียมจัดงานมหกรรมสื่อสร้างสรรค์ภาคเหนือสู่อาเซียน ระหว่างวันที่ 13- 14 ธันวาคม 2557 ที่จ.แม่ฮ่องสอน

ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว

สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอนจัดประชุมชี้แจงนโยบายและแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานสุขภาพภาคประชาชน ปี 2557

นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดประชุมชี้แจงนโยบายและแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานสุขภาพภาคประชาชน ปี2557 แก่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานสุขภาพภาคประชาชน ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และกรรมการชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 มกราคม2557 ที่เคียงดอย รีสอร์ท อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อถ่ายทอดนโยบายและแผนงานสุขภาพภาคประชาชน การจัดทำแผนปฏิบัติงานสุขภาพภาคประชาชนและสนับสนุนการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีผู้รับผิดชอบงานสุขภาพภาคประชาชนจำนวน 40 คน เข้าร่วมประชุม

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอนกล่าวว่า ปัญหาด้านสุขภาพอนามัยของประชาชนจังหวัดแม่ฮ่องสอนโดยเฉพาะที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ยังพบปัญหาสุขภาพ การเจ็บป่วยด้วยโรคติดต่อสำคัญ เช่น โรคมาลาเรีย โรคไข้เลือดออก โรคเรื้อน วัณโรค โรคเท้าช้าง อุจจาระร่วง รวมถึงการเจ็บป่วยจากการด้อยโอกาสในการเข้าถึงระบบบริการสุขภาพขั้นพื้นฐานของสถานบริการของรัฐ เช่น การไม่ได้รับบริการดูแลฝากครรภ์ การคลอด การดูแลหลังคลอด ภาวะทุพโภชนาการ และการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันในเด็ก เนื่องจากสภาพปัญหาค่อนข้างซับซ้อน บางพื้นที่การคมนาคมค่อนข้างลำบากในการเข้าถึง ซึ่งการตั้งรับในหน่วยบริการอย่างเดียวไม่สามารถให้บริการประชาชนได้ครอบคลุมและทั่วถึง สำหรับการแก้ไขปัญหาสุขภาพอนามัยประชาชนในพื้นที่ห่างไกล สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เน้นการจัดการสุขภาพอย่างเป็นระบบ โดยการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและภาคีเครือข่าย ให้ทุกอำเภอมีแผนงานสุขภาพภาคประชาชนที่ชัดเจน และใช้มาตรการเชิงรุกเข้าไปแก้ไขปัญหาในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการพื้นฐานและสามารถพึ่งตนเองได้ต่อไป/

ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว