วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2557

สพม.39 จัดอบรมเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจการไกล่เกลี่ยยุติข้อพิพาท ด้วยหลักสมานฉันท์และสันติวิธีในสถานศึกษา

สพม.39 จัดอบรมเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจการไกล่เกลี่ยยุติข้อพิพาท ด้วยหลักสมานฉันท์และสันติวิธีในสถานศึกษา

เช้าวันนี้ ( 27 ส.ค.57 ) ที่โรงแรมเรือนแพ รอยัล ปาร์ค อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก นายแดง วรศักดิ์วุฒิพงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 ประธานเปิดการอบรมเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจการไกล่เกลี่ยยุติข้อพิพาท ด้วยหลักสมานฉันท์และสันติวิธีในสถานศึกษา นายแดง วรศักดิ์วุฒิพงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 กล่าวว่า วัยรุ่นเป็นวัยของการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและจิตใจ ถือเป็นช่วงสำคัญที่สุด อนาคตของวัยรุ่นจะเป็นอย่างไรเริ่มจากสิ่งที่ได้รับในวัยนี้ สภาพแวดล้อมและสังคมรอบ ๆ ตัวมีอิทธิพลมากต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หากสังคมที่อยู่เป็นสังคมที่ดีถือเป็นความโชคดี แต่หากอยู่ในสังคมที่ไม่ดี ก็จะได้รับและซึมซับพฤติกรรมที่ไม่ดีนั้นไปด้วย ปัจจุบันปัญหาการทะเลาะวิวาทของวัยรุ่นในสังคมไทยเริ่มรุนแรงขึ้นทุกวัน บ้างก็มีทั้งที่เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ และไม่เป็นข่าว ในแต่ละครั้งจะมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือบาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย สร้างความเดือดร้อนกับผู้ก่อเหตุผู้ปกครองของกลุ่มเด็กวัยรุ่น และทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันการศึกษาซึ่งเป็น "เสาหลัก" ของการผลิตทรัพยากรมนุษย์อันเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ดังนั้น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39

จึงได้จัดอบรมเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจการไกล่เกลี่ยยุติข้อพิพาท ตามโครงการเสริมสร้างความสมานฉันท์ด้วยหลักสันติวิธีในสถานศึกษาขึ้น เพื่อสร้างและพัฒนานักเรียนแกนนำให้มีความรู้ความเข้าใจในการไกล่เกลี่ยยุติข้อพิพาทด้วยหลักสมานฉันท์และสันติวิธี ลดและแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งการทะเลาะวิวาทภายในสถานศึกษา โดยมีเนื้อหาการอบรมเป็นการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเบื้องต้น เทคนิคการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท การแสดงสาธิตการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท โดยคณะผู้ประนีประนอมคดีครอบครัว จากศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลก เป็นวิทยากร เผยแพร่ความรู้ การศึกษากรณีตัวอย่าง และการวางแผนการดำเนินงานรายโรงเรียน ผู้เข้ารับการอบรมเป็นครูและนักเรียนแกนนำจาก 10 โรงเรียน ๆ ละ 11 คน รวมทั้งสิ้น 110 คน ทั้งนี้คณะครูและนักเรียน ที่เข้ารับการอบรมจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ และเป็นแกนนำในการส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์ คอยสอดส่องดูแลและส่งข่าวความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ภายในโรงเรียน สร้างสังคมให้ยอมรับ ส่งเสริม สนับสนุนคนทำดี นักเรียนเป็นผู้ไกล่เกลี่ยรุ่นเยาว์ประจำศูนย์ในสถานศึกษา เป็นกลุ่มภาคีเครือข่ายคนดีของศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 ต่อไป

พ่อเมืองสองแคว มอบใบประกาศนียบัตร พร้อมรวมแสดงความยินดี กับหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการที่จบหลักสูตรฝึกเรียนภาษาจีน

พ่อเมืองสองแคว มอบใบประกาศนียบัตร พร้อมรวมแสดงความยินดี กับหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่จบหลักสูตรฝึกเรียนภาษาจีน ตามโครงการ เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 26 สิงหาคม 2557 ที่โรงเรียนสิ่นหมิ่น อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก นาย ระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตร พร้อมรวมแสดงความยินดี กับผู้ที่จบหลักสูตร ฝึกเรียนภาษาจีน ตามโครงการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ก่อนที่ประเทศไทย กำลังจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( AEC ) ในปี 2558 ที่จะถึงนี้ โดยมีเป้าหมาย คือการเป็นตลาดและเป็นฐานการผลิตร่วมกัน จะมีการเคลื่อนย้ายสินค้าบริการ การลงทุน เงินทุนและแรงงานระหว่างประเทศอาเซียนอย่างเสรี จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กลุ่มอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยต้องเร่งเสริมสมรรถนะและความสามารถในการแข่งขัน เพื่อรองรับการเปิดเสรี ทั้งการ ขับเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน เงินทุนแรงงานฝีมือ ดังนั้น ยุทธศาสตร์การบริหารงานระบบราชการของจังหวัดพิษณุโลก จำเป็นอย่างมากที่หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องมีทักษะทางด้านภาษาเพิ่มเติม ให้สามารถสื่อสารหรือคุยโต้ตอบซื้อขายกันได้ ซึ่งถือว่าเป็นกลไกหนึ่ง ในการพาจังหวัดพิษณุโลก ให้ขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไปในการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าช่วยเหลือพร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังเป็นข่าว หนุ่มเมืองสองแควป่วยเป็นมะเร็งหลังโพรงจมูก ฐานะยากจน

ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าช่วยเหลือพร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังเป็นข่าว หนุ่มเมืองสองแควป่วยเป็นมะเร็งหลังโพรงจมูก ฐานะยากจน แถมถูกเป็นแพะคดี ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ โดยไม่ได้รับอนุญาต

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 สิงหาคม 2557 นางกัญฐญาณ์ ภู่สวาสดิ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก นาย ธีระชัย ไพรรัตนวัน อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัดพิษณุโลก นายสุทธิวัตต์ ต่ายวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงพระ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้นำถุงน้ำใจ พร้อมเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง จากผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นำไปมอบให้กับ นาย ปานศิริ ทองอยู่เย็น อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 207 หมู่ 6 บ้านหนองไผ่ล้อม ตำบลบึงพระ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก ไม่สามารถทำงานช่วยเหลือครอบครัวได้ แถมยังตกเป็นแพะคดี ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ โดยไม่ได้รับอนุญาต มีไม้ท่อนไว้ในความครอบครองและมีไม้แปรรูปหวงห้าม โดยไม่รู้ตัวนาย ธีระชัย ไพรรัตนวัน อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า หลังจากได้พูดคุยกับนาย ปานศิริ แล้ว ทางตนเอง จะทำเรื่องไปที่ศาลจังหวัดเลย เพื่อจะขอให้ศาลจังหวัดเลยช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงของคดีนี้อีกครั้ง และสำหรับในวันที่ 26 - 27 พฤศจิกายนนี้ ที่ศาลจังหวัดเลย ได้นัดไปฟังคำตัดสิน ว่าจะมีความผิดจริงหรือไม่ ตนเองจะทำเรื่องแจ้งไปยังศาลจังหวัดเลย ว่า ทางนาย ปานศิริ ทองอยู่เย็น ได้ป่วยจริงและไม่ได้คิดที่จะหลบหนีคดีแต่อย่างใด และพร้อมที่จะหาทางช่วยเหลือต่อไป ด้าน นางกัญฐญาณ์ ภู่สวาสดิ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นาย ระพี ผ่องบุพกิจ ได้ห่วงใยกรณีนี้มาก โดยให้ตนเองเข้ามาดูแล หาทางช่วยเหลือ ซึ่งเบื้องต้นตนเองได้ประสานกับหน่วยงานท้องถิ่น ในการจัดหารถนำนาย ปานศิริ ไปหาหมอตามวันเวลาที่หมอนัด พร้อมทั้งจะดำเนินการช่วยเหลือครอบครัวของ นาย ปานศิริ ทองอยู่เย็น ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป ซึ่งหากผู้ใดต้องการช่วยเหลือ ก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 083-163-3881 หรือ หมายเลขบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาพิษณุโลก ชื่อบัญชี นางสุรีรัตน์ ทองอยู่เย็น บัญชีเลขที่ 01-027-8-026366.

เทศบาลนครพิษณุโลก จัดการอบรมให้ความรู้เรื่องภัยร้ายจากน้ำมันทอดซ้ำให้แก่ผู้ประกอบการและผู้จำหน่ายอาหารในเขตเทศบาล

เช้าวันนี้ ( 27 ส.ค.57 ) ที่ห้องจุฬามณี 1 ชั้น 3 เทศบาลนครพิษณุโลก ทางเทศบาลนครพิษณุโลกได้จัดการอบรมให้ความรู้เรื่องภัยร้ายจากน้ำมันทอดซ้ำให้แก่ผู้ประกอบการและผู้จำหน่ายอาหารในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก เนื่องจากที่ผ่านมา พบว่าเกือบทุกร้านอาหาร หรือสถานประกอบการต่างๆ มีการใช้น้ำมันทอดซ้ำเสื่อมสภาพหรือมีการผสมระหว่างน้ำมันทอดซ้ำกับน้ำมันใหม่ประกอบอาหาร เพื่อต้องการลดต้นทุนโดยอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือมิได้คำนึงถึงอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค การบริโภคน้ำมันทอดซ้ำที่เสื่อมสภาพ มีสารอันตราย ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงและ เป็นสารก่อมะเร็ง พบได้ทั้งในน้ำมันทอดอาหารที่เสื่อมสภาพและในไอที่ระเหยออกมาขณะทอด จึงมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้ทั้งผู้ขายและผู้บริโภค เทศบาลนครพพิษณุโลก ตระหนักถึงพิษภัยของการบริโภคอาหารจากน้ำมันทอดซ้ำ ดังกล่าว จึงได้จัดอบรมให้ความรู้เรื่อง ภัยร้ายจากน้ำมันทอดซ้ำแก่ผู้ประกอบการจำหน่ายอาหารในพื้นที่เทศบาลนครพิษณุโลกขึ้น โดยมีผู้เข้าร่วมอบรม จำนวน 50 คน พร้อมกันนี้ยังได้จัดบรรยายให้ความรู้เรื่อง พิษภัยจากน้ำมันทอดซ้ำและอาหารปลอดภัยในชีวิตประจำวัน อีกทั้งได้รับการสนับสนุนวิทยากรจากกองบิน 46 มาให้ความรู้เรื่องการนำน้ำมันทอดซ้ำไปผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซลเพื่อใช้กับเครื่องสูบน้ำและรถยนต์ เพื่อลดต้นทุนด้านการเกษตร อีกด้วย

จ.เพชรบูรณ์ อบรมผู้ประกอบการอาชีพสามล้อรถสามล้อและรถจักยานยนต์รับจ้างในเขตเทศบาลเมือง สร้างความปรองดอง สมานฉันท์ สามัคคีและเพิ่มศักยภาพด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว

จ.เพชรบูรณ์ อบรมผู้ประกอบการอาชีพสามล้อรถสามล้อและรถจักยานยนต์รับจ้างในเขตเทศบาลเมือง สร้างความปรองดอง สมานฉันท์ สามัคคีและเพิ่มศักยภาพด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว

วันนี้ (27 ส.ค.57) นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.เพชรบูรณ์ เป็นประธานเปิดการอบรม ผู้มีอาชีพรถสามล้อและรถจักยานยนต์รับจ้างในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ สร้างความปรองดอง สมานฉันท์ สามัคคี มีผู้ประกอบอาชีพรถสามล้อและรถจักยานยนต์รับจ้างในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์เข้าร่วมอบรมกว่า 300 คน ณ หอวัฒนธรรมนครบาลเพชรบูรณ์ เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ จัดอบรมผู้ประกอบการอาชีพสามล้อครั้งนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักที่จังหวัดเพชรบูรณ์มากขึ้น โดยขอความร่วมมือทุกคนช่วยกันเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ไม่ฉวยโอกาสเอาเปรียบนักท่องเที่ยวและคิดค่าบริการกับประชาชนด้วยความเป็น ธรรม พร้อมกับมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการจราจร การใช้รถใช้ถนนไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ จาก สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ขนส่งจังหวัด และการประกันภัย จาก คปภ.จังหวัด

การฝึกอบรมให้ความรู้เพิ่มเติมและเสริมทักษะในการประกอบอาชีพ ให้กับกลุ่มอาชีพรถสามล้อและรถจักยานยนต์รับจ้าง โดยเพิ่มพูนความรู้ด้านการท่องเที่ยว ประวัติความเป็นมาของสถานที่สำคัญ เส้นทางท่องเที่ยวชมโบราณสถานในเขตเมือง รวมไปถึงเทคนิคการสร้างความประทับใจในการให้บริการ เพื่อให้มีความพร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักท่องเที่ยว โดยกลุ่มผู้ประกอบอาชีพรถสามล้อและรถจักยานยนต์รับจ้างเป็นกลุ่มอาชีพหนึ่งที่มีความสำคัญเป็นด่านแรกในการต้อนรับนักท่องเที่ยวและที่สำคัญในช่วงปลายปี ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของทุกปี จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์จำนวนมาก และเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 อีกด้วย

จ.เพชรบูรณ์ จัดโครงการ "สร้างเครือข่ายแกนนำวัยรุ่น เพื่อป้องกันปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น"

จ.เพชรบูรณ์ จัดโครงการ "สร้างเครือข่ายแกนนำวัยรุ่น เพื่อป้องกันปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น" เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ และทรงเจริญพระชนมายุ ครบ 60 พรรษาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย

วันนี้ 27 ส.ค. 57 ที่ห้องประชุม วิทยาลัยเทคนิคเพชรบูรณ์ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการ "สร้างเครือข่ายแกนนำวัยรุ่น เพื่อป้องกันปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น" โดยมีวัยรุ่นและเยาวชนในสถานศึกษา 7 สถาบัน จำนวน 200 คน เข้าร่วม. เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ และทรงเจริญพระชนมายุ ครบ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2558 ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย และแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทย
 เหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์ได้ดำเนินโครงการอบรมสร้างเครือข่ายแกนนำ วัยรุ่น และเยาวชน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาตั้งครรภ์ในวัยรุ่น จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงเจริญพระชนมายุ ครบ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2558 และเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของสถานศึกษา ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ของเยาวชนในสถานศึกษาและสามรถถ่ายทอดความรู้ให้แก่เพื่อนในสถานศึกษาได้

ซึ่งในปัจจุบันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น นับเป็นปัญหาสำคัญที่กำลังรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลกระทบต่อประชากรในการพัฒนาประเทศ เนื่องจากวัยรุ่นตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร จะทำให้เกิดผลกระทบที่ตามมา ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ โดยเฉพาะการขาดความพร้อมในการดูแลสุขภาพทั้งตนเองในระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด

จ.เพชรบูรณ์ ระดมความคิดเห็นการจัดทำแผนที่ธรณีวิทยา

วันนี้ 27 ส.ค.57 นายสุชาติ ราษฎร์ดุษดี รอง ผวจ.พช. ประธานพิธีเปิดการประชุมระดมความคิดเห็นและเผยแพร่องค์ความรู้ งานสำรวจจัดทำแผนที่ธรณีวิทยาใต้ดินฯ ณ ห้องนครบาล โรงแรมโฆษิตฮิลล์ กรมทรัพยากรธรณี มีภารกิจเกี่ยวกับการสงวน อนุรักษ์ ฟื้นฟู และบริหารการจัดการด้านธรณีวิทยา ทรัพยากรธรณี ซากดึกดำบรรพ์ ธรีณีวิทยาสิ่งแวดล้อม และธรณีภับพิบัติ โดยการสำรวจตรวจสอบ และวิจัยสภาพธรณีวิทยาและทัพยากรณ์ธรณี การประเมินศักยภาพแหล่งทรัพยากรณ์ธรณี การกำหนดและกำกับดูแลเขตพื้นที่สงวน อนุรักษ์ ทรัพยากรธรณี และพื้นที่เสี่ยงต่อธรณีพิบัติภัย เพื่อการพัฒนาทรัพยากรธรณี คุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมอย่างยั่งยืนและเกิดประโยชน์สูงสุด

ด้านนักธรณีวิทยา เผยข้อมูลชั้นดินที่น่าเป็นห่วงเรื่องดินโคลนถล่ม จะอยู่บริเวณ ตำบลน้ำก้อ ตำบลน้ำชุน และพื้นที่อำเภอหล่มเก่าติดต่อน้ำหนาว เพราะเป็นดินตะกอนภูเขาไฟ ชั้นดินร่วมซุยมีความหนา เมื่อซับน้ำจนอิ่มตัวโอกาสเกิดการสไลด์ตัวและถล่มได้

จังหวัดลำพูน กำหนดจัดงานมอบรางวัลเชิดชูเกียรติ องค์การคณะทำงานร่วมการปฏิบัติงานพัฒนาหมู่บ้านชนบทในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในวันที่ 28 สิงหาคม 2557 ที่ เทศบาลตำบลบ้านโฮ่ง

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน รายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ ( 28 สิงหาคม 2557 ) เทศบาลตำบลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน ได้กำหนดจัดงานมอบรางวัลเชิดชูเกียรติ องค์การคณะทำงานร่วมการปฏิบัติงานพัฒนาหมู่บ้านชนบทในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดย นายพัลลภ สุวรรณมาลิก ประธานองค์การคณะทำงานร่วมการปฏิบัติงานพัฒนาหมู่บ้านชนบท ในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นประธาน เพื่อเป็นการยกย่อง เชิดชูเกียรติแก่หน่วยงาน หรือองค์กร ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้านในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

โอกาสนี้ พลตรีสุทัศน์ จารุมณี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 จะได้แสดงปาฐะกาถาพิเศษ เรื่อง การสนองแนวพระราชดำริ ในเรื่อง การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในค่าย ทหาร อีกด้วย



ข่าวโดย : นศ. ฝึกประสบการณ์ นางสาวเกศกนก แสงจันทร์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

เชิญร่วมประกวดเขียนเล่าเรื่องราวโครงการ "ตามรอยพ่อ ใช้พลังงานอย่างพอเพียง"

กระทรวงแรงงานขอเชิญประชาชนที่สนใจ เข้าร่วมเขียนเรื่องราวโครงการ "ตามรอยพ่อ ใช้พลังงานอย่างพอเพียง" ส่งผลงานตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 15 กันยายน 2557

นายชุมพล ฐิตยารักษ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน ประธานคณะทำงานโครงการ ฯ เปิดเผยว่า ด้วยกระทรวงพลังงาน ได้จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้ชื่อ “โครงการตามรอยพ่อ ใช้พลังงานอย่างพอเพียง” เพื่อน้อมนำเอาพระราชกรณียกิจ และแนวพระราชดำริด้านพลังงานมาถ่ายทอดให้ประชาชนได้ตระหนักและเกิดแรงบันดาลใจในการนำมาประพฤติปฏิบัติให้สามารถพึ่งตนเองได้ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเพื่อเป็นการสร้างการรับรู้นโยบาย การอนุรักษ์พลังงานทดแทน ประชาชนที่สนใจจะส่งผลงานเพื่อเข้าร่วมโครงการจะคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายจากทั่วประเทศ มาเข้าร่วมกิจกรรมในโครงการ คายรอยพ่อ ใช้พลังงานอย่างพอเพียง จำนวนไม่น้อยกว่า 87 คน จากการเขียนเล่าเรื่องราวไม่น้อยกว่า 1 หน้ากระดาษ พร้อมภาพถ่ายกิจกรรมที่ได้ดำเนินงาน ภายใต้หัวข้อ ดูพ่อทำ แล้วนำมาปรับใช้ด้านพลังงาน ที่แสดงถึงหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในกานำใช้ในชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมศึกษาดูงานในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและโครงการส่วนพระองค์ในด้านพลังงานต่างๆพร้อมกิจกรรมสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องพลังงานเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ เพื่อเกิดแรงบันดาลใจและนำมาปรับใช้ในประจำวัน หรือชุมชนของตนเองหลังจากเสร็จสิ้นโครงการผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้รับประกาศนียบัตรและเผยแพร่ผลงาน เนื้อหาประวัติให้ประชาชนทั่วไปทราบในรูปแบบหนังสือผู้ที่สนใจจะสมัคร สามารถส่งงานเขียนได้โดยไม่จำกัด เพศ อายุ และการศึกษา บุคคลทั่วไป หรือผู้แทนชุมชน ผู้แทนวิสาหกิจชุมชน ผู้แทนองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น ผลงานการเขียนเล่าเรื่องราวจำนวน ไม่น้อยกว่า 1 หน้ากระดาษ พร้อมภาพถ่ายกิจกรรมที่ได้ดำเนินงานที่ส่งเข้าร่วมมาทุกผลงาน ถือเป็นลิขสิทธิ์ของกระทรวงแรงงาน

ทั้งนี้ขอรับใบสมัคร และส่งผลงานได้ที่ศูนย์บริการร่วม กระทรวงพลังงาน สำนักงานพลังงานจังหวัดทั่วประเทศ และสามารถดาวน์โหลดในสมัครได้ที่ Http://www.energy.go.th , Http://www.energyservicecenter.go.th ส่งผลงานมาที่ตู้ ปณ. 97 บางกอกน้อย 10700 ศูนย์บริการร่วม กระทรวงพลังงาน ศูนย์เอเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อาคารบี ชั้น3 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



ข่าวโดย : น.ส.ณัฐพร ขัดทองงาม น.ศ ฝึกประสบการณ์ มร.ลป
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

จัดหางาน จ .ลำปาง แจ้ง จ.ลำปาง เปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว ที่โรงพยาลำปางศูนย์ลำปาง

จัดหางานจ .ลำปาง แจ้ง จ.ลำปาง เปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว ที่โรงพยาลำปางศูนย์ลำปาง

นางพรปวีร์ วิชิต แจ้งว่า ตามที่จังหวัดลำปางได้จัดตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) เพื่อจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ลาว กัมพูชา ณ โรงพยาบาลลำปาง ซึ่งเปิดบริการรับจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวทั้งสามสัญชาติตั้งแต่วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2557 เป็นต้นมา นั้น

บัดนี้ นายจ้างสถานประกอบการ ที่ได้รับแจ้งบัญชีรายชื่อแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองไว้กับสำนักงานจัดหางานจังหวัด ได้นำแรงงานต่างด้าวมาดำเนินการจดทะเบียนเสร็จสิ้นแล้ว สำนักงานจัดหางานจังหวัดลำปาง จึงขอประชาสัมพันธ์ให้นายจ้างสถานประกอบการ ที่จ้างแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองทำงานและยังไม่ได้แจ้งบัญชีรายชื่อแรงงานต่างด้าวเพื่อจดทะเบียน สามารถแจ้งบัญชีรายชื่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดลำปาง โดยศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ จำเปิดให้บริการเฉพาะวันศุกร์ของทุกสัปดาห์ จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2558 เป็นต้นไป ณ ห้องตรวจไปทำงานต่างประเทศ (ห้อง 20/3 ชั้น 1) ตึกพระสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลลำปาง หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดลำปาง โทรศัพท์ 054-265052-2 ในวันเวลาราชการ



ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์
    หน่วยงาน : สวท.ลำปาง

สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง ร่วมกับ สำนักงานปศุสัตว์เขต5 กำหนด จัดโครงการความร่วมมือ "การเชื่องโยงเครือข่ายปศุสัตว์อินทรีย์ ในพื้นที่ปศุสัตว์เขต 5 ประจำปี 2557"

สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง ร่วมกับ สำนักงานปศุสัตว์เขต5 กำหนด จัดโครงการความร่วมมือ "การเชื่องโยงเครือข่ายปศุสัตว์อินทรีย์ ในพื้นที่ปศุสัตว์เขต 5 ประจำปี 2557"

นายศรีสะเกษ สมาน หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ด้วยสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง ร่วมกับ สำนักงานปศุสัตว์เขต5 ได้กำหนด จัดโครงการความร่วมมือระหว่างสภาเกษตรกรจังหวัดลำปางกับสำนักงานปศุสัตว์เขต 5 ประจำปีงบประมาณ 2557 เพื่อให้สมาชิกสภาเกษตรจังหวัดลำปาง และเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์เขต 5 จำนวน 200คน ได้มีความรู้ความเข้าใจในการผลิตปศุสัตว์อินทรีย์ระบบ ส่งเสริมการเรียนรู้โลกทัศน์ของเกษตรกรผู้ผลิตและผู้ประกอบกรสินค้า เกษตรอินทรีย์ เชื่อมโยงเครือข่าย และให้เกิดเวทีการพบปะ การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านแหล่งผลิต ช่องทางการขยายตลาดสินค้าปศุสัตว์อินทรีย์ เพื่อขยายการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ด้านปศุสัตว์ในพื้นที่ปศุสัตว์ เขต5

ภายในงาน พบกับ การเสวนา ในหัวข้อ “ ปศุสัตว์อินทรีย์ จากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภค การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ภูมิปัญญาของผู้นำเกษตรกรและแนวทางการเชื่อมโยงเครือข่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ด้านการปศุสัตว์ และการบรรยายปรับเปลี่ยนการเลี้ยงสัตว์ตามระบบเกษตรอินทรีย์และเข้ามาตรฐานและการรับรอง ทั้งนี้ ขอเชิญชวนเกษตรกร ร่วมในดังกล่าว ณ ศูนย์เกษตรอินทรีย์เพชรล้านนา ต.แม่สุก อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เริ่มตั้งแต่เวลา 08.00น.


ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์
    หน่วยงาน : สวท.ลำปาง

ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง จัดโครงการเยาวชนไทย ใส่ใจเรียนรู้ สู้ภัยพิบัติ ออกให้ความรู้เรื่องการป้องกันและเตรียมตัวเมื่อเกิดสาธารณภัยให้แก่เด็กนักเรียนในเขตพื้นที่ภาคเหนือ

ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง จัดโครงการเยาวชนไทย ใส่ใจเรียนรู้ สู้ภัยพิบัติ ออกให้ความรู้เรื่องการป้องกันและเตรียมตัวเมื่อเกิดสาธารณภัยให้แก่เด็กนักเรียนในเขตพื้นที่ภาคเหนือ

นายกอบชัย บุญอรณะ ผอ.ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2557 ได้มอบหมายให้นางพิมลพรรณ มะโนเสน หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์และการจัดการ ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง นำเจ้าหน้าที่ ออกจัดโครงการเยาวชนไทย ใส่ใจเรียนรู้ สู้ภัยพิบัติ รุ่นที่ 3 ณ โรงเรียนแม่ทาวิทยาคม อ.แม่ทา จ.ลำพูน โดยโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประจำปีงบประมาณ 2557

ซึ่งรูปแบบการกิจกรรมครั้งนี้เป็นการสอดแทรกให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันอุบัติภัย การจัดนิทรรศการให้ความรู้ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของหน่วยงาน การสาธิตด้านความปลอดภัย การทดลองปฏิบัติการเรียนรู้ตามหลักการของคาราวานเรียนรู้ สู้ภัยพิบัติ มีการจัดฐานกิจกรรมและปัญหาถามตอบ 6 สถานี คือ สถานีที่ 1 อัคคีภัยไฟป่า หมอกควัน หนาวนี้มีแล้ง สถานีที่ 2 เตรียมพร้อมรับแผ่นดินไหว ทำย่างไรให้ปลอดภัยทุกคน สถานีที่ 3 เตือนพายุ หนีน้ำท่วม ระวังดินถล่ม สถานีที่ 4 มีสติ ขับขี่ ปลอดภัย สถานีที่ 5 สารเคมี และวัตถุอันตราย สถานีที่ 6 อุปกรณ์สู้ภัย ร่วมใจสร้างและประดิษฐ์

โดยที่ผ่านมารุ่นที่ 1 ได้ดำเนินการที่โรงเรียนทองสวัสดิ์วิทยาคาร อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน และรุ่นที่ 2 ดำเนินการที่โรงเรียนแจ้ห่มวิทยา อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ทั้งนี้เพื่อสร้างการเรียนรู้ ความตระหนักและการมีส่วนร่วมในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้แก่กลุ่มนักเรียนซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต


ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์
    หน่วยงาน : สวท.ลำปาง

ปภ.เขต 10ลำปาง แจ้งประชาชน ในพื้นที่ เตรียมการป้องกันเฝ้าระวังอุทกภัย วาตภัย ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก

ปภ.เขต 10ลำปาง แจ้งประชาชน ในพื้นที่ เตรียมการป้องกันเฝ้าระวังอุทกภัย วาตภัย ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก

นางสุนันท์ โกษาวัง นักวิเคราะห์นโยบาย และแผนชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน ผอ. ปภ.เขต10ลำปาง เปิดเผยว่า ด้วยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ติดตามตรวจสอบสภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า ในช่วงวันที่ 26 - 30 สิงหาคม 2557 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีคลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนผ่านเข้ามาในอ่าวไทยตอนบน ประกอบกับร่องมรสุมที่พาดผ่านจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักมากในหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมต่อเนื่องไว้ด้วย เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มอันเกิดจากฝนตกหนักอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินองประชาชนในระยะ 4-5 วันนี้ จังหวัดที่อาจจะได้รับผลกระทบคือจังหวัด ตาก สุโขทัย พิษณุโลก อตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน

ดังนั้น ขอให้ประชาชนเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม อันเกิดจากสภาวะฝนตกหนักและตกต่อเนื่อง สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินองประชาชนในระยะ 4-5 วันนี้ สำหรับประชาชนและผู้ขับขี่ยานพาหนะบริเวณที่เกิดฝนฟ้าคะนองให้ระมัดระวังอันตรายปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดและระมัดระวังใช้เครื่องมือสื่อสารโทรศัพท์มือถือกลางที่ล่งแจ้งในขณะที่เกิดฝนฟ้าคะนอง พบเห็นอุบัติเหตุหรือภัยพิบัติ กรุณาแจ้งสายด่วน 1784 หรือ โทรศัพท์/โทรสารหมายเลข 0- 5423-0947, 0- 5421-7877, 0- 5421-8124



ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์
    หน่วยงาน : สวท.ลำปาง

เทศบาลแม่ฮ่องสอนจัดโครงกรตลาดสดน่าซื้อ

เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ร่วมกับชุมชนในเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน จัดโครงการตลาดสดน่าซื้อและอาหารปลอดภัย

ที่ห้องประชุมจองคำ เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน นายปกรณ์ จีนาคำ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ประธานการประชุมโครงการตลาดสดน่าซื้อและอาหารปลอดภัย ปี ๒๕๕๗ โดยมีส่วนราชการและผู้นำชุมชนเข้าร่วมประชุม ฯ ดังกล่าว เพื่อเตรียมจัดงานโครงการตลาดสดน่าซื้อและอาหารปลอดภัย โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๐-๑๗ กันยายน ๒๕๕๗ ณ ตลาดสดน่าเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน บริเวณงาน ฯ ดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนได้รับความคุ้มครองสุขภาพด้านปลอดภัยของอาหาร พัฒนาและยกระดับตลาดสดเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ให้สะอาด ปลอดภัยและได้มาตรฐานตามหลักสุขาภิบาลตลาดและเป็นตลาดสดน่าซื้อนอกจากนี้แล้วชุมชนต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ยังจัดกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย



ข่าวโดย : ดำเนิน ท้วมจอก ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
    หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัด"เวทีระดมความคิดเห็นเพื่อจัดทำข้อเสนอการแก้ไขปัญหาของจังหวัดแม่ฮ่องสอน"

จังหวัดแม่ฮ่องสอนจัด"เวทีระดมความคิดเห็นเพื่อจัดทำข้อเสนอการแก้ไขปัญหาของจังหวัดแม่ฮ่องสอน" ณ ห้องประชุมศาลาประชาคมจังหวัดแม่ฮ่องสอน

นายสุทธา สายวาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิด เวทีระดมความคิดเห็นเพื่อจัดทำข้อเสนอการแก้ไขปัญหาของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อจัดทำข้อเสนอการแก้ไขปัญหาในการพัฒนาของจังหวัดแม่ฮ่องสอนทั้งที่เป็นปัญหาเร่งด่วน ปัญหาที่มาก่อนและยังไม่ได้รับการแก้ไขหรือปัญหาที่ต้องแก้ไขโดยนโยบายของรัฐระดมมติ ครม.ขึ้นไป ในโอกาสที่กำลังจะมีสภาปฎิรูปแห่งชาติในระยะอันใกล้นี้ คณะทำงานองค์กรชุมชนจังหวัดแม่ฮ่องสอนและภาคีเครือข่ายเห็นว่าการปฎิรูปประเทศตามนโยบายของ คสช. นอกจากจะมีการปฎิรูปโครงสร้างแล้ว ระดับฐานรากชุมชนถึงระดับจังหวัดก็ควรแก้ไขปัญหาหรือปฎิรูปไปพร้อมๆกัน โดยทั้งนี้ เพื่อระดมความคิดเห็นของประชาชนและสรุปประมวลเป็นข้อเสนอการแก้ไขปัญหาการพัฒนาในระดับฐานราก สู่การปฎิรูปประเทศไทย โดยบางส่วนที่สามารถแก้ไขได้ในระดับจังหวัด ก็จะเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง และข้อเสนอการแก้ปัญหาที่ต้องใช้อำนาจระดับนโยบายของรัฐ ก็จะนำเสนอต่อ คสช. และสภาปฎิรูปผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดต่อไป



ข่าวโดย : ทีมข่าว ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
    หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

น้ำป่าซัดราษฎรเฝ้านาเสียชีวิต ๑ ราย สูญหาย ๑ ราย รอยตาย ๒ ราย

ฝนตกอย่างหนักที่ชายแดนไทย-พม่า ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากซัดราษฎรที่เฝ้านาเสียชีวิต ๑ ราย สูญหาย ๑ ราย รอยตายอย่างหวุดหวิด ๒ ราย

เหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากซัดราษฎรที่เฝ้านาเสียชีวิตครั้งเกิดขึ้นเมื่อเวลา ๐๑.๓๐ น วันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๗ นายสังคม คัดเชียงแสน ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้รับแจ้งจากนายประจักษ์ พิศไหว ผู้ใหญ่บ้านในสอย ต. ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ว่าเกิดขึ้นฝนตกอย่างหนักตามแนวชายแดนไทย-พม่า ติดกับในสอย ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน และเกิดน้ำป่าไหลหลากบริเวณลำห้วยในสอย ซัดราษฎรที่นอนอยู่กระท่อนกลางนาเพื่อเฝ้าไร่นาสูญหายไปจำนวน ๔ คน จึงได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทราบ กระทั่งเวลา ๐๗.๐๐ น จึงได้นำกำลัง อาสาสมัครรักษาดินแดน ตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๓๓๖ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ ๗ จ.แม่ฮ่องสอน มูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ออกติดตามค้นหาราษฎรดังกล่าว จนกระทั่งเวลา ๑๑.๓๐ น พบศพ นายเด้ ไม่มีนามสกุล อายุ ๔๐ ปี เสียชีวิตอยู่บริเวณลำห้วยห่างจากกระท่อมกลางนาประมาณ ๑ กิโลเมตร มีเศษไม้ดินทับถมร่างกาย ในเวลาต่อมาพบนายฉ่อ ไม่มีนามสกุล อายุ ๒๐ ปี บ้านเลขที่ ๕๑ ป๊อก ๑ นายบูแหละ ไม่มีนามสกุล อายุ ๕๕ ปี บ้านเลขที่ ๑๑๒ ป๊อก ๙ เดินลงมาจากภูเขาสูง โดยทั้งสองเล่าให้ฟังว่า ในช่วงเวลา ๒๑.๐๐ น ของคืนวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๗ ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักบริเวณชายแดนไทย ฟ้าร้องตลอดเวลา จากนั้นก็นอนพักผ่อนที่กระท่อมของนายนิทัศน์ ทัศนถิ่น ราษฎรบ้านในสอย กระทั่งเวลาประมาณ ๐๑.๓๐ น วันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๗ สะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงต้นไม้หักและเสียงกระแสป่าจึงได้เรียกเพื่อน ๆ ทั้งสี่คนตื่นเพื่อจะได้วิ่งขึ้นไปอยู่ที่สูง ซึ่งต่างคนต่างคนต่างก็วิ่งหนีกระแสน้ำป่าที่ไหลเชียวอย่างรุนแรง จนกระทั่งรุ่งเช้าทราบว่านายเด้ เสียชีวิตถูกกระแสน้ำป่าซัด ส่วนนายเต๋อ ไม่มีนามสกุล อายุ ๕๓ ปี สูญหายไปไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ฯ ได้ค้นหายนายเต๋อ ตามลำห้วยตั้งแต่กระท่อมกลางนามาจนถึงลำน้ำปาย ระยะกว่า ๕ กิโลเมตร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ น้ำป่าได้กัดเซาะคอสะพานทางเข้าสำนักสงฆ์พุทธบารมีโลกอุดม ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ขาดชาวบ้านช่วยกันซ่อมแซม และพื้นที่ไร่นาราษฎรได้รับความเสียหายจำนวนมาก ขณะนี้นายสุรพล พนัสอำพล ได้สั่งการให้อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนเร่งสำรวจพื้นที่ไร่นา ถนน สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียดังกล่าวแล้ว



ข่าวโดย : ดำเนิน ท้วมจอก ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
    หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

หลัก "การไม่ติดตำรา"และ "ขาดทุนคือกำไร" ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

พระราชดำรัส ฯ "การไม่ติดตำรา" และ "ขาดทุนคือกำไร"จากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ เกี่ยวกับการปกครองประเทศ ซึ่งมีใจความว่า

ให้ปกครองแบบคนจน “แบบที่ไม่ติดกับตำรามากเกินไป” ทำอย่างมีสามัคคีเมตตากัน ก็จะอยู่ได้ตลอด ไม่เหมือนกับคนที่ทำตามวิชาการที่เวลาปิดตำราแล้ว ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร รวมทั้งพระราชดำรัสเรื่อง “ขาดทุนเป็นการได้กำไรของเรา” โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นหลักนั้น ขอขยายความหลักหลักของ “การไม่ติดตำรา” และ “ขาดทุนคือกำไร” ดังนี้ หลัก “การไม่ติดตำรา” มีความหมายว่า ไม่ควรนำเอาทฤษฎีหรือหลักวิชาการของผู้อื่นมาดำเนินการโดยปราศจากการพิจารณาให้ถ่องแท้ด้วยสติปัญญาและความรู้ของตนเองว่าเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพของปัญหาผู้คนและสภาพแวดล้อมของประเทศไทยมากน้อยเพียงใด นักวิชาการชั้นสูงที่ได้รับการศึกษามาจากตะวันตก มักจะนำแนวคิดและทฤษฎีต่างๆ มาใช้กับประเทศไทย โดยไม่รอมชอมและไม่พิจารณาถึงความแตกต่างในด้านต่าง ๆ ให้รอบคอบ ในที่สุดก็มักจะประสบความล้มเหลวหรือไม่บังเกิดผลดีอย่างเต็มที่ และทำให้ประเทศถอยหลังเข้าคลอง หลัก “ขาดทุนคือกำไร” หรือ “Our loss is our gain” มีความหมายว่า การดำเนินโครงการ ใดก็ตาม ให้ยึดผลสำเร็จของการดำเนินงานที่ความ “คุ้มค่า” มากกว่า “คุ้มทุน” หรืออีกนัยหนึ่งคือ การพิจารณา “Cost–Effectiveness” มากกว่า “Cost–Benefit ratio” โดยให้ความสำคัญต่อผลสัมฤทธิ์ของการพัฒนาที่เป็นผลประโยชน์ของคนส่วนรวมมากกว่าผลสำเร็จที่เป็นตัวเลขอันเป็นผลประโยชน์ของกลุ่มคนส่วนน้อยนั่นเอง


ข่าวโดย : ทีมข่าว ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
    หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดโครงการอบรมพัฒนาบุคลากรกลุ่มจังหวัด ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดโครงการอบรมพัฒนาบุคลากรกลุ่มจังหวัด ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

เช้าวันนี้ (27 ส.ค. 57) นายทัพพ์เทพ สุนทรพลเชฏฐ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิด โครงการอบรมพัฒนาบุคลากรกลุ่มจังหวัดในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ที่โรงแรมอิมพีเรียล แม่ฮ่องสอน รีสอร์ท จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีผู้เข้าร่วมการอบรม จำนวน 80 คน เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะในด้านการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม และพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ ให้แก่ผุ้ประกอบการ และผู้ที่สนใจจะมุ่งสู่การเป็นผู้ประกอบการในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ในอุตสาหกรรมสุขภาพ อุตสาหกรรมการจัดประชุม และนิทรรศการอุตสาหกรรมบริการการศึกษา อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องกับการท่องเที่ยว

กิจกรรมประกอบด้วย การบรรยาย หัวข้อ โลกาภิวัตน์กับการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม /AEC กับการผสานเชิงวัฒนธรรม /อวจนภาษากับการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม /ฝึกปฎิบัติการใช้ภาษอังกฤษในชีวิตประจำวัน และดำเนินธุรกิจ/การบรรยายและแสดงบทบาทสมมุติ/ความรู้ทั่วไป โอกาสการเตรียมพร้อมปัญหาและความท้าทาย วิทยากรจากคณะรัฐศาสตร์ และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

โครงการดังกล่าวจะมีไปจนถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2557


ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน
    หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

โครงการพัฒนาประสิทธิภาพชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ประจำปี 2557 ได้สิ้นสุดลงแล้ว

โครงการพัฒนาประสิทธิภาพชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ประจำปี 2557 ได้สิ้นสุดลงแล้ว

เช้าวันนี้ ( 27 สิงหาคม 2557) นายกองเอกสุรพล พนัสอำพล ผู้บังคับการอาสารักษาดินแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานปิดโครงการพัฒนาประสิทธิภาพชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ประจำปี 2557 ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนแม่ฮ่องสอน ที่ 1 อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งจัดมาตั้งวันที่ 25 สิงหาคม 2557 โดยมีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน อำเภอเมือง ปางมะผ้า และอำเภอขุนยวม เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 100 นาย เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับระเบียบกฎหมายที่ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ เช่น การตรวจค้น การตั้งจุดตรวจ พร้อมทั้ง เพิ่มพูนทักษะในการทำงานให้มีประสิทธิภาพ สามารถร่วมปฏิบัติงานกับฝ่ายปกครอง ตำรวจและทหาร ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป



ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน
    หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

เกิดเหตุฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากพัดราษฎร เสียชีวิต 1 ราย และสูญหาย 1 ราย หลายหน่วยงานระดมให้การช่วยเหลือ

เกิดเหตุฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากพัดราษฎร เสียชีวิต 1 ราย และสูญหาย 1 ราย หลายหน่วยงานระดมให้การช่วยเหลือ

จากเมื่อคืนที่ผ่าน (26 สิงหาคม 2557)จังหวัดแม่ฮ่องสอนเกิดเหตุฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ที่บ้านในสอย ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน น้ำป่าซัดราษฎรที่นอนเฝ้าไร่นา อยู่ที่กระท่อมจำนวน 4 คน กำลังพลจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 /กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 336 / เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัด /สำนักงานป้องและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัด/ อบต.ปางหมู /อบต.ผาบ่อง ระดมกำลังค้นหา ล่าสุดพบศพ นายเด้ ไม่มีชื่อสกุล อายุ 40 ปี เสียชีวิตอยู่บริเวณลำห้วย ห่างจากกระท่อมประมาณ 1 กิโลเมตร มีเศษไม้ และดินทับถมร่างกาย และในเวลาต่อมาพบนายฉ่อ ไม่มีชื่อสกุล อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 51 และนายบูแหละ ไม่มีชื่อสกุล อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 112 ทั้งสองเดินลงมาจากภูเขาสูง และเล่าให้ฟังว่า ได้มานอนเฝ้าไร่นาที่กระท่อมดังกล่าว และเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนัก ได้ยินเสียงต้นไม้หัก และเสียงน้ำป่าไหลหลากจึงได้เรียกเพื่อน ๆ ทั้ง 4 คนตื่น ซึ่งต่างคนต่างคนต่าง ก็วิ่งหนีกระแสน้ำป่าที่ไหลเชียวอย่างรุนแรง จนกระทั่งรุ่งเช้าทราบว่านายเด้ เสียชีวิตถูกกระแสน้ำป่าซัด ส่วนนายเต๋อ ไม่มีนามสกุล อายุ 53 ปี สูญหายไป ไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่

นอกจากนั้นยังพื้นที่ทำการเกษตร ของหมู่บ้านดังกล่าว เสียหายจำนวนหนึ่ง และ บ้านห้วยเสือเฒ่า ตำบลผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ถูกน้ำป่าซัดเครื่องใช้ไฟฟ้า และบ้านเรือนได้รับความเสียหาย เช่นกัน

ขณะนี้นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้สั่งการให้อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เร่งสำรวจความเสียหาย พื้นที่การเกษตร ที่อยู่อาศัย ถนน เพื่อทำการให้ความช่วยเหลือต่อไป/



ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน
    หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

จังหวัดแพร่ แจ้งเตือนประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนหนักในระยะนี้

จังหวัดแพร่แจ้งเตือนประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนหนักในระยะ 26-30 สิงหาคมนี้ อาจส่งผลให้เกิดอุทกภัย ดินโคลนถล่ม

นายศักดิ์ชัย จ.ผลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าวว่า จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า ในช่วงวันที่ 26-30 สิงหาคม 2557 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะนี้มีคลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนผ่านเข้ามาในอ่าวไทยตอนบน ประกอบกับร่องมรสุมที่พาดผ่านจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่

เพื่อเป็นการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากฝนตกหนัก อาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สิน และผลผลิตทางการเกษตร  จังหวัดแพร่จึงขอแจ้งเตือนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการรับสถานการณ์ และให้ทุกอำเภอดำเนินการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนภัยให้ราษฎรได้รับทราบถึงสภาวะอากาศ ที่จะมาถึง เพื่อให้สามารถเตรียมรับสถานการณ์ และหาวิธีการป้องกันและแก้ไข หลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ให้ระมัดระวังภัยจากธรรมชาติ ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทั้งบ้านเรือน โรงเรือนและพืชผลทางการเกษตร

และขอให้เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติ ในระยะ 4-5 วันนี้ ควรจัดเจ้าหน้าที่อยู่ปฏิบัติงานเฝ้าระวังเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ รวมถึงใช้ประโยชน์จากมิสเตอร์เตือนภัยที่ประจำอยู่ในหมู่บ้านเสี่ยงภัย ในการแจ้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และรายงานสถานการณ์ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นให้ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจทราบทุกระยะจนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุด   ทางโทรศัพท์หมายเลข 0-5553-3680 โทรสาร 0-5552-2513  หรือสายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง




ฉัตรชัย พวงขจร /ข่าว /พิมพ์

กรมการกงสุลกำหนดจัดหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ ที่จังหวัดแพร่

กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดจัดหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่มาให้บริการประชาชนในจังหวัดแพร่ ที่ศาลาประชาคมจังหวัดแพร่ ระหว่างวันที่ 22–26 กันยายน 2557    

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รับแจ้งจาก กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศว่า ทางกรมการกงสุลกำหนดจัดหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่มาให้บริการประชาชนในจังหวัดแพร่ ที่บริเวณศาลาประชาคมจังหวัดแพร่ อำเภอเมืองแพร่ ระหว่างวันที่ 22–26 กันยายน 2557 ตั้งแต่เวลา 08.00–16.30 น. โดยเปิดให้บริการรับคำร้องเฉพาะหนังสือเดินทางบุคคลทั่วไป

ผู้สนใจติดต่อยื่นคำร้องเพื่อทำหนังสือเดินทาง ได้ตามวันและเวลาดังกล่าว โดยนำเอกสารประกอบการขอหนังสือเดินทางประกอบด้วย

กรณีบุคคลทั่วไป ใช้บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง) ที่มีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ที่ยังไม่หมดอายุและไม่ถูกยกเลิก

กรณีผู้เยว์ (อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์)  ใช้ใช้บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง) กรณียังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ให้ใช้สูติบัตรที่มีเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก (ตัวจริง) ทะเบียนบ้านหรือสำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อผู้ยื่นคำร้องถูกต้อง (ไม่อยู่ระหว่างการย้ายหรืออยู่ในทะเบียนบ้านกลางหรือขัดข้องด้วยเหตุอื่น) บัตรประจำตัวประชาชนของบิดาและมารดา (ตัวจริง) บิดาและมารดาต้องมาลงนามให้ความยินยอมแก่ผู้เยาว์ทั้งสองคน ในขณะยื่นคำร้อง

กรณีบิดาและมารดามิได้จดทะเบียนสมรสและผู้เยาว์อยู่ในความอุปการของมารดาแต่ผู้เดียวให้มารดาเป็นผู้ลงนามพร้อมแสดงหนังสือรับรองการปกครองบุตรที่ออกโดยอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่น (ตัวจริง)

กรณีบิดาและมารดาจดทะเบียนอย่า ให้ผู้ใช้อำนาจปกครองผู้เยาว์แต่เพียงผู้เดียวที่ระบุในบันทึกการหย่าเป็นผู้ลงนามให้ความยินยอมพร้อมกับบันทึกการหย่า (ตัวจริง)

กรณีบิดาหรือมารดาคนใดคนหนึ่งไม่สมารถมาลงนามให้ความยินยอมได้ ให้ผู้นั้นทำหนังสือยินยอมจากอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่น (ตัวจริง) และนำมาแสดงใบเปลี่ยนชื่อหรือสกลของผู้เยาว์ บิดามารดาตัวจริง(หากมี) ทำเนียมการทำหนังสือเดินทาง 1,000.- บาท ค่าส่งไปรษณีย์ (EMS) 40.- บาท




วัชระ เพชรพลอย/ข่าว /พิมพ์

เด็กนักเรียนที่จังหวัดแพร่อาหารเป็นพิษถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแพร่จำนวน 21 คน

เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านต้นไคร้ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่รับประทานอาหารเป็นพิษคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแพร่จำนวน 21 คน

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (27ส.ค.57) ที่โรงพยาบาลแพร่มีเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านต้นไคร้ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ถูกนำตัวส่งเข้ารับการรักษาจำนวน 21 คน โดยเด็กส่วนใหญ่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย อ่อนเพลีย เนื่องจากอาหารเป็นพิษ ทั้งนี้เด็กนักเรียนได้รับประทานอาหารกลางวันวานนี้(26ส.ค.57) โดยรับประทานข้าวกับน้ำพริกอ่อง จนมีอาการท้องเสียหลายคน ซึ่งบางรายถูกนำส่งโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืน และเช้านี้เด็กก็ป่วยพร้อมกันจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลแพร่ เพื่อให้แพทย์ พยาบาลดูแลอาการไปก่อน

อย่างไรก็ตามในระยะนี้เป็นช่วงอากาศที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ที่อาจจะทำให้อาหารเน่า หรือบูดเสียได้ง่าย ประกอบกับน้ำพริกอ่องมีส่วนประกอบคือมะเขือเทศกับหมู ซึ่งมีรสเปรี้ยวด้วยอาจจะไม่ได้สังเกตว่ามันใกล้บูดหรือเปล่าเด็กๆ เมื่อรับประทานเข้าไปจึงมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสียดังกล่าว



ฉัตรชัย พวงขจร /ข่าว /พิมพ์

เจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกพะเยา ร่วมกับฝ่ายปกครอง ตชด. ป่าไม้ เข้าตรวจยึดไม้สักท่อนจำนวนมากที่ถูกซุกซ่อนไว้ในป่าหลังมหาวิทยาลัยพะเยา

วันนี้ (27 ส.ค.57) นายณรงค์ ถูกอย่าง ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.เมืองพะเยา พร้อมด้วยนายวิชาติ ใจสมิงหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่1 พะเยา (แม่นาเรือ) , เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกพะเยา และตำรวจ สภ.เมืองพะเยา ได้เข้าทำการตรวจยึดไม้สักท่อนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ฟุต ยาว 3 เมตร จำนวน 3 กอง รวม 28 ท่อน ที่ถูกตัดและนำมาซุกซ่อนอยู่ในสวนป่าหลังมหาวิทยาลัยพะเยา บ้านหม้อแกงทอง หมู่ 1 ต.แม่กา อ.เมืองพะเยา โดยเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพะเยา พร้อมเร่งทำการสืบสวนหาที่มาของไม้ทั้งหมด เนื่องจากขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจยึดนั้นไม่พบผู้กระทำผิด อีกทั้งบริเวณดังกล่าวเป็นสวนป่าที่มีการปลูกไม้สักจำนวนมากแต่กลับไม่มีร่องรอยการตัดโค่น ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ขบวนการลักลอบตัดไม้ น่าจะตัดโค่นมาจากที่อื่นแล้วนำมาซุกซ่อนไว้อำพรางตาเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.พะเยา
หน่วยงาน : สวท.พะเยา

อุตสาหกรรมพะเยา เชิญชวนผู้ผลิตชุมชนที่ใบรับรองใกล้หมดอายุหรือหมดอายุแล้วติดต่อขอยื่นการรับรองใหม่ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

นางกฤษนันท์ ทะวิชัย อุตสาหกรรมจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพะเยา ได้ดำเนินงานในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP จังหวัดพะเยา ให้ได้รับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ตามโครงการมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งผลที่ได้จากการได้รับมาตรฐาน มผช. ทำให้สินค้าของกลุ่มผู้ผลิตชุมชนในจังหวัดพะเยาเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค รวมทั้งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ได้รับการคัดเลือกเป็นสินค้าระดับ 5 ดาว ตามโครงการคัดสรรสุดยอด 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) จะมีอายุ 3 ปี ดังนั้นจึงขอให้ผู้ผลิตที่ใบรับรองใกล้หมดอายุหรือหมดอายุแล้วให้ทำการติดต่อขอยื่นการรับรองใหม่ ตลอดจนผู้ผลิตชุมชนใดที่ผลิตภัณฑ์ของตนเองยังไม่ได้เข้าสู่ระบบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนก็สามารถไปยื่นขอการรับรองได้ ที่ สำนักงาน อุตสาหกรรมจังหวัดพะเยา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

สำหรับคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขอ ต้องเป็นผู้ผลิตในชุมชนหรือจากโครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ ที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการอำนวยการ หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งชาติ (กอ.นตผ.) และสมาชิกของกลุ่มเกษตร กลุ่มสหกรณ์หรือกลุ่มอื่นๆ ตามกฎหมายวิสาหกิจชุมชน เช่น กลุ่มอาชีพ กลุ่มอาชีพก้าวหน้า กลุ่มธรรมชาติ เป็นต้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือยื่นขอใบรับรองคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนได้ที่ ฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพะเยา โทร. 054 – 449638 ในวันเวลาราชการ




ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ
หน่วยงาน : สวท.พะเยา