วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดโครงการค่ายเยาวชนสมานฉันท์ เพื่อให้เยาวชนเกิดจิตสำนึก ในเรื่องความสมานฉันท์

เช้าวันนี้ ( 14 มิถุนายน 2557) นายสุทธา สายวาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิด โครงการค่ายเยาวชนสมานฉันท์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายตามพระราชดำริ ตำบลผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน โดยมีนักเรียน นักศึกษา ร่วมโครงการจำนวน 100 คน เพื่อให้เยาวชนเกิดจิตสำนึก ในเรื่องความสมานฉันท์ ได้แก่ เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การยอมรับในความแตกต่าง หลากหลายเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และวัฒนธรรม พร้อมทั้งให้เยาวชน เกิดจิตสำนึกในการเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วนของสังคมไทยให้มาร่วมมือกัน รวมพลังเสริมสร้าง สันติสุข ความสงบสุข ความสมานฉันท์ ให้กลับคืนสู่ประเทศ พร้อมกับการพัฒนาที่ยั่งยืน และให้เยาวชนมีคุณธรรม จริยธรรม เป็นคนดีของสังคม ร่วมกันพัฒนาประเทศชาติให้เจริญสืบไป

กิจกรรมในงานประกอบด้วย การบรรยายเรื่อง ศาสนาคริสต์ในประเทศไทย บทบาท ความสำคัญ พิธีกรรม โดย นายไชยโรจน์ เหลืองเงิน ผู้แทนศาสนาคริสต์/ การบรรยายศาสนาอิสลามในประเทศไทย บทบาท ความสำคัญ พิธีกรรม โดยนายชาติชาย น้อยสกุล รักษาการผู้อำนวยการกองการศึกษา เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน /การบรรยายเรื่องศาสนาพุทธกับเยาวชนไทย โดยพระครูอนุสิฐธรรมสาร เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยกองมู รองเจ้าคณะ จังหวัดแม่ฮ่องสอน/ การบรรยายเรื่อง เยาวชนกับการสร้างความสมานฉันท์ โดย นายสุทธิศักดิ์ สุขบุญพันธ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน และการบรรยายองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดย นายประเสริฐ ประดิษฐ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน โครงการจะมีไปจนถึงวันพรุ่งนี้ ( 15 มิถุนายน 2557)


ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน/กัญญพร ต่าดู
    หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 แถลงข่าวการดำเนินงาน ตามกรอบนโยบายของ คสช. ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน

เช้าวันนี้ (14 มิถุนายน 2557) พันเอกชายแดน กฤษณสุวรรณ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 แถลงข่าวการดำเนินการตามกรอบนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ต่อสื่อมวลชนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 บ้านม่อนตะแลง ตำบลผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อทราบถึงนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยแบ่งเป็น 3 ระยะ นโยบายเร่งด่วนที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติจะเร่งดำเนินการ สิ่งที่จะดำเนินควบคู่กับนโยบายเร่งด่วน และงานที่ได้ดำเนินการที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้แก่ การควบคุมพื้นที่เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมให้เกิดความปลอดภัย /การสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคม โดยการใช้การประชาสัมพันธ์ของสถานีวิทยุแห่งประเทศไทยจังหวัดแม่ฮ่องสอน FM104 MHz ในรายการรู้รักสามัคคี ออกอากาศทุกวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ เวลา 09.10-10.00 น./ การจัดทีมวิทยากรบรรยายให้กับส่วนราชการ ส่วนท้องถิ่น ประชาชน ที่จัดการประชุมหรืออบรมทุกพื้นที่ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ/ การจัดอบรมโครงการ สมานฉันท์รวมพลังสร้าง อุดมการณ์รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จำนวน 2 รุ่น จำนวน 120 คน เพื่อสร้างความรัก ความสามัคคี และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ /จัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อให้เกิดความปรองดองสมานฉันท์และประชาชนในชาติเกิดความรักความสามัคคี ตระหนักถึงความสำคัญของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ /การจัดระเบียบชุมชน /การช่วยเหลือประชาชนด้านอื่นๆ โดยการร่วมมือจากทุกฝ่าย

พร้อมทั้ง แจ้งผลการดำเนินการ การกวาดล้างอาวุธสงคราม กระสุน และวัตถุระเบิด ผลการจับกุม 8 ครั้ง การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ผลการจับกุม 6 ครั้ง การป้องกันและแก้ไขปัญหาลักลอบตัดไม้และการบุกรุกพื้นที่ป่า ผลการจับกุม 23 ครั้ง การกวาดล้างปราบปรามบ่อนการพนัน ผลการจับกุม 3 ครั้ง

และแผนการปฏิบัติต่อไป จะยังคงกวาดล้างการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ เช่น การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ยาเสพติด แรงงานต่างด้าว เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับสภาพแวดล้อมในจังหวัด การจัดการพบปะกับทุกๆกลุ่มประชาชนอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับทัศนคติ การดำเนินงานตามโครงการสีขาวต่อไป

ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน/กัญญพร ต่าดู
    หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 จัดกิจกรรม คืนความสุขให้กับประชาชน ตามนโยบาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

บ่ายวันนี้ ( 14 มิถุนายน 2557) พันเอกชายแดน กฤษณสุวรรณ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 นำกำลังพลหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 จัดกิจกรรม คืนความสุขให้กับประชาชน ที่หอประชุมองค์การบริการส่วนตำบลผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน โดยมีประชาชนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทหารกับประชาชน และเสริมสร้างความสุขให้ประชาชน ตามนโยบายหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก กิจกรรมในงานประกอบด้วย การแสดงดนตรี /บริการตัดผมฟรี/บริการรับเรื่องร้องทุกข์/ บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้น โดยหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ จากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 และบริการเครื่องดื่มและไอศครีมฟรีตลอดงาน



ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน/กัญญพร ต่าดู
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

กองกำลังรักษาความสงบประจำพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน แถลงผลงานและคืนความสุขให้ประชาชน


เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2557 ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 แม่ฮ่องสอน ได้จัดแถลงผลการปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบในพื้นที่แม่ฮ่องสอน โดย พันเอกชายแดน กฤษณสุวรรณ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 พร้อมด้วยคณะได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนและกลุ่มพลังมวลชน เพื่อให้ทราบถึงการดำเนินการปราบปรามการกระทำผิดกฏหมายในช่วงที่ประกาศกฏอัยการศึก ซึ่งมีการดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดทั้งอาวุธ ยาเสพติด การพนัน การบุกรุกและทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งมีผู้ต้องหาทั้งที่จับกุมได้และอยู่ระหว่างการออกหมายจับกุม ซึ่งพันเอกชายแดน กล่าวว่า ผู้กระทำผิดกฎหมายที่ลักลอบตัดไม้และแปรรูปมีทั้งชาวบ้าน พ่อค้า นักธุรกิจและข้าราชการ ซึ่งได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีตามกฏหมายแล้วจำนวนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งอยู่ระหว่างการออกหมายจับ

ส่วนกลุ่มพลังมวลชนที่มีความคิดเห็นต่างกันเราได้เชิญมาพูดคุยสร้างความเข้าใจกันหมดแล้ว ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และต่อไปก็จะเป็นการสร้างความรักความสามัคคี สร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น โดยเราจะออกพบปะและนำความสุขไปสู่ประชาชนทุกพื้นที่ สำหรับในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอปาย และอำเภอปางมะผ้า มีการจับกุมผู้กระทำผิดการกวาดล้างอาวุธสงคราม ได้ของกลางที่มีทั้งอาวุธสงคราม ลูกระเบิด และเครื่องกระสุนปืน ส่วนยาวเสพติดได้ผู้ต้องหา 7 คน ยาบ้า1 หมื่นกว่าเม็ด และเงินสดอีกกว่า 1 ล้าน 1 แสนบาท

ส่วนการจับกุมผู้ลักลอบตัดไม้และบุกรุกพื้นที่ จับกุมได้ 23 ครั้ง ผู้ต้องหา 7 คน ของกลางมีทั้งไม้สักท่อน 700 ท่อน ไม้กระยาเลย 8 ท่อน ไม้สักแปรรูป 1,702 แผ่น บ้านไม้สักพร้อมที่ดิน 1 หลัง และอุปกรณ์เลื่อยยนต์อีกจำนวนหนึ่ง ขณะนี้ได้มีการออกหมายจับ นายจารุวงศ์ เรืองสุวรรณ ซึ่งมีความผิดร่วมกันมีไม้สักแปรรูป ไม้กระยาเลย ไว้ในความครบครองและร่วมกันตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยมิได้รับอนุญาต ส่วนการบุกรุกพื้นที่ลำน้ำปายประมาณ 2 ไร่เศษ อยู่ระหว่างดำเนินการเรื่องเพื่อตรวจสอบของกรมเจ้าท่า

ข่าวโดย : สมาน ต้นใส / สวศ.แม่ฮ่องสอน
    หน่วยงาน : สวศ. แม่ฮ่องสอน

เจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจภูธรจังหวัด ตชด.และเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดพะเยา เข้าตรวจค้นเรือนจำ ตามนโยบาย คสช.

เช้าวันนี้ (14 มิ.ย.57) เวลาประมาณ 06.00 น.เรืออากาศตรี สุวิชชา แก้วมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา นำกำลังเจ้าหน้าที่เรือนจำ เจ้าหน้าที่ทหาร จากจังหวัดทหารบกพะเยา ตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 กำลัง อส.จังหวัด รวมกว่า 200 นาย สนธิกำลังเข้าทำการตรวจค้นเรือนจำจังหวัดพะเยา ตามนโยบาย คสช.หลังพบเบาะแสว่าอาจจะมีการลักลอบกระทำผิดกฎหมายและเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยเจ้าหน้าที่เข้าทำการจู่โจมตรวจค้น และตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดกับผู้ต้องขัง ซึ่งจากการตรวจค้นพบเพียงสิ่งของต้องห้าม เช่นไฟแช็ค สิ่งของเทียมอาวุธ รวมมากกว่า 40 ชิ้น

โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ เพื่อต้องการให้เรือนจำแห่งนี้ปราศจากการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย และจะเข้มงวดเพื่อให้เรือนจำเป็นเรือนจำสีขาว เพราะที่ผ่านมายังมีการกระทำผิดทั้งแอบลักลอบกระทำความผิดแต่ก็เป็นสิ่งของเล็กน้อยไม่พบยาเสพติด เนื่องจากมีการเข้าตรวจค้นอย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้ผู้กระทำความผิดเกรงว่าจะถูกตรวจค้นเจอ



ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.พะเยา
หน่วยงาน : สวท.พะเยา

ผบ.กกล.รส. จทบ.พะเยา แถลงคืบหน้าสร้างความปรองดองสมานฉันท์

วันนี้ (14 มิ.ย.57) เวลา10.00 น. ที่ ห้องประชุม กองบัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกพะเยา พล.ต.ชัยวัฒน์ ธนารุณ ผบ.กกล.รส. จทบ.พะเยา ,นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ รอง ผวจ.พะเยา, พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ ผบก.ภ.จ.พะเยา,นายวรวิทย์ บุรณศิริ นายก อบจ.พะเยา, และตัวแทน มหาวิทยาลัยพะเยา ร่วมแถลง ต่อสื่อมวลชนโดยมีหน่วยงานราชการ เอกชน ประชาชน นิสิตมหาวิทยาลัยพะเยา และสื่อมวลชน เข้าร่วมฟังแถลงการณ์ การคลี่คลายสถานการณ์พร้อมทั้งขับเคลื่อนกระบวนการปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูปบ้านเมือง โดยได้มีการว่างนโยบาย ตลอดถึงขั้นตอนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาปฏิรูปประเทศ ให้พ้นวิกฤติ ตลอดจนสร้างความมั่นคงให้ประเทศก้าวหน้าและคืนความสุขให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด

พล.ต.ชัยวัฒน์ ธนารุณ ผบ.กกล.รส. จทบ.พะเยา กล่าวว่า ทาง กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกพะเยา กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกพะเยา ได้ร่วมกับทุกภาคส่วนตลอดจนประชาชนได้ร่วมกันขับเคลื่อนการปรองดองสมานฉันท์ โดยการจัดทำกิจกรรมคืนความสุขให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้ทุกกลุ่มหันมาร่วมมือกันโดยยึดหลักสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และความสงบสุขปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ และทาง กกล.รส.จทบ.พะเยา มีการจัดกิจกรรมมอบฝาย , ปลูกข้าวไร่ การแข่งขันกีฬา และอื่น ๆ ให้กับพี่น้องชาวจังหวัดพะเยา เพื่อให้เกิดความรักความสามัคคี อย่างยั่งยืน โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก



ข่าวโดย : ทีมข่าว ส.ปชส.พะเยา
หน่วยงาน : ส.ปชส.พะเยา

กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกพะเยา แถลงผลการดำเนินงานการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของประชาชนในพื้นที่

วันนี้ (14 มิ.ย.57) พล.ต.ชัยวัฒน์ ธนารุณ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกพะเยา พร้อมด้วยนายนิมิต วันไชยธนวงศ์ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา , พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา ,นายวรวิทย์ บุรณศิริ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา ,น.ส.จุฬาสินี พรหมเผ่า นายกเทศมนตรีเมืองพะเยา และตัวแทน มหาวิทยาลัยพะเยา ร่วมแถลงผลการดำเนินงานของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกพะเยาต่อสื่อมวลชน เพื่อการส่งต่อข้อมูลสู่ประชาชนเป็นไปอย่างถูกต้อง ณ ห้องประชุมกองบังคับการจังหวัดทหารบกพะเยา โดยมีตัวแทนภาครัฐ เอกชน ประชาชน นิสิตมหาวิทยาลัยพะเยา และสื่อมวลชนในพื้นที่ เข้าร่วมรับฟังแถลงการณ์ การคลี่คลายสถานการณ์พร้อมทั้งขับเคลื่อนกระบวนการปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูปบ้านเมืองโดยได้วางนโยบาย ตลอดจนขั้นตอนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาปฏิรูปประเทศ ให้พ้นวิกฤติ สร้างความมั่นคงให้ประเทศก้าวหน้าและคืนความสุขให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด

พล.ต.ชัยวัฒน์ ธนารุณ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกพะเยา กล่าวว่า ทางกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกพะเยา ได้ร่วมกับทุกภาคส่วนตลอดจนประชาชน ขับเคลื่อนการปรองดองสมานฉันท์ โดยการจัดกิจกรรมคืนความสุขให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้ทุกกลุ่มหันมาร่วมมือกันโดยยึดหลักสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และความสงบสุขปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ อีกทั้งยังได้มีการจัดกิจกรรมมอบฝาย , การปลูกข้าว , การแข่งขันกีฬา และอื่น ๆ ให้กับพี่น้องชาวจังหวัดพะเยาเพื่อให้มีความรักความสามัคคี อย่างยั่งยืน โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก




ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.พะเยา
หน่วยงาน : สวท.พะเยา

จังหวัดน่าน จัดกิจกรรมตรวจความพร้อมของชุดปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

จังหวัดน่าน โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกน่าน จัดกิจกรรมตรวจความพร้อมของชุดปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และสร้างความมั่นใจต่อประชาชนชาวน่าน

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2557 ที่จังหวัดทหารบกน่าน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน นายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดกิจกรรมตรวจความพร้อมของชุดปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เพื่อตรวจสอบความพร้อมของหน่วยทหาร และหน่วยงานราชการ ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดน่าน ได้มีความพร้อมสำหรับการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น พร้อมกล่าวให้โอวาทและแนวทางการปฏิบัติแก่กองร้อยเฉพาะกิจช่วยเหลือประชาชน และทีมกู้ภัยของจังหวัดน่าน ทั้งภารส่วนราชการและประชาชน โดยมี พลตรีวิจักขฐ์ สิริบรรสพ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกน่าน/ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกน่าน พล.ต.ต ณรงค์ชัย วงษ์สามี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน พันเอกชัชวาล กุลกุศล รอง ผอ.รมน.จว.นน. หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมกิจกรรมฯ เป็นจำนวนมาก

การจัดกิจกรรมของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกน่าน ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์อุทกภัยใหญ่ในพื้นที่จังหวัดน่าน เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่จังหวัดน่านเป็นจำนวนมาก และในช่วงนี้จังหวัดน่านมีฝนตกอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ อาจทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มได้ และการจัดกิจกรรมได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการต่างๆ หน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดน่าน อาทิเช่น จังหวัดทหารบกน่าน กองพันทหารม้าที่ 10 กองพันทหารม้าที่ 15 กรมทหารพรานที่ 32 โรงพยาบาลค่ายสุริยะพงษ์ จังหวัดน่าน ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน สาธารณสุขจังหวัดน่าน โรงพยาบาลน่าน องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลเมืองน่าน เทศบาลเมืองน่าน องค์การบริหารส่วนตำบลดู่ใต้ องค์การบริหารส่วนตำบลผาสิงห์ และหัวหน้าชุมชนทุกชุมชนในเขตเทศบาลเมืองน่าน เข้าร่วมกิจกรรมฯ ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้มีความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชน และจะยังเป็นการสร้างความมั่นใจต่อประชาชนชาวจังหวัดน่านว่า หากเกิดภัยพิบัติแล้วจะได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีต่อไป



รดา บุญยะกาญจน์ / ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน

จังหวัดน่าน แถลงข่าวการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่จังหวัดน่าน และยึดทรัพย์สินได้เป็นจำนวนมาก

จังหวัดน่าน แถลงข่าวการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่จังหวัดน่าน ตรวจค้นและยึดทรัพย์ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ได้ของกลางเป็นปืนลูกซอง เงินสดกว่า 5 แสนบาท บัญชีธนาคารต่างๆ กว่า 20 บัญชี มีเงินหมุนเวียนกว่า 20 ล้านบาท พร้อมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และโทรศัพท์มือถือ เป็นจำนวนมาก

นายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ในฐานะผู้อำนวยการ กอ.รมน.น่าน พลตรี วิจักขฐ์ สิริบรรสพ ผู้บังคบการจังหวัดทหารบกน่าน/ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกน่าน พล.ต.ต.ณรงค์ชัย วงค์สามี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน พันเอกชัชวาล  กุลกุศล รอง ผอ.รมน.จว.น่าน หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกันแถลงข่าวจากผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่จังหวัดน่าน และสามารถยึดทรัพย์สินได้เป็นจำนวนมาก

ทางด้าน พล.ต.ต. ณรงชัย วงษ์สามี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ได้เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ร่วมกับ กรมทหารพรานที่ 32 ฝ่ายปกครอง ได้สนธิกำลังทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 294 หมู่ 3 ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน และสามารถยึดทรัพย์ที่น่าเชื่อว่าได้มาจากการค้ายาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งของกลางที่ยึดได้ในครั้งนี้ ประกอบด้วย เงินสด จำนวน 559,000 บาท รถยนต์กะบะแค๊ป ยี่ห้อ ISUZU หมายเลขทะเบียน บต-3065 น่าน จำนวน 1 ค้น รถยนต์ยี่ห้อเซฟโลเล็ต 4 ประตู หมายเลขทะเบียน กต 1914 พิษณุโลก จำนวน 1 คัน รถจักรยานต์ จำนวน 3 คัน สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ จำนวน 28 บัญชี มีเงินหมุนเวียนในบัญชีประมาณ 20 ล้านบาท และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง ซึ่งของกลางที่สามารถยึดได้นั้น เป็นผลจาการทำงานของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดน่าน ที่ได้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่จังหวัดน่าน ส่วนของกลางที่ยึดได้จะทำการตรวจสอบ เพื่อสืบสวนขยายผลและดำเนินการต่อไป




รดา บุญยะกาญจน์ / ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน

ผวจ.น่าน เตือนประชาชนระวังแก๊งค์หลอกลวงต้มตุ๋นแจกลูกไก่

ผวจ.น่าน เตือนประชาชนชาวจังหวัดน่านและจังหวัดใกล้เคียง ให้ระวังแก๊งค์หลอกลวงต้มตุ๋นแจกลูกไก่ พร้อมเสนอขายยารักษาโรคและอาหารไก่ให้กับชาวบ้าน

นายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า ด้วย สภ.เมืองน่าน ได้รับแจ้งว่าในขณะนี้มีแก๊งค์ต้มตุ๋น ออกต้มตุ๋นหาเงินกับชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดน่าน โดยการนำลูกไก่มาแจก พร้อมขายยารักษาโรคและอาหารไก่ให้กับชาวบ้าน โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2557 ที่หอประชุมหมู่บ้าน หมู่ 10 ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ได้มีกลุ่มชายหญิงขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำตาล รุ่นวีโก้ หมายเลขทะเบียน ตษ 9244 กทม. เข้ามาแจกลูกไก่ พร้อมนำเสนอขายยารักษาโรคและอาหารไก่ให้กับชาวบ้าน ซึ่งเป็นการกระทำความผิด พรบ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ. 2542/ พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 และพ.ร.บ. ควบคุมอาหารสัตว์ พ.ศ. 2525 ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ขับรถยนต์หลบหนีไป และต่อมา เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2557 ที่ สภ.ท่าวังผา ได้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดในลักษณะเดียวกันได้อีกที่เขต สภ.ท่าวังผา จังหวัดน่าน และเชื่อว่าน่าจะเป็นผู้กระทำความผิดกลุ่มเดียวกันกับที่ สภ.เมืองน่าน ได้รับแจ้งไว้

ดังนั้น จึงขอแจ้งเตือนประชาชนชาวจังหวัดน่านและจังหวัดใกล้เคียง ได้ระวังแก๊งค์หลอกลวงต้มตุ๋นในลักษณะดังกล่าว ซึ่งหากประชาชนพบเห็นการกระทำของกลุ่มดังกล่าว สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ที่หมายเลข 191 ทั้งนี้เพื่อเข้าตรวจค้นและจับกลุ่มมาดำเนินคดี และอย่าได้หลงเชื่อบุคคลผู้แอบอ้างในลักษณะดังกล่าวซึ่งจะนำมาซึ่งความเสียหายแก่ทรัพย์สิน และอาจมีความผิดชอบตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์/ พ.ร.บยา และ พ.ร.บ. ควบคุมอาหารสัตว์อีกด้วย



รดา บุญยะกาญจน์ / ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน

จังหวัดเชียงใหม่ เปิดการฝึกอบรมโครงการส่งเสริมวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตยเพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์

จังหวัดเชียงใหม่ เปิดการฝึกอบรมโครงการส่งเสริมวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตยเพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ประจำปี 2557 ของอำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคืนความสุขให้กับประชาชนในประเทศ ของคนในชาติให้กลับมาเหมือนเดิม โดยมีเป้าหมายคือลดความขัดแย้ง

วันนี้ (14 มิ.ย. 57) เวลา 09.00 น. นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมโครงการส่งเสริมวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตยเพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ และได้มอบแนวทางการดำเนินงานนโยบายการสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ณ ห้องประชุมราชพฤกษ์ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ร่วมกับส่วนราชการอำเภอ ส่วนราชการท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้านคณะกรรมการหมู่บ้าน และประธานกลุ่มต่างๆ ร่วมประมาณ 2,000 คน ร่วมฝึกอบรมโครงการส่งเสริมวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตยเพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์

นายอาคม สุขพันธ์ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยการนำของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เข้ามาบริหารปกครองประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อคืนความสุขให้ประชาชนในประเทศ สร้างความรักษ์ความสามัคคี ปรองดองสมานฉันท์ ของคนในชาติให้กลับมาเหมือนเดิม โดยมีเป้าหมายคือลดความขัดแย้ง รวมทั้งรวบรวมข้อมูลประเด็นทุกปัญหา จากความคิดเห็นของประชาชนทุกกลุ่มในหมู่บ้านหรือชุมชน

อำเภอเมืองเชียงใหม่ แบ่งการปกครองแยกเป็น ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่มี 13 ตำบล และนอกเขตเทศบาลนครเชียงใหม่มี 9 ตำบล 78 หมู่บ้าน ซึ่งในการจัดทำโครงการส่งเสริมวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตยเพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ อำเภอเมืองได้คัดเลือกผู้นำหมู่บ้านประกอบด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน สมาชิกสภาท้องถิ่น ประธานกลุ่มต่างๆ ปราชญ์ชาวบ้าน หมู่บ้านละ 25 คน จำนวน 78 หมู่บ้าน รวมทั้งสิ้นประมาณ 2,000 คน ซึ่งเป็นแกนนำตามธรรมชาติของหมู่บ้านเข้าร่วมการอบรมรับทราบแนวทางการดำเนินการเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน ภายหลังจากได้รับทราบแล้วสามารถนำไปจัดทำประชาคมรับฟังความคิดเห็น รวมทั้งปัญหาความต้องการของประชาชน เพื่อให้ส่วนราชการต่างๆ ทุกภาคส่วนร่วมบูรณาการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอันจะเป็นเป้าหมายให้ประชาชนเกิดความปรองดองทุกพื้นที่

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ผู้เข้าร่วมประชุมต้องทำความเข้าใจว่าภาวะปัจจุบันไม่ใช่ภาวะปกติ การดำเนินการตามประกาศของ คสช. (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) หลายฉบับที่เป็นนโยบายเร่งด่วน โดยเฉพาะการปราบปรามยาเสพติด การปราบปรามการพนัน การปราบปรามการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและเข้มข้น ห้ามชุมนุมทางการเมือง ห้ามสร้างความขัดแย้งและต่อต้านการปฏิบัติงานของ คสช.

แนวทางการสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป โดยมีเป้าหมายได้แก่ 1. ลดความขัดแย้งและสลายสีเสื้อให้ทุกกลุ่มหันมาร่วมมือกัน โดยยึดถือสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความสุขสงบปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ 2. รวบรวมข้อมูลปัญหาทุกปัญหาในหมู่บ้านหรือชุมชน จากความคิดเห็นของประชาชนทุกส่วน การดำเนินการเพื่อให้การปฏิรูปเป็นไปตามเป้าหมาย ต้องอาศัยความร่วมมือ ในระดับหมู่บ้าน/ชุมชน เริ่มต้นจากการประชาคมหมู่บ้าน ระดมความคิดเห็นของประชาชน เพื่อใช้กำหนดแนวทางสำหรับกิจกรรมเพื่อสร้างความปรองดองให้เร็วที่สุด ในระดับอำเภอ ให้การสนับสนุนหมู่บ้านอย่างใกล้ชิด รวมทั้งรวบรวมความคิดเห็นประเด็นปัญหาของหมู่บ้าน โดยใช้ศูนย์ไกล่เกลี่ยของอำเภอเป็นเครื่องมือดำเนินการกำกับดูแลตามอำนาจหน้าที่


ข่าวโดย : ณัฏฐ์ สินันตา
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

ประชาชนชาวลำปาง ร่วมแสดงพลังสามัคคีบริจาคโลหิตช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ เนื่องในวัน "ผู้บริจาคโลหิตโลก 2557" ประชาชนชาวลำปาง ร่วมแสดงพลังสามัคคีบริจาคโลหิตช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ เนื่องในวัน "ผู้บริจาคโลหิตโลก 2557"

จังหวัดลำปาง โดยเหล่ากาชาดจังหวัดลำปาง ร่วมกับ โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง จัดกิจกรรมรวมพลังสามัคคีปรองดอง ออกหน่วยรับบริจาคโลหิตและอวัยวะจากพี่น้องประชาชน เนื่องในวัน "ผู้บริจาคโลหิตโลก 2557" ที่ อาคารหอประชุมบุญชูตรีทอง โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย ตำบลสวนดอก อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง มีนายฤทธิพงศ์ เตชะพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ให้เกียรติเป็นประธานพิธีเปิดงาน โดยมี ข้าราชการฝ่ายต่างๆ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวลำปางทุกหมู่เหล่า รวมมากกว่า 500 คน ร่วมทำกิจกรรมอันเป็นกุศล บริจาคโลหิต อวัยวะ และดวงตา

สำหรับการจัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิตในครั้งนี้ ได้จัดขึ้นภายใต้สโลแกนว่า “Safe blood for saving mothers” “บริจาคโลหิต พลิกวิกฤต ช่วยชีวิตแม่ลูก” ทั้งนี้เพื่อต้องการสนับสนุนให้มีการบริจาคโลหิตช่วยชีวิตแม่ที่มีความเสี่ยง ที่อาจเสียชีวิตระหว่างคลอดบุตร และเพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน สร้างความรัก ความสามัคคีปรองดอง ลดความขัดแย้งในสังคม โดยภายในงานนอกจากการเปิดศูนย์รับบริจาคโลหิตจากประชาชนทั่วไปแล้ว ยังได้จัดให้มีกิจกรรมร่วมแบ่งปันเรื่องราว ของผู้รอดชีวิตจากการรับโลหิต เพื่อเป็นแนวทางกระตุ้นให้ผู้มีสุขภาพดี โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนได้นำมาเป็นแบบอย่าง และเป็นแรงบันดาลใจให้เริ่มต้นการบริจาคโลหิต และกลายเป็นผู้บริจาคโลหิตอย่างยั่งยืนต่อไป พร้อมกันนี้ได้จัดให้มีการเปิดศูนย์รับบริจาคอวัยวะนอกสถานที่ ออกหน่วยรับแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะ หรือ ดวงตา ซึ่งเป็นกิจกรรม เพื่อการมีส่วนร่วม โดยประชาชนทุกช่วงวัยที่มีอายุไม่เกิน 60 ปี สามารถร่วมแสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ได้จัดกิจกรรมการประกวด Young Blood Donor, Lampang 2014 เพื่อทำการคัดเลือกตัวแทนเยาวชนเป็นอาสาสมัคร ส่งเสริมการบริจาคโลหิต ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้นำในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่การบริจาคโลหิตอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้ร่วมกิจกรรมสาธารณกุศลของเหล่ากาชาดจังหวัดลำปาง โดยกิจกรรมทั้งหมดได้จัดขึ้น เพื่อเป็นการปลูกฝัง สร้างคุณธรรมในเรื่องความเสียสละแก่ประชาชน และเยาวชน ให้ได้ตระหนักเห็นถึงความสำคัญของการให้ การเสียสละแบบไม่หวังสิ่งตอบแทน ซึ่งการบริจาคโลหิต อวัยวะ หรือดวงตา ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ประชาชนทั่วไป จะสามารถเสียสละให้แก่บุคคลอื่นได้ด้วยความสมัครใจ และยังเป็นมหากุศลในการช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์

โดยการจัดกิจกรรม ทางเหล่ากาชาดจังหวัดลำปาง ได้จัดกิจกรรมเชิญชวนให้ประชาชน ได้เข้ามาร่วมบริจาคโลหิต อวัยวะ หรือดวงตา ด้วยการมอบของที่ระลึก ใบประกาศเกียรติคุณ เพื่อเป็นการขอบคุณแก่ผู้บริจาคทุกคน พร้อมกับได้มอบเข็มผู้บริจาคโลหิตให้แก่ผู้บริจาคเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมมอบของขวัญพิเศษ ให้แก่ผู้ร่วมบริจาคโลหิตครบ 100 ครั้งขึ้นไป ตลอดจนได้จัดกิจกรรมร่วมลุ้นรางวัลใหญ่ ให้ผู้บริจาคโลหิตทุกราย ร่วมจับฉลากรับของรางวัลจากเหล่ากาชาดจังหวัด อาทิเช่น พัดลม หม้อหุงข้าว เตารีด และรถจักรยานปั่นสองล้อ เป็นต้น

ดูคลิป http://youtu.be/YYdXcfLQBpk


ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป จ.ลำปาง ประชุมมอบแนวทาง ขับเคลื่อนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ สร้างความรักความสามัคคี แก่คนในพื้นที่ จ.ลำปาง

พลตรีอุกฤษณ์ อากาศวิภาต ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรีลำปาง ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยมณฑลทหารบกที่ 32 พร้อมด้วย นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้ร่วมประชุมกับคณะผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดลำปาง ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บังคับบัญชา และหัวหน้าหน่วยงานฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ห้องประชุมอาลัมภางค์ ชั้น 4 ศูนย์ราชการจังหวัดลำปาง ตำบลพระบาท อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เพื่อมอบแนวทางการดำเนินกิจกรรมตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หลังจากที่ได้เข้าร่วมประชุมรับทราบแนวทางปฏิบัติจาก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 3 ที่จังหวัดพิษณุโลก ทั้งนี้เพื่อเร่งดำเนินการเดินหน้าขับเคลื่อนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ สร้างความรักความสามัคคีให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดลำปาง

ในการประชุม นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายดำเนินงานกิจกรรมให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ยึดแนวทางปฏิบัติตามเจตนารมณ์ ของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูประดับชาติเป็นหลัก โดยมีเป้าหมายที่จะลดความขัดแย้งในสังคม สลายสีเสื้อ นำความสงบสุขปลอดภัยมาสู่พี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ และให้ประชาชนทุกกลุ่มทุกหมู่เหล่าหันกลับมาร่วมมือกัน ด้วยการยึดถือสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นศูนย์รวมจิตใจดังเดิม ตลอดจนมีเป้าหมายในการที่จะรวบรวมข้อมูล ประเด็นปัญหาทุกปัญหาในหมู่บ้านหรือชุมชน จากความคิดเห็นของประชาชนทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ทุกพื้นที่ รวมทั้งประเด็นปัญหาที่ไม่สามารถดำเนินการได้ นำเสนอหน่วยเหนือ เพื่อดำเนินการในขั้น ”การปฏิรูป” โดยการปฏิบัติมีแผนดำเนินการใน 3 ขั้นตอน คือ ขั้นการเตรียมความพร้อม ขั้นดำเนินการ และขั้นการประมวลผล

สำหรับจังหวัดลำปาง ขณะนี้กำลังปฏิบัติอยู่ในขั้นดำเนินการ ซึ่งมีแนวทางการปฏิบัติที่จะอาศัยความร่วมมือในทุกรูปแบบ ทั้งจากพลเรือน ตำรวจ ทหารในพื้นที่ ผู้นำองค์กรชุมชน พร้อมกำหนดให้มีการปฏิบัติกิจกรรมในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน/ชุมชน ระดับอำเภอ และระดับจังหวัด โดยกิจกรรมใหญ่ๆ ที่ทางจังหวัดจะต้องมีการดำเนินการให้เป็นรูปธรรม อาทิ การเชิญแกนนำของคู่ขัดแย้งนักการเมือง ที่มีแนวความคิดแตกต่างและเป็นกลาง ตลอดจนกลุ่มนายทุนที่มีบทบาทสำคัญในการให้การสนับสนุน ประชาชน ผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ผู้บัญชาการหน่วยทหาร ตำรวจ และหัวหน้าส่วนราชการที่รับผิดชอบในพื้นที่ เข้ามาทำการเจรจาร่วมกัน ตลอดจนจะได้มีการนำกิจกรรมการมีส่วนร่วมทั้งทางวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิต เข้ามาใช้ในการลดความขัดแย้ง สร้างความปรองดองสมานฉันท์ในพื้นที่ เช่น การจัดกิจกรรม “ร่วมใจ ดำนา นำพาลำปาง สู่นครแห่งความสุข” กิจกรรม “นุ่งขาวห่มขาว สลายสีเสื้อ” การนำประชาชนร่วมโครงการขุดลอกคูคลอง สร้างฝาย ปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ รวมทั้งมีแนวทางที่จะนำกิจกรรมจิตวิทยามวลชนมาใช้ ด้วยการสร้างความบันเทิงช่วยสลายความขัดแย้ง เป็นต้น ทั้งนี้ทุกกิจกรรมจะเร่งดำเนินการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2557 พร้อมทั้งจะได้มีการสรุปรวบรวมประเด็นปัญหาข้อขัดข้องและข้อเสนอแนะต่างๆ รายงานต่อ ศปป.กอ.รมน.ภาค 3 ภายในวันที่ 10 กรกฎาคม 2557 ต่อไป

ดูคลิป http://youtu.be/0HHzgX6YKVE


ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองพลทหารราบที่ 7 ส่วนแยก 1 แถลง ผลการดำเนินงาน สร้างความปรองดอง และ รักษาความสงบ ในพื้นที่ จังหวัดลำพูน ตามนโยบาย ของ ค ส ช .

กองกำลังรักษา ความสงบเรียบร้อย กองพลทหารราบที่ 7 ส่วนแยก 1 ประจำ จ.ลำพูน ข้าราชการฝ่าย ปกครอง , เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ใน สังกัด ตำรวจภูธร จังหวัดลำพูน ร่วมกัน แถลงผลการดำเนินงาน ด้าน การ เสริมสร้างความปรองดอง และ การรักษาความสงบ ในพื้นที่ จังหวัดลำพูน รวมถึง การดำเนิน งาน ตาม นโยบาย ของ คณะรักษา ความสงบแห่งชาติ ที่ จะคืน ความสุข ให้ กับ ประเทศไทย

วันนี้ ( 14 มิถุนายน 2557 ) ที่ ห้องประชุมจามเทวี ศาลากลางจังหวัดลำพูน นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการ จังหวัดลำพูน , พลตรี สุทัศน์ จารุมณี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 จ.เชียงใหม่ / ผู้บัญชาการ กองกำลังรักษาความ กองพลทหารราบที่ 7 , พันเอก บุญยืน อินกว่าง ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความ กองพลทหารราบที่ 7 ส่วนแยก 1 , พันเอก จิตติวัศร์ ศรสุวรรณ์ รอง ผู้อำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ. ลำพูน ,พันตำรวจเอก จรัญณิ์ เริงธรรม รอง ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัด ลำพูน ร่วมกัน แถลง ผลการ ดำเนินงาน ด้าน การ เสริมสร้างความปรองดอง และ การรักษาความสงบ ในพื้นที่ จังหวัดลำพูน รวมถึง การดำเนิน งาน ตาม นโยบาย ของ คณะรักษา ความสงบแห่งชาติ หรือ คสช . ซึ่ง มี นโยบายเร่งด่วน 5 ประการ ได้แก่ การแก้ปัญหาหนี้ค้างชำระในโครงการรับจำนำข้าว , การแก้ไขใบอนุญาตโรงงานอุตสาหกรรมที่ล่าช้า เพื่อ กระตุ้นการลงทุน , การเบิกจ่ายงบดุล ปี 2557 ที่ยังไม่แล้วเสร็จ , การลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง อาทิ รถไฟรางคู่ , การจัดทำงบประมาณ รายจ่าย ปี 2558

ในการดำเนินงาน ในพื้นที่ จังหวัดลำพูน กองกำลังรักษา ความสงบเรียบร้อย กองพลทหารราบที่ 7 ส่วนแยก 1 ก็ได้ ร่วมกับ ข้าราชการ ฝ่ายปกครอง , เจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการ กวาดล้าง ตรวจค้น ตั้งจุดตรวจสกัด สถานที่ ต้องสงสัย แหล่ง ซ่องสุม สิ่งผิดกฎหมาย การพนัน ป้องกันการ เคลื่อนย้าย อาวุธ สงคราม , การลักลอบ ขนไม้เถื่อน และ ยาเสพติด ใน ทุก อำเภอ ของจังหวัดลำพูน ซึ่ง ทุกฝ่าย ได้ ร่วมกัน ปฏิบัติ งาน จน สามารถ จับ กุม ผู้ต้องหา และ ของกลางได้หลายรายการ

ด้านการ เร่ง ช่วยเหลือเกษตรกร ในโครงการรับจำนำข้าว กองกำลังรักษา ความสงบเรียบร้อย กองพลทหารราบที่ 7 ส่วนแยก 1 ได้ร่วมกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ในการเร่งจ่ายเงิน ให้แก่ เกษตร ที่ ร่วมโครงการ โดย ดำเนินการจ่ายเงินมาตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม – 10 มิถุนายน 2557 มี เกษตรกร มารับเงินไปแล้ว จำนวน 1,722 ราย คิดเป็นเงิน111,980,836 บาท ( หนึ่งร้อย สิบเอ็ดล้าน เก้าแสนแปดหมื่น แปดร้อยสามสิบหกบาท )

ด้าน การ สร้างความสามัคคีปรองดอง ได้มีการ เชิญ กลุ่ม แกนนำ ทางการเมือง ในพื้นที่ ทุกฝ่าย ประชุม สร้างความเข้าใจ และ ลงนาม ข้อตกลง เพื่อ สร้างความปรองดอง ระหว่าง ผู้ที่มีความคิดเห็นแตกต่าง ให้เห็นแก่ ความสงบสุข ของชาติ เป็นหลัก , การ จัดกิจกรรม ปฏิญาณตน สร้างความปรองดอง โดย มี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วม จำนวน 2,000 คน และ การจัด กิจกรรม ปลูกป่า ที่ อำเภอลี้ เพื่อ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ ขณะนี้ ได้มีการจัดตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์ การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ ในการปฏิบัติงาน ของ คสช. ใน ด้านต่าง ๆ ที่ศาลาประชาคม ภายในศาลากลาง จังหวัดลำพูนด้วย


ข่าวโดย : เชาวรินทร์ สอนปาละ
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

สำนักงาน ป.ป.ช. เร่งสร้างเครือข่ายบูรณาการด้านการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารองค์กรระดับจังหวัด หวังให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงผลกระทบจากการทุจริต พร้อมเข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

สำนักงาน ป.ป.ช. เร่งสร้างเครือข่ายบูรณาการด้านการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารองค์กรระดับจังหวัด หวังเสริมสร้างความเข้าใจให้ประชาชนและทุกภาคส่วนตระหนักถึงผลกระทบจากการทุจริต พร้อมเข้ามามีส่วนร่วมป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

ที่โรงแรมเดอะแกรนด์ริเวอร์ไซด์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก บุคลากรของกรมประชาสัมพันธ์ จากสำนักประชาสัมพันธ์เขต 3, 4 สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ เข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการตามโครงการสื่อมวลชนสัญจร เรื่อง ยุทธศาสตร์การบูรณาการด้านการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารองค์กรในระดับจังหวัด ครั้งที่ 3 พื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) จัดขึ้น โดย นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวต้อนรับ นายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวรายงาน และ ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานเปิดการสัมมนา เพื่อเปิดโอกาสให้บุคลากรของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด สื่อมวลชน และเครือข่ายต่อต้านการทุจริตระดับพื้นที่ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น วางแนวทางการดำเนินงานร่วมกัน นำไปสู่การแก้ไขปัญหาเชิงประชาสัมพันธ์อย่างมีประสิทธิภาพ หวังเสริมสร้างความเข้าใจที่ดีแก่ประชาชน ให้ประชาชนและทุกภาคส่วนตระหนักถึงผลกระทบจากการทุจริต พร้อมเข้ามามีส่วนร่วมป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยอาศัยความร่วมมือจากสื่อมวลชนและเครือข่าย ตลอดจนเป็นการเตรียมความพร้อม สำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัด ให้มีความรู้และแนวทางในการปฏิบัติเมื่อเกิดภาวะวิกฤติ โดยอาศัยแนวคิดด้านจิตวิทยามวลชนและการสื่อสารในภาวะวิกฤติ เพื่อบรรเทาหรือแก้สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้

ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ กล่าวว่า แม้ปัญหาการทุจริตยังไม่หายไปจากสังคมไทย แต่ก็มีสัญญาณบ่งชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จที่ชัดเจนยิ่งขึ้น สำนักงาน ป.ป.ช. จะดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตเพียงหน่วยงานเดียวไม่ได้ หากแต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคีทุกภาคส่วน โดยเฉพาะสื่อมวลชนในการร่วมกันเป็นสื่อกลางเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ เพื่อให้เกิดความสำเร็จเป็นรูปธรรม ด้วยการสร้างคุณธรรมจริยธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมไทย นั่นหมายถึงการมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน คือ ความสำเร็จของการต่อต้านการทุจริต โดยทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ
    หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ แถลงผลการปฏิบัติงาน พร้อมกำหนจัดกิจกรรม “การออกหน่วยโครงการจังหวัดเคลื่อนที่เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เมืองอุตรดิตถ์เป็นเมืองแห่งรอยยิ้ม ดูดี มีสุข” วันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๗ นี้

เมื่อเวลา ๑๐.๓๐ น.วันนี้ (๑๔ มิ.ย.๕๗) ที่สโมสรนายทหาร จังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ พลตรีธัญญพรหม อัศวจินดา ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์/ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ ร่วมกับนายชัช กิตตินภดล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์, นายศักดิ์ชัย จ ผลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พร้อมด้วย พล.ต.ต.มนตรี จินดา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ และ พ.ต.อ.ธนยินทร์ เทพรักษา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ แถลงข่าวผลการปฏิบัติงานของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อนจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ โดยมีผู้บังคับหน่วยทหาร/ผู้แทนหน่วย/กำลังพลและสื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมรับฟังและสอบถามอย่างหลากหลาย

ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ทางจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ มีพื้นที่รับผิดชอบทั้ง ๒ จังหวัด คือ อุตรดิตถ์ และแพร่ ได้มีการจัดกำลังดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่นับตั้งแต่วันที่ ๒๐ พ.ค.๒๕๕๗ เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อลดความขัดแย้งและทำให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชน ทหารใช้อำนาจเท่าที่จำเป็น ไม่เกินขอบเขต เพื่อลดความเดือดร้อนและผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชน และเมื่อสถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติก็จะได้กลับไปใช้กฎหมายปกติโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ได้มีการประเมินสถานการณ์ ตลอดเวลาโดยที่สามรรถสื่อแนวทางการปฏิบัติของ คสช.ไปยังกลุ่มประชาชนได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการปฏิบัติตามประกาศต่าง ๆ ทั้งการห้ามบุคคลออกนอกเคหะสถานหรือเคอร์ฟิว เพื่อจัดระเบียบสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายอาวุธสงคราม /การยับยั้งอาชญากรรม จนสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับและ คสช.ได้ยกเลิกประกาศเคอร์ฟิวทั่วราชอาณาจักรแล้ว นอกจากนี้ยังมีประเด็นเกี่ยวกับการเชิญบุคคลเข้ามารายงานตัว เป็นการปรับทัศนคติและขอความร่วมมือ สำหรับผู้ที่ไม่มารายงานตัวนั้นต้องถือว่าไม่ให้ความร่วมมือในการสร้างความปรองดอง รวมทั้งการระงับควบคุมสื่อต่าง ๆ บางสื่อ ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้สื่อนำเสนอข่าวที่ไม่เป็นการสนับสนุนผู้ที่มีการต่อต้านและมีการแสดงสัญลักษณ์ใด ๆ อีกทั้งการติดตามจับกุม กวาดล้างการกระทำสิ่งผิดกฎหมาย ได้แก่ อาวุธสงคราม ยาเสพติด การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า บ่อนการพนัน และสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่ ซึ่งก็ยังต้องมีมาตรการการจับกุมและเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหากมีเบาะแสให้แจ้งประสานได้ที่จังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์

โดยในห้วงต่อไป คสช.มุ่งขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดิน โดยใช้ระเบียบบริหารงานปกติของทุกส่วนราชการ สนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาระเทศให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส มุ่งสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน ส่งเสริมการค้าเสรีอย่างเป็นธรรมทั้งยังมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพ สร้างความภูมิใจในวัฒนธรรม ความเป็นชาติไทย รักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมกันนี้ยังกำหนจัดกิจกรรม "การออกหน่วยโครงการจังหวัดเคลื่อนที่เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เมืองอุตรดิตถ์เป็นเมืองแห่งรอยยิ้ม ดูดี มีสุข (Smile Smart and Happiness)"ในวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๗ นี้ และขอความร่วมมือเชิญชวนทุกคนหันมาสร้างความรักความสามัคคีปรองดองด้วยกัน ประเทศชาติก็จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ประชาชนคนไทยก็จะมีความสุขอย่างแท้จริง

พิธีอัญเชิญและถวายสักการะพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในโอกาสอัญเชิญมาประดิษฐานชั่วคราว ณ มณฑลพิธี บริเวณพุทธอุทยานเพชบุระ จังหวัดเพชรบูรณ์

วันนี้ (14 มิ.ย.57) เวลา17.30 น.ที่พุทธอุทยานเพชบุระ ตำบลสะเดียง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ พลตำรวจตรีสุกิจ สมณะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีอัญเชิญและถวายสักการะพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในโอกาสอัญเชิญมาประดิษฐานชั่วคราว ณ มณฑลพิธี บริเวณพุทธอุทยานเพชบุระ จังหวัดเพชรบูรณ์ มีการจัดขบวนอัญเชิญอย่างยิ่งใหญ่ตามแบบโบราณราชประเพณี โดยมีนายคณีธิป บุณยเกตุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์เข้าร่วมพิธี มีหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ข้าราชการตำรวจ พลเรือน ทหาร ประชาชนชาวเพชรบูรณ์เป็นจำนวนมากเข้าร่วมในพิธี ทั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 6 ได้จัดสร้างขึ้น ขนาด 2 เท่าของพระองค์จริง และได้อัญเชิญไปประดิษฐานเป็นการชั่วคราวในทุกจังหวัดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 6 จากนั้นจะอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ ตำรวจภูธรภาค 6 จังหวัดพิษณุโลกต่อไป

จังหวัดเพชรบูรณ์ แถลงผลการปฏิบัติงานของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองพลทหารม้าที่ 1 ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการคืนความสุขให้คนในชาติ

วันนี้ (14 มิ.ย.57) เวลา10.30 น. ที่ แหล่งสมาคมนายทหารค่ายพ่อขุนผาเมือง พลตรีบรรเจิด ฉางปูนทอง ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองพลหทารม้าที่ 1 พร้อมด้วย นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และพลตำรวจตรีสุกิจ สมณะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงานของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองพลทหารม้าที่ 1ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการคืนความสุขให้คนในชาติ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ารับฟัง และสื่อมวลชนท้องถิ่นทุกแขนงเข้ารับฟังการแถลงข่าว ผบ.กกล.รส.พล.ม.1 กล่าวว่า ได้ผลการปฏิบัติงาน ตามนโยบายของ คสช.โดยกองพลทหารม้าที่ 1 ร่วมกับจังหวัดเพชรบูรณ์ ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ และหน่วยงานอื่นๆ ประกอบด้วย 9 เรื่องหลัก ได้แก่ การรักษาความเรียบร้อยในพื้นที่ 11 อำเภอ จัดกำลังปฏิบัติร่วม3 ฝ่ายรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ ระบบสาธารณูปโภค เพื่อป้องกันยับยั้งการกระทำผิดกฏหมาย ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินสร้างความสามัคคีปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคม จัดตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์รับเรื่องร้องทุกข์และช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น จัดงานคืนความสุขให้คนในชาติในระดับจังหวัดและอำเภอพร้อมกับได้ปฏิบัติการกวาดล้างอาวุธสงคราม กระสุน วัตถุระเบิด ปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดยาเสพติด ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า การจัดระเบียบสังคม/ชุมชน และประการสำคัญการช่วยเหลือประชาชนในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่ง คสช.ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องช่วยเหลือในลำดับแรก โดยกองพลทหารม้าที่ 1ร่วมกับ ธกส.จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้จ่ายเงินจำนำข้าวให้กับเกษตรกรที่ร่วมโครงการ ทั้งสิ้น 17,611 ราย เป็นเงิน 2,000 ล้านบาทเศษ ปัจจุบันจ่ายเรียบร้อยแล้ว 13,008 ราย เป็นเงิน 1,480 ล้านบาทเศษ ยังคงเหลือเกษตรกรชาวนายังไม่ได้รับเงิน 4,574 ราย งบประมาณ 548 ล้านบาทเศษซึ่งจะจ่ายให้เกษตรกรชาวนาในห้วงวันที่ 16-20 มิถุนายนนี้ต่อไป

ทั้งนี้ ในการจัดแถลงข่าว ได้จัดกิจกรรมสันทนาการ บริการตรวจสุขภาพและฝังเข็มของหน่วยแพทย์หน่วยแพทย์ของกองพลทหารม้าที่ 1 องค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์และส่วนราชการต่างๆ ได้ร่วมจัดนิทรรศการและจัดเลี้ยงอาหารแก่ประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมคืนความสุขให้คนในชาติของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองพลทหารม้าที่ 1 อีกด้วย