วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานสิ่งของ พร้อมผ้าห่มกันหนาว ให้ประชาชนบ้านดอยแสง จ.แม่ฮ่องสอน


(29 ม.ค.) วันนี้ พันตำรวจโท พงษ์นรินทร์ พลนำ ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 336 อัญเชิญสิ่งของพร้อมผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน มอบให้ประชาชนบ้านดอยแสง ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 59 ครอบครัว พร้อมทั้งได้ร่วมกันทำประชาคมกับชาวบ้าน เพื่อเตรียมสร้าง โรงเรียน ตชด. บ้านดอยแสง เพื่อน้อมเกล้า น้อมกระหม่อมถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี


ข่าวโดย : สวท.แม่ฮ่องสอน

กระทรวงสาธารณสุข จัดการประชุมวิชาการ เครือข่ายหัวใจไร้พรมแดน ครั้งที่ 6 ที่จังหวัดเชียงราย

 กระทรวงสาธารณสุข จัดการประชุมวิชาการ เครือข่ายหัวใจไร้พรมแดน ครั้งที่ 6 ที่จังหวัดเชียงราย เพื่อขยายเครือข่ายการบริการผู้ป่วยโรคหัวใจให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น

ณ ห้องประชุม ดอยตุง โรงแรมดุสิต ไอส์แลนด์ รีสอร์ท เชียงราย จังหวัดเชียงราย นายทรงยศ ชัยชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน จัดการประชุมวิชาการ Cardiac Network Forum ครั้งที่ 6 เครือข่ายหัวใจไร้พรมแดน Service Plan 2014 ซึ่งสำนักงานบริหารการสาธารสุข ร่วมกับดรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จัดขึ้น เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ของบุคลากรทางการแพทย์ ขยายเครือข่ายการบริการผู้ป่วยโรคหัวใจให้ครอบคลุมพื้นที่อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว โดยมีบุคลากรทางการแพทย์จากทั่วประเทศเข้าร่วมการประชุม เกือบ 1 พัน คน

รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การประชุมวิชาการ Cardiac Network Forum โดย สำนักบริหารการสาธารณสุข ได้มีการจัดการประชุมมาแล้ว 5 ครั้ง ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2552 จนถึงปัจจุบัน จากผลการประเมินการประชุมฯ เห็นควรวให้มีการจัดการประชุมอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นว่าสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการปฏิบัติงาน และเป็นการต่อยอดความรู้ในการพัฒนางานโรคหัวใจให้มีการก้าวหน้า ตลอดจนสร้างภาคีเครือข่ายการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรมตามแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) ในปีนี้ สำนักบริหารการสาธารณสุข ร่วม กับโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้ตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการประชุมวิชาการฯ เพื่อเป็นเวทีให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับการวิจัย ผลงานวิชาการและผลงานที่เป็น Best Practice เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันพร้อมทั้งนำองค์ความรู้ที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน ดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจได้ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการมากขึ้น

รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข อีกกล่าวว่า ในส่วนของการขยายการบริการให้ครอบคลุมนั้น มีแนวทางการดำเนินงาน คือ การใช้เทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์เครื่องมือแพทย์ และเทคโนโลยีการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต เชื่อมต่อข้อมูลและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับผู้เชียวชาญ ในการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจให้ทันท่วงที่ แม้ผู้ป่วยจะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่ห่างไกลก็ตาม

สโมสรโรตารี มอบชุดกรองน้ำและที่ดื่มน้ำสะอาด แก่โรงเรียนเชียงรายปัญญานุกูล

สโมสรโรตารีสากล ภาค 3360 จังหวัดเชียงราย สนับสนุนโครงการน้ำสะอาด แก่โรงเรียนเชียงรายปัญญานุกูล เพื่อเป็นจุดบริการน้ำดื่มสะอาดแก่แก่นักเรียนและชุมชนใกล้เคียง

ที่ โรงเรียนเชียงรายปัญญานุกูล อำเภอเมืองเชียงราย นายโยชิกิ ฮาระดะ นายกสโมสรโรตารีสากล ภาค 3360 ประเทศไทย และนายยูจิ มาชิโมโตะ ผู้ว่าการสโมสรโรตารีสากล ภาค 2690 ประเทศญี่ปุ่น นายโนยูจิ สโมสรโรตารี มาสดะตะวันตก โรตารีสากล ภาค 3360 ดร.อนุสรณ์ คุณานุสรณ์ ผู้ว่าการับเลือกสโมสรโรตารีสากล ภาค 3360 ร่วมเป็นประธานส่งมอบจุดจ่ายน้ำสะอาดเพื่อการบริโภค ในโครงการน้ำดื่มสะอาด เพื่อเด็กพิการ แก่โรงเรียนเชียงรายปัญญานุกูล เพื่อเป็นจุดบริการน้ำดื่มสะอาดแก่แก่นักเรียนและชุมชนใกล้เคียง โดยมีนายกมล ดาระสุวรรณ ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นผู้รับมอบ

ผู้อำนวยการ โรงเรียนเชียงรายปัญญานุกูล กล่าวว่า สืบเนื่องจากสโมสรโรตารีสากล ภาค 3360 จังหวัดเชียงราย และสโมสรโรตารี ภาค 2690 ประเทศญี่ปุ่นได้ให้ความสำคัญ ในการพัฒนากิจกรรม การเรียนการสอนให้กับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางด้านสติปัญญา ของโรงเรียนเชียงรายปัญญานุกุล และได้ส่งผู้แทนมาร่วมประชุมวางแผนกับทีมฝ่ายบริหารของโรงเรียนถึงแนวทางต่างๆ ที่จะให้การช่วยเหลือพัฒนานักเรียนให้สามารถช่วยเหลือและดูแลตัวเองได้

โครงการน้ำดื่มสะอาด จึงเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ได้รับความเห็นชอบจากสโมสรโรตารี ในการช่วยเหลือให้นักเรียนได้มีสถานที่ดื่มน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน จัดกิจกรรมการเรียนการสอน ในการดูแลสุขภาพฟัน รวมถึงชุมชนให้มีส่วนร่วมในการมีจุดบริการน้ำดื่ม และน้ำใช้ที่สะอาด

สโมสรโรตารีสากล จึงได้สนับสนุนงบประมาณ 520,000 บาท ในการสร้างจุดจ่ายน้ำใช้น้ำดื่ม จำนวน 3 จุด จุดละ 14 หัวก๊อก พร้อมเครื่องกรองน้ำ เพื่อให้นักเรียน และชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน โอกาสเดียวกันนี้ คณะสโมสรโรตารีสากล ได้เยี่ยมชมกิจกรรมผลงานของนักเรียนในด้านต่างๆ ด้วย

คณะกรรมการตัดสินการประกวดตกแต่งภูมิทัศน์และจัดงาน OTOP หารือหาหลักเกณฑ์การให้คะแนนร้านค้าที่ส่งเข้าประกวด

นายธวัช สุขสม หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน ผู้แทนสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดจัดงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเชียงใหม่ ครั้งที่ 38 ประจำปี 2557 ภายใต้แนวคิด “งามสะพรั่งบุปผา พันธุ์พฤกษาแห่งอาเซียน” ณ บริเวณเชิงสะพานนวรัฐ ลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ และสวนสาธารณหนองบวกหาด ในระหว่างวันที่ 7 – 9 กุมภาพันธ์ 2557 โดยการจัดงานในครั้งนี้กรมการท่องเที่ยวได้เข้ามาร่วมสนับสนุนการจัดงาน โดยมีการปรับรูปแบบการจัดงาน และเลื่อนพิธีเปิดเป็นช่วงบ่าย ทั้งนี้เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมงานเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งกำหนดจัดตกแต่งเมืองด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ตลอดเส้นทางขบวนผ่าน ส่วนเวทีหลักจัดตั้งขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ บริเวณข่วงประตูท่าแพ โดยจะมีการการแสดงแสง สี เสียง และการแสดง ตลอด 3 วันของการจัดงาน ตั้งเป้ามีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนส่งขบวนรถบุปผชาติร่วมขบวนแห่กว่า 40 ขบวน นอกจากนั้นยังมีการจัดกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ การประกวดขบวนรถ บุปผชาติ การประกวดไม้ดอกไม้ประดับและการจัดสวน การประกวดนางงามบุปผชาติและนางงาม บุปผชาตินานาชาติ การแสดงนาฏศิลป์ดนตรีในสวนและ การแสดงดนตรีของสถาบันการศึกษา การแสดงและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น

ผู้แทนสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า กิจกรรมที่สำคัญที่ได้รับความสนใจอีกกิจกรรมหนึ่งของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ คือ การออกร้านแสดงสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ที่มีการนำผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านของ 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่มาแสดงและจำหน่ายภายในงาน ซึ่งจัดขึ้น ณ บริเวณสวนสาธารณะหนองบวกหาด พร้อมทั้งได้จัดให้มีการประกวดด้วยโดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงใหม่เป็นหน่วยงานหลักในการจัดกิจกรรม นั้น ในการจัดงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเชียงใหม่ ครั้งที่ 38 ประจำปี 2557 ก็ได้จัดให้มีการออกร้านและการประกวดเช่นเดียวกับทุกปี ซึ่งในส่วนของการประกวดนั้น กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557 ระหว่างเวลา 14.00 – 18.00 น. จากนั้นจะเป็นพิธีเปิดร้านค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งมอบรางวัลร้านค้าที่ชนะการประกวด โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จะเป็นประธานในพิธี สำหรับการเตรียมการนั้นขณะนี้ได้รับการตอบรับการจัดนิทรรศการจาก 25 อำเภอแล้ว นอกจากนั้นจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการตัดสินการประกวดตกแต่งภูมิทัศน์และจัดร้านหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ในงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 38 ประจำปี 2557 ขึ้น โดยมีพัฒนาการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน หัวหน้าส่วนราชการและผู้เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ พร้อมทั้งได้จัดประชุมคณะกรรมการ ฯ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การให้คะแนนแล้ว ซึ่งที่ประชุมมีมติให้กำหนดเกณฑ์การให้คะแนน 4 ด้าน ได้แก่ ความสวยงามของร้านที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของงานมหกรรมไม้ดอก ไม้ประดับ การจัดแสดงผลิตภัณฑ์ OTOP ให้สวยงามและใช้ในเชิงพาณิชย์ ความพร้อมเพรียงและการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องซึ่งกำหนดให้มีการแต่งกายตามชาติพันธุ์/ชุดพื้นเมืองและการแสดงทางวัฒนธรรม และรูปแบบการนำเสนอซึ่งหมายถึงความคิดสร้างสรรค์ เทคนิค เรื่องราวที่เชื่อมโยงและสอดคล้องกับงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับด้วย



ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เน้นย้ำเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิเลือกคนดีมีความสามารถไปเป็น ส.ส.ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เน้นย้ำเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิเลือกคนดีมีความสามารถไปเป็นผู้แทนบริหารประเทศ ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ โดยเตรียมหลักฐานให้พร้อมก่อนออกไปใช้สิทธิ

นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป พร้อมกันทั่วประเทศ นวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ระหว่างเวลา 08.00 – 15.00 น. พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ติดภารกิจในวันดังกล่าวลงทะเบียนและออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2557 ซึ่งในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดสถานที่เลือกตั้งกลางนอกเขตจังหวัดไว้ 1 แห่ง และเขตเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตจังหวัดอีก 10 แห่ง นั้น ผลการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ณ สถานที่เลือกตั้งนอกเขตจังหวัดซึ่งจัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา มีจำนวนน้อยมาก โดยมีผู้ไปใช้สิทธิเพียง 3,722 คน จากจำนวนผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ทั้งสิ้น 32,069 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 11.61 ในขณะที่จำนวนผู้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ทั้ง 10 เขต มีจำนวนถึง 1,986 คน จากจำนวนผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งสิ้น 2,339 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 84.91 ดังนั้น จึงขอเชิญชวนผู้มีลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตจังหวัดเชียงใหม่ทั้ง 10 เขตเลือกตั้งที่ยังไม่ได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 26 มกราคม 2557 ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ณ หน่วยเลือกตั้งที่ตนเองมีชื่ออยู่ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ระหว่างเวลา 08.00 – 15.00 น. พร้อมกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วไป ส่วนผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดและยังไม่ได้ออกไปใช้สิทธิ ไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ได้

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติม โดยเน้นย้ำเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ระหว่างเวลา 08.00 – 15.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้งที่ตนมีชื่ออยู่ โดยนำบัตรประจำตัวประชาชน(บัตรที่หมดอายุสามารถใช้เป็นหลักฐานได้) หรือ บัตรหรือหลักฐานที่ทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐออกให้ ที่มีรูปถ่ายและหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ได้แก่ บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใบขับขี่ หรือหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) เป็นต้น โดยเลือกคนดี มีความรู้ ความสามารถ เข้าไปเป็นตัวแทน ในการบริหารประเทศต่อไป



ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว

สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงใหม่ จัดพิธีมอบรางวัลแก่สถานศึกษาและครูผู้สอนที่ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมดีเด่น ประจำปี 2557

สำนักงาน ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำจังหวัดเชียงใหม่ จัดพิธีมอบรางวัลแก่สถานศึกษาและครูผู้สอนที่ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมดีเด่น ประจำปี 2557 เพื่อส่งเสริมสนับสนุนคนดี ให้ได้รับการยกย่องเชิดชู และเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม

วันนี้ (29 มกราคม 2557) เวลา 09.20 น. นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ประธานในพิธีมอบรางวัลแก่สถานศึกษาและครูผู้สอนที่ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมดีเด่น ประจำปี 2557 ณ ห้องประชุมอาคาร 6 ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ ถนนโชตนา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

ในการนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1-6 และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34 ร่วมคัดเลือกสถานศึกษาครูผู้สอนและนักเรียนที่ส่งเสริม จริยธรรมดีเด่นประจำปี 2557 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุนคนดีให้ได้รับการยกย่องเชิดชู และเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม เพื่อรณรงค์ปลูกฝังค่านิยมในความซื่อสัตย์สุจริตธรรม จริยธรรมแก่บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนให้สถานศึกษาตื่นตัวในการรณรงค์ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและวินัย ในหน่วยงานตน ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับโล่เกียรติยศจาก๕ณะกรรมการ ป.ป.ช. และเกียรติบัตรจากสำนักงาน ป.ป.ช. และศาสตราจารย์ภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้มอบโล่รางวัล โดยมีผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1-6 ร่วมเป็นเกียรติในงานหลังพิธีมอบรางวัลจะมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมระหว่างสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงใหม่ กับมหาวิทยาลัยในจังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยพายัพ มหาวิทยาลับนอร์ทเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น



ข่าวโดย : ณัฏฐ์ สินันตา /เอกรัตน์ เรือนทอง/อภิรฏา อัลภาช

จังหวัดเชียงใหม่จัดพิธีต้อนรับคณะนักท่องเที่ยวในเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของสายการบิน Asian Wings Airway

จังหวัดเชียงใหม่จัดพิธีต้อนรับคณะนักท่องเที่ยวในเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของสายการบิน Asian Wings Airwayเปิดให้บริการเที่ยวบินระหว่างเมืองมัณฑเลย์ ประเทศเมียนม่าร์ กับจังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนเมษายน 2557

วันนี้ (29 มกราคม 2557) เวลา 15.50 น. นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ ได้รับการประสานจาก สายการบิน Asian Wings Airway ว่าจะเปิดให้บริการเที่ยวบินระหว่างเมืองมัณฑเลย์ ประเทศเมียนม่าร์ กับจังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนเมษายน 2557 ซึ่งจะมีเที่ยวบินปฐมฤกษ์นำนักท่องเที่ยวแขกพิเศษ และผู้บริหารของสายการบินฯ จำนวน 70 คน เดินทางมาในวันที่ 29 มกราคม 2557 ถึงเชียงใหม่ เวลา 15.50 น. นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีในการเชื่อมโยงการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และยังเป็นกระตุ้นการท่องเที่ยวจากประเทศเมียนมาร์ซึ่งจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ นางจิรารัตน์ มีงาม ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 085-1231108



ข่าวโดย : ณัฏฐ์ สินันตา

กกต.เชียงใหม่เตือนผู้ที่ไม่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งไปแจ้งเหตุก่อนหรือหลังวันเลือกตั้ง 7 วัน

กกต.เชียงใหม่เตือนผู้ที่ไม่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งไปแจ้งเหตุต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น ก่อนหรือหลังวันเลือกตั้ง 7 วัน ด้วยตนเอง ทำเป็นหนังสือมอบหมายผู้อื่น หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน

ดร.สุชาติ ใจภักดี ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป พร้อมกันทั่วประเทศ ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ระหว่างเวลา 08.00 – 15.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้งที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด โดยเชิญชวนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันดังกล่าวในหน่วยเลือกตั้งที่ตนเองมีชื่ออยู่ โดยการเลือกผู้สมัครที่เป็นคนดี มีความรู้ ความสามารถและมีความซื่อสัตย์ เป็นผู้แทนเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ทางการเมือง เพื่อพัฒนาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป ทั้งนี้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่สามารถเข้าไปดูข้อมูลผู้สมัครรับเลือกตั้งในแต่ละเขตได้ทาง web site สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ ที่ http://chiangmai.ect.go.th

ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในส่วนของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีเหตุที่ทำให้ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ อาทิ มีกิจธุระจำเป็นเร่งด่วนต้องเดินทางไปพื้นที่ห่างไกล ป่วยและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ พิการหรือผู้สูงอายุและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ เดินทางออกนอกราชอาณาจักร และมิได้แจ้งความประสงค์ขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตราชอาณาจักร มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลจากที่เลือกตั้งเกินกว่า 100 กิโลเมตร หรือประสบเหตุสุดวิสัย เช่น อุทกภัย วาตภัย เป็นต้น ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่ได้ใช้สิทธิเลือกตั้งจากสาเหตุดังกล่าว ไปแจ้งเหตุการณ์ไม่ไปใช้สิทธิต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น ก่อนวันเลือกตั้ง 7 วัน หรือภายใน 7 วันนับแต่วันเลือกตั้ง โดยการแจ้งเหตุให้ทำเป็นหนังสือซึ่งต้องระบุหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนและที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้าน โดยการยื่นหนังสือทำได้ 3 วิธีคือ ยื่นด้วยตนเอง หรือทำเป็นหนังสือมอบหมายให้ผู้อื่นไปยื่นแจ้งเหตุแทน หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ทั้งนี้หากผู้มีสิทธิที่ไม่ได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งและไม่ไปแจ้งเหตุแห่งการไม่ไปใช้สิทธิ หรือแจ้งเหตุแล้วแต่เหตุนั้นมิใช่เหตุอันสมควร จะทำให้เสียสิทธิ 3 ประการ ประกอบด้วย เสียสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. เสียสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและสิทธิเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ส. ส.ว. สมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น และ เสียสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นกำนัน และผู้ใหญ่บ้านตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่ โดยสิทธิทั้ง 3 ประการจะได้รับกลับคืนเมื่อไปใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างใดอย่างหนึ่งในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งทั้งในระดับชาติหรือท้องถิ่น


ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว

กกต.เชียงใหม่ชี้แนะลักษณะคนดีมีความสามารถที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งควรเลือกเป็น ส.ส.

กกต.เชียงใหม่ชี้แนะลักษณะคนดีมีความสามารถที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งควรเลือกเป็น ส.ส. เพื่อเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารประเทศ ในการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้

ดร.สุชาติ ใจภักดี ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ ได้ชี้แนะประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 นี้ว่า คนดีมีความสามารถที่สมควรเลือกเข้าไปเป็น ส.ส. ควรมีลักษณะ ดังนี้คือ มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีประวัติการทำงานหรือผลงานที่ผ่านมาดีและเป็นที่ยอมรับ เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรมและรู้จักเสียสละเพื่อส่วนรวม เข้าถึงประชาชนในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น และนำมาแก้ไขโดยเสนอเป็นนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เป็นแบบอย่างของการรู้จักรักษาประโยชน์ของส่วนรวม ไม่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง เช่น แจกเงินหรือสิ่งของเพื่อให้ผู้ใดลงคะแนนให้ตนเอง หรือไม่ลงคะแนนให้ผู้สมัครอื่น หรือพรรคการเมืองอื่น ๆ ส่วนพรรคการเมืองที่ดี ควรเป็นพรรคที่มีนโยบายเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาชน และมีแนวทางปฏิบัติให้เป็นจริงได้ มีระบบบริหารของพรรคยึดหลักการประชาธิปไตย มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ เป็นพรรคการเมืองที่รวมคนทุกกลุ่มในสังคมเป็นสมาชิก ไม่ใช่ยึดติดเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นต้น ทั้งนี้ ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถเข้าไปดูรายละเอียดผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ได้ที่เว็ปไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ ที่ http://chiangmai.ect.go.th

ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมโดยเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ระหว่างเวลา 08.00 – 15.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้งที่ตนมีชื่ออยู่ ซึ่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะได้รับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ได้แก่ บัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ และบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง โดยให้ทำเครื่องหมายกากบาทหมายเลขผู้สมัคร ส.ส. หรือพรรคการเมืองที่ตนเลือกบนบัตรเลือกตั้ง ทั้งนี้ แบบแบ่งเขตเลือกตั้งให้เลือกคน ส่วนแบบบัญชีรายชื่อให้เลือกพรรคการเมือง



ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว

กกต.กำหนดให้ทุกหน่วยเลือกตั้งอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการที่มีสิทธิเลือกตั้ง

กกต.กำหนดให้ทุกหน่วยเลือกตั้งอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการที่มีสิทธิเลือกตั้ง พร้อมแจงบุคคลต้องห้ามที่มิให้ใช้สิทธิในวันเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557

ดร.สุชาติ ใจภักดี ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ซึ่งมีบทบาทหน้าที่ในการควบคุมและอำนวยการจัด หรือจัดให้มีการเลือกตั้งหรือสนับสนุนการสรรหาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น รวมทั้งการออกเสียงประชามติและการลงคะแนนถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ได้กำหนดให้กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ เป็นผู้อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้สะดวกขึ้น ได้แก่ จัดให้มีบัตรทาบในการลงคะแนนสำหรับผู้พิการทางสายตา อำนวยความสะดวกในการหย่อนบัตรลงในหีบเลือกตั้ง นอกจากนี้บางหน่วยเลือกตั้งได้จัดให้มีลูกเสืออาสา กกต. เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย อำนวยความสะดวกแก่ผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อาทิ การช่วยเหลือในการตรวจสอบรายชื่อในบัญชีรายชื่อ การแนะนำขั้นตอนการลงคะแนน การอำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณหน่วยเลือกตั้ง รวมทั้งอำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุและพิการด้วย
ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมโดยเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ระหว่างเวลา 08.00 -15.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้งที่ตนมีชื่ออยู่ สำหรับบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิในวันเลือกตั้ง ได้แก่ ภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช ผู้อยู่ระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ผู้ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย และผู้วิกลจริตหรือจิต ฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ



ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว

หาข้อมูลและเตรียมพร้อมก่อนไปเลือกตั้ง

การไปเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ถือเป็นการไปใช้สิทธิและทำหน้าที่พลเมืองตามรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครอง ได้ทำตั้งหน้าที่และได้ใช้ทั้งสิทธิที่ถูกต้องโดยป้องกันไม่ให้คนอื่นแอบมาใช้สิทธิอีกทางหนึ่ง หากแต่ก่อนจะไปใช้สิทธิและทำหน้าที่ จะต้องหาข้อมูลเพื่อเตรียมตัว ดังนี้ เตรียมตัวก่อนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.

1.ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับประวัติผลงานคุณงามความดีของผู้สมัครและ พรรคการเมือง
2.เตรียมตัวให้พร้อม โดยตรวจสอบว่ามีชื่อเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งของเขต เลือกตั้งไหน ต้องไปใช้สิทธิ ณ ที่เลือกตั้งที่ใด หากลงทะเบียนเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดไว้ต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลางนอกเขตจังหวัดของจังหวัดที่ตนลงทะเบียน ในวันที่ 26 มกราคม 2557 เท่านั้น ทำให้ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ได้
3.เตรียมบัตรประจำตัวประชาชนเอาไว้ให้พร้อม
4.ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขตที่หน่วยเลือกตั้ง ที่ท่านมีชื่ออยู่ ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. ในวันเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 หลักฐานใช้ในการลงคะแนนเลือกตั้ง
1.บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวประชาชนที่หมดอายุก็ใช้ได้
2.บัตรหรือหลักฐานอื่นใดของทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย และมีหมายเลขประจำตัว ประชาชน 13 หลักของผู้ถือบัตร เช่น บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ก่อนตัดสินใจกากบาท x ลงคะแนน จะพิจารณาอย่างไร?
ส.ส.แบบแบ่งเขต เลือกคนที่รัก คนเดียวในดวงใจ ควรมีลักษณะ
1.เป็นคนดี มีความสามารถ มีประวัติส่วนตัว และผลงานที่ผ่านมาดีเป็นที่ยอมรับ กล้าต่อสู้เพื่อความ ถูกต้องชอบธรรม
2.มีคุณธรรม และความเสียสละไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น
3.มีความรู้ความสามารถ คือรู้ปัญหา รู้หน้าที่ และมีแนวคิด หรือข้อเสนอในการแก้ปัญหาอย่างชัดเจน มีความเป็นไปได้
4.มีวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตย คือ มีเหตุผล ไม่ถือความคิดของตนเป็นใหญ่ เคารพมติเสียงส่วนใหญ่ รับฟังความเห็นของเสียงส่วนน้อย
5.มีการหาเสียงหรือแนะนำตัวอย่างสร้างสรรค์โดยไม่ฝ่าฝืนหรือหลีกเลี่ยง กฎกติกาการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เลือกพรรคที่ชอบ พรรคเดียวที่เราวางใจ” พรรคการเมืองที่ดี ควรมีลักษณะ
1.มีนโยบายเพื่อประโยชน์ส่วนร่วมของประชาชน และมีแนวทางปฏิบัติให้ เป็นจริงได้
2.ระบบบริหารของพรรคยึดหลักการประชาธิปไตย
3.มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
4.ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้
5.เป็นพรรคที่รวมคนทุกกลุ่มในสังคมเป็นสมาชิกไม่ใช่ยึดติดเพียงกลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง เมื่อหาข้อมูลเรียบร้อยแล้วทั้งพรรคการเมือง และผู้สมัคร ซึ่งอาจจะไม่ถูกใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อย่าได้ทำลาย บัตรเลือกตั้งเพราะจะผิดกฎหมายและถูกดำเนินคดี ควรกากบาทในช่องไม่ประสงค์จะลงคะแนนเมื่อท่านไม่ถูกใจ ทั้งพรรคการเมืองและผู้สมัครเลือกตั้ง นี่คือทางออกที่ถูกต้อง ที่สำคัญควรไปแสดงตัวเพื่อใช้สิทธิและทำหน้าที่ พลเมืองที่ดี.
       

ผู้ว่าฯ น่าน ประกาศงดเผา และเฝ้าระวังไฟป่าและหมอกควัน เน้นทำงานอย่างต่อเนื่องและให้มีการบูรณาการกันทุกภาคส่วน

จังหวัดน่าน ประกาศขอความร่วมมืองดเว้นการเผา และเฝ้าระวัง สนับสนุนการดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในท้องที่จังหวัดน่าน ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้

นายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์ในช่วงฤดูแล้งระหว่างเดือนธันวาคม ถึงเดือนพฤษภาคม ของทุกปี จังหวัดน่าน มักจะมีมลภาวะหมอกควันปกคลุม ซึ่งมีสาเหตุเกิดจากไฟป่า กิจกรรมการเผาวัสดุทางการเกษตร และการเผาในพื้นที่โล่งกว้างอื่นๆ ภายในจังหวัด ซึ่งเกิดผลกระทบและเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ตลอดจนมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจการท่องเที่ยว การคมนาคมขนส่ง และอื่นๆ ทำให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อนในการดำรงชีวิต และมีผลต่อสุขภาพของประชาชนเป็นอันมาก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายจากสถานการณ์ดังกล่าว จังหวัดน่านจึงขอความร่วมมือจากประชาชนได้ช่วยกันเฝ้าระวัง สนับสนุนการดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในท้องที่จังหวัดน่าน โดยการงดเว้นการเผาป่า เผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร วัชพืช เผาขยะ และเผาข้างทางทุกกรณี เป็นระยะเวลา 75 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2557 โดยเด็ดขาด ให้ทุกพื้นที่ดำเนินการจัดการเชื้อเพลิงให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 หากมีความจำเป็นต้องเผาวัชพืชในพื้นที่เกษตรกรรมที่ใกล้ป่า ต้องขออนุญาตก่อนและทำแนวกันไฟ และให้หน่วยงานที่มีหน้าที่หลักในการควบคุมไฟป่าทุกแห่ง และอปท. ทุกแห่ง สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์และงบประมาณในการดำเนินงานด้านงานป้องกันและควบคุมไฟป่า เน้นให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการอย่างถูกวิธีตามภูมิปัญญาท้องถิ่น

นอกจากนี้ ผวจ. น่าน ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของจังหวัดน่าน ได้ตระหนักถึง ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดยได้มีการดำเนินการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า จังหวัดน่าน ให้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เป็นไปตามนโยบายของประเทศ และได้กำหนดจัดโครงการ "ป้องกันไฟ ป้องกันป่า ด้วยจิตอาสา 1 วัน 100 กิเมตร ถวายพ่อของแผ่นดิน” ตามวาระของจังหวัดน่าน 2013 – 2017 "สร้างเมืองน่านน่าอยู่ คู่ป่าต้นน้ำ” ในวันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 09.59 น. ในพื้นที่ 15 อำเภอของจังหวัดน่าน ประกอบด้วย อำเภอเมืองน่าน อำเภอเวียงสา อำเภอนาน้อย อำเภอท่าวังผา อำเภอสองแคว อำเภอแม่จริม อำเภอปัว จำนวนอำเภอละ 7 กิโลเมตร รวม 49 กิโลเมตร อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอนาหมื่น อำเภอบ้านหลวง อำเภอทุ่งช้าง อำเภอสันติสุข อำเภอบ่อเกลือ และอำเภอภูเพียง อำเภอละ 6 กิโลเมตร รวม 42 กิโลเมตร ส่วนอำเภอเชียงกลาง เป็นพื้นที่เปิดตัวโครงการของจังหวัดน่าน กำหนดจำนวน 9 กิโลเมตร รวมทั้งหมด 100 กิโลเมตร ภายใน 1 วัน ซึ่งคาดว่าโครงการดังกล่าว จะสามารถป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่จังหวัดน่านให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด และทำให้ทุกภาคส่วนในจังหวัดน่านได้มีส่วนร่วมและตื่นตัว รวมถึงเห็นความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดน่านต่อไป



รดา บุญยะกาญจน์ /ข่าว

ทหารพรานที่ 32 น่าน ทำลายไร่ฝิ่นพื้นที่อำเภอทุ่งช้าง

เมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา พ.อ.ธงชัย มีอนันต์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 32 กองกำลังผาเมือง จังหวัดน่าน สนธิกำลังร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอทุ่งช้าง กองร้อย ตชด.325 เชียงกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรทุ่งช้าง และตำรวจภูธรตำบลงอบ เจ้าหน้าที่ อส.กว่า 30 นาย เข้าทำลายไร่ฝิ่นกลางป่าบ้านมณีพฤกษ์ ตำบลงอบ อำเภอทุ่งช้าง ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อดอยภูแว พบว่ามีการลักลอบปลูกฝิ่นในพื้นที่ประมาณ 1 งาน ต้นฝิ่นมีความสูง 60 - 70 เซนติเมตร ความหนาแน่นร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ปลูก อายุฝิ่นประมาณ 3 เดือน และอีกประมาณ 15 - 20 วัน ก็จะสามารถกรีดน้ำฝิ่นดิบได้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันทำลายต้นฝิ่นทั้งหมด และยังพบมีการตัดไม้เพื่อขยายพื้นที่ทำการเกษตรเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการสำรวจตรวจเข้มตามพื้นที่เป้าหมาย เพื่อกดดันไม่ให้มีการลักลอบขยายพื้นที่ทำการเกษตรและปลูกฝิ่นได้อีก

พ.อ.ธงชัย มีอนันต์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพราน 32 กองกำลังผาเมือง จังหวัดน่าน กล่าวว่า จากเป้าหมายตามกองทัพภาคที่ 3 ได้กำหนดแผนสกัดกั้นการควบคุมพื้นที่และตัดทำลายไร่ฝิ่นดอยภูแว จึงได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบตามพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งพบว่าที่บ้านมณีพฤกษ์ มีการลักลอบปลูกฝิ่น คาดว่าจะเป็นราษฎรในพื้นที่ซึ่งทำการเกษตรและลักลอบปลูกฝิ่น จึงได้เข้าไปทำลายกวาดล้างและเตรียมสอบสวนขยาย กดดัน ไม่ให้มีการลักลอบขยายพื้นที่การเกษตรและปลูกฝิ่นอีกต่อไป



พวงพยอม  คำมุง

จังหวัดพะเยา จัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

เช้าวันนี้ (29 ม.ค.57) ที่บริเวณท่าเรือวัดติโลกอาราม ริมกว๊านพะเยา นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 100 วัน โดยมี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพะเยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา หัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนประชาชนและพุทธศาสนิกชน ร่วมพิธีจำนวนมาก

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) ประสูติเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2456 เป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ พ.ศ. 2532 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นสมเด็จพระสังฆราช ที่มีพระชันษามากกว่าสมเด็จพระสังฆราชทุกพระองค์ในอดีต และเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์แรกของไทย ที่มีพระชันษา 100 ปี



ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างพระธุตังคเจดีย์

วันนี้ (29 ม.ค.57)  คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างพระธุตังคเจดีย์ วัดถ้ำผาแดง ผานิมิต ต.บัวเงิน จ. ขอนแกน ทอดถวาย ณ วัดถ้ำผาแดง ผานิมิต ในวันเสาร์ที่ 12 เมษายน 2557 เพื่อประดิษฐานพระบรมสาริกธาตุและพระอรหันตธาตุ และเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมพระธุตังคเจดีย์นี้ใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท ปัจจุบัน(มกราคม 2557) มีความคืบหน้าในการก่อสร้างราว 30 เปอร์เซ็นต์ คือมีการก่อสร้างฐานราก เสา และพื้นชั้น 1 ปัจจุบันทางวัดยังขาดแคลนปัจจัยในการสร้างพระธุตังคเจดีย์
ผู้มีจิตศรัทธา สามารถทำบุญผ่านทางบัญชีโครงการผ้าป่าสร้างพระธุตังคเจดีย์วัดถ้ำผาแดงผานิมิต จ.ขอนแกน ธนาคาร ไทยพาณิช สาขา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เลขที่บัญชี 667-2-94211-3 ธนาคาร กสิกรไทย สาขา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เลขบัญชี 557-2-12601-5 ขออนุโมทนาบุญกับผู้ร่วมสร้างพระธุตังคเจดีย์ทุกทาน ณ โอกาสนี้ สอบถามและร่วมสร้างพระธุตังคเจดีย์ได้ที่ พระนำชัย ชยากโร วัดป่าดาราภิรมย์ เชียงใหม่ โทร 081-5682612 E-mail: termsiri@hotmail.com ดร. อดิศักดิ์ ธีรานุพัฒนา คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โทร 081-869-6068 E-mail:adisak_t@hotmail.com



ข่าวโดย : ทีมข่าว ส.ปชส.พะเยา

ผอ.กกต.พะเยา เผยการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. 2 กุมภาพันธ์นี้จังหวัดพะเยามีความพร้อม 100 % ทั้ง 3 เขต 856 หน่วยเลือกตั้ง

นางสาวพัชรินทร์ รัตนวิภา ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยา กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทั้ง 3 เขตของจังหวัดพะเยาในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ ว่า ขณะนี้มีความพร้อมแล้ว100 เปอร์เซน ในส่วนของวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการเลือกตั้ง กกต.พะเยา ได้จัดเตรียมอุปกรณ์การเลือกตั้งไว้พร้อมแล้วทั้งหีบเลือกตั้ง คูหาบัตรลงคะแนนฯ นอกจากนี้ทาง กกต.พะเยา ยังได้จัดให้มีการอบรมกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) จากวิทยากรผู้มีความรู้ความสามารถ จากนั้นจะนำไปขยายผลแก่ กปน. ทั้ง 3 เขต จำนวน 856 หน่วยเลือกตั้งด้วย อย่างไรก็ตามคาดว่าการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.นี้ ไม่น่าจะมีปัญหาหรืออุปสรรคในการจัดการเลือกตั้งแต่อย่างใด โดยได้มีการการประเมินสถานการณ์ตั้งแต่การรับสมัคร สส. รวมถึงการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมาก็ไม่มีกลุ่มคัดค้านการเลือกตั้งแต่อย่างใด มีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามปกติ

ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยา ยังกล่าวด้วยว่า ในการป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ทาง กกต.พะเยา ได้ประสานไปยังตำรวจภูธรจังหวัด จังหวัดทหารบก รวมถึงหน่วยงานฝ่ายปกครองจังหวัด ให้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้สมัครและผู้มาใช้สิทธิ รวมทั้งจัดหน่วยเคลื่อนเร็วรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่
สำหรับจังหวัดพะเยาได้แบ่งเขตเลือกตั้ง สส. ออกเป็น 3 เขต คือ เขต1.อ.เมืองและอ.แม่ใจ เขต2.อ.เชียงคำ อ.จุน และอ.ภูซาง เขต3.อ.ดอกคำใต้ อ.ปง อ.เชียงม่วน และ อ.ภูกามยาว โดยมีได้ ส.ส. 3 คน รวมหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 856 หน่วย 176,338 ครัวเรือน มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 396,705 คน



ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพะเยา จัดงาน"พลังกองทุนแม่ของแผ่นดิน พลังเครือข่ายพัฒนาชุมชน สู่การแก้จนอย่างยั่งยืน"

วันนี้ (29 ม.ค.57) นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “พลังกองทุนแม่ของแผ่นดิน พลังเครือข่ายพัฒนาชุมชน สู่การแก้จนอย่างยั่งยืน” พร้อมมอบเกียรติบัตรแก่ศูนย์เรียนรู้กองทุนแม่ของแผ่นดินต้นแบบ (1 อำเภอ 1 ศูนย์เรียนรู้กองทุนแม่ฯ) จำนวน 9 ศูนย์ , ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนดีเด่นปี 2556 จำนวน 18 คน และมอบเกียรติบัตรครัวเรือนยากจนต้นแบบ จำนวน 9 ครัวเรือน ที่ ศาลาประชาคมจังหวัดพะเยา ซึ่งสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพะเยา จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมสนับสนุนครัวเรือนยากจนให้สามารถบริหารจัดการชีวิตตนเองได้อย่างเหมาะสมตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการศูนย์เรียนรู้กองทุนแม่ของแผ่นดิน อาสาพัฒนาชุมชน และครัวเรือนอยากจนเป้าหมาย จากทั้ง 9 อำเภอ เข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
นางณัฏฐิยาภรณ์ ศรีสุบรรณ์ พัฒนาการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ในปี 2557 เนื่องในวาระครบรอบ 45 ปี อาสาพัฒนาชุมชน ซึ่งเป็นงานแสดงถึงความเสียสละ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในหมู่บ้าน ตำบล โดยกระตุ้นให้องค์กรประชาชน รู้สภาพปัญหาหมู่บ้าน และสามารถว่างแผนงานเพื่อแก้ไขปัญหาได้เอง รวมถึงกระตุ้นประชาชนรู้จักช่วยตนเอง และเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้านของตนเองได้มีประสิทธิภาพ ประกอบกับในปีนี้ กองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดพะเยา ดำเนินโครงการทศวรรษกองทุนแม่ของแผ่นดิน เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กองทุนแม่ของแผ่นดินในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ส่งผลให้ยาเสพติดในพื้นที่ลดลงและสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย กิจกรรมการแสดงผลงานของกองทุ่นแม่ของแผ่นดิน และศูนย์เรียนรู้กองทุ่นแม่ของแผ่นดินระดับอำเภอ นิทรรศการผลงานของผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนทุกอำเภอ การจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP


ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

จังหวัดแพร่เตรียมจัดคอนเสิร์ต คนหัวใจสิงห์ อัสนี วสันต์

จังหวัดแพร่เตรียมจัดคอนเสิร์ต คนหัวใจสิงห์ อัสนี วสันต์ ซึ่งจะมาแสดงในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 ที่สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่เป็นปรานแถลงข่าวร่วมกับนายสมชัย ชัยชนะวงศ์ ผู้แทนบริษัทสิงห์คอร์เปอร์เรชั่นจำกัด และนายประดิษฐ์ ศศิภัทรกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ในการเตรียมการจัดแสดงคอนเสิร์ต คนหัวใจสิงห์ อัสนี วสันต์ ซึ่งจะมาแสดงในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 ที่สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดแพร่ และเพื่อหารายได้นำไปสนับสนุนและใช้จ่ายในกิจกรรมอันเป็นสาธารณะประโยชน์ โดยการจำหน่ายบัตรเข้าชมการแสดงใบละ 200 บาท จำนวน 20,000 ใบ

โดยผู้สนใจจะเข้าชมคอนเสิร์ต คนหัวใจสิงห์ อัสนี วสันต์ สามารถซื้อบัตรได้ที่สภาอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ สำนักงานจังหวัดแพร่ ห้างสรรพสินค้าในจังหวัดแพร่ หรือโทรสอบถามที่ 089-6330600



ฉัตรชัย พวงขจร / ข่าว พิมพ์

กรมป่าไม้จัดกิจกรรมรณรงค์ ไม่เผาป่า รักษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ที่จังหวัดแพร่

กรมป่าไม้จัดกิจกรรมโครงการรณรงค์ ไม่เผาป่า รักษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ เน้นไม่เผาในทุกพื้นที่เพื่อลดหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า ที่หอประชุมและแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนาตะวันออก กลุ่มประเทศ GMS บ้านกอเปา หมู่ที่ 4 ตำบลทุ่งโฮ้ง อำเภอเมืองแพร่ นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่เป็นประธานเปิดกิจกรรมโครงการรณรงค์ ไม่เผาป่า รักษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ ซึ่งทางกรมป่าไม้จัดขึ้นเพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่าให้ความร่วมมือในการไม่เผาป่า ไม่เผาเศษวัชพืช วัสดุเหลือใช้ เพื่อเป็นการร่วมกันแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ซึ่งส่งผลกระทบทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจและสุขภาพ ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือประกอบด้วยจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ตาก ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ และน่าน  โดยดำเนินการในลักษณะเป็นการรณรงค์แบบเคลื่อนที่

ทั้งนี้ได้มีการกำหนดวันให้มีการรณรงค์ไม่เผาทุกพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 11 พฤษภาคม 2557 รวม 100 วัน  จังหวัดแพร่นั้นในปี 2556 มีปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน เกินค่ามาตรฐานคือเกินกว่า 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรจำนวน 27 วัน จากทั้งหมด 100 วัน



ฉัตรชัย พวงขจร / ข่าว พิมพ์

สทท.เชียงใหม่จัดโครงการแบ่งปันน้ำใจ สู้ภัยหนาว ร่วมทำความดีถวายในหลวง ที่แม่ฮ่องสอน

สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่มอบผ้าห่มกันหนาว แก่คณะครูและนักเรียนโรงเรียนพุทธเกษตร จ.แม่ฮ่องสอน ตามโครงการแบ่งปันน้ำใจ สู้ภัยหนาว ร่วมทำความดีถวายในหลวง เช้าวันนี้ (29 ม.ค. 2557) นางดวงมาลย์ ศรีกิจวิไลกุล ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มอบผ้าห่มกันหนาว จำนวน 135 ผืนพร้อมอุปกรณ์กีฬา ยาสามัญประจำบ้านและของเด็กเล่น แก่คณะครูและนักเรียนโรงเรียนพุทธเกษตร อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตามโครงการแบ่งปันน้ำใจสู้ภัยหนาว ร่วมทำความดีถวายในหลวงเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากอากาศที่หนาวเย็น ซึ่งที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนอุณหภูมิต่ำสุดวันนี้วัดได้ 14.4 องศาเซลเซียส จ.แม่ฮ่องสอนประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยหนาวทั้ง 7 อำเภอ ราษฎรได้รับความเดือดร้อนและขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาวกว่า 67,000 คน ที่ผ่านมา จ.แม่ฮ่องสอนร่วมกับภาคเอกชนและมูลนิธิต่างๆ ดำเนินการแจกจ่ายผ้าห่มกันหนาวให้แก่ราษฎรผู้ประสบภัยหนาวไปแล้วกว่า 50,000 คน/สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่มอบผ้าห่มกันหนาว แก่คณะครูและนักเรียนโรงเรียนพุทธเกษตร จ.แม่ฮ่องสอน ตามโครงการแบ่งปันน้ำใจ สู้ภัยหนาว ร่วมทำความดีถวายในหลวง

เช้าวันนี้ (29 ม.ค. 2557) นางดวงมาลย์ ศรีกิจวิไลกุล ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มอบผ้าห่มกันหนาว จำนวน 135 ผืนพร้อมอุปกรณ์กีฬา ยาสามัญประจำบ้านและของเด็กเล่น แก่คณะครูและนักเรียนโรงเรียนพุทธเกษตร อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตามโครงการแบ่งปันน้ำใจสู้ภัยหนาว ร่วมทำความดีถวายในหลวงเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากอากาศที่หนาวเย็น ซึ่งที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนอุณหภูมิต่ำสุดวันนี้วัดได้ 14.4 องศาเซลเซียส สทท.เชียงใหม่ แจกผ้าห่ม ที่จ.น่าน แพร่ เชียงใหม่ ตามโครงการแบ่งปันน้ำใจสู้ภัยหนาว ร่วมทำความดีถวายในหลวง รวม 1,200 ผื น จ.แม่ฮ่องสอนประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยหนาวทั้ง 7 อำเภอ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2556 ราษฎรได้รับความเดือดร้อนและขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาวกว่า 67,000 คน ที่ผ่านมา จ.แม่ฮ่องสอนร่วมกับภาคเอกชนและมูลนิธิต่างๆ ดำเนินการแจกจ่ายผ้าห่มกันหนาวให้แก่ราษฎรผู้ประสบภัยหนาวไปแล้วกว่า 50,000 คน



ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว สวท.แม่ฮ่องสอน 

จ.แม่ฮ่องสอน รณรงค์ป้องกันไฟป่า

จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน

ที่บริเวณท่าอากาศยานจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประธานการเดินรณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีกลุ่มข้าราชการ พลังมวลชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ประมาณ ๗๐๐ คน เข้าร่วมเดินรณรงค์ ฯ ดังกล่าว ในระหว่างปี ๒๕๕๐ – ๒๕๕๖ จังหวัดภาคเหนือตอนบน ๙ จังหวัด ประกอบไปด้วย จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอนพะเยา ลำปาง ลำพูน แพร่ น่าน และจังหวัดตาก ต้องเผชิญกับปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างรุนแรง ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนเมษายน ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวมีอากาศร้อนและแห้งแล้งอยู่แล้ว เฉพาะในปี ๒๕๕๖ สามารถตรวจพบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า ๑๐ ไมครอน หรือค่า PM ๑๐ ค่าเฉลี่ย ๒๔ ชั่วโมง สูงเกินกว่าค่ามาตรฐาน ๑๒๐ ไมโครกรัม/ลูกบาตรเมตร จำนวน ๓๘ วัน มากที่สุดในภาคเหนือ หมอกควันดังกล่าวเป็นผลผลิตของกระบวนการนเผาที่ไม่สมบูรณ์ เป็นต้นกำเนิดของสารมลพิษที่ฝังตัวอยู่กับอนุภาคฝุ่นละอองขนาดเล็ก ซึ่งเมือเข้าสูปอดแล้วจะไม่สามารถขับออกมาได้ และยังเป็นสารก่อมะเร็ง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ดังนั้นจังหวัดแม่ฮ่องสอนจึงมีมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนโดยในปี ๒๕๕๗ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้กำหนดวันในการห้ามเผา ระหว่างวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ถึง ๓๐ เมษายน ๒๕๕๗ ( ๖๓ วันอันตราย )


ข่าวโดย : ดำเนิน ท้วมจอก ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

มูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชิญชวนประชาชนกราบไหว้สักการะองค์เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ที่ เทว สถานวิหารศาลแม่กวนอิม เนื่องในเทศกาลตรุษจีน

นายโชติ นรามณฑล รองประธานมูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า วันตรุษจีนปีนี้ ตรงกับวันที่ 30 มกราคม 2557 มูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้จัดพิธีขอพรเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ เพื่อขอพร ขอโชคลาภ และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว โดยตามฤกษ์เวลาทางโหรศาสตร์กำหนดไว้ในปีนี้คือช่วง เวลา 23.00 ของวันที่ 30 มกราคม 2557 ถึงเวลา 00.59 น.ของวันที่ 31มกราคม 2557 ถือว่าเป็นฤกษ์ดีที่สุด นอกจากนั้นมูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน เตรียมจัดพิธีแก้ชง สำหรับผู้ที่เกิดปี ชวด เถาะ มะเมีย และระกา ระหว่างวันที่ 30 มกราคม -14 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 08.30-17.00 น. จึงขอเชิญผู้ที่เกิดปีดังกล่าวร่วมพิธีดังกล่าวได้ที่ เทวสถานวิหารศาลแม่กวนอิม ถนนเลี่ยงเมือง ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน



ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว /ข่าว

เจ้าหน้าที่ตรวจยึดยาเสพติดและตัดทำลายไร่ฝิ่น

เจ้าหน้าที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน สนธิกำลังปราบปรามยาเสพติดและตัดทำลายไร่ฝิ่นในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนในช่วงเดือนมกราคม ๒๕๕๗

นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า สถานการณ์ยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านยังมีการลำเลียงผ่านพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยสรุปตั้งแต่วันที่ ๑ – ๒๘ มกราคม ๒๕๕๗ เจ้าหน้าที่สนธิกำลังปราบปรามยาเสพติด วันที่ ๑๖ มกราคม ๕๗ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ ๑๗ จ.แม่ฮ่องสอน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปางมะผ้า ฝ่ายปกครอง อ.ปางมะผ้า ตัดทำลายไร่ฝิ่น ๑๐ไร่ นอกจากนี้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ตำรวจตระเวนชายแดน ฝ่ายปกครอง ตัดทำลายไร่ฝิ่นบ้านหัวแม่ละก๊ะ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม จำนวน ๓ งาน ในวันเดียวกันหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ ๓๖ อ.แม่สะเรียง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ลาหลวง อ.แม่ลาน้อย ตรวจยึดยาบ้า ๓๘๔,๐๐๐ เม็ด พร้อมยาไอซ์ ๒๐ กิโลกรัม ในพื้นที่ หมู่ที่ ๗ ตำบลแม่โถ อ.แม่ลาน้อย วันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๗ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สะเรียง ตรวจยึดยาบ้า ๑,๐๑๐ เม็ด บริเวณท่ารถเปรมประชา อ.แม่สะเรียง วันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๕๗ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปาย ตัดทำลายไร่ฝิ่นในพื้นที่ตำบลโป่งสา อ.ปาย จำนวน ๓ ไร่ วันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๕๗ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ลาน้อย จับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า ๑๑ เม็ด และวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๗ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุนยวม ตรวจยึดยาบ้า จำนวน ๑๘ เม็ด บริเวณจุดตรวจแม่อูคอ พร้อมผู้ต้องหา ๑ ราย


ข่าวโดย : ดำเนิน ท้วมจอก ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

สวท.แม่ฮ่องสอน ขอเชิญร่วมงานผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนซ่อมแซมสะพานซูตองเป้ สวนธรรมภูสมะ

นางสาววาสนา ไข่แก้ว ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยแม่ฮ่องสอนเปิดเผยว่า สวท. แม่ฮ่องสอนขอเชิญพุทธศาสนิกชน ร่วมงานผ้าป่าสามัคคี ในวันที่ 31 มกราคม 2557 เพื่อสมทบทุน ในการซ่อมแซมสะพานไม้ซูตองเป้ สวนธรรมภูสมะ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ให้เป็นสะพานไม้ไผ่แห่งศรัทธาของพระพุทธศาสนาต่อไป พร้อมทั้งเป็นการ ทำนุบำรุงและดำรงพระพุทธศาสนา ให้คงอยู่สืบไป สะพานซูตองเป้ เชื่อมต่อระหว่างสวนธรรมภูสมะผ่านน้ำแม่สะงา และทุ่งนาบริเวณบ้านกุงไม้สัก หลังมีสภาพชำรุด ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อพระภิกษุสามเณรชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมสมทบทุนงานผ้าป่าสามัคคี ตามจิตศรัทธา ที่สวท.แม่ฮ่องสอน โทรศัพท์หมายเลข 053-612157 หรือที่สวนธรรมภูสมะ ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน



ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน/ข่าว

องคมนตรีตรวจเยี่ยมโครงการอนุรักษ์แหล่งพันธุกรรมไม้สักจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมมอบถุงยังชีพพระราชทาน

นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีตรวจเยี่ยมโครงการอนุรักษ์แหล่งพันธุกรรมไม้สักจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมมอบถุงยังชีพพระราชทาน

วันนี้ ( 29 ม.ค. 57 ) นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี และคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมไม้สักและพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรบริเวณลุ่มน้ำปาย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพพระราชทานแก่ราษฎร บ้านห้วยซลอบ ต.ห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีนายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ

จากนั้นองคมนตรีรับมอบของที่ระลึกจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง และเข้าเยี่ยมชมการเรียนการสอนของห้องเรียนอนุบาลบ้านห้วยสลอบ โดยมีนายสมคิด รัตนเพ็ญ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยผา ได้รายงานถึงการเรียนการสอน ซึ่งที่หมู่บ้านห้วยสลอบมีนักเรียนในระดับอนุบาลเท่านั้นและเปิดเป็นห้องเรียนระดับอนุบาลเป็นสาขาของโรงเรียนบ้านห้วยผา ที่อยู่ห่างออกไปอีก 8 กิโลเมตร จากนั้นองคมนตรีได้มอบของที่ระลึกให้กับเด็กนักเรียน ก่อนที่จะเดินทางเข้ารับฟังการบรรยายและชมวีดีทัศน์การอนุรักษ์แหล่งพันธุกรรมไม้สัก จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16
จากนั้นนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ได้เปิดกรวยถวายความเคารพพระบรมสาทิศลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และเป็นประธานมอบถุงยังชีพพระราชทานให้กับราษฎรบ้านห้วยซลอบที่มาต้อนรับจำนวนทั้งหมด 92 ชุด สำหรับหมู่บ้านห้วยซลอบ ราษฏรส่วนใหญ่เป็นชาวปะโอ ที่อพยพมาจากรัฐฉาน ประเทศเมียนมาร์ ใช้ภาษาปะโอ และไทยใหญ่ในการสื่อสาร มีอาชีพด้านการเกษตรและเลี้ยงสัตว์

โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมไม้สักและพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรบริเวณลุ่มน้ำปาย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2553 และพระราชทานนามป่าสักดังกล่าวว่า “ป่าสักนวมินทรราชินี” และพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรบริเวณลุ่มน้ำปาย จำนวน 4 หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านห้วยซลอบ บ้านนาอ่อน บ้านมะโนรา และบ้านห้วยปมฝาก ให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เสริมสร้างจิตสำนึกแก่ชุมชนให้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เกิดความรัก ความหวงแหนทรัพยากรป่าไม้และเรียนรู้การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรให้อยู่ดีกินดี พึ่งพาตนเองได้ และเป็นกำลังหลักที่มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาและปกป้องป่าแห่งนี้ไว้อย่างยั่งยืน ตลอดจนเป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุกรรมไม้สักในถิ่นกำเนิดและนอกถิ่นกำเนิด รวมถึงเป็นศูนย์ศึกษาวิจัยไม้สักที่ครบวงจรของประเทศไทยและในระดับสากลต่อไป



ข่าวโดย : พักตร์ภูมิ ปัญญาไชยพัฒน์

กลุ่มผู้รักประชาธิปไตย อำเภอแม่สะเรียง จุดเทียนสันติภาพ ต่อต้านความรุนแรง พร้อมชวนเลือกตั้ง เคารพสิทธิ์ 1 คน 1เสียง

วันที่ 29 ม.ค. เมื่อเวลา 19.00 น. ที่ ลานหน้า พิพิธภัณฑ์แม่สะเรียง บ้านจอมแจ้ง ต.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน กลุ่มผู้รักประชาธิปไตย อำเภอแม่สะเรียง กว่า 50 คน ใส่เสื้อยืดสีขาว ยืนล้อมวงเป็นรูปหัวใจ ร่วมกัน จุดเทียน เพื่อต่อต้านความรุนแรง และเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของชาติในรัฐสภา

สำหรับกิจกรรมนี้เป็นการรณรงค์ให้ประชาชนชาวอำเภอแม่สะเรียง ไปเลือกตั้งใน วันที่ 2 ก.พ. พร้อมกับมีการกล่าวเชิญชวนผู้มีสิทธิ์ให้ออกไปเลือกตั้ง เน้นเรื่องความสำคัญของการเลือกตั้ง และการให้คุณค่าของ 1 คน 1 สิทธิ์ 1 เสียง กิจกรรมดังกล่าว เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อต้องการปลุกสำนึกให้ทุกฝ่ายในสังคมได้ตระหนักว่าการใช้ความรุนแรงหรือ สร้างเงื่อนไขให้เกิดความเกลียดชังมีแต่จะนำสังคมไปสู่ความมืดมิดยากจะหาทางแก้ไข ทางออกที่ดีที่สุดคือการเลือกตั้ง
จากนั้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ชูเทียนขึ้นเหนือศีรษะ เปล่งเสียงพร้อมกัน ว่า 2 กุมภาพันธ์ ต้องออกไปเลือกตั้ง เลือกตั้ง ก่อนจะแยกย้ายกันกลับโดยได้นัดรวมตัวกันจุดเทียนสันติภาพ ต่อต้านความรุนแรง พร้อมชวนเลือกตั้งอีกครั้ง วันที่ 1 กุมภาพันธ์ เวลา 18.00 น.


ข่าวโดย : นวรัตน์ ศรีแก้วเลิศ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานสิ่งของ พร้อมผ้าห่มกันหนาว ให้ประชาชนบ้านดอยแสง จ.แม่ฮ่องสอน

(29 ม.ค.57)  วันนี้ พันตำรวจโท พงษ์นรินทร์ พลนำ ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 336 อัญเชิญสิ่งของพร้อมผ้าห่มกันหนาวพระราชทาน มอบให้ประชาชนบ้านดอยแสง ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 59 ครอบครัว พร้อมทั้งได้ร่วมกันทำประชาคมกับชาวบ้าน เพื่อเตรียมสร้าง โรงเรียน ตชด. บ้านดอยแสง เพื่อน้อมเกล้า น้อมกระหม่อมถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี


ข่าวโดย : สวท.แม่ฮ่องสอน

จังหวัดลำปางประกาศช่วงห้ามเผา 100 วันอันตราย พร้อมเฝ้าระวังป้องกันปัญหาหมอกควันในพื้นที่เสี่ยง

จากปัญหาหมอกควันและไฟป่าที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน สร้างผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ สุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมในจังหวัดลำปางเป็นอย่างมาก ในปีนี้จังหวัดลำปางได้จัดทำแผนบริหารจัดการไฟป่า โดยบูรณาการความร่วมมือทุกฝ่ายในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน และได้ประกาศช่วงห้ามเผา 100 วันอันตราย ในระหว่างวันที่ 27 มกราคม – 6 พฤษภาคม 2557 เพื่อดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างเข้มข้น

จังหวัดลำปางได้ออกประกาศ กำหนดเขตพื้นที่จังหวัดลำปาง เป็นเขตควบคุมไฟป่าและกำหนดมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายอำเภอ และหน่วยงานที่รับผิดชอบประสานผู้นำชุมชนและภาคีเครือข่าย จัดเวรยามดูแลและเฝ้ารังวังพื้นที่ หากพบผู้ใดจุดไฟเผาป่า หรือ ปล่อยให้ไฟลุกลามเข้าไปในเขตป่าอนุรักษ์ และป่าสงวนแห่งชาติ ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 150,000 บาท และมีความเป็นตามกฎหมายอาญา มาตรา 220 ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใดๆ แม้จะเป็นของตนเองทำให้เป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 14,000 บาทโดยเฉพาะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ถือเป็นหน้าที่ต้องช่วยกันสอดส่องดูแลให้ประชาชนในท้องที่ปฏิบัติตามประกาศอย่างเคร่งครัด

จากการสรุปบทเรียนในปีที่ผ่านมา ไฟป่าและหมอกควันมากกว่าร้อยละ 90 เกิดจากฝีมือของคน แม้จังหวัดจะมีแผนงานจัดการไฟป่าครอบคลุมทุกด้าน แต่ในทางปฏิบัติยังไม่สามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพ เพราะมีข้อจำกัดทั้งการให้ความร่วมมือของบุคลากร งบประมาณดำเนินงาน การเอาจริงเอาจังของหน่วยงานรับผิดชอบและหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดลำปางรุนแรงทุกปี



ข่าวโดย : ทิชากร อินต๊ะสืบ นักศึกษาฝึกประสบการณ์/ม.พะเยา

กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งตอนบนของไทยยังหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง

ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คาดหมายสถานการณ์ลักษณะอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา ระหว่างวันที่ 27 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2557

ในช่วงวันที่ 27 – 29 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลง และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 31 ม.ค. - 2 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลงอุณหภูมิจะสูงขึ้น แต่ยังคงทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้ากับมีหมอกเพิ่มขึ้นในตอนเช้าและมีหมอกหนาในหลายพื้นที่
ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในหลายพื้นที่ และในยอดดอยหรือยอดภูมีอากาศหนาวจัด
ขอให้ประชาชนระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วยตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 27 – 29 ม.ค. ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โทรศัพท์ 0 – 2281 – 9401 E-mail: disas_moac@hotmail.com



ข่าวโดย : สมพร พลชา นิสิตฝึกประสบการณ์/ม.พะเยา

กกต.ลำปางเก็บหีบลงคะแนน เลือกตั้งล่วงหน้า ในวันที่ 26 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา ไว้ 4 จุด มีกล้องวงจรปิดดูแลความปลอดภัย แน่นหนา

นายสุคนธ์ เรือนสอน ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า สำหรับการเลือกตั้งล่วงหน้า ในวันที่ 26 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา มีการเลือกตั้งทั้ง นอกเขตจังหวัด และในเขตจังหวัด ขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำปาง ได้เก็บหีบ พร้อมบัตรลงคะแนนไว้ในที่ ปลอดภัย 4 จุด โดยมีกล้องวงจรปิด ช่วยดูแลความปลอดภัยแน่นหนา

สำหรับบัตรของผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า นอกเขต ได้นำบัตรลงคะแนนส่งคืนให้กับพื้นที่ภูมิเนาลำเนาแล้ว และบัตรลงคะแนนเสียงของผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งในเขต ได้เก็บไว้ในที่ปลอดภัย นอกจากนี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำปาง ยังได้รับบัตรลงคะแนน ของผู้ที่ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด กลับมาแล้วเช่นกัน และได้เก็บรวมรวบไว้ในสถานที่ปลอดภัย ก่อนจะนำมารวมยอดการบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 นี้ และนับคะแนนพร้อมกัน



ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์

ผอ.กกต.ลำปาง เผยการจัดการเลือกตั้งของจังหวัดลำปางมีความพร้อม 100 % คาดไม่มีปัญหาขัดขวางการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.นี้

นายสุคนธ์ เรือนสอน ผู้อำนวยการสำนักงาน กกต.ลำปาง เปิดเผยว่า ตามที่ กกต.กำหนดให้มีการเลือกตั้ง สส.ทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งจังหวัดลำปางมีเขตเลือกตั้ง 4 เขต มี ผู้สมัคร สส.ทั้ง 4 เขต จำนวน 19 คน มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 618,844 คน ในการเตรียมการจัดการเลือกตั้งขณะนี้ มีความพร้อมแล้วทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลากรประจำหน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ผู้อำนวยการประจำหน่วย ไม่มีปัญหาการลาออกของบุคลากร ด้านวัสดุอุปกรณ์ในการเลือกตั้ง หีบบัตรเลือกตั้ง คูหา ได้จัดส่งลงพื้นที่หมดแล้ว สำหรับบัตรเลือกตั้ง ขณนี้อยู่ระหว่างประทับตราบัตรเลือกตั้งของแต่ละเขต ถือว่าขณะนี้ได้มีความพร้อมทุกอย่าง

ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำปาง กล่าวอีกว่า ในส่วนของการเลือกตั้งของจังหวัดลำปางในวันที่ 2 กพ.นี้ คาดว่า ไม่ปัญหาการขัดขวางหรืออุปสรรคในการจัดการเลือกตั้ง ทั้งนี้จากการประเมินสถานการณ์การเลือกตั้งนับจากการรับสมัคร สส. การจัดเวทีกลาง รวมถึงการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมา ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด มีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามปกติ โดยไม่มีการขัดขวางการจัดการเลือกตั้งแต่อย่างใด



ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.ลำปาง

สถานการณ์ไฟป่าลำปางน่าห่วง กำหนดช่วงห้ามเผา 100 วันอันตราย แต่มีการลักลอบเผาพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น

สถานการณ์ไฟป่าที่จังหวัดลำปางปีนี้น่าห่วง แม้จังหวัดจะประกาศเขตควบคุมไฟป่าทั้งจังหวัด กำหนดช่วงห้ามเผา 100 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 27 มกราคม – 6 พฤษภาคม 2557 แต่ลักลอบเผาพื้นที่ป่าเริ่มถี่ขึ้น

นายเสกสรรค์ แดงใส ประธานชมรม We Love King We love Thailand นครลำปาง เปิดเผยว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่าเฮาฮักม่อนพระยาแช่ จังหวัดลำปาง ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของภาคประชาชนที่มีจิตอาสา ได้รับแจ้งทั้งทางโทรศัพท์และผ่านทาง Facebook Fanpage “หยุดไฟป่าลำปาง” บ่อยครั้งขึ้น โดยเฉพาะวนอุทยานม่อนพระยาแช่ ด้านหลังศาลากลางจังหวัดลำปาง และไฟไหม้ป่าริมถนน เมื่อได้รับแจ้งก็จะส่งทีมงานออกไปดับไฟทันที โดยขอความร่วมมือกับส่วนราชการในพื้นที่ ล่าสุดจากการเข้าไปดับไฟที่ไม้บริเวณดอยพระบาท ใกล้กับพื้นที่ป่าม่อนพระยาแช่ พบต้นไม้ขนาดเข้าต้นขาถูกตัดเป็นท่อนรอขนออกจากป่า เชื่อว่าน่าจะเป็นชาวบ้านที่เข้าไปหาของป่า ลักลอบตัดเพื่อนำไปทำฟืนและนำไปเพาะเห็ด และคนกลุ่มนี้รู้เห็นการจุดไฟเผาป่าม่อนพระยาแช่

แม้ขณะนี้จังหวัดลำปางจะมีประกาศจังหวัด กำหนดเขตควบคุมไฟป่า และกำหนดพื้นที่เสี่ยงการเกิดไฟป่าและประกาศช่วงห้ามเผา 100 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 27 มกราคม – 6 พฤษภาคม 2557 พร้อมทั้งได้ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจและกำนันผู้ใหญ่บ้านแจ้งขอความร่วมมือกับชาวบ้านห้ามเผาในช่วงนี้ แต่ยังมีชาวบ้านกลุ่มเดิมที่ยังฝ่าฝืน การจัดการไฟป่าเมื่อได้รับแจ้งเหตุบุคลากรของส่วนราชการไม่คล่องตัวที่จะออกไปดับไฟได้ทันท่วงที ทำให้ไฟไหม้ป่าเป็นพื้นที่กว้างยากแก่การควบคุม
ภาคประชาชนจังหวัดลำปาง ภายใต้ชมรม We Love King We love Thailand นครลำปาง จึงรวมกลุ่มชาวบ้านผู้มีจิตอาสาต้องการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าของจังหวัดลำปางทำงานคู่ขนานกับหน่วยจังหวัด ทั้งนี้ ทีมงานดับไฟป่าภาคประชาชน ไม่มีค่าเบี้ยเลี้ยง หรือค่าตอบแทนจากหน่วยงานใด ทุกคนมาด้วยความสมัครใจ ค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งที่นำมาเป็นค่าอาหาร และน้ำมันเชื้อเพลิง พาหนะเดินทาง กำลังจะทำบุญทอดผ้าป่าเพื่อหาเงินสนับสนุนกิจกรรมป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าของเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่จังหวัดลำปาง ในวันที่ 31 มกราคมนี้ ที่วัดม่อนพระยาแช่ โดยมีกรมป่าไม้เป็นเจ้าภาพร่วม

นายเสกสรรค์ คาดการณ์ว่า สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่จังหวัดลำปาง ปีนี้จะรุนแรงมากกว่าทุกปี เนื่องจากสภาพอากาศแห้งแล้ง ฝนน้อย และอากาศหนาวเย็นมากกว่าทุกปี เมื่อเกิดไฟไหม้ป่าปัญหาหมอกควันจึงรุนแรง การป้องกันและแก้ปัญหาที่ต้นเหตุหากประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือ ไม่ให้มีการเผาโดยเด็ดขาด หากพบเห็นไฟป่าเกิดขึ้น ต้องมีทีมงานในพื้นที่รีบเข้าไปดับไฟทันที หากทำได้ปัญหาหมอกควันในจังหวัดลำปางปีนี้ลดน้อยลงแน่นอน


ข่าวโดย : ทิชากร อินต๊ะสืบ นักศึกษาฝึกประสบการณ์/ม.พะเยา

กกต.ลำปาง แจ้งผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขต ที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิ สามารถมาใช้สิทธิเลือกตั้งได้ในวันที่ 2 ก.พ.57

นายสุคนธ์ เรือนสอน ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า จากการที่เปิดให้มีการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า และกำหนดเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา มีผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ ทั้งหมด 969 คน มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง รวม 811 คน สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ แล้วไม่ได้ไปใช้สิทธิ สามารถมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 โดยไม่ถูกตัดสิทธิ
และในส่วนของผู้ลงทะเบียนขอรับสิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด รวมทั้งสิ้น 4,082 คน แต่มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เพียงแค่ 560 คนเท่านั้น หากต้องการรักษาสิทธิ สามรถแจ้งเหตุไม่ไปเลือกตั้งได้ ก่อนเลือกตั้ง7 วัน หรือ หลังวันเลือกตั้ง 7 วัน



ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์

ทต.ริมปิง ต้อนรับคณะศึกษาดูงานตำบลนมแม่เพื่อสายใยรักแห่งครอบครัว จากโรงพยาบาลขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

เทศบาลตำบลริมปิงต้อนรับคณะศึกษาดูงานตำบลนมแม่เพื่อสายใยรักแห่งครอบครัว จากโรงพยาบาลขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานเทศบาลตำบลริมปิง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน นายเอนก มหาเกียรติคุณ นายกเทศมนตรีตำบลริมปิง ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลริมปิง ปราชญ์นมแม่ ให้การต้อนรับคณะศึกษาดูงานจาก โรงพยาบาลขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 12 คน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ชมรมสายใยรักแห่งครอบครัวตำบลขุนยวม เข้าศึกษาดูงานการขับเคลื่อนดำเนินงานตำบลนมแม่เพื่อสายใยรักแห่งครอบครัว เน้นบทบาทการทำงานของภาคีเครือข่ายแบบบูรณาการที่ช่วยกันขับเคลื่อนในการส่งเสริมเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยรับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานที่ผ่านมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554–ปัจจุบัน และลงพื้นที่ชุมชนบ้านปราชญ์นมแม่และบ้านครอบครัวตัวอย่าง จำนวน 1 ครอบครัว ทั้งนี้ ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานร่วมกันภายใต้บริบทของพื้นที่ นำแนวทางการดำเนินงานในพื้นที่ตำบลริมปิง และองค์ความรู้ที่ได้รับกลับไปปรับใช้ให้เหมาะสม โดยมีเป้าหมายสูงสุด คือ การปกป้อง ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน ให้มีความต่อเนื่องและยั่งยืนสืบไป



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 

กกต.ลำพูน จัดอบรมชุดป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งและชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อปฏิบัติภารกิจป้องกัน ระงับ ยับยั้งการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

กกต.ลำพูน จัดอบรมชุดป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งและชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อปฏิบัติภารกิจป้องกัน ระงับ ยับยั้งการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และดำเนินการให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำพูน ดำเนินโครงการอบรมชุดป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อปฏิบัติภารกิจป้องกัน ระงับ ยับยั้งการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และดำเนินการให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม ณ โรงแรมเดอะแกรนด์ จามจุรีรีสอร์ท อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โดยชุดป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่งตั้งจากตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) จำนวน 48 นาย และชุดเคลื่อนที่เร็ว แต่งตั้งจากตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน จำนวน 5 นาย การอบรมครั้งนี้ มี พ.ต.อ.สถาพร พินิจศักดิ์ กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำพูน เป็นประธานในพิธี และมี นางพิมประไพ ดิชวงศ์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำพูน กรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 1 และ 2 นายไกรยุทธิ์ มณีวระ หัวหน้างานสืบสวนสอบสวน นางนาตยา คงแสง หัวหน้างานจัดการเลือกตั้ง และพนักงานสืบสวนสอบสวน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำพูน เข้าร่วม



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 

ทต.บ้านแป้น เร่งป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดนกในพื้นที่ ระหว่างวันที่ 27 มกราคม - 7 กุมภาพันธ์นี้

เทศบาลตำบลบ้านแป้นเร่งป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดนกในพื้นที่ ดำเนินการรณรงค์ ฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในโรงเรือน สถานที่เลี้ยงสัตว์ปีก และที่อยู่อาศัยของสัตว์ปีก ระหว่างวันที่ 27 มกราคม - 7 กุมภาพันธ์ 2557

นายชัยวัฒน์ ศรีพฤกษ์ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านแป้น อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า โรคไข้หวัดนกเป็นโรคระบาดที่สร้างผลกระทบในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย และยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นโรคที่ติดต่อไปยังคนและทำให้มีผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตามแม้ประเทศไทยจะไม่พบโรคไข้หวัดนกในสัตว์ปีกเป็นระยะเวลามากกว่า 3 ปีแล้ว แต่ยังมีรายงานการระบาดของโรคไข้หวัดนกในประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศในภูมิภาคเดียวกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบการเลี้ยง การผลิต รวมถึงธุรกิจส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกและยังก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน มาตรการทำลายเชื้อโรคเป็นมาตรการหนึ่งที่สำคัญในการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก ซึ่งได้มีการดำเนินการต่อเนื่องมาโดยตลอด ทำให้อุบัติการณ์ของการเกิดโรคระบาดสัตว์ปีกอื่นๆ ลดลงด้วย และมีความจำเป็นต้องรณรงค์ทำความสะอาด และทำลายเชื้อโรคในโรงเรือน สถานที่เลี้ยงสัตว์ปีก ตลอดจนสถานที่สาธารณะและสถานที่ราชการ เพื่อตัดวงจรและลดอุบัติการณ์ของโรคไข้หวัดนกให้หมดไป ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดนกในพื้นที่ เทศบาลตำบลบ้านแป้นจึงจัดทำโครงการรณรงค์ป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดนก ประจำปีงบประมาณ 2557 โดยดำเนินการร่วมกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ในพื้นที่ทั้ง 9 หมู่บ้าน ในการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรคไข้หวัดนกในโรงเรือน สถานที่เลี้ยงสัตว์ปีก และที่อยู่อาศัยของสัตว์ปีก ระหว่างวันที่ 27 มกราคม - 7 กุมภาพันธ์ 2557

เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เทศบาลตำบลบ้านแป้นขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติงานในครั้งนี้ด้วย หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลบ้านแป้น โทรศัพท์หมายเลข 0-5357-3641 ต่อ 23 ในวันและเวลาราชการ



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 

อบจ.ลำพูน เร่งก่อสร้างและจัดตั้งศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) หวังเป็นจุดดึงดูดทางการท่องเที่ยว

อบจ.ลำพูน เร่งก่อสร้างและจัดตั้งศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) หวังเป็นจุดดึงดูดทางการท่องเที่ยว (Landmark) พร้อมเป็นสถานที่แสดงและจำหน่ายสินค้าที่สำคัญของจังหวัด

นายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน กล่าวว่า โครงการศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กระจายและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์และสินค้าทางการเกษตรในการแสดง แลกเปลี่ยนและกระจายสินค้าของดีที่มาจากทุกอำเภอในจังหวัดลำพูน เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดในการจำหน่ายและกระจายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์และสินค้าทางการเกษตรของจังหวัดลำพูน และเป็นช่องทางการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนในจังหวัดลำพูน เพื่อเป็นศูนย์กลางการเผยแพร่มรดกทางภูมิปัญญาท้องถิ่นในจังหวัดลำพูนที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและเป็นที่ยอมรับให้เป็นที่รู้จัก และเป็นแหล่งเรียนรู้และถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้กับประชาชนและผู้ที่สนใจได้ศึกษา เพื่อเป็นศูนย์กลางการศึกษา เรียนรู้ ฝึกอบรม สัมมนา และศึกษาดูงาน ด้านการพัฒนาและการบริหารจัดการสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) และเพื่อเป็นศูนย์กลางการจัดกิจกรรมการส่งเสริมวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น เศรษฐกิจ การค้าการลงทุนของจังหวัดลำพูน เพื่อรองรับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของจังหวัดที่สินค้าและบริการจะมีการแข่งขันกันอย่างเสรี จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีศูนย์แสดงและกระจายสินค้า สอดคล้องกับแผนพัฒนาจังหวัดลำพูน พ.ศ.2557-2560 ที่มุ่งส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจทั้งในภาคเกษตร อุตสาหกรรม ท่องเที่ยว หัตถอุตสาหกรรม โดยใช้วัฒนธรรมเป็นฐานในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และบริการที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยได้ดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) และสินค้าเกษตรจังหวัดลำพูน จำนวน 1 หลัง งบประมาณ 9 ล้าน 5 แสนบาท ในพื้นที่ส่วนหนึ่งของโครงการศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ตามแผนปฏิบัติราชการจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2556 ตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (อ.ก.น.จ.) ด้านแผนและงบประมาณ ในการประชุมครั้งที่ 3/2556 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2556 โดยมีสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดลำพูน เป็นหน่วยงานดำเนินการและประสานงานรายละเอียดโครงการกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน
เมื่อดำเนินการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมอบหมายให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนเป็นหน่วยงานในการบริหารจัดการ ดูแลและบำรุงรักษาให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ได้กำหนดเป็นวาระสำคัญขององค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน จึงได้จัดทำโครงการการก่อสร้างและจัดตั้งศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ณ บริเวณฝั่งตรงข้ามอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย วัดดอยติ ตำบลป่าสัก อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เพื่อเป็นจุดดึงดูดทางการท่องเที่ยว (Landmark) และเป็นสถานที่แสดงและจำหน่ายสินค้าที่สำคัญของจังหวัดลำพูน



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 

อบจ.ลำพูน เปิดมิติใหม่แห่งการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เพิ่มช่องทางการติดต่อ เป็นเครือข่ายประชาสัมพันธ์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัด

อบจ.ลำพูน เปิดมิติใหม่แห่งการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร จัดตั้งกลุ่มโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์กลาง เพื่อเพิ่มช่องทางในการติดต่อสื่อสาร เป็นเครือข่ายประชาสัมพันธ์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดลำพูน

ที่ห้องประชุมชั้น 3 องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน นายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ได้เชิญผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในจังหวัดลำพูนและเจ้าหน้าที่งานประชาสัมพันธ์องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดลำพูน 58 แห่ง เข้าร่วมประชุมหารือด้านการประชาสัมพันธ์ภาพรวมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดลำพูน เพื่อภาพลักษณ์ใหม่ในการสื่อสารให้เข้าใจเข้าถึงประชาชน เป็นการแลกเปลี่ยนแนวคิดในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน โดยมีการบูรณาการความร่วมมือกันขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดลำพูน ในการสื่อสารด้านการให้บริการ ช่วยเหลือ แก้ไข พัฒนาท้องถิ่นในภาพรวมให้มีความรวดเร็ว ครบถ้วน และเป็นจริง ประชาชนเข้าใจในบทบาทและภารกิจหน้าที่ความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อันจะนำมาซึ่งการมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นร่วมกันต่อไป โดยที่ประชุมได้มีแนวคิดจัดตั้งกลุ่มโซเชียลมีเดีย Facebook, Line, เว็บไซต์กลาง โดยใช้ชื่อว่า "งานประชาสัมพันธ์ อปท. จ.ลำพูน" เพื่อเพิ่มช่องทางในการติดต่อสื่อสาร เป็นเครือข่ายประชาสัมพันธ์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดลำพูน นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันเสนอแนวคิดในการจัดทำวารสาร หรือหนังสือพิมพ์ อปท.ลำพูน นิวส์ เน้นรูปแบบที่สวยงาม น่าอ่าน ชวนติดตาม และได้สาระ การใช้ป้ายคัตเอาท์ประชาสัมพันธ์ ซึ่ง อบจ.ลำพูน มีศักยภาพ และกำลังขับเคลื่อน “ลำพูน นครแห่งทุนทางวัฒนธรรมชุมชน” หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดมีกิจกรรมงานด้านวัฒนธรรมประเพณีสำคัญๆ ที่ต้องการเผยแพร่ อบจ.ลำพูน พร้อมให้การสนับสนุน การดำเนินการวิทยุกระจายเสียง อบจ.ลำพูน ได้จัดตั้งสถานีวิทยุ LPCN Radio Network FM 88.25 MHz ซึ่ง ชาวองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ลำพูน สามารถหมุนเวียนกันมาจัดรายการได้ และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการดำเนินงานด้านประชาสัมพันธ์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนพร้อมให้การสนับสนุนในรูปแบบของรางวัล สำหรับ อปท.ดีเด่น ด้านการประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวทำงานด้านประชาสัมพันธ์ที่มีสีสันเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการอบรมเพิ่มทักษะด้านการประชาสัมพันธ์ให้แก่ผู้ปฏิบัติงานด้านการประชาสัมพันธ์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน พัฒนาสู่ความเป็นเลิศและยกระดับสู่สากลต่อไป


ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 

กกต. เตือนประชาชนให้ระวัง การกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.

นายบรรหาร บูรณะประภา ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ประจำจังหวัดลำพูน เปิดเผยเกี่ยวกับข้อควรระวังการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ว่า จากการที่ กกต. ได้จัดการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 2 ก.พ. 2557 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 15.00 น. กกต. ได้แจ้งเตือนให้ประชาชนระวังการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ดังนี้

1.ห้ามซื้อเสียง 2.ห้ามทำการโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพ หรือการรื่นเริงต่างๆ 3.ห้ามเลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยง 4.ห้ามหาเสียงโดยการหลอกลวง บังคับ ขู่เข็น ใช้อิทธิพลคุกคามใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้ เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง 5.ห้ามรับเงินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อลงคะแนนเลือกตั้ง 6.ห้ามหาเสียงและห้ามขาย จำหน่าย จ่ายแจกหรือจัดเลี้ยงสุราในเขตเลือกตั้ง ตั้งแต่ 18.00 น. ของวัน ก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง 7.ห้ามนายจ้างขัดขวางหรือหน่วงเหนี่ยวหรือไม่ให้ความสะดวกในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งของ ลูกจ้าง 8.ห้ามขัดขวางหรือหน่วงเหนี่ยวมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป ณ ที่เลือกตั้ง 9.ห้ามทำให้บัตรเลือกตั้งชำรุด หรือเสียหาย หรือให้เป็นบัตรเสียอย่างจงใจ 10.ห้ามถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ตนเองได้ลงคะแนนแล้วด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ใด 11.ห้ามนำบัตรเลือกตั้งออกจากที่เลือกตั้ง 12.ห้ามเล่นการพนันขันต่อใดๆเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง 13.ห้ามเปิดเผยหรือเผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง (โพลล์) ในระหว่าง 7 วัน ก่อนวันเลือกตั้งจนถึงเวลาปิดการลงคะแนนเลือกตั้ง



ข่าวโดย : นศ.ฝึกประสบการณ์ อุไรวรรณ ปิงแก้ว

5 อปท. ร่วมลงนาม MOU จัดการขยะย่อยสลายและขยะอันตรายแบบมีส่วนร่วม มุ่งบริหารจัดการขยะให้ถูกวิธี ช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม

5 อปท. ร่วมลงนาม MOU จัดการขยะย่อยสลายและขยะอันตรายแบบมีส่วนร่วม มุ่งบริหารจัดการขยะให้ถูกวิธี ช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม พร้อมได้ก๊าซหุงต้มนำไปใช้ในครัวเรือนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลป่าสัก อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) ระหว่างหน่วยงาน เรื่องการบริหารจัดการขยะแบบมีส่วนร่วม โดยมีผู้บริหาร ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในอำเภอเมืองลำพูน จำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วย เทศบาลตำบลบ้านกลาง เทศบาลตำบลมะเขือแจ้ เทศบาลตำบลเวียงยอง เทศบาลตำบลศรีบัวบาน องค์การบริหารส่วนตำบลป่าสัก และผู้แทนจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำพูน ร่วมลงนาม เป็นเครือข่ายการจัดการสิ่งแวดล้อม โดย นายประสิทธิ์ จันทกลาง นายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง กล่าวว่า ปัญหาที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หลายแห่งประสบตอนนี้คือ การบริหารจัดการขยะ ที่เกิดจากครัวเรือน ชุมชน ซึ่ง อปท.ขนาดเล็ก จะประสบปัญหาเรื่องงบประมาณในการบริหารจัดการ ที่สำคัญปัญหาดังกล่าวยังส่งผลต่อระบบนิเวศน์ การดำรงชีวิต และสุขภาพ ซึ่งการจัดการขยะย่อยสลายได้ และขยะอันตรายนั้น ต้องใช้งบประมาณในการกำจัดค่อนข้างสูง ทางเทศบาลตำบลบ้านกลางได้ร่วมกับกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน ดำเนินการก่อสร้าง ระบบผลิตพลังงานจากขยะชุมชน บริเวณบ่อพักขยะ หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านกลาง สำหรับรูปแบบการจัดการคือนำขยะอินทรีย์ ประเภทผักสด เศษอาหาร เศษไม้ วัชพืช นำมาหมักในระบบ ใช้เทคโนโลยีการย่อยสลายแบบไม่ใช้ออกซิเจน หลังจากผ่านกระบวนการหมักแล้ว จะได้พลังงานในรูปของก๊าซหุงต้ม และปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งเป็นแนวทางในการกำจัดขยะที่ถูกวิธี และเป็นการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก ซึ่งก๊าซหุงต้มที่ได้เทศบาลนำไปให้ครัวเรือนใช้ประโยชน์โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ ข้อตกลงที่ได้ทำร่วมกันนี้ มีสาระสำคัญคือ ร่วมกันวางแผนการบูรณาการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เรื่องการจัดการขยะ โดยเฉพาะขยะอันตรายและขยะอินทรีย์ รวมถึงจัดเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ ซึ่ง อปท.ทั้ง 5 แห่ง จะได้ดำเนินการ เป็นกิจกรรมนำร่องในการพัฒนาท้องถิ่นโดยการบูรณาการและใช้ศักยภาพของ อปท.แต่ละแห่ง ร่วมกัน หากประสบผลสำเร็จ จะดำเนินการเป็นโครงการต้นแบบ ขยายผลไปสู่พื้นที่อื่นต่อไป



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ

ทต.ริมปิง แลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้ามพื้นที่ หวังนำมาปรับใช้กับการบริหารจัดการขยะและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในพื้นที่

เทศบาลตำบลริมปิง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน นำโดย นายเอนก มหาเกียรติคุณ นายกเทศมนตรีตำบลริมปิง พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ กองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลริมปิง เข้าศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้ามพื้นที่การบริหารจัดการขยะแบบครบวงจร ณ เทศบาลตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้ามพื้นที่การบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ องค์การบริหารส่วนตำบลแม่สุก อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา ทั้งนี้ ทางคณะศึกษาดูงานมีความสนใจแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับวิทยากรแหล่งเรียนรู้เพื่อนำมาปรับใช้กับการบริหารจัดการขยะและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพ ในพื้นที่ต่อไป



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ

อบจ.ลำพูน เตรียมจัดซื้อเครื่องจักรกลและยานพาหนะ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อยของประชาชนอันเนื่องจากภัยพิบัติ

อบจ.ลำพูน เตรียมจัดซื้อเครื่องจักรกลและยานพาหนะ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อยของประชาชนอันเนื่องจากภัยพิบัติ และให้การจัดบริการสาธารณะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน กล่าวว่า ปัจจุบันองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ไม่มีเครื่องมือและอุปกรณ์ขั้นพื้นฐานที่จำเป็นในการจัดบริการสาธารณะแก่ประชาชน ประกอบกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนมีงบประมาณน้อยและจำกัด ไม่สามารถดำเนินการจัดบริการสาธารณะแก่ประชาชนในท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพได้ ดังนั้น องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนจึงได้จัดทำโครงการจัดซื้อเครื่องจักรกลและยานพาหนะขององค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อยของประชาชนอันเนื่องจากภัยพิบัติต่างๆ เป็นโครงการที่มีความจำเป็นต้องรีบดำเนินการ หากไม่รีบดำเนินการจะเกิดผลเสียหายต่อประชาชนโดยรวม และเพื่อให้การจัดบริการสาธารณะขององค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจะดำเนินการจัดซื้อเครื่องจักรกลและยานพาหนะองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ทั้งสิ้น 5 รายการ เป็นเงิน 16 ล้านบาท



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ

สภา อบจ. ลำพูน เห็นชอบญัตติกู้เงินกองเงินทุนสะสมทรัพย์ 82 ล้านบาท ในโครงการศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ และโครงการจัดซื้อเครื่องจักรกลและยานพาหนะ

สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน เปิดประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน สมัยวิสามัญ สมัยที่หนึ่ง ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2557 ณ ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ชั้น 3 มี นายทรงศักดิ์ วังธิยอง ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน เป็นประธานการประชุม โดยมี นายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน นายธนกฤต ตันวัฒนากูล นายกำธร เนตรผาบ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน พร้อมคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ทั้ง 24 คน ร่วมประชุม
ที่ประชุม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ได้เสนอญัตติต่อสภา ได้แก่ ญัตติขออนุมัติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำชี้แจงงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 (กรณีเบิกตัดปี) ญัตติขออนุมัติโอนเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 (กรณีเบิกตัดปี) ญัตติขออนุมัติโอนเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 จำนวน 2 ฉบับ ญัตติขอความเห็นชอบกู้เงินจากเงินทุนสะสมทรัพย์องค์การบริหารส่วนจังหวัด (กสอ.) จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) จำนวน 8 รายการ ในวงเงินกว่า 66 ล้านบาท และโครงการจัดซื้อเครื่องจักรกลและยานพาหนะ จำนวน 6 รายการ ในวงเงิน 16 ล้านบาท รวมเป็นเงินกว่า 82 ล้านบาท ญัตติขอความเห็นชอบให้ส่วนราชการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินขององค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ญัตติขอความเห็นชอบให้โอนอาคารศูนย์จำหน่ายสินค้าบ้านดอนหลวง ซุ้มประตูบ้านดอนหลวง และอาคารศาลาที่พักนักท่องเที่ยวข้างวัดดอนหลวง โดยญัตติที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน เสนอต่อสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ได้ผ่านความเห็นชอบทุกญัตติ




ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ

กกต.ลำพูน กำหนดจัดเวทีกลางให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองโฆษณาหาเสียงในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร วันพุธที่ 29 และวันศุกร์ที่ 31 มกราคมนี้

กกต.ลำพูน กำหนดจัดเวทีกลางให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองโฆษณาหาเสียงในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร วันพุธที่ 29 มกราคม 2557 และวันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2557

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำพูน กำหนดจัดเวทีกลางให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองโฆษณาหาเสียงในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) โดยวันพุธที่ 29 มกราคม 2557 เป็นการเปิดเวทีให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขตเลือกตั้งที่ 2 ณ ตลาดห้วยกาน อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน จากนั้นวันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2557 เป็นการเปิดเวทีให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขตเลือกตั้งที่ 1 ณ ข่วงคนเตียว ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ทั้งนี้ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดลำพูน ดำเนินการถ่ายทอดเสียงออกอากาศทาง สวท.ลำพูน ระบบเอฟเอ็ม ความถี่ 95 เม็กกะเฮิร์ตซ ทั้ง 2 เวที



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 
หน่วยงาน : สวท.ลำพูน 

พม.กำแพงเพชรจัดอบรมเครือข่ายสหวิชาชีพในการปฏิบัติงานป้องกันและปราบรามการค้ามนุษย์

 เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2557 เวลา 10.00 น.ที่ห้องประชุมลิไท โรงแรมเพชรโฮเต็ล อ.เมือง จ.กำแพงเพชร นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานเปิดงานโครงการฝึกอบรม "เครือข่ายสหวิชาชีพในการปฏิบัติงานป้องกันและปราบรามการค้ามนุษย์" โดยมีนายสุทธิ จันทรวงษ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์จังหวัดกำแพงเพชร กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการ จังหวัดกำแพงเพชร ยังมีสถานการณ์ด้านการค้ามนุษย์ ซึ่งอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรงเท่ากับจังหวัดที่เป็นพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจ หรือมีพื้นที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็พบการลักลอบเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวอยู่เสมอ นอกจากนั้น จากการรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2556 ของกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา จัดลำดับให้ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มบัญชีที่เฝ้าจับตามอง Tier 2 Watch ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 (ตั้งแต่ปี ๒๕๕๓-๒๕๕๖) จึงจำเป็นที่จะต้องดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ซึ่งกระทรวงการพัฒนาและความมั่นคงมนุษย์ ก็ได้มีการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ มาโดยตลอด มีการนำผลการประเมินสถานการณ์และการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการกำหนดโครงการ/กิจกรรมเพื่อแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ อย่างต่อเนื่องและจริงจัง


อมรเทพ สังคง / ข่าว/ภาพ