วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

จังหวัดเชียงใหม่ ประชุมซักซ้อมความเข้าใจแนวทางการดำเนินการปรับลดราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมี และยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืช

จังหวัดเชียงใหม่ประชุมซักซ้อมความเข้าใจแนวทางการดำเนินการปรับลดราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมี และ ยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืชแก่นายอำเภอทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดก่อนที่จะเชิญผู้ประกอบการในพื้นที่มารับทราบแนวทางและ ขอความร่วมมือจำหน่ายปุ๋ยเคมี และยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืชในราคาที่ไม่เกินราคาแนะนำ

วันนี้ (9 ก.ค.57) เวลา 15.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ นายนาวิน สินธุสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมซักซ้อมความเข้าใจแนวทางการดำเนินการปรับลดราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมี และยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืชแก่นายอำเภอทั้ง 25 อำเภอของจังหวัด เพื่อให้เกิดความเข้าใจในทิศทางเดียวกันก่อนที่ทุกอำเภอจะเชิญผู้ประกอบการหรือร้านค้าจำหน่ายปุ๋ยเคมี และยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืชในท้องที่มาประชุมเพื่อขอความร่วมมือให้จำหน่ายปุ๋ยเคมี และยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืชในราคาที่ไม่สูงกว่าราคาแนะนำของแต่ละท้องที่ ทั้งที่เพื่อสนองนโยบายสำคัญเร่งด่วนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ศสช.) ในการช่วยเหลือเกษตรกรหรือชาวนาผู้ปลูกข้าวในฤดูกาลผลิต ปี 2557/2558 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับลดราคาต้นทุนปัจจัยการผลิตข้าว ซึ่งมีปุ๋ยเคมีและยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืช เป็นต้น ดังนั้น เพื่อให้เกษตรกรหรือชาวนาได้รับความเป็นธรรมในด้านราคาที่สมเหตุสมผล สอดคล้องกับราคาที่ปรับลดลงจากผู้ผลิต ผู้จำหน่าย สำนักงานคณะกรรมการส่วนจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ออกประกาศราคาจำหน่ายแนะนำปุ๋ยเคมี ยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืช สำหรับแนวทางการดำเนินการปรับลดราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมีและยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืชนั้น สำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2557 กำหนดแนวทางการดำเนินการปรับลดราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมีและยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืช ตามนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรหรือชาวนาผู้ปลูกข้าวในฤดูกาลผลิตปี 2557/2558 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับลดราคาต้นทุนปัจจัยการผลิตข้าว โดยได้ดำเนินการจัดประชุมหารือร่วมกับผู้ประกอบการปุ๋ยเคมี และยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืชทั้งผู้ผลิต ผู้จำหน่าย เพื่อขอความร่วมมือให้ปรับลดราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมี และยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืชที่ใช้ในนาข้าว ซึ่งผู้ประกอบการยินดีให้ความร่วมมือในการลดราคาปุ๋ยเคมีจากเดิมประมาณกระสอบละ (50 กก.) 40 – 50 บาท ยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืชลดราคาจากเดิมประมาณร้อยละ 5 – 10 นอกจากนั้นยังได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการออกประกาศเกี่ยวกับราคาจำหน่ายแนะนำปุ๋ยเคมีและยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืช ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดอื่น ๆ และกำหนดให้ผู้จำหน่ายปลีกต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดในเรื่องการปิดป้ายแสดงราคา ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เรื่องการแสดงราคาสินค้าและค่าบริการ พ.ศ. 2556 ลงวันที่ 28 มกราคม 2556 รวมทั้งขอความอนุเคราะห์ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการส่วนจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (ประธาน กจร.) ดำเนินการมอบหมายสำนักงานคณะกรรมการส่วนจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ดำเนินการออกประกาศฯ ราคาจำหน่ายปลีกแนะนำปุ๋ยเคมี ยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืช และเมื่อได้ออกประกาศสำนักงาน กจร. แล้ว แจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการทราบ มอบหมายอำเภอจัดประชุมซักซ้อมความเข้าใจกับผู้ประกอบการค้าในพื้นที่ให้ความร่วมมือจำหน่ายปุ๋ยเคมี และยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืชในราคาแนะนำ ดำเนินการประชาสัมพันธ์ผ่านหน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัดและสหกรณ์การเกษตรผู้ปลูกข้าว การซักซ้อมความเข้าใจกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการหรือร้านค้าในเขตท้องที่รับผิดชอบเกี่ยวกับมาตรการการปรับลดราคาปุ๋ยเคมี และยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืช และสั่งการหน่วยงานที่รับผิดชอบรวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่กวดขันในการตรวจสอบและสอดส่องดูแลผู้จำหน่ายปุ๋ยเคมี และยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืชให้มีการจำหน่ายให้เป็นไปตามราคาแนะนำที่ประกาศไว้ ซึ่งหากพบการกระทำความผิดดังกล่าวให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมได้มีมติมอบหมายให้ 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ออกไปตรวจสอบราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมี และยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืชในพื้นที่ของตนเอง หากพบปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการให้รายงานให้คณะกรรมการระดับจังหวัดทราบเพื่อนำปัญหาดังกล่าวเสนอหน่วยงานส่วนกลางรับทราบและร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป ทั้งนี้ให้รายงานจังหวัดทราบข้อมูลเบื้องต้นภายในวันที่ 18 กรกฎาคม 2557 นี้ ส่วนในเดือนต่อ ๆ ไป ให้รายงานทุกวันที่ 15 และ 30 ของเดือน



ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 เตรียมจัดงาน LANNA EXPO 2014 เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันเชิงรุก สร้างรายได้และเพิ่มมูลค้าการค้า การลงทุน และเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 เตรียมจัดงาน LANNA EXPO 2014 เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันเชิงรุก สร้างรายได้และเพิ่มมูลค้าการค้า การลงทุน และเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในช่วงระหว่างวันที่ 19 – 23 กันยายน 2557 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

วันนี้ (9 ก.ค.57) เวลา 09.00 น. ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายนาวิน สินธุสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานจัดงาน LANNA EXPO 2014 เพื่อหารือเตรียมความพร้อมการจัดงาน LANNA EXPO 2014 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 23 กันยายน 2557 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้โครงการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน และ แม่ฮ่องสอน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันเชิงรุกของพื้นที่ สร้างรายได้และเพิ่มมูลค่าการค้า การลงทุน รวมทั้งเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ.2558

สำหรับรายละเอียดกิจกรรมการจัดงาน LANNA EXPO 2014 จะเป็นการจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าการท่องเที่ยว (LANNA TOURISM EXPO) สินค้าหัตถอุตสาหกรรม (LANNA HANDICRIFT EXPO) ธุรกิจบริการสุขภาพ (HEALTH AND WELLNESS EXPO) และของดี OTOP ซึ่งมีสำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด เป็นหน่วยงานหลัก ในการจัดงาน นอกจากนั้นยังกำหนดให้มีการจัดนิทรรศการเพื่อแสดงและเผยแพร่ผลงานวิชาการศักยภาพของกลุ่มจังหวัดในด้านต่าง ๆ การจัดประชุมทางวิชาการ และกิจกรรมอื่น ๆ โดยการประชุมครั้งนี้เพื่อร่วมกันพิจารณากำหนดรูปแบบกิจกรรมการจัดงานโดยบูรณาการงบประมาณ ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และประชาชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 การกำหนดพื้นที่ในการจัดกิจกรรม การประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรมในพื้นที่ทั้ง 4 จังหวัด การรักษาความปลอดภัย ด้านการจราจร รวมถึงการรักษาความสะอาดตลอดการจัดงาน ทั้งนี้ในช่วงของการจัดงานจะมีการนำลำไย ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดกว่า 6 แสนตันมาจำหน่ายภายในงาน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไยด้วย

สำหรับการจัดงาน LANNA EXPO 2014 ถือเป็นการจัดงานเป็นปีที่ 2 โดยการจัดงานในครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมาได้ใช้สถานที่สวนหลวงราชพฤกษ์เป็นสถานที่จัดงาน โดยที่ประชุมได้นำผลการประเมินการจัดงาน ตลอดจนปัญหาอุปสรรคที่พบในปีที่ผ่านมามาเป็นข้อมูลในการปรับปรุงให้การจัดงานในปีนี้ให้มีประสิทธิภาพ สามารถดึงดูดความสนใจให้ประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวได้เข้ามาร่วมชมงานให้มากขึ้น เช่น ระยะเวลาที่กระชั้นชิดเนื่องจากช่วงเวลาของการจัดงานอยู่ในช่วงปลายปีงบประมาณ ทำให้ระยะเวลาของการประชาสัมพันธ์เชิญชวนกลุ่มเป้าหมายเข้ามาร่วมชมงานมีเวลาน้อย ส่งผลให้มีผู้ร่วมชมงานน้อย ส่วนการจัดงานปีนี้มีห้วงเวลาในการเตรียมการและการประชาสัมพันธ์นานพอสมควรหากเริ่มประชาสัมพันธ์ตั้งแต่ห้วงเวลาในตั้งแต่ขณะนี้เป็นต้นไป โดยผ่านช่องทางการแถลงข่าวสื่อมวลชนเป็นประจำทุกสัปดาห์ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ทางรายการมองเมืองเหนือทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 เชียงใหม่ ซึ่งออกอากาศเป็นประจำทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ก็จะทำให้กลุ่มเป้าหมายทั้งประชาชนทั่วไป และนักท่องเที่ยวทราบถึงการจัดกิจกรรมดังกล่าว และให้ความสนใจเข้ามาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ การจัดงานในปีนี้ให้มีการเชื่อมโยงกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกันของทั้ง 4 จังหวัดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งเห็นควรเชิญกลุ่มจังหวัดใกล้เคียงเข้ามาร่วมกิจกรรมด้วย


ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่ จัดพิธีอัญเชิญเทียนจำพรรษาพระราชทาน ประจำปี 2557

จังหวัดเชียงใหม่ จัดพิธีอัญเชิญเทียนจำพรรษาพระราชทาน ประจำปี 2557 ด้วยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงมีเมตตาพระราชทานเทียนจำนำพรรษา ให้แก่วัดในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ทุกพระองค์

วันนี้ (9 ก.ค. 57) เวลา 13.30 น. นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีอัญเชิญเทียนจำพรรษาพระราชทาน ประจำปี 2557 ณ วัดวังสิงห์คำ ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ประธานพิธีอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทานตั้งไว้หน้าโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระรูปทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี พิธีถวายเทียนพรรษาพระราชทาน ประธานพิธีลุกอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทานวางไว้ยังด้านหน้าประธานสงฆ์ ประธานพิธีกล่าวคำถวายเทียนพรรษา ต่อจากนั้นประธานพิธีถวายเทียนพรรษา ถวายผ้าอาบน้ำฝน พระสงฆ์อนุโมทนา ต่อจากนั้น เวลา 15.00 น. รองผู้ว่าราชการเดินทางไปเป็นประธานพิธีอัญเชิญต้นเทียนพรรษาพระราชทาน ณ พระวิหารหลวงวัดสวนดอก พระอารามหลวง ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

ด้วยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงมีเมตตาพระราชทานเทียนจำนำพรรษา ให้แก่วัดในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 2 วัด ดังนี้ 1.วัดวังสิงห์คำ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 2.วัดสวนดอก พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทั้งนี้มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ ร่วมกับสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้จัดโครงการ “หนึ่งใจ...ให้ธรรมะ” เนื่องในวันเข้าพรรษา ประจำปี 2557 จังหวัดเชียงใหม่ได้มอบหมายให้นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ เข้ารับเทียนพรรษาพระราชทาน ประจำปี 2557ในวันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน 2557 ณ มูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ฯ ถนนศูนย์การฝึกรถไฟ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ



ข่าวโดย : ณัฏฐ์ สินันตา/สมัชญา หน่อหล้า/วิมลฉัตร สุดวิลัย
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่

รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และคณะ เข้าพบและแจ้งจุดประสงค์ในการตรวจเยี่ยม การปฏิบัติงานของสำนักงานยุติธรรม จังหวัดเชียงใหม่ โดยจะจัดตั้งศูนย์เครือข่ายยุติธรรม เพื่อให้คนจนและผู้ที่ไม่มีการศึกษาได้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างทั่วถึงและเสมอภาค

วันนี้ 9 ก.ค. 57 เวลา 08.00 น. นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และคณะ เข้าพบนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เข้าหารือในประชุมการตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของสำนักงานยุติธรรม จังหวัดเชียงใหม่ ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ต่อจากนั้นเวลา 10.00 น. รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในการประชุมการตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของ สนง.ยุติธรรม เชียงใหม่ ณ ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา

รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับความยุติธรรมเพื่อลดความเลื่อมล้ำ ซึ่งในจำนวนประชากรในจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมด มีประชากรบางส่วนที่เป็นคนจน ไม่มีการศึกษา และไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ ในเรื่องนี้ ทางกระทรวงยุติธรรมมีมาตรการในการช่วยเหลือคนจนในระดับรากหญ้าคือ มีเงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือประชาชนในกลุ่มดังกล่าวที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิด ด้อยโอกาส หรือถูกเอาเปรียบจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทางกองทุนมีเงินช่วยเหลือด้านการจ้างทนายความเพื่อนำไปสู่กระบวนการยุติธรรม หรือแม้แต่ประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อคดีอาชญากรรม ทางกองทุนก็มีเงินชดเชยให้กับประชาชนที่ประสบปัญหาดังกล่าวด้วย

รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางกระทรวงยุติธรรมยังได้มีอาสาสมัครด้านกฎหมายมาให้ความรู้กับประชาชนที่ไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ประจำอยู่สำนักงานจังหวัดทุกจังหวัด นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งเครือข่ายยุติธรรมชุมชน ชุมชนละ 10 คน โดยจะจัดตั้งศูนย์เครือข่ายยุติธรรมในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น อบต. , เทศบาล ตำบลละ 1 ศูนย์ และทำงานควบคู่กับเจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นศูนย์กลางในการร้องทุกข์และให้คำปรึกษาแก่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้คนจนและผู้ที่ไม่มีการศึกษาได้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างทั่วถึงและเสมอภาค


ข่าวโดย : ณัฏฐ์ สินันตา/สมัชญา หน่อหล้า/วิมลฉัตร สุดวิลัย
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

วัน “อาสาฬบูชา” และ“วันเข้าพรรษา” ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ลด ละ เลิก อบายมุข ประดับธงชาติ ธงธรรมจักร วันสำคัญของพระพุทธศาสนา

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ลด ละ เลิก อบายมุข ประดับธงชาติและธงธรรมจักร "วันอาสาฬหบูชา”และ"วันเข้าพรรษา” ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ 11 กรกฏาคม 2557 และวันเสาร์ที่ 12 กรกฏาคม 2557 ร่วมทำบุญ ตักบาตร นุ่งขาว ห่มข่าว บำเพ็ญทาน รักษาศีล ฟังพระธรรมเทศนา เจริญจิตภาวนา เวียนเทียน ประดับธงชาติและธงธรรมจักร เพื่อน้อมรำลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ช่วยเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมในสังคมไทย สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ ก่อให้เกิดความรัก ความผูกพัน เป็น "สังคมคุณธรรม” อย่างสมดุลและยั่งยืน วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก ทรงแสดงปฐมเทศนา "ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” โปรดพระปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ได้แก่ พระโกญฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ และพระอัสสชิ ที่ป่าอิสปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี แคว้นมคธ จนพระอัญญาโกณฑัญญะ ได้ดวงตาเห็นธรรม สำเร็จเป็นพระโสดาบัน และขออุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา โดยพระพุทธเจ้าทรงประทานอุปสมบทที่เรียกว่า "เอหิภิกขุอุปสัมปทา” พระโกณฑัญญะ จึงเป็นพระอริยสงฆ์องค์แรกในพระพุทธศาสนา ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้แสดงพระธรรมเทศนามีหลักธรรมสำคัญ 2 ประการ คือ 1) มัชฌิมา ปฎิปทา หรือ ทางสายกลาง และ 2) อริยสัจ 4 หรือ ความจริงอันประเสริฐ ได้แก่ ทุกข์ สมุหทัย นิโรธ มรรค ดังนั้น จึงถือว่าวันนี้มีพระรัตนตรัยครบองค์ 3 บริบูรณ์ครั้งแรกในโลก คือ มีทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ร่วมกันรณรงค์ส่งเสริมธรรมะ สร้างความรัก ความสามัคคีให้กับคนในชาติ ในการร่วมมือประดับธงชาติและธงธรรมจักร บริเวณที่พักอาศัย หรือสถานที่สำคัญ ๆ ของทางราชการ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถานประกอบการบริษัท ห้างหุ้นส่วน ร้านค้า ภาคประชาชน รวมถึงการนุ่งขาว ห่มขาว บำเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญจิตภาวนา เพื่อน้อมรำลึกถึงคุณพระรัตนตรัยใน "วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา” ที่วัดใกล้บ้าน หรือหน่วยงานราชการจัดให้ โดยพร้อมเพรียงกัน


พวงพยอม  คำมุง

กกต.น่าน แจ้งขยายระยะเวลาผู้ที่มีความประสงค์จะขอยกเลิกลงทะเบียนและกลับมาใช้สิทธิ ณ หน่วยเลือกตั้งที่ตนมีสิทธิเลือกตั้ง

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน ได้รับแจ้งจาก นายจรูญ จันทร์อินทร์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดน่าน ว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดน่าน ขอแจ้งการขยายระยะเวลาผู้ที่มีความประสงค์จะขอยกเลิกการลงทะเบียนและกลับมาใช้สิทธิ ณ หน่วยเลือกตั้งที่ตนมีสิทธิเลือกตั้ง ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ณ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดน่าน ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน สำหรับหลักฐานประกอบการแจ้งขอยกเลิกการลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดและนอกราชอาณาจักร ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียน



พวงพยอม  คำมุง

บทความพิเศษ : คุณธรรม จริยธรรม สำหรับข้าราชการ

คุณธรรม จริยธรรม สำหรับข้าราชการ คือ การใช้หลักธรรมปฏิบัติในการบริหารงานทุกระดับ ตั้งแต่ ระดับปฏิบัติการ และผู้บริหารระดับต้น ระดับกลาง หรือระดับสูง ให้ได้ผลดี มีประสิทธิภาพสูง โดยการปกครองและบริหารที่ดี (Good Governance)

การปกครองและบริหารที่ดี ตามหลักธรรมปฏิบัตินั้น ผู้บริหารงานต้องมี "ประมุขศิลป์” คือ คุณลักษณะความเป็นผู้นำที่ดี (Good Leadership) อันเป็นคุณสมบัติที่ดีที่สำคัญ ของหัวหน้าฝ่ายบริหาร ลงมาถึงหัวหน้างานทุกระดับให้สามารถปกครอง และบริหารองค์กรที่ตนรับผิดชอบ ให้ดำเนินไปถึงความ สำเร็จอย่างได้ผลดี มีประสิทธิภาพสูง และให้ถึงความเจริญ รุ่งเรือง และสันติสุข อย่างมั่นคง

คุณลักษณะความเป็นผู้นำที่ดีนั้น เป็นทั้งศาสตร์ (Science) และศิลป์ (Arts) กล่าวคือ สามารถ ศึกษาวิเคราะห์วิจัยข้อมูลอย่างมีระบบ จากพฤติกรรมและวิธีการปกครองการบริหาร องค์กรให้สำเร็จด้วยดี มีประสิทธิภาพสูงมาแล้ว ประมวลขึ้นเป็นหลัก หรือ ทฤษฎีสำหรับใช้เป็นแนวทาง การปฏิบัติงานของหัวหน้าฝ่ายบริหาร ให้เกิด ประโยชน์แก่การปกครองการบริหารที่ดี (Good Governance) กล่าวคือ ให้บรรลุผลสำเร็จด้วยดีมีประสิทธิ ภาพสูงได้ เพราะเหตุนั้น ประมุขศิลป์ คือ คุณลักษณะความเป็นผู้นำที่ดี จึ่งชื่อว่า เป็นศาสตร์

นอกจากนี้ คุณลักษณะความเป็นผู้นำที่ดีนั้น ยังเกิดจากการที่บุคคลได้เคยศึกษา หาความรู้ ฝึกฝน อบรม บ่มนิสัย และเคยปฏิบัติพัฒนาสภาวะความเป็นผู้นำที่ดี หล่อหลอมบุคลิกภาพและสภาวะความเป็นผู้นำที่ดี ปลูกฝัง เพิ่มพูน อยู่ในจิตยิ่งขึ้นต่อ ๆ มาจนถึงปัจจุบัน ประมุขศิลป์ คือ คุณลักษณะของความเป็นผู้นำที่ดี รวมถึงต้องมีธรรมาภิบาล

ธรรมาภิบาล (Good Governance) คือ การปกครอง การบริหาร การจัดการการควบคุมดูแล กิจการต่าง ๆ ให้เป็นไปในครรลองธรรม นอกจากนี้ยังหมายถึงการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ทั้งภาครัฐและเอกชน ธรรมที่ใช้ในการบริหารงานนี้ มีความหมายอย่างกว้าง กล่าวคือ หาได้มีความหมายเพียงหลักธรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่รวมถึง ศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม และความถูกต้องชอบธรรมทั้งปวง ซึ่งวิญญูชนพึงมีและพึงประพฤติปฏิบัติ อาทิ ความโปร่งใสตรวจสอบได้ การปราศจากการแทรกแซงจากองค์กรภายนอก เป็นต้น

ธรรมาภิบาล เป็นหลักการที่นำมาใช้บริหารงานในปัจจุบันอย่างแพร่หลาย ด้วยเหตุเพราะ ช่วยสร้างสรรค์และส่งเสริมองค์กรให้มีศักยภาพและประสิทธิภาพ อาทิ พนักงานต่างทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริตและขยันหมั่นเพียร ทำให้ผลประกอบการขององค์กรธุรกิจนั้นขยายตัว นอกจากนี้แล้วยังทำให้บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง ศรัทธาและเชื่อมั่นในองค์กรนั้น ๆ อันจะทำให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น องค์กรที่โปร่งใส ย่อมได้รับความไว้วางใจในการร่วมทำธุรกิจ รัฐบาลที่โปร่งใสตรวจสอบได้ ย่อมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและประชาชนตลอดจนส่งผลดีต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและความเจริญก้าวหน้าของประเทศ


พวงพยอม คำมุง / เรียบเรียง

คสช.เปิดสายด่วน 1111 รับเรื่องร้องเรียนทุกประเภท

ในสภาวะปัจจุบันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าบริหารประเทศ โดย คสช.ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้เปิดศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ 1111 ให้ประชาชนที่มีเรื่องต้องการร้องเรียน ร้องทุกข์ แจ้งเบาะแส ข้อเสนอแนะ และติชม สามารถแจ้งมาได้ 4 ช่องทาง คือ สายด่วนหมายเลข 1111 กด 2, ตู้ ปณ.1111 โดยไม่ต้องติดแสตมป์, www.1111.go.ch และสามารถเดินทางมาด้วยตนเอง ที่ศูนย์ คสช.รับเรื่องร้องทุกข์ ที่ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ถนนพิษณุโลก กรุงเทพมหานคร ประชาชนที่มีเรื่องเดือดร้อน พบเห็นสิ่งผิดกฎหมาย ต้องการแจ้งเบาะแส อาทิ ยาเสพติด บ่อนการพนัน ตลอดจนการปฏิรูปราชการ ปฏิรูปประเทศ เบาะแสทุจริต แนวทางการปรองดอง สามารถแจ้งมาได้ตาม 4 ช่อง ทางดังกล่าว ซึ่งยืนยันว่า ประชาชนที่แจ้งเรื่องเข้ามา ไม่ต้องกลัวว่าเรื่องจะหาย หรือถูกเก็บไว้ โดยเฉพาะสายด่วน 1111 จะมีเจ้าหน้าที่ 100 คน ให้บริการรับเรื่อง และบันทึกลงระบบจัดการทั้งชื่อ-นามสกุล เรื่องที่ร้อง เพื่อจัดเป็นระบบการติดตามตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งผู้ที่ส่งเรื่องมานั้น สามารถติดตามสอบถามความคืบหน้าได้ตลอด โดยศูนย์ คสช. จะประสานกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่นั้น ให้ลงไปดูเรื่องราวที่ร้องทุกข์เข้ามา และจะแจ้งให้ทราบถึงความคืบหน้าทุกขั้นตอน ซึ่งถ้าเป็นเรื่องเร่งด่วน สามารถจัดการได้ในระยะเวลาสั้น ก็จะลงมือทันที แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ต้องมีข้อกฎหมาย หรือเข้ากระบวนการแก้ปัญหา ก็จะดำเนินการแก้ไขตามกลไกที่มี่อยู่

นอกจากนี้ ประชาชนที่มีข้อเสนอแนะ หรือข้อคิดเห็นที่ดี เกี่ยวกับการปฏิรูประบบข้าราชการ การปฏิรูปประเทศ การป้องกันแก้ไขการทุจริตและประพฤติมิชอบ และการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดในประเทศ สามารถส่งเรื่องมายังศูนย์ คสช. รับเรื่องร้องทุกข์ สายด่วน1111 ได้ทุกช่องทางเช่นกัน และขอให้มั่นใจว่า ทุกเรื่องที่ส่งเข้ามาไม่ว่าจะผ่านช่องทางใด ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. จะรับรู้รับทราบทุกเรื่อง โดยศูนย์ฯ จะสรุปเรื่องให้หัวหน้าคสช. ทราบทุกวัน


พวงพยอม  คำมุง

มหาวิทยาลัยพะเยา เปิดศูนย์การเรียนรู้ด้านการสกัดน้ำมันจากสมุนไพร และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการและการถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างมหาวิทยาลัย และไร่ชาวดิน

เมื่อเร็วๆนี้ ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร. มณฑล สงวนเสริมศรี อธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยา เป็นประธานเปิดศูนย์การเรียนรู้ด้านการสกัดน้ำมันจากสมุนไพร และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือและถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างมหาวิทยาลัยพะเยาและเจ้าของไร่ชาวดิน นายดุสิต อภิจิต ณ ศูนย์การเรียนรู้ด้านการสกัดน้ำมันจากสมุนไพร บ้านโซ้ ต.แม่นาเรือ อ.เมือง จ.พะเยา โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย อาทิ ศ.เกียรติคุณ ดร.ไมตรี สุทธจิตต์ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมด้วย ดร.มารุต แก้ววงศ์ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบริการวิชาการแก่สังคม ดร.ประพันธ์ เทียนวิหาร นายกเทศมนตรีตำบลแม่กา นายบุญชู กมุทมาโนชญ์ ประธานและกรรมการสภาอุตสาหกรรม จังหวัดพะเยา ตลอดจนนิสิตนักศึกษาจากคณะพยาบาลศาสตร์ เข้าร่วมในพิธีเปิดศูนย์ฯ

รศ.ดร.บุษบง จำเริญดารารัสมี ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยพะเยา เปิดเผยว่า สำหรับศูนย์การเรียนรู้ ดังกล่าว ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการให้ความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยี ด้านการสกัดน้ำมันให้แก่ประชาชนทั่วไปและนิสิตที่สนใจ ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 20 ไร่ การเดินทางไปมาสะดวกเพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย ซึ่งได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากสโมสรโรตารี นายดุสิต อภิจิต เจ้าของไร่ชาวดิน วิทยาลัยพลังงานและสิ่งแวดล้อม กลุ่มชุมชนที่เข้าร่วมอบรมการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้หอม อีกทั้งยังมีโครงการเครือข่ายร่วมมือด้านงานวิจัยกับคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ นับว่าเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการสกัดน้ำมันจากสมุนไพรแห่งแรกของจังหวัดพะเยาด้วย



ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.พะเยา
หน่วยงาน : สวท.พะเยา

จังหวัดพะเยา จัดทำบุญใหญ่ฉลองอายุวัฒนมงคล 97 ปี พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ เจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ

เช้าวันนี้ (9 ก.ค.57) ที่พระวิหารหลวงวัดศรีโคมคำ อ.เมือง จ.พะเยา นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานในพิธีทำบุญฉลองอายุวัฒนมง 97 ปี พระเดชพระคุณ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ หรือหลวงพ่อใหญ่ เจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 โดยมี พระธรรมราชานุวัตร เจ้าคณะภาค 6 ตลอดจนพระสงฆ์ลูกศิษย์ของหลวงพ่อใหญ่ ทั้งในจังหวัดพะเยา และต่างจังหวัด ร่วมแสดงมุทิตาจิตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงข้าราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนประชาชนทั่วไปกว่า 500 คน เข้าร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ภายในวัดศรีโคมคำ ยังมีการทำครัวทานขนาดใหญ่ เพื่อถวายแด่หลวงพ่อและผู้ที่มาร่วมแสดงมุทิตาจิตอีกด้วย

สำหรับพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ มีนามเดิมว่า ปวง วงศ์เรือง เกิดเมื่อวันพุธที่ 11 กรกฎาคม 2460 ณ บ้านสางเหนือ ต.สาง อ.เมืองพะเยา เป็นบุตรของพ่อหนานปุ๊ด วงศ์เรืองและคุณแม่หลวง วงศ์เรือง สำเร็จการศึกษาประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 จากโรงเรียนบ้านสาง และบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 15 ปี ณ วัดสางเหนือ จากนั้นได้มุ่งศึกษาพระปริยัติธรรม จนสามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี – โท ครั้นอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงเข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดสางเหนือ อีกครั้ง โดยปัจจุบัน พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ สิริอายุทางโลก 97 ปี อายุทางธรรม 76 พรรษา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 , เจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ , ประธานสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา ฯลฯ



ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.พะเยา
หน่วยงาน : สวท.พะเยา

ชาวนา 3 ตำบลของอำเภอเมืองแพร่เรียกร้องให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่ยมซ่อมแซมบานประตูน้ำ

ชาวนา 3 ตำบลของอำเภอเมืองแพร่เรียกร้องให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่ยมซ่อมแซมบานประตูน้ำภายในคลองส่งน้ำฝั่งซ้าย หลังชำรุด ปิด-เปิดไม่ได้ ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวนาในการผันน้ำเข้าสู่ท้องนา

วันนี้ (9 ก.ค.57) ได้มีชาวนาจากตำบลกาญจนา ตำบลเหมืองหม้อ และตำบลทุ่งกวาว อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ จำนวนหนึ่งนำโดยนายวาด เหมืองจา อดีตกำนันตำบลกาญจนา เดินทางไปยังบานประตูน้ำในคลองส่งน้ำฝั่งซ้ายของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่ยมในพื้นที่บ้านหมู่ 5 ตำบลกาญจนา อำเภอเมืองแพร่ เพื่อเรียกร้องให้ทางราชการซ่อมแซมบานประตูน้ำที่เพลาขับซึ่งเป็นฟันเฟืองขนาดใหญ่ทำหน้าที่ปิด-เปิดประตูระบายน้ำชำรุด ไม่สามารถปิด-เปิดน้ำได้ทำให้น้ำไหลผ่านลำเหมืองใหญ่ไป อย่างเดียว แทนที่จะลดหรือปิดประตูผันน้ำเข้าเหมืองซอย หรือเหมืองไส้ไก่ได้ เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่บ้านกาซ้อง และบ้านกวาว ตำบลกาญจนามีน้ำทำนา โดยเฉพาะช่วงฝนทิ้งช่วงต้องอาศัยน้ำจากคลองชลประทานฝั่งซ้ายเป็นหลัก ส่งผลให้กลุ่มชาวนาวิตกกังวลว่าจะไม่มีน้ำทำนาข้าว จึงรวมตัวกันมาเรียกร้องให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่ยมซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการซ่อมแซม แต่เนื่องจากติดขัดที่งบประมาณซึ่งต้องใช้ในการซ่อมแซมจำนวน 450,000 บาท โดยต้องรอของบประมาณในปีต่อไป

ด้านนายวิชิต บุญกังวาน นายอำเภอเมืองแพร่ได้ไปรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวนาดังกล่าว และจะนำเรื่องเสนอทางจังหวัดเพื่อขอให้จังหวัดพิจารณางบฉุกเฉินเร่งด่วนมาทำการซ่อมแซมบานประตูดังกล่าว ซึ่งหากล่าช้าจะส่งผลให้ชาวนาเดือดร้อนได้


ฉัตรชัย พวงขจร /ข่าว /พิมพ์

ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ สั่งทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย และดินโคลนถล่ม

ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กำชับทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย และดินโคลนถล่ม ในห้วงของฤดูฝนนี้ โดยเฉพาะระบบเตือนภัย ระบบการช่วยเหลือต้องพร้อม

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า  ที่ห้องประชุมเวียงโกศัย ศากลางจังหวัดแพร่ นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานการประชุมเตรียมการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย และดินโคลนถล่ม แนวทางการให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบภัย การฟื้นฟูบูรณะสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ชำรุดเสียหายให้กลับสู่สภาพเดิม รวมทั้งการประสานและสนับสนุนการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามแผนรองรับเหตุฉุกเฉินกรณีเกิดอุทกภัยและดินโคลนถล่ม

ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าวว่า ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย นั้นแบ่งออกเป็นปัญหาที่เกิดจากน้ำล้นตลิ่ง ที่สร้างความเสียหายให้กับชุมชนที่อยู่ติดกับแม่น้ำสายหลัก ปัญหานี้ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจพื้นที่ๆ เกิดเหตุซ้ำซากเพื่อหาทางป้องกันในระยะยาว ให้มีระบบเตือนภัยที่ชัดเจน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจและลอกท่อระบายน้ำ ลำเหมืองคูคลอง ส่วนการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในลุ่มน้ำสาขาจังหวัดได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอุปกรณ์เตือนภัย สำรวจอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ให้สามารถใช้งานได้ แจ้งเตือนให้ทุกหมู่กำจัดขยะ เศษไม้ ที่จะก่อให้เกิดการขวางทางเดินของน้ำบริเวณเหนือสะพาน และปัญหาที่สำคัญคือปัญหาดินโคลนถล่ม จังหวัดแพร่ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องซักซ้อมแผนการช่วยเหลือ การอพยพ และระบบการแจ้งเตือนภัย



วัชระ เพชรพลอย /ข่าว /พิมพ์

จังหวัดแพร่ จัดโครงการปลุกจิตสำนึกในหน้าที่พลเมืองสู่สังคมพลเมืองที่มีคุณภาพ

จังหวัดแพร่จัดโครงการปลุกจิตสำนึกในหน้าที่พลเมืองสู่สังคมพลเมืองที่มีคุณภาพ มุ่งเน้นสร้างความเข้มแข็งของเยาวชนให้มีความมั่นคงในชีวิต มีจิตใจที่มีคุณธรรม จริยธรรม

นางธิภกร นันทะพงษ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแพร่กล่าวว่า จากแผนพัฒนาเด็กและเยาวชน ปี 2555-2559 มีเป้าหมายในการให้เด็กและเยาวชนมีความมั่นคงชีวิต มีความเข้มแข็งทางร่างกายและจิตใจ มีคุณธรรม จริยธรรม มีสำนึกความเป็นพลเมือง กล้าคิดและแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ตามวิถีประชาธิปไตยและมีความสุข ซึ่งเน้นการดำเนินงานแบบการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กและเยาวชน บนพื้นฐานของกฎหมายโดยเฉพาะอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กเพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 พ.ศ. 2555-2559 ที่เสนอแนวคิดให้มีภูมิคุ้มกันต่อภาพสังคมปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงในยุคศตวรรษที่ 21 โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างคุณลักษณะคนให้มีจิตสาธารณะ 5 ประการ คือจิตแห่งวิทยาการ จิตแห่งการสังเคราะห์ จิตแห่งการสร้างสรรค์ จิตแห่งความเคารพ และจิตแห่งคุณธรรม ประกอบกับนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่มุ่งเน้นสร้างความสามัคคีความปรองดองสมาฉันท์ของประชาชนทุกหมู่เหล่า

ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแพร่จึงได้จัดโครงการ การนำนวัตกรรมการเสริมสร้างพลเมืองสู่สังคมพลเมืองที่มีคุณภาพ ที่โรงแรมแม่ยมพาเลช อำเภอเมืองแพร่ มีนายธนากร อึ้งจิตรไพศาล รอง ผวจ.แพร่เป็นประธานเปิดโครงการในวันนี้(9ก.ค.57)โดยนำผู้บริหารสถานศึกษา ครูฝ่ายแนะแนว ครูฝ่ายปกครอง และเครือข่ายเด็กและเยาวชนจำนวน 180 คน ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง การนำนวัตกรรมการเสริมสร้างพลเมืองสู่สังคมพลเมืองที่มีคุณภาพ และเข้าค่ายนวัตกรรมการเสริมสร้างพลเมืองสู่สังคมพลเมืองที่มีคุณภาพ ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายคือเด็กและเยาวชนในสถานศึกษา จำนวน 9 โรงเรียน และสภาเด็กและเยาวชนระดับตำบล จำนวน 80 คน ดำเนินกิจกรรมร่วมกันตั้งแต่วันที่ 9-11 กรกฎาคม 2557



ฉัตรชัย พวงขจร /ข่าว /พิมพ์

กองพันทหารม้าที่ 12 ค่ายพระยาไชยบูรณ์ จังหวัดแพร่ จัดพิธีปิดการฝึกทหารใหม่

กองพันทหารม้าที่ 12 ค่ายพระยาไชยบูรณ์ จังหวัดแพร่ จัดพิธีปิดการฝึกทหารใหม่และมอบหมวกทรงอ่อนสีน้ำเงินดำทหารใหม่ รุ่นปี 2557 ผลัด 1

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า เช้าวันนี้(9ก.ค.57) ที่กองพันทหารม้าที่ 12 ค่ายพระยาไชยบูรณ์ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 12 เป็นประธานในพิธีปิดการฝึกทหารใหม่และมอบหมวกทรงอ่อนสีน้ำเงินดำ รุ่นปี 2557 ผลัดที่ 1 จำนวน 85 นายซึ่งได้ทำการฝึกตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2557 ถึงวันที่ 9 กรกฎาคม 2557 ระยะเวลาจำนวน 10 สัปดาห์ และทางกองทัพได้นำทหารใหม่ให้เข้าทำการประเมินผลในวันที่ 7 กรกฎาคม 2557   ทั้งหมด 6 สถานีได้ผลคะแนนดังนี้ สถานีที่ 1 การทดลอบความสมบรูณ์ทางร่างกาย คิดเป็นคะแนนร้อยละ 96.53 สถานีที่ 2 การฝึกบุคคลเบื้องต้นและแถวชิด คิดเป็นคะแนนร้อยละ 93.67 สถานีที่ 3 การใช้อาวุธประจำกาย คิดเป็นคะแนนร้อยละ 96.75 สถานีที่ 4 การฝึกยิงปืนด้วยกระสุนจริง คิดเป็นคะแนนร้อยละ 91.40 สถานีที่ 5 คิดเป็นคะแนนร้อยละ 93.50 และสถานีที่ 6 วิชาการอบรม คิดเป็นคะแนนร้อยละ 96.00 รวมคะแนนเฉลี่ยทั้งหมด คิดเป็นคะแนนร้อยละ 91.21 โดยในการประเมินครั้งนี้ มีทหารใหม่ได้รับผลประเมินเกิน 80 เปอร์เซ็น จำนวน 76 นาย

สวท.แม่ฮ่องสอน จัดเวทีเสวนาประชาสัมพันธ์ ตามโครงการพัฒนาบุคลากร เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน "การเตรียมพร้อมด้านวัฒนธรรมอย่างเข้มแข็งรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน"

เช้าวันที่ (9 กรกฏาคม 2557) สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดเวทีเสวนาประชาสัมพันธ์ ตามโครงการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน “การเตรียมพร้อมด้านวัฒนธรรมอย่างเข้มแข็งรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ที่โรงแรมใบหยก อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน โดยมีเครือข่ายด้านการประชาสัมพันธ์ประกอบด้วย ผู้ประกอบการธุรกิจ เยาวชน ผู้นำชุมชน นักประชาสัมพันธ์ และประชาชนทั่วไปในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมงานจำนวน 56 คน เพื่อให้เครือข่ายด้านการประชาสัมพันธ์ ได้เตรียมรองรับการนำเสนอข้อมูลด้านวัฒนธรรมของพื้นที่ ให้กลุ่มประเทศอาเซียนได้รับรู้อย่างทั่วถึง เป็นไปตามแผนประชาสัมพันธ์ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ต่อไป

กิจกรรมในงานประกอบด้วย การเสวนาประชาสัมพันธ์ตามโครงการพัฒนาบุคคล เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน โดย นางศันสนีย์ พุกกานนท์ วัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน และนางวนิจชญา กันทะยวง ผู้ประสานงานกลุ่มดอยหมอกเพื่อการพัฒนาขุนยวม อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน


ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน
    หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดงานมหกรรมรวมพล ทู บี นัมเบอร์ วัน ปี 2557

เช้าวันนี้ ( 9 กรกฎาคม 2557)นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดงาน มหกรรมรวมพล ทู บี นัมเบอร์ วัน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ปี 2557 ที่ อาคารศูนย์ออกกำลังกายเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อขับเคลื่อน และขยายเครือข่ายตามโครงการ ทู บี นัมเบอร์ วัน โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายเยาวชน พร้อมทั้งสร้างกระแส “เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด” ด้วยกิจกรรมการประกวดชมรม ทู บี นัมเบอร์ วัน รวมถึงคัดเลือกตัวแทนระดับจังหวัดเข้าประกวดในระดับภาคและระดับประเทศต่อไป

กิจกรรมในงานประกอบด้วย การประกวด ทู บี นัมเบอร์ วัน แดนซ์ เซอร์ ไซน์ /การประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งดี ทู บี นัมเบอร์ วัน ไอดอล /การจัดนิทรรศการ ทู บี นัมเบอร์ วัน /การประกวดชมรม ทู บี นัมเบอร์ วัน 3 ประเภท ทั้ง 7 อำเภอ

ผลการประกวดปรากฏว่า รางวัล ทู บี นัมเบอร์ วัน แดนซ์ เซอร์ ไซน์ รุ่น จูเนียร์ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียนบ้านหนองแห้ง /รุ่น พรี ทีน เอจซ์ ได้แก่ โรงเรียนอนุบาลสิริอัมพร รางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียนบ้านวนาหลวง /รุ่น ทีนเอจซ์รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียนแม่สะเรียงบริพัฒน์ศึกษา รางวัลรองชนะเลิศได้แก่ โรงเรียน ขุนยวมวิทยา และโรงเรียนปางมะผ้าพิทยาสรรพ์ ตามลำดับ

ผลการประกวด ทู บี นัมเบอร์ วัน ไอดอล รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียน บริพัฒน์ศึกษา รางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน และ โรงเรียนแม่ลาน้อยดรุนสิกข์ ตามลำดับ ผลการประกวด ทู บี นัมเบอร์ วัน ประเภทชุมชน รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ บ้านป่ากล้วย และ รางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่ บ้านห้วยปูลิง

และรางวัล ทู บี นัมเบอร์ วัน ประเภทสถานศึกษา รางวัลชนะเลิศ โรงเรียน บริพัฒน์ศึกษา รางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่โรงเรียนปางมะผ้าพิทยาสรรพ์ และโรงเรียนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ตามลำดับ รับถ้วยรางวัล ใบประกาศนียบัตร และทุนการศึกษา จำนวน 3,000 บาท 2,000 บาท และ 1,000 บาท ตามลำดับ



ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน
    หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จัดประชุม คณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ เพื่อรับทราบนโยบาย และแนวทางการทำงาน

บ่ายวันนี้ ( 9 กรกฎาคม 2557) นายทรงทรัพย์ พิริยะคุณธร นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ในฐานะประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ เป็นประธาน การประชุม คณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ ที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน โดยมีผู้ร่วมประชุมจำนวน 32 คน เพื่อรับทราบนโยบาย และแนวทางการทำงานร่วมกัน ตามบทบาทและหน้าที่ที่กำหนด พร้อมทั้งร่วมกันแสดงความเห็นให้ข้อเสนอแนะ วางแผนดำเนินงาน และติดตามประเมินผลในการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติโดยใช้กระบวนมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรม และพัฒนาไปสู่เครือข่าย ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป/
ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

สสจ.แม่ฮ่องสอน เตรียมมาตรการป้องกันควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ช่วงเข้าพรรษา

สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดประชุมวางแผนเฝ้าระวัง ลงพื้นที่ร้านค้าที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ช่วงเทศกาลเข้าพรรษา เพื่อร่วมกำหนดมาตรการป้องกันลดผลกระทบที่เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน

นายทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน กำหนดจัดประชุมคณะกรรมการ/เครือข่าย ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อวางแผนและออกปฏิบัติการ เฝ้าระวัง/บังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ ช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ในผู้ประกอบกิจการ/ร้านอาหาร/ปั๊มน้ำมัน โดยกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อร่วมกำหนดมาตรการป้องกันปัญหา และลดผลกระทบที่เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี ๒๕๕๗

ในการนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะได้ทบทวนผลการปฏิบัติงาน ตรวจติดตามการบังคับใช้กฎหมาย เฝ้าระวังควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาเพื่อให้คณะกรรมการ/เครือข่ายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยลงพื้นที่ ในเขตเทศบาล และนอกเขตเทศบาล จำนวน ๗ แห่ง ซึ่งยังพบว่า มีร้านที่ติดป้ายโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ ทางเจ้าหน้าที่ได้กล่าวตักเตือน พร้อมกับให้คำแนะนำในเบื้องต้น เสร็จจากนั้นได้พิจารณาแนวทางการดำเนินงานเชิงรุกต่อไป



ข่าวโดย : อ่อนศรี ศรีอัมพร ทีมข่าว ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
    หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

จ.มส.จัดงานมหกรรมวมพล To BE NUMBER ONE

จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดงานมหกรรม To BE NUMBER ONE เพื่อให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติด

ที่ศูนย์ออกกำลังกายเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประธานเปิดงานมหกรรม To BE NUMBER ONE คือโครงการณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงเป็นองค์ประธาน ได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี ๒๕๔๕ เป็นโครงการที่ส่งเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ ตามความถนัดและความต้องการของสมาชิกชมรมไม่ว่าเป็นด้านกีฬา ดนตรี ศิลปะ วัฒนธรรม เพื่อปลูกจิตสำนึก สร้างกระแสการมุ่งสู่ความเป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติดให้กับเยาวชน จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดหนึ่งที่ดำเนินการโครงการดังกล่าว โดยมีจำนวนสมาชิก To BE NUMBER ONE ถึง ๒๒,๐๐๐ คน และเพื่อให้มีการขับเคลื่อนกิจกรรมเป็นไปอย่างต่อเนื่อง คณะทำงานซึ่งประกอบด้วยหน่ายงานต่าง ๆ จึงได้จัดมหกรรมรวมพลคน To BE NUMBER ONE ขึ้น เพื่อสร้างกระการรวมพลังคนแม่ฮ่องสอน เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด ในโอกาสครบรอบ ๑๒ ปีของโครงการ To BE NUMBER ONE และเพื่อจัดประกวดคัดเลือกตัวแทนระดับจังหวัดแม่ฮ่องสอนแต่ละประเภท ส่งเข้าประกวดในระดับภาคต่อไป



ข่าวโดย : ดำเนิน ท้วมจอก ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
    หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่องสอน เร่งพลิกฟื้นผืนป่าสาละวิน คืนความสมดุล ดึงความเชื่อ 4 วิถีชนเผ่า สาปแช่งมอดไม้ ริมฝั่งน้ำสาละวิน

แม่ฮ่องสอน เร่งพลิกฟื้นผืนป่าสาละวิน คืนความสมดุล ดึงความเชื่อ 4 วิถีชนเผ่า สาปแช่งมอดไม้ ริมฝั่งน้ำสาละวิน

นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในการปลูกและบวชป่า โดยมี พล.ต.คู่ชีพ เลิศหงิม ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 พ.อ.ชายแดน กฤษณสุวรรณ รอง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 นางเตือนใจ ดีเทศน์ ที่ปรึกษาเครือข่ายจัดการทรัพยากร ลุ่มน้ำสาละวิน ได้เดินทางร่วมโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติป่าสาละวิน ณ บริเวณลำห้วยหวาย บ้านแม่สามแลบ หมู่1 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อร่วมกัน พลิกฟื้นผืนป่าคืนความสมดุลสู่ธรรมชาติป่าสาละวิน โดยดึงวิถีความเชื่อของชนเผ่า 4 ลุ่มน้ำสาละวิน ประกอบไปด้วย ชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง คริสต์ มุสลิม และ พื้นเมือง ผ่านพิธีกรรมความเชื่อ เลี้ยงผีป่าขุนเขา การสาปแช่ง ผู้ตัดไม้ทำลายป่า

นายบุญเกื้อ คุณาธารกุล นายอำเภอสบเมย ได้นำราษฏร 10 หมู่บ้าน ประกอบไปด้วย บ้านเคอะเบอ บ้านห้วยกระต่าย บ้านสิวาเดอร์ บ้านสบเมย บ้านปูเลอ บ้านกอเซโล บ้านแม่ตอละ บ้านห้วยแห้ง บ้านกอร์มูเดอร์ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย กว่า 800 คน เข้าร่วมกิจกรรมบวชป่า ปลูกป่า กว่า 2 พันต้น อาทิ ต้นสัก ต้นหวาย ต้นลูกเนียง พร้อมกันนี้ได้ปล่อยพันธุ์กบ จำนวน 500 ตัวลงบริเวณลำห้วยหวาย ซึ่ง มีราษฏรในพื้นที่และส่วนราชการเข้าร่วมงาน ประมาณ 800 คน ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวมุ่งหวังปลูกจิตสำนึกให้ข้าราชการและราษฏรในพื้นที่มีความรักและช่วยกันดูแลรักษาผืนป่าสาละวิน และให้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าสาละวิน กว่า 500 ไร่ เป็นพื้นที่นำร่องการอนุรักษ์เพื่อคืนสมดุลธรรมชาติ พืชพันธุ์และสัตว์ป่า



ข่าวโดย : นวรัตน์ ศรีแก้วเลิศ
    หน่วยงาน : สวท.แม่สะเรียง-แม่ฮ่องสอน

จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดโครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ฯ เนื่องในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา

จังหวัดแม่ฮ่องสอนจัดโครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ฯ และเพื่อเสริมสร้างนักเรียน ใจเพชร รุ่นที่ 34 เนื่องในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา

เช้าวันนี้ ( 9 ก.ค. 57 ) นายสุทธา สายวาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิด "โครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และเพื่อเสริมสร้างนักเรียน ใจเพชร รุ่นที่ 34 เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชา เนื่องในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา" ณ วัดป่าบ้านใหม่ ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน โดยวัดป่าบ้านใหม่ มูลนิธิธัมมคีรี สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด และศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อ มุ่งเน้นส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญในการศึกษา และปฏิบัติธรรม เพื่อนำธรรมะไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้องดีงาม ตามแนวทางของพระพุทธศาสนา

ผู้เข้าร่วมโครงการประกอบไปด้วยนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปกว่า 100 คน ร่วมโครงการ โดยมีการปฏิบัติในเรื่องการให้ทาน การรักษาศีล และเจริญสมาธิวิปัสสนา โดยพระครูปัญญาศีลวัฒน์ (พระอาจารย์ทองปาน ปัญญาสาโร) เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านใหม่



ข่าวโดย : พักตร์ภูมิ ปัญญาไชยพัฒน์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

สวท.แม่ฮ่องสอน จัดเวทีเสาวนา "การเตรียมพร้อมด้านวัฒนธรรมอย่างเข้มแข็งรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

เมื่อวันที่ 9 กรกฏาคม 2557 สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับวัฒนธรรมจังหวัด จัดเวทีเสวนาประชาสัมพันธ์ตามโครงการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน ทั้งนี้เพื่อให้เครือข่ายด้านการประชาสัมพันธ์ได้เตรียมรองรับการนำเสนอข้อมูลด้านวัฒนธรรมของพื้นที่ให้กลุ่มประเทศอาเวียนได้รับรู้อย่างทั่วถึงให้เป็นไปตามแผนประชาสัมพันธ์ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ในการสัมมนา "การเตรียมพร้อมด้านวัฒนธรรมอย่างเข้มแข็งรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน" มีเครือข่ายด้านการประชาสัมพันธ์ประกอบด้วย ผู้ประกอบการธุรกิจ เยาวชน ผู้นำชุมชน นักประชาสัมพันธ์ และประชาชนทั่วไปในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน

นางอ่อนศรี ศรีอัมพร ประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า การจัดเวทีเสวนาประชาสัมพันธ์การเตรียมพร้อมด้านวัฒนธรรมในครั้งนี้ถือว่าเป็นเวทีเสนาที่จะได้รับรู้เรื่องราวของวัฒนธรรมในมิติต่าง ๆ ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยจะได้นำแนวทางที่ได้จากการเสวนาไปเป็นข้อมูลในการประชาสัมพันํ์ออกสู่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือเพื่อขยายผลไปสู่ประชาคมอาเซียน ขณะเดียวกันผู้เข้าร่วมเสวนาก็จะได้นำเสนอข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเราจะต้องมีความพร้อมที่จะรองรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ที่จะถึงนี้ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งกับชุมชนที่จะสามารถต่อสู่กับการพัฒนาของกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะสื่อสารมวลชนมีบทบาทอย่างมากในการขยายผลให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น


ข่าวโดย : สมาน ต้นใส / สวศ.แม่ฮ่องสอน
    หน่วยงาน : สวศ. แม่ฮ่องสอน

จังหวัดลำปาง แจ้งเตือนประชาชน เฝ้าระวังภัย จากพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงในช่วง 4 – 5 วันนี้

นายฤทธิพงศ์ เตชะพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ด้วยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารภัย แจ้งว่า ได้รับแจ้งจากกรมทรัพยากรธรณี ประกาศ ขอให้เฝ้าระวังและเตือนภัยดินถล่มน้ำป่าไหลหลาก อันเนื่องจากมีฝนตกหนักและตกต่อเนื่อง วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 100 มิลลิเมตร เริ่มมีดินไหลและน้ำป่าไหลหลากในบางพื้นที่แล้ว

ทั้งนี้ เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากวาตภัย ซึ่งอาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน บ้านเรือนโรงเรียน พืชผลทางการเกษตรของเกษตรกร จังหวัดขอให้อำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบเกี่ยวกับ ภัยอันเกิดจากฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม ให้เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายอัน ในช่วงวันที่ 8 - 11 กรกฎาคม 2557 วันนี้ โดยประชาสัมพันธ์ผ่าน เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านและเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่

ขอให้อำเภอกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ เขื่อน ฝาย อ่าง และคันกั้นน้ำสถานที่ท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมีประชาชนไปใช้บริการจำนวนมาก รวมถึงพื้นที่เอกชน ให้จัดเจ้าหน้าที่อยู่ปฏิบัติงานเฝ้าระวังเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนให้ทันต่อสถานการณ์


ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์
    หน่วยงาน : สวท.ลำปาง

กฟผ.แม่เมาะ เตรียมจัด งานเดิน -วิ่ง เฉลิมพระเกียรติฯ พร้อมรับนักวิ่งจากทั่วประเทศ สู่สนามวิ่งเนินเขาที่ อ.แม่เมาะ

(8 ก.ค.57) ณ ห้องการเวก โรงแรมบุษย์น้ำทอง อ.เมือง จ.ลำปาง ร่วมกับ อำเภอแม่เมาะ และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กฟผ.(แม่เมาะ) จัดแถลงข่าวการแข่งขันเดิน-วิ่งเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มาเมาะฮาล์ฟมาราธอนครั้งที่ 23 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี โดยมีนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในฐานะรองประธานคณะกรรมการอำนวยการ นายจักรพงศ์ อุทธาสิน ผู้ช่วยผู้ว่าการเหมืองแม่เมาะ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันนำแถลงข่าว ทั้งนี้ การจัดการแข่งขันเดิน-วิ่งเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ แม่เมาะฮาล์ฟมาราธอน ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี กำหนดจัดขึ้น ในวันที่ 3 สิงหาคม 2557

งานเดิน – วิ่งเฉลิมพระเกียรติ แม่เมาะฮาล์ฟมาราธอนจัดครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2535 ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอแม่เมาะ จัดโดย กฟผ.แม่เมาะ ร่วมกับจังหวัดลำปางแม่อำเภอแม่เมาะเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสพระชนมายุครบ 60 พรรษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้สมทบทุนสำหรับดำเนินกิจกรรมสาธารณกุศลภายในจังหวัดลำปางและเป็นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดลำปาง โดยเฉพาะ กฟผ.เมาะ ซึ่งมีภูมิประเทศที่งดงามแห่งหนึ่งในอำเภอแม่เมาะ


ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์
    หน่วยงาน : สวท.ลำปาง

พุทธศาสนิกชนชาวลำปาง รวมใจแสดงพลังธรรมประกอบกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา ร่วมสืบทอดวัฒนธรรมประเพณี เนื่องในเทศกาลวันเข้าพรรษา

เทศบาลนครลำปาง ร่วมกับ หน่วยงานองค์กรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ในพื้นที่จังหวัดลำปาง จัดกิจกรรมงานส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลประเพณีวันเข้าพรรษา ประจำปี 2557 ที่บริเวณข่วงนคร เทศบาลนครลำปาง ห้าแยกหอนาฬิกา ตำบลสวนดอก อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง มีนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานพิธีเปิดงาน พร้อมกับนำพุทธศาสนิกชนชาวลำปางทุกหมู่เหล่า ทุกเพศ ทุกวัย ที่มีความเลื่อมใสและศรัทธาในพระพุทธศาสนา รวมพลังสามัคคีร่วมกันแสดงพลังธรรม ประกอบกิจกรรมทางศาสนา ทำบุญบริจาคทานเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต

กิจกรรมงานส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลประเพณีวันเข้าพรรษา ทางเทศบาลนครลำปางได้จัดขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมกิจกรรมในพระพุทธศาสนาและสืบสานวัฒนธรรมประเพณี รวมทั้งเพื่อเป็นกิจกรรมการมีส่วนร่วม ให้ประชาชนในชุมชนท้องถิ่นได้ช่วยกันรักษาสืบทอดขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามไว้ ตลอดจนเพื่อเป็นการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ให้เกิดขึ้นในจิตใจของเด็กเยาวชน ภายใต้มิติทางศาสนา วัฒนธรรมประเพณี และวิถีชีวิต อันเป็นพื้นฐานที่จะนำไปสู่การสร้างความรัก ความสามัคคี และสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ให้เกิดขึ้นในสังคมได้อย่างยั่งยืน

โดยภายในงาน ได้จัดให้มีกิจกรรมเพื่อการส่งเสริมพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรม ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งกิจกรรมการมีส่วนร่วม เช่น การจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับวันเข้าพรรษา, กิจกรรมการประกวดการจัดโต๊ะหมู่ชา หมู่ 9, การประกวดต้นเทียนพรรษา, การประกวดห่อขนมจ๊อก หรือ ขนมเทียน, การประกวดฟ้อนเล็บ, การแสดงพระธรรมเทศนา โดยพระนักเทศน์ชื่อดัง เป็นต้น นอกจากนี้ได้จัดให้มีกิจกรรมบำเพ็ญกุศลเพื่อร่วมถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในวันอาสาฬหบูชา ได้แก่ การร่วมบริจาคทานจัดตั้งองค์ผ้าป่าสามัคคี, การทำบุญใส่บาตรพระประวัน บูชาพระธาตุประจำปีเกิด ใส่บาตรสามเณร 109 รูป และร่วมกันหล่อต้นเทียนพรรษา 9 ต้น โดยองค์ผ้าสามัคคี กับเทียนจำนำพรรษาทุกต้น จะได้มีการประกอบพิธีนำถวายให้กับวัดต่างๆ ในเขตพื้นที่ของเทศบาลฯ ให้ครบทั้ง 9 วัด เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้ใช้ในการประกอบกิจของสงฆ์ ตลอดกาลพรรษา ทั้งนี้การทำบุญด้วยการหล่อเทียน หรือถวายเทียนพรรษาแก่พระภิกษุ เชื่อกันว่าจะได้อานิสงส์มาก กล่าวคือ จะทำให้เป็นผู้เจริญด้วยสติปัญญา มีความเจริญก้าวหน้ารุ่งเรือง เหมือนดั่งแสงเทียนที่ส่องสว่างในยามค่ำคืน.

ดูคลิป http://youtu.be/1sk8eT17e-Q


ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

โรงไฟฟ้าแม่เมาะจัด แถลงข่าว งานแม่เมาะฮาล์ฟมาราธอน ครั้งที่23

เชิญร่วมการแข่งขันเดิน – วิ่งเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ แม่เมาะฮาล์ฟมาราธอน ครั้งที่ 23 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี วันอาทิตย์ ที่ 3 สิงหาคม 2557

นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในฐานะรองประธานคณะกรรมการอำนวยการโดยมีนายจักรพงศ์ อุทธาสิน ผู้ช่วยผู้ว่าการเหมืองแม่เมาะในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันนำแถลงข่าวเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557 ณ.ห้องการเวก โรงแรมบุษย์น้ำทอง อ.เมือง จ.ลำปาง ร่วมกับนายอำเภอแม่เมาะ และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กฟผ.(แม่เมาะ)จัดแถลงข่าวการแข่งขันเดิน–วิ่งเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิพระบรมราชินีนาถสยามบรมราชกุมารีเพื่อให้สื่อมวลชนจังหวัดลำปางร่วมนับฟังข้อมูล เพื่อนำไปเผยแพร่ให้เป็นที่รับทราบอย่างแพร่หลาย โดยได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนในจังหวัดลำปางทำให้เป็นการจัดการแข่งขันยาวนานถึง 23 ปี คณะกรรมการการจัดงานพร้อมรับนักวิ่งชาวไทยจากทั่วประเทศและนักวิ่งชาวต่างชาติ สู่สนามแข่งขันเนินเขาที่ท้าทายกำลังขา ปีนี้พิเศษสุดมอบรางวัลเงินสดแก่นักวิ่งชาวลำปางที่ลงแข่งมินิมาราธอน 10 คนแรกที่วิ่งเข้าเส้นชัย

นายศุภชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในฐานะ รองประธานคณะกรรมการการอำนวยการ กล่าวว่า ในปี 2557นี้ การจัดการแข่งขันเดิน-วิ่งเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ แม่เมาะฮาล์ฟมาราธอน ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่23 นักวิ่งจากทั่วประเทศย่อมรู้จักเป็นอย่างดีเพราะเป็นการจัดการแข่งขันที่จัดมายาวนาน เนื่องในวโรกาสพระชนมายุครบ60พรรษา เพื่อหารายได้สมทบทุนสำหรับดำเนินกิจกรรมสาธารณกุศลภาคในจังหวัดลำปางและเป็นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดลำปาง โดยเฉพาะ กฟผ.แม่เมาะ ซึ่งมีภูมิประเทศที่งดงามแห่งหนึ่งในอำเภอแม่เมาะ

นายจักรพงศ์ อุทธาสิน ผู้ช่วยผู้ว่าการเหมืองแม่เมาะ ในฐานะ ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน กล่าวว่า ในแต่ละปีจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆภายในงาน นอกเหนือจากการแข่งวิ่ง ยังมีเวทีจัดกิจกรรมการแสดงที่ให้เยาวชนในพื้นที่แม่เมาะ ได้แสดงออก และยังมีดาราที่มาร่วมสีสันภายในงาน โดยงานวิ่งทุกๆปีที่ผ่านมาได้รับสนับสนุนจาก คุณไพโรจน์ โล่สุนทรอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และในปีนี้มีดาราร่วมงาน 2 ท่านเช่นปีที่ผ่านมา สังกัดโพลีพลัส คนแรก นางสาว ยูมิโก๊ะ สุชิยะ (มิ้ง) หลายคนรู้จักในรายการดาวกระจาย คนที่ 2 คือ นายธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล (แก๊ป) ผลงานละครเรื่อง คุณชายรักแร่ ออกอากาศช่อง3 สำหรับรางวัลนักวิ่งมินิมาราธอน 10.5 กิโลเมตร แบ่งประเภททั้งชายและหญิงออกเป็น 7 กลุ่มอายุ ส่วนไมโครมาราธอน 5 กิโลเมตร ประเภทนักเรียน นักศึกษา ชายและหญิงมี4กลุ่ม โดยผู้ที่วิ่งเข้าเส้นชัย 3,500 คนแรกจะได้รับปากกาที่ระลึกทุกคน วิ่งเพื่อสุขภาพ 5 กิโลเมตร ไม่จักลำดับการแข่งขันและไม่แบ่งอายุ และ เดินการกุศล 1 กิโลเมตร ยังมีการจำนวนเสื้อคอโปโล 200 บาท เสื้อคอกลมราคา 120 บาทซึ่งในแต่ละปีมีร้านมาจำหน่ายสินค้า 100กว่าร้าน

นอกจากนี้การจัดงานเดิน–วิ่งเฉลิมพระเกียรติ ฯ แม่เมาะฮาล์ฟมาราธอน นอกจากเพื่อเฉลิมพรเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557 นำรายได้จากการดำเนินงานมอบให้กองทุนสงเคราะห์และพัฒนาจังหวัดลำปาง และเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้กับเยาวชนทั่วจังหวัดลำปาง รวมทั่งจัดสรรให้กับหน่วยงานในจังหวัดลำปางและอำเภอแม่เมาะที่มีส่วนในการจัดงานเพื่อเป็นทุนมนกิจกรรมสาธารณประโยชน์เป็นงานที่ทรงเกียรติและเป็นงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดลำปาง


ข่าวโดย : น.ส.ณัฐพร ขัดทองงาม น.ศ ฝึกประสบการณ์ มร.ลป
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

กกต.ลำปาง แจ้งการปรังปรุงรายชื่อผู้ขอลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดและนอกราชอาณาจักร

กกต.ลำปาง แจ้งการปรังปรุงรายชื่อผู้ขอลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดและนอกราชอาณาจักร

นายสุคนธ์ เรือนสอน ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ด้วยสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งแจ้งว่า สำนักทะเบียนกลางได้แจ้งการเปิดระบบและขยายระยะเวลาในการรับคำร้องขอการลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดและนอกราชอาณาจักรเพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเดิมได้ลงทะเบียนขอให้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภานอกเขตจังหวัดและนอกราชอาณาจักรไว้ และเดินทางกลับมาอาศัยอยู่ ณ ถิ่นที่อยู่ซึ่งตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านสามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา ณ หน่วยเลือกตั้งที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในปัจจุบันได้ โดยได้ขยายระยะเวลาไปจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2557

ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยจึงประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกัน โดยสามารถยื่นคำขอยกเลิกการลงทะเบียนดังกล่าวได้ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด หรือส่งทางไปรษณีย์โดยแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนโดยส่งมาที่ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำปาง สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัด ศาลากลางจังหวัดลำปาง ชั้น 2 ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2557


ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์
    หน่วยงาน : สวท.ลำปาง

จังหวัดลำปางจัดเวที สมัชชาครอบครัวจังหวัดประจำปี 2557 ในหัวข้อ "พลังครอบครัว พลังท้องถิ่น"

จังหวัดลำปางจัดเวทีระดมความคิดเห็น เพื่อค้นหาปัญหาของครอบครัวที่สำคัญเร่งด่วน และแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อนำเสนอต่ออนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาครอบครัวจังหวัดลำปาง

สืบเนื่องจากสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (ส.ค.) กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลสถานการณ์ครอบครัวเข็มแข็ง โดยคัดเลือกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดลำปาง 4 แห่ง ได้แก่ องค์กรบริหารส่วนตำบลแม่ถอด อำเภอเถิน องค์การบริหารส่วนตำบลสบป้าด อำเภอแม่เมาะ องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ปุ อำเภอแม่พริก และองค์การบริหารส่วนตำบลแจ้ห่ม อำเภอแจ้ห่ม เพื่อสำรวจข้อมูล สถานการณ์ความเข็มแข็งของครอบครัวตามแบบประเมิน ตั้งแต่ปี 2556 - 2557 เพื่อเป็นชุมชนต้นแบบในการพัฒนาครอบครัวให้เป็นครอบครัวเข็มแข็งตามมาตรฐานครอบครัวเข็มแข็งโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนและภาคีเครือข่าย

การจัดกิจกรรมสมัชชาครอบครัวจังหวัดลำปาง ที่ มหาวิทยาลัยเนชั่น อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เพื่อนำเสนอผลสรุปข้อมูลในพื้นที่ในเวทีสมัชชาครอบครัว จังหวัดลำปาง ประจำปี 2557 ภายใต้แนวคิด “พลังครอบครัว พลังท้องถิ่น” เพื่อให้ครอบครัว ตัวแทนครอบครัว ภาคประชาสังคมผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 4 พื้นที่ ในจังหวัดลำปาง จำนวน 100 คน ได้มีเวทีสำหรับระดมความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว คือ ด้านสัมพันธภาพ ด้านการพึ่งตนเอง ด้านทุนทางสังคม ด้านหลีกเหลี่ยงภาวะเสี่ยงในสภาวะยากลำบาก และด้านบทบาทหน้าที่ของครอบครัว และค้นหาปัญหาที่สำคัญเร่งด่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อนำไปสู่การกำหนดนโยบาย มาตรการ และแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาสถานบันครอบครัวในจังหวัดลำปางต่อไป


ข่าวโดย : พัชรียา เขียวถา นศ.ฝึกประสบการณ์ มร.ลป
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

กสทช. เตือนประชาชนระวังร้านค้าโฆษณาการจำหน่ายเครื่องรับโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล

กสทช. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เตือนประชาชนระวังร้านค้าห้างร้านบางแห่งโฆษณาประชาสัมพันธ์การจำหน่ายเครื่องรับโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลโดยปกปิดข้อมูลบางส่วนให้ประชาชนเข้าใจผิด

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ตามที่ปัจจุบัน ได้เริ่มมีการทดลองออกอากาศโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลและจะมีการอนุญาตให้ประกอบกิจการต่อไป ซึ่งประชาชนที่ประสงค์จะรับชมบริการโทรทัศน์ดังกล่าวมีความจำเป็นที่จะต้องจัดหาเครื่องรับโทรทัศน์ที่มีภาครับสัญญาณดิจิตอลทีวีในตัว หรือจัดหาอุปกรณ์กล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล เพื่อติดตั้งเพิ่มเติมเข้ากับเครื่องรับโทรทัศน์ระบบแอนะล็อก เป็นเหตุให้ประชาชนให้ความสนใจในการจัดหาอุปกรณ์ดังกล่าวจากร้านค้ามาจำหน่าย

สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ขอความร่วมมือให้ดำเนินการตามกฎหมาย เนื่องจากร้านค้าหรือห้างร้านบางแห่งโฆษณาประชาสัมพันธ์การจำหน่ายเครื่องรับโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลโดยปกปิดข้อมูลบางส่วนให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า เครื่องรับโทรทัศน์ดังกล่าวสามารถรับชมบริหารโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลได้ โดยเฉพาะกรณีของเครื่องรับโทรทัศน์ในระบบแอนะล็อกมีการประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลว่า เครื่องรับโทรทัศน์ดังกล่าวเป็นดิจิตอลทีวี สามารถรับชมบริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลได้ โดยไม่มีการชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม หรือมีการชี้แจงด้วยการอธิบายเงื่อนไขหรือหมายเหตุเพิ่มเป็นตัวอักษรขนาดเล็กในข้างท้ายของเอกสารประชาสัมพันธ์ ซึ่งไม่ชัดเจนว่าการใช้เรื่องรับโทรทัศน์ดังกล่าว เพื่อรับชมบริหารโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลนั้นจะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์กล่อง Set Top Box เพิ่มเติมด้วยจึงสามารถรับชมได้ เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือครบถ้วนในการตัดสินใจซื้อเครื่องรับโทรทัศน์ อันเป็นการกระทำที่อาจขัดต่อกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคพิจารณาแล้วเห็นว่า การโฆษณาดังกล่าวอาจเป็นการใช้ข้อความโฆษณาที่เป็นเท็จหรือเกินความจริงหรืออาจก่อให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจผิด เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคและประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องหรือครบถ้วนในการตัดสินใจซื้อเครื่องรับโทรทัศน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานกฎหมายกระจายเสียงและโทรทัศน์ (กสทช.) โทร. 0-2271 ต่อ 5451 ในวันและเวลาราชการ


ข่าวโดย : พัชรียา เขียวถา นศ.ฝึกประสบการณ์ มร.ลป
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

อบจ.ลำพูน เดินหน้ากองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดลำพูน ช่วยเหลือผู้พิการ

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา ดร.นิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายก อบจ.ลำพูน มอบหมายให้นายมนู ศรีประสาท เลขานุการนายก อบจ.ลำพูน เดินทางไปติดตามเยี่ยมผู้ป่วยในกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดลำพูน รายที่ 1 นายชุมพร นวลแก้ว ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนกะโหลกศีรษะเทียม ซึ่งจะเข้ารับการผ่าตัดในวันที่ 30 กรกฎาคม 2557 ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เบื้องต้นกองทุนสมรรถภาพจังหวัดลำพูน โดย อบจ.ลำพูน ได้จ่ายค่ามัดจำกะโหลกเทียมไปเรียบร้อยแล้วจำนวนเงิน 29,000 บาท เนื่องจากเป็นวัสดุทางการแพทย์เฉพาะราย รายที่ 2 ด.ช.ธีรพัฒน์ มอยทา อายุ 11 ปี ผู้พิการตาบอด อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 165 หมู่ 4 ตำบลทุ่งหัวช้าง อำเภอทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน หลังจากที่กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดลำพูน ได้มอบวัสดุอุปกรณ์ในการปรับสภาพที่อยู่อาศัยไปเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2557 ที่ผ่านมา ขณะนี้ชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันปรับปรุงที่พักอาศัยของน้องธีรพัฒน์ฯ ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งอีกไม่นานก็สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ รายที่ 3 นายสุคล ตาธิยะ ผู้พิการขาทั้ง 2 ข้าง ขยับไม่ได้ต้องใช้รถเข็น อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 300 หมู่ 15 ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ได้มอบวัสดุอุปกรณ์ในการนำไปปรับสภาพที่อยู่อาศัยให้เหมาะสม ซึ่งทั้ง 3 รายต่างปราบปลื้มดีใจที่ ได้รับการช่วยเหลือจากกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดลำพูน และจะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ซึ่งเชื่อว่าในจังหวัดลำพูน ยังมีผู้พิการ ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่อยู่ในระยะที่จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพที่ต้องได้รับความช่วยเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับการช่วยเหลือได้โดยตรงกับฝ่ายสวัสดิการสังคมและสาธารณสุจ สำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน เบอร์โทรศัพท์ 053-597260 ต่อ 115-116 หรือสอบถามได้โดยตรงกับนายมนู ศรีประสาท เลขานุการนายก อบจ.ลำพูนฯ 086-1890849



ข่าวโดย : นศ. ฝึกประสบการณ์ นางสาวเกศกนก แสงจันทร์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เยี่ยมชมการปฏิบัติงาน ของเจ้าหน้าที่ สำนักงาน ประชาสัมพันธ์ จังหวัดลำพูน และ สวท.ลำพูน

รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และ คณะเยี่ยม ชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ สำนักงานประชาสัมพันธ์ จังหวัดลำพูน และ เจ้าหน้าที่ของ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดลำพูน พร้อมกับ สักการะ องค์พระบรมธาตุ หริภุญชัย และ ชม ผลิตภัณฑ์โอทอป ของจังหวัดลำพูน ที่ ตลาด ขัวมุง

วานนี้ ( 8 กรกฎาคม 2557 ) นายไพฑูรย์ หิรัญประดิษฐ์ รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมคณะ เดินทางมาเยี่ยมชม การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ สำนักงานประชาสัมพันธ์ จังหวัดลำพูน และ เจ้าหน้าที่ของ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดลำพูน โดย มี นายดนัย ชนกล้าหาญ ประชาสัมพันธ์ จังหวัดลำพูน และ นางสาวชนิสา ชมศิลป์ ผู้อำนวยการส่วนแผนงาน และ พัฒนางานประชาสัมพันธ์ สปข.3 ให้การต้อนรับ

รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้ ไป สักการะ องค์พระบรมธาตุ หริภุญชัย ซึ่งเป็น พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมือง ของ ลำพูน และ ได้ไปเยี่ยมชม การจัดแสดง จำหน่าย ผลิตภัณฑ์โอทอป ที่มีชื่อเสียง ของจังหวัดลำพูน ที่ ตลาด ขัวมุงท่าสิงห์ ซึ่ง จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ อาทิ ผ้าไหมยกดอก , ลำไยอบแห้ง และ งานหัตกรรมฝีมือ ที่ สวยงาม อีกหลายชนิด

หลังจากนั้น รอง อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้ไปเยี่ยมชมการ จัดรายการวิทยุ ของ เจ้าหน้าที่ สถานีวิทยุกระจายเสียง แห่งประเทศไทย จ.ลำพูน Fm 95.0 Mhz และ ได้ ไปตรวจเยี่ยม บริเวณ บ้านพักของเจ้าหน้าที่ ซึ่ง บ้านพักบางหลัง มีสภาพทรุดโทรม และ มีน้ำขัง ซึ่ง รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้ รับทราบข้อมูล เพื่อ ดำเนินให้มีการปรับปรุงแก้ไข ปรับปรุงภมิทัศน์ บ้านพักของเจ้าหน้าที่ ต่อไป



ข่าวโดย : นศ. ฝึกประสบการณ์ นางสาวเกศกนก แสงจันทร์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

จังหวัดลำพูน กำหนดจัดพิธีถวายเทียนจำนำพรรษาพระราชทาน เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2557 ณ วัดป่าเห็ว ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน

นายอาณัติ วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า จังหวัดลำพูน ได้กำหนดจัดพิธีถวายเทียนจำนำพรรษาพระราชทาน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริโสภาพรรณวดี เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ณ วัดป่าเห็ว ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมืองลำพูน

การถวายเทียนจำนำพรรษาพระราชทาน ครั้งนี้ จะมีการแห่ขบวนอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทาน และเทียนพรรษาของโรงเรียนในเขตเทศบาลตำบลอุโมงค์ เพื่อสืบสานประเพณี วัฒนธรรม ของพุทธศาสนิกชน จะเคลื่อนขบวนจากหน้าตลาดกลางป่าเห็ว ไปตามถนนเชียงใหม่ – ลำพูน เข้าสู่อุโบสถ วัดป่าเห็ว ประกอบพิธีถวายเทียนจำนำพรรษาพระราชทาน

จึงขอเชิญ พุทธศาสนิกชน ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบำเพ็ญกุศล โดยทั่วกัน



ข่าวโดย : นศ. ฝึกประสบการณ์ นางสาวเกศกนก แสงจันทร์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

จังหวัดลำพูน กำหนดจัดงานวันอาสาฬหบูชา ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2557 ศกนี้

นายอาณัติ วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า จังหวัดลำพูน ได้กำหนดจัดงานวันอาสาฬหบูชา เพื่อให้พุทธศาสนิกชน ได้ร่วมบำเพ็ญกุศล น้อมระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย และเพื่อสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม ในวันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ร่วมกันทำบุญตักบาตร พระภิกษุ สามเณร จำนวน 89 รูป

ตอนค่ำ เวลา 19.00 น. ฟังพระธรรมเทศนา เจริญสมาธิภาวนา ประกอบพิธีเวียนเทียนรอบองค์พระบรมธาตุหริภุญชัย จึงขอเชิญ พุทธศาสนิกชน ร่วมบำเพ็ญกุศล โดยทั่วกัน



ข่าวโดย : นศ. ฝึกประสบการณ์ นางสาวเกศกนก แสงจันทร์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ในช่วง 8-11 กรกฎาคม 2557 นี้

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูนเปิดเผยว่า ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ คาดการณ์ลักษณะอากาศ วันที่ 8 – 11 กรกฎาคม 2557 ว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ภาคเหนือจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น โดยมีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฟ้าคะนองเกือบทั่วไปร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักเป็นบางแห่ง

จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ราบลุ่มริมน้ำ ที่ลาดเชิงเขาและบริเวณพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ได้ทราบเกี่ยวกับภัยอันตราย จากฝนตกหนัก น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มในพื้นที่ รวมทั้งระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติ ในระยะ 3-4 วันนี้ เพื่อให้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหา อันเกิดจากสภาวะดังกล่าว ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิต ทรัพย์สิน และผลผลิตทางการเกษตรของประชาชน



ข่าวโดย : อรณิชา อินทา
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

จังหวัดลำพูน กำหนดจัดพิธีถวายเทียนพรรษาพระราชทาน เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2557 เวลา 14.00 น. ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน

นายอาณัติ วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า จังหวัดลำพูน ได้กำหนดจัดพิธีถวายเทียนพรรษาพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร อำเภอเมืองลำพูน

ในพิธีจะมีขบวนแห่ อัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทาน เพื่อสืบสานประเพณี วัฒนธรรม ของพุทธศาสนิกชน เคลื่อนขบวนจากสี่แยกประตูลี้ ไปตามถนน อินทยงยศ ถึงหน้าศาลากลางจังหวัดลำพูน ไปตามถนนอัฎฐารถ เข้าสู่บริเวณวัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร จังหวัดลำพูน ประกอบพิธีถวายเทียนพรรษาพระราชทาน

จึงขอเชิญชวน พุทธศาสนิกชน ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบำเพ็ญกุศล โดยทั่วกัน



ข่าวโดย : นศ. ฝึกประสบการณ์ นางสาวเกศกนก แสงจันทร์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

จังหวัดลำพูน ร่วมกับ คณะสงฆ์ เตรียมดำเนินงานการ "หมู่บ้านรักษาศีล 5" เพื่อเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ทั้ง 8 อำเภอ 51 ตำบล 575 หมู่บ้าน

เมื่อวานนี้ (8 ก.ค. 2557) ที่ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร จังหวัดลำพูน พระราชปัญญาโมลี เจ้าคณะจังหวัดลำพูน พร้อมด้วยนายอาณัติ วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้ประชุม คณะสงฆ์ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการดำเนินงาน "หมู่บ้านรักษาศีล 5" เพื่อเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ทั้ง 8 อำเภอ 51 ตำบล 575 หมู่บ้าน

เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหามากมาย โดยเฉพาะการความแตกต่างทางความคิด ซึ่งปัญหาทั้งหลายล้วนเกิดจากการขาดสติ จิตสำนึก ศีลธรรมและคุณธรรม ดังนั้นเพื่อเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ลดปัญหาความขัดแย้ง สร้างความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงได้หาแนวทางในการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ให้ประชาชนมีความรักความสามัคคีกัน โดยเริ่มจากครอบครัว หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ซึ่งจะนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างปลอดภัยยั่งยืน

พระราชปัญญาโมลี เจ้าคณะจังหวัดลำพูน กล่าวว่า จากการที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าสมเด็จพระสังฆราช มีดำริที่จะเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ ให้เกิดความสงบ สันติสุข มีความสามัคคี สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมนำหลักศีล 5 มาปฏิบัติในการดำเนินชีวิตประจำวัน

สำหรับจังหวัดลำพูน ได้กำหนดเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” ในลักษณะการประสานความร่วมมือระหว่างบ้าน วัด และโรงเรียนทั้งนี้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และเพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง สร้างความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยมีเป้าหมายดำเนินงานทั้งจังหวัด รวม 8 อำเภอ 51 ตำบล 575 หมู่บ้าน ซึ่งจะเริ่มอย่างเร่งด่วนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


ข่าวโดย : อุไรวรรณ ปิงแก้ว
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

เกษตรจังหวัดกำแพงเพชรจัดอบรมเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์งานส่งเสริมการเกษตร

เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2557 ที่ห้องประชุม ชั้น 2 สำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร นายรวีโรจน์ ส่องศรี ประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตร การบริหารจัดการงานประชาสัมพันธ์งานส่งเสริมการเกษตร พร้อมทั้งเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้แก่ ผู้เข้าร่วมอบรม ซึ่งผู้เข้าร่วมอบรม เป็นเจ้าหน้าที่ด้านการประชาสัมพันธ์ของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร และสำนักงานเกษตรอำเภอ ทั้ง 11 อำเภอ

การจัดอบรมในครั้งนี้ ก็เพื่อมุ่งเน้นให้เจ้าหน้าที่ด้านการประชาสัมพันธ์ของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร และสำนักงานเกษตรอำเภอ ทั้ง 11 อำเภอ ให้มีบทบาทและตัวตนที่ชัดเจน ในการเป็นนักส่งเสริมการเกษตรมืออาชีพ โดยสามารถใช้สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน เพื่อให้สามารถรองรับภารกิจต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากบุคลากร คือ หัวใจของกรมส่งเสริมการเกษตร ทำงานกับเกษตรกร ดังนั้นจึงมุ่งเน้นให้เจ้าหน้าที่มีบทบาท สามารถเป็นผู้จัดการการเกษตรในพื้นที่ และสามารถเรียนรู้ในการใช้สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์ สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแผนงาน โครงการที่ตั้งไว้ และเกิดเครือข่ายในการปฏิบัติงานระหว่างบุคลากรของกรมฯ และสื่อมวลชนในพื้นที่ การอบรมในครั้งนี้ เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่จะมีความรู้ ความเข้าใจ ในแนวทางการประชาสัมพันธ์ และสอดคล้องกับนโยบาย ของกรมส่งเสริมการเกษตร ที่เน้นนโยบาย การเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดีที่สุด และการอบรมในครั้งนี้ ยังได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน เพื่อบูรณาการแนวทางการปฏิบัติงานประชาสัมพันธ์ และเกิดเครือข่ายการทำงาน เพื่อให้งานประชาสัมพันธ์ มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น.



นิพนธ์ รอดทรัพย์ / ข่าว
ผู้ตรวจ นายรวีโรจน์ ส่องศรี ประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร

กำแพงเพชรจัดโครงการเสริมสร้างและพัฒนาเครือข่ายชมรม TO BE NUMBER ONE

เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2557 ที่ห้องประชุมลิไท โรงแรมเพชรโฮเต็ล อำเภอเมืองกำแพงเพชร นายศักดิ์ สมบุญโต รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานเปิดโครงการเสริมสร้างและพัฒนาเครือข่ายชมรม TO BE NUMBER ONE โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 170 คน ซึ่งเป็นแกนนำในการขับเคลื่อน โครงการ TO BE NUMBER ONE จากหลายอำเภอ ที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรม

โครงการ TO BE NUMBER ONE คือโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ใน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงเป็นองค์ประธานอำนวยการโครงการรณรงค์ป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงมีความห่วงใยต่อประชาชนชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน อายุระหว่าง 6-25 ปี จำนวน 21 ล้านคน ซึ่งถือเป็นกลุ่ม เสี่ยงสูง จึงทรงรับเป็นองค์ประธานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้การรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภายในประเทศดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยความร่วมมือ และรวมพลังจากภาครัฐและเอกชน กระตุ้นและปลุกจิตสำนึกของปวงชนในชาติให้มีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักว่าการที่จะเอาชนะปัญหายาเสพติดมิใช่หน้าที่ของบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่ทุกคนในชาติจะร่วมแรงร่วมใจกันเป็นพลังของแผ่นดินที่จะต่อสู้และเอาชนะปัญหา ยาเสพติดให้ได้โดยเร็ว      

การอบรมครั้งนี้ได้นำแกนนำจากโรงเรียน ผู้นำชุมชน และผู้แทนสมาชิก TO BE NUMBER ONE มาเข้ารับความรู้และฝึกทักษะ ทำให้แกนนำมีความรู้และเข้าใจในวัตถุประสงค์ของโครงการ TO BE NUMBER ONE แกนนำสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่ให้สมาชิกอย่างถูกต้อง แกนนำสามารถจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกให้มีพฤติกรรมที่เหมาะสม มีทักษะชีวิตในการดำรงชีวิตที่ถูกต้อง กลุ่มเสี่ยงได้รับคำแนะนำ การให้คำปรึกษาอย่างเหมาะสม ในลักษณะเพื่อนเตือนเพื่อน พี่เตือนน้อง ซึ่งเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม.



นิพนธ์ รอดทรัพย์ / ข่าว
ผู้ตรวจ นายรวีโรจน์ ส่องศรี ประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร

จังหวัดกำแพงเพชร ร่วมกับ กองทัพภาค 3 จัดกิจกรรม “รวมพลังสร้างสามัคคี ถิ่นกำแพงนี้เมืองชาวพุทธ”

เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2557 ที่สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร ริมแม่น้ำปิง อำเภอเมืองกำแพงเพชร พลโทสาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพน้อยที่ 3 กองทัพภาค 3 เป็นประธานเปิดกิจกรรม "รวมพลังสร้างสามัคคี ถิ่นกำแพงนี้เมืองชาวพุทธ” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยจังหวัดกำแพงเพชรได้นำกลุ่มพลังมวลชน กลุ่มอาสาสมัครต่าง ๆ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชนทุกภาคส่วน มาร่วมดำเนินกิจกรรมเพื่อสร้างความสามัคคี และร่วมปฏิญาณตนร่วมเป็นอาสาสมัครสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดในพื้นที่ตนอาศัยหรือทำงานอยู่

ในโอกาสเทศกาลสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ เทศกาลเข้าพรรษา จังหวัดกำแพงเพชรจึงจัดกิจกรรมร่วมหล่อเทียนเฉลิมพระเกียรติ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในเทศกาลเข้าพรรษา ในนามกิจกรรม "รวมพลังสร้างสามัคคี ถิ่นกำแพงนี้เมืองชาวพุทธ” ให้ทุกคนได้ร่วมหล่อเทียนพรรษาร่วมกันในวันนี้ พลโทสาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพน้อยที่ 3 และนายสุรพล วาณิชเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชรได้ร่วมกับผู้นำชุมชนและชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมหล่อเทียนจำนำพรรษาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว อีกทั้งยังเป็นการร่วมสืบทอดประเพณีวัฒนธรรมที่สืบกันมาช้านาน ในการร่วมกันอนุรักษ์และส่งเสริมประเพณีอันดีงามของไทย สร้างความปรองดองสมานฉันท์ระหว่างหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และชุมชนให้คงอยู่สืบไป และถวายเทียนพรรษาแด่พระสงฆ์จำนวน 15 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

พระธรรมภาณพิลาส เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวเทศนาว่า ปัญหาเกิดขึ้นจากทุกฝ่ายที่มีความรักชาติไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน จึงขอให้ทุกคนไปขัดใจของตนเองให้ถูกต้อง ให้ใส ให้สะอาด จากตัวเองแล้วขยายออกไปครอบครัว ชุมชน หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ไปจนถึงประเทศชาติ บ้านเมืองจะเดินไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองสำเร็จสมหวังได้ และขอฝากธรรมะ 2 ข้อ เมตตา อภัย เพราะเราไม่ใช่คนอื่นไกล เคยเป็นพี่น้องพวกพ้องกันทั้งหมด ขอให้เมตตา อภัยและขัดใจตนเองให้สะอาด ถูกต้อง ดีงาม แล้วบ้านเรือนจะเจริญสู่ความรุ่งเรืองตามที่เราต้องการ



นิพนธ์ รอดทรัพย์ / ข่าว
ผู้ตรวจ นายรวีโรจน์ ส่องศรี ประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร

การประชุมโครงการ”รวมพลคนรักครอบครัวจังหวัดเพชรบูรณ์ ปี 2557”

วันนี้ (9 ก.ค.57) ณ ห้องพีชะปุระ โรงแรมโฆษิตฮิลล์ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ นายสุชาติ ราษฎร์ดุษดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานการประชุมโครงการ รวมพลคนรักครอบครัวจังหวัดเพชรบูรณ์ ปี 2557 เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน และกลุ่มเครือข่ายสตรี มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายด้านครอบครัว รู้เท่าทันสถานการณ์ปัญหาครอบครัว และร่วมกำหนดแผนงาน/กิจกรรมเสริมสร้างความเข้มแข็งของสตรีและสถาบันครอบครัวได้

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้จัดโครงการ”รวมพลคนรักครอบครัวจังหวัดเพชรบูรณ์ ปี 2557”ขึ้นเพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน (ศพค.) ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมและพัฒนาสถาบันครอบครัวในระดับพื้นที่ และกลุ่มเครือข่ายสตรี ให้ได้รับความรู้เกี่ยวกับกฎหมายต่างๆ ที่ส่งเสริมความผาสุขในครอบครัว เกิดการประสานความร่วมมือในการพัฒนาสถาบันครอบครัวในลักษณะบูรณาการพื้นที่ ร่วมกันเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาครอบครัว ที่จะนำไปสู่ความเข้มแข็งของท้องถิ่นในการจัดการปัญหาครอบครัวและร่วมแก้ปัญหาสังคมอย่างยั่งยืนได้ต่อไป

สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 ปล่อยสัตว์ป่า 3 ชนิด 120 ตัว สู่ธรรมชาติ ตามโครงการ “ส่งสัตว์ป่าคืนวนา เพื่อป่าสมบูรณ์”

สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 ปล่อยสัตว์ป่า 3 ชนิด 120 ตัว สู่ธรรมชาติ ตามโครงการ "ส่งสัตว์ป่าคืนวนา เพื่อป่าสมบูรณ์”

วันนี้ (วันที่ 9 กรกฎาคม 2557) ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตะเบาะ-ห้วยใหญ่ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ นายอมร ต่อเจริญ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 เป็นประธานเปิดโครงการ "ส่งสัตว์ป่าคืนวนา เพื่อป่าสมบูรณ์” ปล่อยสัตว์ป่า 3 ชนิด 120 ตัว และร่วมทำโป่งเทียมสำหรับสัตว์ป่า มีเยาวชน นักเรียน ผู้นำชุมชนบริเวณโดยรอบเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ร่วมกิจกรรมกว่า300 คน

สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 จัดงาน "ส่งสัตว์ป่าคืนวนา เพื่อป่าสมบูรณ์” ขึ้น ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตะเบาะ-ห้วยใหญ่ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มและฟื้นฟูประชากรสัตว์ป่าให้มีความสมดุล เป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุกรรมสัตว์ป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การดำเนินงานด้านการเพาะพันธุ์ และปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติ ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ภายในงานจัดให้มีกิจกรรมปล่อยสัตว์ป่า 3 ชนิด จำนวน 120 ตัว ได้แก่ เนื้อทราย 15 ตัว, กวางป่า 15 ตัว และไก่ฟ้าหลังขาว 90 ตัว รวมทั้งร่วมกันทำกิจกรรมโป่งเทียมสำหรับสัตว์ป่า

ซึ่งนายณรงค์ บ่วงรักษ์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 กล่าวว่า การเพาะพันธุ์และการปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติเป็นมาตรการหนึ่งในการอนุรักษ์สัตว์ป่าซึ่งเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมโยงการอนุรักษ์สัตว์ป่าในถิ่นกำเนิดและนอกถิ่นกำเนิด ที่จะช่วยให้เกิดการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์ป่าในผืนป่าอนุรักษ์ของประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันสัตว์ป่าตกอยู่ในภาวะที่ถูกคุกคามอย่างต่อเนื่อง จากการบุกรุกป่า ทำให้ที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าลดลงเป็นจำนวนมาก ประกอบกับปัญหาการลักลอบล่าและค้าสัตว์ป่าที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ ทำให้สัตว์ป่าหลายชนิดสูญพันธุ์ และอีกหลายชนิดตกอยู่ในภาวะที่มีแนวโน้มจะสูญพันธุ์ในอนาคตอันใกล้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำแผนงานในเชิงรุกเดินหน้าคืนความสมดุลสู่ผืนปาธรรมชาติ ภายใต้โครงการ "ส่งสัตว์ป่าคืนวนา เพื่อป่าสมบูรณ์”ซึ่งมีแผนการดำเนินงานนำสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์และสัตว์ป่าที่เพาะพันธุ์ได้ โดยคัดเลือกสายพันธุ์สัตว์ป่าพันธุ์แท้ของสัตว์ป่าในเมืองไทยตามแหล่งที่อยู่เดิมที่มีสัตว์เหล่านั้นอยู่อาศัย และได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 ที่ผ่านมาได้ปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติไปแล้ว 13,852 ตัว และในปี 2557 มีเป้าหมายดำเนินการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ 20 แห่ง

ประชุมการจัดตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว แบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) จังหวัดเพชรบูรณ์ ครั้งที่ 1/2557

ประชุมการจัดตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว แบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) จังหวัดเพชรบูรณ์ ครั้งที่ 1/2557

วันนี้ (9 ก.ค.57) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานการประชุมการจัดตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว แบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) จังหวัดเพชรบูรณ์ ครั้งที่ 1/2557

ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 68/2557 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2557 เรื่องมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวระยะที่ 1 เป็นการชั่วคราว และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 70/2557 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2557 เรื่องมาตรการชั่วคราวในการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ โดยกำหนดให้จัดตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ในทุกจังหวัด เพื่อทำหน้าที่ในการพิจารณาออกใบอนุญาติทำงานชั่วคราวให้แก่คนต่างด้าว และจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวซึ่งเป็นคนสัญชาติเมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา โดยให้กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานหลักและปฏิบัติงานร่วมกันกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง

เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ดังกล่าว จังหวัดเพชรบูรณ์จึงจัดตั้ง”ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service)จังหวัดเพชรบูรณ์”ขึ้น ณ หอประชุมอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ เพื่อให้แรงงานต่างด้าวได้รับการคุ้มครอง ไม่ถูกบังคับใช้แรงงาน โดยเฉพาะกิจการประมง และกิจการต่อเนื่อง ซึ่งช่วงที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีมาตรการผ่อนผันให้นายจ้างจัดทำบัญชีรายชื่อแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในความดูแลให้ครบถ้วน เพื่อให้ง่ายต่อการจดทะเบียนต่อไป
   

ประชุมคณะทำงานเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดระดับพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ (โต๊ะข่าว) ครั้งที่ 10 ประจำปีงบประมาณ 2557

วันนี้ (9 ก.ค.57) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุม 3 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ นายคณีธิป บุณยเกตุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดระดับพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ (โต๊ะข่าว) ครั้งที่ 10 ประจำปีงบประมาณ 2557

ในที่ประชุมคณะทำงานเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดระดับพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ (โต๊ะข่าว) ได้รายงานผลการดำเนินงานและความคืบหน้าของคณะทำงานฯ ในห้วงเดือนมิถุนายน 2557 มีบุคคลที่ถูกจับ จำนวน 608 ราย แยกเป็น บุคคลในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 546 ราย บุคคลนอกพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 62 ราย ซึ่งเพิ่มขั้นากเดือนพฤษภาคม จำนวน 241 ราย

ด้านการวิเคราะห์พื้นที่ ที่พบข่าวสารการแพร่ระบาดของยาเสพติด ยาบ้าชนิดใหม่ ซึ่งจังหวัดเพชรบูรณ์พบว่าส่วนมากการแพร่ระบาดของยาเสพติดจะแพร่ระบาดในชุมชนเมือง การลำเลียงมักจะใช้รถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยใช้เส้นทางลำเลียงทั้งถนนสายหลัก และถนนสายรอง ระหว่างหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอในเขตพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์

นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้สรุปผลการซักถามขยายผลการจับกุมคดียาเสพติดของ ศพส.อ.ร่วมกับ สภ.ในพื้นที่ จากนั้นได้ร่วมกันประเมินสถานการณ์ปัญหายาเสพติดใน 9 มาตรการ ตามคำสั่ง คสช.ที่ 41/2557 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 (ห้วงระยะเวลา 1 เดือน 8 มิ.ย. – 8 ก.ค.57)

จังหวัดเพชรบูรณ์ เรียกผู้ประกอบการ ร้านค้า ประชุมการกำหนดราคาจำหน่ายปัจจัยการผลิตทางการเกษตร

จังหวัดเพชรบูรณ์ เรียกผู้ประกอบการ ร้านค้า ประชุมการกำหนดราคาจำหน่ายปัจจัยการผลิตทางการเกษตร

วันนี้ (9 ก.ค.57) ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ นายสุชาติ ราษฎร์ดุษดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานการประชุมการกำหนดราคาจำหน่ายปัจจัยการผลิตทางการเกษตร

ด้วยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายสำคัญเร่งด่วนในการช่วยเหลือเกษตรกรหรือชาวนาผู้ปลูกข้าวในฤดูกาลผลิต ปี 2557/2558 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับลดราคาต้นทุนปัจจัยการผลิตข้าว ซึ่งมีปุ๋ยเคมีและยาป้องกันหรือกำจัดศัตรูพืช ดังนั้นเพื่อให้เกษตรกร หรือชาวนาผู้ปลูกข้าวได้รับความเป็นธรรมในด้านราคาที่สมเหตุสมผล สอดคล้องกับราคาที่ปรับลดลงจากผู้ผลิต ผู้จำหน่าย จังหวัดเพชรบูรณ์จึงเรียกผู้ประกอบการ ร้านค้าที่จำหน่ายปุ๋ย ยา ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรเข้าประชุม เพื่อขอความร่วมมือกำหนดราคาจำหน่ายปัจจัยการผลิตทางการเกษตรให้จำหน่ายไม่สูงกว่าราคาแนะนำตามบัญชี อาทิ เช่น อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ราคาปุ๋ยตรากระต่ายอยู่ที่ 650 บาท/กระสอบ อำเภอเขาค้อ 660 บาท/กระสอบ ปุ๋ยตราหัววัวคันไถ 655 บาท/กระสอบ อำเภอเขาค้อ 665 บาท/กระสอบ เป็นต้น

โดยทางผู้ประกอบการร้านค้า พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทางจังหวัดฯ ซึ่งจะจำหน่ายปัจจัยการผลิตทางการเกษตรในราคาที่กำหนด

คัดสรรสุดยอดผลิตภัณฑ์ OTOP เด่นจังหวัดเพชรบูรณ์ เพิ่มความสามารถการตลาดในตลาดประเทศเพื่อนบ้าน

วันนี้ (9 ก.ค.57) ที่ห้องลักษมี โรงแรมบูรพา อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ นายสุชาติ ราษฎร์ดุษดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานการคัดสรรสุดยอดผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ OTOP เด่นจังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปี 2557 ดร.ไพศาล สุขปัญญา พัฒนาการจังหวัด รายงาน เพื่อยกระดับการพัฒนาผลิตสินค้า OTOP เตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซี่ยน แบ่งการคัดสรรออกเป็น 5 ประเภท ประเภทอาหาร ประเภทเครื่องดื่ม ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ประเภทของใช้ของตกแต่งของที่ระลึก ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร มีกลุ่ม ผู้ประกอบการ ส่งผลิตภัณฑ์เข้าคัดสรร จำนวน 38 รายการ คัดสรร ที่ 1,2,3 และชมเชย 5 รางวัล ของแต่ละประเภท

การคัดเลือกผลิตภัณฑ์เด่น เพื่อให้เป็นไปตามแผนพัฒนาจังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปี 2557 โครงการเพิ่มขีดความสามารถด้านการตลาด ของผลิตภัณฑ์ OTOP ในตลาดประเทศเพื่อนบ้าน ประชาสัมพันธ์เพิ่มช่องทางการตลาดแก่ผลิตภัณฑ์ นำผลิตภัณฑ์เข้าสู่กระบวนการส่งเสริมและพัฒนา โดยกรอบการคัดเลือก ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น มีคุณค่าเป็นที่นิยม มีศักยภาพด้านการผลิตและความสามารถด้านการตลาด ผลการพิจารณาจะประกาศเป็นทางการ ต่อไป

สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิษณุโลก ชวนร่วมกิจกรรมงานสัปดาห์เผยแผ่พระพุทธศาสนา เนื่องในวันอาสาฬหบูชา ประจำปี 2557

นายบุญเรือง แตงก่อ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก  เปิดเผยว่า เนื่องในวันอาสาฬหบูชา ประจำปี 2557 สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิษณุโลก จึงจัดกิจกรรม "งานสัปดาห์เผยแผ่พระพุทธศาสนา” ระหว่างวันที่ 10 -11 กรกฎาคม 2557 ณ พุทธมณฑลจังหวัดพิษณุโลก ตำบลอรัญญิก อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก   โดยมีกิจกรรม พิธีเวียนเทียนรอบพระพุทธนเรศวรมังคลาปุระ       พิธีเททองหล่อพระศรีศรัทธาราชจุฬามณี ศรีรัตนลังกาทีปฯ และเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพ ถวายเทียนจำนำพรรษา ให้กับวัดทุกวัดในจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 583 วัด

ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด โทร. 0-5524-8057 ,0-5524-8017

ขนส่งตาก ลงนามบันทึกข้อตกลงกับราชมงคลล้านนา ตาก และ กศน.แม่สอด การจัดอบรมผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถ

วันนี้ ( ๙ ก.ค.๕๗) เวลา ๑๐.๐๐ น นายพงศ์ธนา แววรัตน์ ขนส่งจังหวัดกำแพงเพชร รักษาราชการแทนขนส่งจังหวัดตากตาก พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประสาร รุจิระศักดิ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาตาก และนางเกศินี ฝึกฝน ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอแม่สอด ได้ร่วมกันลงนามบันทึกความตกลงในการจัดอบรมสำหรับผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถและผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ณ ห้องประชุมทองกวาว ชั้น ๒ อาคารคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาตาก อำเภอเมือง จังหวัดตาก

นายพงศ์ธนา แววรัตน์ ขนส่งจังหวัดกำแพงเพชร รักษาราชการแทนขนส่งจังหวัดตากตาก กล่าวว่า ตามที่กรมการขนส่งทางบกได้กำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ต้องผ่านการอบรมตามหลักสูตรในวิชาที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๔ ชั่วโมง และผู้ที่ขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ต้องผ่านการอบรมตามหลักสูตรในวิชาที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดไว้ไม่น้อยกว่า ๑ ชั่วโมง ซึ่งทางสำนักงานขนส่งจังหวัดและสำนักงานขนส่งสาขาไม่สามารถรองรับจำนวนผู้ประสงค์เข้ารับการอบรมเพื่อขอรับใบอนุญาตขับรถที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นได้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน สำนักงานขนส่งจังหวัดตาก จึงได้ทำบันทึกข้อตกลงกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตาก และศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาสัย อำเภอแม่สอด โดยทั้งสองสถานศึกษานี้ จะออกใบรับรองให้แก่ผู้ผ่านการอยรมตามหลักสูตรที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด เพื่อนำไปเป็นหลักฐานยกเว้นการอบรมในการขอรับและต่อใบอนุญาตขับรถ ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดและสำนักงานขนส่งจังหวัดสาขาทั่วประเทศ

ผู้ที่มีความประสงค์จะขอรับใบอนุญาตและขอต่อใบอนุญาตขับรถ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายใบอนุญาตขับรถ สำนักงานขนส่งจังหวัดตาก โทรศัพท์ ๐๕๕ – ๕๔๑๑๖๖ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตาก โทรศัพท์ ๐๕๕ – ๕๑๑๘๖๒ และศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอแม่สอด โทรศัพท์ ๐๕๕ – ๕๓๔๒๔๗

จังหวัดตาก จัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าลดค่าครองชีพคืนความสุขให้ประชาชน ตามนโยบาย คสช.

วันที่ (๗ ก.ค.๒๕๕๗) เวลา ๐๘.๔๐ น. นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นประธานเปิดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าลดค่าครองชีพคืนความสุขให้ประชาชน โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนนำสินค้าทั้งอุปโภคบริโภค มาจำหน่ายในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด รวมทั้งล็อตเตอรี่ ในราคาใบละ ๘๐ บาท ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดตาก

นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า การจัดจำหน่ายสินค้าราคาถูกในครั้งนี้ สืบเนื่องจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีนโยบายคืนความสุขให้คนไทย ในขณะที่ปัจจุบันค่าครองชีพทั่วประเทศเพิ่มสูงขึ้น ทำให้รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน สาเหตุมาจากสินค้ามีราคาสูง จึงได้มีมาตรการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการลดค่าใช้จ่ายของประชาชน จังหวัดตาก จึงจัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าลดค่าครองชีพคืนความสุขให้ประชาชน ซึ่งมีหน่วยงานต่าง ๆ นำสินค้าอุปโภค บริโภค รวมทั้งสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีวิตประจำวัน วัตถุประสงค์เพื่อคืนความสุขให้ประชาชนตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อช่วยให้ประชาชนในจังหวัดตากได้ซื้อสินค้าราคาถูก เป็นการลดค่าครองชีพ และเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้หันมาใช้สินค้าในราคาที่ถูกลง อีกทั้งสามารถกระจายรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย และผู้ผลิตสินค้าในท้องถิ่นด้วย