วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ประชาชนแห่ทำหนังสือเดินทางที่สำนักงานหนังสือเดินทางเชียงใหม่วันแรกกว่าห้าร้อยคน

ประชาชนรอรับบริการสำนักงานหนังสือเดินทางจังหวัดเชียงใหม่กว่าห้าร้อยคน หลังเปิดรับคำร้องวันแรกหลังจากปิดบริการมาตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม แต่ยังจำกัดจำนวนที่ 200 ต่อวัน

วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2557) สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว เชียงใหม่เปิดให้บริการรับคำร้องทำหนังสือเดินทางวันแรกนับตั้งแต่ปิดรับมาตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2557 เนื่องจากเหตุชุมนุมทางการเมือง เนื่องจากระบบสำรองที่กรุงเทพฯ สามารถรองรับการผลิตมากขึ้น สำนักงานฯ เชียงใหม่จึงเปิดให้บริการรับคำร้องทำหนังสือเดินทางได้ แต่จำกัดจำนวนที่ 200 เล่ม/วัน โดยจ่ายเล่มทางไปรษณีย์เท่านั้นภายใน 30 วันนับจากวันที่ยื่นคำร้อง โดยการเปิดให้บริการในวันแรกนี้มีผู้รับบริการมารอตั้งแต่เวลา 4.00 น. และเพิ่มจำนวนเป็นห้าถึงหกร้อยคนตั้งแต่เวลา 8.00 น. โดยมีเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นเป็นระยะๆ เนื่องจากผู้รับบริการได้จัดทำคิวขึ้นมาเองก่อนเวลาที่สำนักงานฯ จะแจกบัตรคิว แต่มีผู้แซงคิว รวมทั้งจากความไม่พอใจที่สำนักงานฯ ปิดการแจกบัตรคิวเนื่องจากครบจำนวน 200 เล่มแล้วในวันนี้ นางสาวนารีตา สุประดิษฐ รักษาการหัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว เชียงใหม่ กล่าวว่า โดยปกติ จะมีประชาชนมาขอรับบริการทำหนังสือเดินทางสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว เชียงใหม่ ประมาณ 300 คนต่อวัน แต่จากการปิดให้บริการในช่วงที่ผ่านมาทำให้มีผู้ที่ต้องการทำหนังสือเดินทางจำนวนมาก ทำให้วันนี้มีผู้ที่ไม่ได้คิวเนื่องจากจำนวนที่จัดทำได้ในแต่ละวันมีจำนวนจำกัด ต้องมายื่นอีกครั้งในวันต่อไป โดยการมายื่นคำร้อง ผู้จะทำหนังสือเดินทางต้องมารอรับคิวด้วยตนเอง สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว เชียงใหม่ จะแจกบัตรคิววันต่อวัน ไม่มีระบบจองคิวล่วงหน้า/จองคิวแทนกัน เริ่มแจกบัตรคิวตามเวลาเปิดทำการ (08.30 น.) สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว เชียงใหม่ แจ้งว่า เพื่อความสะดวกของผู้มารับบริการ กรุณาเตรียมหลักฐานให้พร้อม เช่น บัตรประชาชนตัวจริง มีภาพใบหน้าชัดเจน ไม่หมดอายุ ไม่หักชำรุด หากมีหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ กรุณานำมาแสดงด้วย หากมีข้อสงสัยเรื่องหลักฐานประกอบการยื่นขอหนังสือเดินทางกรณีอื่นๆ โดยเฉพาะผู้เยาว์/หนังสือเดินทางราชการ สอบถามก่อนได้ที่หมายเลข 053-891536 และโปรดแจ้งข้อมูลของท่านแก่เจ้าหน้าที่ให้ครบถ้วน เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ช่วยแนะนำได้อย่างถูกต้องการให้บริการรับรองเอกสารของแผนกสัญชาติและนิติกรณ์ และช่องบริการรับรองวีซ่าเปิดให้บริการตามปกติ ผู้ขอรับบริการยังคงไปทำหนังสือเดินทางได้ที่กรุงเทพฯ สำนักงานฯ สาขาปิ่นเกล้า (เวลา08.30-15.00 น.ผลิตได้ 1,000 เล่ม) และสาขาบางนา (เวลา08.00-15.00 น. ผลิตได้ 1,700 เล่ม) จ่ายเล่มทางไปรษณีย์เท่านั้นภายใน 15 วันนับจากวันยื่นคำร้อง ปิ่นเกล้า โทร: 02-4330280 ถึง 7 / บางนา โทร: 02-3838402 ถึง 3 ติดตามข่าวการเปิด/ปิดให้บริการได้ทาง www.chiangmai.go.th/mfa หรือสอบถามที่หมายเลข 053-891536 และ 053-112 748 ถึง 50



ข่าวโดย : อนุชา นาคฤทธิ์

กกต.เชียงใหม่สรุปผลการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการของผู้มีสิทธิเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่

กกต.เชียงใหม่สรุปผลการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ของจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 โดยแบบแบ่งเขตเลือกตั้งพบมามีผู้มาใช้สิทธิคิดเป็นร้อยละ 67 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เป็นบัตรดีร้อยละ 64.53 บัตรเสียร้อยละ 14.55 และมีผู้ไม่ประสงค์จะลงคะแนนร้อยละ 13.64

นายสุชาติ ใจภักดี ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป พร้อมกันทั่วประเทศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ระหว่างเวลา 08.00 – 15.00 น. ซึ่งบรรยากาศการเลือกตั้งโดยภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ได้สรุปผลการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. อย่างไม่เป็นทางการเรียบร้อยแล้ว โดยแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้น 684591 คน จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในวันดังกล่าวจำนวน 1,021,714 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 67 แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เป็นบัตรดี 441,733 บัตรหรือร้อยละ 64.53 ของจำนวนบัตรเลือกตั้งทั้งหมด บัตรเสีย 99,262 บัตรหรือร้อยละ 14.55 และเป็นบัตรที่มีผู้ไม่ประสงค์จะลงคะแนน 139,347 บัตรหรือร้อยละ 13.64 ส่วนแบบบัญชีรายชื่อ พบว่าเป็นบัตรดี 514,732 บัตร หรือคิดเป็นร้อยละ 75.16 ของจำนวนบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อทั้งหมด บัตรเสีย 51,896 บัตรหรือคิดเป็นร้อยละ 7.58 และบัตรที่มีผู้ไม่ประสงค์จะลงคะแนน 103,927 บัตร หรือร้อยละ 15.16

ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในส่วนของผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจะต้องรอผลการเลือกตั้งล่วงหน้าในหน่วยเลือกตั้งที่ไม่สามารถเปิดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2557 ได้ ทั้งนี้ กกต.ได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าในหน่วยเลือกตั้งดังกล่าวในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 08.00 – 15.00 น. ซึ่งหลังจากนั้นสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทุกจังหวัดจะนำผลการเลือกตั้งของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 มารวมกับผลการเลือกตั้งล่วงหน้าใหม่จากนั้นจะประกาศผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการให้ทราบ แล้วจึงสรุปผลส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งรับรองเพื่อประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการต่อไป



ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว

สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 จัดการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการายงานสถานการณ์คุณภาพของอากาศ สถานการณ์หมอกและควันไฟป่า โดยผ่านเว็ปไซต์ และแอพพลิเคชั่น "Air4Thai"

วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2557) เวลา 09.00 น. สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 จัดการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการรายงานสถานการณ์คุณภาพของอากาศ ณ ห้องประชุมสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินงานโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน ประจำปี 2557 และมีภารกิจในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่รับผิดชอบ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน และแม่ฮ่องสอน

สำนักงานสิ่งแวดล้อมที่ 1 (เชียงใหม่) กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีการพัฒนาช่องทางการสื่อสารและเผยแพร่ข้อมูลสภาพอากาศผ่านอุปกรณ์สื่อสารแบบพกพา (Mobile Application) สำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในระบบปฏิบัติการ IOS และ Android เพื่อใช้ในการรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศของประเทศไทย เพื่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ด้วยการปรับตัวให้ทันต่อเทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถเรียกใช้งานได้สะดวก รวดเร็ว และทันต่อเหตุการณ์ โดยใช้ชื่อว่า “Air4Thai” สามารถรายงานคุณภาพอากาศจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษที่มีอยู่ 70 สถานีทั่วประเทศและคำนวณค่าดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศ (Air Quality Index : AQI) โดยแสดงผ่านสัญลักษณ์ตัวการ์ตูนหน้ากรมที่ใช้สีต่างๆ เป็นตัวแทนระดับคุณภาพอากาศ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นการทำงานอื่นๆ อีกมากมายในการรายงานสถานการณ์คุณภาพภายในประเทศ สำหรับผู้ที่ไม่ใช้อุปกรณ์สื่อสารแบบพกพาในระบบปฏิบัติการ IOS และ Android ก็สามารถเข้าไปดูคุณภาพอากาศในลักษณะเดียวกันได้ที่ http://air4thai.pcd.go.th/ และ www.aqmthai.com และ http://aqnis.pcd.go.th/ การ ขั้นตอนติดตั้ง Application เข้าไปยัง Apple App Store หรือ Google Play Store ตามระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์สื่อสารแบบพกพาแล้วค้นหา “Air4Thai” การใช้งาน Application หน้าแรกจะสามารถเลือกภาษาที่ใช้งานเป็น ไทย-อังกฤษ กดปุ่มเพื่อเริ่มการใช้งาน

การใช้งานเว็บไซต์ในการรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศ http://air4thai.pcd.go.th/ สามารถระบุพื้นที่ภูมิภาค รายงานสถานการณ์ภาพรวมในพื้นที่ รายงานสภาพอุตุนิยมวิทยา จะแสดงค่าพารามิเตอร์ต่างๆในการตรวจวัดของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ มี 3 สถานี 1.บริเวณศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง, เชียงใหม่ 2.โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 3.รถตรวจวัดคุณภาพอากาศเคลื่อนที่ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยมีการวัดค่า PM10 คือเฉลี่ยฝุ่นละออง ไมโครกรัม/ ลูกบาศก์เมตร ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 120 และค่า AQI คือภาพรวมคุณภาพอากาศ ค่าเฉลี่ยพารามิเตอร์ ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 100 จะระบุเป็นรายชั่วโมง มีการรายงานจุด Hotspot นำข้อมูลมาจากเว็บไซต์กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำหรับการอ่านค่าคุณภาพอากาศตามค่า AQI จะอ่านตามความหมายของสี สีฟ้า คือคุณภาพอากาศอยู่ในระดับดี ค่า 0-50 สีเขียว คือคุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง ค่า 51-100 สีเหลือง คือคุณภาพอากาศอยู่ในระดับ มีผลกระทบต่อสุขภาพ ค่า 101-200 สีส้ม คือคุณภาพอากาศอยู่ในระดับ มีผลกระทบต่อสุขภาพมาก ค่า 201-300 สีแดง คือคุณภาพอากาศอยู่ในระดับอันตราย ค่า 300 ขึ้นไป
ปัญหามลพิษหมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่ในปี พ.ศ.2556 ที่ผ่านมานั้น คุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่อยู่ในระดับดีถึงระดับมีผลกระทบต่อคุณภาพ ชีวิตของประชาชน มีค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองในอากาศเกินค่ามาตรฐานจำนวน 25 วัน นับเป็นภัยพิบัติอย่างใหญ่หลวงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตและ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่โดยรวม ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนใน การป้องกันและแก้ไขปัญหา เพื่อให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์ด้วยทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ยังยืน เคียงคู่กับจังหวัดเชียงใหม่ตลอดไป สมดังคำขวัญของจังหวัดเชียงใหม่ที่ว่า “ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผาชาติล้วนงามตา งามล้ำค่านครพิงค์” ดังนั้นจึงได้ประกาศให้ปัญหามลพิษหมอกควันเป็นวาระของจังหวัดเชียงใหม่



ข่าวโดย : ณัฏฐ์ สินันตา

กกต.น่าน แจ้งผลการเลือกตั้ง ส.ส. ทั่วไป ยังไม่สามารถประกาศผลคะแนนได้

นายจรูญ จันอินทร์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดน่าน แจ้งว่า ตามที่มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สถานการณ์การเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดน่านเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้น และไม่มีรายงานการกระทำผิดการเลือกตั้ง สำหรับข้อมูลผลการนับคะแนน และจำนวนผู้มาใช้สิทธิ ไม่สามารถประกาศผลคะแนนได้ เนื่องจากได้รับคำสั่งจาก กกต.กลาง ยังไม่อนุญาตให้เปิดเผยจนกว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศแล้วเสร็จครบทุกหน่วย ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 แต่หากมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก การประกาศผลก็จะเลื่อนออกไปอีก

ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดน่าน แจ้งต่อว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป  เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้นำลูกเสือและเนตรนารี กกต.ให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกแก่ผู้มาใช้สิทธิในการเลือกตั้ง อยู่บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้ง และในแต่ละเขตเลือกตั้ง ทาง กกต. ได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อให้การควบคุมและดำเนินการจัดเลือกตั้ง ส.ส. เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เป็นเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วประจำสำนักงาน กกต. พร้อมที่จะปฏิบัติงานตรวจสอบและติดตามให้ได้ข้อเท็จจริง เมื่อได้รับแจ้งเหตุหรือเบาแส หากมีการกระทำผิดเกิดขึ้น และประสานงาน สนับสนุนการปฏิบัติงานของชุดข่าว ชุดป้องปราม และศูนย์อำนวยการการป้องปรามและหาข่าว กกต.น่าน ซึ่งไม่มีรายงานการกระทำผิดการเลือกตั้งแต่อย่างใด



พวงพยอม  คำมุง / ข่าว

แจ้งปิดการจราจรทางหลวง หมายเลข ๑๐๑ บริเวณอำเภอทุ่งช้างเป็นการชั่วคราว

แขวงการทางน่าน แจ้งการปิดช่องจราจรชั่วคราว เส้นทางหลวงหมายเลข ๑๐๑ ที่ กม.๔๕๖+๗๗๔ และที่ กม.๔๕๘+๕๒๑ บริเวณอำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน ตั้งแต่วันที่ ๕ กุมภาพันธ์ – ๓๐ เมษายน ๒๕๕๗ เพื่อทุบรื้อสะพานและก่อสร้างสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กและคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรง

นายประชาญ มะลิทอง รักษาการผู้อำนวยการแขวงการทางน่านที่ ๒ แจ้งว่า ด้วยแขวงการทางน่านที่ ๒ ได้รับแจ้งจากศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ ๑ (พิจิตร) จะเข้าดำเนินการก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กและคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรง ในทางหลวงหมายเลข ๑๐๑ ที่ กม.๔๕๖+๗๗๔ และที่ กม.๔๕๘+๕๒๑ บริเวณอำเภอทุ่งช้าง (เดิมเป็นทางหลวงหมายเลข ๑๐๘๐ ตอนท่าวังผา – ทุ่งช้าง ที่ กม. ๘๙+๑๓๑ และที่ กม.๙๐+๘๔๘) ซึ่งในการก่อสร้างจะต้องทำการทุบสะพานคอนกรีตเดิมออกและทำการก่อสร้างใหม่ ในช่วงระหว่างวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ – ๓๐ เมษายน ๒๕๕๗ จะทำการทุบรื้อสะพานบางส่วนออก แต่ยังคงเหลือความกว้างผิวจราจร ประมาณ ๕.๐๐ เมตร

ดังนั้น จึงขอแจ้งให้กับประชาชนผู้ใช้ถนนเส้นทางสายอำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน ได้หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางหลวง หมายเลข ๑๐๑ ที่ กม.๔๕๖+๗๗๔ และที่ กม.๔๕๘+๕๒๑ บริเวณอำเภอทุ่งช้าง และ/หรือใช้เส้นทางสายดังกล่าวด้วยความระมัดระวังด้วย



รดา บุญยะกาญจน์ /ข่าว

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ที่โรงเรียนสา ตำบลกลางเวียง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเยี่ยมหน่วยแพทย์ อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเยี่ยมราษฎรที่เฝ้ารับเสด็จ พร้อมพระราชทานของเล่นแก่เด็กเล็กบ้านหนองนก ณ โรงเรียนสา ตำบลกลางเวียง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ที่โรงเรียนสา ตำบลกลางเวียง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่านสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี องค์ประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) เสด็จเยี่ยมหน่วยแพทย์ พอ.สว. หน่วยสัตวแพทย์พระราชทาน หน่วยแพทย์พระราชทาน และพระราชทานของที่ระลึกแก่กรรมการ อนุกรรมการและอาสาสมัคร พอ.สว. ประจำจังหวัดน่าน พระราชทานเครื่องแบบนักเรียนแก่ผู้แทนนักเรียน พระราชทานของเด็กเล่นและเสื้อแก่ผู้แทนนักเรียนอนุบาล พระราชทานหนังสือธรรมะและของที่ระลึกแก่ผู้ใหญ่บ้านและครู พระราชทานเครื่องนุ่งห่มและยาตำราหลวงแก่ผู้สูงอายุ และเสด็จเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้ารับเสด็จ โดยมี นายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ประธานกรรมการ พอ.สว.ประจำจังหวัดน่าน ผู้พิพากษา หัวหน้าศาล ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกน่าน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน เฝ้ารับเสด็จ

จากนั้น นายแพทย์ปิยะ ศิริลักษณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน ได้กล่าวรายงานสรุปผลการปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดน่าน ในการออกปฏิบัติงานในครั้งนี้ ประกอบด้วย แพทย์ ทันตแพทย์/ ทันตาภิบาล/ ผู้ช่วยทันตแพทย์ เภสัชกร/ผู้ช่วยเภสัชกร พยาบาล อาสาสมัคร พอ.สว.อื่นๆ แพทย์แผนไทย สัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ร่วมกับสำนักงานปศุสตว์จังหวัด รวมผู้ออกปฏิบัติงานจำนวน 112 คน มีผู้มารับบริการตรวจรักษาในหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ รวมทั้งหมด 238 คน ประกอบด้วย ตรวจรักษาโรคทั่วไป 65 คน ผู้รับบริการทันตกรรม 53 คน ผู้รับบริการแพทย์แผนไทย 120 คน ส่งผู้ป่วยรักษาต่อ จำนวน 5 คน ผู้รับคำร้องขอความช่วยเหลือสงเคราะห์ครอบครัว จำนวน 4 คน ผู้ป่วยที่นำเข้าเฝ้าถวายรายงาน จำนวน 3 คน และมีจำนวนเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่มาขอรับบริการและให้คำปรึกษา จำนวน 111 คน

ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงให้สมาชิก พอ.สว.จังหวัดน่าน เข้าเฝ้าร่วมร้องเพลง ณ น่าน และเพลงดุจบิดามารดร และพระราชทานโอวาทเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน พร้อมมีพระดำรัสถึงหน้าที่ของคนไทย และฉายพระรูปร่วมกับอาสาสมัคร พอ.สว.



รดา บุญยะกาญจน์ /ข่าว

สรุปผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งจังหวัดพะเยาอย่างไม่เป็นทางการ มีผู้มาใช้สิทธิ์ทั้งหมด 244,875 คน คิดเป็น 62.12 % โดยพบบัตรเสีย 37,735 บัตร หรือคิดเป็น 15.41%

ตามที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อในวันที่ 2 ก.พ.57 จังหวัดพะเยามีเขตเลือกตั้งทั้งหมด 3 เขตเลือกตั้ง มีผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 6 คน จาก 4 พรรคการเมือง ซึ่งทาง กกต.จังหวัดพะเยาได้จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไปเมื่อวานนี้ (2 ก.พ.57) โดยภาพรวมทั้ง 3 เขตบรรยากาศการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีการขัดขวางหรือผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งแต่อย่างใด สำหรับยอดผู้มาใช้สิทธิ์อย่างไม่เป็นทางการดังนี้

เขตเลือกตั้งที่ 1 มีอยู่ 2 อำเภอ คืออำเภอเมืองมีผู้มาใช้สิทธิ 64,088 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง106,564 คน คิดเป็น 60.14% และอำเภอแม่ใจมีผู้มาใช้สิทธิ 19,008 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 28,604 คน คิดเป็น 66.45% รวมทั้ง 2 อำเภอมีผู้มาใช้สิทธิ 83,096 จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 135,168 คน หรือคิดเป็น 61.48%
ในส่วนของเขตเลือกตั้งที่ 2 มีทั้งหมด 3 อำเภอ คืออำเภอเชียงคำมีผู้มาใช้สิทธิ 36,578 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 60,504 คน คิดเป็น 60.46% , อำเภอจุนมีผู้มาใช้สิทธิ 25,151 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 40,299 คน คิดเป็น 62.41% , และอำเภอภูซางมีผู้มาใช้สิทธิ 16,629 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 25,437 คน คิดเป็น 65.38%รวมทั้ง 3 อำเภอมีผู้มาใช้สิทธิ 78,441 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 126,235 คน หรือคิดเป็น 62.14%
และเขตเลือกตั้งที่ 3 มีทั้งหมด 4 อำเภอ คืออำเภอดอกคำใต้มีผู้มาใช้สิทธิ 37,025 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 58,074 คน คิดเป็น 63.75% , อำเภอภูกามยาวมีผู้มาใช้สิทธิ 11,351 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 17,855 คน คิดเป็น 63.57% , อำเภอปงมีผู้มาใช้สิทธิ 25,074 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 40,887 คน คิดเป็น 61.33% , และอำเภอเชียงม่วนมีผู้มาใช้สิทธิ 9,888 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 15,819 คน คิดเป็น 62.51% รวมทั้ง 4 อำเภอมีผู้มาใช้สิทธิ 83,338 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 132,635 คน หรือคิดเป็น 62.83%
สำหรับจังหวัดพะเยามีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 394,038 คน ออกมาใช้สิทธิจำนวน 244,875 คน คิดเป็น 62.15% โดยมีบัตรดี จำนวน 151, 254 บัตรคิดเป็น 61.76% บัตรเสียจำนวน 37,735 บัตร คิดเป็น 15.41%ส่วนบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนมีจำนวน 52,154 บัตร คิดเป็น 21.30%

อย่างไรก็ตามในส่วนของการนับผลคะแนนการเลือกตั้งนั้น ทางสำนักคณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีหนังสือสั่งการมาว่า ต้องรอผลคะแนนของการเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดในบางพื้นที่ ที่ยังไม่ได้มีการเลือกตั้งและจะจัดให้มีการเลือกตั้งอีกครั้งในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 จึงจำเป็นที่จะต้องรอผลคะแนนทั้งหมดให้เรียบร้อยและสามารถจะประกาศผลคะแนนได้



ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

ผลการเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จ.พะเยา อย่างไม่เป็นทางการ มีผู้มาใช้สิทธิ์ทั้งหมด 244,875 คน คิดเป็นร้อยละ 62.12 โดยพบบัตรเสีย 37,735 บัตร หรือคิดเป็นร้อยละ 15.41


วันนี้ (3 ก.พ.57) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อในวันที่ 2 ก.พ.57 จังหวัดพะเยา มีเขตเลือกตั้งทั้งหมด 3 เขตเลือกตั้ง มีผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 6 คน จาก 4 พรรคการเมือง ซึ่งทาง กกต.จังหวัดพะเยาได้จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไปเมื่อวานนี้ (2 ก.พ.57) โดยภาพรวมทั้ง 3 เขตบรรยากาศการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีการขัดขวางหรือผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งแต่อย่างใด สำหรับยอดผู้มาใช้สิทธิ์อย่างไม่เป็นทางการดังนี้

เขตเลือกตั้งที่ 1 มีอยู่ 2 อำเภอ คืออำเภอเมืองมีผู้มาใช้สิทธิ 64,088 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง106,564 คน คิดเป็น 60.14% และอำเภอแม่ใจมีผู้มาใช้สิทธิ 19,008 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 28,604 คน คิดเป็น 66.45% รวมทั้ง 2 อำเภอมีผู้มาใช้สิทธิ 83,096 จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 135,168 คน หรือคิดเป็น 61.48%
เขตเลือกตั้งที่ 2 มีทั้งหมด 3 อำเภอ คืออำเภอเชียงคำมีผู้มาใช้สิทธิ 36,578 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 60,504 คน คิดเป็น 60.46% , อำเภอจุนมีผู้มาใช้สิทธิ 25,151 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 40,299 คน คิดเป็น 62.41% , และอำเภอภูซางมีผู้มาใช้สิทธิ 16,629 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 25,437 คน คิดเป็น 65.38%รวมทั้ง 3 อำเภอมีผู้มาใช้สิทธิ 78,441 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 126,235 คน หรือคิดเป็น 62.14%
และเขตเลือกตั้งที่ 3 มีทั้งหมด 4 อำเภอ คืออำเภอดอกคำใต้มีผู้มาใช้สิทธิ 37,025 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 58,074 คน คิดเป็น 63.75% , อำเภอภูกามยาวมีผู้มาใช้สิทธิ 11,351 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 17,855 คน คิดเป็น 63.57% , อำเภอปงมีผู้มาใช้สิทธิ 25,074 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 40,887 คน คิดเป็น 61.33% , และอำเภอเชียงม่วนมีผู้มาใช้สิทธิ 9,888 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 15,819 คน คิดเป็น 62.51% รวมทั้ง 4 อำเภอมีผู้มาใช้สิทธิ 83,338 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 132,635 คน หรือคิดเป็น 62.83%
สำหรับจังหวัดพะเยามีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 394,038 คน ออกมาใช้สิทธิจำนวน 244,875 คน คิดเป็น 62.15% โดยมีบัตรดี จำนวน 151, 254 บัตรคิดเป็น 61.76% บัตรเสียจำนวน 37,735 บัตร คิดเป็น 15.41%ส่วนบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนมีจำนวน 52,154 บัตร คิดเป็น 21.30%
ส่วนของการนับผลคะแนนการเลือกตั้งนั้น ทางสำนักคณะกรรมการการเลือกตั้งระบุว่า ต้องรอผลคะแนนของการเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดในบางพื้นที่ ที่ยังไม่ได้มีการเลือกตั้งและจะจัดให้มีการเลือกตั้งอีกครั้งในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 จึงจำเป็นที่จะต้องรอผลคะแนนทั้งหมดให้เรียบร้อยและสามารถจะประกาศผลคะแนนได้


ข่าวโดย : ทีมข่าว ส.ปชส.พะเยา

ผอ.กกต.พะเยา ขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย และผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ออกไปใช้สิทธิกัน


ผอ.กกต.พะเยา ขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย พร้อมเตือนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้ ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 จะต้องแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ภายใน 7 วันนับแต่วันเลือกตั้ง

นางสาวพัชรินทร์ รัตนวิภา ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยา กล่าวผ่านรายการเกาะติดเลือกตั้งทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดพะเยา ว่า ขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งที่เกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง ผู้อำนวยความสะดวก รวมถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ออกไปใช้สิทธิกันถือว่าเป็นที่น่าพอใจ แม้บางหน่วยเลือกตั้งจะมีผู้มาใช้สิทธิน้อยกว่าครั้งที่ผ่านมา แต่ก็มีบางหน่วยที่มีผู้มาใช้สิทธิกันค่อนข้างคึกคัก เช่น ที่เลือกตั้งวัดป่าหนองหวี และที่หน่วยเลือกตั้งมหาวิทยาลัยพะเยา โดยภาพรวมแล้วการเลือกครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งแต่อย่างใด
ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยา กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่สามารถมาใช้สิทธิ์ได้ ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 จะต้องแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น ภายใน 7 วันนับแต่วันเลือกตั้ง คือต้องแจ้งภายในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อรักษาสิทธิ์ โดยการแจ้งเหตุให้ทำเป็นหนังสือซึ่งต้องระบุหมายเลขประจำตัวประชาชนและที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้าน โดยการยื่นหนังสือทำได้ 3 วิธี คือ ยื่นด้วยตนเอง หรือทำเป็นหนังสือมอบหมายผู้อื่น หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หากประชาชนมีข้อสงสัยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยา โทร. 054 – 449517 - 8ในวันและเวลาราชการ



ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเยี่ยมหน่วยแพทย์ พอ.สว. ณ อ.เชียวงม่วน จ.พะเยา

วันนี้ (3 ก.พ.57) เวลา 14.00 น. สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งที่กองทัพเรือจัดถวาย เสด็จไปยังโรงเรียนเชียงม่วนวิทยาคม ต.บ้านมาง อ.เชียงม่วน จ.พะเยา ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือหน่วยแพทย์ พอ.สว.จังหวัดพะเยา โดยมีนายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ข้าราชการ และประชาชนเฝ้ารับเสด็จ

จังหวัดพะเยา เป็นหน่วยแพทย์อาสาลำดับที่ 47 ปัจจุบันมีแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาลวิชาชีพ และอาสาสมัครรวมทั้งสิ้นจำนวน 1,484 คน ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ฯบริการประชาชนเมื่อปี พ.ศ. 2556 กว่า 1,800 ราย บ้านมาง มีประชาชน 1,961 คน 893 หลังคาเรือน ประกอบอาชีพเกษตรกรรม อยู่ใกล้โรงพยาบาลเชียงม่วน การเสด็จเยี่ยมครั้งนี้ โปรดให้หน่วยแพทย์ พอ.สว. และหน่วยแพทย์พระราชทาน สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ตรวจรักษาโรคทั่วไป และทันตกรรม ในการนี้ ทรงเยี่ยมผู้ป่วยนำเฝ้าเพื่อขอรับพระราชทานความช่วยเหลือเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม จำนวน 4 ราย
นอกจากนี้ยังโปรดให้หน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ไปให้บริการตรวจรักษา คำปรึกษาด้านสุขภาพของสัตว์ มีประชาชนนำสัตว์มาขอรับคำแนะนำ 793 คน จากนั้นพระราชทานวโรกาสให้สมาชิก พอ.สว.จังหวัดพะเยาเฝ้า และพระราชทานพระราชดำรัชเป็นขวัญและกำลังใจแก่สมาชิก พอ.สว ก่อนเสด็จกลับโดยเฮลิคแอปเตอร์พระที่นั่งที่กองทัพเรือจัดถวาย



ข่าวโดย : ทีมข่าว ส.ปชส.พะเยา

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์มอบสิ่งของพระราชทาน และ เปิดป้าย"น้ำดื่มดอยสิงห์" เพื่อสนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ให้นักเรียน มีน้ำดื่มสะอาดอุปโภค บริโภค

เช้าวันนี้ 3 ก.พ. 57  เวลา 11.00 น. มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มอบหมายให้ นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัด เป็นประธานในพิธีมอบสิ่งของพระราชทาน สมุด ดินสอ แก่นักเรียนโรงเรียนสังวาลย์วิทยา จำนวน 538 ชุดและโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 อ.แม่ลาน้อย จำนวน 818 ชุด เพื่อเด็กนักเรียนจะได้นำไปใช้ประโยชน์ในด้านการศึกษา

จากนั้นนายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมคณะครู นักเรียน ส่วนราชการร่วมกันเปิดป้าย”น้ำดื่มดอยสิงห์” ซึ่งเป็นน้ำดื่มของโรงเรียนสังวาลวิทยา ได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้าง ประมาณ 1 ล้าน 8 แสนบาท จากกรมทรัพยากรน้ำ-บาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และได้รับ อ.ย. เมื่อกลางปี 2556 โดยจดทะเบียนการค้าชื่อว่า น้ำดื่มดอยสิงห์ ผลิตน้ำดื่มทั้งขวดใสและขวดขุ่น กำลังการผลิตขนาด 1 ลิตรวันละ 2 พันขวด ใช้ภาชนะบรรจุ 3 ขนาด คือ ขนาด 1,000 มล. 800 มล. และ 300 มล. ใช้บริโภคภายในโรงเรียน และแจกจ่ายให้กับโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร รวมทั้งบริการสังคม เช่นสนับสนุนงานบุญของวัดใกล้เคียง และในอนาคตจะมอบหมายให้นักเรียนดำเนินการในรูปสหกรณ์ เพื่อฝึกให้เด็กนักเรียนมีความรับผิดชอบและมีรายได้ระหว่างเรียน ทั้งนี้ เพื่อสนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเพื่อให้นักเรียน และบุคลากรของโรงเรียนมีน้ำดื่มสะอาดสำหรับอุปโภค บริโภคเพื่อจัดจำหน่ายในระบบสหกรณ์ของโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนมีรายได้ระหว่างเรียน

นายเกษม กันทาหอม ผู้อำนวยการโรงเรียนสังวาลวิทยา เปิดเผยว่า โรงเรียนสังวาลย์วิทยา เป็นโรงเรียนในพระราชดำริ ของสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี จัดตั้งขึ้นเพื่อให้โอกาสทางการศึกษา แก่เด็กด้อยโอกาสทางการศึกษา ในถิ่นทุรกันดาร จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนทั้งหมด 538 คน มีห้องเรียนทั้งหมด 25 ห้องเรียน มีนักเรียนพักนอน จำนวน 263 ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานสนับสนุนการเรียนการสอนของโรงเรียน รวมทั้งพระราชทานการสงเคราะห์แก่นักเรียนโดยมูลนิธิราชประชานุเคราะห์มาโดย ตลอด นอกจากนี้ยังทรงพระราชทานสิ่งของให้แก่นักเรียนเป็นประจำทุกปี โดยคณะครู อาจารย์ และนักเรียนทุกคนรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น.


ข่าวโดย : นวรัตน์ ศรีแก้วเลิศ

กกต.แม่ฮ่องสอน แจ้งผู้มีสิทธิเลือกตั้ง กรณีไม่สามารถไปใช้สิทธิได้

กกต.แม่ฮ่องสอน แจ้งผู้มีสิทธิเลือกตั้ง กรณีไม่สามารถไปใช้สิทธิได้ เนื่องจากมีธุระจำเป็นหรือเหตุสุดวิสัยอื่น ต้องไปแจ้งเหตุที่ทำให้ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ ภายใน 7 วันนับแต่วันเลือกตั้ง

นายพันธุ์รัตน์ แก้ววิเชียร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า กรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไม่สามารถไปใช้สิทธิ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เพราะติดธุระจำเป็นหรือมีเหตุสุดวิสัยอื่นใด ต้องไปแจ้งเหตุที่ทำให้ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ ภายใน 7 วันนับแต่วันเลือกตั้ง เพื่อจะไม่ให้เสียสิทธิ การแจ้งเหตุที่ทำให้ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ มีกรณีดังต่อไปนี้ มีกิจธุระจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเดินทางไปพื้นที่ห่างไกล เจ็บป่วย พิการ สูงอายุ ไม่สามารถไปใช้สิทธิได้ เดินทางออกนอกราชอาณาจักร มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลจากที่เลือกตั้งเกินกว่า 100 กม. หรือมีเหตุสุดวิสัยอื่นที่ กกต.กำหนด
ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า กรณีไม่ไปเลือกตั้ง และไม่ไปแจ้งเหตุ จะทำให้เสียสิทธิ 3 ประการ คือ เสียสิทธิการยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. เสียสิทธิการรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น และเสียสิทธิได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. และเสียสิทธิการสมัครรับเลือกเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยสิทธิทั้ง 3 ประการ จะได้กลับคืนมาเมื่อไปใช้สิทธิการเลือกตั้งอย่างใดอย่างหนึ่ง ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งระดับชาติหรือท้องถิ่น
สำหรับวิธีการแจ้งเหตุไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยกรอกแบบฟอร์มหนังสือแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ หรือใบ ส.ส.28 ระบุหมายเลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้าน แนบหลักฐานเหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอ นายทะเบียนท้องถิ่นที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน โดย ยื่นด้วยตนเอง หรือมอบหมายบุคคลอื่นไปยื่นแทน หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน


ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน

สำนักงานการค้าภายใน จ.แม่ฮ่องสอน เตรียมจัดงานธงฟ้าที่ อำเภอปาย

นางนัยนภัส สังขนุกิจ การค้าภายใน จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่าสำนักงานการค้าภายใน จ.แม่ฮ่องสอน เตรียมจัดงานธงฟ้า ราคาประหยัด ลดค่าครองชีพประชาชน ครั้งที่ 7 /2557 ระหว่างวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ 2557 ที่บริเวณข้างโรงแรมดิอาร์ท ออฟปาย อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นการช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยจะมีพ่อค้า แม่ค้า กว่า 40 ร้านค้า มาจำหน่ายสินค้า มีทั้งของใช้ประจำวัน อุปโภค บริโภค เช่น ไข่ไก่ ฟองละ 2.50 บาท น้ำมันพืชขวดละ 30 บาท น้ำตาลทรายกิโลกรัมละ 18 บาท นอกจากนั้นมีการจำหน่ายสินค้าจากชายแดนภาคใต้เช่น ไข่มุกอันดามัน ชาชักจากจังหวัดสตูล และอื่นๆอีกมากมาย

จึงขอเชิญชวนประชาชนเลือกซื้อสินค้าราคาประหยัด ได้ในวันดังกล่าว



ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว

สรุปผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดแม่ฮ่องสอน อย่างไม่เป็นทางการ มีผู้มาใช้สิทธิ์ร้อยละ 64

กกต.จังหวัดแม่ฮ่องสอนจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บรรยากาศการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สรุปผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ดังนี้ ผู้มีมีคะแนนสูงสุด ได้แก่ หมายเลข 1 นายปัญญา จีนาคำ พรรคชาติพัฒนา ได้คะแนน 36,208 คะแนน รองลงมาคือหมายเลข 15 นายวุฒิ ริยะนา พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 21,918 คะแนน
จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 160,192 คน มาใช้สิทธิ์จำนวน102,380 คน คิดเป็นร้อยละ 64 บัตรเสีย 20,026 บัตรคิดเป็นร้อย 19.56 ไม่ประสงค์ลงคะแนนจำนวน 18,751 บัตร คิดเป็นร้อยละ 18.31

สำหรับ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มีคะแนนนำเป็นอันดับหนึ่ง ได้ 26,739 คะแนน ตามด้วยพรรคชาติพัฒนา ได้ 24,075 คะแนน


ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ฯ มอบสิ่งของพระราชทานแก่นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 อ.แม่ลาน้อย และโรงเรียนสังวาลย์วิทยา อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

เช้าวันนี้ ( 3 ก.พ. 57 ) เวลา 10.00 น. มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มอบหมายให้ นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัด เป็นประธานในพิธีมอบสิ่งของพระราชทาน ชุดนักเรียน สมุด ดินสอ แก่นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 อ.แม่ลาน้อย จำนวน 818 ชุด จำนวน 538 ชุด เพื่อเด็กนักเรียนจะได้นำไปใช้ประโยชน์ในด้านการศึกษา โดยโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 อ.แม่ลาน้อย เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2535 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างสำหรับเด็กที่ด้อยโอกาสชาวไทยภูเขา โดยจัดการเรียนการสอนแบบสหศึกษาตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มุ่งเน้นการประกอบอาชีพการเกษตร เลี้ยงสัตว์ เพื่อให้เลี้ยงตนเองได้ ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งสิ้น 818 คน

จากนั้นนายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เดินทางไปยังโรงเรียนสังวาลย์วิทยา อ.แม่สะเรียง เป็นประธานในพิธีมอบสิ่งของพระราชทาน ชุดนักเรียน สมุด ดินสอ แก่นักเรียน จำนวน 538 ชุด โดยมีพิธีเปิดป้าย”น้ำดื่มดอยสิงห์” ซึ่งเป็นน้ำดื่มของโรงเรียนสังวาลย์วิทยา ได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้าง ประมาณ 1 ล้าน 8 แสนบาท จากกรมทรัพยากรน้ำ-บาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และได้รับ อ.ย. เมื่อกลางปี 2556 โดยจดทะเบียนการค้าชื่อว่า น้ำดื่มดอยสิงห์ ผลิตน้ำดื่มทั้งขวดใสและขวดขุ่น กำลังการผลิตขนาด 1 ลิตรวันละ 2 พันขวด ใช้ภาชนะบรรจุ 3 ขนาด คือ ขนาด 1,000 มล. 800 มล. และ 300 มล. ใช้บริโภคภายในโรงเรียน และแจกจ่ายให้กับโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร รวมทั้งบริการสังคม เช่นสนับสนุนงานบุญของวัดใกล้เคียง และในอนาคตจะมอบหมายให้นักเรียนดำเนินการในรูปสหกรณ์ เพื่อฝึกให้เด็กนักเรียนมีความรับผิดชอบและมีรายได้ระหว่างเรียน ทั้งนี้ เพื่อสนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเพื่อให้นักเรียน และบุคลากรของโรงเรียนมีน้ำดื่มสะอาดสำหรับอุปโภค บริโภคเพื่อจัดจำหน่ายในระบบสหกรณ์ของโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนมีรายได้ระหว่างเรียน

โรงเรียนสังวาลย์วิทยา เป็นโรงเรียนในพระราชดำริ ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จัดตั้งขึ้นเพื่อให้โอกาสทางการศึกษา แก่เด็กด้อยโอกาสทางการศึกษา ในถิ่นทุรกันดาร จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนทั้งหมด 538 คน ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานสนับสนุนการเรียนการสอนของโรงเรียน รวมทั้งพระราชทานการสงเคราะห์แก่นักเรียนโดยมูลนิธิราชประชานุเคราะห์มาโดยตลอด นอกจากนี้ยังทรงพระราชทานสิ่งของให้แก่นักเรียนเป็นประจำทุกปี โดยคณะครู อาจารย์ และนักเรียนทุกคนรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น.


ข่าวโดย : พักตร์ภูมิ ปัญญาไชยพัฒน์

สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอนจัดประชุมเตรียมเฝ้ารับเสด็จ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี องค์ประธานมูลนิธิ พอ.สว. จะเสด็จเยี่ยมหน่วยแพทย์ พอ.สว. และราษฎร จังหวัดแม่ฮ่องสอน

บ่ายวันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2557 ) นายสุรพล พนัสอำพน ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นประธาน ประชุมคณะกรรมการและอนุกรรมการ พอ.สว.ประจำจังหวัด แม่ฮ่องสอน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการรับเสด็จ สมเด็จพระเจ้า ลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬากรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี องค์ประธาน มูลนิธิ พอ.สว. ที่จะเสด็จเยี่ยม หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชกุมารี หรือ พอ.สว. และราษฎร ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557 ณ โรงเรียน แม่สะเรียงบริพัตรศึกษา อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมทั้งพระราชทาน ของที่ระลึก แก่ผู้ทูลเกล้าฯ ถวายเงิน กรรมการ อนุกรรมการ และอาสาสมัคร พอ.สว.ประจำ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งได้มีการเตรียม ความพร้อมด้านสถานที่ รวมถึงการซักซ้อมปฎิบัติรับเสด็จฯ ตามภารกิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้มีผู้แจ้งความจำนง ทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ขึ้นไป แล้วจำนวน 33 คน หากประชาชน ประสงค์จะทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินเพื่อใช้จ่าย ในงานมูลนิธิ พอ.สว. สามารถแจ้งได้ที่สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้บริจาคเงินตั้งแต่ 10,000 บาท จะได้รับ พระราชทานเหรียญทอง 1 เหรียญ จากพระหัตถ์สมเด็จพระเจ้า ลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี,พร้อมใบ อนุโมทนาบัตร และใบเสร็จรับเงิน ส่วนผู้บริจาคตั้งแต่ 1,000 -9,999 บาท ได้รับพระราชทานเหรียญเงิน 1 เหรียญ จากผู้แทน มูลนิธิ พอ.สว.ใบอนุโมทนาบัตร และใบเสร็จรับเงิน ส่วนประชาชนสามารถมาเฝ้ารับเสด็จได้ที่โรงเรียนแม่สะเรียงบริพัตรศึกษา อำเภอแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน


ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบเครื่องแบบนักเรียน ให้นักเรียนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน

เช้าวันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2557)  นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะประธานกรรมการ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน และคณะ นำเครื่องแบบนักเรียนพระราชทาน มอบให้ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 อำเภอแม่ลาน้อย จำนวน 818 ชุด โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 อำเภอแม่ลาน้อย มีนักเรียนจำนวน 818 คน จากนั้นเดินทางไปมอบสิ่งของพระราชทาน สมุด ดินสอ แก่นักเรียนโรงเรียนสังวาลย์วิทยา อำเภอแม่สะเรียง จำนวน 538 ชุด
พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนและคณะครู นักเรียน ร่วมกันเปิดป้าย”น้ำดื่มดอยสิงห์” ซึ่งเป็นน้ำดื่มที่โรงเรียนสังวาลวิทยาผลิตขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณ ประมาณ 1 ล้าน 8 แสนบาท จากกรมทรัพยากรน้ำ-บาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และได้รับ อ.ย. เมื่อกลางปี 2556 โดยจดทะเบียนการค้าชื่อว่า น้ำดื่มดอยสิงห์ ผลิตน้ำดื่มทั้งขวดใสและขวดขุ่น กำลังการผลิตขนาด 1 ลิตรวันละ 2 พันขวด ใช้ภาชนะบรรจุ 3 ขนาด คือ ขนาด 1,000 มิลลิลิตร 800 มิลลิลิตร และ 300 มิลลิลิตร ใช้บริโภคภายในโรงเรียน และแจกจ่ายให้กับโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร รวมทั้งบริการสังคม เช่นสนับสนุนงานบุญของวัดใกล้เคียง และในอนาคตจะมอบหมายให้นักเรียนดำเนินการในรูปสหกรณ์ เพื่อฝึกให้เด็กนักเรียนมีความรับผิดชอบและมีรายได้ระหว่างเรียน
และ ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะนำเครื่องแบบนักเรียน มอบให้นักเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 22 /โรงเรียนสังวาลวิทย์ 3 อำเภอปายและโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 34 อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน



ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.แม่ฮ่องสอน

จังหวัดแพร่ จัดฝึกอบรมพัฒนากลุ่มเกษตรกรการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพไม่กลับกอง

จังหวัดแพร่จัดฝึกอบรมพัฒนากลุ่มเกษตรกรการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพไม่กลับกอง จากซังข้าวโพด เพื่อลดการเผาไหม้และนำมาใช้ประโยชน์ในการบำรุงดินและลดต้นทุนการผลิต

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า ซังข้าวโพดซึ่งเป็นเศษเหลือใช้จากการเก็บเกี่ยวและสีข้าวโพด ในแต่ละมีจะมีปริมาณเป็นจำนวนมาก ถูกทิ้งไว้นอกจากไม่เกิดประโยชน์แล้ว ยังถูกเผาทำลายสร้างมลภาวะทางอากาศอีกด้วย เพื่อให้ซังข้าวโพดที่เหลือใช้ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่จึงร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่เฉลิมพระเกียรติ จัดโครงการฝึกอบรมพัฒนากลุ่มเกษตรกรการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพให้แก่ประชาชนทั่วไปในจังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพแบบไม่กลับกอง เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจในการฟื้นฟูระบบนิเวศน์วิทยาความหลากหลายทางชีวภาพ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  และการปรับปรุงบำรุงดินให้เหมาะสมกับการปลูกพืชให้แก่เกษตรกร ให้เกษตรกรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี และเกิดการนำเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงได้อย่างถูกต้อง
และที่บริเวณลานสีข้าวโพดบ้านป่าแดงใต้ หมู่ 3 ตำบลห้วยหม้าย อำเภอสอง จังหวัดแพร่ เช้าวันนี้(3ก.พ.57) นายศักดิ์ชัย จ.ผลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมเกษตรกรในการจัดทำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพแบบไม่กลับกองแก่เกษตรกรจากตำบลสูงเม่น ตำบลน้ำชำ อำเภอสูงเม่น ตำบลเด่นชัย ตำบลแม่จั๊วะ อำเภอเด่นชัย ตำบลป่าแมต ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่ ตำบลห้วยหม้าย อำเภอสอง ตำบลแม่ยางฮ่อ ตำบลร้องกวาง อำเภอร้องกวาง และตำบลแม่ปาน อำเภอลอง จำนวน 80 คน เข้ารับการฝึกอบรม

การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพไม่กลับกอง จะนำเศษวัสดุเหลือใช้เช่นซังข้าวโพด ฟางข้าว ผักตบชวา ผักสดต่างๆ เศษใบไม้แห้งใบไม้สด ผสมกับมูลสัตว์เช่นมูลวัว มูลควาย มูลไก่ มูลสุกร นำมาผสมในอัตราส่วนเศษพืช 3 ส่วน มูลสัตว์ 1 ส่วน คลุกเคล้ากันให้ทั่วถึง รดน้ำให้มีความชุ่มชื้น ขึ้นรูปเป็นกองสูงประมาณ 1.5 เมตร ยาวแล้วแต่มีปริมารมากน้อย ทิ้งไว้ 30 วัน แต่ต้องรดน้ำทุกเช้า สร้างความชื้นให้แก่กองปุ๋ย ใช้ไม้แทง หรือใส่ท่อเติมน้ำให้น้ำสามารถไหลเข้าไปในกองเพื่อให้เกิดการย่อยสลาย เราก็จะมีปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพไว้ใช้ ทำให้ลดต้นทุนการผลิตได้อีกทางหนึ่ง



ฉัตรชัย พวงขจร /ข่าว /พิมพ์

กกต.แพร่ สรุปจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแพร่สรุปจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ มีผู้ใช้สิทธิร้อยละ  62.52 น้อยกว่าการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ผ่านมาเมือปี 2554 ต้องรอจัดการเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่ไม่สามารถทำการเลือกตั้งเสร็จก่อนจึงจะประกาศผลคะแนนอย่างเป็นทางการ

นายวัฒนา ช่วยพยุง ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแพร่แจ้งว่า  ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแพร่ได้ทำการสรุปผลจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 อย่างไม่เป็นทางการ โดยจังหวัดแพร่มีผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง 233,114 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 372,858 คน คิดเป็นร้อยละ 62.52 ซึ่งน้อยกว่าการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2554 ที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิสูงถึงร้อยละ 80.06 ติดอันดับต้นๆ ของประเทศ
โดยจังหวัดแพร่มี 3 เขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 มีผู้มาใช้สิทธิ 81,432 คน จากผู้มีสิทธิทั้งหมด 125,963 คน คิดเป็นร้อยละ 64.45  เขตเลือกตั้งที่ 2 มีผู้มาใช้สิทธิ 76,651 คน จากผู้มีสิทธิทั้งหมด 122,298 คน คิดเป็นร้อยละ 62.67 และเขตเลือกตั้งที่ 3 มีผู้มาใช้สิทธิ 75,031 คน จากผู้มีสิทธิทั้งหมด 124,597 คน คิดเป็นร้อยละ 60.22

แต่เนื่องจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งของจังหวัดแพร่ที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด ไม่สามารถไปใช้สิทธิได้ทั้งในการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2556 และการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ยังต้องรอให้มีการจัดการเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่ไม่สามารถทำการเลือกตั้งได้ให้เสร็จสิ้นก่อน จึงจะสามารถนำผลการนับคะแนนมารวมกันและประกาศผลได้อย่างเป็นทางการ /.



ฉัตรชัย พวงขจร /ข่าว /พิมพ์

ภาคเอกชนจังหวัดแพร่เตรียมจัดงานมหกรรมอาหารปลอดภัย ครั้งที่ 8 ประจำปี 2557

ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารและแผงลอยจังหวัดแพร่  ขอเชิญชวนเที่ยวงานใหญ่ในเดือนแห่งความรัก  "มหกรรมอาหารปลอดภัย  จังหวัดแพร่  ครั้งที่ 8”  ประจำปี 2557  นำร้านอาหาร คาว - หวาน จากร้านที่ขึ้นชื่อในจังหวัดกว่า 70 ร้านค้า  ร่วมจำหน่ายสินค้าในงานฯ  ที่บริเวณลานเอนกประสงค์ด้านหน้าห้างมาร์คโฟร์แพร่ อำเภอเมืองแพร่ ระหว่างวันที่ 15–19 กุมภาพันธ์ 2557

นายสัมพันธ์ ปอเจริญกุล ประธานชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารและแผงลอยจังหวัดแพร่แจ้งว่า ทางชมผู้ประกอบการร้านอาหารและแผงลอยจังหวัดแพร่  ร่วมกับหอการค้าจังหวัดแพร่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  กำหนดจัดงานมหกรรมอาหารปลอดภัย  จังหวัดแพร่  ครั้งที่ 8  ประจำปี  2557  ในระหว่างวันที่  15 – 19  กุมภาพันธ์  2557  ณ  บริเวณลานเอนกประสงค์ด้านหน้าห้างมาร์คโฟร์แพร่  อ.เมือง  จ.แพร่  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกระแสให้สังคมรับรู้เรื่องอาหารปลอดภัย  และมีจิตสำนึกต่อการดูแลสุขภาพ  รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจ  สนับสนุนให้ผู้ประกอบการฯให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น  ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดอีกทางหนึ่งด้วย

ภายในงานจัดให้มีกิจกรรมออกร้านจำหน่ายอาหารคาว –  หวานที่สะอาด  รสชาติอร่อย  จากร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในจังหวัดแพร่ กว่า 70 ร้านค้า  และเครื่องดื่มจากกลุ่มบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด มาร่วมจำหน่ายในงานฯ มีกิจกรรมเพื่อความบันเทิงบนเวทีกลางฯททุกคืน
วันที่ 15 กุมภาพันธ์  2557 พิธีเปิดงาน วันที่  16 กุมภาพันธ์  2557  จัดการประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง รุ่นประชาชนทั่วไป "นิสสันซิงกิ้งคอนเทสต์”,  วันที่  17 กุมภาพันธ์  2557  การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง รุ่นอายุไม่เกิน  15 ปี,  วันที่  18 กุมภาพันธ์  2557 จัดการประกวดแดนเซอร์  ระดับชั้นประถมศึกษา,  วันที่  19  กุมภาพันธ์  2557  จัดการประกวดสาวประเภทสอง ลิปซิงค์  และเต้นประกอบเพลง  "นางโชว์”  ในระหว่างการประกวดมีการแสดงทางวัฒนธรรมจากเด็กและเยาวชนในจังหวัดแพร่

จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกท่าน  เที่ยวงานมหกรรมอาหารปลอดภัย  จังหวัดแพร่ ครั้งที่ 8  และร่วมชมกิจกรรมเพื่อความบันเทิง  ในระหว่าง15 – 19  กุมภาพันธ์  2557  ณ  บริเวณลานเอนกประสงค์ด้านหน้าห้างมาร์คโฟร์แพร่  อ.เมือง  จ.แพร่   สนใจจองร้านจำหน่ายอาหารฯ และสินค้าอุปโภคบริโภค  หรือสมัครเข้าร่วมประกวดต่างๆ  ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานหอการค้าจังหวัดแพร่  โทรศัพท์.  054-522830 และชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารและแผงลอยจังหวัดแพร่  โทรศัพท์.  081-4731368  (คุณหมวย)



ฉัตรชัย พวงขจร /ข่าว /พิมพ์

ผู้ว่าราชการ จ.ลำปาง ประชุมร่วมกับผู้แทนหน่วยงานทุกภาคส่วน เตรียมเดินหน้าแผนอพยพ ช่วยเหลือชาวบ้าน 5 หมู่บ้าน ที่ได้รับผลกระทบ ในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะ

นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานการประชุมร่วมกับ ผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.แม่เมาะ) หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด-อำเภอ และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งหน่วยงานด้านพลังงาน, ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, ป่าไม้, ที่ดิน โยธาธิการและผังเมือง, ชลประทาน, เกษตร และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องรวมกว่า 20 หน่วยงาน รวมทั้งตัวแทนของชาวบ้าน ในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จาก 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน ที่ ห้องประชุมอาลัมภางค์ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดลำปาง เพื่อร่วมกันพิจารณาดำเนินการจัดเตรียมแผน เดินหน้าอพยพราษฎรในพื้นที่ 5 หมู่บ้าน ออกจากพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ

ในการประชุม ได้มีการพิจารณาดำเนินการที่จะอพยพราษฎร ในพื้นที่ 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านหัวฝาย หมู่ที่ 1, บ้านดง หมู่ที่ 2, บ้านสวนป่าแม่เมาะ หมู่ที่ 7, บ้านหัวฝายหล่ายทุ่ง หมู่ที่ 8 ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ของตำบลบ้านดง และบ้านห้วยคิง หมู่ที่ 6 ที่อยู่ในเขตพื้นที่ตำบลแม่เมาะ โดยการพิจารณาได้มีการกำหนดพื้นที่แห่งใหม่ ในเขตพื้นที่ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ เนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ เพื่อจะทำการจัดสรรให้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยแก่ราษฎรทั้ง 5 หมู่บ้าน ที่ขออพยพ จำนวนทั้งสิ้น 1,458 ครัวเรือน ซึ่งทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.แม่เมาะ) ได้มีการจัดเตรียมงบประมาณสำหรับดำเนินการอพยพในครั้งนี้ไว้แล้ว รวมทั้งหมดกว่า 2,970.5 ล้านบาท นอกจากนี้ได้มีการเสนอกำหนดแนวทางการดำเนินการ ในด้านต่างๆ ประกอบด้วย การจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่าง กฟผ.แม่เมาะ กับราษฎรในพื้นที่ ที่ยืนยันไม่ต้องการอพยพออกจากพื้นที่ให้มีความชัดเจน, การสำรวจพื้นที่เพื่อประเมินที่ดินและทรัพย์สินของราษฎร และของราชการ ที่จะต้องจ่ายชดเชยในพื้นที่ที่ต้องอพยพ, วิธีการจ่ายเงินค่าชดเชย, การจัดทำผัง แผนที่ในพื้นที่ที่จะจัดสรรใหม่ให้แก่ราษฎร, การจัดสร้างสิ่งสาธารณูปโภคต่างๆ ในพื้นที่จัดสรรใหม่, การอพยพราษฎร และการฟื้นฟูส่งเสริมอาชีพแก่ราษฎรที่ต้องอพยพ เพื่อให้ราษฎรที่จะต้องเข้าอาศัยในพื้นที่จัดสรรแห่งใหม่ได้มีความมั่นคง มีอาชีพที่ยั่งยืน และได้รับคุณภาพชีวิต ที่ดีกว่าในพื้นที่เดิม
โดยในเบื้องต้นที่ประชุม ได้มีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการดำเนินงานทั้งหมด 7 ชุด โดยมีผู้แทนจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตัวแทนราษฎรในพื้นที่ขออพยพ ร่วมเป็นคณะอนุกรรมการของแต่ละชุด ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการสำรวจที่ดินและทรัพย์สิน, คณะอนุกรรมการตรวจสอบที่ดินและทรัพย์สิน, คณะอนุกรรมการจ่ายเงินค่าทดแทนที่ดินและทรัพย์สิน, คณะอนุกรรมการก่อสร้างวัด โรงเรียน สาธารณูปโภค อ่างเก็บน้ำ และระบบชลประทานในพื้นที่จัดสรร, คณะอนุกรรมการจัดราษฎรเข้าอยู่อาศัยในพื้นที่จัดสรร, คณะอนุกรรมการส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรที่อพยพในพื้นที่จัดสรร และคณะอนุกรรมการประสาน-ติดตามผลการดำเนินการอพยพราษฎร ทั้งนี้เพื่อให้คณะอนุกรรมการในแต่ละคณะฯ ได้ร่วมกันดำเนินการพิจารณากำหนดแนวทางช่วยเหลือโอนย้ายครัวเรือน หรืออพยพราษฎรในพื้นที่ที่ขออพยพทั้ง 5 หมู่บ้าน ให้เป็นไปอย่างโปร่งใส เหมาะสม สอดคล้องกับแนวทางการปกครองในระดับหมู่บ้าน และสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ราษฎร ที่ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง ซึ่งหลังจากนี้ทางคณะอนุกรรมการทั้ง 7 คณะ จะได้มีการประชุมรายงานผล ติดตามความคืบหน้าในการดำเนินงานร่วมกันเป็นประจำทุกเดือน เพื่อจะเร่งให้การช่วยเหลืออพยพราษฎรทั้ง 5 หมู่บ้าน เป็นไปโดยเร็วต่อไป

ดูคลิป http://youtu.be/EcsBh7d4KXI


ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต

อบจ.ลำปาง ร่วมสนับสนุน จัดเทศกาลดอกเสี้ยวบาน ประจำปี 2557

นางสุนี สมมี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปางเปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 22-24 กุมภาพันธ์ 2557 องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลแจ้ซ้อน จัดงานเทศกาลดอกเสี้ยวบาน บ้านป่าเหมี้ยง ประจำปี 2557 ณ บริเวณลานดอกเสี้ยวบ้านป่าเหมี้ยง ตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปางได้ให้การสนับสนุนงบประมาณจำนวน 150,000 บาท สำหรับจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องของดอกเสี้ยวโดยจะผลิตดอกในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ – มีนาคม ของทุกปี รวมทั้งวิถีชีวิตของชาวบ้านให้เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ อบจ.ลำปาง ให้การสนับสนุนงบประมาณเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เทศกาลดอกเสี้ยวบานบ้านป่าเหมี้ยงอย่างต่อเนื่องติดต่อกันมาเป็นระยะเวลาหลายปี นอกจากจะอยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว ยังเล็งเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการสืบสานวิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่น เหมาะสมต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ จึงได้ให้การสนับสนุนงบประมาณอย่างต่อเนื่องเพื่อปลุกจิตสำนึกให้ชุมชนเกิดความรัก หวงแหนทรัพยากรอันมีค่าในท้องถิ่น ตลอดจนเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม วีถีชีวิต ภูมิปัญญาชาวบ้านให้เอื้อประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม และเพื่อชาวบ้านมีรายได้จากการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

สำหรับ บ้านป่าเหมี้ยง เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนอยู่ห่างจากตัวอุทยานฯประมาณ 14 กม. บ้านป่าเหมี้ยง ชุมชน บนเขาสูง โอบล้อมด้วยป่าเหมี้ยง มีอากาศเย็นสบายตลอดปี มีลักษณะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็น ภูเขาสลับซับซ้อน สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ1,200 เมตร หมู่บ้านแห่งนี้มีจำนวนครัวเรือน ประมาณ 126 ครัวเรือนชาว บ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนเหมี้ยงแปรรูปเหมี้ยงและหาของป่าวิถีชีวิตของคนใน ชุมชนยังคงรูปแบบ ดั้งเดิมมีความเป็นเอกลักษณ์ในด้านขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมและ การละเล่นต่างๆ อาหารประจำถิ่นได้แก่ ยำใบเหมี้ยงยำดอกเสี้ยวหลามปลีไข่ป่ามสมุนไพรไส้อั่วเห็ดหอมฯลฯ องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง จึงขอเชิญชวนเที่ยวงาน เทศกาลดอกเสี้ยวบาน ในระหว่างวันที่ 22 – 24 กุมภาพันธ์ 2557 นี้ ณ ลานดอกเสี้ยวบาน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง



ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.ลำปาง

ผอ.กกต.ลำปาง แจงยังไม่มีการรวมคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.

ผอ.กกต.ลำปางแจงเหตุยังไม่มีการรวมคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. เพราะการเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดยังไม่เสร็จ การประกาศผลคะแนนออกไปอาจเป็นการชี้นำ

นายสุคนธ์ เรือนสอน ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า การจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จังหวัดลำปางเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทั้ง 1,238 หน่วยเลือกตั้ง ใน 4 เขต เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยทุกหน่วยได้ส่งผลการลงคะแนนให้กับ กกต. เรียบร้อย แต่ยังไม่สามารถรวมคะแนนได้ ทั้ง แบบบัญชีรายชื่อพรรค และแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เนื่องจากกระบวนการเลือกตั้งยังไม่แล้วเสร็จ ยังต้องรอผลการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ในพื้นที่ที่ไม่สามารถเลือกตั้งได้ในวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมาก่อน โดย กกต.จะจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 เฉพาะจังหวัดที่ไม่สามารถดำเนินการได้ หากประกาศผลการรวมคะแนนอย่างไม่เป็นทางการออกไป เกรงว่าจะมีผลในการชี้นำ และเกิดปัญหาตามมาได้
สำหรับจังหวัดลำปางการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว จึงไม่ได้จัดเลือกตั้งในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ กกต.ลำปางจึงประกาศได้เพียงจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง บัตรดี บัตรเสีย และบัตรไม่ประสงค์จะลงคะแนนเท่านั้น แม้จะมีทีมงานผู้สมัครบางพรรคการเมือง หรือบางหน่วยงานส่งคนไปรวบรวมคะแนนตามเขตเลือกตั้งพอที่จะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการแล้วก็ตาม



ข่าวโดย : อธิชัย ต้นกันยา

สรุปผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ที่จังหวัดลำปางจำนวนบัตรเสียและผู้ไม่ประสงค์จะลงคะแนนเพิ่มหลายเท่า

สรุปจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ทั้ง 4 เขต มีผู้มาใช้สิทธิ ร้อยละ 64 โดยเขต 4 เป็นเขตที่มีผู้มาใช้สิทธิมากที่สุด ต่างจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 มีผู้ใช้สิทธิถึง 80.44 เป็นอันดับ 8 ของประเทศ

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำปาง สรุปจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 25567 ทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง ซึ่งจังหวัดลำปางมีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 613,809 คน มีผู้มาใช้สิทธิ จำนวน 393,062 คน คิดเป็นร้อยละ 64.04 ของผุ้มีสิทธิทั้งหมด

เขต 1 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 148,198 คน มาใช้สิทธิ 91,652 คน คิดเป็นร้อยละ 61.84 แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง มีจำนวนบัตรดี 60,424 ใบ บัตรเสีย 11,912 ใบ และบัตรไม่ลงคะแนน 19,315 ใบ ส่วนแบบบัญชีรายชื่อ มีจำนวนบัตรดี 68,648 ใบ บัตรเสีย 5,866 ใบ และบัตรไม่ลงคะแนน 17,138 ใบ
เขต 2 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 147,223 คน มาใช้สิทธิ 94,525 คน คิดเป็นร้อยละ 64.21 แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง มีจำนวนบัตรดี 65,186 ใบ บัตรเสีย 14,542 ใบ และบัตรไม่ลงคะแนน 14,797 ใบ ส่วนแบบบัญชีรายชื่อ มีจำนวนบัตรดี 72,972 ใบ บัตรเสีย 8,633 ใบ และบัตรไม่ลงคะแนน 12,920 ใบ
เขต 3 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 158,526 คน มาใช้สิทธิ 102,959 คน คิดเป็นร้อยละ 64.95 แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง มีจำนวนบัตรดี 67,730 ใบ บัตรเสีย 12,955 ใบ และบัตรไม่ลงคะแนน 22,271 ใบ ส่วนแบบบัญชีรายชื่อ มีจำนวนบัตรดี 74,421 ใบ บัตรเสีย 8,538 ใบ และบัตรไม่ลงคะแนน 20,000 ใบ
เขต 4 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 159,862 คน มาใช้สิทธิ 103,926 คน คิดเป็นร้อยละ 65.01 แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง มีจำนวนบัตรดี 71,271 ใบ บัตรเสีย 14,906 ใบ และบัตรไม่ลงคะแนน 15,014 ใบ ส่วนแบบบัญชีรายชื่อ มีจำนวนบัตรดี 82,521 ใบ บัตรเสีย 10,221 ใบ และบัตรไม่ลงคะแนน 13,044 ใบ

สรุปผลลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. ทั้ง 4 เขต แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง มีบัตรดี ร้อยละ 67.32 บัตรเสีย ร้อยละ 13.82 และบัตรไม่ลงคะแนน ร้อยละ 18.16 แบบบัญชีรายชื่อ มีบัตรดี ร้อยละ 75.96 บัตรเสีย ร้อยละ 8.46 และบัตรไม่ลงคะแนน ร้อยละ 16.05 และเป็นที่น่าสังเกตว่า จำนวนบัตรเสียและบัตรผู้ไม่ประสงค์จะลงคะแนน ทั้งแบบบัญชีรายชื่อ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ สูงขึ้น 6 – 8 เท่า เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งในปี 2554
ในการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อปี 2554 จังหวัดลำปาง มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ทั้ง 4 เขต 486,787 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 605,156 คน คิดเป็นร้อยละ 80.44 เป็นอันดับที่ 8 ของประเทศ ผลการลงคะแนนเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง พบบัตรเสีย คิดเป็นร้อยละ 6.94 บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน คิดเป็นร้อยละ 4.14 โดยผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกตั้งทั้ง 4 เขต

ส่วนผลการลงคะแนนแบบบัญชีรายชื่อ พบบัตรเสีย ร้อยละ 7.36 บัตรไม่ประสงค์จะลงคะแนน ร้อยละ 2.28 ผลคะแนนเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยได้คะแนนสูงสุด



ข่าวโดย : ส.ปชส.ลำปาง

คณะเสือ-สิงโตทอง เข้าคาราวะและอวยพรปีใหม่ แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เนื่องในงานเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2557

นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นางอินทิรา สุภาแสน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลำปาง ภริยา ได้ร่วมกันให้การต้อนรับ คณะกรรมการบริหาร มูลนิธิเพื่อการศึกษาประชาวิทย์-มัธยมวิทยา ที่ได้นำขบวนคณะเสือ และคณะสิงโตทอง เข้าคารวะอวยพรปีใหม่ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2557 ที่ บริเวณภายในจวนผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ตำบลหัวเวียง อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง โดยมี นายนิคม เชาว์กิตติโสภณ ประธานมูลนิธิเพื่อการศึกษาประชาวิทย์-มัธยมวิทยา พร้อมด้วย คณะผู้บริหารมูลนิธิฯ ได้นำคณะนักเรียนจากโรงเรียนประชาวิทย์ลำปาง และนักเรียนจากโรงเรียนมัธยมวิทยาลำปาง รวมจำนวนกว่า 150 คน ร่วมกันเดินขบวน แห่เชิดหัวเสือ และเชิดหัวสิงโตทอง เข้าคารวะอวยพรปีใหม่เพื่อความเป็นสิริมงคล

การเชิดหัวเสือ และเชิดหัวสิงโตทอง เพื่อเข้าคารวะอวยพรปีใหม่ ถือเป็นกิจกรรมงานประเพณีของพี่น้องคนไทยเชื้อสายจีน ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดลำปาง ที่ได้มีการกระทำต่อเนื่องกันมาเป็นประจำทุกปี ในช่วงงานเทศกาลตรุษจีน โดยทางมูลนิธิเพื่อการศึกษาประชาวิทย์-มัธยมวิทยา จะได้มีการจัดขบวนแห่เชิดหัวเสือ และเชิดหัวสิงโตทอง ไปตามถนนเส้นทางต่างๆ รอบตัวเมืองลำปาง เพื่อเป็นการอวยพรปีใหม่ และนำความเป็นสิริมงคล มาสู่พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน และประชาชนผู้อาศัยอยู่ในตัวเมืองลำปางทุกๆ คน ซึ่งจะมีการนำคณะเสือ และคณะสิงโตทอง เข้าคารวะอวยพรปีใหม่ แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะพ่อเมือง เป็นลำดับแรก ก่อนจะทำการแห่ไปรอบตัวเมืองลำปาง โดยในปีนี้ทางมูลนิธิฯ ได้นำคณะหัวเสือ จำนวน 2 หัว คณะหัวสิงโต จำนวน 4 หัว ทำการเชิด เข้าคารวะและอวยพรปีใหม่ พร้อมกับมอบผลส้มสีทอง ให้แก่ นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และนางอินทิรา สุภาแสน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลำปาง ภริยา เพื่อเป็นการให้โชคลาภ มอบความสุข ความเป็นสิริมงคล และเพื่อปัดเป่าโพยภัย ขจัดสิ่งชั่วร้าย ให้ออกไปจากพื้นที่ของจวนผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง โดยในการประกอบพิธีได้มีการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิภายในจวนผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมกับการจุดประทัด บรรเลงเครื่องดนตรี ที่มีทั้งเสียงตีกลอง ฉิ่งฉาบ และฆ้อง สอดรับประสานกันเป็นจังหวะ พร้อมกับการเชิดของคณะเสือ และคณะสิงโตทอง ซึ่งได้สร้างบรรยากาศให้เป็นไปด้วยความสนุกสนานคึกคัก
ทั้งนี้สำหรับพิธีการแห่เชิดหัวเสือ และเชิดหัวสิงโตทอง ถือเป็นพิธีกรรม ตามแบบประเพณีของชาวจีน ที่มีความเชื่อต่อสิ่งที่ปฏิบัติว่าเป็นสิ่งที่ดีและเป็นสิริมงคล โดยเชื่อว่าเสียงประทัด จะช่วยขับไล่ตัวซานเซียว ภูตผีร้ายตลอดจนสรรพโรค และภัยต่างๆ ให้พ้นออกไปจากพื้นที่นั้น ส่วนการให้ผลส้ม เชื่อกันว่าเป็นการมอบความสุขและโชคลาภให้แก่ผู้รับ และหากผู้ใดได้ชมการแห่เชิดหัวสิงโต ก็จะมีแต่โชคลาภ เป็นการเสริมอำนาจบารมี เป็นสิริมงคล ทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง และครอบครัวจะประสบพบแต่ความสุขตลอดปี

ดูคลิป http://youtu.be/7AVsDMCeUjo


ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต

ผู้ว่าฯลำปาง สั่งควบคุมพื้นที่ป่า หลังมีค่า PM 10 เกินค่ามาตรฐาน 2 – 3 วัน หากพบเห็นไฟป่าให้แจ้งได้ที่ ศูนย์รับแจ้งเหตุ ตลอด 24 ชั่วโมง

นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ ไฟป่าและหมอกควันของจังหวัดลำปาง มีค่า PM 10 เกินค่ามาตรฐาน ในช่วง 2 – 3 วันที่ผ่านมา จึงได้สั่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ หาสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยพบว่าเกิดจากการเผาพื้นที่ป่าของชาวบ้าน และเป็นพื้นที่เดิมๆ ที่ประชาชน มีอาชีพหาของป่า ไม่เห็นความสำคัญของป่า และมาตรการของทางจังหวัด จึงได้สั่งการให้คุมพื้นที่ หากพบเห็นให้เรียกมาตักเตือนและลงโทษ
ทั้งนี้ ทางจังหวัดลำปางได้มีมาตรการ กระตุ้นให้ประชาชน ได้เห็นความสำคัญของป่า มีการสร้างฝายชะลอน้ำ ทำแนวกันไฟ สร้างจิตสำนึกให้รักหวงแหนป่า และชี้ให้เห็นผลเสียในการทำลายพื้นที่เพื่อหาของป่า

นอกจากนี้ ทางจังหวัดลำปางได้กำหนด มาตรการควบคุมการเผา ห้วงเวลา 100 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 27 ม.ค. 57 - 6 พ.ค. 57 โดยการงดเผา ซึ่ง ค่า PM 10 เกินค่ามาตรฐาน ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบหายใจ และสุขภาพของประชาชน จึงขอเชิญชวนประชาชนช่วยกันดูแลผืนป่า หากเจอไฟป่าให้แจ้งที่ศูนย์รับแจ้งเหตุ 054-230549 ตลอด 24 ชั่วโมง



ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์

กกต.ลำปาง สรุปผลผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ภาพรวมทั้ง 4 เขต มีผู้มาใช้สิทธิ ร้อยละ 64 เขต4 มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด

นายสุคนธ์ เรือนสอน ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า จากที่มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดลำปาง แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ.2557 ที่ผ่านมา มีประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ภาพรวมทั้ง 4 เขต ร้อยละ 64.04 โดยเขตที่มีผู้มาใช้สิทธิมากที่สุด คือ เขตที่ 4 ร้อยละ 65 เขต.1 ร้อยละ 61.84 เขต 2 64.21 และเขต 3 ร้อยละ 64.95
โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ มีบัตรเสีย มากถึงร้อยละ 13.82 และบัตรไม่ประสงค์จะลงคะแนน ร้อยละ 18.16 ส่วนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ลำปาง แบบบัญชีรายชื่อ ภาพรวมทั้ง4 เขต มีผู้ออกมาใช้สิทธิ ร้อยละ 64.04 บัตรเสีย ร้อยละ 5.87 และบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน ร้อยละ 12.74
นายสุคนธ์ เรือนสอน ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำปาง กล่าวอีกว่าสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ สถิติผู้ออกมาใช้สิทธิ ภาพรวมจังหวัดลำปาง ถือว่า เป็นสถิติที่ดี แม้ยอดรวมจะน้อยกว่า การเลือกตั้งในปี 2554 ที่ผ่านมาก็ตาม แต่ประชาชนชาวจังหวัดลำปางยังคงให้ความสนใจออกมาใช้สิทธิเกินครึ่ง



ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์

สรุปผลการใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.ลำพูน วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิ์ ร้อยละ 73.39

นางพิมประไพ ดิชวงศ์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำพูน กล่าวว่า สรุปผลการใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เขตเลือกตั้งที่ 1 ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 164,500 คน จำนวนผู้มาใช้สิทธิ 122,564 คน คิดเป็นร้อยละ 74.51 แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง บัตรดี 76,024 บัตร คิดเป็นร้อยละ 62.03 บัตรเสีย 15,646 บัตร คิดเป็นร้อยละ 12.76 บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 30,894 บัตร คิดเป็นร้อยละ 25.21 แบบบัญชีรายชื่อ บัตรดี 86,182 บัตร คิดเป็นร้อยละ 70.32 บัตรเสีย 10,005 บัตร คิดเป็นร้อยละ 8.16 บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 26,377 บัตร คิดเป็นร้อยละ 21.52 เขตเลือกตั้งที่ 2 ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 164,167 คน จำนวนผู้มาใช้สิทธิ 118,645 คน คิดเป็นร้อยละ 72.27 แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง บัตรดี 62,885 บัตร คิดเป็นร้อยละ 53.00 บัตรเสีย 26,004 บัตร คิดเป็นร้อยละ 21.92 บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 29,756 บัตร คิดเป็นร้อยละ 25.08 แบบบัญชีรายชื่อ บัตรดี 76,944 บัตร คิดเป็นร้อยละ 64.85 บัตรเสีย 14,343 บัตร คิดเป็นร้อยละ 12.09 บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 27,357 บัตร คิดเป็นร้อยละ 23.06

รวมทั้ง 2 เขตเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 328,667 คน จำนวนผู้มาใช้สิทธิ 241,209 คน คิดเป็นร้อยละ 73.39 แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง บัตรดี 138,909 บัตร คิดเป็นร้อยละ 57.59 บัตรเสีย 41,650 บัตร คิดเป็นร้อยละ 17.27 บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 60,650 บัตร คิดเป็นร้อยละ 25.14 แบบบัญชีรายชื่อ บัตรดี 163,126 บัตร คิดเป็นร้อยละ 67.63 บัตรเสีย 24,348 บัตร คิดเป็นร้อยละ 10.09 บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 53,734 บัตร คิดเป็นร้อยละ 22.28



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ

ประธาน กกต.ลำพูน ระบุ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง มีสิทธิยื่นคัดค้านต่อ กกต. กรณีเห็นว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ประธาน กกต.ลำพูน ระบุ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง มีสิทธิยื่นคัดค้านต่อ กกต. กรณีเห็นว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือผู้สมัครไม่ยื่นบัญชีรายรับรายจ่าย หรือยื่นหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งไม่ถูกต้องครบถ้วน

นายบรรหาร บูรณะประภา ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง ซึ่งมีสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดเขตเลือกตั้งหนึ่งมีสิทธิยื่นคัดค้านต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยก่อนวันประกาศผลการเลือกตั้ง หรือภายใน 30 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง กรณีเห็นว่าการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นเป็นไปโดยไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย และภายใน 180 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง กรณีเห็นว่าผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด ใช้จ่ายเงินในการหาเสียงเกินจำนวนที่ กกต.กำหนด หรือผู้สมัครไม่ยื่นบัญชีรายรับรายจ่าย หรือยื่นหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งไม่ถูกต้องครบถ้วนในการเลือกตั้งภายใน 90 วัน หลังจากวันเลือกตั้ง

หากประชาชนมีข้อสงสัยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำพูน โทรศัพท์หมายเลข 0-5356-0607-8 ในวันเวลาราชการ



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 

จ.ลำพูน บูรณาการทุกภาคส่วนรณรงค์ ไม่เผาป่า รักษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ หวังป้องกันและบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันในพื้นที่

จังหวัดลำพูนร่วมกับกรมป่าไม้ และกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จัดโครงการรณรงค์ ไม่เผาป่า รักษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบจากไฟป่าและหมอกควันที่เกิดขึ้น และร่วมมือกันงดการเผาในพื้นที่ป่า ในพื้นที่โล่งและพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งจะเป็นการป้องกันและช่วยบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ มีหน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคเอกชน เครือข่ายความร่วมมือในการควบคุมไฟป่า เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.ลำพูน กองพลทหารราบที่ 7 โดยกรมทหารราบที่ 7 นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ร่วมรณรงค์ในครั้งนี้ เกือบ 2,000 คน โดยมี นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานในพิธีเปิด ณ ลานหน้าสนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน จากนั้น ปล่อยขบวนรณรงค์ไปตามเส้นทางจากสนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ถึงศาลากลางจังหวัดลำพูน โดยช่วงเย็นมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ไม่เผาป่า รักษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ กับเครือข่ายความร่วมมือในการควบคุมไฟป่าบ้านทาปลาดุก หมู่ที่ 5 ตำบลทาปลาดุก อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน พร้อมแจกสื่อประชาสัมพันธ์ แสดงดนตรีของวงหน่วยส่งเสริมควบคุมไฟป่า
นายสุเทพ ปวเรศวิทยาฬาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ กล่าวว่า จากสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันที่ผ่านมา พื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และจังหวัดตาก ได้เผชิญปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างรุนแรง ส่วนใหญ่มักจะเกิดในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนของทุกปี สาเหตุสำคัญมาจากการเผาป่า การเผาในที่โล่งและพื้นที่เกษตรกรรม ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัย คุณภาพชีวิตของประชาชนและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคเหนือ จึงจำเป็นต้องบูรณาการการทำงานทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐ ประชาชน และองค์กรเอกชน โดยให้ความร่วมมือและสนับสนุนการป้องกันและควบคุมไฟป่า เพื่อให้การแก้ไขปัญหาไฟป่า มลพิษหมอกควัน และการเผาในที่โล่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประสบผลสำเร็จและทันต่อสถานการณ์



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดลำพูน เมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2557 มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งรวม 241,209 คน คิดเป็นร้อยละ 73.39 บัตรเสีย 41,650 บัตร คิดเป็นร้อยละ 17.27

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน รายงานว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ที่จังหวัดลำพูน ซึ่งแบ่งเขตเลือกตั้งเป็น 2 เขต มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งรวม 328,667 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งรวม 241,209 คน คิดเป็นร้อยละ 73.39 บัตรเสีย จำนวน 41,650 บัตร คิดเป็นร้อยละ 17.27 บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 60,650 บัตร คิดเป็นร้อยละ 25.14

ส่วนการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ มีบัตรเสียจำนวน 24,348 บัตร คิดเป็นร้อยละ 10.09 และบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน จำนวน 53,734 บัตร คิดเป็นร้อยละ 22.28



ข่าวโดย : เชาวรินทร์ สอนปาละ

จ.ลำพูน มอบรางวัล ให้เยาวชนที่ชนะการประกวด วาดภาพ และ เขียนเรียงความ หัวข้อ จังหวัดของฉันในปี 2020

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนมอบรางวัล ให้แก่เยาวชน ที่ ชนะการประกวด วาดภาพ และ เขียนเรียงความ ในหัวข้อ จังหวัดของฉัน ในปี 2020 ซึ่ง มีเยาวชน ทั้งในระดับ ประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา และ อุดมศึกษา ร่วมส่งผลงานเข้าประกวด

ที่ศาลากลางจังหวัดลำพูน นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานมอบ รางวัลให้แก่ เยาวชน ที่ได้รับรางวัลในการ ประกวด วาดภาพ และ เขียนเรียงความ ในหัวข้อ จังหวัดของฉัน ในปี 2020 ซึ่งรัฐบาลมีนโยบาย ในการดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน คมนาคมขนส่ง และได้มีการจัดนิทรรศการ สร้างอนาคตไทย 2020 ซึ่ง กระทรวงมหาดไทย และ กระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดโครงการประกวดวาดภาพ และ เขียนเรียงความ หัวข้อ จังหวัดของฉัน ในปี 2020 เพื่อให้ เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ได้ แสดงความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งจังหวัดลำพูน ได้ดำเนินการจัด ประกวด และ ตัดสินผลงานเรียบร้อยแล้ว โดยผลการประกวดมีดังนี้ ผลการประกวด เขียนเรียงความ ระดับมัธยมศึกษา รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ น.ส.ปิยะธิดา ปัญโญใหญ่ ร.ร.ป่าตาลบ้านธิพิทยา ได้รับเกียรติบัตร และ ทุนการศึกษา 5,000 บาท พร้อมทั้งได้รับการส่งผลงานเข้าประกวดในระดับประเทศ , รางวัล รองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ น.ส. สุนิสา กันทะดวง ร.ร.ธีรกานท์บ้านโฮ่ง ได้รับ เกียรติบัตร และ ทุนการศึกษา 3,000 บาท , รางวัล รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ด.ช.ปิยบุตร พะบุญรักษ์ ร.ร. จักรคำคณาทร ได้รับเกียรติบัตร และ ทุนการศึกษา 2,000 บาท ผลการประกวด เขียนเรียงความในระดับ อุดมศึกษา รางวัลชนะเลิศได้แก่ น.ส. ยุพา โพทาคำ วิทยาลัย ลุ่มน้ำปิง จ.ตาก ได้รับ เกียรติบัตร และ เงินรางวัล 5,000 บาท รางวัล รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ น.ส. รัชนีกร ธรรมวรรณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับเกียรติบัตร และ เงินรางวัล 3,000 บาท

ทั้งนี้ จังหวัดลำพูนจะรวบรวมผลงานของผู้ชนะการประกวดส่งไปยังกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อ ประกวดในระดับประเทศต่อไป .



ข่าวโดย : เชาวรินทร์ สอนปาละ

หลายภาคส่วน ใน จังหวัดลำพูน ร่วมเดินขบวน รณรงค์ ในโครงการ ไม่เผาป่า รักษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์

จังหวัดลำพูนปล่อยขบวนรณรงค์ไม่เผาป่า รักษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ ประชาสัมพันธ์เชิงรุก กระตุ้นให้ประชาชนเกิดความตระหนักถึงปัญหา และ ผลกระทบจากหมอกควัน ไฟป่า และการเผาในที่โล่ง โดยมี เยาวชน จากสถานศึกษา ต่าง ๆ , เจ้าหน้าที่ หน่วยงานราชการ , องค์กรเอกชน ร่วม เดินรณรงค์

เช้าวันนี้ ( 3 กุมภาพันธ์ 2557 ) ที่ สนามกีฬากลาง จังหวัดลำพูน กรมป่าไม้ ร่วมกับ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อม จังหวัดลำพูน จัดโครงการ รณรงค์ ไม่เผาป่า รักษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ โดยมี นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานปล่อยขบวน ซึ่ง มีขบวนรถประชาสัมพันธ์ได้ เคลื่อนที่ไป ในเขต เทศบาลเมืองลำพูน เชิญชวน ประชาชน ให้งดการเผาในช่วงหน้าแล้ง ซึ่ง เยาวชน ที่ได้เห็นขบวนรณรงค์ ก็ได้ให้ความสนใจขบวนรณรงค์ในครั้งนี้ด้วย
นายสุเทพ ปวเรศวิทยาฬาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 ( จ.เชียงใหม่ ) กล่าวว่า ในเขตภาคเหนือมีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาหมอกควัน และ ไฟป่า 9 จังหวัด ได้แก่จังหวัดเชียงใหม่ , ลำพูน , ลำปาง , แพร่ , พะเยา , เชียงราย , น่าน , แม่ฮ่องสอน และ จังหวัดตาก ซึ่งผลกระทบที่เกิดจากการเผาป่านั้น ก่อให้เกิดหมอกควัน และ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่ก่อให้เกิดปัญหากับสุขภาพ คุณภาพชีวิต ไปจนถึงธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจ ที่สำคัญของภาคเหนือ ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเชิงรุกด้านการป้องกันปัญหาหมอกควันและไฟป่า และการเผาในที่โล่ง มีการจัดนิทรรศการให้ความรู้รณรงค์ลดการเผา พร้อมแจกสื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับไฟป่า ลดหมอกควัน ลดโลกร้อนเพื่อสร้างจิตสำนึก กระตุ้นให้ประชาชนเกิดความตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้น
ทางด้านนายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนกล่าวว่า จังหวัด ได้ใช้หลักในการชี้แจงสร้างความเข้าใจ ประชาสัมพันธ์ ให้แก่ กลุ่มเป้าหมายทั้ง กลุ่มเกษตรกร , ผู้หาของป่า ซึ่ง หากพบการกระทำผิด ก็จะต้องดำเนินการขั้นตอน จาก เบาไปหาหนัก ซึ่งได้ดำเนินการรณรงค์ป้องกันหมอกควันและไฟป่า 100 วัน โดยเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม - 30 เมษายน 2557 โดยสั่งการให้หน่วยงานและอำเภอต่างๆปฏิบัติตามมาตรการ 8 มาตรการ คือ การควบคุมการเผา, ป้องกันและแก้ไขไฟป่าอย่างเข้มข้น, สนับสนุนชุมชนหมู่บ้านปลอดการเผา, ส่งเสริมภาคเอกชนและภาคีเครือข่ายเข้ามามีส่วนร่วม, สื่อสารประชาสัมพันธ์เชิงรุกไปยังกลุ่มเป้าหมาย, แจ้งเตือนสถานการณ์หมอกควัน, จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันประจำจังหวัดลำพูน และมาตรการติดตามผลการดำเนินงาน โดยจังหวัดได้สั่งการให้อำเภอกำชับให้กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน เฝ้าระวังสอดส่องบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่ชอบเผา ให้ประชาสัมพันธ์ทางเสียงตามสายประจำหมู่บ้านทุกแห่ง ให้ประชาชนได้รับทราบเกี่ยวกับภัยอันตรายของหมอกควันและไฟป่า โทษตามกฎหมายของผู้เผาป่า ทั้งได้จัดให้มีการประกวดหมู่บ้านปลอดการเผา โดยส่งเสริมให้นำวัชพืชทางการเกษตรไปผลิตเป็นปุ๋ยหมักโดยไม่เผา ซึ่งจังหวัดคาดหวังว่าในพื้นที่จังหวัดลำพูนจะปลอดการเผา .



ข่าวโดย : เชาวรินทร์ สอนปาละ

ทต.มะเขือแจ้ จัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันที่อาจจะเกิดขึ้น

นายวัฒนา จันทนุปาน นายกเทศมนตรีตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า ในช่วงหน้าแล้งของทุกปี ระหว่างเดือนธันวาคม–พฤษภาคม มักจะเกิดปัญหาไฟป่าและหมอกควันขึ้นเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ริมทางหลวง ซึ่งนอกจากจะสร้างความเสียหายแก่ทรัพยากรป่าไม้และป่าเป็นจำนวนมหาศาล ทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณในการระดมเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ และยานพาหนะเข้าระงับไฟป่าเป็นจำนวนมาก ไฟป่ายังก่อให้เกิดปัญหาหมอกควันตามมา โดยเฉพาะฝุ่นละอองที่เกิดจากควันไฟ และมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี เกิดลักษณะฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัย และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ตำบลมะเขือแจ้ได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ภัยแล้ง ตลอดจนเป็นการป้องกันไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ตำบลมะเขือแจ้ งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลตำบลมะเขือแจ้ จึงจัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าตำบลมะเขือแจ้ ประจำปี 2557 ณ สำนักงานเทศบาลตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันที่อาจจะเกิดขึ้น

หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือหรือช่วยแจ้งข้อมูลสามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันตำบลมะเขือแจ้ ตั้งอยู่ สำนักงานเทศบาลตำบลมะเขือแจ้ เลขที่ 203 หมู่ที่ 20 ตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โทรศัพท์หมายเลข 0-5352-8322 หรือ 0-5350-3664 ต่อ 208, 200 ตลอด 24 ชั่วโมง


ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ

ประชุม การหารือการพัฒนาสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) จังหวัดเพชรบูรณ์

วันที่ (3 กุมภาพันธ์ 57) นายสุชาติ ราษฎร์ดุษดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในการประชุม การหารือการพัฒนาสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อเวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์

เป้าหมายสำคัญคือ การนำ GIS ไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินงานและบริหารจัดการเชิงพื้นที่โดยบูรณาการ ทั้งในระดับจังหวัด และระดับพื้นที่ ซึ่งจะได้หารือแนวทาง และกระบวนการพัฒนาระบบ GIS รวมทั้งการขับเคลื่อนการดำเนินงานในด้าน Hardware และ Software เพื่อพัฒนาบุคลากร ในการบริหารจัดการงานให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

จากการให้ความสำคัญในการพัฒนาระบบ GIS เพื่อประยุกต์ใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการพื้นที่บูรณาการ ซึ่งมีหลายภารกิจทั้งด้านการเกษตร การท่องเที่ยว สังคม/คุณภาพชีวิต และด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทางจังหวัดขอขอบคุณในความร่วมมือของหน่วยงานในพื้นที่ ที่ให้ความร่วมมือในการพัฒนา GIS ของจังหวัดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกระทรวง ITC ที่ได้สนับสนุนการดำเนินงานพัฒนา GIS ของจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งคณะทำงานฯ จะได้หารือแนวทางการพัฒนา GIS ต่อไป

พิษณุโลก มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร 47% เบาบางกว่าเลือกตั้งที่ผ่านมา

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก ได้สรุปผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรของจังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา การนับคะแนนเฉพาะวันที่ 2 กพ 57 จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 663,984 คน มาใช้สิทธิเลือกตั้งใน 1274 หน่วย ใน 5 เขตเลือกตั้ง จาก 9 อำเภอ ประกอบด้วย เขต 1 จำนวน 207 หน่วย ผู้มาใช้สิทธิ 34% คะแนนนำคือนายภูษิต พิศาลก่อสกุล เพื่อไทย เขต 2 อ.เมือง/พรหมพิราม 239 หน่วย มาใข้สิทธิ 49% คะแนนนำคือนายนพพล เหลือทองนารา เพื่อไทย เขต 3 วังทอง/เนินมะปราง มี 269 หน่วย มาใช้สิทธิ40% คะแนนนำคือนายพงษ์มนู ทองหนักชาติพัฒนา เขต 4 เมือง/บางระกำ/บางกระทุ่ม จาก 276 หน่วย มาใช้สิทธิ 54.23% คะแนนนำ นายนิยม ช่างพินิจ เพื่อไทย และเขต 5 นครไทย/วัดโบสถ์/ชาติตระการ 283 หน่วย มาใช้สิทธิ 48.49% คะแนนนำ นายนคร มาฉิม ชาติพัฒนา ซึ่งต้องรอคะแนนใช้สิทธิล่วง มีประชาชนมาใช้สิทธิ์ลงคะแนนในเขตเลือกตั้งจำนวน 565 รายจากที่มีการลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์ 705 ราย คิดเป็นร้อยละ 80.14 และนอกเขตเลือกตั้งจำนวน 930 ราย จากที่มีการลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์ 9,016 ราย คิดเป็นร้อยละ 10.31 มารวมอีกครั้ง ถึงจะประกาศผลได้ ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้มีเขต 1และ เขต3 เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ และเขต 5 เป็นผู้สมัครหน้าเก่า แต่พรรคใหม่