วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

จ.ลำพูน บูรณาการทุกภาคส่วนรณรงค์ ไม่เผาป่า รักษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ หวังป้องกันและบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันในพื้นที่

จังหวัดลำพูนร่วมกับกรมป่าไม้ และกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จัดโครงการรณรงค์ ไม่เผาป่า รักษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบจากไฟป่าและหมอกควันที่เกิดขึ้น และร่วมมือกันงดการเผาในพื้นที่ป่า ในพื้นที่โล่งและพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งจะเป็นการป้องกันและช่วยบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ มีหน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคเอกชน เครือข่ายความร่วมมือในการควบคุมไฟป่า เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.ลำพูน กองพลทหารราบที่ 7 โดยกรมทหารราบที่ 7 นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ร่วมรณรงค์ในครั้งนี้ เกือบ 2,000 คน โดยมี นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานในพิธีเปิด ณ ลานหน้าสนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน จากนั้น ปล่อยขบวนรณรงค์ไปตามเส้นทางจากสนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ถึงศาลากลางจังหวัดลำพูน โดยช่วงเย็นมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ไม่เผาป่า รักษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ กับเครือข่ายความร่วมมือในการควบคุมไฟป่าบ้านทาปลาดุก หมู่ที่ 5 ตำบลทาปลาดุก อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน พร้อมแจกสื่อประชาสัมพันธ์ แสดงดนตรีของวงหน่วยส่งเสริมควบคุมไฟป่า
นายสุเทพ ปวเรศวิทยาฬาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ กล่าวว่า จากสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันที่ผ่านมา พื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และจังหวัดตาก ได้เผชิญปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างรุนแรง ส่วนใหญ่มักจะเกิดในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนของทุกปี สาเหตุสำคัญมาจากการเผาป่า การเผาในที่โล่งและพื้นที่เกษตรกรรม ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัย คุณภาพชีวิตของประชาชนและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคเหนือ จึงจำเป็นต้องบูรณาการการทำงานทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐ ประชาชน และองค์กรเอกชน โดยให้ความร่วมมือและสนับสนุนการป้องกันและควบคุมไฟป่า เพื่อให้การแก้ไขปัญหาไฟป่า มลพิษหมอกควัน และการเผาในที่โล่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประสบผลสำเร็จและทันต่อสถานการณ์



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น