วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

งานวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดนปีที่ 60 ของจังหวัดเชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่ จัดงานวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ปีที่ 60 เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่อาสารักษาดินแดนที่เสียสละปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยเหลือประชาชน ดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจและทหารในพื้นที่

วันนี้ (10 ก.พ. 2557) เวลา 08.00 น. ณ กองร้อยอาสารักษาดินแดนที่ 1 เชียงใหม่ นายกองเอกวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ซึ่งตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ และปี 2556 เป็นปีที่ 60 ของการสถาปนากองอาสารักษาดินแดน เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจแก่สมาชิกอาสารักษาดินแดน ซึ่งเป็นกำลังลังพลฝ่ายพลเรือนที่มีจิตอาสาเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติในรูปแบบต่างๆรวมทั้งการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกต่างๆแก่ส่วนราชการและหน่วยงานในพื้นที่ตามที่ร้องขอ ในพิธีดังกล่าว กองอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวคำปฏิญาณตน ประธานในพิธีอ่านสารของ นายกองใหญ่จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน มอบเข็มอาสารักษาดินแดนสดุดีแก่ผู้บังคับบัญชาและสมาชิกอาสารักษาดินแดน จำนวน 6 ราย มอบโล่ประกาศเกียรติคุณกองร้อยอาสารักษาดินแดนที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น และมอบทุนการศึกษาแก่บุตรของอาสาสมัครรักษาดินแดน พร้อมกันนี้ นางอังคณา พุฒิวิญญู ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบทุนการศึกษาของสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ให้กับบุตรหลานของสมาชิกอาสารักษาดินแดน ข้าราชการและ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานอาสารักษาดินแดนในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 66 ทุน


ข่าวโดย : ณัฏฐ์ สินันตา

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 9 – 13 กุมภาพันธ์ 2557

จังหวัดเชียงราย ขอเชิญชวนชาวเชียงราย เฝ้ารับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 9 – 13 กุมภาพันธ์ 2557

นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึงกำหนดการ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 9 – 13 กุมภาพันธ์ 2557 โดยในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 21.30 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินไปประทับแรม ณ พระตำหนักดอยตุง

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 08.30 น. เสด็จฯ ไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ที่วัดแม่คำ ต.แม่คำ อ.แม่จัน เวลา 10.00 น. เสด็จฯ ไปทรงประกอบพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ที่ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ต.ท่าสุด อ.เมือง เวลา 13.30 น. เสด็จฯ ไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนสมถวิลจินตมัย ต.ท่าข้าม อ.เวียงแก่น และเวลา 13.30 น. เสด็จฯ ไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชนัถต์ปิยะอุย ห้องเรียนสาขาบ้านห้วยกุ๊ก ต.ปอ อ.เวียงแก่น เวลา 17.20 น เสด็จประทับแรม ณ พระตำหนักดอยตุง
         
พื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง (ทางขึ้นพระธาตุดอยตุง กม.ที่ 14 - 15) เวลา 09.10 น.ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ ไปยังบริเวณพื้นที่ก่อสร้างโรงคัดบรรจุผักปลอดภัยของชุมชน โรงคัดแยกเมล็ดพันธุ์ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทอดพระเนตรแปลงผักจากเมล็ดที่พระราชทานให้ทดลองปลูก ทอดพระเนตรงานประชาสัมพันธ์โครงการ ณ ร้านจันกะผัก ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย เวลา 14.00 น. ทอดพระเนตรการผลิตเมล็ดพันธุ์พระราชทานในพื้นที่สวนผลไม้ของนางจองวอง จันตะคาต เวลา 15.10 น. ทอดพระเนตรการรับซื้อเมล็ดพันธ์ของโครงการผลิตเมล็ดพันธ์พระราชทาน "เพื่อนช่วยเพื่อน” ที่ศาลอาอเนกประสงค์ บ้านสันบุญเรือง ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย เวลา 16.00 น. เสด็จไปยังโรงงานกระดาษสาจินตนาลักษณ์ ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย ทอดพระเตรความเป็นมา และที่มาของกระดาษหญ้าแฝก ที่ได้จากการตัดแต่งหญ้าแฝกและกระดาษจากวัตถุดิบธรรมชาติอื่นๆ เวลา 17.00 น. เสด็จไปยัง ศูนย์วิจัยและพัฒนานาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ทอดพระเนตรแปลงพืชน้ำมันชนิดต่างๆ เวลา 21.00 น. ประทับแรม ณ พระตำหนักดอยตุง

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 09.15 น. เสด็จฯ ถึงดรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอาชีวศึกษาเชียงราย – พะเยา ต.ริมโขง อ.เชียงของ ติดตามการดำเนินงานของโรงเรียน และความก้าวหน้าของโครงการตามพระราชดำริ เวลา 12.30 น. เสด็จฯ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านดอยล้าน ต.วาวี อ.แม่สรวย ติดตามการดำเนินงานของโรงเรียน และความก้าวหน้าของโครงการตามพระราชดำริ และเวลา 14.45 น. เสด็จฯ ถึงโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบำรุงที่ 87 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง ติดตามการดำเนินงานของโรงเรียน และความก้าวหน้าของโครงการตามพระราชดำริ เวลา 16.40 น. ประทับแรม ณ พระตำหนักดอยตุง

วันที่ 13 กุมภาพันธื 2557 เวลา 08.30 น. เสด็จถึงดรงเรียนบ้านผาฮี้ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย ทอดพระเนตรและรับการถวายรายงาน การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างธุรกิจกาแฟโดยชุมชน ของกลุ่มเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน หมู่บ้านผาฮี้ เวลา 09.10 น. เสด็จถึงฐานปฏิบัติการทหารดอยช้างมูบ พระราชทานสิ่งของให้แก่ทหารที่ประจำการและทอดพระเนตรความเป็นอยู่ของทหารประจำการและทัศนียภาพแนวชายแดนไทย – พม่า เวลา 13.00 น. เสด็จฯ ถึงพื้นที่โครงการศ฿กษาและพัฒนาการปลูกชาน้ำมัน บ้านปูนะ ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง เสด็จฯไปยังแปลงปลูกชาน้ำมันของ นางนาพือ จะฟะ ทอดพระเนตรรากต้นชาน้ำมันที่ปลูกคู่กับหญ้าแฝกประโยชน์ในการอนุรักษ์ดินของชาน้ำมัน เวลา 13.50 น. เสด็จฯ ถึงบ้านนางนาอื่อ จะสอ ราษฎรบ้านยีเด รับการถวายรายงานจากคณะทำงานวิจัยการเลี้ยงไก่พื้นบ้าน และทอดพระเนตรการเลี้ยงไก่กระดูกดำ เวลา 14.25 น. เสด็จฯ ถึงบ้านนายจะแฮ จะนี ราษฎรบ้านบูซอ รับการถวายรายงานจากคณะทำงานวิจัยการเลี้ยงสุกรเหมยซานในพื้นที่โครงการ และทอดพระเนตรการสุกรเหมยซาน เวลา 15.45 น. เสด็จฯ ถึงแปลงปลูกชาชาน้ำมันของ นางนาทอ จะฟะ รับการถวายรายงานจากคณะทำงานวิจัยชาน้ำมันกราบบังคมทูลรายงานความก้าวหน้าของงาวิจัย เวลา 15.30 น. เสด็จฯถึงโครงการศึกษาและพัฒนาการปลูกชาน้ำมัน บ้านปูนะ ทอดพระเนตรไร่ชาน้ำมัน เสวยพระสุธารส ก่อนจะประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั้งไปยังท่าอกาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย และเวลา 16.20 น. ประทับเครื่องบินพระที่นั่งเสด็จฯกลับกรุงเทพมหานคร

โอกาสนี้ จังหวัดเชียงราย ขอเชิญประชนชนที่อยู่ในพื้นที่ ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ร่วมเฝ้ารับเสด็จตามวันและเวลาดังกล่าว ด้วย

จังหวัดเชียงราย จัดพิธีวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2557

กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงราย จัดพิธีวันคล้ายวันสถาปนา ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่สมาชิก อาสาสมัครรักษาดินแดนที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ และมอยบทุนการศึกษาแก่บุตรอาสาสมัครรักษาดินแดนเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ

วันนี้ ( 10 ก.พ. 57 ) ที่ กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงราย ที่ 1 นายชาติชาย สงวนพงษ์ ปลัดจังหวัดเชียงราย ในฐานะ รองผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน โดยปลัดจังหวัดเชียงราย ได้อ่านสารผู้บังชาการกองอาสารักษาดินแดน พร้อมทั้งกล่าวให้โอวาทแก่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงราย

สำหรับ กองอาสาสมัครรักษาดินแดน ก่อตั้งขึ้น ตามพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดนได้ประกาศใช้เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2497 ซึ่งในปีนี้เป็นปีที่ครบ 60 ปี การพิธีวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดนในครั้งนี้ เพื่อเป็นการระลึกถึงความเสียสละ ของสมาชิกอาสารักษาดินแดนที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ในการป้องกันและปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ และการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ อาทิเช่น การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การจับกุมผู้ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า การจับกุมแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การให้บริการประชาชนในด้านต่าง ๆ

โอกาสนี้ผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงราย ได้ตรวจเยี่ยมกำลังพล และมอบทุนการศึกษา มูลนิธิอาสารักษาดินแดนในพระบรมราชินูปถัมภ์มอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรสมาชิก อส. จำนวน 5 ทุน สมาคมแม่บ้านมหาดไทยและเหล่ากาชาดจังหวัดจันทบุรีมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรสมาชิกจำนวน 55 ทุน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้วย

จังหวัดเชียงใหม่ สรุปผลการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของจังหวัดเชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่ สรุปผลการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของจังหวัดเชียงใหม่ ตามโควตาที่ได้รับการจัดสรร ได้แก่ ค่าบริหารจัดการ (1.50 บาท) จำนวน 101,316.56 ตัน และชดเชยค่าขนส่ง (0.50 บาท) 35,519.58 ตัน ได้ดำเนินการเบิกจ่ายค่าบริหารจัดการไปแล้ว วงเงิน 20,945,197.50 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งรัดดำเนินการตรวจเอกสารเพื่อเบิกจ่าย เพื่อให้ทันสามารถเบิกจ่ายได้ภายในวันที่ 31 มีนาคม ศกนี้

นายไพโรจน์ กุลละวณิชย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตร (คพจ.) เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลให้ดำเนินการแทรกแซงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เชื่อมโยงผ่านผู้รวบรวมในพื้นที่ โดยให้ผู้รวบรวมรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เมล็ดความชื้น 14.5 % กิโลกรัมละ 9 บาท (ความชื้น 30 % กก.ละ 7 บาท) จากเกษตรกรตามใบรับรองเกษตรกร รายละไม่เกิน 25 ตัน และชดเชยค่าขนส่ง กิโลกรัมละ 0.50 บาท ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้รับการจัดสรรโควตาในการบริหารจัดการ (1.50 บาท) รวมทั้งสิ้นปริมาณจำนวน 101,316.56 ตัน และได้ดำเนินการประกาศจุดรับซื้อทั้งหมด จำนวน 34 จุด ใน 8 อำเภอ มีจุดดำเนินการเปิดรับซื้อได้จริง 27 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอแม่แจ่ม 23 จุด ขณะนี้ส่วนกลางได้โอนเงินให้มาแล้ว จำนวน 151,974,840 บาท ได้ดำเนินการเบิกจ่ายไปแล้วแบ่งเป็น 4 งวด รวมเป็นจำนวนเงิน 20,945,197.50 บาท สำหรับการยื่นเอกสารขอเบิกจ่ายจังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดให้ผู้รวบรวมยื่นเอกสารที่รับซื้อก่อนวันที่ 4 ธันวาคม 2556 ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เอกสารที่รับซื้อในระหว่างวันที่ 4-31 ธันวาคม 2556 ให้ยื่นผ่านคณะทำงานระดับตำบล เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องเอกสารไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ จึงทำให้การเบิกจ่ายเงินล่าช้า จังหวัดเชียงใหม่จึงได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบเอกสารระดับตำบล เพื่อให้ช่วยกลั่นกรองเอกสารในเบื้องต้น จะทำให้สามารถเบิกจ่ายได้ทันกำหนดภายในวันที่ 31 มีนาคม 2557

สำหรับการชดเชยค่าขนส่ง (0.50 บาท) ให้กับผู้รวบรวม จังหวัดเชียงใหม่ได้รับการจัดสรรโควตาปริมาณจำนวน 35,519.58 ตัน จำนวนเงิน 8,899,895 บาท และต้องมีการเบิกจ่ายตามหลักเกณฑ์ ดังนี้

1. ผู้รวบรวมระยะทางเกินกว่า 150 กิโลเมตรขึ้นไป ในอัตราสูงสุดไม่เกิน กิโลกรัมละ 0.50 บาท ยกเว้นการขนส่งในอำเภอแม่แจ่ม
2. น้ำหนักชดเชยต้องเป็นน้ำหนัก ณ ความชื้น 14.5 % ตามหลักฐานการชั่งน้ำหนักของผู้รับซื้อปลายทาง
3. การจ่ายเงินชดเชยค่าขนส่งสามารถจ่ายได้เฉพาะผู้รวบรวม และสหกรณ์ผู้รวบรวมที่รับซื้อและขนส่งภายในระยะเวลา ตั้งแต่ 3 กันยายน – 31 ธันวาคม 2556 เท่านั้น
4. การจ่ายเงิน จะคำนวณระยะทางจากผู้รวบรวม (ต้นทาง) ถึงผู้ใช้ (ปลายทาง) โดยคำนวณระยะทางขนส่งระดับอำเภอถึงอำเภอ
5. ผู้รับซื้อปลายทางต้องเป็นโรงงานอาหารสัตว์ สหกรณ์ผู้ใช้ (ปศุสัตว์) และผู้ประกอบการที่ใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หรือผู้ส่งออกที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น

พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เนื่องจากเกิดวิกฤตการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ทำให้การขอโควตาเพิ่มหรือขยายระยะเวลาไม่สามารถดำเนินการได้ จังหวัดเชียงใหม่จึงจำเป็นต้องบริหารจัดการโควตาที่ได้รับจัดสรรมาในจังหวัดให้เป็นไปอย่างทั่วถึงและถูกต้องที่สุด



ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนจัดเวทีเสวนาร้อยรวมใจเพื่อใต้สันติสุข

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภาค ๓ กรมประชาสัมพันธ์ จัดเวทีเสวนาร้อยรวมใจเพื่อใต้สันติสุข เพื่อเผยแพร่หลักคำสอนของศาสนาพุทธและอิสลามที่ถูกต้อง รวมทั้งวิถีชีวิตและวัฒนธรรมประเพณีของชาวมุสลิมเพื่อสร้างความเข้าใจอันดีแก่สาธารณชนในพื้นที่แก่สื่อมวลชนและเครือข่ายการประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด พร้อมเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าฮาลาลนานาชาติเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 9.30 น. นายอดิศร กำเนิดศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นในพิธีเปิดการสัมมนา เรื่อง “เวทีเสวนาร้อยรวมใจเพื่อใต้สันติสุข สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด ภาค 3” ณ ห้องอิมพีเรียล ฮอลล์ ๒ โรงแรมอิมพีเรียล แม่ปิง จังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้เข้าร่วมการสัมมนา ประกอบด้วยสื่อมวลชนและเครือข่ายการประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด จังหวัดละ 10 คน รวมจำนวน 80 คน

นางอุบลรัตน์ คงกระพันธ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประชาสัมพันธ์จังหวัดผู้แทนภาค 3 กล่าวว่า กรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะหน่วยงานหลักของรัฐบาลในการประชาสัมพันธ์แก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตระหนักถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาด้วยการส่งเสริมบรรยากาศของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข บนพื้นฐานของความแตกต่างทางศาสนา จึงได้จัดทำโครงการ “ศาสนาความจริงที่ต้องเปิดเผย” โดยกำหนดให้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภาค 3 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือตอนบน จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน เชียงราย แพร่ พะเยา และน่าน จัดการสัมมนา เรื่อง“เวทีเสวนาร้อยรวมใจเพื่อใต้สันติสุข สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภาค 3” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สื่อมวลชนและเครือข่ายการประชาสัมพันธ์ที่มาร่วมการสัมมนานำข้อมูลข่าวสารไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ในพื้นที่ ๘ จังหวัดภาคเหนือตอนบน มีความรู้ความเข้าใจในหลักคำสอนของศาสนาทุกศาสนาที่ถูกต้อง และนำไปเป็นแนวปฏิบัติในการดำเนินชีวิตอันนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขบนพื้นฐานความแตกต่างทางศาสนา
โดยการสัมมนา ประกอบด้วย การบรรยาย เรื่อง “ประสบการณ์การปฏิบัติงานประชาสัมพันธ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้” โดย พลตรีอัคร ทิพย์โรจน์ ที่ปรึกษากองทัพบก ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งโฆษกทหารบก ปี 2547-2551 และรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการสัมมนาได้รับรู้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะในเรื่องการประชาสัมพันธ์และการจัดการข่าวสาร หรือ IO นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายเรื่อง “หลักคำสอนทางศาสนาเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ” ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองร่วมกันในเรื่องของหลักคำสอนของศาสนาพุทธและศาสนาอิสลาม ที่มุ่งส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และแนวทางการดำรงชีวิตโดยยึดหลักสันติวิธี จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ อาจารย์ซอแระห์ (วินัย) แสวงศิริผล และพระมหาช่วง ภูรีวฑฒโน วัดศรีชลธาร อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมการสัมมนาจะได้ศึกษาดูงานการแสดงสินค้าฮาลาลนานาชาติเชียงใหม่ “Chiang Mai Halal International Fair : CHIF 2014” ซึ่งกำหนดจัดระหว่างวันที่ 6-9 กุมภาพันธ์ 2557 ณ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต จัดโดยจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย คณะอิสลามประจำจังหวัดเชียงใหม่ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายมหาวิทยาลัยในภาคเหนือ และองค์กรพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้เข้าร่วมการสัมมนาได้ศึกษาดูงานการประชาสัมพันธ์เผยแพร่สินค้า ผลิตภัณฑ์ การบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับฮาลาลและมุสลิมจากทุกภาคของประเทศ รวมถึงจากกลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และกลุ่ม GMS-BIMSTEC เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในวิถีชีวิตของชาวมุสลิม โดยเฉพาะในเรื่องของฮาลาล ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติที่สำคัญประการหนึ่งของคนมุสลิม อันจะช่วยรเสริมสร้างความเข้าใจเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขต่อไป



ข่าวโดย : อนุชา นาคฤทธิ์

งานวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดนปีที่ 60 ของจังหวัดเชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่ จัดงานวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ปีที่ 60 เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่อาสารักษาดินแดนที่เสียสละปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยเหลือประชาชน ดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจและทหารในพื้นที่

วันนี้ (10 ก.พ. 2557) เวลา 08.00 น. ณ กองร้อยอาสารักษาดินแดนที่ 1 เชียงใหม่ นายกองเอกวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ซึ่งตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ และปี 2556 เป็นปีที่ 60 ของการสถาปนากองอาสารักษาดินแดน เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจแก่สมาชิกอาสารักษาดินแดน ซึ่งเป็นกำลังลังพลฝ่ายพลเรือนที่มีจิตอาสาเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติในรูปแบบต่างๆรวมทั้งการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกต่างๆแก่ส่วนราชการและหน่วยงานในพื้นที่ตามที่ร้องขอ ในพิธีดังกล่าว กองอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวคำปฏิญาณตน ประธานในพิธีอ่านสารของ นายกองใหญ่จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน มอบเข็มอาสารักษาดินแดนสดุดีแก่ผู้บังคับบัญชาและสมาชิกอาสารักษาดินแดน จำนวน 6 ราย มอบโล่ประกาศเกียรติคุณกองร้อยอาสารักษาดินแดนที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น และมอบทุนการศึกษาแก่บุตรของอาสาสมัครรักษาดินแดน พร้อมกันนี้ นางอังคณา พุฒิวิญญู ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบทุนการศึกษาของสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ให้กับบุตรหลานของสมาชิกอาสารักษาดินแดน ข้าราชการและ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานอาสารักษาดินแดนในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 66 ทุน



ข่าวโดย : ณัฏฐ์ สินันตา

กรมควบคุมมลพิษเฝ้าระวังปัญหาที่เกิดจากมลพิษหมอกควันในประเทศไทย

กรมควบคุมมลพิษติดตามสถานการณ์มลพิษหมอกควันในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเฝ้าระวังและติดตามตรวจสอบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ และรายงานข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบเพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับจัดฝึกอบรมและรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนร่วมกันแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันแบบบูรณาการ

นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า ปัญหาหมอกควันในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทยเป็นปัญหาสำคัญเนื่องจากส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ได้แก่ ผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ รวมทั้งทำให้เกิดความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือน เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชน บดบังทัศนวิสัย และเป็นอุปสรรคในการคมนาคมและขนส่ง การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และระบบนิเวศป่าไม้ รวมทั้งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวที่เป็นระบบเศรษฐกิจที่สำคัญของพื้นที่ ซึ่งความรุนแรงของปัญหาโดยทั่วไปปรากฏชัดเจนในช่วงหน้าแล้ง(ธันวาคม- เมษายน)ของทุกปี ที่มีสภาวะอากาศที่แห้งและนิ่ง ทำให้ฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นสามารถแขวนลอยอยู่ในบรรยากาศได้นาน นอกจากนี้ยังพบว่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กเพิ่มขึ้นเนื่องจากความแห้งแล้งที่ส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของไฟป่า ประกอบกับในช่วงเวลาดังกล่าว เกษตรกรจะทำการเผาเศษวัสดุเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับทำการเกษตรในช่วงฤดูฝน สำหรับปีที่มีฝนตกน้อยหรือเกิดภาวะแห้งแล้งจะทำให้การชะล้างหมอกควันหรือฝุ่นที่แขวนลอยในอากาศเป็นไปได้น้อย ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2550 ภาคเหนือตอนบนประสบปัญหาหมอกควันที่รุนแรงมาก พบว่าระดับหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ขึ้นสูงอย่างมากต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 3-4 สัปดาห์ ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและการบริการ รวมถึงการจราจรทั้งทางบกและทางอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผลต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยตรง

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า จากการติดตามตรวจสอบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM10) โดยสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ ในปี 2550 - 2553 พบว่าหลายสถานีใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ประกอบด้วย จังหวัดเชียงราย พะเยา ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน น่านและแพร่ พบว่า ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนของทุกปี ทีมีการเผาในที่โล่งจำนวนมากทั้งการเผาในพื้นที่ป่า การเผาเศษเหลือจากการเกษตรในพื้นที่เกษตร และการเผาขยะมูลฝอยและเศษใบไม้ กิ่งไม้ในพื้นที่ชุมชน รวมทั้งผลกระทบจากการเผาในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน ในกลุ่มภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM10) มีค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในหลายพื้นที่และติดต่อกันเป็นเวลานานหลายวัน
สำหรับปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่า ในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย จากการเผาในที่โล่งในพื้นที่เกษตรและพื้นที่ป่า เป็นปัญหาที่มีความสำคัญระดับชาติ จึงจำเป็นต้องบูรณาการทุกภาคส่วน โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องต้องให้ความร่วมมือและสนับสนุน เพื่อให้การป้องกันและควบคุมไฟป่า เพื่อให้การเผาในที่โล่งและการแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อเหตุการณ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ 8 จังหวัดในภาคเหนือตอนบน ซึ่งประสบกับวิกฤติสถานการณ์หมอกควันในช่วงปี 2550-2553 จึงต้องมีมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนและให้ผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วม

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา จะต้องประกอบด้วยการเฝ้าระวังและติดตามตรวจสอบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ และรายงานข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบเพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับจัดฝึกอบรมและรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนร่วมกันแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันแบบบูรณาการ
สำหรับคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 พบปริมาณฝุ่นละอองหรือ ค่า PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ มีค่า 40 ไมโครกรัม/กิโลเมตร AQI 50 ที่สถานี ฯ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ค่า PM10 อยู่ที่ 30 AQI 38 และที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์(รถโมบาย) พบค่า PM10 12 AQI 15 คุณภาพอากาศโดยรวมทั้ง 3 สถานีอยู่ในระดับดี



ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว

ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานน่านส่งเสริมเกษตรกรแปรรูปไม้ไผ่ เพิ่มมูลค่าสร้างรายได้สู่ชุมชน

ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดน่าน เปิดหลักสูตรยกระดับฝีมือ สาขา การแปรรูปไม้ไผ่เป็นเก้าอี้ไม้ไผ่แบบพับเก็บได้ เพื่อเพิ่มมูลค่าไม้ไผ่เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ และการนำไม้ไผ่มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสู่ชุมชน ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกไผ่ในพื้นที่ ตำบลยมและตำบลจอมพระ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ภายใต้โครงการคลินิกพัฒนาฝีมือแรงงานเคลื่อนที่เพื่อการพัฒนาผลิตภาพแรงงาน

นางศรีวิไล สวนกูล ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดน่าน กล่าวว่า ไผ่เป็นไม้สารพัดประโยชน์ ซึ่งใช้เวลาในการปลูกเพียง 3-5 ปีก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้แล้ว และใช้ได้หมดตั้งแต่ราก ลำต้น และใบ โดยรากเป็นสมุนไพรรักษาโรค หน่อนำมาเป็นอาหาร กาบและใบใช้ห่ออาหารและหมักทำปุ๋ย กิ่งหรือแขนงใช้ทำรั้ว ส่วนลำต้นใช้ประโยชน์ได้สารพัดอย่าง ตั้งแต่ปลูกสร้างที่พักอาศัย การทำเครื่องจักสาน เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ตลอดจนเครื่องเรือน เฟอร์นิเจอร์ โดยจังหวัดน่านนั้น พื้นที่ตำบลยม และตำบลจอมพระ อ.ท่าวังผา จ.น่าน มีการปลูกไผ่จำนวนมากถึง 2 พันกว่าไร่ และทางกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกไผ่ มีความต้องการนำมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์สร้างอาชีพสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้าน โดยการแปรรูปไม้ไผ่เป็นเก้าอี้ไม้ไผ่แบบพับเก็บได้ ทางศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดน่าน จึงได้ดำเนินการจัดฝึกอบรมหลักสูตรยกระดับฝีมือ สาขาการแปรรูปไม้ไผ่เป็นเก้าอี้ไม้ไผ่แบบพับเก็บได้ เพื่อเพิ่มมูลค่าไม้ไผ่เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ สร้างทักษะเพิ่มเติมในรูปแบบเครื่องใช้ภายในบ้านให้ก่อเกิดรายได้ โดยนำวิทยากรผู้มีความรู้ ความชำนาญจากศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดกาฬสิน มาให้องค์ความรู้ และถ่ายทอดขั้นตอนการแปรรูปให้ได้มาตรฐาน จนเกษตรกรสามารถแปรรูปได้เองและสามารถนำมาเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว และชุมชนได้อีกทางหนึ่ง



ศรายุทธ  ประเสริฐนิรมล  ภาพ / ข่าว

น่านจัดกิจกรรมวันคล้ายวันสถาปนากองรักษารักษาดินแดน ครบรอบ 60 ปี

ที่ศาลาการเปรียญวัดช้างค้ำวรวิหาร จังหวัดน่าน นายกองเอกอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ในฐานะผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดน่าน เป็นประธานพิธี วันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2557 โดยในพิธีประกอบด้วยพิธีทางศาสนา เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนที่เสียชีวิตไปแล้ว การกล่าวการชุมนุมผู้บังคับบัญชาเจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เพื่อแสดงถึงความพร้อม ความมีระเบียบวินัย ความสามัคคี การมอบเข็มอาสารักษาดินแดนสดุดี การมอบประกาศนียบัตรกองร้อย อส.มาตราฐาน เพื่อเชิดชูเกียรติแก่ผู้ประกอบคุณงามความดี ผู้เสียสละปฏิบัติภารกิจหน้าที่ของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน โอกาสนี้ผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดน่านได้อ่านสารของผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน ที่มีให้แก่สมาชิกเนื่องในวันวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2557 ด้วย

สำหรับ "กองอาสารักษาดินแดน” ได้จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. 2497 เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2497 เป็นต้นมา จนถึง วันนี้ รวม 60 ปี โดยภารกิจหน้าที่ของเหล่าสมาชิก อส. คือภารกิจตามมาตรา16 แห่ง พ.ร.บ.กองอาสารักษาดินแดน พ.ศ.2497 เช่นบรรเทาสาธารณภัย อันเกิดจากธรรมชาติ และการกระทำของข้าศึก ภารกิจสนับสนุนนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในการป้องกันและปราบปรามอาชากรรมยาเสพติดและทรัพยากรธรรมชาติ และเป็นกำลังสนับสนุนฝ่ายทหารในการป้องกันประเทศ ซึ่งภารกิจในปัจจุบันหรือตามนโยบายของผู้บริหารระดับสูง ซึ่งภารกิจทั้งเชิงรุก การประสานงานกิจกรรม ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีตลอดมาจนถึงปัจจุบัน การจัดงานวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ครั้งนี้ ได้มีการมอบเครื่องหมายรักษาดินแดนสดุดีให้แก่ผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่และสมาชิกอาสาฯ รวม 52 ราย กองอาสารักษาดินแดนจังหวัดน่านได้มอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรสมาชิกจำนวน 8 ทุน และสมาคมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดน่านได้ร่วมกันมอบทุนการศึกษาจำนวน 43 ทุน ให้แก่บุตรของเหล่าสมาชิก อส. ที่มีความประพฤติดี เรียนดี เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่บุตรหลานของสมาชิก อส. ในครั้งนี้ด้วย



ศรายุทธ  ประเสริฐนิรมล  ภาพ / ข่าว

สื่อมวลชนภาคเหนือ ร่วมงานเวทีเสวนาร้อยรวมใจเพื่อใต้สันติสุข

สื่อมวลชนภาคเหนือ ร่วมเสวนาจัดเวทีเสวนาร้อยรวมใจเพื่อใต้สันติสุข สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภาค 3 เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในหลักคำสอนของศาสนาพุทธและอิสลามที่ถูกต้อง และอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา นายอดิศร กำเนิดศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัด เชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา เรื่อง "เวทีเสวนาร้อยรวมใจเพื่อใต้สันติสุข สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด ภาค 3” ณ ห้องอิมพีเรียล ฮอลล์ ๒ โรงแรมอิมพีเรียล แม่ปิง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้เข้าร่วมการสัมมนา ประกอบด้วย สื่อมวลชนและเครือข่ายการประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดแม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน เชียงราย ลำพูน พะเยา ลำปาง และจังหวัดเชียงใหม่ รวมจำนวน 80 คน

การสัมมนาในครั้งนี้ ในช่วงเช้าประกอบด้วยการจัด เวทีเสวนาร้อยรวมใจเพื่อใต้สันติสุข สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด ภาค 3 เรื่อง "ประสบการณ์การปฏิบัติงานประชาสัมพันธ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้” โดย พลตรีอัคร ทิพย์โรจน์ ที่ปรึกษากองทัพบก และเรื่อง "หลักคำสอนทางศาสนาเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ” เป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองร่วมกันในเรื่องของหลักคำสอนของศาสนาพุทธและศาสนาอิสลาม ที่มุ่งส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และแนวทางการดำรงชีวิตโดยยึดหลักสันติวิธี จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ อาจารย์ซอแระห์ (วินัย) แสวงศิริผล และพระมหาช่วง ภูรีวฑฒโน วัดศรีชลธาร อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

จากนั้น ในภาคบ่าย ผู้เข้าร่วมการสัมมนาเข้าศึกษาดูงานการแสดงสินค้าฮาลาล นานาชา เชียงใหม่ "Chiang Mai Halal International Fair : CHIF 2014” ซึ่งกำหนดจัดในระหว่างวันที่ 6-9 กุมภาพันธ์ 2557 ณ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต จัดโดยจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย คณะอิสลามประจำจังหวัดเชียงใหม่ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายมหาวิทยาลัยในภาคเหนือ และองค์กรพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ภายในงานมีการจัดประชาสัมพันธ์เผยแพร่สินค้า ผลิตภัณฑ์ การบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับฮาลาลและมุสลิมจากทุกภาคของประเทศ รวมถึงจากกลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และกลุ่ม GMS-BIMSTEC เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในวิถีชีวิตของชาวมุสลิม โดยเฉพาะในเรื่องของฮาลาล ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติที่สำคัญประการหนึ่งของคนมุสลิม อันจะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขต่อไป

นายอำเภอจุน เผยเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดบนที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ จะไม่ได้รับการช่วยเหลือตามโครงการมาตรการแทรกแซงราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2556 ขณะเดียวกันให้สนธิกำลังปกป้องป่าอย่างเข้มงวด

นายศักดิ์ชัย โชติมานนท์ นายอำเภอจุนจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า จากผลการพิจารณาเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ได้ขึ้นทะเบียนขอเข้าร่วมโครงการมาตรการแทรกแซงราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2556 กรณีรายที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์และไม่มีชื่อในฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2556/57 โดยการตรวจสอบพื้นที่ดินของหน่วยงานกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้แจ้งมาเป็นหนังสือจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยาที่ พย 0013.1/3 ลงวันที่ 3 มกราคม 2557 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาว่า ผลการพิจารณาตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการสิทธิของเกษตรกรว่า เกษตรกรที่เข้าไปดำเนินการในพื้นที่ของสวนป่าหน่วยจัดการต้นน้ำวนอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถอนุญาตให้เข้าไปทำประโยชน์เพื่อปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ จึงไม่สามารถรับรองตามประเภทที่ดินตามข้อ 2 (11) ได้ โดยมีเกษตรกรที่เข้าไปดำเนินการในเขตพื้นที่ป่าดังกล่าวในอำเภอจุน ได้แก่ ตำบลพระธาตุขิงแกงจำนวน 120 ราย พื้นที่ 1,659 ไร่ , ตำบลจุน 20 ราย พื้นที่ 145 ไร่ , ตำบลห้วยข้าวก่ำ 3 รายพื้นที่ 16 ไร่ , และตำบลหงส์หินจำนวน 1 ราย พื้นที่ 6 ไร่

นายอำเภอจุนจังหวัดพะเยา ยังกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันสถานการณ์ป่าอนุรักษ์ของประเทศเหลืออยู่เพียง 73 ล้านไร่ หรือประมาณ 116,800 ตารางกิโลเมตร หรือเพียงร้อยละ 22.81 ของพื้นที่ประเทศไทย หากยังมีการปล่อยให้บุกรุกยึดถือครองพื้นที่อย่างผิดกฏหมาย จำนวนพื้นที่ป่าก็จะลดลงไปเรื่อยๆ จึงขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันปกป้อง คุ้มครอง รักษาและอนุรักษ์ให้คงอยู่ให้นานที่สุด พร้อมกันนี้ยังได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทับพญาลอ เจ้าหน้าที่ตำรวจและปกครองอำเภอจุนได้สนธิกำลังใช้มาตรการทางกฎหมายให้เข้มงวดขึ้นอีกด้วย



ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

พะเยา จัดพิธีระลึกวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2557 พร้อมมอบเข็มอาสารักษาดินดินแก่สมาชิก อส.และมอบทุนการศึกษาแก่บุตร – ธิดาสมาชิกอาสารักษาดินแดน

พะเยา จัดพิธีระลึกวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2557 พร้อมมอบเข็มอาสารักษาดินดินแก่สมาชิก อส.และมอบทุนการศึกษาแก่บุตร – ธิดาสมาชิกอาสารักษาดินแดน

วันนี้ (10 ก.พ.57) ที่กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดพะเยา นายกองเอกชูชาติ กีฬาแปง ผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดพะเยา เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2557 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ เหล่ากาชาดจังหวัด และสมาชิก อส.ในพื้นที่จังหวัดพะเยาเข้าร่วม ซึ่งกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย พิธีทางศาสนาเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่สมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดนที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ การกล่าวคำปฏิญาณตนของเหล่าสมาชิก อส. รวมทั้งการอ่านสารของผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน

พร้อมกันนี้ ผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดพะเยา ได้ประธานมอบเข็มอาสารักษาดินแดนสดุดี แก่ผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน จำนวน 38 ราย มอบทุนการศึกษาจากมูลนิธิอาสารักษาดินแดน ทุนผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ทุนสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด , ทุนการศึกษาจากสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และเหล่ากาชาดจังหวัด รวม 65 ทุน เป็นเงิน 91,000 บาท

สำหรับวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน เริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2497 เพื่อให้เกิดกิจการด้านพลเรือนอาสา ที่มีรูปแบบและระบบการจัดการที่ชัดเจนมากขึ้น จึงถือเอาวันที่ 10 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน บทบาทหน้าที่ของกองอาสารักษาดินแดน ตามพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. 2497 กำหนดไว้ 6 ประการ คือ บรรเทาภัยที่เกิดจากธรรมชาติและการกระทำของข้าศึก ทำหน้าที่ตำรวจรักษาความสงบภายในท้องที่ร่วมกับพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ รักษาสถานที่สำคัญและ การคมนาคม ป้องกันการจารกรรม สดับตรับฟังและรายงานข่าว ทำความช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่ ฝ่ายทหารตามที่ทหารต้องการและตัดทอนกำลังข้าศึก เป็นกำลังสำรองส่วนหนึ่งที่พร้อมจะเพิ่มเติมและสนับสนุนกำลังทหารได้เมื่อจำเป็น ภารกิจในปัจจุบันที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย



ข่าวโดย : ทีมข่าว ส.ปชส.พะเยา

จังหวัดพะเยา จัดพิธีระลึกวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2557

จังหวัดพะเยา จัดพิธีระลึกวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2557 พร้อมมอบเข็มอาสารักษาดินดินแก่สมาชิก อส.และมอบทุนการศึกษาแก่บุตร – ธิดาสมาชิกอาสารักษาดินแดน

เช้าวันนี้ (10 ก.พ.57) นายกองเอกชูชาติ กีฬาแปง ผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดพะเยา เป็นประธานในพิธีวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2557 ที่ศาลาประชาคมจังหวัดพะเยา โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ เหล่ากาชาดจังหวัดและสมาชิก อส.ในพื้นที่จังหวัดพะเยาเข้าร่วม ซึ่งกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย พิธีทางศาสนาเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่สมาชิกอาสาสมัครรักษาดินแดนที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ การกล่าวคำปฏิญาณตนของเหล่าสมาชิก อส. รวมทั้งการอ่านสารของผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน พร้อมกันนี้ผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดพะเยา ยังได้เป็นประธานมอบเข็มอาสารักษาดินแดนสดุดีแก่ผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน จำนวน 38 ราย พร้อมทั้งมอบทุนการศึกษามูลนิธิอาสารักษาดินแดนในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมแม่บ้านมหาดไทย และเหล่ากาชาดจังหวัด แก่บุตร ข้าราชการ ลูกจ้าง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน อีกจำนวน 65 ทุน เป็นเงิน 91,000 บาท

สำหรับวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน เริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2497 เพื่อให้เกิดกิจการด้านพลเรือนอาสา ที่มีรูปแบบและระบบการจัดการที่ชัดเจนมากขึ้น จึงถือเอาวันที่ 10 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน บทบาทหน้าที่ของกองอาสารักษาดินแดน ตามพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. 2497 กำหนดไว้ 6 ประการ คือ บรรเทาภัยที่เกิดจากธรรมชาติและการกระทำของข้าศึก ทำหน้าที่ตำรวจรักษาความสงบภายในท้องที่ร่วมกับพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ รักษาสถานที่สำคัญและ การคมนาคม ป้องกันการจารกรรม สดับตรับฟังและรายงานข่าว ทำความช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่ ฝ่ายทหารตามที่ทหารต้องการและตัดทอนกำลังข้าศึก เป็นกำลังสำรองส่วนหนึ่งที่พร้อมจะเพิ่มเติมและสนับสนุนกำลังทหารได้เมื่อจำเป็น ภารกิจในปัจจุบันที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย



ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

อบต.แม่ยวมน้อย ร่วมกับชาวบ้านบวชป่าฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม

ที่บริเวณดอยผา ตำบลแม่ยวมน้อย อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายวิจารณ์ ณรงค์รุ่งเรือง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ยวมน้อย ร่วมกับชาวบ้านจัดโครงการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการนำชาวเข้าร่วมพิธีบวชป่า มีพระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลให้เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าไม้ของดอยผา ซึ่งเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้นานาพันธุ์ หลังจากพิธีสงฆ์เสร็จสิ้นได้มีการมอบผ้าห่มกันหนาวให้ชาวบ้านที่มาร่วมพิธีบวชป่า และมอบผ้าเหลืองเพื่อสำหรับบวชต้นไม้ให้ชาวบ้านช่วยกันนำไปผูกต้นไม้ในพื้นที่เพื่อเป็นการบวชป่าตามประเพณีความเชื่อของชาวบ้านว่าต้นไม้ที่มีผ้าเหลืองผูกติดไว้ถือว่าเป็นการบวชแล้วถ้าใครไปตัดก็จะเป็นบาปติดตัว ปัจจุบันนี้ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยนับวันจะเหลือน้องลง เนื่องจากมีประชากรเพิ่มขึ้น การบุกรุกพื้นที่เพื่อทำการเกษตรก็จะเพิ่มขึ้น ทำให้ทรัพยากรป่าไม้ถูกทำลายจำนวนมากกว่า 60 % ดังนั้นจึงต้องปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนเห็นความสำคัญของป่าไม้และแหล่งน้ำ ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ยวมน้อยได้นำชาวบ้านในเขตรับผิดชอบของแม่ยวมน้อย อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นชาวกะเหรี่ยง และตำบลแม่สึก เขตอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นชาวเขาเผ่าม้ง ซึ่งมีพื้นที่เขตติดต่อร่วมกันรักษาป่าไว้ให้ลูกหลานและเยาวชนได้สานต่อในการดูแลป่าไม้ เขตพื้นที่ดอยผา ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลโดยประมาณ 1,800 เมตร ในตอนเช้ามีทะเลหมอกอากาศจะหนาวเย็นอยู่ที่ 5 องศาเซลเซียส และตอนเย็นก็จะมองเห็นพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลจะเสนอของบประมาณยุทธศาสตร์จังหวัดพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติให้นักท่องเที่ยวสามารถพักกางเตนท์ชมความสวยงามและสัมผัสบรรยากาศที่หนาวเย็น.



ข่าวโดย : ศุภวัฒน์ สมบูรณ์

กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดงานเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2557

เช้าวันนี้ (10 ก.พ.57)  นายกองเอกสุรพล พนัสอำพล ผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัด แม่ฮ่องสอน เป็นประธาน งานวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ครบปีที่ 60 ที่กองร้อยอาสk รักษาดินแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ 1 โดยมีพิธีทางศาสนา พระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความ เป็นสิริมงคลและอุทิศส่วนกุศลให้กับ อส.ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ผู้บังคับบัญชาและ อส.ผู้ล่วง ลับไปแล้ว

จากนั้นผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน อ่านสาส์นนายกองใหญ่ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดง และมอบเข็มอาสารักษาดินแดนสดุดีแก่ผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน 33 นาย มอบทุนการศึกษามูลนิธิอาสารักษาดินแดน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จำนวน 9 ทุน เป็นเงิน 23,000 บาท ทุนจากผู้ว่าราชการ จ.แม่ฮ่องสอน 9 ทุน เป็นเงิน 10,500 บาท พร้อมกันนี้นางหทัยชนก พนัสอำพล ประธานแม่บ้านมหาดไทย จ.แม่ฮ่องสอน มอบทุนการศึกษาของสมาคมแม่บ้านมหาดไทย จำนวน 14 ทุน เป็นเงิน 20,000 บาท ทุนของเหล่ากาชาด จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 11 ทุน เป็นเงิน 14,500 บาท

กองอาสารักษาดินแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับรางวัลกองร้อยอาสารักษาดินแดนที่มีผลงานดีเด่น ประจำปี 2556 รวม 3 รางวัลประกอบด้วย กองอาสารักษาดินแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ 1 ได้รับรางวัลที่ 1 ประเภทรางวัลกองอาสารักษาดินแดนจังหวัด กองร้อยบังคับการและบริการ กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับรางวัลที่ 2 ประเภทกองร้อยบังคับการและบริการ และกองร้อยอาสารักษาดินแดน อ.ขุนยวมที่ 6 ได้รับรางวัลกองร้อยมาตรฐาน ประเภทกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอ กองอาสารักษาดินแดน จัดตั้งเมื่อปีพุทธศักราช 2497 เพื่อให้มีกำลังสำรองไว้ช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติ ทั้งยามปกติและสงคราม โดยรับสมัครราษฎรที่สมัครใจอาสาเข้ามาเป็นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน หรือ อส.

ปัจจุบันจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีสมาชิก อส.รวม 508 อัตรา มีภารกิจหลักด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดร่วมกับหน่วยงานหลัก ด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและอื่นๆตามที่ไดรับมอบหมาย



ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว

วันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน จ.แม่ฮ่องสอน

กองอาสารักษาดินแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดงานวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบทุบกาศึกษาให้แก่บุตรหลาน อส.

ณ บริเวณ กองอาสารักษาดินแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายกองเอก สุรพล พนัสอำพล ผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประธานการจัดกิจกรรมเนื่องในวันวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ในวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ของทุกปี ช่วงเช้าประกอบพิธีทางศาสนาเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ ผู้บังคับบัญชาเจ้าหน้าที่และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนที่เสียชีวิต การชุมชนผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่และสมาชิกอาสารักษาดินแดน เพื่อร่วมรับฟังสารของนางกองใหญ่ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ผู้บังคับบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน และกำหนดสัปดาห์ในห่วงวันที่ ๖-๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ จัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ในด้านการพัฒนาวัด บริเวณวัด และพัฒนาสถานที่ราชการอื่น ๆ การมอบทุนการศึกษาบุตรหลานสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน จำนวน ๔๓ ทุน ทุนของมูลนิธิอาสารักษาดินแดน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จำนวน ๙ ทุน ทุนของสมาคมแม่บ้านมหาดไทย จำนวน ๑๑ ทุน ทุนของเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน ๑๔ ทุน ทุนผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน ๙ ทุน และในปีนี้กองอาสารักษาดินแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับรางวัลกองร้อยอาสารักษาดินแดนที่มีผลงานดีเด่นประจำปี ๒๕๕๖ จำนวน ๓ รางวัล



ข่าวโดย : ดำเนิน ท้วมจอก ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านตำบลแม่ลาน้อย คว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง ในงานฤดูหนาวและงานรื่นเริงประจำปี 2557

ค่ำวานนี้ (9 กุมภาพันธ์ 2557) นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานมอบรางวัล การประกวดร้องเพลงลูกทุ่งพนักงานฝ่ายปกครอง ผู้บริหาร และสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและครอบครัว ในงานฤดูหนาวและงานรื่นเริงประจำปี 2557 ที่ถนนนาวาคชสาร อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน โดยมีผู้ผ่านการคัดเลือกในรอบชิงชนะเลิศจำนวน 10 คน ร่วมประกวด ซึ่งผลการแข่งขันมีดังนี้ รางวัลชนะเลิศได้แก่ นางสาวสุภาวดี ผ่องจิตร์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านตำบลแม่ลาน้อย รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล รองชนะเลิศ ได้แก่ นายนัฐพงษ์ ไผ่พันธ์พฤกษ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านตำบลห้วยห้อม และ นายสุรพล ต๊ะวิชัย สมาชิกสภาเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน รับถ้วยรางวัล พร้อมเงินสด 5,000 บาท และ 3,000 บาท ตามลำดับ

รางวัลชมเชยได้แก่ จ่าสิบเอกสมบรูณ์ มหาวรรณ ผู้ใหญ่บ้านประตูเมือง ตำบลแม่เงา อำเภอขุนยวม และ นางนัยรัตน์ เจริญเมือง ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอแม่สะเรียง รับเงินรางวัล 1,500 บาท และรางวัลขวัญใจมหาชน ได้แก่ นางกนกพร จรรยาขจรกุล ผู้ใหญ่บ้านไม้สะเป่ ตำบลปางหมู รับเงินรางวัล 8,000 บาท
งานฤดูหนาวและงานรื่นเริงประจำปี 2557 จะมีไปจนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2557



ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบนโยบายแก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่

เช้าวันนี้ (10 กุมภาพันธ์ 2557) นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานมอบนโยบาย แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่ ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีแผนยุทธศาสตร์ หลายด้าน ประกอบด้วย ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชน โดยส่งเสริมให้ปลูกกาแฟ แมคคาดิเมีย ข้าว พริกกะเหรี่ยง เพื่อเพิ่มรายได้แก่เกษตรกร ด้านการค้าชายแดน จังหวัดแม่ฮ่องสอนเตรียมเปิดด่านการค้าชายแดน ที่บ้านห้วยต้นนุ่น อ.ขุนยวม ซึ่งจะทำให้การค้าชายแดนคึกคักมากขึ้น และอนาคตเส้นทางคมนาคม ระหว่างประเทศไทยไปสหภาพเมียนมาร์ จะผ่านจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยจะใช้เป็นทั้งการท่องเที่ยวและขนส่งสินค้าด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับนายอำเภอในพื้นที่จัดโครงการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีกับสหภาพเมียนมาร์


ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว

สาธารณสุขแม่ฮ่องสอน เตรียมพร้อมรับผลกระทบจากปัญหาไฟป่าและหมอกควัน

สำนักงานสาธารณสุข จ.แม่ฮ่องสอน เตรียมพร้อมรับผลกระทบจากปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกพื้นที่และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน รณรงค์สร้างความรู้และแนะนำประชาชนในการมีส่วนร่วมป้องกันและวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องเมื่อมีสถานการณ์หมอกควัน

นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เนื่องจากปัญหาไฟป่าและหมอกควันพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ในปีที่ผ่านมาพบว่ามีค่าเกินมาตรฐานอยู่ 38 วัน ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยพบผู้ป่วยด้วยระบบทางเดินหายใจมารับบริการที่สถานบริการสาธารณสุขหลายหมื่นคน ซึ่งค่าปริมาณฝุ่นละอองไม่เกิน 10 ไมครอน ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง สูงเกินค่ามาตรฐานที่กำหนด 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่าอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตาและจมูก อาทิ มีอาการแสบตา คัดจมูก น้ำมูกไหล หรือ ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคหลอดลมอักเสบ จะมีอาการไอ เจ็บคอ หายใจติดขัดและเกิดผื่นคัน ในปีนี้ทางสำนักงานสาธารณสุข จ.แม่ฮ่องสอน จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกพื้นที่และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน รณรงค์สร้างความรู้และแนะนำประชาชนในการมีส่วนร่วมป้องกันและวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องเมื่อมีสถานการณ์หมอกควันคือ การหลีกเลี่ยงอยู่ในสถานที่ซึ่งมีหมอกควันหรือฝุ่นละออง ควรใช้หน้ากากอนามัยชนิดกรอง 3 ชั้น ปิดปากและจมูก เพราะจะช่วยป้องกันฝุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 ไมครอนได้
ทั้งนี้ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ สำหรับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพราะมีภูมิต้านทานต่ำ ควรปิดหน้าต่าง ประตู เพื่อป้องกันไม่ให้หมอกควันลอยเข้าสู่บ้าน หลีกเลี่ยงการออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น หากมีอาการผิดปกติหลังจากสูดดมฝุ่นละอองหมอกควัน ได้แก่ แน่นหน้าอก หายใจติดขัด แสบตา ให้รีบไปพบแพทย์ทันที กรณีเมื่อเกิดสถานการณ์หมอกควันประชาชนสามารถขอรับหน้ากากอนามัยได้ที่ โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่



ข่าวโดย : ณัฏฐพันธ์ กีรติกานต์ชัย

สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดอบรมหลักสูตร "ความรู้เบื้องต้นในการประกอบการอุตสาหกรรมและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน"

สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดอบรมหลักสูตร "ความรู้เบื้องต้นในการประกอบการอุตสาหกรรมและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน" ระหว่างวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ณ ห้องประชุมธาราทิพย์ โรงแรมอิมพีเรียลธาราแม่ฮ่องสอน

นางกฤษนันท์ ทะวิชัย อุตสาหกรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ตามที่อุตสาหกรรม ได้จัดทำโครงการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมส่วนภูมิภาค ปี ๒๕๕๗ เพื่อให้ผู้ประกอบการ สามารถยกระดับคุณภาพการผลิตให้ทัดเทียมกับคู่แข่งที่มีมากขึ้น ในเวทีการค้าเสรี เพื่อส่งเสริม ด้านการตลาดของผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย ให้ผู้ประกอบการตระหนักถึงความสำคัญในการประกอบกิจการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมสีเขียว สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้กำหนดจัดอบรมสัมมนาหลักสูตร “ความรู้เบื้องต้นในการประกอบการอุตสาหกรรมและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน” โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมชุมชน และผู้สนใจทั่วไป กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ณ ห้องประชุมธาราทิพย์ โรงแรมอิมพีเรียลธาราแม่ฮ่องสอน

อุตสาหกรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เชิญชวนให้ผู้ประกอบการ ผู้ผลิตในชุมชน และผู้สนใจทั่วไปสมัครเข้าร่วมอบรมสัมมนาตามโครงการดังกล่าว ณ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรม ชั้น ๒ ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่อย่างใด และรับจำนวนจำกัด เฉพาะ ๕๐ ท่าน เท่านั้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์หมายเลข ๐ ๕๓๖๑ ๒๐๙๘ ต่อ ๑๘ โทรสาร ๐ ๕๓๖๑ ๑๙๐๓ ในวันและเวลาราชการ หรือ E-mail :moi_maehongson@industry.go.th



ข่าวโดย : อ่อนศรี ศรีอัมพร ทีมข่าว ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

นักโบราณคดีระบุ แหล่งโบราณคดีในถ้ำที่พบใหม่ในพื้นที่ อ. ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอนมีหลักฐานสมบูรณ์มากทั้งโครงกระดูก และโลงไม้มีความสำคัญระดับประเทศและเชื่อมโยงไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

( 8-10 ก.พ.)รองศาสตราจารย์ ด.ร. รัศมี ชูทรงเดช นักโบราณคดี หัวหน้าโครงการวิจัยแหล่งโบราณคดีในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย หรือสกว. นำสื่อมวลชนเยี่ยมการขุดค้นหาทางโบราณคดี สำรวจแหล่งโบราณคดี ภายในถ้ำที่พบใหม่ พื้นที่ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน

หัวหน้าโครงการวิจัยแหล่งโบราณคดี ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า การค้นพบครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญมากโดยเฉพาะในเรื่องวัฒนธรรมโลงไม้ เพราะแหล่งโบราณคดีในถ้ำที่พบใหม่ อ. ปางมะผ้า มีความหลักฐานที่สมบูรณ์มากทั้งโครงกระดูก โลงไม้ โดยโลงที่พบมีการเคลือบรัก เศษผ้า และเครื่องเซ่น ขณะนี้กำลังศึกษาอายุของโลงไม้ รักที่เคลือบที่โลงไม้ เป็นชนิดเดียว กับที่ปลูกในปางมะผ้าหรือไม่
หัวหน้าโครงการวิจัยแหล่งโบราณคดี ในพื้นที่จ.แม่ฮ่องสอนกล่าวด้วยว่ามีความห่วงใยในการศึกษาขุดค้นครั้งนี้ เพราะยังต้องใช้เวลาอีกกว่า 1 ปีจึงจะแล้วเสร็จ อยากให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชนเฝ้าระวัง ไม่อยากให้ใครเข้าไปรบกวน เพราะหลักฐานจะเสียหายได้



ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว

ประธานมูลนิธิพัฒนาสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ ประจำจังหวัดลำปาง

ท่านผู้หญิงปรียา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ประธานมูลนิธิพัฒนาสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี พร้อมด้วย คุณหญิงทิพาพร สิตปรีชา กรรมการมูลนิธิฯ และคณะกรรมการตรวจเยี่ยม ได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงาน ของสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ ประจำจังหวัดลำปาง ที่ สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี บ้านทุ่งกล้วย ตำบลบ้านเอื้อม อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง โดยมี นายฤทธิพงศ์ เตชะพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นผู้แทนจังหวัด นำคณะผู้บริหารสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดลำปาง หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด-อำเภอ หัวหน้าหน่วยงานประจำตำบล พนักงาน เจ้าหน้าที่สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯบ้านทุ่งกล้วย คณะผู้บริหารองค์การส่วนตำบลบ้านเอื้อม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ตำบลบ้านเอื้อม จำนวนกว่า 500 คน ร่วมกันให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ การตรวจเยี่ยมของคณะกรรมการฯ ดังกล่าว เป็นการเดินทางลงพื้นที่ เพื่อตรวจติดตามผลการดำเนินงาน ของสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ ที่มีประจำอยู่ในส่วนภูมิภาคกว่า 80 แห่ง ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งคณะกรรมการตรวจเยี่ยม จะต้องออกตรวจติดตามผลเป็นระยะทุกๆ 2 ปี เพื่อจะรับทราบปัญหาอุปสรรคในการทำงาน และร่วมหาแนวทางการสนับสนุน เพื่อพัฒนาระบบการบริการด้านสาธารณสุข ด้านการพยาบาล ของสถานีมัยเฉลิมพระเกียรติฯ ให้เป็นไปอย่างมีมาตรฐาน และให้มีการพัฒนาสถานีมัยเฉลิมพระเกียรติฯ ไปสู่การเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลต้นแบบต่อไป ตลอดจนเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และสมาชิกกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่

โดยการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ ทางสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ บ้านทุ่งกล้วย ได้บรรยายสรุปนำเสนอผลการดำเนินงานใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ โครงการกิจกรรมการแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุข กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ และปัญหาอุปสรรคกับแนวทางดำเนินงาน ที่ต้องการขอรับการสนับสนุน พร้อมกับได้มีการนำเสนอผลงานนวัตกรรม ในรูปแบบนิทรรศการ ของสถานีมัยฯ หน่วยงานสาธารณสุข และกลุ่มสมาชิกเครือข่ายในพื้นที่ อาทิ ด้านการรักษาพยาบาล ด้านการป้องกันและควบคุมโรค ด้านการส่งเสริมสุขภาพ ด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพ ด้านการแพทย์แผนไทย ด้านการบริการทันตสาธารณสุข และด้านการพัฒนาการพยาบาลเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน หรือ AEC ซึ่งในโอกาสนี้ ท่านผู้หญิงปรียา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ประธานมูลนิธิพัฒนาสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ ได้ให้เกียรติเดินเยี่ยมชมผลงานนวัตกรรมที่หน่วยงานต่างๆ และกลุ่มเครือข่าย ได้นำมาจัดแสดง พร้อมกับเดินเยี่ยมทักทายกับ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และประชาชน ที่มาเฝ้าคอยให้การต้อนรับในครั้งนี้ด้วย.
ดูคลิป http://youtu.be/H0gYHyWeUvs



ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต

ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยลำปาง จัดงาน "คชบาลสานรัก เที่ยวบอกรัก @ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ลำปาง" ในเทศกาลวันแห่งความรัก

สถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ศูนย์ลำปาง ชมรมถ่ายภาพจังหวัดลำปาง และภาคเอกชน ร่วมจัดงาน "คชบาลสานรัก เที่ยวบอกรัก @ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ลำปาง" ปล่อยลูกโป่ง ๙๙ ลูกสู่ท้องฟ้า "รักของฉัน...ไร้พรมแดน ในเทศกาลวันแห่งความรัก ระหว่างวันที่ ๑๔ – ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ณ สถาบันคชบาลแห่งชาติ (ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย) อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง

นายภาสกร มีวาสนา ผู้อำนวยการสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กล่าวเชิญชวนคู่รัก ครอบครัว เพื่อนรัก และผู้มีความรักทุกท่าน ร่วมงานเทศกาลวันแห่งความรักระหว่างวันที่ ๑๔ – ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ด้วยทุกวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรักในทางคริสต์ศาสนา สำหรับปี ๒๕๕๗ ได้ตรงกับวันมาฆบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงประทานโอวาทปาฏิโมกข์ ซึ่งกล่าวถึงหลักคำสอนอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ได้แก่ การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การบำเพ็ญความดีให้ถึงพร้อม และการทำจิตของตนให้ผ่องใส เพื่อเป็นหลักปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนทั้งมวล และ ในปี พ.ศ. 2549 รัฐบาลไทยได้ประกาศให้วันมาฆบูชา ให้เป็น "วันกตัญญูแห่งชาติ" หลายหน่วยงานจึงพยายามรณรงค์ให้วันมาฆบูชาเป็นวันแห่งความรัก (อันบริสุทธิ์) ทำให้มนุษย์ทุกชาติทุกภาษาอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข
กิจกรรมภายในงาน เช่น พาคนรักมาชมการแสดงช้าง เวลา ๑๐.๐๐ น. ๑๑.๐๐ น. และ ๑๓.๓๐ น พาคนรักมานั่งช้างชมธรรมชาติ และ เยี่ยมให้กำลังใจช้าง เที่ยวบอกรัก ในเส้นทาง “ไหว้สาบูชารัก” ถ่ายภาพคู่รักกับช้าง ในบรรยากาศกลิ่นอายแห่งความรัก ของซุ้มดอกไม้ และ จุดถ่ายภาพ ภายในศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย รางวัลสุดพิเศษ และกิจกรรมที่น่าสนใจอีกหลากหลายรายการ

สำหรับวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๐๙.๐๙ น. ขอเชิญร่วมปล่อยลูกโป่งกับช้าง ๙๙ ลูก สู่ท้องฟ้าพร้อมประกาศรัก “รักของฉัน...ไร้พรมแดน”สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ ๐๕๔ – ๘๒๙๓๒๒ ,



ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.ลำปาง

เทศบาลเมืองเขลางค์นครเชิญชวนร่วมนรับบริการเทศบาลเคลื่อนที่ตามโครงการเทศบาลพบประชาชน ครั้งที่ 1 ประจำปี 2557 พร้อมร่วมออกกำลังกายกับคณะรำวงย้อนยุคของเทศบาล สร้างความสุขแก่ผู้รับบริการ

(10 ก.พ.57) นายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง นายกเทศมนตรีเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร เปิดเผยว่า เทศบาลเมืองเขลางค์นครขอเชิญชวนประชาชนในเขตบ้านจิตต์อารีวิลเลจ 1 ชุมชนบ้านหนองวัวเฒ่า ชุมชนบ้านหนองห้าตะวันออก และชุมชนใกล้เคียง ร่วมรับบริการหน่วยงานเทศบาลเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นกิจกรรมโครงการเทศบาลพบประชาชน ครั้งที่ 1 ประจำปี 2557 ในวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 ณ บริเวณสะพานชุมชนบ้านหนองห้าตะวันออก ชุมชนบ้านหนองห้าตตะวันออก หมู่ 7 ตำบลพระบาท อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เพื่อออกไปให้บริการสาธารณะ ครอบคลุมภารกิจของเทศบาลนอกสถานที่ ซึ่งเป็นการปฏิบัติงานในเชิงรุกตามนโยบายของรัฐบาล

ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนอง ความต้องการของประชาชนในชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาลได้อย่างทั่วถึง โดยในครั้งนี้เทศบาลเมืองเขลางค์นครจะได้ ให้บริการตั้งแต่เวลา 16.30น. เป้นต้นไป ในงานมีการบริการต่างๆ อาทิ รับบริการคำร้องต่างๆ บริการให้คำปรึกษาเรื่องการพัฒนาชุมชนและการสังคมสงเคราะห์ในชุมชน บริการตรวจวัดความดัน ชั่งน้ำหนัก บริการตัดผม เสริมสวย บริการตรวจวัดสายตา บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า นำขยะอันตรายจากชุมชนมาแลกไข่ไก่ และของที่ระลึกมากมาย



ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์

เกษตรจังหวัดลำปาง แจ้งเตือนเกษตรกรผู้ปลูกพืชฤดูแล้งให้หลีกเลี่ยงการปลูกข้าวนาปรัง หันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทน

นายสมพร เจียรประวัติ เกษตรจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ในปีนี้มีแนวโน้มว่าสถานการณ์ภัยแล้งของจังหวัดลำปาง อาจทวีความรุนแรงมากขึ้น แม้ว่าในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานพื้นที่ทำการเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง แต่ทั้งนี้ ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ ทั้งระดับตำบลและอำเภอ ออกติดตามเฝ้าระวังสถานกาณ์

โดยให้แต่ละพื้นที่เร่งออกประชาสัมพันธ์ชี้แจง ทำความเข้าใจกับเกษตรกรให้ลดพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง และให้กันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยแทน เช่น ถั่วเขียว หรือ ถั่วเหลือง เกษตรกรที่ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น ให้งดพรวนดินบริเวณโคนต้น และใช้เศษวัสดุทางการเกษตรมาคลุมดินบริเวณโคนต้น เพื่อป้องกันการระเหยของน้ำในดิน สำหรับเศษวัสดุทางการเกษตร เช่น ในไม้ กิ่งไม้แห้ง แนะให้ทำปุ๋ยหมักแทนการเผา เพราะการเผาจะทำให้เกิดฝุ่นละออง และมลพิษทางอากาศ ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพของประชาชนทั่วไป ตลอดจนทำให้เกิดการระเหยของน้ำผิวดินมากยิ่งขึ้น
เกษตรจังหวัดลำปาง กล่าวอีกว่า หากเกษตรกรมีข้อสงสัยด้านการปฏิบัติในการปลูกพืชฤดูแล้ง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำอำเภอ หรือ สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้านท่านได้ในวัน และเวลาราชการ



ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์

จังหวัดลำปาง จัดกิจกรรม ชุมนุมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เนื่องในวันครบรอบวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน

จังหวัดลำปาง โดยกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดลำปาง จัดงานพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศล และรับฟังสารของผู้บัญชาการ และรับฟังโอวาทของผู้บังคับการ กองอาสารักษาดินแดน เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2557 ที่ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดลำปาง ตำบลพระบาท อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง มีนายกองเอกธานินทร์ สุภาแสน ผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดลำปาง เป็นประธานพิธี โดยมี ผู้บังคับบัญชา รองผู้บังคับบัญชา หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนในสังกัด กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สมาคมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำปาง และนักเรียน นักศึกษา รวมจำนวนมากกว่า 300 คน เข้าร่วมพิธี

ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าวได้จัดขึ้น เพื่อให้สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดลำปาง และประชาชนทั่วไป ได้ร่วมกันทำบุญทักษิณานุประทาน อุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ให้แก่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว และเพื่อเป็นการร่วมชุมนุมผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนในพื้นที่ เพื่อร่วมกันตรวจสอบกำลังพล และรับฟังสารจากผู้บัญชาการ พร้อมรับฟังโอวาทจากผู้บังคับการ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ แก่เหล่าสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนในสังกัด
โดยการจัดงานครั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่สมาชิก และเจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน นายกองเอกธานินทร์ สุภาแสน ผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดลำปาง ได้มอบใบประกาศเกียรติคุณ และเข็มอาสารักษาดินแดนสดุดี ของกองบัญชาการรักษาดินแดน ประจำปี 2557 ให้แก่ผู้บังคับบัญชากองอาสารักษาดินแดนในสังกัด จำนวน 1 ราย และมอบทุนการศึกษาของมูลนิธิอาสารักษาดินแดน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ซึ่งเป็นทุนการศึกษาต่อเนื่อง ให้แก่บุตรของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดลำปาง จำนวน 2 ราย และในโอกาสนี้ นางอินทิรา สุภาแสน นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำปาง ได้เป็นผู้แทนมอบทุนการศึกษาสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ให้แก่บุตรสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดลำปาง และบุตรข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานของส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจ ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน 52 ทุน แบ่งเป็น ระดับประถมศึกษา 25 ทุนๆ ละ 1,500 บาท, ระดับมัธยมศึกษา 19 ทุนๆ ละ 2,000 บาท และระดับอุดมศึกษา 8 ทุนๆ ละ 3,000 บาท รวมเป็นเงินทุนการศึกษาที่มอบในครั้งนี้ จำนวนทั้งสิ้น 99,500 บาท นอกจากนี้ จังหวัดลำปาง และ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ได้ร่วมกันมอบผ้าห่ม พร้อมเสื้อกันหนาว ให้แก่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดลำปางทั้ง 14 กองร้อย กำลังพลทั้งสิ้น 110 นาย
ดูคลิป http://youtu.be/4ERT6-vGKe4



ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต

จ.ลำพูน ประกอบพิธีชุมนุมผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2557

จ.ลำพูน ประกอบพิธีชุมนุมผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2557 เพื่ออุทิศส่วนกุศลและรำลึกถึงคุณงามความดีของผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนที่เสียชีวิต

นายอาณัติ วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานในการประกอบพิธีชุมนุมผู้บังคับบัญชา หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ผู้บังคับกองร้อย เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ทั้ง 8 อำเภอ รวม 9 กองร้อย เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2557 ครบรอบเป็นปีที่ 60 ณ ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดลำพูน มีการจัดกิจกรรมทางศาสนาเพื่ออุทิศส่วนกุศลและรำลึกถึงคุณงามความดีของผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนที่เสียชีวิต รับฟังสารของผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน พิธีกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตน รวมทั้งมอบทุนการศึกษาของมูลนิธิอาสารักษาดินแดน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ให้แก่บุตรสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และบุตรข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง สังกัดกระทรวงมหาดไทย จากนั้นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนร่วมทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน โดย กองอาสารักษาดินแดน หรือ อส. เป็นกองกำลังอาสาสมัครสำรองไว้ช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติ ทั้งในยามปกติและยามศึกสงคราม ถือเป็นกำลังพลภาคประชาชนที่สำคัญในการปฏิบัติงานร่วมกับฝ่ายปกครอง ทหาร และตำรวจ ทั้งในด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม การรักษาความมั่นคงของประเทศ รวมถึงการป้องกันและบรรเทาภัยจากธรรมชาติ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานกรรมการและผู้บัญชาการโดยตำแหน่งปัจจุบัน คือ นายกองใหญ่จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทยพร้อมที่จะพัฒนาขีดความสามารถกำลังพลภาครัฐ ปรับปรุงสวัสดิการรวมทั้งสิทธิกำลังพลให้มีความเป็นธรรม อยู่ในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ

ทต.ป่าซาง กำหนดออกหน่วยรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและคุมกำเนิดประชากรสัตว์ ระหว่างวันที่ 20-28 กุมภาพันธ์นี้

นายสุพจน์ ปันสุรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลป่าซาง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า เทศบาลตำบลป่าซางกำหนดจัดโครงการรณรงค์ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและคุมกำเนิดประชากรสัตว์ ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 20-28 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 08.30–16.30 น. เพื่อให้สุนัขและแมวได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งเป็นโรคติดต่อร้ายแรงชนิดหนึ่ง เกิดจากการกัด หรือการข่วนจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น สุนัขหรือแมว โดยสามารถป้องกันได้ 2 ทาง คือ การป้องกันที่สัตว์เลี้ยง และการป้องกันที่ตัวเรา สำหรับการป้องกันที่สัตว์เลี้ยง วิธีที่ดีที่สุด คือ การฉีดวัคซีนป้องกัน ควรเริ่มฉีดวัคซีนเมื่อสัตว์เลี้ยงมีอายุ 3 เดือน จากนั้นให้ฉีดกระตุ้นอย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยลดอัตราการเกิดโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ และลดความเสี่ยงของประชาชนจากการถูกสุนัขที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้ากัด เป็นการป้องกันไม่ให้มีผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าว นอกจากนี้ยังกำหนดจัดให้มีการรณรงค์การควบคุมอัตราการเกิดของสัตว์เลี้ยงประเภทสุนัขและแมว ด้วยวิธีฉีดยาคุมกำเนิด ซึ่งจะช่วยลดอัตราการเกิดได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

เทศบาลตำบลป่าซางขอให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงนำบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดง เพื่อลงทะเบียนการรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและคุมกำเนิดประชากรสัตว์ ระหว่างวันที่ 20-28 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 08.30–16.30 น. ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลป่าซาง โทรศัพท์หมายเลข 0-5352-1007 ต่อ 16 ในวันเวลาราชการ



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ

ทต.ป่าซาง เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมพบปะและรับบริการสาธารณะ วันพุธที่ 12 และ 19 กุมภาพันธ์นี้

นายสุพจน์ ปันสุรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลป่าซาง เปิดเผยว่า เทศบาลตำบลป่าซางกำหนดจัดหน่วยพบปะและให้บริการสาธารณะแก่ประชาชน ในวันพุธที่ 12 และ 19 กุมภาพันธ์ 2557 โดยจัดโครงการเพื่อให้บริการประชาชน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการเทศบาลพบประชาชน เป็นการให้บริการจัดเก็บภาษี บริการตรวจสอบฐานข้อมูลผู้ขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุ–ผู้พิการ การให้ความรู้เรื่องการป้องกันและระงับอัคคีภัย ห้องสมุดเคลื่อนที่ ให้บริการรับเรื่องราวร้องทุกข์และให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมาย ฝึกอบรมอาชีพประกอบอาหาร บริการนวดแผนไทย ให้บริการตัดผม เสริมสวย ตรวจวัดสายตา บริการซ่อมบำรุงเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนและการจัดนิทรรศการแสดงผลงานในปีที่ผ่านมาของเทศบาลตำบลป่าซาง โครงการจัดทำแผนพัฒนาชุมชนและแผนพัฒนาเทศบาลตำบลป่าซาง ประจำปีงบประมาณ 2558 โดยจัดประชุมประชาคมท้องถิ่น สอบถามข้อมูล ปัญหา ความเดือดร้อน ความต้องการของประชาชนและชุมชน เพื่อนำมาดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน และจัดเตรียมโครงการในการพัฒนาท้องถิ่นในด้านต่างๆ ต่อไป และโครงการสาธารณสุขเคลื่อนที่ ให้บริการตรวจสุขภาพและให้ความรู้ในเรื่องสุขภาพอนามัยแก่ประชาชน สำหรับการจัดบริการต่างๆ แก่ประชาชน เทศบาลตำบลป่าซางได้รับความร่วมมือจากองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เช่น สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ ป่าซาง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพปากบ่อง ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนป่าซาง วิทยาลัยการอาชีพป่าซาง โรงเรียนสอนแต่งหน้าและทำผมดารณี ลำพูน และร้านแว่นตามหานครลำพูน

เทศบาลตำบลป่าซางขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมพบปะและรับบริการสาธารณะจากเทศบาลตำบลป่าซาง โดยในวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 ณ สำนักงานเทศบาลตำบลป่าซาง ตั้งแต่เวลา 08.30–16.00 น. และวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ลานเอนกประสงค์ วัดท่าต้นงิ้ว ตั้งแต่เวลา 08.30–16.00 น. ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ งานประชาสัมพันธ์ กองวิชาการและแผนงาน เทศบาลตำบลป่าซาง โทรศัพท์หมายเลข 0–5352–1007 ต่อ 0 ในวันและเวลาราชการ



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 

อบจ.ลำพูน รับโล่รางวัลพระปกเกล้า ประจำปี 2556 สำหรับความเป็นเลิศด้านการเสริมสร้างเครือข่าย รัฐ เอกชน และประชาสังคม

อบจ.ลำพูน รับโล่รางวัลพระปกเกล้า ประจำปี 2556 สำหรับความเป็นเลิศด้านการเสริมสร้างเครือข่าย รัฐ เอกชน และประชาสังคม จากผลการดำเนินงาน 4 เครือข่าย ที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์

นายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า สถาบันพระปกเกล้าได้จัดการประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้าครั้งที่ 15 ประจำปี 2556 ในหัวข้อ "ธรรมราชา" ระหว่างวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์ 2557 ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 500 คน เนื่องในโอกาสครบ 120 ปี พระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองปีอันสำคัญ เป็นการเทิดพระเกียรติในฐานะที่ทรงเป็น "ธรรมราชา" ที่เปลี่ยนผ่านจาก "ธรรมราชาสมบูรณาญาสิทธิราชย์" มาสู่ "ระบอบพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ" โดยสันติวิธีปราศจากการสูญเสียเลือดเนื้อ และช่วงบ่ายของวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2557 สถาบันพระปกเกล้าได้มอบรางวัลพระปกเกล้า ประจำปี 2556 ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผ่านการคัดเลือกโดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1.ด้านความโปร่งใสและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน 2.ด้านการเสริมสร้างสันติสุขและความสมานฉันท์ 3.ด้านการเสริมสร้างเครือข่าย รัฐ เอกชน และประชาสังคม ซึ่งหนึ่งในนั้น คือองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ได้รับโล่รางวัล สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความเป็นเลิศด้านการส่งเสริมสร้างเครือข่าย รัฐ เอกชน และประชาสังคม ถือได้ว่าเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่ทรงคุณค่ายิ่งและเป็นความภาคภูมิใจของจังหวัดลำพูน นอกจากนี้ยังมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดลำพูน ได้แก่ เทศบาลเมืองลำพูน เทศบาลตำบลอุโมงค์ ได้รับโล่สาขาเดียวกัน เทศบาลตำบลหนองล่อง ได้รับโล่สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความเป็นเลิศด้านความโปร่งใสและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน และเทศบาลตำบลต้นธง ได้รับใบประกาศเกียรติคุณ สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ประจำปี 2556 โล่รางวัลพระปกเกล้า

สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความเป็นเลิศด้านการส่งเสริมสร้างเครือข่าย รัฐ เอกชน และประชาสังคม ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนได้รับในครั้งนี้ เป็นผลมาจากการที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนนำเสนอผลการดำเนินงานของ 4 เครือข่าย ที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ ได้แก่ เครือข่ายผ้าไหมยกดอกลำพูน เครือข่ายชื่อบ้านนามเมือง เครือข่ายป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และเครือข่ายสาธารณสุข


ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 

ทต.หนองล่อง รับโล่รางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความเป็นเลิศด้านความโปร่งใสและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นปีที่ 2

เทศบาลตำบลหนองล่องรับโล่รางวัลจากสถาบันพระปกเกล้า สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความเป็นเลิศด้านความโปร่งใสและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ประจำปี 2556 เป็นปีที่ 2

เทศบาลตำบลหนองล่อง อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน นำโดย นายเพลิน วรพงศ์วัฒนา นายกเทศมนตรีตำบลหนองล่อง เข้ารับโล่รางวัลและใบประกาศเกียรติคุณ จากสถาบันพระปกเกล้า สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความเป็นเลิศด้านความโปร่งใสและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ประจำปี 2556 ในการประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้าครั้งที่ 15 ประจำปี 2556 หัวข้อ "ธรรมราชา" ระหว่างวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ห้องแกรน์บอลรูม โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร โดยคณะกรรมการพิจารณารางวัลในครั้งนี้ประกอบไปด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคส่วนต่างๆ ทั้ง นักวิชาการด้านการกระจายอำนาจและการปกครองท้องถิ่น และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสื่อมวลชนจากองค์กรชั้นนำ ได้ร่วมประชุมพิจารณาการมอบรางวัล ประจำปี 2556 แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ซึ่งเทศบาลตำบลหนองล่อง ได้รับการพิจารณาให้เข้ารับโล่รางวัลเป็นปีที่ 2
นายกเทศมนตรีตำบลหนองล่อง กล่าวว่า รางวัลดังกล่าวถือเป็นความสำเร็จและสร้างความภาคภูมิใจแก่บุคลากรในเทศบาลตำบลหนองล่องและประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากรางวัลพระปกเกล้าเป็นรางวัลที่แสดงถึงประสิทธิภาพของการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีพื้นฐานมาจากการตระหนักถึงหลักธรรมาภิบาลในการปกครองท้องถิ่น การบริหารงานเพื่อสร้างประโยชน์สุขแก่ประชาชนโดยรวมและสามารถเป็นแบบอย่างแก่ผู้ที่สนใจศึกษาเรียนรู้ เพื่อประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในพื้นที่เทศบาลตำบลหนองล่อง จึงขอขอบคุณทุกภาคีเครือข่าย ผู้นำชุมชน และส่วนราชการที่ให้การสนับสนุน และมีส่วนร่วมทุกกระบวนการในการประเมินครั้งนี้ รางวัลที่ได้รับเป็นพลังแห่งความภูมิใจของชาวตำบลหนองล่อง พร้อมหลอมรวมเป็นพลังแห่งการขับเคลื่อนให้ตำบลหนองล่องก้าวไปสู่เป้าหมายด้วยความร่วมมือร่วมใจต่อไป



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ

ทต.อุโมงค์ เชิญเที่ยวงานวันเกษตรอินทรีย์ วิถีพอเพียง ตำบลอุโมงค์ ครั้งที่ 5 วันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้

เทศบาลตำบลอุโมงค์เชิญเที่ยวงานวันเกษตรอินทรีย์ วิถีพอเพียง ตำบลอุโมงค์ ครั้งที่ 5 วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน

นายขยัน วิพรหมชัย นายกเทศมนตรีตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน กล่าวว่า เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาตลอดรวมถึงการพัฒนาและบริหารประเทศ ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลาง คำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว โดยส่งเสริมให้ประชาชนสามารถอยู่อย่างพอมีพอกิน และพึ่งตนเองได้ มีการรวมกลุ่มกันและเชื่อมโยงเครือข่ายในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าไปอย่างสมดุลกับสภาพแวดล้อมในแต่ละท้องถิ่นที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นขั้นตอน มีการประยุกต์ใช้ความรู้ ภูมิปัญญาและทรัพยากรด้านต่างๆที่มีอยู่อย่างเหมาะสม บนพื้นฐานของคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร เอื้อเฟื้อแบ่งปันและใช้สติปัญญาในการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต เทศบาลตำบลอุโมงค์กำหนดจัดโครงการวันเกษตรอินทรีย์ วิถีพอเพียง ตำบลอุโมงค์ ครั้งที่ 5 ประจำปี 2557 ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรในตำบลอุโมงค์และเครือข่ายได้มีส่วนร่วมใน

การจัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ การใช้ชีวิตอย่างพอเพียงสามารถพึ่งตนเองได้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการสนองพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดโอกาสให้เกษตรกรได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ แนวคิด หลักการ และการบริหารจัดการ รูปแบบเทคนิค วิธีการทำเกษตรอินทรีย์ให้มีความเข็มแข็งอย่างยั่งยืน และให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชีวิตประจำวัน กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การประชุมใหญ่กลุ่มเกษตรกรครัวเรือนเศรษฐกิจพอเพียง 84 ครัวเรือน การจัดนิทรรศการ และฐานเรียนรู้ของกลุ่ม 84 ครัวเรือน Walk Rally ฐานการเรียนรู้ของเด็กเยาวชน และอุ้ยสอนหลานด้านงานเกษตร การประกวดพืชผลทางการเกษตร การประกวดไก่ชนพื้นเมือง การประกวดอาหารพื้นเมือง เมนูสุขภาพของชุมชน การตรวจสุขภาพและการดูแลสุขภาพของเกษตรกรด้วยการนวดประคบและอบสมุนไพร บริการตรวจดินฟรี การจำหน่ายสินค้าราคาถูกและมัจฉาเกษตร กาดหมั้วครัวแลง และกิจกรรมบันเทิง
เทศบาลตำบลอุโมงค์ขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมและเลือกซื้อสินค้าในงานวันเกษตรอินทรีย์ วิถีพอเพียง ตำบลอุโมงค์ ครั้งที่ 5 วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 

กองบังคับการ อส. ลำพูน จัดพิธีทางศาสนา และปฏิญาณตนของสมาชิก อส. เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดนปีที่ 60

กองบังคับการ กองอาสา รักษาดินแดน จ.ลำพูน จัด พิธี ชุมนุม ผู้บังคับบัญชา , เจ้าหน้าที่ และ สมาชิกกอง อาสา รักษาดินแดน เนื่องใน วันคล้าย วันสถาปนา โดย จัด พิธี ปฏิญาณ ตน มอบ ทุนการศึกษา ให้แก่ บุตร , ธิดา ของ สมาชิก และ ร่วม ปฏิบัติ กิจกรรม ที่ เป็น ประโยชน์ ต่อ สาธารณะ

เช้าวันนี้ ( 10 กุมภาพันธ์ 2557 ) ที่ ศาลา ประชาคม ศาลากลาง จ.ลำพูน กองบังคับการ กองอาสา รักษาดินแดน จ.ลำพูน จัด พิธี ชุมนุม ผู้บังคับบัญชา , เจ้าหน้าที่ และ สมาชิกกอง อาสา รักษาดินแดน เนื่องใน วันคล้ายวันสถาปนา กองอาสารักษาดินแดน หรือ อส. ปีที่ 60 โดยมี นาย อาณัติ วิทยานุกูล ( รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ) รอง ผู้บังคับการ กองอาสารักษา ดินแดน จังหวัด ลำพูน เป็นประธาน มี ผู้บังคับบัญชา และสมาชิก อส. จากทุกกองร้อย ใน จ.ลำพูน เข้าร่วม โดย มีพิธีทางพุทธศาสนา เพื่อความเป็นสิริมงคล และ อุทิศส่วนกุศลให้แก่สมาชิก อส. ที่ได้สละชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ หลังจากนั้น รอง ผู้บังคับการ กองอาสารักษา ดินแดน จังหวัด ลำพูน ได้ อ่าน สาร จาก นาย จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน และ นายพัฒนพงษ์ สร้อยอินทรา ป้องกันจังหวัดลำพูน ได้นำสมาชิกอาสารักษาดินแดน ร่วมกัน กล่าวคำ ปฏิญาณตน ในการปฏิบัติหน้าที่ เป็น อาสาสมัครรักษาดินแดนที่ดี หลังจากนั้น ได้มีพิธี มอบทุนการศึกษาแก่บุตรธิดาของสมาชิก อส. และ ลูกจ้างในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์

โดย นายอาณัติ วิทยานุกูล ( รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ) รองผู้บังคับการ กองอาสารักษา ดินแดน จังหวัด ลำพูน เป็น ผู้มอบทุนการศึกษาจากมูลนิธิอาสารักษาดินแดน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ 1 ทุน , นางจงกลณี กล่าวสุนทร ประธาน แม่บ้านมหาดไทย จ.ลำพูน มอบ ทุนการศึกษา ของสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ให้แก่ บุตรของสมาชิก อส. และ บุตรของลูกจ้าง ข้าราชการ ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน 16 ทุน

กองอาสารักษา ดินแดน ได้ก่อตั้ง เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2497 เหล่า อาสาสมัคร ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด การป้องกัน และ ปราบปรามแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง การป้องกัน และ ปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติ การป้องกัน และ ช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ ต่าง ๆ และ การรักษาความสงบเรียบร้อยในสถานที่ราชการ



ข่าวโดย : เชาวรินทร์ สอนปาละ

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ลำพูน จัดอบรม อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน หลักสูตรจัดตั้ง ของตำบลนาทราย อำเภอลี้ จำนวน 60 คน

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดลำพูน จัดอบรม อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน หลักสูตรจัดตั้ง ของตำบลนาทราย อำเภอลี้ จำนวน 60 คน เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยต่าง ๆ

เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ขององค์การบริหารส่วนตำบลนาทราย อำเภอลี้ ร่วมการฝึกอบรมการปฏิบัติงานด้านการป้องกัน และ บรรเทาสาธารณภัย จำนวน 60 คน พร้อมปฏิบัติหน้าที่ป้องกัน และ บรรเทาสาธารณภัย ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ณ โรงแรมเดอะเกรทขุนตาลรีสอร์ทแอนด์แคมปิ้ง ตำบลทาสบชัย อำเภอแม่ทา สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธาณภัย จังหวัดลำพูน ได้จัดพิธีมอบเกียรติบัตรแก่ เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร. ) ผู้ผ่านการฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน จังหวัดลำพูน หลักสูตรจัดตั้งรุ่นที่ 2 ซึ่งฝึกอบรมตั้งแต่วันที่ 3 – 7 กุมภาพันธ์ 2557 โดยมีนายนาวิน สินธุสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธาน มีอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนจากองค์การบริหารส่วนตำบลนาทราย อำเภอลี้ ผ่านการฝึกอบรมจำนวน 60 คน
รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า อปพร. นับเป็นผู้ที่เสียสละที่จะช่วยเหลือทางราชการในการป้องกันและบรรเทาภัยต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันอุบัติเหตุ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ , เทศกาลปีใหม่ เพื่อ ลดปริมาณความสูญเสียจากอุบัติเหตุ และ อุบัติภัยทางธรรมชาติ ซึ่ง สมาชิก อปพร. จะต้องช่วยกัน สอดส่องเฝ้าระวังภัยอันตรายต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น รวมถึงการช่วยชีวิต รวมถึง อำนวยความสะดวกใน การปฐมพยาบาลเบื้องต้น และ การปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์ด้วย



ข่าวโดย : เชาวรินทร์ สอนปาละ

จังหวัดอุตรดิตถ์จัดกิจกรรมเนื่องในวันอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2557

วันอาสารักษาดินแดน

จังหวัดอุตรดิตถ์จัดกิจกรรมเนื่องในวันอาสารักษาดินแดน ประจำปี 2557 เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่สมาชิกอาสารักษาดินแดนและทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่อาสารักษาดินแดนที่ล่วงลับไปแล้ว

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 กองอาสารักษาดินแดนจังหวัดอุตรดิตถ์ จัดงานเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ณ กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดอุตรดิตถ์ นายกองเอกชัช กิตตินภดล ผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานในพิธี โดยมีการจัดพิธีตามลำดับ ได้แก่ การปฎิญาณตนของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน การอ่านสารของนายกองใหญ่ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน การมอบรางวัลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนที่ปฏิบัติงานดีเด่นประจำปี 2557 และรางวัลอาสาสมัครที่มีผลงานดีเด่น พิธีมอบเข็มและใบประกาศอาสารักษาดินแดนสดุดี แก่ผู้บังคับบัญชาและสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนผู้บังคับบัญชาและสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน พิธีมอบทุนการศึกษาของสมาคมแม่บ้านมหาดไทยให้แก่บุตรหลานของสมาชิกอาสารักษาดินแดน ต่อจากนั้นเป็นพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับเหล่าสมาชิกผู้ล่วงลับไป

จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดพิธีวันสถาปนากองร้อยอาสารักษาดินแดน

เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 57 เวลา 09.45 น. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในการกิจกรรมวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดนจังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปี 2557 ณ กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ 1
กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองกำลังพลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนปฏิบัติภารกิจเร่งด่วนของกองบัญชาการ โดยปฏิบัติภาระกิจในด้านการรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน การป้องกันยาเสพย์ติด มาตลอด และเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน 10 กุมภาพันธ์ 2557 จึงกำหนดให้กองบังคับการกองอาสารักาดินแดนจังหวัดเพชรบูรณ์ จัดพิธีทางศาสนาขึ้น

จากนั้น นายกองเอกวิเชียร จันทรโณทัย ในฐานะหัวหน้าฝ่ายอำนวยการกองบังคับการกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีประดับเครื่องหมายยศ มอบเข็มอาสารักษาดินแดนสดุดี มอบทุนการศึกษาให้กับบุตรสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และมอบประกาศเกียรติบัตรให้แก่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้ปฏิบัติงานดีเด่น ประจำปี 2556 และมอบทุนการศึกษาของชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเพชรบูณ์จำนวน 18 ทุน ทุนละ 2,000 บาท

ผู้ว่าฯ สั่งรื้อรายชื่อชาวไร่เร่งจ่ายเงินภายในสองสัปดาห์

จากที่เกษตรกรชาวไร่ข้าวโพดจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ชุมนุมติดตามการจ่ายเงินชดเชยโครงการแทรกแซงตลาดข้าวโพดช่วงเช้าวันนี้(10 ก.พ.57) และนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เชิญตัวแทนเกษตรกร ผู้ประกอบการและพาณิชย์จังหวัด ประชุมหารือถึงข้อสรุปในเรื่องของเงินชดเชยค่าข้าวโพดของเกษตรกร ซึ่งจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับจัดสรรวงเงินสี่ร้อยกว่าล้านบาทและจ่ายไปแล้วส่วนหนึ่งยังคงเหลือเงินอีกประมาณ 60 ล้านบาท นั้น
หลังจากได้ข้อสรุป ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้สั่งการให้ทางพาณิชย์จังหวัดเพชรบูรณ์ตรวจสอบรายชื่อของเกษตรกรใหม่ทั้งหมด พร้อมทั้งเชิญผู้ประกอบการทั้งหมดเข้าร่วมประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และจัดสรรเงินค่าชดเชยให้กับเกษตรกรอย่างทั่วถึง และภายในสัปดาห์นี้ พาณิชย์จังหวัด จะตรวจสอบรายชื่อเกษตรกรทุกราย และทำเรื่องขออนุมัติเงินจากผู้ว่าราชการจังหวัดให้แล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าเงินจะถึงมือเกษตรกรทุกรายภายใน 30 วันหลังจากการอนุมัติ