จังหวัดเชียงใหม่ สรุปผลการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของจังหวัดเชียงใหม่ ตามโควตาที่ได้รับการจัดสรร ได้แก่ ค่าบริหารจัดการ (1.50 บาท) จำนวน 101,316.56 ตัน และชดเชยค่าขนส่ง (0.50 บาท) 35,519.58 ตัน ได้ดำเนินการเบิกจ่ายค่าบริหารจัดการไปแล้ว วงเงิน 20,945,197.50 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งรัดดำเนินการตรวจเอกสารเพื่อเบิกจ่าย เพื่อให้ทันสามารถเบิกจ่ายได้ภายในวันที่ 31 มีนาคม ศกนี้
นายไพโรจน์ กุลละวณิชย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตร (คพจ.) เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลให้ดำเนินการแทรกแซงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เชื่อมโยงผ่านผู้รวบรวมในพื้นที่ โดยให้ผู้รวบรวมรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เมล็ดความชื้น 14.5 % กิโลกรัมละ 9 บาท (ความชื้น 30 % กก.ละ 7 บาท) จากเกษตรกรตามใบรับรองเกษตรกร รายละไม่เกิน 25 ตัน และชดเชยค่าขนส่ง กิโลกรัมละ 0.50 บาท ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้รับการจัดสรรโควตาในการบริหารจัดการ (1.50 บาท) รวมทั้งสิ้นปริมาณจำนวน 101,316.56 ตัน และได้ดำเนินการประกาศจุดรับซื้อทั้งหมด จำนวน 34 จุด ใน 8 อำเภอ มีจุดดำเนินการเปิดรับซื้อได้จริง 27 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอแม่แจ่ม 23 จุด ขณะนี้ส่วนกลางได้โอนเงินให้มาแล้ว จำนวน 151,974,840 บาท ได้ดำเนินการเบิกจ่ายไปแล้วแบ่งเป็น 4 งวด รวมเป็นจำนวนเงิน 20,945,197.50 บาท สำหรับการยื่นเอกสารขอเบิกจ่ายจังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดให้ผู้รวบรวมยื่นเอกสารที่รับซื้อก่อนวันที่ 4 ธันวาคม 2556 ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เอกสารที่รับซื้อในระหว่างวันที่ 4-31 ธันวาคม 2556 ให้ยื่นผ่านคณะทำงานระดับตำบล เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องเอกสารไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ จึงทำให้การเบิกจ่ายเงินล่าช้า จังหวัดเชียงใหม่จึงได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบเอกสารระดับตำบล เพื่อให้ช่วยกลั่นกรองเอกสารในเบื้องต้น จะทำให้สามารถเบิกจ่ายได้ทันกำหนดภายในวันที่ 31 มีนาคม 2557
สำหรับการชดเชยค่าขนส่ง (0.50 บาท) ให้กับผู้รวบรวม จังหวัดเชียงใหม่ได้รับการจัดสรรโควตาปริมาณจำนวน 35,519.58 ตัน จำนวนเงิน 8,899,895 บาท และต้องมีการเบิกจ่ายตามหลักเกณฑ์ ดังนี้
1. ผู้รวบรวมระยะทางเกินกว่า 150 กิโลเมตรขึ้นไป ในอัตราสูงสุดไม่เกิน กิโลกรัมละ 0.50 บาท ยกเว้นการขนส่งในอำเภอแม่แจ่ม
2. น้ำหนักชดเชยต้องเป็นน้ำหนัก ณ ความชื้น 14.5 % ตามหลักฐานการชั่งน้ำหนักของผู้รับซื้อปลายทาง
3. การจ่ายเงินชดเชยค่าขนส่งสามารถจ่ายได้เฉพาะผู้รวบรวม และสหกรณ์ผู้รวบรวมที่รับซื้อและขนส่งภายในระยะเวลา ตั้งแต่ 3 กันยายน – 31 ธันวาคม 2556 เท่านั้น
4. การจ่ายเงิน จะคำนวณระยะทางจากผู้รวบรวม (ต้นทาง) ถึงผู้ใช้ (ปลายทาง) โดยคำนวณระยะทางขนส่งระดับอำเภอถึงอำเภอ
5. ผู้รับซื้อปลายทางต้องเป็นโรงงานอาหารสัตว์ สหกรณ์ผู้ใช้ (ปศุสัตว์) และผู้ประกอบการที่ใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หรือผู้ส่งออกที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น
พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เนื่องจากเกิดวิกฤตการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ทำให้การขอโควตาเพิ่มหรือขยายระยะเวลาไม่สามารถดำเนินการได้ จังหวัดเชียงใหม่จึงจำเป็นต้องบริหารจัดการโควตาที่ได้รับจัดสรรมาในจังหวัดให้เป็นไปอย่างทั่วถึงและถูกต้องที่สุด
นายไพโรจน์ กุลละวณิชย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตร (คพจ.) เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลให้ดำเนินการแทรกแซงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เชื่อมโยงผ่านผู้รวบรวมในพื้นที่ โดยให้ผู้รวบรวมรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เมล็ดความชื้น 14.5 % กิโลกรัมละ 9 บาท (ความชื้น 30 % กก.ละ 7 บาท) จากเกษตรกรตามใบรับรองเกษตรกร รายละไม่เกิน 25 ตัน และชดเชยค่าขนส่ง กิโลกรัมละ 0.50 บาท ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้รับการจัดสรรโควตาในการบริหารจัดการ (1.50 บาท) รวมทั้งสิ้นปริมาณจำนวน 101,316.56 ตัน และได้ดำเนินการประกาศจุดรับซื้อทั้งหมด จำนวน 34 จุด ใน 8 อำเภอ มีจุดดำเนินการเปิดรับซื้อได้จริง 27 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอแม่แจ่ม 23 จุด ขณะนี้ส่วนกลางได้โอนเงินให้มาแล้ว จำนวน 151,974,840 บาท ได้ดำเนินการเบิกจ่ายไปแล้วแบ่งเป็น 4 งวด รวมเป็นจำนวนเงิน 20,945,197.50 บาท สำหรับการยื่นเอกสารขอเบิกจ่ายจังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดให้ผู้รวบรวมยื่นเอกสารที่รับซื้อก่อนวันที่ 4 ธันวาคม 2556 ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เอกสารที่รับซื้อในระหว่างวันที่ 4-31 ธันวาคม 2556 ให้ยื่นผ่านคณะทำงานระดับตำบล เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องเอกสารไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ จึงทำให้การเบิกจ่ายเงินล่าช้า จังหวัดเชียงใหม่จึงได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบเอกสารระดับตำบล เพื่อให้ช่วยกลั่นกรองเอกสารในเบื้องต้น จะทำให้สามารถเบิกจ่ายได้ทันกำหนดภายในวันที่ 31 มีนาคม 2557
สำหรับการชดเชยค่าขนส่ง (0.50 บาท) ให้กับผู้รวบรวม จังหวัดเชียงใหม่ได้รับการจัดสรรโควตาปริมาณจำนวน 35,519.58 ตัน จำนวนเงิน 8,899,895 บาท และต้องมีการเบิกจ่ายตามหลักเกณฑ์ ดังนี้
1. ผู้รวบรวมระยะทางเกินกว่า 150 กิโลเมตรขึ้นไป ในอัตราสูงสุดไม่เกิน กิโลกรัมละ 0.50 บาท ยกเว้นการขนส่งในอำเภอแม่แจ่ม
2. น้ำหนักชดเชยต้องเป็นน้ำหนัก ณ ความชื้น 14.5 % ตามหลักฐานการชั่งน้ำหนักของผู้รับซื้อปลายทาง
3. การจ่ายเงินชดเชยค่าขนส่งสามารถจ่ายได้เฉพาะผู้รวบรวม และสหกรณ์ผู้รวบรวมที่รับซื้อและขนส่งภายในระยะเวลา ตั้งแต่ 3 กันยายน – 31 ธันวาคม 2556 เท่านั้น
4. การจ่ายเงิน จะคำนวณระยะทางจากผู้รวบรวม (ต้นทาง) ถึงผู้ใช้ (ปลายทาง) โดยคำนวณระยะทางขนส่งระดับอำเภอถึงอำเภอ
5. ผู้รับซื้อปลายทางต้องเป็นโรงงานอาหารสัตว์ สหกรณ์ผู้ใช้ (ปศุสัตว์) และผู้ประกอบการที่ใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หรือผู้ส่งออกที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น
พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เนื่องจากเกิดวิกฤตการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ทำให้การขอโควตาเพิ่มหรือขยายระยะเวลาไม่สามารถดำเนินการได้ จังหวัดเชียงใหม่จึงจำเป็นต้องบริหารจัดการโควตาที่ได้รับจัดสรรมาในจังหวัดให้เป็นไปอย่างทั่วถึงและถูกต้องที่สุด
ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น