วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

จังหวัดเชียงใหม่ ชวนเที่ยว 11 เทศกาลในเดือนแห่งความรัก

จังหวัดเชียงใหม่คึกคัก เตรียมรับนักท่องเที่ยวในงานเทศกาลและนิทรรศการต่างๆ กว่า 10 กิจกรรม ในช่วงระหว่างวันที่ 6-14 กุมภาพันธ์ ทั้งงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ งานศิลปหัตถกรรมไม้แกะสลักบ้านถวายงานเทศกาลสตอเบอร์รี่ ของดี อำเภอสะเมิง งานแสดงสินค้าฮาลาลนานาชาติเชียงใหม่ และงานเทศกาลอื่นๆ อีกมากมายจึงขอเชิญนักท่องเที่ยวมาสัมผัสสายหมอก ดอกไม้งาม ศิลปวัฒนธรรม และร่วมกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆ ตลอดต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้

นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงฤดูหนาวมีความงดงามทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรมอันเก่าแก่ และมวลบุปผชาติที่เป็นมนต์เสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงระหว่างวันที่ 6-14 กุมภาพันธ์นี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการจัดกิจกรรมงานเทศกาลและงานนิทรรศการเป็นจำนวนมาก จึงขอเชิญเหล่านักท่องเที่ยว มาเที่ยวเมืองเชียงใหม่เพื่อร่วมชมงานมหกรรมและนิทรรศการต่างๆ 10 กิจกรรม ดังนี้

กิจกรรมที่ 1 งานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ ครั้งที่ 38 ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 7-9 กุมภาพันธ์ 2557 ณ เชิงสะพานนวรัฐ ลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ และสวนสาธารณะหนองบวกหาด ภายใต้แนวคิด “งานสะพรั่งบุปผา พันธ์พฤกษาแห่งอาเซียน” โดยในปีนี้ จังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และกรมการท่องเที่ยว ได้ร่วมกันปรับรูปแบบการจัดงานให้มีการแสดงแสงสีเสียงเพื่อสร้างสีสันเพื่อให้เกิดความตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยว โดยกำหนดจัดพิธีเปิดงานและขบวนรถบุปผชาติ จากภาครัฐและเอกชนกว่า 40 คัน ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 16.00 -20.00 น. จากเชิงสะพานนวรัฐ – ประตูท่าแพ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการประกวดนางงาม บุปผชาติและนางงามบุปผชาตินานาชาติ กิจกรรมการแสดง แสง สี เสียง บริเวณลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ ตลอด 3 วัน การย้อมแสงสีประดับรถบุปผชาติและนำรถบุปผชาติไปประดับตกแต่งเป็นจุดถ่ายรูป และการตกแต่งดอกไม้ บริเวณสะพานนวรัฐมาถึงประตูท่าแพ รวมทั้ง4 แจ่ง5 ประตู และ 8 เกาะกลาง นักท่องเที่ยวสามารถชมความสวยงามได้ตลอดเส้นทาง 8 กิโลเมตรรอบคูเมือง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0-5311-2618-9 และสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0-5311-2478-9 โทรสาร 0-5311-2481

กิจกรรมที่ 2 งานเทศกาลชมสวน สีสันแห่งพรรณไม้ Flora Festival 2013 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 08.00 น. – 20.00 น. ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ได้นำดอกไม้เมืองหนาวนานาพรรณที่ให้สีสันสวนงาม มาจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชมในงานเทศกาลชมสวน จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสช่วงเวลาแห่งความประทับใจกับสีสันพรรณไม้นานาชนิด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 053-1141105 เว็บไซต์ www.royalparkrajapruek.org

กิจกรรมที่ 3 งานอัศจรรย์ดอกไม้บาน ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ปีที่ 4 จัดโดยองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่วันนี้ ถึง 14 กุมภาพันธ์ 2557 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา โดยองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ได้เนรมิตสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาให้กลายเป็นทุ่งดอกไม้ ในแบบ 360 องศา นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมจะได้เพลิดเพลินกับความงดงามตระการตาของอุทยานไม้ดอกเมืองหนาวกว่า 100 สายพันธุ์ มากกว่า 100,000 ต้น อาทิ ดอกทิวลิป ดอกลิลลี่ ที่หาชมได้ยาก ในยามค่ำคืนก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับ สวนไม้ดอกกลางคืน “Flower Night Garden” ซึ่งได้ทำการประดับประดาตกแต่งสวนด้วยแสงไฟ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามของมวลดอกไม้หลากหลายสีสันยามค่ำคืนอีกด้วยงานอัศจรรย์ดอกไม้บาน 2012 (Chiang Mai Miracle Flora 2012) เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันนี้ - 14 กุมภาพันธ์ 2556 ระหว่างเวลา 08.00-21.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 053-891500 http://www.chiangmaithaitravel.com/1018

กิจกรรมที่ 4กิจกรรม “แรลลี่สักการะ 2 พระมหาธาตุเจดีย์ ชมดอกไม้เมืองหนาวขุนวาง บนดอย อินทนนท์” ระหว่างวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2557 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในจังหวัดเชียงใหม่ที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมนี้ขึ้นภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว “หลงรักเชียงใหม่ กับ 7 เส้นทาง สายหมอกและดอกไม้” ในเดือน มกราคม – พฤษภาคม 2557เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวชมสายหมอกและดอกไม้การท่องเที่ยวในภาคเหนือโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีความงดงามทางธรรมชาติ มวลบุปชาติที่เป็นมนต์เสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยว ได้แก่เส้นทางที่ 1 “ดอกไม้งามในเมือง ลือเลื่องอุทยานหลวงราชพฤกษ์” เส้นทางที่ 2 “ไหว้สา พระธาตุดอยสุเทพ ชมสวนกุหลาบงาม ที่ตำหนักภูพิงค์” เส้นทางที่ 3 “โรแมนติก ขุนเขาม่อนแจ่ม ศึกษาเรียนรู้ สวนพฤกศาสตร์” เส้นทางที่ 4 “ยลทะเลหมอก ห้วยน้ำดัง ตระการตาผืนป่าสนวัดจันทร์ กัลยาณิวัฒนา” เส้นทางที่ 5 “สักการะ 2 พระมหาธาตุเจดีย์ ชมดอกไม้เมืองหนาวขุนวาง บนดอกอินทนนท์” เส้นทางที่ 6 “เส้นทางดอกไม้งาม อร่ามบนดอยอ่างขาง” เส้นทางที่ 7 “นมัสการพระธาตุ ดอยสะเก็ด ชมดอกเสี้ยวบานที่ดอยสะเก็ด”สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ โทร 053-276-140-2 เว็บไซต์ www.tourismchiangmai.org

กิจกรรมที่ 5 อำเภอหางดง จัดงานศิลปหัตถกรรมไม้แกะสลักบ้านถวาย ครั้งที่ 24 ประจำปี 2557ระหว่างวันที่ 7-9 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมบ้านถวายซึ่งเป็นต้นกำเนิดของงานไม้แกะสลักและ งานหัตถกรรมหลายชนิด สินค้าจากบ้านถวายถือเป็นสินค้า OTOP ที่ได้รับการยอมรับและรู้จักอย่างกว้างขวางทั้งในระดับอำเภอ จังหวัด และระดับประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบล ขุนคง หมายเลขโทรศัพท์ 053-022995 อีเมล์ khunkhong_sao@hotmail.com เว็บไซต์www.khunkhong.go.th

กิจกรรมที่ 6 อำเภอสะเมิง จัดงานเทศกาลสตอเบอร์รี่ ของดี อำเภอสะเมิง ครั้งที่ 13ในวันที่ 6-9 กุมภาพันธ์ 2557 ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอสะเมิงภายในงานจะมีการออกร้านจำหน่ายสตรอเบอร์รี่การจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP)กิจกรรมประกวดธิดาสตรอเบอร์รี ธิดาจำแลง และธิดาชนเผ่า พิธีเปิดในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00 น. นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมหลากหลาย ได้แก่ ขบวนแห่ที่ประดับด้วยสตอเบอร์รี่การแสดงศิลปวัฒนธรรมชนเผ่า รวมถึงการจำหน่ายพืชผลทางการเกษตร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ที่ว่าการอำเภอสะเมิงสำนักงานเกษตรอำเภอสะเมิงหมายเลขโทรศัพท์ 086-1796970, 053-487116

กิจกรรมที่ 7 เทศบาลตำบลสันผักหวาน จัดงานส่งเสริมของดี และมหัศจรรย์ดินยิ้ม ครั้งที่ 4ระหว่างวันที่ 7-9 กุมภาพันธ์ 2557 ณ บ้านป่าตาล หมู่ 4 ตำบลสันผักหวาน อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ในงานมีสินค้าโอทอป ในตำบลจำหน่ายในราคาพิเศษต้อนรับปีม้าคะนอง พร้อมภาคบันเทิง ประกวดธิดาดินยิ้ม แม่เฮือนงาม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ งานประชาสัมพันธ์ เทศบาลตำบลสันผักหวาน อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 053-131532 ต่อ 13

กิจกรรมที่ 8 งานแสดงสินค้าฮาลาลนานาชาติเชียงใหม่ “Chiang Mai Halal International Fair 2014” ระหว่างวันที่ 6-9 กุมภาพันธ์ 2557 ณ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต จังหวัดเชียงใหม่ จัดโดยศูนย์วิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ จังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่สินค้า ผลิตภัณฑ์ การบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับมุสลิมจากทุกภาคในประเทศ และจากกลุ่มประเทศ AEC รวมไปถึงกลุ่ม GMS-BIMSTEC มาจัดแสดงและจำหน่าย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายจัดงาน หมายเลขโทรศัพท์ 053-224140 , 053-224141

กิจกรรมที่ 9 งานอุตสาหกรรมแฟร์2014 งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 9 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 ถนนทุ่งโฮเต็ล โดยสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเผยแพร่และสนับสนุนสินค้าอุตสาหกรรมของภาคเหนือให้เป็นที่รู้จัก และส่งเสริมอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ทั้งยังเป็น การกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 053-304346-7 เว็บไซต์ www.chiangmaiindustry.org

กิจกรรมที่ 10 สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย จัดงานเทศกาลดนตรีคนตาบอดนานาชาติ ครั้งที่ 2 ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ในงานเทศกาลฯจะมีการแสดงจากคนตาบอดไทยและต่างชาติ ณ บริเวณประตูท่าแพ โดยสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในฐานะองค์กรของคนตาบอดทั้งประเทศ จัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนตาบอดในทุกๆด้าน ให้ความเป็นอยู่ที่ทัดเทียมกับบุคคลทั่วไปในสังคม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-2463835 ต่อ 302

กิจกรรมที่ 11 เทศกาลศิลปะร่วมสมัยเยาวชนเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวา “ข่วงศิลป์ร่วมสมัย” ณ วัดอีก้าง เวียงกุมกาม อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557 จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรม โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานวัฒนธรรมอำเภอสารภี ภายในงานมีกิจกรรม “เฮียน – ฮู้ – ฮักษ์ ศิลปะร่วมสมัย” เป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการทางศิลปะโดยศิลปินพื้นบ้านและเครือข่ายศิลปินร่วมสมัย ร่วมกันถ่ายทอดแนวความคิด เทคนิค วิธีการ นำไปสู่จินตนาการ สำหรับเด็กและเยาวชนในชุมชนเวียงกุมกาม และพื้นที่ใกล้เคียง โดยศิลปะทั้งหมดนี้จะถูกนำไปแสดงในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ณ ข่วงศิลป์ร่วมสมัย นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมคอนเสิร์ตดนตรีล้านนาร่วมสมัย “สล่าเพลงบรรเลงร่ำ ขับลำนำเวียงกุมกาม”โดยวงดนตรีล้านนาท้องถิ่นและวงดนตรีร่วมสมัย การสร้างสรรค์งานผสมผสาน เช่น การอ่านลำนำประกอบเพลง การวดภาพประกอบดนตรี ขับร้องโดยสุนทรี เวชานนท์ เป็นต้น ทั้งงานเปิดให้ชมฟรี ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 053-112-595-6 เว็บไซต์ www.m-culture.go.th/wiangkumkam และ www.ocac.go.th


ข่าวโดย : อนุชา นาคฤทธิ์ /ปิยพร โอภาสเจริญวิทย์

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการ Kick off รณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า ปี 2557

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการ Kick off รณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า ไฟป่าระดับอำเภอ ปี 2557 เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและ ไฟป่า ในพื้นที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สนองนโยบายรัฐบาลและจังหวัดเชียงใหม่ ที่กำหนดให้ปัญหาหมอกควันไฟป่าเป็น "วาระของจังหวัด" ที่ทุกภาคส่วนจะต้องบูรณาการเป็นเจ้าภาพแก้ไขปัญหาร่วมกัน

วันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2557) เวลา 09.15 น. นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการ Kick off รณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า ณ บริเวณธนาคารกิ่งไม้ใบไม้ ม.3 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จังหวัดเชียงใหม่ ตามนโยบายของรัฐบาล และยุทธศาสตร์จังหวัดเชียงใหม่ ที่กำหนดให้ปัญหาหมอกควันไฟป่าเป็น “วาระของจังหวัด” ที่ทุกภาคส่วนจะต้องบูรณาการเป็นเจ้าภาพแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาหมอกควัน ไฟป่าได้สร้างความเสียหาย / สูญเสียทางเศรษฐกิจการท่องเที่ยว และสุขภาพระบบหายใจเป็นจำนวนมาก

เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า ในพื้นที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยสนองนโยบายของรัฐบาลและจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่ อาทิ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย สถานีควบคุมไฟป่าเชียงใหม่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ได้ร่วมกันเปิดปฏิบัติการ Kick off การรณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่าระดับอำเภอ ปี 2557 โดยมี ดร.ธนวัฒน์ ยอดใจ นายกเทศบาลเมืองแม่เหียะ กล่าวรายงานพิธีเปิดปฏิบัติการ Kick off รณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า และผู้ว่าราชการได้มอบธงสัญลักษณ์เปิดปฏิบัติการ Kick off แก่ส่วนราชการต่างๆ และลงนามข้อตกลง (MOU) ที่จะคลี่คลายปัญหาหมอกควันร่วมกัน พร้อมเยี่ยมชมธนาคารกิ่งไม้ใบไม้ ร่วมกันปล่อยปลาและ ปลูกต้นไม้

ด้วยเหตุนี้จึงนับได้ว่าปัญหาหมอกควันไฟป่า เป็นภัยพิบัติอย่างใหญ่หลวง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ คุณภาพชีวิต การท่องเที่ยวโดยรวม ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สมบูรณ์ด้วย ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน สมดังคำขวัญของจังหวัดเชียงใหม่ที่ว่า “ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผาชาติล้วนงามตา งามล้ำค่านครพิงค์”


ข่าวโดย : ณัฏฐ์ สินันตา /อนันต์ ชุ่มใจ 

จังหวัดเชียงใหม่ กำหนดวันแห่งการเฝ้าระวังและควบคุมหมอกควันไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่กำหนดวันแห่งการเฝ้าระวังและควบคุมหมอกควันไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ในห้วงระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 21 เมษายน 2557 ภายใต้ชื่อ "80 วันแห่งการเฝ้าระวังและควบคุมหมอกควันไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่"

นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ประสบปัญหาหมอกควันปกคลุมในช่วงฤดูแล้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน สาเหตุหลักมาจากการเกิดไฟป่า การเผาในที่โล่ง สภาพภูมิประเทศที่เป็นแอ่งมีภูเขาล้อมรอบ ประกอบกับความกดอากาศสูง ทำให้มลพิษหมอกควันถูกกักไว้และแผ่ปกคลุมทั่วเมือง ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ และความเสียหายทางเศรษฐกิจกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยว จังหวัดเชียงใหม่จึงได้ประกาศให้ปัญหาหมอกควันเป็นวาระของจังหวัดเชียงใหม่ และได้จัดให้มีกิจกรรมรณรงค์ (Kick off) แก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2556 ณ บริเวณสนามภายในอาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันในระดับจังหวัดและอำเภอ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ประกอบกับ คณะกรรมการแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบให้กำหนดห้วงเวลาควบคุมการเผา 80 วัน ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 21 เมษายน 2557 ภายใต้ชื่อ “80 วันแห่งการเฝ้าระวังและควบคุมหมอกควันไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่” โดยมีเงื่อนไขคือ กรณีที่มีความจำเป็นต้องชิงเผาหรือมีการใช้ไฟให้อยู่ในความเห็นชอบหรือดุลยพินิจของนายอำเภอในพื้นที่นั้น ๆ พร้อมทั้งขอความร่วมมือหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ ในการป้องกัน ควบคุมการเผาป่าและการเผาในที่โล่ง โดยงดการเผาทุกชนิดในห้วงระยะเวลาดังกล่าว หากฝ่าฝืนจะดำเนินการลงโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป


ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว

อำเภอเมืองน่าน เปิดโครงการป้องกันไฟ ป้องกันป่า ด้วยจิตอาสา 1 วัน 100 กิโลเมตร ถวายพ่อของแผ่นดิน

อำเภอเมืองน่าน เปิดตัวในการจัดทำแนวกันไฟของจังหวัด ตามโครงการป้องกันไฟ ป้องกันป่า ด้วยจิตอาสา 1 วัน 100 กิโลเมตร ถวายพ่อของแผ่นดิน ณ ป่าชุมชนบ้านสมุน ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน

วันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2557) ที่ป่าชุมชนบ้านสมุน ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน นายอดิศร พิทยายน รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในการเปิดตัวในการจัดทำแนวกันไฟของจังหวัดน่าน ตามโครงการ "ป้องกันไฟ ป้องกันป่า ด้วยจิตอาสา 1 วัน 100 กิโลเมตร ถวายพ่อของแผ่นดิน” ณ ป่าชุมชนบ้านสมุน ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน โดยมี นายบุญยัง เรือนกุล นายอำเภอเมืองน่าน หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชน และประชาชน เข้าร่วมงานจำนวน 500 คน สืบเนื่องจากจังหวัดน่าน ประสบปัญหาหมอกควันอย่างรุนแรง ในช่วงต้นปี 2550 ตรวจพบแนวโน้มการเพิ่มสูงขึ้นของปริมาณฝุ่นขนาดเล็ก (PM 10) ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2550 เป็นต้นมา และจากภาพถ่ายดาวเทียมตรวจพบจุดความร้อน (Hotspot) จำนวนมาก สภาพอากาศแห้งแล้งและนิ่ง ฝุ่นละอองสามารถแขวนลอยอยู่ในบรรยากาศได้นาน ไม่สามารถแพร่กระจายออกไปได้และไม่ตกลงสู่พื้น ก่อให้เกิดสภาพฟ้าหลัว มีหมอกควันปกคลุม ทัศนวิสัยต่ำกว่า 1 กิโลเมตร ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดน่าน และจังหวัดน่านจึงได้มีนโยบายให้จัดทำโครงการ "ป้องกันไฟ ป้องกันป่า ด้วยจิตอาสา 1 วัน 100 กิโลเมตร ถวายพ่อของแผ่นดิน” ตามวาระจังหวัดน่าน 2013-2017 "สร้างเมืองน่านน่าอยู่ คู่ป่าต้นน้ำ” เพื่อเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากโครงการ 1 วัน 100 ฝาย ถวายพ่อของแผ่นดิน และเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่จังหวัดน่าน อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนวาระจังหวัดน่าน 2013-2014 "สร้างเมืองน่านน่าอยู่ คู่ป่าต้นน้ำ” ในด้านการจัดการทรัพยากรป่า ไฟป่า และหมอกควัน

สำหรับพื้นที่อำเภอเมืองน่าน ประกอบด้วย 11 ตำบล 109 หมู่บ้าน 28 ชุมชน มีพื้นที่ป่าชุมชนร่วมใจกันรักษาเป็นป่าต้นน้ำลำธาร จำนวน 919 ตารางกิโลเมตร และโครงการป้องกันไฟ ป้องกันป่า ด้วยจิตอาสา 1 วัน 100 กิโลเมตร ถวายพ่อของแผ่นดิน” ตามวาระจังหวัดน่าน 2013-2017 "สร้างเมืองน่านน่าอยู่ คู่ป่าต้นน้ำ” ในครั้งนี้ จังหวัดน่าน กำหนดจัดพร้อมกันทุกอำเภอในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 09.59 น. ในพื้นที่ 15 อำเภอของจังหวัดน่าน จำนวน 100 กิโลเมตร ใน 1 วัน



รดา บุญยะกาญจน์ /ข่าว

วันมาฆบูชา (Makha Bucha Day)

วันมาฆบูชา ในภาษาบาลีอ่านว่า "มาฆปูชา” และ "มาฆบูชา” ย่อมาจาก "มาฆปูรณมีบูชา” ซึ่งหมายถึง การบูชาในวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเ นื่องจากเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น เมื่อ ๒๕๐๐ กว่าปีก่อน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง โอวาทปาฏิโมกข์ ท่ามกลางที่ประชุมมหาสังฆสันนิบาตครั้งใหญ่ในพระพุทธศาสนา โดยมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นพร้อมกัน ๔ ประการ คือ

๑.พระสงฆ์สาวก จำนวน ๑๒๕๐ รูป มาประชุมพร้อมกันยังวัดเวฬุวันโดยมิได้นัดหมาย
๒.พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดต่างล้วนเป็น "เอหิภิกขุอุปสัมปทา” คือ ผู้ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง
๓.พระสงฆ์ทั้งหมดที่มาประชุมล้วนเป็นพระอรหันต์ผู้ทรง อภิญญา๖
๔.วันดังกล่าวตรงกับวันเพ็ญมาฆปุรณ มีดิถี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ (ภาคกลาง)ดังนั้น จึงมีคำเรียกวันนี้อีกคำหนึ่งว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต” หรือ วันที่มีการประชุมพร้อมด้วยองค์๔
ประกอบกับวันมาฆบูชา ในปี ๒๕๕๗ นี้ ตรงกับ วันศุกร์ที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ซึ่งตรงกับวันแห่งความรัก ที่เราเรียกกันว่าวาเลนไทน์ถือว่าเป็นปีที่ดี เพราะวันมาฆบูชากับวันแห่งความรักมีเจตนารมณ์เดียวกันคือ เป็นวันแสดงความรัก ความปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ในวันมาฆบูชาองค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้า ทรงมีเมตตา มีความปรารถนาต่อมวลมนุษย์ด้วยการประทานโอวาทปาฏิโมกข์ ซึ่งกล่าวถึงหลักคำสอนอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ได้แก่ การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การบำเพ็ญความดีให้ถึงพร้อม และการทำจิตของตนให้ผ่องใส เพื่อเป็นหลักปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนทั้งมวล เพื่อใช้เป็นแนวทางต่อการดำเนินชีวิต นี่คือความรักในเพื่อนมนุษย์ที่ทรงประทานมาให้
ปัจจุบัน วันมาฆบูชา ได้รับการประกาศให้เป็นวันหยุดราชการในประเทศไทย โดยพุทธศาสนิกชน ทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ พระสงฆ์ และประชาชน จะมีการประกอบ          พิธีต่าง ๆ เช่น การตักบาตร การฟังพระธรรมเทศนา การเวียนเทียน เป็นต้น เพื่อเป็นการบูชารำลึกถึงพระรัตนตรัยและเหตุการณ์สำคัญดังกล่าว หลักปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนทั้งมวล
๑.อาบน้ำ ชำระร่างกายให้สะอาด ทำจิตใจให้เบิกบาน
๒.แต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย เหมาะสมกับสถานที่
๓.เตรียมดอกไม้ ธูป เทียน ตลอดจนเครื่องบูชาให้เรียบร้อย
๔.เมื่อถึงวัดแล้วควรอยู่ในอาการสำรวม ไม่พูดคุยหยอกล้อ วิ่งเล่น หรือทำกิจกรรมอันไม่เหมาะสม ความหมายการเวียนเทียน วันมาฆบูชา
-เวียนเทียน รอบที่ ๑ รำลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า โดยภาวนาบท อิติปิโส ภะคะวาฯ ไปจนจบ เพื่อให้จิตใจมีสมาธิ
-เวียนเทียน รอบที่ ๒ รำลึกถึงคุณพระธรรม ภาวนาบทสวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโมฯ ไปจนจบ
-เวียนเทียน รอบที่ ๓ รำลึกคุณพระสงฆ์ ภาวนาบทสุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆฯ ไปจนจบ

ระหว่างนั้นต้องทำจิตใจให้สงบ แน่วแน่กับบทบูชา
ข้อควรพิจารณาที่น่าสนใจ คือ เนื้อความในโอวาทปาฏิโมกข์ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงนั้น จุดหมายสูงสุด แห่งพระพุทธศาสนา คือ พระนิพพานดังนั้นพุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า จึงควรศึกษาพระโอวาทปาฏิโมกข์ให้เข้าใจ แล้วน้อมนำไปปฏิบัติ ตามฐานะและกำลังความสามารถของแต่ละคน จึงจะได้ชื่อว่าเป็นพุทธศาสนิกชนที่แท้จริง

กกต.น่าน แจ้งการเลือกตั้ง ส.ส. ยังไม่มีผู้ร้องเรียนกระทำผิดกฎหมาย

นายจรูญ จันอินทร์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดน่าน แจ้งว่า ตามที่มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จังหวัดน่าน มีผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง 235,073 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 377,376 คน คิดเป็น 62% เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีผู้ร้องเรียนการกระทำผิด หรือทุจริตเลือกตั้ง ที่เป็นลายลักษณ์อักษร เข้ามายังคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดน่าน จังหวัดน่านมีทั้งหมด 3 เขตเลือกตั้ง การเลือกตั้งที่ผ่านมามีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจออกมาใช้สิทธิ์ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง รวมถึงผู้สมัครจากพรรคการเมือง ในการส่งผู้แทนลงสมัคร การหาเสียงค่อนข้างเงียบเหงา ทำให้การเลือกตั้งที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดน่านไม่มีการแข่งขันสูงในการหาเสียงเหมือนทุกครั้ง จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่มีข้อร้องเรียนในการกระทำผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดน่าน แจ้งต่อว่า ส่วนผลคะแนนจากแต่หน่วยเลือกตั้งดำเนินการแล้วเสร็จ แต่ยังไม่รวมคะแนนผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อพรรค เพราะยังต้องรอผลการเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด ในพื้นที่จังหวัดที่ไม่สามารถดำเนินการได้ ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557 หากไม่มีปัญหาใด ๆ ภายหลัง ก็จะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการต่อไป



พวงพยอม  คำมุง

น่านเปิดโครงการป้องกันไฟ ป้องกันป่า ด้วยจิตอาสา 1 วัน 100 กิโลเมตร ถวายพ่อของแผ่นดิน ตามวาระจังหวัดน่าน สร้างเมืองน่านน่าอยู่คู่ป่าต้นน้ำ

วันนี้ 6 ก.พ. 75 ที่อ่างเก็บน้ำอ่างน้ำส้อ บ้านเด่นพัฒนา อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน นายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดโครงการป้องกันไฟ ป้องกันป่า ด้วยจิตอาสา 1 วัน 100 กิโลเมตร ถวายพ่อของแผ่นดิน ตามวาระจังหวัดน่าน 2013 – 2017 สร้างเมืองน่านน่าอยู่คู่ป่าต้นน้ำ โดยร่วมกันจัดทำแนวกันไฟ ระยะทาง 100 กิโลเมตร พร้อมกันในทุกอำเภอในพื้นที่จังหวัดน่าน โดยทุกแห่งจะเริ่มกิจกรรมในเวลา 09.59 น. พร้อมกันทุกอำเภอ ซึ่งพื้นที่ในการจัดทำแนวกันไฟทั้ง 15 อำเภอภายใน 1 วัน รวมกันแล้วได้ 100 กิโลเมตร โดยในส่วนของอำเภอเชียงกลางซึ่งเป็นที่เปิดตัวหลักของโครงการมีการจัดทำแนวกันไฟรวมกันทั้งสิ้น 9 กิโลเมตร โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านได้มอบทุนการศึกษาของมูลนิธิสมเพิ่ม กิตินันท์ จำนวน 5 ทุนให้แก่นักเรียนในพื้นที่อำเภอเชียงกลาง และมอบธง "ถิ่นฟ้าสดใส เมืองน่านไร้หมอกควัน” ให้แก่หมู่บ้านจำนวน 14 หมู่บ้านพร้อมกับปล่อยขบวนจิตอาสาของแต่ละหมู่บ้านเพื่อร่วมกันทำแนวป้องกันไฟป่าในเขตหมู่บ้านของตนเองต่อไป

ตามที่จังหวัดน่านได้มีประกาศจังหวัดน่าน ขอความร่วมมืองดเว้นการเผา และเฝ้าระวังสนับสนุนการดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในท้องที่จังหวัดน่าน ทุกกรณี เป็นระยะเวลา 75 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2557 โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ให้ถือเป็นหน้าที่ต้องสอดส่องดูแลให้ประชาชนในท้องที่ปฏิบัติตามประกาศอย่างเข้มงวด และให้นายอำเภอในท้องที่ ได้ประกาศชี้แจงกำชับในที่ประชุมประจำเดือนของอำเภอทุกครั้ง รวมทั้งให้กำนันและผู้ใหญ่บ้าน ทำการประชาสัมพันธ์เสียงตามสายประจำตำบลและหมู่บ้าน ให้ประชาชนโดยทั่วไปได้รับทราบอย่างทั่วถึง เพื่อให้การควบคุมป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในท้องที่จังหวัดน่าน เกิดผลอย่างจริงจัง โดยในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคมของทุกปี เป็นช่วงที่มีมวลอากาศเย็นปกคลุมในพื้นที่จังหวัดน่าน ทำให้สภาพอากาศแห้งและนิ่ง ฝุ่นละอองสามารถแขวนลอยอยู่ในบรรยากาศได้นาน ไม่สามารถแพร่กระจายออกไปได้และไม่ตกลงสู่พื้น ก่อให้เกิดสภาพฟ้าหลัว มีหมอกควันปกคลุม ทัศนวิสัยต่ำกว่า 1 กิโลเมตร ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่จังหวัดน่าน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัด จังหวัดน่านจึงได้ดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดน่าน อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป็นรูปธรรม โดยมีการบูรณาการการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าได้อย่างยั่งยืนสืบไป


ศรายุทธ  ประเสริฐนิรมล  ภาพ / ข่าว

จังหวัดพะเยาประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า ครั้งที่ 1/2557


เมื่อวานนี้ (5 ก.พ.57)  นายชูชาติ กีฬาแปง เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าระดับจังหวัด(คปป.จ.) จังหวัดพะเยา ครั้งที่ 1/2557 ณ ห้องประชุมห้องจอมทอง ชั้น 4ศาลากลางจังหวัดพะเยา โดยมีคณะอนุกรรมการประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้แทนภาคประชาชน เข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่าในพื้นที่

นายวรพจน์ ผ่องสมัย ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติจังหวัดพะเยา กล่าวว่า สำหรับรายงานการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการทำลายป่าไม้ในท้องงที่จังหวัดพะเยา ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2556 ถึง เดือนมกราคม 2557 รวม 39 คดี แยกเป็นกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ จำนวน 14 คดี, กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 7 คดี, กระทำผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ จำนวน 15 คดี, กระทำผิดตามพ.ร.บ.สงวนคุ้มครองสัตว์ป่า จำนวน 3 คดี ตรวจยึดไม้สักท่อน 13 ท่อน ปริมาตร 2.46 ลบ.ม. ไม้สักแปรรูป 14 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.244 ลบ.ม. ไม้กระยาเลยท่อน 124 ท่อน ปริมาตร 17.04 ลบ.ม. ไม้กระยาเลยท่อนแปรรูป 522 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 20.3216 ลบ.ม.ผู้ต้องหา 13 คน พื้นที่บุกรุก 320 ไร่ 3 งาน 87 ตารางวา


ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

ม๊อบชาวนาพะเยา เดินทางเข้ายื่นหนังสื่อผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาถึงรัฐบาล ให้เร่งจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าว

วันนี้ ( 6 ก.พ.57) เวลา 11.30 น. ชาวนาใน อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา กว่า 200 คน ซึ่งนำโดยนายเกรียงไกร ไชยมงคล ได้รวมตัวกันเดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดพะเยา ยื่นหนังสื่อผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาถึงรัฐบาล เพื่อทวงถามความคืบหน้าการจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดยนายเกรียงไกร ไชยมงคล แกนนำชาวนา กล่าวว่า ขณะนี้ชาวอำเภอดอกคำใต้ และชาวนาในจังหวัดพะเยาเดือนร้อนอย่างมากจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เนื่องจากขณะนี้มีชาวนาจำนวนมากที่ยังไม่รับเงินจำนำข้าวโดยเฉพาะชาวนาใน อ.ดอกคำใต้จำนวน 4,955 ราย ซึ่งคิดเป็นเงินกว่า 363 ล้านบาท จึงขอให้ทางจังหวัดแจ้งไปยังรัฐบาลให้เร่งนำเงินมาจ่ายให้กับเกษตรกรโดยเร็ว
ต่อมานายนิมิต วันไชยธนวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ารับเรื่อง พร้อมกล่าวกับกลุ่มชาวนาว่า จะรีบส่งเรื่องแจ้งให้ทางรัฐบาลทราบโดยเร็วเพราะเห็นใจความเดือนร้อนของพี่น้องชาวนา ซึ่งก็ขอให้พี่น้องชาวนาทุกคนเข้าใจว่าปัญหาความล่าช้าที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนกันทั่วประเทศ โดยเรื่องนี้ทางรัฐบาลทราบและเร่งดำเนินการนำเงินมาจ่ายให้กับเกษตรกรอยู่แล้วก่อนกลุ่มชาวนาจะแยกย้ายกันเดินทางกลับ

สำหรับจังหวัดพะเยามีชาวนาเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล จำนวน 36,374 ราย จ่ายเงินไปแล้ว1,830 ล้านบาท คงเหลือ1,613 ล้านบาท


ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

ตำรวจภูธรเมืองแพร่ ยังจับกุมการลักลอบค้ายาบ้ารายย่อยได้อย่างต่อเนื่อง

ตำรวจภูธรเมืองแพร่ยังจับกุมการลักลอบค้ายาบ้ารายย่อยได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในพื้นที่ยังมีการเสพและการลักลอบจำหน่าย

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาเวลาประมาณ 00.05 น. ของวันนี้(6ก.พ.57) ทาง พ.ต.ท. ปริญญา ปฎิเวทย์ สารวัตรหัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดสถานีตำรวจภูธรเมืองแพร่พร้อมพวกได้จับกุมนายสุรชัย พุ่มส้ม อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 80/12 ถนนเหมืองแดง ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ พร้อมด้วยยาบ้าบรรจุในถุงพลาสติกจำนวน 12 เม็ด โดยจับกุมที่บริเวณตลาดสดชมภูมิ่ง ซึ่งรับแจ้งว่ามีการมั่วสุมซื้อขายยาเสพติดกัน เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุม และนำตัวมาตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย ผลการตรวจให้ผลเป็น บวก จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายและเวลาใกล้ๆกันบริเวณตลาดสดชมพูมิ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวยังจับกุมนายอนุกูล ภู่ธีระภัทรกุล อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 34/7 ถนนเหมืองแดง ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ พร้อมด้วยยาบ้าจำนวน 16 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในปากกาเคมีแบบ 2 หัวตราม้า ซึ่งอยู่ในถังขยะใกล้ตัวผู้ต้องหา และพบอยู่ในถุงพลาสติกใสอีก 3 เม็ดซุกซ่อนในกระเป๋ากางเกงด้านขวาของผู้ต้องหา รวมทั้งสิ้น 19 เม็ด จึงนำตัวมาตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย ผลการตรวจให้ผลเป็น บวก จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการป้องกันและปราบปรามจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ ยังคงมีการเสพ การจำหน่ายรายย่อยอยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แม้จะเข้ากวดขันจับกุม แต่ก็ยังไม่หมดไปจากพื้นที่ จึงขอความร่วมมือยังประชาชนในการชี้เบาะแส เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ได้ผลยิ่งขึ้น โดยสามารถแจ้งเบาะแสยาเสพติดได้ที่หมายเลข 1386 และหมายเลข 1165 สำหรับผู้ต้องการเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษาโดยสมัครใจ



ฉัตรชัย พวงขจร /ข่าว/ พิมพ์

เกษตรกรปลูกข้าวนาปรังในจังหวัดแพร่ ประสบภัยแล้งต้องสูบน้ำบาดาลใส่นาข้าว

เกษตรกรปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่อำเภอสอง อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ ประสบปัญหาภัยแล้งต้องสูบน้ำบาดาลใส่นาข้าว แต่หันมาใช้แก๊สหุงต้มเป็นเชื้อเพลิงแทนน้ำมัน เพื่อลดค่าใช้จ่าย
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า แม้ทางราชการจะเตือนให้เกษตรกรงดปลูกข้าวนาปรังในช่วงของฤดูแล้งนี้ และให้หันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย และมีระยะการปลูกถึงการเก็บเกี่ยวสั้นๆ แต่ในทางตรงข้ามเกษตรกรกลับหันมาปลูกข้าวนาปรังเพิ่มขึ้น เมื่อขาดน้ำจากแหล่งน้ำและโครงการชลประทาน เกษตรกรในพื้นที่อำเภอสอง อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ จึงได้ใช้วิธีเจาะบ่อน้ำตื้น หรือบ่อน้ำบาดาล แล้วใช้เครื่องสูบน้ำสูบใส่นาแทน โดยทุกๆ 10 วันจะต้องสูบน้ำเข้านา เพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าว
แต่เกษตรกรก็ปรับเปลี่ยนวิธีหันมาใช้เครื่องสูบที่ใช้น้ำมันเบนซินแทนพร้อมปรับเปลี่ยนเป็นแก๊สหุงต้มเป็นเชื้อเพลิง ประหยัดค่าเชื้อเพลิงไปมากกว่าใช้น้ำมัน และไม่ต้องเสียเวลาเติมบ่อยโดยแก๊ส 1 ถัง สามารถสูบน้ำได้ 24-28 ชั่วโมง เสียค่าแก๊สไป 340 บาท แต่ถ้าเป็นน้ำมันจะสิ้นเปลืองประมาณ 1,400-1,600 บาท ในฤดูแล้งปีนี้เลยทำให้เครื่องสูบน้ำชนิดเครื่องยนต์เบนซิน และแก๊สหุงต้มจึงเป็นสินค้าที่ขายดี



ฉัตรชัย พวงขจร /ข่าว /พิมพ์

ประธาน กกต.แพร่ แจ้งขณะนี้แม้จะเลือกตั้งผ่านไปแต่ยังเปิดเผยผลคะแนนไม่ได้

ประธาน กกต.แพร่แจ้งขณะนี้แม้จะเลือกตั้งผ่านไปแต่ยังเปิดเผยผลคะแนนไม่ได้ เนื่องจากต้องรอผลคะแนนการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ที่ยังไม่ได้เลือกตั้ง

นายยรรยง สมจิตต์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแพร่กล่าวว่า ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา แม้ว่าจังหวัดแพร่จะดำเนินการเลือกตั้งผ่านไปด้วยดีนั้น แต่ กกต.ก็ยังไม่สามารถเปิดเผยผลคะแนนได้ เนื่องจากต้องรอผลคะแนนการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ที่ยังไม่ได้เลือกตั้งอีกหลายพื้นที่ ยังคงต้องรอผลสรุปจาก กกต.ส่วนกลางว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ แต่อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งที่ผ่านมาจังหวัดแพร่ทั้ง 3 เขต เลือกตั้งมีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 233,114 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 372,858 คน คิดเป็นร้อยละ 62.52 โดยเขตเลือกตั้งที่ 1 มีผู้มาใช้สิทธิ 81,432 คน จากผู้มีสิทธิทั้งหมด 125,963 คน คิดเป็นร้อยละ 64.45  เขตเลือกตั้งที่ 2 มีผู้มาใช้สิทธิ 76,651 คน จากผู้มีสิทธิทั้งหมด 122,298 คน คิดเป็นร้อยละ 62.67 และเขตเลือกตั้งที่ 3 มีผู้มาใช้สิทธิ 75,031 คน จากผู้มีสิทธิทั้งหมด 124,597 คน คิดเป็นร้อยละ 60.22 โดยขณะนี้กรรมการการเลือกตั้งได้ฝากผลการเลือกตั้งพร้อมหีบบัตรไว้ที่สถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ เพื่อดูแลหีบบัตรและผลการเลือกตั้งให้เกิดความปลอดภัย


ฉัตรชัย พวงขจร /ข่าว /พิมพ์

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ประกาศแต่งตั้ง ป.ป.จ. แพร่

สำนักงานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติประกาศแต่งตั้งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดแพร่ จำนวน 3 ราย

นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. แจ้งว่า ตามที่ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ดำเนินการสรรหาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดแพร่ไปแล้วนั้น ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาคัดเลือกบุคคลตามบัญชีรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาเสนอเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด ในการประชุมครั้งที่ 9-1 /2557 เมื่อสันที่ 17 มกราคม 2557 คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดแพร่ 3 ราย ประกอบด้วย พันตำรวจเอกเกียรติศักดิ์ ฤกษ์หร่าย ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดแพร่ นายมงคล สิทธิวีระกุล กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดแพร่ และนายเลิศสิริ พิมพา กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดแพร่ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นต้นไป


ฉัตรชัย พวงขจร /ข่าว /พิมพ์

จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดพิธีบวงสรวงก่อนเริ่มงานฤดูหนาวและงานรื่นเริง ประจำปี 2557

เช้าวันนี้ (6 ก.พ.2557)  นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำหัวหน้าส่วนราชการร่วมประกอบพิธีบวงสรวงและถวายเครื่องสักการะบูชา พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่หน้าศาลากลาง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ศาลเจ้าพ่อข้อมือเหล็ก ศาลเจ้าพ่อเมืองแข่ และอนุสาวรีย์พญาสิงหนาทราชา เจ้าผู้ครองเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก ซึ่งเป็นที่เคารพ บูชาของชาวแม่ฮ่องสอน ก่อนที่เริ่มงานฤดูหนาวและงานรื่นเริง ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 6-15 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อให้การจัดงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ในงานมีการออกร้านของส่วนราชการต่างๆ การออกร้านมัจฉากาชาด การประกวดธิดาชนเผ่า การเดินแฟชั่นโชว์การกุศลโดยนายแบบนางแบบกิตติมศักดิ์ การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง พร้อมหางเครื่อง วงสตริงเยาวชน การจำหน่ายสินค้า OTOP การแข่งขันชกมวยหญิง มวยไทย-พม่า การแข่งขันกีฬาชนเผ่า และการแสดงต่างๆมากมาย โดยไม่เสียค่าบัตรเข้าชมงานแต่อย่างใด



ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว ข่าว / เอกณรินทร์ ใจมะโน ภาพ

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์ พอ.สว. ที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

วานนี้ ( 5 ก.พ. 57 ) เวลา 14.00 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จไปยังโรงเรียนบริพัตรศึกษา อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ทรงเยี่ยมหน่วย พอ.สว. และหน่วยแพทย์พระราชทาน สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ที่โปรดให้ออกหน่วยบริการตรวจรักษาราษฎรที่เจ็บป่วย โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอน สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เป็นจังหวัดแพทย์อาสาลำดับที่ 3 ในปี พุทธศักราช 2512 ปัจจุบันมีแพทย์ 63 คน ทันตกรรม 39 คน เภสัชกร 41 คน พยาบาลวิชาชีพ 259 คน อาสามัครสายแพทย์และสาธารณสุขประเภทอื่นๆ 540 คน และอาสาสมัครสายสนับสนุน 289 คน รวม 1,231 คน ในปี 2556 ได้ปฏิบัติงานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. 26 หมู่บ้าน 28 ครั้ง มีผู้ป่วยมารับบริการกว่า 3,108 ราย และขอเป็นผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์ 16 ราย พอ.สว. จ.แม่ฮ่องสอนได้รับพระราชทานยานพาหนะ เวชภัณฑ์ ตลอดทั้งค่าอาหารสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ออกปฏิบัติงานในกิจกรรม พอ.สว. ทำให้การปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์ พอ.สว. จังหวัดแม่ฮ่องสอน ดำเนินการไปด้วยดีและบังเกิดประโยชน์ ในการนี้ทรงเยี่ยมราษฎรบ้านท่าข้าม และใกล้เคียงที่มาเฝ้ารับเสด็จ พร้อมพระราชทานของเล่นแก่เด็กเล็ก บ้านท่าข้ามมีราษฎร 515 หลังคาเรือน ประชากร 771 คน ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เมื่อเจ็บป่วยจะไปรับบริการที่โรงพยาบาลแม่สะเรียง ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 2.5 กิโลเมตร และที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลบ้านสบหาร

จากนั้น ทรงเยี่ยมหน่วย พอ.สว. จังหวัดแม่ฮ่องสอน และหน่วยแพทย์พระราชทาน สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ที่ออกหน่วยบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป และทันตกรรม มีผู้มารับบริการทั้งสิ้น 83 คน ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้อและกระดูก ส่งผู้ป่วยรักษาต่อ 4 คน ขอรับคำร้องขอความช่วยเหลือสงเคราะห์ครอบครัว 6 คน เจ้าของสัตว์เลี้ยงขอรับบริการและให้คำปรึกษา จำนวน 105 คน


ข่าวโดย : พักตร์ภูมิ ปัญญาไชยพัฒน์

จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำพิธีบวงสรวงเจ้าเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคลสร้างขวัญกำลังใจ ให้สิ่งศักดิ์คุ้มครอง ก่อนเปิดงานฤดูหนาวและงานรื่นเริง ปี 2557

เช้าวันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2557) เวลา 08.19 น. นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธีบวงสรวงเจ้าบ้านเจ้าเมือง พร้อมด้วยนางหทัยชนก พนัสอำพล นายกเหล่ากาชาดจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่เข้าร่วมพิธี ซึ่งสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้จัดเตรียมของบูชาเครื่องไหว้ประกอบด้วยดอกไม้ ธูปเทียนอาหารคาวหวาน ผลไม้ โดยมีพิธีกรชาวไทยใหญ่(จเร) เป็นผู้กล่าวคำบูชาเป็นภาษาไทยใหญ่ ตามประเพณีนิยมที่ปฏิบัติสืบทอดมาช้านาน
ในการจัดพิธีบวงสรวงเจ้าบ้านเจ้าเมืองเป็นความเชื่อถือของชาวไทยใหญ่ เมื่อจะมีการจัดงานประเพณีหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้คนเป็นจำนวนมาก ก็จะมีการบอกกล่าวสิ่งศักดิ์ที่ชาวไทยใหญ่เคารพนักถือเพื่อให้ช่วยดูแลคุ้มครองอุบัติภัยอันตรายทั้งหลายทั้งปวงไม่ให้เกิดขึ้น ซึ่งครั้งนี้เป็นการบอกกล่าวก่อนที่จะมีการจัดงานฤดูหนาวและงานรื่นเริงประจำปีของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ได้จัดมาเป็นประจำทุกปี โดยการบอกกล่าวสิ่งศักดิ์ในครั้งนี้เริ่มต้นที่ศาลเจ้าพ่อข้อมือเหล็ก ศาลเจ้าพ่อเมืองแข่ และอนุสาวรีย์พญาสิงหนาทราชา ตามลำดับ



ข่าวโดย : วรสิทธิ์ อุดมพาณิชย์ ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดศูนย์สำรวจเฝ้าระวังและป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ในระดับชุมชน เพื่อลดปัจจัยความเสี่ยงต่างๆและปัญหาการค้ามนุษย์ในชุมชน

เช้าวันนี้( 6 กุมภาพันธ์ 2557)นายบุญเสริม จิตเจนสุวรรณ ปลัดจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดศูนย์สำรวจเฝ้าระวังและป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ในระดับชุมชน ที่ชุมชนป๊อกกาดเก่า เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อลดปัจจัยความเสี่ยงต่างๆและปัญหาการค้ามนุษย์ในชุมชน พร้อมทั้งสร้างและพัฒนาศักยภาพบุคลากรในชุมชนให้มีความสามารถ และปฎิบัติงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพในการเฝ้าระวัง และป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ และภัยอื่นๆทางสังคม และสนับสนุนบทบาทให้ชุมชน มีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและป้องกัน ปัญหาการค้ามนุษย์ และภัยทางสังคม โดยการรายงานสถานการณ์ การแจ้งเหตุ มายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายในเบื้องต้นได้ต่อไป

ปลัดจังหวัดแม่ฮ่องสอนกล่าวว่าปีที่ผ่านมา จ.แม่ฮ่องสอนไม่มีคดีเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ อย่างไรก็ตามเนื่องจากพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอนมีประชากรจำนวนมากเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ ฐานะยากจน ขาดโอกาสทางการศึกษา ประกอบกับมีพื้นที่ชายแดนติดต่อกับสหภาพเมียนมาร์ ทั้ง 7 อำเภอ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาค้ามนุษย์ได้ การป้องกันจึงต้องให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหา



ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว ข่าว / เอกณรินทร์ ใจมะโน ภาพ

อบต.ปางหมู จัดโครงการ อบต.เยี่ยมเยือนประชาชน ที่บ้านพะโข่โหล่ เพื่อให้บริการประชาชน

เช้าวันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2557) นายอุทิศ บุญรวม รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลปางหมู นำเจ้าหน้าที่ จัดโครงการ อบต.เยี่ยมเยือนประชาชน ที่บ้านพะโข่โหล่ หมู่ที่ 10 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในพื้นทีห่างไกล อีกทั้งเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานและประชาชน โดยให้บริการต่างๆเช่น การจัดเก็บภาษี/ตรวจเช็คสุขภาพ/ตรวจเช็ครถจักรยานยนต์/ บริการตัดผม ชาย-หญิง / ฝึกอาชีพอิสระ/ให้บริการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า/ตรวจเลือดหาเชื้อมาลาเรียและสารพิษในเลือด/ให้ความรู้ด้านการเกษตร/ให้ความรู้ด้านแรงงาน /แนะนำตำแหน่งงานว่าง /ให้ความรู้เรื่องการสมัครงาน และมอบอุปกรณ์กีฬาโครงการ อบต.เยี่ยมเยือนประชาชน ประจำปี 2557 ครั้งต่อไป ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 ที่บ้านชานเมือง หมู่ที่ 11 โครงการดังกล่าวจะมีไปจนถึงวันที่ 4 มีนาคม 2557



ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดโครงการพัฒนาความร่วมมือ และเชื่อมโยงด้านศิลปวัฒนธรรมกับประเทศอาเซียน และโครงการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม ในงานฤดูหนาวและงานรื่นเริงประจำปี 2557

นางศันสนีย์ พุกกานนท์ วัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดโครงการพัฒนาความร่วมมือ และเชื่อมโยงด้านศิลปวัฒนธรรมกับประเทศอาเซียน และโครงการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม ในงานฤดูหนาวและงานรื่นเริงประจำปี 2557 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-15 กุมภาพันธ์ 2557 ที่บริเวณ ถนนสัมพันธ์เจริญเมือง และถนนนาวาคชสาร หน้าสถานีขนส่งโดยสาร จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อสร้างความสัมพันธ์และบรรยากาศที่อบอุ่นในครอบครัว ผ่านกิจกรรมทางศิลปะร่วมสมัย กิจกรรมในงานประกอบด้วย การประกวดครอบครัวหรรษา ชิงเงินรางวัลกว่า 10,000 บาท โดยผู้เข้าแข่งขันที่เป็นเด็กเยาวชนอายุไม่เกิน 25 ปี และผู้ปกครองจำนวน 2 คนขึ้นไป ร่วมระบายสีถุงผ้า ในหัวข้อ อาเซียนสัมพันธ์ สร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม ภายในเวลา 30 นาที และสามารถนำถุงผ้ากลับบ้านได้เลย

ซึ่งพิธีเปิดจะมีขึ้นในค่ำนี้ โดยนายสรุพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมแข่งขันได้ ตั้งแต่เวลา 18.00-21.00 น. ทุกวัน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน โทรศัพท์ 053-614417 /


ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน

สถิติเลือกตั้ง 2557 แบบแบ่งเขต มีคนมาใช้สิทธิ์ 46.79% โหวตโนพุ่ง 16.57% เชียงใหม่แชมป์ออกมาเลือกตั้งมากสุด 75.05% ขณะที่แม่ฮ่องสอนเป็นอันดับ 3

( 5 ก.พ. 2557 ) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ใน 68 จังหวัด ไม่รวม 9 จังหวัดภาคใต้ที่มีปัญหา และบางเขตของกรุงเทพมหานคร และจังหวัดระยอง โดยพบว่า

จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 43,024,042 คน
มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 20,129,976 คน จาก คิดเป็น 46.79%
บัตรดี จำนวน 14,368,962 ใบ คิดเป็น 71.38%
บัตรเสีย จำนวน 2,425,673 ใบ คิดเป็น 12.05%
โหวตโน หรือผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน จำนวน 3,335,334 ใบ คิดเป็น 16.57% จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด อันดับ 1 คือ จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้มาใช้สิทธิ์ 827,808 คน คิดเป็น 75.05%
อันดับ 2 คือ จังหวัดลำพูน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 241,209 คน คิดเป็น 73.39%
อันดับ 3 คือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 104,119 คน คิดเป็น 65.21%

สถิติดังกล่าวหากเทียบกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 จะพบว่า ปีนี้มีผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนสูงกว่า โดยเมื่อปี 2554 มีผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนในการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต เพียง 2.72% ขณะที่ปี 2557 มีถึง 16.57% ส่วนบัตรเสีย เมื่อปี 2554 มี 4.90% แต่ปี 2557 มีบัตรเสีย 12.05%


ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดกิจกรรมครอบครัวหรรษา เพ้นท์กระเป๋าผ้าระบายสี

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดกิจกรรมครอบครัวหรรษา เพ้นท์กระเป๋าผ้าระบายสี ในงานฤดูหนาวและงานรื่นเริงจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำปี 2557

นางศันสนีย์ พุกกานนท์ วัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ด้วยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้จัดให้มีโครงการ “พัฒนาความร่วมมือและเชื่อมโยง ด้านศิลปวัฒนธรรมประเทศอาเซียน” และโครงการ “สร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม” ในซุ้มนิทรรศการของสำนักงานวัฒนธรรม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในงานฤดูหนาวและงานรื่นเริงจังหวัดแม่ฮ่องสอนประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 6 – 15 กุมภาพันธ์ 2557

โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ได้จัดให้มีกิจกรรมการประกวดครอบครัวหรรษา เพ้นท์ กระเป๋าผ้าระบายสี “อาเซียนสัมพันธ์สร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม” ในงานฤดูหนาวและงานรื่นเริงจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำปี 2557 ชิงเงินรางวัลมากกว่า 10,000 บาท กติกา มีดังนี้ น้องๆหนูๆ อายุไม่เกิน 25 ปี ควงคู่มากับผู้ปกครองตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ลงทะเบียนสมัครได้ที่ซุ้มของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด(บริเวณในงาน) โดยเพ้นท์กระเป๋าผ้า (ทางสำนักงานวัฒนธรรมจัดเตรียมไว้ให้) ในหัวข้อ “อาเซียนสัมพันธ์ สร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม” ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที เริ่มสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 6 – 15 กุมภาพันธ์ 2557 ตั้งแต่เวลา 18.00 – 21.00 น. ทุกวัน เพ้นท์เสร็จรับกระเป๋ารับกระเป๋ากลับบ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น


ข่าวโดย : วรสิทธิ์ อุดมพาณิชย์ 

จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นอันดับ 3 มีผู้มาใช้สิทธิ์ 104,119 คน คิดเป็น 65.21%

จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นอันดับ 3 มีผู้มาใช้สิทธิ์ 104,119 คน คิดเป็น 65.21% อันดับ 1 คือ จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้มาใช้สิทธิ์ 827,808 คน คิดเป็น 75.05%

(5 กพ. 2557 ) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ใน 68 จังหวัด ไม่รวม 9 จังหวัดภาคใต้ที่มีปัญหา และบางเขตของกรุงเทพมหานคร และจังหวัดระยอง โดยพบว่า จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 43,024,042 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง จำนวน 20,129,976 คน คิดเป็น 46.79% บัตรดี จำนวน 14,368,962 ใบ คิดเป็น 71.38% บัตรเสีย จำนวน 2,425,673 ใบ คิดเป็น 12.05% โหวตโน หรือผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน จำนวน 3,335,334 ใบ คิดเป็น 16.57% จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด อันดับ 1 คือ จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้มาใช้สิทธิ์ 827,808 คน คิดเป็น 75.05% อันดับ 2 คือ จังหวัดลำพูน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 241,209 คน คิดเป็น 73.39% อันดับ 3 คือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 104,119 คน คิดเป็น 65.21%



ข่าวโดย : ทีมข่าว ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

กกต.แม่ฮ่องสอน เตือนให้ผู้ไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้ ต้องไปแจ้งเหตุระหว่างก่อนวันเลือกตั้ง 7 วัน จนถึงหลังวันเลือกตั้ง 7 วัน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เสียสิทธิ 3 ประการ

นายพันธุ์รัตน์ แก้ววิเชียร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า หากในวันเลือกตั้งผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้เพราะมีกิจธุระจำเป็น ต้องไปแจ้งเหตุที่ทำให้ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเทียนท้องถิ่นที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เสียสิทธิ 3 ประการ เสียสิทธิการยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว.เสียสิทธิการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส., ส.ว., สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น และสิทธิได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว. และเสียสิทธิการสมัครรับเลือกเป็นกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน สิทธิทั้ง 3 ประการ จะได้กลับคืนมาเมื่อไปใช้สิทธิการเลือกตั้งอย่างใดอย่างหนึ่ง ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งระดับชาติหรือท้องถิ่น

ซึ่งวิธีการแจ้งเหตุ ให้แจ้งได้ระหว่างก่อนวันเลือกตั้ง 7 วัน จนถึงหลังวันเลือกตั้ง 7 วัน โดยกรอกแบบฟอร์มหนังสือแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ (ส.ส. 28) โดยระบุหมายเลขประจำตัวประชาชน และที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้าน แนบหลักฐานเหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ ยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอและนายทะเบียนท้องถิ่นที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ได้ 3 วิธีการ คือ ยื่นด้วยตนเอง มอบหมายบุคคลอื่นไปยื่นแทน และส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน



ข่าวโดย : ทีมข่าว ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

หน่วยงานกระทรวงเกษตร ประชุมแผนปฏิบัติการ ปี 2557

หน่วยงานกระทรวงเกษตร ประชุมแผนปฏิบัติการ ปี 2557 เพื่อสนองพระราชดำริในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายสายเมือง วิรยศิริ ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารศูนย์ประสานงาน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และ นายโอภาส ทองยงค์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประชุมคณะทำงานศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตองตามพระราชดำริและศูนย์บริการ และพัฒนาลุ่มน้ำปายตามพระราชดำริ ครั้งที่ 1 ณ.ศูนย์ท่าโป่งแดง6 กุมภาพันธ์ 2557 เพื่อพิจารณาแผนปฏิบัติงานศูนย์ฯ ปี 2557 ของหน่วยงานในสังกัดรวมทั้งหน่วยงานภารกิจที่เกี่ยวข้องและ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอนร่วมดำเนินงาน เพื่อสนองพระราชดำริในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมการเผยแพร่ ข้อมูลข่าวสาร องค์ความรู้ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่โครงการ การเรียนรู้จากองค์ความรู้สำคัญ ประธานที่ประชุม ให้ข้อเสนอแนะในการพัฒนาพื้นที่สวนสาธารณะจังหวัดแม่ฮ่องสอนบ้านท่าโป่งแดงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ


ข่าวโดย : อ่อนศรี ศรีอัมพร ทีมข่าว ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

คลังปิโตรเลียมลำปาง ระดมทุกภาคส่วนร่วมซ้อมแผนดับเพลิงประจำปี 2557 เตรียมความพร้อมบุคลากร และเครื่องมือ ในการระงับเหตุฉุกเฉินภายในหน่วยงาน

บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) คลังปิโตรเลียมลำปาง ร่วมกับ หลายหน่วยงานทุกภาคส่วนในจังหวัดลำปาง ปฏิบัติการฝึกซ้อมแผนดับเพลิงและแผนหนีไฟ ประจำปี 2557 ที่ บริเวณภายในคลังปิโตรเลียมลำปาง ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ลำปาง-งาว ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่บุคลากร เจ้าหน้าที่ และเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือ ในการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการฝึกซ้อมแผนแบบเสมือนจริง โดยมีเจ้าหน้าที่ พนักงาน จากหน่วยงานสนับสนุนทั้ง เทศบาลนครลำปาง โรงพยาบาลลำปาง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ลำปาง เข้าร่วมปฏิบัติการฝึกซ้อมแผน

โดยการฝึกซ้อมแผนครั้งนี้ ได้มีการจำลองสถานการณ์ เกิดเหตุก๊าซรั่วที่หน้าแปลน 2 x 4 นิ้ว บริเวณถังสำรองก๊าซภายในคลังปิโตรเลียมลำปาง ซึ่งตรงจุดเกิดเหตุเป็นจุดที่มีถังสำรองก๊าซขนาดใหญ่ 1,000 ตัน จำนวน 2 ถัง ตั้งอยู่ และในที่เกิดเหตุได้มีเจ้าหน้าที่ประจำจุดเห็นเหตุการณ์ แจ้งเหตุไปยังศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินในพื้นที่ พร้อมกับพยายามเข้าระงับเหตุ แต่ก๊าซได้รั่วออกมาในปริมาณมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้บริเวณได้สูดดมก๊าซเข้าไป จนหมดสติอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 ราย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยฉุกเฉินได้เร่งระดมกำลังพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือดับเพลิง เข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และพยายามเข้าปิดวาวล์เพื่อหยุดการจ่ายก๊าซ แต่สถานการณ์กลับรุนแรงมากขึ้นเมื่อเกิดเพลิงลุกไหม้ที่บริเวณรอยรั่ว จนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ จึงต้องมีการประสานแจ้งหน่วยงานภายนอก นำทีมผจญเพลิง 2 ชุด เข้าช่วยสนับสนุน แต่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ จึงร้องขอความช่วยเหลือไปยังเทศบาลนครลำปาง นำรถดับเพลิงมาช่วยระงับเหตุจนเหตุการณ์สงบ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในขณะเดียวกันก็มีการประสานหน่วยแพทย์ฉุกเฉินจาก โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง และทีมแพทย์จากศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง เทศบาลนครลำปาง เข้ามาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ซึ่งจากเหตุการณ์จำลองได้สมมุติมีผู้ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากสูดดมก๊าซปริมาณมาก 1 ราย และเจ้าหน้าที่ที่เข้าระงับเหตุ ได้รับบาดเจ็บมีอาการกระดูกคอเคลื่อน 1 ราย

ด้านนายจักริน จั่นตระกูล ผู้จัดการส่วนคลังปิโตรเลียมลำปาง ได้กล่าวว่า การซ้อมแผนดับเพลิงและหนีไฟ หรือแผนฉุกเฉิน ทางบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) คลังปิโตรเลียมลำปาง ได้มีการซ้อมแผนเป็นประจำทุก 2 เดือน ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ให้สามารถปฏิบัติใช้งานอุปกรณ์ในการป้องกันเหตุร้าย หรือเหตุที่ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเพื่อเป็นการเน้นย้ำ และสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนคนลำปาง ถึงระบบและมาตรฐานการดูแลตรวจสอบ ความปลอดภัย ของคลังปิโตรเลียมลำปางด้วย
ดูคลิป http://youtu.be/nA89WVr7kKs


ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต

เลือกตั้ง ส.ส. ที่จังหวัดลำปางไร้ผู้ร้องเรียนกระทำผิดเลือกตั้ง

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จังหวัดลำปาง ไม่มีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำความกฎหมายเลือกตั้ง และการซื้อเสียงเข้ามายัง กกต.ลำปางแม้แต่รายเดียว

แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง ที่จังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีผู้ร้องเรียนการกระทำผิด หรือทุจริตเลือกตั้ง ที่เป็นลายลักษณ์อักษร เข้ามายังคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำปางแม้แต่เรื่องเดียว มีเพียงการโพสต์ข้อความ ตั้งข้อสังเกต และแสดงความเห็นส่วนตัวทางเฟสบุ๊คเท่านั้น

เนื่องจาก การเลือกตั้งที่ผ่านมา มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น และการตัดสินใจออกมาใช้สิทธิ์ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง รวมถึงผู้สมัครจากพรรคการเมือง ในการส่งผู้แทนลงสมัคร การหาเสียงค่อนข้างเงียบเหงา เพราะตัวผู้สมัครเองไม่ทุ่มทุนหาเสียงมากนัก ทำให้การเลือกตั้งที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดลำปางไม่มีการแข่งขันสูงเหมือนทุกครั้ง จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่มีข้อร้องเรียนในการกระทำผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

ส่วนผลคะแนนจากแต่หน่วยเลือกตั้งดำเนินการแล้วเสร็จ แต่ยังไม่รวมคะแนนผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อพรรค เพราะยังต้องรอผลการเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด ในพื้นที่จังหวัดที่ไม่สามารถดำเนินการได้ ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ อีกครั้ง หากไม่มีปัญหาใดๆ ภายหลังเลือกตั้งแล้วเสร็จก็จะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการต่อไป


ข่าวโดย : อธิชัย ต้นกันยา

จังหวัดลำปางเตรียมจัดงาน "แต่งงานบนหลังรถม้า" 40คู่ ในช่วงเทศกาลแห่งความรัก 13 -16 ก.พ.57

นายธนชัย พงษ์โสภาวิจิตร อุปนายกสมาคมรถม้าจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ด้วยศักยภาพของจังหวัดลำปาง ที่มีการอนุรักษ์ประเพณีและวัฒนธรรมที่ดีงามของประชาชนชาวลำปาง ห้วงระยะเวลาการท่องเที่ยว ไฮซีซั่น และท่องเที่ยวได้ทั้งปี จังหวัดลำปางจึงได้จัดเทศกาลแห่งความรัก เพื่อเป้นการต้อนรับปีท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง 2557 โดยขอเชิญคู่แต่งงานที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม “แต่งงานบนหลังรถม้า” ในบรรยากาศล้านนา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรถม้าที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของประเทศไทย
ทั้งนี้ คู่แต่งงาน ทั้ง 40 คู่ เสียค่าใช้จ่าย 20,000 บาท โดยจะได้เข้าร่วมงานแต่งงานบนหลังรถม้า ตักบาตรช่วงเช้า เพื่อความเป็นสิริมงคล ร่วมขบวนพาเหรดรถม้าช่วงเย็นจากสถานีรถไฟ นครลำปาง สู่ศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซ่าลำปาง และร่วมเลี้ยง ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 นอกจากนี้ จะได้รับภาพถ่ายสตูดิโอมืออาชีพ 1 ชุด ใหญ่ รวมรูปพรีเวดดิ้งนอกสถานที่ และคู่ฉลองแต่งงาน เสียค่าใช้จ่าย 2,000 บาทได้ร่วมงาน ขบวนพาเหรดรถม้า และร่วมงานเลี้ยง
ภายในงาน ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ จะมีการแสดงของโรงลคอร ณ หนา การแสดงวงดนตรี ส่วนในวันที่ 14 เวลา 18.30 น. ขบวนแห่ขันหมาก แห่ต้อนรับและนำเข้าสู่บริเวณงานเลี้ยงฉลองในวันที่ 15 -16 ก.พ.56 ตั้งแต่เวลา 14.00น. พบกับการแสดงแฟชั่นโชว์ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน การแสดงดนตรีและความบันเทิงต่างๆมากมาย ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าลำปาง ระหว่างวันที่ 13 – 16 กุมภาพันธ์ 2557



ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์

สาธารณสุขลำปาง เตือนระวังโรคมือ เท้า ปากในกลุ่มเด็กเล็ก

สำนักงานสาธารณสุขลำปาง เตือนศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนหรือสถานรับเลี้ยงเด็ก ระวังโรคมือ เท้า ปากในกลุ่มเด็กเล็ก ป้องกันและรักษาความสะอาดของห้องเรียนและอุปกรณ์

นพ.ศิริชัย ภัทรนุธาพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยถึงสถานการณ์ของโรคมือ เท้า ปาก ของจังหวัดลำปาง จากรายงานการเผ้าระวังโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง ในปี 2556 พบมีผู้ป่วย จำนวน 1,195 ราย แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต และจากข้อมูลเฝ้าระวังช่วงเดือน มกราคม ตั้งแต่วันที่ 1-28 มกราคม 2557 พบผู้ป่วยแล้วจำนวน 50 ราย ซึ่งมากกว่าปี 2556 ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ และผู้ป่วยจำนวน 23 คนเป็นกลุ่มเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี และรองลงมากลุ่มเด็กอายุ 5-9 ปี
นายแพทย์สาธารณสุขฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก ใหญ่พบในศูนย์เด็กเล็ก และมักระบาดในเด็กเล็กซึ่งรวมตัวอยู่ในโรงเรียนหรือสถานรับเลี้ยงเด็ก ซึ่งการป้องกันโรคมือ เท้า ปาก คือ การรักษาสุขอนามัย ความสะอาดของห้องเรียน ห้องครัว ภาชนะใส่อาหาร ของเล่น รวมถึงห้องน้ำ ห้องส้วมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคหรือผงซักฟอกเป็นประจำและยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และครูและพี่เลี้ยงเด็กต้องค่อยเฝ้าระวังโรคหากพบเด็กมีอาการป่วยและน่าสงสัยเป็นโรคมือ เท้า ปาก โดยการสังเกตอาการ คือ เด็กมักป่วยด้วยอาการไข้สูง ไม่ยอมกินข้าว ไม่ดื่มน้ำ มีตุ่มแดงที่ลิ้น เหงือกและกระพุ้งแก้ม ตุ้มนี้จะกลายเป็นตุ่มพองใสซึ่งบริเวณรอบ ๆ จะอักเสบและแดง ต่อมาตุ่มจะแตกเป็นแผลหลุมตื้น ๆ มักขึ้นบริเวณมือ นิ้วมือ ฝ่าเท้า และอาจพบที่ก้น ให้แจ้งและรีบไปหาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้าน และแยกเด็กป่วยออกาจากเด็กคนอื่น ๆ ทันที



ข่าวโดย : กมลรัตน์ เพ็ชรแสนงาม

สมาชิกสภา อบต. ที่ได้รับเลือก จากพื้นที่ต่างๆ ของ จ.ลำปาง เข้ารับการฝึกอบรมเพิ่มพูนองค์ความรู้ เพื่อประโยชน์สำหรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ในสภาท้องถิ่น

สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดลำปาง จัดกิจกรรมโครงการ "พัฒนาศักยภาพเพิ่มพูนองค์ความรู้ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้แก่สมาชิกสภาท้องถิ่น" ตามหลักสูตร "ฝึกอบรมสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล จังหวัดลำปาง รุ่นที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2557" ที่ หอประชุม โรงแรมบุษย์น้ำทอง ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง มีนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกอบรม โดยมีสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ในเขตพื้นที่อำเภอเมือง อำเภองาว และอำเภอสบปราบ ทั้งที่ได้รับการเลือกตั้งก่อน และได้รับการเลือกตั้งใหม่ รวมทั้งสิ้น 190 คน เข้าร่วมรับการฝึกอบรม

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริม เพิ่มพูนองค์ความรู้ และพัฒนาศักยภาพ แก่สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ให้มีความรู้ความเข้าใจในกฎหมายท้องถิ่น รวมถึงข้อกฎหมายอื่นๆ ระเบียบ และหนังสือสั่งการ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ ตลอดจนได้มีความเข้าใจในนโยบายของรัฐบาล ของกระทรวงมหาดไทย และของจังหวัดลำปาง ทั้งนี้เพื่อให้สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ได้มีองค์ความรู้พื้นฐานที่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปดำเนินการบริหาร พัฒนาองค์กร ปรับปรุงกระบวนงาน ให้เกิดประสิทธิภาพ และมีประสิทธิผลเพิ่มมากยิ่งขึ้น

สำหรับการฝึกอบรมได้นำหลักสูตร ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มาปรับใช้เป็นกรอบแนวทางในการดำเนินการ เพื่อให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ซึ่งประกอบไปด้วยความรู้ในเรื่องต่างๆ อาทิ ความรู้ในเรื่องบทบาทอำนาจหน้าที่ ในการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น และแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล เช่น การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น, การจัดทำข้อบัญญัติท้องถิ่น และแนวทางการปฏิบัติ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการประชุมสภาท้องถิ่น รวมทั้งการให้ความรู้ในหลักข้อกฎหมายและการบริหารราชการตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ความรู้ในเรื่องหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข, ความรู้ในข้อกฎหมายตามพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546, พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม, พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 เป็นต้น

โดยการฝึกอบรม ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำปาง, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติประจำจังหวัดลำปาง, โรงพยาบาลลำปาง และสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดลำปาง มาบรรยายให้ความรู้ในเรื่องต่างๆ พร้อมกับให้ข้อสังเกต และยกกรณีตัวอย่าง เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้เข้าใจถึงหลักเกณฑ์ และวิธีปฏิบัติที่ชัดเจนถูกต้อง
ดูคลิป http://youtu.be/dof4qIH6et0


ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต

ผู้ว่าฯ ลำพูน มอบเครื่องแบบนักเรียนพระราชทานแก่นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 26 จังหวัดลำพูน

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนมอบเครื่องแบบนักเรียนพระราชทานแก่นักเรียน จำนวน 853 คน ณ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 26 จังหวัดลำพูน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน

นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัด เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องแบบนักเรียนและให้โอวาทแก่นักเรียน ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 853 คน ณ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 26 จังหวัดลำพูน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัด กล่าวว่า โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 26 จังหวัดลำพูน เป็นโรงเรียนแบบศึกษาสงเคราะห์ที่รับเด็กยากไร้ทางเศรษฐกิจและสังคมให้มีสิทธิและโอกาสได้รับบริการการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างทั่วถึง นับตั้งแต่ได้พระราชทานก่อตั้งโรงเรียนแห่งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานสนับสนุนการเรียนการสอนของโรงเรียน รวมทั้งพระราชทานการสงเคราะห์แก่นักเรียน โดยมูลนิธิราชประชานุเคราะห์มาโดยตลอด นอกจากนั้น ยังทรงพระราชทานสิ่งของให้แก่นักเรียนเป็นประจำทุกปี ซึ่งเป็นสิ่งที่ครู อาจารย์ นักเรียน ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ต่างตระหนักและสำนึก พร้อมทั้งร่วมกันตั้งปณิธานที่จะถวายความจงรักภักดีและกระทำความดี โดยการทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ และขอมีส่วนร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ให้สามารถช่วยเหลือประชาชนอย่างทั่วถึง และยั่งยืนตลอดไป

นายสหรัฐ คำนาสัก นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องแบบนักเรียน กล่าวว่า รู้สึกดีใจและซาบซึ้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ อยากขอบพระทัยที่พระองค์ทรงห่วงใยในความเป็นอยู่ของนักเรียนซึ่งเป็นเด็กด้อยโอกาส หากอยู่ต่อหน้าพระพักตร์จะขอกราบแทบพระบาทและขอตั้งปณิธานที่จะทำความดี เป็นคนดีของสังคมให้สมกับที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ


ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ

ปภ.ลำพูน อบรม ประชาชน เพื่อ ขยายเครือข่าย มิสเตอร์เตือนภัย เพื่อ ช่วยลดความเสียหายหากเกิดเหตุสาธารณภัย

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดลำพูน จัด ฝึกอบรม ประชาชน ในโครงการมิสเตอร์เตือนภัย เพื่อ สร้างเครือข่ายการแจ้งเตือนเหตุ สาธารณภัย ให้มีการเตรียมการ ป้องกัน เพื่อลด ความสูญเสียต่อชีวิต และ ทรัพย์สิน โดยเฉพาะเหตุที่เกิดจาก อุทกภัย และ ดินถล่ม

วานนี้ ( 5 กุมภาพันธ์ 2557 ) สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำพูน จัดอบรมโครงการอาสาสมัครเตือนภัยดินถล่ม “ มิสเตอร์เตือนภัย ” ประจำปี 2557 จังหวัดลำพูน โดยจัดขึ้น ที่ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน มีนายนาวิน สินธุสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานเปิดการฝึกอบรม มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมที่ได้รับการคัดเลือกจากหมู่บ้านเสี่ยงภัย จำนวน 75 ชุมชน ๆ ละ 2 คน รวม 150 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทำหน้าที่ประสานงานแจ้งเตือนภัย ให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยและดินถล่มและให้ชุมชนมีความพร้อม และ สามารถเตรียมรับมือกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นได้ ซี่ง จากการดำเนินโครงการที่ผ่านมา จังหวัดลำพูน มีมิสเตอร์ เตือนภัยแล้ว รวมทั้งสิ้น 372 คน จาก 186 ชุมชน สำหรับการฝึกอบรมครั้งนี้ คณะวิทยากร จาก สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำพูน , ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ลำปาง , สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดลำพูน ได้ร่วมกันอบรมเกี่ยวกับ การสำรวจพื้นที่ การแจ้งเตือนภัยหาก บริเวณพื้นที่ใด มีความเสี่ยงที่จะ เกิดเหตุ อุทกภัย และ ดินถล่ม
ทางด้านนายนาวิน สินธุสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า เหตุสาธารณภัย ทั้งจากที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ และ ที่เกิดจากมนุษย์ เป็นเหตุที่ก่อให้เกิดความเสียหาย ในวงกว้าง เครือข่ายอาสาสมัคร มิสเตอร์เตือนภัย ของแต่ละ ชุมชน , หมู่บ้าน ถือเป็น กลุ่มบุคคลที่มีความสำคัญที่จะช่วยให้เกิดการหลีกเลี่ยงเหตุ , ลดความสูญเสีย จากเหตุสาธารณภัย ซึ่ง มิสเตอร์เตือน นอกจากจะมีหน้าที่เตือนเหตุสาธาณภัยแล้ว ยังต้องมีความรู้ด้านการปฐมพยาบาล เบื้องต้น ซึ่งหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ก็จะสามารถ ช่วยชีวิต ผู้ประสบภัย ก่อนถึงมือแพทย์ได้ .


ข่าวโดย : เชาวรินทร์ สอนปาละ

ตำรวจลำพูนเฝ้าระวังการละเมิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบการละเมิดกฎหมายมากขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557

พันตำรวจเอกสรรภัทร ปราบพุฒซา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า ในเดือนมกราคม 2557 ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำพูน ดำเนินการตามนโยบายลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม โดยติดตามเฝ้าระวังการละเมิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 จำนวน 13 กิจกรรม ประกอบด้วยการเฝ้าระวัง การจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 1,384 ร้าน พบการละเมิดกฎหมาย 1 ร้าน การจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่บุคคลซึ่งมีอาการมึนเมาจนครองสติไม่ได้ จำนวน 1,384 ร้าน การจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 1,384 ร้าน พบการละเมิดกฎหมาย 3 ร้าน การจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยการลดราคาเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการขาย จำนวน 1,384 ร้าน การจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยให้หรือเสนอให้สิทธิ์ในการเข้าชมการแข่งขันการแสดง การให้บริการชิงโชค การชิงรางวัลหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดเป็นการตอบแทนแก่ผู้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแก่ผู้นำหีบห่อหรือสลากหรือสิ่งใดเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาแลกเปลี่ยนหรือแลกซื้อ จำนวน 1,384 ร้าน พบการละเมิดกฎหมาย 7 ร้าน การจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ห้ามขาย (สถานีบริการน้ำมัน) จำนวน 1,384 ร้าน พบการละเมิดกฎหมาย 1 ร้าน การจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันและเวลาที่ห้ามจำหน่าย จำนวน 1,384 ร้าน พบการละเมิดกฎหมาย 1 ร้าน
การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่จำหน่ายในเวลาห้ามจำหน่าย จำนวน 1,384 ร้าน พบการละเมิดกฎหมาย 1 ร้าน การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่หรือบริเวณที่ห้ามมีการบริโภค จำนวน 1,384 ร้าน การโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อ หรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณ หรือชักจูงให้ผู้อื่นดื่มโดยตรง จำนวน 1,384 ร้าน พบการละเมิดกฎหมาย 2 ร้าน การไม่จัดให้เขตสูบบุหรี่มีสภาพ ลักษณะและมาตรฐานตามที่รัฐมนตรีกำหนด จำนวน 1,384 ร้าน พบการละเมิดกฎหมาย 1 ร้าน การไม่จัดให้มีเครื่องหมายในเขตสูบบุหรี่หรือเขตปลอดบุหรี่ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีกำหนด จำนวน 1,384 ร้าน พบการละเมิดกฎหมาย 3 ร้าน และการสำรวจสถานที่ราชการปลอดบุหรี่และแอลกอฮอล์ จำนวน 53 แห่ง ไม่พบการละเมิดกฎหมาย ทั้งนี้ ภาพรวมพบการละเมิดกฎหมายมากขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 โดยได้มีการตักเตือนและดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบ เครื่องแบบนักเรียน พระราชทาน ให้แก่นักเรียน ที่ ร.ร.ราชประชานุเคราะห์ 26 อ.ป่าซาง จ.ลำพูน

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธาน มอบเครื่องแบบนักเรียนพระราชทาน ให้แก่เด็กนักเรียนที่ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ที่ 26 อำเภอ ป่าซาง จังหวัด ลำพูน จำนวน 853 ชุด

วันนี้ ( 6 กุมภาพันธ์ 2557 ) นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน / ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัดลำพูน เป็นประธาน มอบเครื่องแบบนักเรียนพระราชทาน จาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้แก่ เด็กนักเรียน ที่ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ที่ 26 อ.ป่าซาง จ.ลำพูนจำนวน 853 ชุด นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ทรงห่วงใยต่อเด็กนักเรียน และยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการปฎิบัติงานให้แก่บุคลากรทางการศึกษา และ ประชาชนชาวอำเภอป่าซาง ยังความปลาบปลื้มปีติ แก่ นักเรียนเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังซาบซึ้งในพระมหากรุณาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อนัก เรียนที่อาศัยอยู่ในท้องถิ่นห่างไกล

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ที่ 26 จ.ลำพูน เป็นโรงเรียนแบบศึกษาสงเคราะห์ รับนักเรียนที่ขาดโอกาส ให้ได้รับการศึกษาแบบอยู่ประจำตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เพื่อให้มีความรู้สามารถ อาศัย อยู่ในสังคมระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขโดยสามารถเป็นผู้นำ หรือ สื่อกลางระหว่างรัฐกับชุมชนที่ตนอาศัยอยู่ได้ ปัจจุบัน มี ข้าราชการ พนักงาน ครู จำนวน 61 คน มี นักเรียน 853 คน โรงเรียน ได้น้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ พระราชทานให้แก่ โรงเรียน สืบสาน งานตามแนวพระราชดำริ โดยจัดทำหลักสูตร ครอบคลุมวิถีชีวิต สี่ด้าน ได้แก่ จริยศึกษา , พุทธิศึกษา , พลศึกษา , หัตถศึกษา ซึ่ง โรงเรียน ได้รับเงินพระราชทาน เพื่อการปลูก พืช และ เลี้ยงสัตว์ ผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ปีละ 50,000 บาท และ ดำเนินการส่งเสริมการเรียนรู้วิชาชีพตามโครงการจัดการศึกษา เพื่อการมีงานทำ โดยความร่วมมือ ของ วิทยาลัยการอาชีพป่าซาง เปิดสอน หลักสูตร อาชีพ ระยะสั้น 32 อาชีพ อีกทั้ง โรงเรียนได้สนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนสำหรับนักเรียนตามโครงการส่งเสริมอาชีพ เพื่อการมีรายได้ ระหว่างเรียน ( สอร. ) โดยเปิดบัญชีผ่านธนาคาร นักเรียน จัดกิจกรรม ตลาดนัดอาชีพเพื่อสนับสนุน การจำหน่าย สินค้าของนักเรียนทุกวันอาทิตย์

นอกจากนี้ทางโรงเรียนได้มอบทุนพระราชทานการศึกษาสงเคราะห์ให้แก่นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีผลการเรียน ตั้งแต่ 3.50 ขึ้นไป เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ในสถาบันการศึกษาของ ภาครัฐ และ เอกชน ในปีการศึกษา 2555 ที่ผ่านมา มีนักเรียนที่ได้รับคัดเลือกให้รับทุน จำนวน 13 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีผลการเรียนในระดับ ดี ถึง ดีเยี่ยม .


ข่าวโดย : เชาวรินทร์ สอนปาละ

รอง ผอ. สำนัก นโยบาย และ ยุทธศาสตร์ ความมั่นคง กอ.รมน. เยี่ยมเยียนกำลังพล ที่ ปฏิบัติหน้าที่ ใน จังหวัดลำพูน

รองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง กองอำนวยการรักษาความมั่นคง ภายในราชอาณาจักร เดินทางมาเยี่ยมเยียน กำลังพล ที่ปฏิบัติงาน ในพื้นที่ จังหวัดลำพูน เพื่อ มอบแนวทางการปฏิบัติงาน ความมั่นคง , การป้องกันปราบปรามยาเสพติด , การตั้งรับภัยพิบัติธรรมชาติ และ การเตรียมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

บ่ายวันนี้ ( 6 กุมภาพันธ์ 2557 ) ที่ศาลากลาง จังหวัดลำพูน พลตรี อำนาจ สมประสงค์ รองผู้อำนวยการสำนักนโยบาย และ ยุทธศาสตร์ความมั่นคง กองอำนวยการรักษาความมั่นคง ภายในราชอาณาจักร ( กอ.รมน. ) เยี่ยมเยียนกำลังพล ที่ จังหวัดลำพูน เพื่อชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงาน ในการเสริมสร้างความมั่นคง โดย นายอาณัติ วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ให้การต้อนรับ และ นำหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รายงานผลการดำเนินงานให้ทราบ
รองผู้อำนวยการสำนักนโยบาย และ ยุทธศาสตร์ ความมั่นคง กอ.รมน. กล่าวว่า กอ.รมน. มุ่งขับเคลื่อนงานความมั่นคงทุกด้าน อีกทั้งยังให้ความสำคัญ กับภัย ธรรมชาติ ซึ่งมีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศชาติ และ ประชาชน ด้วย ซึ่งในการเยี่ยมเยียนกำลังพล กอ.รมน.จังหวัดลำพูนในครั้งนี้ มุ่งสร้างความเข้าใจ แผนการปฏิบัติงาน และ รับทราบปัญหาข้อขัดข้อง ของกำลังพล เพื่อที่จะได้ นำข้อมูล หาทางแก้ไขให้การปฏิบัติงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประการสำคัญ อีกเรื่องหนึ่ง คือ การที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ ประชาคมอาเซียน ใน ปี 2558 จำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อม ในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านภาษา เพื่อจะได้สื่อสาร กับ ประเทศเพื่อนบ้านได้ รวมทั้งเตรียมงานแผนความมั่นคง ด้วย เนื่องจากจะมี ประชากร จากประเทศเพื่อนบ้าน เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย มากยิ่งขึ้น สำหรับ แผน ปฏิบัติงานด้านความมั่นคง ยังคงมุ่งเน้น ด้านการป้องกัน และ แก้ไขปัญหายาเสพติด การป้องกัน และ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การเสริมสร้างความสามัคคี ของ ประชาชนในชาติ และ การเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ .



ข่าวโดย : เชาวรินทร์ สอนปาละ

ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมงานมาฆบูชา พระพุทธศักราช ๒๕๕๗ ระหว่างวันที่ ๑๐ - ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

ขอเชิญพุทธศาสนิกชน ร่วมงานมาฆบูชา ๒๕๕๗ ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

โดยขอเชิญนมัสการและเวียนเทียนพระบรมสารีริกธาตุ เจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล ฟังปาฐกถาและอภิปรายธรรม เจริญกรรมฐาน สาธยายพระไตรปิฎก การศึกษาและโรงเรียนวิถีพุทธ พุทธศิลป์ คอนเสิร์ตธรรมะ การแสดงและประกวดธรรมบันเทิงหลายประเภท ตรวจสุขภาพและออกกำลังกายแบบสุขภาวะองค์รวมแนวพุทธ นิทรรศการและกิจกรรมองค์กรต่างๆ ทางพระพุทธศาสนา การเผยแผ่หนังสือธรรมะ และกิจกรรมบุญอื่นๆ อีกมากมาย

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ร่วมกับจังหวัดพิษณุโลก จัดงานสมโภชพระพุทธชินราช ประจำปี 2557

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีเปิดงานสมโภชพระพุทธชินราช พร้อมกับหัวหน้าส่วนราชการ โดยมีประชาชนเข้าร่วมพิธีกันเป็นจำนวนมาก เมื่อกล่าวถึงพระพุทธรูปที่มีความงามเป็นเลิศแล้ว ทุกคนต้องนึกถึงพระพุทธชินราชวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก เพราะเป็นพระพุทธรูปที่งดงามล้ำค่าไปด้วยศิลปกรรม เลิศล้ำด้วยพุทธลักษณะแห่งพระมหาบุรุษทุกประการ งามยิ่งกว่าพระพุทธรูปทั้งหมดในแผ่นดิน นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีทุกสมัย ต่างมีความเห็นเป็นอย่างเดียวกันว่าพระพุทธชินราชนั้นงามเป็นหนึ่ง ประดุจดั่งเพชรเม็ดงามที่ล้ำค่ามหาศาล ศิลปะที่ปรากฏผ่านตา เป็นที่สร้างศรัทธาเลื่อมใส จับจิตใจของผู้พบเห็น เป็นที่น่าอัศจรรย์ ยากที่จะพรรณนาความงามให้หมดสิ้นได้ รวมทั้งเป็นศูนย์รวมใจของคนทุกชนชั้น ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย สำหรับในปีนี้ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ร่วมกับจังหวัดพิษณุโลก ได้กำหนดให้มีการจัดงานสมโภช ระหว่างวันที่ 5 - 11 กุมภาพันธ์ 2557 ตรงกับวันขึ้น 6 ค่ำ ถึง 21 ค่ำ เดือน 3 รวม 7 วัน 7 คืน นับเป็นปีที่ 80 ที่วัดและจังหวัดได้ร่วมกันจัดงาน โดยเริ่มตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2477 เป็นต้นมา

กองทัพภาคที่ 3 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 จัดประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3

กองทัพภาคที่ 3 กองอำนวยกา​รรักษาความ​มั่นคงภายใ​นภาค 3 จัดประชุมค​ณะกรรมการที่​ปรึกษากองอำ​นวยการรักษ​าความมั่นค​งภายในภาค 3 เพื่อพูดคุ​ยปรึกษาหาแ​นวทาง ในการป้อง กั​นและแก้ไขปั​ญหาหาภัยคุ​กคามในสังค​ม

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมคอนเวนชั่น โรงแรมวังจันทร์ริเวอร์วิวโฮเต็ล อำเภอเมืองพิษณุโลก กองทัพภาคที่ 3 /กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 จัดประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 โดยมี พลโท ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 เป็นประธานในการประชุมในครั้งนี้ สำหรับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ทำหน้าที่อำนวยการ ประสานงาน กำกับ ดูแล และบริหารจัดการความมั่นคงในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ แต่ในปัจจุบันพบว่า มีภัยคุกคามหลายรูปแบบที่แตกต่างกันไป จึงได้จัดการประชุมในครั้งนี้ขึ้น เพื่อจะขอข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากคณะกรรมาการที่ปรึกษา ใน 4 ประเด็นหลัก คือ การแก้ไขปัญหายาเสพติด, ปัญหาบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, ปัญหาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง และปัญหาความขัดแย้งในสังคม โดยในที่ประชุม ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการ ที่ปรึกษา มีหน้าที่ในการแนะนำเสนอแนะแก้ไขปัญหา หรือป้องกันภัยที่จะเกิดขึ้น และให้คำปรึกษาตามที่ร้องขอ จำนวน 27 ราย ทั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และนำคำแนะนำหรือข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุง ตลอดจนความรวมมือ ร่วมใจ ของทุกฝ่าย เพื่อจะได้ผลักดันและดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย คือความสงบสุขของประชาชนในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือต่อไป

ผู้ประกอบการ บขส. 1 เข้าพบ ผวจ. หาข้อสรุป กรณีได้รับความเดือดร้อนย้ายรถไปใช้บริการแห่งใหม่

 
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธุ์ 2557 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุม 772 ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นาย วิทูรัช ศรีนาม รองผู้ว่าราชการจังหวัด และนายไพบูลย์ แพรสีเจริญ ขนส่งจังหวัดพิษณุโลก ร่วมประชุมกับตัวแทนผู้ประกอบการ และผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากกรณีที่มีการย้ายรถโดยสาร ไปจอดที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 บริเวณสี่แยกอินโดจีน กว่า 50 ราย เพื่อหาแนวทางในการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ ตามที่ได้เรียกร้องมายังผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก โดยเบื้องต้น ทางจังหวัด และ ขนส่ง ได้ให้ที่ประชุมยึดตามประกาศกรมการขนส่งทางบก เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา คือ ในสถานีขนส่ง แห่งที่ 1 ให้มีรถหมวดที่ 3 และหมวดที่ 4 เข้าใช้รวม 26 เส้นทาง ส่วนรถที่มีต้นทางพิษณุโลก ปลายทางพิษณุโลก ให้เข้าใช้ทั้ง 2 สถานี ขณะที่สถานีขนส่งแห่งที่ 2 มีรถเข้าใช้จำนวน 45 เส้นทาง ทั้งนี้ในที่ประชุมยังไม่ได้มีมติที่ชัดเจน เนื่องจากต้องรอให้ ตัวแทนผู้ประกอบการสถานีขนส่งแห่งที่ 1 ได้ยื่นข้อเสนอเพิ่มเติม พร้อมกับรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการ ของสถานีขนส่งแห่งที่ 2 อีกครั้ง

ชาวพรหมพิราม จ.พิษณุโลก หันมาปลูกดอกเบญจมาศขายสลับกับการทำนา ได้ผลผลิตดีกำไรงาม โดยเฉพาะในช่วงสภาพอากาศเย็นลง

เกษตรกรในพื้นที่ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก หันมาปลูกดอกเบญจมาศแทนการทำนา เนื่องจากได้ผลผลิตดีมีกำไรงาม ไม่ต่างจากการทำนา และไม่ต้องรอเงินจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดยนายละมาย นาคคงคำ อายุ 63 ปี และนางมณี นาคคงคำ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162 ม.2 บ้านพรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก สองสามีภรรยา เกษตรกรผู้ปลูกดอกเบญจมาศขาย กล่าวว่า แต่ก่อนครอบครัวของตนเองมีอาชีพทำนาเหมือนกับเกษตรกรคนอื่นๆ ใน อ.พรหมพิราม ซึ่งครอบครัวของตนทำนาทั้งหมด 24 ไร่ แต่เนื่องจากการทำนามีค่าใช้จ่ายสูง ในเรื่องของค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าเครื่องจักร และค่าแรงคนเป็นจำนวนมาก ในหน้าแล้งต้องอาศัยน้ำในปริมาณที่เยอะสำหรับการเพาะปลูก และยังมีปัญหาการจ่ายเงินล่าช้า จากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล จึงทดลองหันมาทำปลูกดอกเบญจมาศขาย ซึ่งปลูกสลับกับการทำนามาเป็นเวลาถึง 15 ปีแล้ว โดยใช้แค่เนื้อที่ 1 ไร่ 2 งานเท่านั้น ส่วนการดูแลรักษาก็ง่าย เพียงแค่รดน้ำในตอนเช้าเท่านั้น และใส่ปุ๋ยชีวภาพและปุ๋ยอินทรีย์ทั่วไป ที่หาได้ตามท้องตลาด เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวจะมีพ่อค้าจากในเมืองมารับซื้อถึงที่ โดยขายเป็นดอก ดอกละ 2-3 บาท และขายเป็นกิโลกรัม กิโลกรัมละ 70 บาท ซึ่งส่วนมากผู้ที่ซื้อไปจะนำไปใช้ในงานพิธีต่างๆ เช่น งานแต่ง งานศพ หรือใช้ไหว้พระทำบุญในโอกาสต่างๆ อีกด้วย สำหรับในปีนี้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา สภาพอากาศหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดอกเบญจมาศออกดอกดีมีสีสวยงาม และมีขนาดดอกที่โตกว่าปีก่อนๆ สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวของตนเองอย่างเป็นกอบเป็นกำ ถึงเดือนละ 1 แสนบาททีเดียว ซึ่งหากเกษตรกรชาวนาที่สนใจและมีพื้นที่เพาะปลูก จะหันมาปลูกดอกเบญจมาศสลับกับการทำนาในช่วงหน้าแล้ง ตนเองก็ยินดีให้คำปรึกษา เพราะขณะนี้ดอกเบญจมาศกำลังเป็นที่ต้องการของท้องตลาดเป็นอย่างมาก

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดพิษณุโลก จัดงานวันคนพิการประจำปี 2557 เพื่อให้คนพิการได้มีโอกาสมาทำกิจกรรมร่วมกัน


เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา ที่โรงยิมเนเซี่ยม สนามกีฬากลางจังหวัดพิษณุโลก สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดพิษณุโลก ได้จัดงานวันคนพิการประจำปี 2557 ขึ้น โดยนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเป็นประธานเปิดงาน ภายในงานมีกิจกรรม การมอบเกียรติบัตรให้แก่คนพิการดีเด่น รวมทั้งบุคคล หน่วยงาน องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ให้การสนับสนุนงานคนพิการดีเด่นและการแสดงความยินดีกับหน่วยงานที่ได้รับรางวัลสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการระดับประเทศ การรับมอบเงินและสิ่งของจากผู้ให้การสนับสนุนงานวันคนพิการ การมอบเงินทุนกู้ยืมประกอบอาชีพให้คนพิการรายละ 20,000 - 40,000 บาท จำนวน 16 ราย การแสดงความสามารถของเด็กพิการจากโรงเรียนพิษณุโลกปัญญานุกูลและจากสมาคมคนพิการจังหวัดพิษณุโลก นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคนพิการรวมทั้งให้บริการเคลื่อนที่แก่คนคนพิการ เช่น การรับสมัครคนพิการเข้าเรียนและฝึกอาชีพการจดทะเบียนคนพิการ บริการนวดแผนไทย การจัดงานในวันนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสมาคมคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย จำนวนเงิน 60,000 บาท และได้รับการสนับสนุนของขวัญรวมทั้งการจัดอาหารและเครื่องดื่ม จาก และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนถิ่นอีกด้วย