วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ผลการประกวดขบวนรถบุปผชาติงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเชียงใหม่ ครั้งที่ 38 ประจำปี 2557


พิธีเปิดงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเชียงใหม่ ครั้งที่ 38 ประจำปี 2557 จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เมื่อค่ำวานนี้ (8 ก.พ.57) ส่วนผลการประกวดขบวนรถบุปผชาติงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเชียงใหม่ ครั้งที่ 38 ประจำปี 2557 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งกำหนดพิธีพระราชทานถ้วยรางวัลในช่วงค่ำวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557 ขบวนรถของอำเภอฝางร่วมกับ อปท.คว้ารางวัลชนะเลิศประเภทสวยงาม ขบวนรถอำเภอฮอด คว้ารางวัลชนะเลิศประเภทความคิดสร้างสรรค์ และ อำเภอเมืองเชียงใหม่ คว้ารางวัลชนะเลิศประเภทอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม

ค่ำวานนี้ (8 ก.พ.57) เวลาประมาณ 20.30 น. ณ บริเวณเวทีหลัก ลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานเปิดงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเชียงใหม่ ครั้งที่ 38 ประจำปี 2557 ซึ่งปีนี้ได้ปรับเวลาของการปล่อยขบวนรถเป็นเวลา 16.00 น. โดยจุดเริ่มต้นยังคงอยู่ที่บริเวณเชิงสะพานนวรัฐ โดยมี ดร.สุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธี โดยการจัดงานปีนี้มีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และ กรมการท่องเที่ยวได้ส่งขบวนรถร่วมงานถึง 41 ขบวน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศร่วมชมความงดงามของขบวนรถบุปผชาติทั้งบริเวณจุดปล่อยขบวนรถและบริเวณสองข้างถนนท่าแพจากเชิงสะพานนวรัฐไปจนถึงลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพซึ่งจัดเวทีหลักสำหรับพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการเป็นจำนวนมาก

สำหรับการประกวดขบวนรถบุปผชาติงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเชียงใหม่ ครั้งที่ 38 ประจำปี 2557นั้น จังหวัดเชียงใหม่ได้แต่งตั้ง ดร.กษมา ประสงค์เจริญ ผู้อำนวยการวิทยาลัยนาฎศิลปะเชียงใหม่ เป็นประธานกรรมการติดสินการประกวดรถบุปผชาติฯ หัวหน้าส่วนราชการและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นคณะกรรมการ โดยปีนี้มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนส่งขบวนรถเข้าประกวดชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 27 ขบวน ซึ่งมีผลการประกวด ดังนี้
ประเภทสวยงาม รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ขบวนรถบุปผชาติอำเภอฝางร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ อำเภอสันป่าตองร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ อำเภอสันทรายร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนรางวัลชมเชย ได้แก่ อำเภอแม่ออนร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ประเภทความคิดสร้างสรรค์ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ขบวนรถบุปผชาติอำเภอฮอด รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ อำเภอสันกำแพง รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ขบวนรถสภาอุตสาหกรรมร่วมกับชมรมธนาคารจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนรางวัลชมเชย ได้แก่ อำเภอกัลยาณิวัฒนา
ประเภทอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ขบวนรถบุปผชาติอำเภอเมืองเชียงใหม่ รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ อำเภอแม่อาย รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ อำเภอแม่แตง ส่วนรางวัลชมเชย ได้แก่ อำเภอหางดง

สำหรับพิธีมอบถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แก่ขบวนรถบุปผชาติงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเชียงใหม่ ครั้งที่ 38 ประจำปี 2557 ที่ชนะเลิศการประกวดทั้ง 3 ประเภทกำหนดจัดขึ้น ณ เวทีหลักบริเวณลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ ในช่วงค่ำของวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายของการจัดงาน โดยจะเริ่มในเวลา 19.00 น.



ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว

กกต.พะเยา จัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นแก่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งนายกและสมาชิกเทศบาลตำบลในวันที่ 16 มีนาคม นี้

วันนี้ (9 ก.พ.57) นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมโครงการให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นแก่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนที่สนใจ ณ ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดแม่เย็นใต้ ต.ป่าแฝก อ.แม่ใจ จ.พะเยา ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยาจัดขึ้นเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเข้าใจถึงบทบาทอำนาจหน้าที่ของกรรมการการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2554 และระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 โดยมีคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 6 แห่ง ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนผู้สนใจเข้ารับการอบรมทั้งสิ้น 170 คน

นางสาวพัชรินทร์ รัตนวิภา ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยา ได้มีมติเห็นชอบประกาศผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของจังหวัดพะเยา ให้มีการเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาเทศบาลตำบล จำนวน 6 แห่ง คือ ที่เทศบาลตำบลสันป่าม่วง และเทศาลตำบลบ้านสาง อำเภอเมืองพะเยา , เทศบาลตำบลป่าแฝก และเทศบาลตำบลเจริญราษฎร์ อำเภอแม่ใจ , เทศบาลตำบลหนองหล่ม อำเภอดอกคำใต้ , และที่เทศบาลตำบลแม่ยม อำเภอปง โดยได้กำหนดรับสมัครระหว่างวันที่ 10 – 14 กุมภาพันธ์ 2557 และวันเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม 2557 ดังนั้นสำนักงาน กกต.พะเยา จึงได้จัดการอบรมดังกล่าวขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการกฎหมายการเลือกตั้งท้องถิ่น ตลอดจนความผิดและข้อห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง พร้อมทั้งให้เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบและป้องกันการทุจริตการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริต โปร่งใส และเที่ยงธรรม



ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

กกต. ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย เผยขณะนี้พบ 10 จังหวัดผู้สมัคร ส.ส.ถูกร้องกระทำผิดกฎหมาย

กกต. ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย เผยขณะนี้พบ 10 จังหวัดผู้สมัคร ส.ส.ถูกร้องกระทำผิดกฎหมาย พร้อมเตรียมยื่นหนังสือให้รัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่ 28 เขต

นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวในโอกาสเดินทางมาตรวจเยี่ยมพร้อมมอบนโยบายแก่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพะเยาวันนี้ ว่า ในการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาไม่มีการร้องเรียนเรื่องการทุจริตการซื้อเสียง แต่พบการร้องคัดค้านใน 8 จังหวัด 9 เรื่อง ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง อย่างไรก็ตามล่าสุดพบว่ามีการร้องคัดค้านเข้ามายัง กกต.แล้ว 10 จังหวัด โดยเป็นการร้องว่าผู้สมัครพรรคการเมืองหาเสียงเกินจริง ติดป้ายโฆษณาหาเสียงไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในคะแนนนิยม ใช้เจ้าหน้าที่ของรัฐในการช่วยเหลือผู้สมัครหาเสียง

นายบุญส่ง ยังกล่าวถึงกรณีที่ กกต.ให้รัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่ใน 28 เขตเลือกตั้ง ที่ยังคงไม่มีผู้สมัคร ส.ส. ว่า ในวันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ ทาง กกต. จะทำเป็นหนังสือส่งไปยังรัฐบาลให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณาออกพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งใหม่ทั้ง 28 เขตดังกล่าว ทั้งนี้ ทาง กกต.ไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะกำหนดเปิดรับสมัครเลือกตั้งใหม่เองได้ โดยอำนาจที่ได้รับมาคือการให้ลงคะแนนใหม่เท่านั้น และหากรัฐบาลเห็นเป็นอย่างไรต้องส่งหนังสืออย่างเป็นทางการกลับมายัง กกต.ก็คงจะต้องขึ้นสู่ศาลรัฐธรรมนูญให้ชี้ขาดอีกครั้ง


ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ

สาวงามจากเผ่าลาหู่หรือมูเซอคว้าตำแหน่งธิดาชนเผ่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน และรางวัลขวัญใจมหาชน ในงานฤดูหนาวและงานรื่นเริงประจำปี 2557

ค่ำวานนี้ (8 ก.พ.2557) มีการประกวดธิดาชนเผ่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในงานฤดูหนาวและงานรื่นเริงประจำปี 2557 โดยมีสาวงามที่มีภูมิลำเนาเป็นคนแม่ฮ่องสอนจาก 6 ชนเผ่าจำนวน 33 คน เข้าร่วมประกวด โดยผลการประกวดมีดังนี้

ธิดาชนเผ่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำปี 2557 ได้แก่นางสาวธิดาพร ศักดิ์ปิยเมธากุล ชนเผ่าลาหู่หรือมูเซอ มีภูมิลำเนาบ้านผาม่อน ตำบลถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า ศึกษาอยู่คณะครุศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาลัยแม่ฮ่องสอน และได้รับรางวัลธิดาประจำเผ่าลาหู่ด้วย พร้อมรางวัลขวัญใจมหาชนด้วย

รองธิดาชนเผ่าอันดับที่ 1 ได้แก่นางสาววรีรยา แซ่เจ๋า จีนยูนาน ได้รับรางวัลธิดาประจำเผ่าจีนยูนานด้วย พร้อมรางวัลขวัญใจสื่อมวลชนด้วย

รองอันดับที่ 2 ได้แก่ นางสาวธนาภา ปัญญาเสริมวุฒิ ชาวไทใหญ่

รอง อันดับที่ 3 ได้แก่ นางสาวภัททิยา สะเลโพ ชนเผ่ากะเหรี่ยง

รองอันดับที่ 4 ได้แก่ นางสาวชลิตา ชีวอรุณทอง ชนเผ่ากะเหรี่ยง ธิดาประจำเผ่ากะเหรี่ยงด้วย

ส่วนธิดาประจำชนเผ่าม้งได้แก่ นางสาวแสงจันทร์ หวานซึ้ง

นอกจากนั้นยังมีการเดินแฟชั่นการกุศลในชุดชนเผ่า และชุดนานาชาติ นำโดยนายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการ จังหวัดแม่ฮ่องสอนพร้อมด้วยนางหทัยชนก พนัสอำพล นายกเหล่ากาชาด จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในชุดชนเผ่าลีซู


ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน บันทึกเทปรายการผู้ว่าฯพาเที่ยว ที่ถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

เช้าวันนี้ ( 9 กุมภาพันธ์ 2557)  นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน บันทึกเทปโทรทัศน์รายการ ผู้ว่าฯพาเที่ยว โดยพาเที่ยวชมถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า เพื่อผลิตรายการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ถ้ำลอด อยู่ในความดูแลของสถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าถ้ำน้ำลอด ส่วนการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยว ชุมชนบ้านถ้ำลอด เป็นผู้ดูแล ชื่อของถ้ำลอดมีที่มาจาก ถ้ำแห่งนี้มีห้วยน้ำลางไหลผ่าน ตั้งแต่ปากทางเข้าถ้ำไปจนถึงปากทางน้ำออก หรือหน้าถ้ำผีแมน นอกจากถ้ำแล้วยังมีนกแอ่นตะโพกขาว หางแฉก และค้างคาวจำนวนมาก ซึ่งตอนเย็นค้างคาว จะบินออกจากถ้ำไปหากินสวนกับนกแอ่นที่บินกลับจากหากิน บินกลับรังในถ้ำนับแสนตัว ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามมาก นอกจากนั้นภายในถ้ำยังมีเครื่องมือ เครื่องใช้โบราณ สันนิษฐานว่ามีอายุประมาณ 1,200-1,400 ปี บริเวณถ้ำลอดมีถ้ำเด่นๆอยู่ 3 ถ้ำ ได้แก่ ถ้ำเสาหิน และถ้ำตุ๊กตา นักท่องเที่ยวที่ต้องการท่องเที่ยวภายในถ้ำ ต้องใช้บริการของชุมชนบ้านถ้ำลอด เป็นค่าตะเกียง พร้อมคนนำทาง กลุ่มละ 150 บาทซึ่งมีชาวบ้านมาให้บริการ กว่า 100 คน ค่าล่องแพ มีตั้งแต่ราคาแพละ 200-400 บาท ขึ้นอยู่กับความต้องการของนักท่องเที่ยว ที่จะเที่ยวกี่ถ้ำ โดยก็มีชาวบ้านให้บริการแพกว่า 100 ลำ สร้างรายได้เสริมให้แก่ชุมชนได้เป็นอย่างดี

รายการผู้ว่าฯพาเที่ยว ออกอากาศทางช่องต้นว่านเคเบิลทีวี เคเบิลทีวีท้องถิ่น ทุกวันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 08.30-09.00 น. นอกจากนั้นยังสามารถ รับชมรายการย้อนหลังผ่านระบบ Social Network ทาง Youtube / Facebook และทางเวปไซต์ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ www.maehongson.th



ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบเครื่องแบบนักเรียน ให้นักเรียนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน

เช้าวันนี้( 9 กุมภาพันธ์ 2557 )นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะประธานกรรมการ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน และคณะ นำสิ่งของพระราชทาน และอุปกรณ์การเรียน มอบให้ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 34 อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งตัวแทนเด็กนักเรียน กล่าวแสดง ความรู้สึก ซาบซึ่ง ในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ได้มีพระราชดำริ ให้สร้าง โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 34 ขึ้น และมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานการศึกษาทางไกล ผ่านดาวเทียม ถ่ายทอดสดจาก โรงเรียนวังไกล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ นักเรียนได้รับการศึกษาทันเหตุการณ์ ความก้าวหน้าของโลกในยุคปัจจุบัน พร้อมทั้งทั้งปฎิญานตนว่า จะประพฤติตนเป็นคนดี ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิด ร่วมทั้งจะตั้งใจเรียน ให้สมกับเป็น ลูกราชประชานุเคราะห์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 34 เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนจำนวน 488 คน บุคลากรจำนวน 53 คน มีผลงานดีเด่น ประกอบด้วย รางวัลเหรียญทองโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภททดลอง ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและเหรียญทองการแข่งขันทำอาหารจานเดียว ในงานศิลปะหัตกรรมนักเรียนครั้งที่ 63 /รางวัลผลงานยอดเยี่ยม โครงงานถั่วเน่าแค๊ป และรางวัล ผลงานดีเด่นโครงงานเดอะแชมป์เปี้ยนออฟไทใหญ่ จากโครงการแม่ฮ่องสอนไอทีวัลเลย์ ครั้งที่ 5

นอกจากนั้น มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เตรียมมอบเครื่องแบบนักเรียนพระราชทาน ให้โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 22 /โรงเรียนสังวาลวิทย์ 3 อำเภอปาย ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557/



ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบเครื่องแบบนักเรียน ให้แก่นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 34 อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน

วันนี้ ( 9 กุมภาพันธ์ 2557 ) เวลา 11.00 น. นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน และคณะ นำสิ่งของพระราชทาน และอุปกรณ์การเรียน มอบให้แก่นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 34 อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 488 ชุด เพื่อเด็กนักเรียนจะได้นำไปใช้ประโยชน์ในด้านการศึกษา

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 34 อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดตั้งขึ้นตามโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงพื้นที่ชายแดนตามแนวพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จัดตั้งโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์สำหรับเด็กชาวไทภูเขา ตามแนวชายแดนและเด็กด้อยโอกาสที่ประสบปัญหาต่างๆ ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานเงินทุนผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูประถัมภ์ เป็นค่าก่อสร้างอาคาร ปัจจุบันมีนักเรียนจำนวน 488 คน มีบุคลากรจำนวน 53 คน มีผลงานดีเด่น ประกอบด้วย รางวัลเหรียญทองโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภททดลอง ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและเหรียญทองการแข่งขันทำอาหารจานเดียว ในงานศิลปะหัตกรรมนักเรียนครั้งที่ 63 /รางวัลผลงานยอดเยี่ยม โครงงานถั่วเน่าแค๊ป และรางวัล ผลงานดีเด่นโครงงานเดอะแชมป์เปี้ยนออฟไทใหญ่ จากโครงการแม่ฮ่องสอนไอทีวัลเลย์ ครั้งที่ 5

ซึ่งตัวแทนเด็กนักเรียน กล่าวแสดง ความรู้สึก ซาบซึ่ง ในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ได้มีพระราชดำริ ให้สร้าง โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 34 ขึ้น และมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานการศึกษาทางไกล ผ่านดาวเทียม ถ่ายทอดสดจาก โรงเรียนวังไกล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ นักเรียนได้รับการศึกษาทันเหตุการณ์ ความก้าวหน้าของโลกในยุคปัจจุบัน พร้อมทั้งทั้งปฎิญานตนว่า จะประพฤติตนเป็นคนดี ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิด ร่วมทั้งจะตั้งใจเรียน ให้สมกับเป็น ลูกราชประชานุเคราะห์ 



ข่าวโดย : พักตร์ภูมิ ปัญญาไชยพัฒน์

จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประกวดธิดาชนเผ่า ในงานฤดูหนาวและงานรื่นเริงจังหวัแม่ฮ่องสอน ประจำปี 2557


จังหวัดแม่ฮ่องสอนประกวดธิดาชนเผ่า ในงานฤดูหนาวและงานรื่นเริงจังหวัแม่ฮ่องสอน ประจำปี 2557 ผลการประกวดสาวงามจากจากชนเผ่าลาหู่หรือมูเซอ ครองตำแหน่งธิดาชนเผ่า และได้รับรางวัลธิดาประจำเผ่าลาหู่ พร้อมด้วยรางวัลขวัญใจมหาชน

ค่ำวานนี้ ( 8 ก.พ. 57 ) นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประกวดธิดาชนเผ่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในงานฤดูหนาวและงานรื่นเริงจังหวัแม่ฮ่องสอน ประจำปี 2557 พร้อมด้วยนางหทัยชนก พนัสอำพล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน หัวหน้าส่วนราชการ และสื่อมวลชนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีสาวงามที่มีภูมิลำเนาเป็นคนแม่ฮ่องสอนจาก 6 ชนเผ่าจำนวน 33 คน เข้าร่วมประกวด ผลการประกวดธิดาชนเผ่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประจำปี 2557 ได้แก่นางสาวธิดาพร ศักดิ์ปิยเมธากุล จากชนเผ่าลาหู่หรือมูเซอ มีภูมิลำเนาบ้านผาม่อน ตำบลถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า ศึกษาอยู่คณะครุศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาลัยแม่ฮ่องสอน และได้รับรางวัลธิดาประจำเผ่าลาหู่ พร้อมด้วยรางวัลขวัญใจมหาชน รองธิดาชนเผ่าอันดับที่ 1 ได้แก่ นางสาววรีรยา แซ่เจ๋า จากชนเผ่าจีนยูนาน และได้รับรางวัลธิดาประจำเผ่าจีนยูนาน พร้อมด้วยรางวัลขวัญใจสื่อมวลชน รองอันดับที่ 2 ได้แก่ นางสาวธนาภา ปัญญาเสริมวุฒิ ชาวไทใหญ่ รองอันดับที่ 3 ได้แก่ นางสาวภัททิยา สะเลโพ ชนเผ่ากะเหรี่ยง และรองอันดับที่ 4 ได้แก่ นางสาวชลิตา ชีวอรุณทอง ชนเผ่ากะเหรี่ยง และตำแหน่งธิดาประจำเผ่ากะเหรี่ยง ส่วนตำแหน่งธิดาประจำชนเผ่าม้งได้แก่ นางสาวแสงจันทร์ หวานซึ้ง
ซึ่งนอกจากการประกวดธิดาชนเผ่าแล้ว ยังมีการเดินแฟชั่นโชว์การกุศลในชุดชนเผ่า และชุดนานาชาติ นำโดยนายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยนางหทัยชนก พนัสอำพล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในชุดชนเผ่าลีซู และนายแบบนางแบบกิตติมศักดิ์ เพื่อเป็นการโปรโมทชุดการแต่งกายพื้นเมืองของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้เป็นที่รู้จักอีกด้วย



ข่าวโดย : พักตร์ภูมิ ปัญญาไชยพัฒน์

ประชาชนและนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศร่วมแข่งขันเดิน - วิ่ง แควน้อยบำรุงแดน มาราธอน 2014 ที่จังหวัดพิษณุโลกอย่างเนืองแน่น ท่ามกลางบรรยากาศสวยงามบริเวณสันเขื่อน

ประชาชนและนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศร่วมแข่งขันเดิน - วิ่ง แควน้อยบำรุงแดน มาราธอน 2014 ที่จังหวัดพิษณุโลกอย่างเนืองแน่น ท่ามกลางบรรยากาศสวยงามบริเวณสันเขื่อน

เช้าวันที่ ( 8 ก.พ.57 ) ที่บริเวณสันเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก นายวิทูรัช ศรีนาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานเปิดการการแข่งขันเดิน – วิ่ง แควน้อยบำรุงแดน มาราธอน 2014 โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศเข้าร่วมการแข่งขันกันอย่างคึกคัก ท่ามกลางบรรยากาศที่งดงามบริเวณสันเขื่อนที่แวดล้อมไปด้วยทิวเขาที่อุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ ซึ่งการจัดการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่องปีนี้เป็นปีที่ 4 โดยมีองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดการแข่งขัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมการออกกำลังกาย ให้สุขภาพแข็งแรง ตลอดจนเป็นประชาสัมพันธ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ซึ่งเป็นเขื่อนกักเก็บน้ำ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก และเป็นเขื่อนสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งมีทัศนียภาพที่สวยงาม เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวพักผ่อนและทัศนศึกษา ที่สำคัญเหมาะแก่การออกกำลังกายเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสภาพอากาศในพื้นที่ดีมาก พร้อมกันนี้ยังเป็นการสร้างอาชีพและเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วย สำหรับการแข่งขันแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทมาราธอน ระยะทาง 42.195 กิโลเมตร ประเภทฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21.1 กิโลเมตร ประเภทมินิมาราธอน ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร ประเภทเดิน – วิ่งเพื่อสุขภาพ ระยะทาง 3 กิโลเมตรและประเภทเดิน – วิ่ง ฟันรัน ระยะทาง 3 กิโลเมตร ทั้งนี้นายวิทูรัช ศรีนาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ยังได้ร่วมการแข่งขันในประเภทเดิน – วิ่งเพื่อสุขภาพ ระยะทาง 3 กิโลเมตร อีกด้วย

จังหวัดพิษณุโลกแถลงข่าวเตรียมจัดงานเทศกาลโคมไฟ ประจำปี 2557 เพื่อส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของคนไทยเชื้อสายจีน

จังหวัดพิษณุโลกแถลงข่าวเตรียมจัดงานเทศกาลโคมไฟ ประจำปี 2557 เพื่อส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของคนไทยเชื้อสายจีน ตลอดจนเป็นการสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดพิษณุโลก

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพิษณุโลก นายวิทูรัช ศรีนาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยนางเปรมฤดี ชามพูนท ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดพิษณุโลก นางสาววราภรณ์ จาตุกัญญาประทีป ประธานคณะกรรมการจัดงานเทศกาลโคมไฟ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวเตรียมจัดงานเทศกาลโคมไฟ ประจำปี 2557 ซึ่งการจัดงานดังกล่าวเพื่อส่งเสริมให้เกิดการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของคนไทยเชื้อสายจีน ตลอดจนเป็นการสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดพิษณุโลก โดยงานนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 ก.พ. นี้ นางสาววราภรณ์ จาตุกัญญาประทีป ประธานคณะกรรมการจัดงานเทศกาลโคมไฟ ประจำปี 2557 กล่าวว่า งานเทศกาลโคมไฟนั้น ถือได้ว่าเป็นประเพณีอันดีงามที่น่าส่งเสริม โดยทุกบ้านจะนำโคมจีนมาแขวนไว้หน้าบ้าน และมีงานเลี้ยงเพื่อเฉลิมฉลองก่อนที่วันต่อไปจะต้องทำงานหนัก เป็นกิจกรรมที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของคนไทยเชื้อสายจีน ตลอดจนเป็นการสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดพิษณุโลก โดยงานดังกล่าวจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี หลังวันปีใหม่ของจีน 15 วัน ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ภายในงาน วันที่ 12 กุมภาพันธ์ จะได้พบกับขบวนแห่โคมไฟ สายเลือดมังกร อันตระการตา ซึ่งปีนี้ นับเป็นขบวนแห่โคมไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ประกอบไปด้วย ขบวนเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ฮก ลก ซิ่ว ขบวนล่อโก้ว ขบวนฮวยน้า ขบวนเองกอจากศาลเจ้าแม่ทับทิม อ.วังทอง ขบวนมังกรเงิน มังกรทอง ขบวนสิงโตกวางตุ้ง สิงโตดอกเหมย สิงโต 4 เผ่าพันธุ์ ขบวนมังกรทะยานฟ้า ขบวนสิงโตปักกิ่ง ขบวนรถแห่โคมไฟ เหล่าเทพธิดาและสาวงามจากการประกวดมิสง่วนเซียว และกิจกรรมบนเวทีสวนชมน่านที่หลากหลาย ตลอด 3วัน 3 คืน และการประกวดหนูน้อยง่วนเซียว ประจำปี 2556 ในวันที่ 13กุมภาพันธ์ 2557 และ การประกวดสาวงามเทศกาลโคมไฟ หรือมิสง่วนเซียว ประจำปี 2557 ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 นอกจากนี้ ในปีนี้ ศูนย์การค้าเซนทรัลพลาซ่า ยังได้ร่วมจัดงานให้มีความยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่สำคัญอีก 1 กิจกรรม ของจังหวัดพิษณุโลก โดยการนำเอา การแสดงโคมไฟมีชีวิต 4 มิติ ครั้งแรกในประเทศไทยโดยจัดขึ้นที่ศูนย์การค้าเซนทรัลพลาซ่า จ.พิษณุโลก ระหว่างวันที่ 12-16 กุมภาพันธ์2557 ด้วย เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาลโคมไฟจังหวัดพิษณุโลก ประจำปี 2557 อีกด้วย

ประชาชนชาวลำปาง และจากต่างจังหวัด กว่า 800 คน ร่วมกิจกรรม "ปั่น รัก(ษ์) พิทักษ์โลก" รณรงค์ลดการใช้พลังงาน บรรเทาภาวะโลกร้อน

จังหวัดลำปาง ร่วมกับ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำปาง สมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทย และสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส จัดกิจกรรม "ปั่น รัก(ษ์) พิทักษ์โลก" รณรงค์ลดการใช้พลังงาน ใช้รถ ใช้น้ำมัน ลดปัญหามลพิษทางอากาศ บรรเทาภาวะโลกร้อน ที่ บริเวณสวนสาธารณะเขลางค์นคร ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง มีนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานเปิดงาน พร้อมร่วมขบวนปั่นจักรยานรณรงค์ฯ โดยมี สมาชิกจากชมรมจักรยานจังหวัดลำปาง และสมาชิกชมรมจักรยานจากต่างจังหวัด กลุ่มประชาชนผู้ใช้รถจักรยานในเขตเทศบาลนครลำปาง และเขตชุมชนใกล้เคียง รวมมากกว่า 800 คัน เข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานรณรงค์ลดการใช้พลังงานไปรอบตัวเมืองลำปาง

กิจกรรม “ปั่น รัก(ษ์) พิทักษ์โลก” เป็นกิจกรรมที่ได้จัดทำขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้หันมาใช้รถจักรยานเป็นพาหนะในการเดินทาง และปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนได้เกิดความสนใจที่จะออกกำลังกาย เพื่อดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างครอบครัว ชุมชน เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดลำปาง และเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในชุมชนท้องถิ่น ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ตลอดจนเพื่อเป็นการรณรงค์ส่งเสริมช่วยลดปริมาณรถจักรยานยนต์และรถยนต์ในท้องถนน ลดปัญหาการจราจรติดขัด ลดมลพิษทางเสียง ทางอากาศ ช่วยบรรเทาภาวะโลกร้อน รวมทั้งยังเป็นการช่วยประหยัดพลังงานน้ำมัน สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ และสามารถลดค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน

ทั้งนี้กิจกรรม “ปั่น รัก(ษ์) พิทักษ์โลก” มีกำหนดการจัดกิจกรรมระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2555 ถึง 16 กุมภาพันธ์ 2557 ในพื้นที่ 5 จังหวัด ซึ่งได้จัดกิจกรรมรณรงค์ไปก่อนหน้านี้แล้วใน 3 จังหวัด ได้แก่ น่าน บุรีรัมย์ และแพร่ สำหรับการจัดกิจกรรมที่จังหวัดลำปาง เป็นการจัดงานกิจกรรม ครั้งที่ 4 โดยขบวนรถจักรยาน “ปั่น รัก(ษ์) พิทักษ์โลก” ได้ออกปั่นรณรงค์จากสวนสาธารณะเขลางค์นคร ไปตามถนนเส้นทางสายต่างๆ รอบตัวเมืองลำปาง ผ่านสถานที่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานที่สำคัญๆ ในตัวเมือง เช่น ศาลหลักเมือง วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม วัดปงสนุก และวัดศรีรองเมือง เป็นต้น และขบวนรณรงค์ฯ ได้วนกลับเข้าสู่ สวนสวนสาธารณะเขลางค์นคร รวมระยะทางรณรงค์ทั้งสิ้น 18.7 กิโลเมตร
ดูคลิป http://youtu.be/Oii66pPv3MU



ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต