วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ผบ.พล.ร.7 ประชุมคณะกรรมการ ศปป.จังหวัดแม่ฮ่องสอน ย้ำเรื่องระยะเวลา Road Map ของ คสช


ผบ.พล.ร.7 ประชุมคณะกรรมการ ศปป.จังหวัดแม่ฮ่องสอน ย้ำเรื่องระยะเวลา Road Map ของ คสช

พล.ต.สุทัศน์ จารุมณี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 /ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ กองพลทหารราบที่ 7 ประชุมคณะกรรมการศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปจังหวัดแม่ฮ่องสอน (30 มิ ย 57) หลังจาก รับฟังการรายงานผลการดำเนินงานของศูนย์ฯ ในภาพรวมแล้ว ผบ.พล.ร.7 ได้กล่าวถึง Road Map ของ คสช. 3 ระยะ ว่า ผลงานของจังหวัดที่ได้มุ่งมั่นดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จริงจัง เป็นภาพที่ดี ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าจังหวัดอื่นๆ แต่ระยะเวลาของกิจกรรมปรองดองสมานฉันท์ จะสิ้นสุดลงในวันที่ 15 กรกฎาคม 57 ซึ่งเป็นห้วงเวลาสำคัญที่ ต้องรวบรวมความคิดเห็นจากประชาชนทุกภาคส่วน นำไปสู่กระบวนการปฏิรูป ควรมีช่องทางการสื่อสารที่ให้เกิดความสมบูรณ์ครบถ้วน ในงานนี้ ส่วนระยะที่ 2 จะมีการจัดตั้งสภาริติบัญญัติ สรรหานายกฯ ตั้ง ครม.เพื่อบริหารราชการ จัดทำร่างรัฐธรรมนูญ จัดตั้งสภาปฏิรูปฯ ทั้งนี้ ให้ยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ ขับเคลื่อนการบริหารประเทศ ให้มีความพร้อมไปสู่ประชาคมอาเซียน และ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จากนั้นเป็นขั้นตอนเข้าสู่การเลือกตั้งที่ทุกคน ทุกฝ่ายยอมรับเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ และ ขั้นตอนสุดท้าย มุ่งสร้างความสามัคคี ปรองดองสมานฉันท์ ให้คนในชาติกลับมาเหมือนเดิม เริ่มตั้งแต่สถาบันครอบครัวจนถึงระดับชาติ ดังนั้น เป้าหมายของ ศปป.

นอกจาก ต้องการลดความขัดแย้ง และ ให้ทุกกลุ่มร่วมมือกันโดยยึดถือสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และ ความสงบสุข ปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ แล้ว ต้องการรวบรวมข้อมูล ประเด็น ปัญหา ทุกปัญหาในหมู่บ้าน ชุมชน จากความคิดเห็นของประชาชนทุกกลุ่ม รวมทั้งประเด็นปัญหา ที่ไม่สามารถดำเนินการได้ นำไปไว้ในระยะที่ 2 ซึ่งเรียกว่า "ขั้นการปฏิรูป" นายสุรพล พนัสอำพล ได้มอบหมายให้ ประชาสัมพันธ์จังหวัดได้ประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชน ที่ไม่มีโอกาสเข้าร่วมเวทีฯได้ มีส่วนร่วมระดมความคิดเห็น ในระยะเวลาที่เหลือ ถึงวันที่ 10 ก ค 57 โดยผ่านช่องทาง สื่อวิทยุกระจายเสียงฯ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทางโทรศัพท์ และ ส่งประเด็นข้อมูลฯได้ที่ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน โทรศัพท์ 053 611808 /053 620692 อีเมล prms@prd.go.th



ข่าวโดย : อ่อนศรี ศรี อัมพร ทีมข่าว ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
    หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

นพค.36 นำกำลังพล นายก อบต. ผู้ใหญ่บ้าน และ ชาวบ้าน เข้าวัดฟังธรรม เสริมธรรมะ ถวายเก้าอี้ สร้างความสามัคคี สมานฉันท์

นพค.36 นำกำลังพล นายก อบต. ผู้ใหญ่บ้าน และ ชาวบ้าน เข้าวัดฟังธรรม เสริมธรรมะ ถวายเก้าอี้ สร้างความสามัคคี สมานฉันท์

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2557 พันเอก ณัฏฐพัชร สกุลรังสฤษฏ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย และพันเอก กิติชาติ นิลขำ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 จ.แม่ฮ่องสอน ร่วมกัน นำกำลังพลทหารของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 นายก อบต.แม่คะตวน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน กว่า 100 คน เข้าวัด เสริมธรรมะ ทำบุญถวายเก้าอี้ ให้กับวัดคอนผึ้ง ต.แม่คะตวน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน จากนั้นได้ร่วมกันนั่งสมาธิ ฟังพระธรรมเทศนาจากพระสงฆ์ เพื่อกล่อมเกลาจิตใจ สร้างความสมานฉันท์ ให้เกิดความรัก ความสามัคคี ปรองดอง ระหว่างข้าราชการทหาร ท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชน เสริมสร้าง ความสัมพันธ์ให้แนบแน่น เพื่อให้เกิดความสงบสุขของประชาชนในชุมชน

พันเอก กิติชาติ นิลขำ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ธรรมมะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของมนุษย์ ภารกิจหน้าที่ของหน่วย ฯ คือการเข้าไปช่วยเหลือพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ การที่กำลังของหน่วย ฯ ได้มาพบปะ ได้มาทำบุญ นั่งสมาธิ ฟังธรรม ร่วมกับชาวบ้านและผู้นำท้องถิ่น จะทำให้ข้าราชการประชาชนใกล้ชิดกันมากขึ้น ไม่หวาดระแวงซึ่งกันและกัน มีปัญหาอะไรก็มาปรึกษาหารือ ชาวบ้านเดือดร้อน หรือต้องการความช่วยเหลืออย่างไร หน่วย ฯ ก็สามารถแก้ปัญหาให้ได้ ร่วมกันคิดความกันทำ ความแตกแยกในชุมชนก็จะไม่มี ความสามัคคีก็จะตามมา โดยใช้ธรรมะกล่อมเกลาจิตใจ ทั้งข้าราชการ ประชาชน จะมีแต่รอยยิ้มให้กันและกัน เพื่อนำพาประเทศชาติไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน


ข่าวโดย : สมาน ต้นใส / สวศ.แม่ฮ่องสอน
    หน่วยงาน : สวศ. แม่ฮ่องสอน

สำนักงานจัดหางานจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดโครงการจัดประชุมนายจ้างเพื่อความปรองดองและสมานฉัน

สำนักงานจัดหางานจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดโครงการจัดประชุมนายจ้างเพื่อความปรองดองและสมานฉันท์ ณ หอประชุมประชาคมเฉลิมพระเกียรติเทศบาลปาย

นายสุทธา สายวาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดงานโครงการจัดประชุมนายจ้างเพื่อความปรองดองและสมานฉันท์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นายจ้างมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในสถานประกอบการของตนอย่างถูกต้อง ตามพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องในเรื่องการจัดระบบการทำงานของคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติเมียนมาร์ ลาว และกำพูชา ซึ่งได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการส่งกลับ ตลอดจนให้แรงงานต่างด้าวมีมีความรู้ในสิทธิ กฎ ระเบียบ ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างแรงงานต่างด้าว รวมทั้งแนวทางการเก็บเงินประกันเข้ากองทุนเพื่อส่งคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานกรมการปกครอง โรงพยาบาล สำนักงานประกันสังคม เข้าร่วมเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ตามภารกิจหน้าที่ของหน่วยงานอีกด้วย



ข่าวโดย : ศุภวัฒน์ สมบูรณ์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

คณะทันตแพทย์ ฯ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง บริการราษฎรชาวไทยภูเขา

มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับคณะทันตแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกหน่วยทำฟันให้ราษฎรชาวไทยภูเขา บ้านในสอย อ.เมืองแม่ฮ่องสอน

ดร.ฤกษ์ ศยามานนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานโรงการพัฒนาดอยตุง เปิดเผยว่า “ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับคณะทันตแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกหน่วยทำฟันให้ราษฎรชาวไทยภูเขา บ้านในสอย ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ระหว่างวันที่ ๑ – ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เพื่อทูลเกล้าถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ( สมเด็จย่า ) เนื่องในโอกาสคล้ายวันสวรรคตปีที่ ๑๙ สืบเนื่องจากสมเด็จย่าสวรรคต เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๘ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ที่สมเด็จย่า ทรงตั้งขึ้นยังคงนำคณะหมอฟันไปช่วยทำฟันให้แก่ประชาชนที่ยากไร้และอาศัยอยู่ในท้องที่ห่างไกลโรงพยาบาลหรือสถานีอนามัยที่มีหมอฟันอยู่เสมอ เพื่อสานต่อความปรารถนาของสมเด็จย่าและเพื่อทำความดีแผ่เป็นกุศลถึงพระองค์ท่านในสวรรค์ เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพระองค์ท่าน เมื่อถึงโอกาสที่วันคล้ายของสมเด็จย่าเวียนมาถึงในวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เพื่อทูลเกล้า ฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ร่วมกับมูลนิธิทันตแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำคณะหมอฟัน มาทำฟันให้แก่ประชาชนผู้ยากไร้ ที่อยู่ห่างไกลในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ที่โรงเรียนบ้านในสอย วันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ที่วัดห้วยขาน ต.หมอกจำแป่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน



ข่าวโดย : ดำเนิน ท้วมจอก ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
    หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน

จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดพิธีสวนสนามของลูกเสือและเนตรนารี เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ

บ่ายวันนี้ (1กรกรฏาคม 2557) นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะผู้อำนวยการลูกเสือจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธีปฏิญาณตน และสวนสนาม ของลูกเสือ เนตรนารีและลูกเสือชาวบ้าน เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ที่บริเวณสนามกีฬากลาง โรงเรียนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน โดยมีลูกเสือ และเนตรนารี ร่วมงานกว่า 600 คน เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์จักรี ที่ได้ทรงก่อตั้งกิจการลูกเสือขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พุทธศักราช 2454 เป็นลำดับ 3 ของโลก ในอันที่จะนำวิชาการความรู้จากกระบวนการของลูกเสือมาอบรมบ่มนิสัย เยาวชนของไทย ให้เป็นผู้มีความรู้ ซื่อสัตย์ กล้าหาญ อดทน เสียสละ มีวินัย มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และมีความสามัคคีในหมู่คณะตามอุดมการณ์ของลูกเสือ จนกระทั่งกิจการลูกเสือ เจริญก้าวหน้ามาเป็นลำดับ ปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเป็นพระประมุขคณะลูกเสือไทย ทรงส่งเสริมอุปถัมภ์การลูกเสือไทย จนทำให้ กิจการลูกเสือพัฒนาเจริญก้าวหน้าตามลำดับ






ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

เตือนภัยสภาพอากาศ

ศูนย์ติดตามแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณืคาดหมายสถานการณ์ลักษณะอากาศ จากกรมอุตินิยมวิทยา ระหว่างวันที่ 1-6 กรกฎาคม 2557

สภาพอากาศในวันที่ 1-6 กรกฎาคม 2557 มีความกดอากาศต่ำยังคงปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ยทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)และกรุงเทพมหานครปริมณฑล ในช่วงนี้มีคนฟ้งคะนองกระจายไปเกือบทั่วพื้นที่และอาจมีฝนตกหนักเป็นบางแห่ง

ข้อควรระวังช่วงวันที่ 3-6 กรกฎาคม 2557 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือ ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดรัฃะวังและเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอาวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย



ข่าวโดย : ณัฐพร ขัดทองงาม นศ.ฝึกประสบการณ์ มร.ลป
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

เกษตรกรจังหวัดลำปาง เชิญชวนประชาชนหันมาบริโภคสับปะรด

เกษตรกรจังหวัดลำปาง เชิญชวนประชาชนหันมาบริโภคสับปะรดคุณประโยชน์ที่ให้คุณค่าทางโภชนาการและประโยชน์ต่อร่างกาย

นายสมพร เจียรประวัติ เกษตรกรจังหวัดลำปาง เปิดเผยต่อที่ประชุมหัวหน้าส่วนจังหวัดลำปางถึงสถานการณ์สับปะรดของจังหวัดลำปางมีพื้นที่ปลูกทั้งหมด 22,820.50 ไร่ ประมาณการผลผลิตสับปะรดปี2557 จำนวน 99,747.14 ตัน ผลผลิตออกช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฏาคมของทุกปี ทำให้ในหลายพื้นที่มีสับปะรดจำนวนมากจนอาจทำให้เกิดสับปะรดล้นตลาดเกษตรกรจังหวัดลำปางจึงร่วมกับมหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา จังหวัดลำปาง มีการแก้ไขปัญหาสัปปะรดล้นตลาดโดยนำสับปะรดมาแปรรูปเป็น สับปะรดกระป๋อง สับปะรดกวน ไวน์สับปะรดและแยมสับปะรด เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น

นอกจากนั้นสับปะรดยังมีประโยชน์ช่วยบรรเทาอาการร้อนใน กระสับกระส่ายหิวน้ำ ช่วยลดเสมหะในลำคอได้ ช่วยในการขับปัสสาวะไม่ออก รวมทั้ง ใบสดนำมาใช้เป็นยาถายหรือยาพยาธิได้ ผลสับปะรดดิบสามารถนำมาใช้ห้ามเลือดได้ และยังช่วงขับประจำเดือน ส่วนรากสับปะรด นำมาเป็นยาแก้กระษัย บำรุงไตได้ หนามของสับปะรดช่วยแก้พิษฝีได้ สับปะรดล้วนมีประโยชน์ต่อโภชนาการและสุขภาพของมนุษย์

เกษตรกรจังหวัดลำปาง ขอเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดลำปางหันมาบริโภคสับปะรดให้มากขึ้นเพราะนอกจากได้คุณประโยชน์จากการบริโภคแล้วยังมีการสนับสนุนให้ชาวเกษตรผู้ปลูกสับปะรดในประเทศอีกด้วย



ข่าวโดย : ณัฐพร ขัดทองงาม นศ.ฝึกประสบการณ์ มร.ลป
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

คสช. จัดระเบียบแรงงานต่างด้าว

กรมการจัดหางานจังหวัดลำปาง แจ้งว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีประกาศ เรื่อง มาตราการชั่วคราวในการดำเนินการต่อแรงงานต่างด้าวและเรื่องมาตรการแร่งด่วน ในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์และการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว

นางพรปวีณ์ วิชิต จัดหางานจังหวัดลำปาง แจ้งว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีประกาศ ฉบับที่ 67/2557 ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2557 เรื่องมาตรการชั่วคราวในการดำเนินการต่อแรงงานต่างด้าวและประกาศ ฉบับที่ 68/2557 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2557 เรื่องมาตรการเร่งด่วน ในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์และการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว ระยะที่ 1 เป็นการชั่วคราว เพื่อจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา โดยให้นายจ้าง /สถานประกอบการที่จ้างแรงงานต่างด้าวทำงานจัดทำบัญชีรายชื่อแรงงานต่างด้าวที่จ้างงานอยู่ในปัจจุบันให้ครบถ้วน เพื่อให้พร้อมรับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและง่ายต่อการจัดระเบียบ

สำนักงานจัดหางานจังหวัดลำปาง จึงขอประชาสัมพันธ์ให้นายจ้าง/สถานประกอบการที่จ้างแรงงานต่างด้าวทั้งสามสัญชาติทำงาน จัดทำบัญชีรายชื่อแรงงานต่างด้าวที่จ้างงานอยู่ในปัจจุบันให้ครบถ้วน โดยให้แยกบัญชีแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฏหมาย (มีใบอนุญาติทำงาน) และแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฏหมาย (ไม่มีใบอนุญาติทำงาน) ให้ชัดแจน และให้จัดทำเป็ฯ 2 ฉบับ และนำส่งสำนักงานจัดหางานจังหวัดลำปางเพื่อประทับตรารับรอง และรอการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวต่อไป สำหรับแบบฟอร์มบัญชีรายชื่อแรงงานต่างด้าวขอรับได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดลำปาง และสามารถนำส่งบัญชีรายชื่อแรงงานต่างด้าวได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึง วันที่ 4 กรกฏาคม 2557

ตามที่ได้ปรกฏในข่าวการกวาดล้างจับกุม ผลักดันแรงงานกัมพูชาจนสร้างความตื่นตระหนกให้กับแรงงานกัมพูชาต่างละทิ้งงานและอพยพกลับภูมิลำเนาของตนเอง ซึ่งทำให้ส่งผลกระทบต่อการจ้างแรงงานในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้สถานะการณ์คลี่คลายลงแล้ว กรมการจัดหางานจึงได้จัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จบริเวณชายแดนในจังหวัดตราด จนทบุรี สระแก้ว และสุรินทร์ เพื่อออกเอกสารหลักฐานให้กับแรงงานกัมพูชาสำหรับการเดินทางกับมาทำงานอย่างถูกกฏหมายโดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน 2557 เป็นต้นไป



ข่าวโดย : พัชรียา เขียวถา นศ.ฝึกประสบการณ์ มร.ลป
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

โรงเรียนอนุบาลลำปาง เขลางค์รัตน์อนุสรณ์ เปิดอาคารเรียน "60 ปี เขลางค์รัตน์อนุสรณ์"

(1 ก.ค.57) เช้าวันนี้ที่ บริเวณโรงเรียนอนุบาลลำปาง เขลางค์รัตน์อนุสรณ์ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารเรียน 60 ปี เขลางค์รัตน์อนุสรณ์ ของโรงเรียนอนุบาลลำปาง มีคณะครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษา ร่วมในพิธี ภายในงาน มีการทำพิธีทางศาสนา และมีการแสดงจากเด็กนักเรียนเพื่อให้ผู้ร่วมเข้างานได้รับชม และผ่อนคลาย

ก่อนหน้านี้โรงเรียนอนุบาลลำปาง (เขลางค์รัตน์อนุสรณ์) มีห้องเรียนและห้องปฏิบัติเพียงแค่ 12 ห้อง ซึ่งไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียน ดังนั้นสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณให้ทางโรงเรียนเป็นเงินจำนวน 17, 700,000 บาท ซึ่งเป็นงบผูกพันประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 – 2557 และทางโรงเรียนยังได้ดำเนินการประกวดราคาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ ซึ่งห้างหุ้นส่วนจำกัดอัญธีก่อสร้าง เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง อาคารเรียนแบบ 216 ปรับปรุง 46 ขนาด 3 ชั้น 16 ห้องเรียน ใต้ทุนโล่ง ซึ่งทั้งหมดแล้วเสร็จตามสัญญา 390 วัน

โรงเรียนอนุบาลลำปาง (เขลางค์รัตน์อนุสรณ์) เป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล จนถึง ระดับประถมศึกษาปีที่6 มีครูและบุคลากรทางการศึกษา 249 คน นักเรียนจำนวน 3,212 คน ผ่านการรับรองคุณภาพการจัดการศึกษา จาก สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา รอบสาม เมื่อปี 2554 และได้รางวัลพระราชทานประเภทสถานศึกษาและระดับประถมศึกษาขนาดใหญ่ ประจำปีการศึกษา 2555



ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์
    หน่วยงาน : สวท.ลำปาง

จังหวัดลำปาง ขยายผลพื้นที่โครงการ "ปิดทองหลังพระ"

จังหวัดลำปางได้รับอนุมัติขับเคลื่อนการดำเนินงานแผ่นพัฒนาชนบท ในโครงการปิดทองหลังพระ ตามแผนพัฒนาชนบทเชิงพื้นที่ ประยุกต์ตามพระราชดำริ พ.ศ. 2557

คณะกรรมการ ดำเนินงานตามแผนพัฒนาชนทบเชิงพื้นที่ประยุกต์ ตามพระราชดำริ จังหวัดลำปางได้มีมติในที่ประชุมพร้อมขับเคลื่อนดำเนินงานตามแผนพัฒนาชนบท โดยมีทั้งสิ้น 3 โครงการ โครงการ การจัดทำฐานข้อมูลระบบสาระสนเทศภูมิศาสตร์จุดพิกัดหลังคาเรือนในพื้นที่หมูบ้านเป้ามาย 2 หมู่บ้าน และให้นำภาพถ่ายดาวเทียมมาใช้ในพื้นที่โดยขอให้อำเภอหารือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อตรวจสอบความถูกต้องข้อมูลครัวเรือน โครงการการจัดทำแผนพัฒนาหมู่บ้านระยะ 3 ปี พ.ศ 2559 - 2561 บ้านดอนงาม บ้านนาบอน บ้านทุ่งงามและบ้านทุ่งงามพัฒนา ตำบลทุ่งงาม อำเภอเสริมงาม ภายใต้การดำเนินงานตามแผนพัฒนาชนบทเชิงพื้นที่ประยุกต์ตามแนวพระราชดำริอ่างเก็บน้ำห้วยหลวงและอ่างเก็บน้ำห้วยโป่ง ตำบลทุ่งงาม อำเภอเสริมงาม โดยในส่วนของแผนงาน และโครงการการจัดทำแผนพัฒนาหมู่บ้านระยะ 3 ปี พ.ศ 2559 -2561 บ้านถ้ำ หมู่ 1 ตำบลทุ่งกว๋าว อำเภอเมืองปาน ภายใต้การดำเนินงานตามแผนพัฒนาชนบทเชิงพื้นที่ประยุกต์ตามพระราชดำริอ่างเก็บน้ำห้วยชมพู ตำบลทุ่งกว๋าว อำเภอเมืองปาน โดยส่วนของแผนงาน

โดยมีการแต่งตั้งคณะทำงานจัดการความรู้การดำเนินงานตามแผนพัฒนาชนบทเชิงพื้นที่ประยุกต์ตามพระราชดำริจังหวัดลำปาง ตามที่ฝ่ายเลขานุการฯ นำเสนอ โดยในส่วนของโครงสร้างให้ปรับคณะทำงานให้มีเฉพาะหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดที่เกี่ยวข้องในแต่ละมิติหรือผู้แทน และในระดับอำเภอให้นายอำเภอหรือผู้แทนเป็นคณะทำงานเพื่อประสานงานในพื้นที่ และให้ปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบเป็นคณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ รวมทั้งให้เพิ่มผู้แทนของสถาบันการศึกษาในพื้นที่ ปราชญ์ชาวบ้านในพื้นที่ที่มีความรู้ในการพัฒนาชนบทตามแนวทางพระราชดำริ หรือผู้แทนภาคประชาสังคม สำหรับในส่วนของหน้าที่ ให้ปรับข้อความตามที่ที่ประชุมให้ข้อเสนอแนะ ทั้งนี้ ให้ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอคำสั่งดังกล่าวให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ลงนามและแจ้งผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะทำงานฯทราบต่อไป



ข่าวโดย : พัชรียา เขียวถา นศ.ฝึกประสบการณ์ มร.ลป
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง จัดประชุมส่วนราชการเพื่อเตรียมพร้อมการฝึกซ้อมแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับกลุ่มจังหวัด ประจำปี 2557

ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง จัดประชุมส่วนราชการเพื่อเตรียมพร้อมการฝึกซ้อมแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับกลุ่มจังหวัด ประจำปี 2557

(1 กค.57) เช้าวันนี้ ที่ ห้องประชุมศูนย์นิรภัย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ลำปาง นายฤทธิพงศ์ เตชะพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับกลุ่มจังหวัดประจำปี 2557 โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดลำปาง ลำพูน เชียงใหม่และจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมประชุมเพื่อเตรียมการฝึกซ้อมแผนฯ “แนวทางการบริหารจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราว” กรณีเกิดอุทกภัยขนาดรุนแรง

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้แจ้งให้ทุกจังหวัดฝึกซ้อมแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับจังหวัด เพื่อเป็นการบูรณาการหน่วยงานที่รับผิดชอบให้พร้อมรับสถานการณ์ภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น โดยในส่วนของจังหวัดลำปาง จะมีการประชุมและฝึกซ้อมแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย และดินโคลนถล่มระดับจังหวัด วันที่ 3 กรกฎาคม 2557 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านขอ อำเภอเมืองปาน และฝึกซ้อมแผนภาคสนามซ้อมเต็มรูปแบบ ณ บริเวณโรงเรียนบ้านขอวิทยา หมู่ที่ 5 บ้านขอเหนือ อำเภอเมืองปาน วันที่ 4 กรกฎาคม 2557 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป


ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์
    หน่วยงาน : สวท.ลำปาง

จ.ลำพูน เดินหน้าคืนความสุขให้ประชาชนผ่านกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ ความสามัคคีปรองดองของประชาชนในพื้นที่

จ.ลำพูน เดินหน้าคืนความสุขให้ประชาชนผ่านกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ ความสามัคคีปรองดองของประชาชนในพื้นที่ สนองนโยบายเร่งด่วนลดความขัดแย้ง สร้างความปรองดองสมานฉันท์ และเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ

นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานเปิดโครงการเสริมสร้างความรู้ ความสามัคคีปรองดองของประชาชนในพื้นที่ตำบลบ้านกลาง ภายใต้ชื่องาน เทศบาลตำบลบ้านกลาง คืนความสุขให้ประชาชน ที่ศูนย์วัฒนธรรมตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โดย นายประสิทธิ์ จันทกลาง นายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง กล่าวว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย และจังหวัดลำพูน มีนโยบายเร่งด่วนให้ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ระดับท้องถิ่น เพื่อประสานงานหรือบูรณาการการทำงานร่วมกันกับศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ระดับจังหวัด อำเภอ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อลดความขัดแย้ง สร้างความปรองดองสมานฉันท์ และเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นำไปสู่การคืนความสุขของคนในชาติ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ดังนั้น เพื่อเป็นการสนองนโยบายดังกล่าว เทศบาลตำบลบ้านกลาง จึงจัดทำโครงการเสริมสร้างความรู้ ความสามัคคี ปรองดองของประชาชนในพื้นที่ตำบลบ้านกลาง สนองนโยบายเร่งด่วนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย และจังหวัดลำพูน

ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นพิธีเปิด ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย พันเอกจิตติวัศร์ ศรสุวรรณ รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดลำพูน และนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง ร่วมกันต่อจิ๊กซอว์ประเทศไทยให้สมบูรณ์บนป้ายที่มีข้อความ ปรองดอง สร้างชาติ สร้างไทย สำหรับการจัดกิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลา 08.30-24.00 น. ประกอบด้วย การบรรยายให้ความรู้ เรื่อง การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ การบรรยายธรรมะ เรื่อง หลักการใช้ศีล 5 เพื่อความปรองดอง การแสดงรวมใจเป็นหนึ่งเดียว กิจกรรมรวมพลังสร้างความสามัคคี นิทรรศการเสริมสร้างสุขภาพ และบริการตรวจสุขภาพเบื้องต้น นอกจากนี้ ยังมีการแสดงดนตรีของทหาร และการฉายภาพยนตร์ เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตั้งแต่ภาค 1-4 เพื่อความบันเทิงสร้างความสุขให้ประชาชน พร้อมปลุกจิตสำนึกรักและเทิดทูนสถาบันหลักของชาติอีกด้วย



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525519
    หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

อุตุนิยมวิทยาลำพูน เตือนประชาชนภาคเหนือตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ช่วงวันที่ 3-6 กรกฎาคม 2557

อุตุนิยมวิทยาลำพูน เตือนประชาชนภาคเหนือตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ช่วงวันที่ 3-6 กรกฎาคม 2557 ขณะที่เกษตรกรควรระวังป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

นายวิชัย ตินโนเวช ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาลำพูน เปิดเผยว่า สภาวะอากาศทั่วไป ช่วงวันที่ 1-2 กรกฎาคม 2557 หย่อมความกดอากาศต่ำยังคงปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ด้านรับลมมรสุมทางภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกยังคงมีฝนตกในเกณฑ์กระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 3-6 กรกฎาคม 2557 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักช่วงวันที่ 3-6 กรกฎาคม 2557 ไว้ด้วย ในช่วงวันที่ 1-2 กรกฎาคม 2557 ภาคเหนือมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 3-6 กรกฎาคม 2557 ภาคเหนือจะมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนและด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส จังหวัดลำพูน อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาลำพูน กล่าวด้วยว่า สัปดาห์นี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรที่ปลูกไม้ดอก และพืชผัก ควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบจุดและดอกเน่าในเบญจมาศ และโรคราน้ำค้างและราสนิม ในพืชผักสวนครัว เป็นต้น หากพบควรรีบกำจัดก่อนจะแพร่ไปสู่ต้นอื่นๆ สำหรับชาวสวนลำไย และสวนกาแฟควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราสีชมพูในลำไย และโรคราสนิมและโรคผลเน่าในกาแฟ เป็นต้น




ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525519
    หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

เทศบาลตำบลบ้านกลางจังหวัดลำพูน จัดงานเสริมสร้างความสามัคคีปรองดองของประชาชน เพื่อสลายความขัดแย้ง ส่งเสริมความสามัคคี เพื่อคืนความสุขให้แก่ประชาชน

เช้าวันนี้ ( 1 กรกฎาคม 2557 ) ที่ ศูนย์วัฒนธรรมตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง ได้จัดงานเสริมสร้างความสามัคคีปรองดองของประชาชน เพื่อส่งเสริมความปรองดองสมานฉันท์ โดยมี นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานเปิดงาน พร้อมทั้ง พันเอก บุญยืน อินกว่าง ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองพลทหารราบที่ 7 ส่วนแยก 1 จ.ลำพูน ( ผบ.กกล.รส.พล.ร.7) พันเอก จิตติวัศร์ ศรสุวรรณ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดลำพูน ฝ่ายทหาร ( รอง ผอ.กอ.รมน. จ. ลำพูน) ได้ร่วมงานด้วย

ดร. ประสิทธิ์ จันทกลาง นายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองลำพูน กล่าวว่า เทศบาลตำบลบ้านกลาง ได้จัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ เทิดทูลสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขึ้น เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีของประชาชน และได้จัดงานเสริมสร้างความรู้ ความสามัคคี ปรองดองของประชาชนในเขตตำบลบ้านกลาง เพื่อลดความขัดแย้ง สร้างความปรองดองสมานฉันท์ สร้างความรัก ความสามัคคี ตลอดจนสร้างความสุขให้แก่ประชาชน โดยมี คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนจากกลุ่มพลังมวลชน ผู้นำชุมชน คณะครู นักเรียน และประชาชนในตำบลบ้านกลาง เข้าร่วมงาน ประมาณ 1,000 คน

ในงานได้จัดให้มี การบรรยายให้ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการสร้างความปรองดองฯ โดย รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดลำพูน / ผบ.กองอำนวยการรักษาความสงบ กองพลทหารราบที่ 7 ส่วนแยกที่ 1 , การบรรยายธรรมมะ เรื่อง หลักการใช้ศีล 5 เพื่อความปรองดองฯ โดยพระครูสุภัทรกิจจาภรณ์ เจ้าคณะตำบลบ้านกลาง , การแสดง รวมใจเป็นหนึ่งเดียว , กิจกรรม รวมพลังสร้างความสามัคคี , การจัดนิทรรศการเสริมสร้างสุขภาพและการให้บริการตรวจสุขภาพแก่ประชาชน ในภาคค่ำ มีการแสดงดนตรีของทหาร และการฉายภาพยนตร์ เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตั้งแต่ภาค 1-4 ให้ประชาชนรับชมด้วย


ข่าวโดย : นศ. ฝึกประสบการณ์ นางสาวเกศกนก แสงจันทร์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

ผู้ว่าฯ ลำพูน สั่งการทุกส่วนราชการ ปฏิบัติตามคำสั่ง คสช. ในการปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายป่า

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนสั่งการทุกส่วนราชการ ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้

นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งที่ ๖๖/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเป็นหน่วยงานรับผิดชอบเพิ่มเติม สำหรับการปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ โดยในการดำเนินงานจะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ยากไร้ ผู้มีรายได้น้อย ผู้ไม่มีที่ดินทำกิน ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมก่อนคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ ส่วนผู้บุกรุกใหม่ต้องสอบสวนและพิสูจน์ทราบ เพื่อกำหนดวิธีปฏิบัติที่เหมาะสมและดำเนินการในขั้นตอนต่อไป สำหรับการดำเนินงานเร่งด่วนในปัจจุบัน คือ การป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกเพิ่มเติม ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและเด็ดขาด ส่วนการแก้ไขปัญหาสะสมตั้งแต่เดิม ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณามาตรการและวิธีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ เพื่อเสนอขออนุมัติจาก คสช. สำหรับกรณีใดๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ให้ดำเนินการต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุดกระบวนการที่กำหนด

จังหวัดลำพูนจึงได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามคำสั่ง คสช. ฉบับดังกล่าว โดยเคร่งครัด เพื่อสนับสนุนการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามนโยบายของ คสช. ในการแก้ปัญหาให้ประสบผลสำเร็จอย่างจริงจัง เป็นรูปธรรม รวมทั้งให้จัดทำภาพถ่ายสภาพพื้นที่ปัจจุบัน เพื่อป้องกันการบุกรุกและใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด จัดตั้งอาสาสมัครเฉพาะด้านเพื่อป้องกันปัญหา จัดตั้งด่านตรวจจับการกระทำความผิดอย่างจริงจัง และหากพบข้าราชการผู้ใดมีส่วนรู้เห็น หรือร่วมกระทำความผิด จะต้องรับโทษทั้งทางคดีความและโทษทางวินัยโดยทันที สำหรับประชาชนที่พบเห็นการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองพลทหารราบที่ ๗ ส่วนแยก ๑ ประจำจังหวัดลำพูน หน่วยที่ตั้ง ณ ศาลาประชาคม บริเวณศาลากลางจังหวัดลำพูน



ข่าวโดย : ศักดิ์สิทธิ์ กิตินันทน์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

จังหวัดลำพูน เตือนเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับขบวนการบุกรุกทำลายป่า มีโทษหนักทั้งวินัยและอาญา

จังหวัดลำพูนเตือนเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดปล่อยปะละเลย หรือเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ จะถูกดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดโดยทันที

นายอาณัติ วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งที่ ๖๔/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๗ ให้กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองกำลังป้องกันชายแดนของกองทัพบกและกองทัพเรือ ตลอดจนหน่วยงานอื่นที่มีภารกิจและอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ปราบปราบและจับกุมผู้บุกรุก ยึดถือ ครอบครอง ทำลาย หรือกระทำการด้วยประการใดๆ ให้เสื่อมเสียต่อสภาพป่า รวมถึงผู้สมคบและสนับสนุนช่วยเหลือให้ได้ผลอย่างจริงจังในทุกพื้นที่ และให้สกัดกั้นการลักลอบตัดไม้มีค่าหรือไม้หวงห้าม การนำเข้าและส่งออกไม้ที่ผิดกฎหมายตลอดแนวชายแดน รวมทั้งการปราบปรามเครือข่ายขบวนการตัดไม้ทำลายป่าในทุกหมู่บ้านและชุมชนทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ยังให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ควบคุม ตรวจสอบ กิจการแปรรูปไม้ การตั้งโรงงานแปรรูปไม้ การค้าไม้แปรรูป การค้าหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามและสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้หรือสิ่งอื่นใดที่ทำด้วยไม้หวงห้าม รวมทั้งให้ติดตามผลคดีป่าไม้และดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกทำลาย ให้คืนสภาพป่าไม้ที่สมบูรณ์ดังเดิม โดยประสานความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคประชาชน และองค์กรชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการดังกล่าวอย่างจริงจัง สำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดปล่อยปะละเลย หรือเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ จะถูกดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดโดยทันที



ข่าวโดย : ศักดิ์สิทธิ์ กิตินันทน์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

สำนักงานสหกรณ์ลำพูน จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางการค้าลำไย หวังเพิ่มช่องทางจัดส่งลำไยถึงผู้บริโภค

สำนักงานสหกรณ์จังหวัดลำพูน จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางการค้าลำไย ระหว่างเครือข่ายผู้ผลิตลำไยคุณภาพ กับบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด หวังเพิ่มช่องทางจัดส่งลำไยถึงผู้บริโภค

ที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดลำพูน นายไพรัตน์ เสมอเชื้อ สหกรณ์จังหวัดลำพูน จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางการค้าลำไย ระหว่างเครือข่ายผู้ผลิตลำไยคุณภาพ โดย นายบุญมี คันธาทอง ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรประตูป่า จำกัด กับบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด โดย นายบุญธรรม ประสงค์วรากิจ หัวหน้าไปรษณีย์จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นช่องทางการตลาดหนึ่งของสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในจังหวัดลำพูนได้รับทราบบริการการจัดส่งลำไยอีกช่องทางหนึ่งเพื่อเป็นของฝากแก่ญาติสนิท คนที่เคารพรัก และเพื่อนสนิทที่อยู่ต่างจังหวัด และเป็นการประชาสัมพันธ์การขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านการสหกรณ์ที่แสดงให้เห็นว่า สหกรณ์เป็นกลไกสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มเศรษฐกิจและสังคม เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือกันของประชาชน และระบบสหกรณ์มีอุดมการณ์ หลักการและวิธีการสหกรณ์สามารถแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมของสมาชิกำ โดยการช่วยตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สอดคล้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายบริการจัดส่งลำไยถึงมือผู้บริโภค จำนวน 300 ตัน

สำนักงานสหกรณ์จังหวัดลำพูนได้ดำเนินโครงการบริหารจัดการตลาดผลไม้ของสถาบันเกษตรกร ปี 2557 มีสถาบันเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน 8 แห่ง โดยปฏิบัติงานตามกิจกรรมที่กำหนด ได้แก่ จัดอบรมสมาชิกในการพัฒนาคุณภาพลำไยตามความต้องการของตลาด เพื่อให้สมาชิกได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP ลำไยก่อนฤดูเก็บเกี่ยว มีการสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนดอกเบี้ยต่ำ อัตราร้อยละ 1 จำนวน 25 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรวบรวมลำไย ตลอดจนมีการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ ประสานและเพิ่มช่องทางตลาดให้แก่สถาบันเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ถือเป็นการสนับสนุนการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านการสหกรณ์ ในยุทธศาสตร์ที่ 3 การเพิ่มศักยภาพการเชื่อมโยงเครือข่าย ระบบการผลิต การตลาดและการเงินของสหกรณ์ กลยุทธ์ที่ 3.1 การสร้างเครือข่ายผู้ผลิตสินค้าคุณภาพเพื่อยกระดับสินค้าสหกรณ์ให้ได้มาตรฐาน แสดงให้เห็นถึงการนำหลักการวิธีการสหกรณ์ไปใช้อย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลให้กลุ่มเป้าหมายมีเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น กลุ่มสินค้ามาตรฐานที่ผลิตต้องมีตลาดรองรับอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน



ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525519
    หน่วยงาน : สวท.ลำพูน

สำนักงานสหกรณ์จังหวัดลำพูน ได้ตกลงความร่วมมือทางการค้าลำไย ระหว่างสหกรณ์การเกษตร กับ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อแก้ไขปัญหาลำไยล้นตลาด เพิ่มช่องทางการตลาดให้เกษตรกรผู้ปลูกลำไย

บ่ายวันนี้ ( 1 กรกฎาคม 2557 ) สำนักงานสหกรณ์จังหวัดลำพูน ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางการค้าลำไย ระหว่างสหกรณ์การเกษตร กับ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อแก้ไขปัญหาลำไยล้นตลาด เพิ่มช่องทางการตลาดให้เกษตรกรผู้ปลูก โดยมี นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานการร่วมลงนาม โดยมี พันเอก บุญยืน อินกว่าง ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองพลทหารราบที่ 7 ส่วนแยก 1 จ.ลำพูน ( ผบ.กกล.รส.พล.ร.7 ) พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด และสำนักงานสหกรณ์จังหวัดต่างๆ ได้ร่วมเป็นสักขีพยานพิธีลงนามด้วย

สำหรับพิธีลงนามครั้งนี้ นายบุญธรรม ประสงค์วรากิจ หัวหน้าไปรษณีย์จังหวัดลำพูน นายบุญมี คันธาทอง ประธานสหกรณ์การเกษตรประตูป่า และ นายแสวง ต๊ะสุยะ รองประธานสหกรณ์ส่งเสริมเกษตรกรป่าซาง ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงที่จัดหาลำไย ส่งมอบให้แก่ไปรษณีย์ จัดจำหน่ายแก่ผู้ซื้อ ทั่วประเทศ โดยไปรษณีย์ได้จัดทำกล่องบรรจุลำไย กล่องล่ะ 5 กิโลกรัม จัดจำหน่ายพร้อมค่าส่งในราคากล่องล่ะ 180 บาท เริ่มจัดส่ง ตั้งแต่ วันที่ 21 กรกฎาคม – วันที่ 25 สิงหาคม 2557

นายไพรัตน์ เสมอเชื้อ สหกรณ์จังหวัดลำพูน กล่าวว่า การร่วมมือทางการค้าลำไย ครั้งนี้ มีสถาบันเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน 8 แห่ง ซึ่ง สำนักงานสหกรณ์จังหวัดลำพูน ได้จัดอบรมสมาชิกในการพัฒนาคุณภาพลำไย ตามความต้องการของตลาดเพื่อให้สมาชิกได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP ลำไยก่อนฤดูกาล พร้อมทั้งสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนดอกเบี้ยต่ำ แก่สหกรณ์ จำนวน 25 ล้านบาท เพื่อหมุนเวียนเงินทุนในการรวบรวมลำไย ส่งจำหน่ายทางไปรษณีย์ เป้าหมายรวม 300 ตัน ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางตลาดให้แก่สถาบันเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ เพิ่มศักยภาพเครือข่ายระบบการผลิต การตลาดและการเงินของสหกรณ์ เพื่อยกระดับสินค้าสหกรณ์ให้ได้มาตรฐาน นำหลักการสหกรณ์มาใช้อย่างเป็นรูปธรรม สร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบสหกรณ์ ทำให้มีตลาดรองรับสินค้าเกษตรอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนสืบไป

สำหรับผู้ประสงค์ส่งซื้อลำไย สามารถสั่งซื้อได้ที่ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ โดยสอบถามรายละเอียดที่ หมายเลข 1545 หรือ 02-982-8-222



ข่าวโดย : นศ. ฝึกประสบการณ์ นางสาวเกศกนก แสงจันทร์
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน

มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดโครงการออกหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ให้บริการตรวจ รักษาฟันแก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาสที่แม่ฮ่องสอน

มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดโครงการออกหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ให้บริการตรวจ รักษาฟันแก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาส ถวายเป็นพระกุศล แด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในโอกาสคล้ายวันสวรรคต ปีที่ 19

เช้าวันนี้ (1 กรกฏาคม 2557) นายฤกษ์ ศยามานนท์ กรรมการเลขานุการ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ทันตแพทย์สุชิต พูลทอง คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย นำทีมทันตแพทย์และบุคลากร กว่า 100 คนออกหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ที่โรงเรียน บ้านในสอย ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อให้บริการทำฟันแก่ประชาชนด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกล โดยไม่คิดมูลค่า เพื่อถวายเป็นพระกุศล แด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในโอกาสคล้ายวันสวรรคต ปีที่ 19 โดยให้บริการอุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินน้ำลาย และทันตสุขศึกษา โดยมีประชาชนมารับบริการ จำนวนมาก และในวันพรุ่งนี้ ( 2 กรกฎาคม 2557) ให้บริการที่โรงเรียนบ้านห้วยขาน ตำบลหมอกจำแป่ เมืองแม่ฮ่องสอน เป้าหมายให้บริการ วันละ1,000 คน


ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว ข่าว / เอกณรินทร์ ใจมะโน ภาพ
    หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานในจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดการประชุม เพื่อสรุป และติดตามผลการดำเนินงานประจำเดือน

บ่ายวันนี้ (1กรกฏาคม 2557) นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุม หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่สำนักงานประกันสังคมแม่ฮ่องสอน อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อสรุปและติดตามผลงานประจำเดือน โดยได้ดำเนินงานตามคำสั่ง และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 67/2557 เรื่องมาตรการชั่วคราว ในการดำเนินการต่อแรงงานต่างด้าว โดยสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานแม่ฮ่องสอน ตรวจสถานประกอบการเพื่อป้องกันการค้ามนุษย์ ประจำเดือนมิถุนายน 2557 จำนวน 10 แห่ง ลูกจ้างจำนวน 44 คน ไม่พบกรณีที่ปฏิบัติไม่ถูกต้อง นอกจากนั้น ได้ติดตามความคืบหน้า การดำเนินโครงการจ้างงานเร่งด่วนจำนวน 10 โครงการ และโครงการพัฒนาทักษะฝีมือ จำนวน 17 โครงการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพของแรงงานในพื้นที่ โดยโครงการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในเดือนกรกฏาคมนี้ เว้นแต่โครงการทำอาหารฮาลาล ของศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน เนื่องจากอยู่ในช่วงถือศีลอด จึงขอเลือนเป็น วันที่ 15 สิงหาคม 2557

ด้านสำนักงานจัดหางานจังหวัดแม่ฮ่องสอน แจ้งผลการดำเนินงานคนว่างงานเดือนมิถุนายน 2557 มีผู้มาขึ้นทะเบียนว่างงานจำนวน 54 คน ได้บรรจุงานจำนวน 35 คน และสำนักงานแรงงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ทำการคัดเลือกอาสาสมัครแรงงานดีเด่น เพื่อรับเข็มเชิดชูเกียรติ และใบประกาศเกียรติคุณ เนื่องในวันสถาปนากระทรวงแรงงาน วันที่ 23กันยายน 2557 ผลการคัดเลือกได้แก่ นางจันทร์ฉาย เสรีชาติ จากตำบลห้วยผา อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน


ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน
    หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จัดโครงการอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ยิ้ม เคลื่อนที่ ให้บริการประชาชนที่บ้านในสอย

เช้าวันนี้ ( 1 กรกฏาคม 2557) นายทรงทรัพย์ พิริยคุณธร นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน นำหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ จัดโครงการ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ยิ้มเคลื่อนที่ ที่บ้านในสอย หมู่ที่ 4 ตำบลปางหมู เพื่อรับทราบปัญหา อุปสรรคของประชาชน และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างข้าราชการ และประชาชน โดยร่วมกัน มอบผ้าห่มแก่ผู้สูงอายุจำนวน 10 ผืน มอบเครื่องอุปโภคบริโภค แก่ผู้นำชุมชนจำนวน 20 ชุด และบริการตัดผมฟรี

นอกจากนั้น สวท.แม่ฮ่องสอน ได้แนะนำรายการรัฐสภาของ โดยมีกิจกรรมเล่นเกมส์ ตอบคำถามชิงรางวัลมากมาย รายการรัฐสภาของเรา ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และกรมประชาสัมพันธ์ โดยให้สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จำนวนกว่า 50 สถานีเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ซึ่ง สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ดำเนินรายการดังกล่าว ทุกวันจันทร์ ถึงวันเสาร์ เวลา 17.10 – 18.00 น. ทางระบบ เอฟเอ็ม 104 เมกกะเฮิร์ต และเปิดโอกาสให้ผู้ฟังทางบ้าน สมัครสมาชิกที่หมายเลขโทรศัพท์ 053 – 612 – 508


ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน
    หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน

จังหวัดพะเยา ขอความร่วมมือนายจ้างเมื่อมีลูกจ้าง/ผู้ประกันตน เข้า – ออกจากงาน ให้รีบแจ้งต่อสำนักงานประกันสังคมภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หากแจ้งล่าช้าจะส่งผลต่อลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน

นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า มีสถานประกอบการหลายแห่งในจังหวัดพะเยาไม่ยอมแจ้งข้อมูลต่อสำนักงานประกันสังคมภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เช่น กรณีรับลูกจ้าง/ผู้ประกันตนเข้าทำงานใหม่ และมีบางรายลูกจ้างออกจากงานไปแล้วแต่นายจ้างไม่แจ้งขึ้นทะเบียนหรือแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน ทำให้ฐานข้อมูลของผู้ประกันตนไม่ถูกต้องเป็นปัจจุบัน ส่งผลกระทบทำให้ผู้ประกันตนไม่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนหรือได้รับประโยชน์ทดแทนล่าช้า หรือเป็นเหตุให้สำนักงานประกันสังคมจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตรและกรณีว่างงานเกินสิทธิจำนวนมาก ดังนั้น จึงขอความร่วมมือนายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายกรณีมีลูกจ้าง/ผู้ประกันตนเข้า – ออกจากงาน คือ 1.กรณีสถานประกอบการรับลูกจ้างเข้าทำงานใหม่ ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนตามแบบ สปส. 1-03 และ สปส. 1-03/1 กับสำนักงานประกันสังคมจังหวัดพะเยา ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่รับลูกจ้างนั้นเข้าทำงาน 2.กรณีมีผู้ประกันตนออกจากงาน ให้นายจ้างแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน ตามแบบ สปส.6-09 ไปยังสำนักงานประกันสังคมจังหวัดพะเยาภายในวันที่ 15 ของเดือน ถัดจากเดือนที่ลูกจ้างออกจากงาน

ทั้งนี้การที่นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมาย ถือเป็นการคุ้มครองสิทธิให้แก่ลูกจ้าง/ผู้ประกันตนและเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม หากนายจ้างยังละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือมีเจตนาไม่ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดดังกล่าว ถือว่านายจ้างมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้านายจ้างยังคงกระทำเป็นความผิดต่อเนื่องต้องระวางโทษปรับอีกวันละไม่เกิน 5,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามอีกด้วย หากมีข้อสงสัยนายจ้างสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดพะเยา โทร. 054-484002 ในวันเวลาราชการ


ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ
หน่วยงาน : สวท.พะเยา

สำนักงานลูกเสือจังหวัดน่าน จัดงานวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ประจำปี 2557

วันนี้ ( 1 ก.ค. 57 ) ที่สนามหน้าวิทยาลัยเทคนิคน่าน นายชูเกียรติ ด่านธนทรัพย์ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 1 เป็นประธานพิธีทบทวนคำปฏิญาณตนและสวนสนามของลูกเสือ-เนตรนารี เนื่องในวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ประจำปี 2557 โดยมีคณะลูกเสือ เนตรนารีและผู้บังคับบัญชาจาก 14 โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดน่านจำนวน 1,675 คน เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ เพื่อแสดงความเคารพและร่วมกันกล่าวทบทวนคำปฏิญาณ ต่อองค์พระประมุขคณะลูกเสือแห่งชาติ เพื่อประกาศความเป็นลูกเสืออย่างแท้จริง ทั้งยังเป็นการรำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชการที่ 6 พระผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย และถวายความจงรักภักดีแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติ

เนื่องด้วยวันที่ 1 กรกฎาคม 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐกาลที่ 6 ได้ทรงสถาปนากองลูกเสือแห่งชาติไทย ขึ้น นับตั้งแต่นั้นมา กิจกรรมลูกเสือได้ถือเป็นวันคล้ายสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ โดยนับเอาวันที่ 1 กรกฎาคมของทุกๆปี เป็นวันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ เพื่อน้อมรำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณ ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐกาลที่ 6 ที่ได้ทรงพระราชทาน กำเนิดลูกเสือไทย ขึ้น นับเป็นมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันลูกเสือแห่งชาติเป็นอย่างยิ่ง สำหรับในปีที่ผ่านมา สำนักงานลูกเสือจังหวัดน่าน ได้มี การเรียนการสอนลูกเสือในโรงเรียนอย่างจริงจังและได้รับความสนใจ เป็นอย่างดี ทั้งยังได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ ของลูกเสือเพิ่มขึ้น และที่สำคัญได้ฝึกอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ลูกเสือชาวบ้าน และการฝึกทบทวน ผู้บังคับบัญชาลูกเสื่อ เพื่อให้บุคลากรได้พัฒนาความรู้ ความเข้าใจ มีเจตนคติที่ดีมีทักษะในการจัดกิจกรรมลูกเสืออย่างถูกต้อง ซึ่งผลการเรียนการสอน ทำให้เกิดพฤติกรรมที่พึงประสงค์ เช่นลูกเสือเนตรนารีเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และรู้จักการให้ความช่วยเหลือต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง เช่น ด้านการจราจร ในการความอำนวยความสะดวก ให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน ด้านการพัฒนาสถานที่และการบริการ และกิจกรรมอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง



ศรายุทธ  ประเสริฐนิรมล  ภาพ / ข่าว

จังหวัดเชียงใหม่ จัดประชุมเร่งรัดปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด

จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมเร่งรัดปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด เพื่อให้การดำเนินมาตรการการปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดยาเสพติดในช่วงเร่งรัด 30วัน ในพื้นที่ หมู่บ้าน/ชุมชนเผ้าระวังมากของจังหวัดเห็นผลไดอย่างเป็นรูปธรรม ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ ณ ห้องประชุมแกรนด์ภูคำ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ โดยนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธี

วานนี้ (30 มิ.ย. 57) เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมแกรนด์ภูคำ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ โดยนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีพร้อมกับ มอบนโยบายแก่ผู้เข้าร่วมประชุมฯ จากทุกภาคส่วน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากส่วนราชการที่ผ่าน การคัดสรรจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้ง ฝ่ายทหาร พลเรือน ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชนคณะกรรมการหมู่บ้านเป้าหมาย รวมจำนวน 628 คน โดยได้รับ สนับสนุนวิทยากร จาก สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 5 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานสาธรณสุขจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 และที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงใหม่

นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์แพร่ระบาดยาเสพติดในปัจจุบัน ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการลำเลียง นำเข้า การค้า และ การเสพ เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศของเราประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง และความไม่สงบทางการเมือง แต่ทุกภาคส่วนก็ยังมุ่งมั่นร่วมกันแก้ไขปัญหา ทำให้จังหวัดเชียงใหม่ มีผลการดำเนินงานต่อเป้าหมายในปี 2557 อยู่ในลำดับต้น ๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ด้านการปราบปราม สามารถจับกุมคดียาเสพติดได้ถึง 6,056 คดี ผู้ต้องหา 6,311 คน ยึดทรัพย์สินกว่า 166 ล้านบาท นำผู้เสพผู้ติดเข้ารับการบำบัดรักษาได้เกือบ 4,500 ราย การจัดการประชุมฯ ในครั้งนี้นับเป็นงานใหญ่ที่สำคัญ ซึ่งทุกภาคส่วน ทั้งภาคราชการ ภาคประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำหมู่บ้าน /ชุมชน ที่จะต้องเร่งบูรณาการเร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 41/2557 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 เพื่อปราบปราม จับกุมผู้ค้าในหมู่บ้านเป้าหมาย กดดัน ค้นหาผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษา รวมทั้งการติดตามช่วยเหลือดูแล การระดมกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายตามนโยบายจัดระเบียบสังคม เพื่อหยุดยั้งการเผยแพร่ระบาดของยาเสพติดไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชน ในเวลาเร่งรัด 30 วัน (9 มิถุนายน – 8 กรกฎาคม )

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอฝากข้อคิดและแนวทางการดำเนินงาน เพื่อท่านทั้งหลายจะได้นำไปประกอบการพิจารณา ในการร่วมมือกันปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชนเป้าหมาย ให้เป็นไปอย่างประสิทธิภาพตามแนวทาง 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1. การเตรียมการ 2. การปฏิบัติการเชิงรุก 3. การปฏิบัติการจิตวิทยา สร้างการมีส่วนร่วม 4. การดำรงความเข้มแข็ง 5 การประเมินผล

ด้านพลตรีศรายุธ รังษี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 กล่าวว่า การทำงานต้องมีการตรวจสอบและประเมินสถานการณ์ ด้านผู้ค้า ผู้เสพ กลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เป้าหมาย วางแผนปฏิบัติงานตามภารกิจที่กำหนดไว้ช่วยเหลือด้วยการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อจับกุมผู้ค้า ค้นหาผู้เสพเข้ารับการบำบัดรักษา ด้วยจัดชุดปฏิบัติการเข้าสร้างความเข้าใจ ส่งเสริมกระบวนการ มีส่วนร่วมของประชาชน โดยจัดระบบเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดตามพื้นที่เสี่ยง รวมทั้ง ติดตาม ช่วยเหลือ ดูแลผู้ผ่านการบำบัดฯ ให้กลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข และสามารถโทรแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 053-242818


ข่าวโดย : ไผท สุวรรณเสวตร/วิมลฉัตร สุดวิลัย
    หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่

คณะลูกเสือจังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน ๑๒๒๐ คน ร่วมกิจกรรมวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๗ วันที่ ๑ กรกฏาคม เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตาและน้อมรำลึกถึงองค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย

คณะลูกเสือจังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน ๑๒๒๐ คน ร่วมกิจกรรมวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๗ วันที่ ๑ กรกฏาคม เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตาและน้อมรำลึกถึงองค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย

๑ กรกฏาคม ๒๕๕๗ เป็นวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ คณะกรรมการลูกเสือ ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ลูกเสือ เนตรนารี จากสถานศึกษาต่าง ๆ ทุกสังกัดในจังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน ๒๑ โรงเรียน รวมจำนวนทั้งสิ้น ๑,๒๒๐ คน ได้ร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๗ ซึ่งจัดขึ้น ณ สนามกีฬาจังหวัดอุตรดิตถ์ มีนายชัช กิตตินภดล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานในพิธี พร้อมมอบเข็มลูกเสือบำเพ็ญประโยชน์ ประจำปี ๒๕๕๖ แก่ลูกเสือเนตรนารี จำนวน ๓๒ คน ตลอดจนมอบใบอนุโมทนาบัตรให้แก่ผู้บริจาคเงินและเกียรติบัตรให้แก่ผู้ช่วยพัฒนาค่ายลูกเสือจังหวัดอุตรดิตถ์ มอบเครื่องหมายวูดแบดจ์ ให้ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ โดยการจัดงานดังกล่าวเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตา และน้อมรำลึกถึงองค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย เป็นการถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์พระประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติ รวมทั้งเป็นการฝึกฝนให้ทุกคนมีความสามัคคี มีความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ยึดมั่นในประเพณีอันดีงามให้คนในชาติอดทน เข้มแข็ง จงรักภักดีต่อชาติบ้านเมือง ต่างพร้อมใจกันให้สัตย์ปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ และจะปฏิบัติตามกฎ และเกียรติของลูกเสือ โดยยึดคติพจน์พระราชทานว่า "เสียชีพ อย่าเสียสัตย์” ในอันที่จะเป็นกำลังสร้างสรรค์ให้กิจการลูกเสือ และชาติไทยเจริญก้าวหน้า มั่นคง ตลอดกาลนาน

สำหรับกิจการของลูกเสือจังหวัดอุตรดิตถ์ในรอบปีที่ผ่านมามีการบฝึกอบรมบุคลากรทางการลูกเสือวิชาผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ขั้นความรู้ชั้นสูง/วิชาผู้บังคับบัญชาลูกเสือสำรอง ขั้นความรู้ชั้นสูง ตลอดจนส่งลูกเสือ เนตรนารี และผู้บังคับบัญชาลูกเสือ เข้าร่วมงานชุมนุมลูกเสืออาเซียน การจัดประกวดระเบียบแถวลูกเสือ เนตรนารี เพื่อคัดเลือกเป็นตัวแทนจังหวัดอุตรดิตถ์ เข้าร่วมการประกวดระดับประเทศ เป็นต้น และในระยะเวลาที่ผ่านมากิจการลูกเสือไทยได้เจริญก้าวหน้าด้วยดีโดยลำดับเพราะได้รับการสนับสนุนส่งเสริม จากรัฐบาล และประชาชนทุกยุคทุกสมัย ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ ลูกเสือ ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ และลูกเสือเป็นจำนวนมากประเทศหนึ่ง

สนง.เกษตรจังหวัดกำแพงเพชรจัดสัมมนาแนวทางการขับเคลื่อนการช่วยเหลือเกษตรกรด้านการเกษตร ตามแนวนโยบายของ (คสช.)

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2557 ที่ห้องประชุมลิไท โรงแรมเพชรโฮเต็ล อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร นายสุรพล วาณิชเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาแนวทางการขับเคลื่อนการช่วยเหลือเกษตรกรด้านการเกษตร ตามแนวนโยบายของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ คสช.ที่ให้ความสำคัญและห่วงใยในความเป็นอยู่ของเกษตรกร โดยมอบหมายให้ สำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร เป็นผู้ดำเนินโครงการจัดสัมมนา เพื่อมอบนโยบายให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

จากนโยบายคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ คสช. มีหลักการที่ชัดเจนในการช่วยเหลือเกษตรกร โดยมุ่งลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มผลผลิตต่อไร่ เพื่อลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมการปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบายอย่างเคร่งครัด ทั้งในด้านการควบคุมราคาและคุณภาพของปัจจัยการผลิต ดังนั้น เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายเกิดความชัดเจนและเข้าถึงเกษตรกรในทุกพื้นที่อย่างจริงจัง กระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายให้ สำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปให้การช่วยเหลือเกษตรกรอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการแนะนำและให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้เมล็ดพันธุ์พืช ปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพ เข้ามาเป็นกลไกสำคัญที่จะสร้างระบบการลดต้นทุนเพื่อขยายผลไปแก่เกษตรกร ในการปรับปรุงกระบวนการผลิตข้าวโดยการใช้เทคโนโลยีการผลิตข้าวที่เหมาะสมกับพื้นที่ตั้งแต่การเลือกใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี การปรับปรุงดินให้สมบูรณ์ การเตรียมดิน การปลูก การใช้ปุ๋ย การใช้สารเคมีจนถึงการเก็บเกี่ยว อันจะนำไปสู่การลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มรายได้สุทธิให้กับเกษตรกร

การสัมมนาดังกล่าวมีการบรรยายถึงแนวทางการดำเนินงานมาตรการลดต้นทุนการผลิต และมอบนโยบายให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน จาก สำนักงานเกษตรจังหวัด,สำนักงานเกษตรอำเภอ ทุกอำเภอ,ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธกส.) และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนามีความเข้าใจอย่างแท้จริง และสามารถนำไปขยายผลขับเคลื่อนงานได้อย่างฉับไว และไม่มีปัญหาในการดำเนินงาน เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงการดังกล่าว



นิพนธ์ รอดทรัพย์ / ข่าว
ผู้ตรวจ นายรวีโรจน์ ส่องศรี ประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร

สรุปประเด็นจากเวทีเสวนาประชาคมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ระดับจังหวัด จังหวัดเพชรบูรณ์

ประชาชนชาวเพชรบูรณ์ต้องการให้บริหารประเทศโดยหลักธรรมาภิบาล ปลูกฝังค่านิยมของข้าราชการ นักการเมือง และประชาชน ให้มีความสามัคคี มีจริยธรรม รักษาระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ไม่ทุจริตคอรัปชั่น คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์ รายงานการสรุปประเด็นจากเวทีเสวนาประชาคม สร้างความปรองดองสมานฉันท์ระดับจังหวัด จังหวัดเพชรบูรณ์ (เมื่อ 30 มิ.ย.57) ที่หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นการระดมความเห็นผู้เข้าร่วมเวทีเสวนาฯ ประกอบด้วย กลุ่มสีเสื้อในพื้นที่จังหวัด กลุ่มผู้นำหมู่บ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครชุมชน อปพร.อสม.กม.กลุ่มแม่บ้าน เยาวชน และปราชญ์ชาวบ้าน จาก 11 อำเภอ จำนวนกว่า 400 คน

โดยประชาชนตัวแทนชาวเพชรบูรณ์ในเวทีเสวนาฯ ได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาไปสู่การปฏิรูปประเทศ โดยต้องการให้บริหารประเทศโดยใช้หลักธรรมาภิบาล ปลูกฝังค่านิยมของข้าราชการ นักการเมือง และประชาชน ให้มีความสามัคคี มีจริยธรรม รักษาระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ไม่ทุจริตคอรัปชั่น คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ให้ปฏิรูปโครงสร้างอำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ ให้สมดุลกัน กระจายงบประมาณให้แก่ส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นอย่างเพียงพอให้สามารถบริหารจัดการตนเองได้ ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม ทั่วถึง ไม่เลือกปฏิบัติ สร้างการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ด้านการศึกษา ให้พัฒนาครู บุคลากรทางการศึกษา ให้มีเทคโนโลยีทีทันสมัย จัดการเรียนการสอนให้นักเรียน นักศึกษา มีความรู้คู่คุณธรรม และเน้นพัฒนาด้านอาชีวศึกษา

ด้านเศรษฐกิจ ให้ส่งเสริมตลาดกลางผลผลิตการเกษตร ใช้แนวทางระบบสหกรณ์ ตามแนวพระราชดำริ ด้านความเหลื่อมล้ำทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ให้พัฒนาการลงทุนขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ลงในพื้นที่อย่างเหมาะสมเพื่อกระจายรายได้ น้อมนำปรัญชาเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน ส่วนการบริหารจัดการทรัพยากรที่ดิน น้ำ และป่าไม้ จากสภาพปัญหามีการบุกรุกที่ดิน แหล่งน้ำ ป่าไม้ เพิ่มขึ้น ให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งศูนย์ปรองดองและสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูประดับจังหวัด จังหวัดเพชรบูรณ์ จะนำเสนอ คสช.เป็นแนวทางปฏิรูปประเทศต่อไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ บันทึกเทปโทรทัศน์ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2557

ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ บันทึกเทปโทรทัศน์ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2557

(1 ก.ค.57) นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นำคณะหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด บันทึกเทปโทรทัศน์ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2557 ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจังหวัดพิษณุโลก

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์ ขอขอบพระคุณ ท่านผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 4 ท่านภูมิสิทธิ์ ขันตยานุกูลกิจ และ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยพิษณุโลก ท่านทิพย์สุคนธ์ สุดเกตุ แสนจิตร ร่วมต้อนรับ และ อำนวยการในการบันทึกเทปโทรทัศน์ด้วยดี
   


   

จังหวัดเพชรบูรณ์ เตรียมซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรณีเกิดแผ่นดินไหวและอัคคีภัย

นายณรงค์ ก้อนสมบัติ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการฝึกซ้อมแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับจังหวัด ประจำปี 2557 กรณีเกิดภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวและอาคารถล่มและการระงับอัคคีภัย ระหว่างวันที่ 3-4 กรกฎาคม 2557 โดยกำหนดฝึกซ้อมเต็มรูปแบบ (Full-scale Exercise ; FSE) จัดขึ้น ณ โรงเรียนวิทยานุกูลนารี อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ในวันที่ศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม 2557 พร้อมจัดนิทรรศการให้ความรู้ความเข้าใจในดานการป้องกันภัยแก่นักเรียน เยาวชน และประชาชน

สำหรับกิจกรรม วันที่ 3 กรกฎาคม 2557 ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ จะเป็นการให้ความรู้เรื่องแผ่นดินไหว โดย ดร.สมบุญ โฆษิตานนท์ และประสบการณ์แผ่นดินไหวที่จังหวัดเชียงราย โดย นายสว่าง ม่อมดี หัวหน้าสำนักงาน ปภ.จังหวัดเชียงราย ประสบการณ์อาคารถล่มที่จังหวัดสุรินทร์ โดยนายนิรันดิ์ บุญสิงห์ หัวหน้าสำนักงาน ปภ.จังหวัดสุรินทร์ ประชุมคณะทำงานระดับจังหวัด วันที่ 4 กรกฎาคม 2557 ฝึกซ้อมบนโต๊ะ เวลา 13.30 น. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกซ้อมจริงที่โรงเรียนวิทยานุกูลนารี

จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดพิธีปฏิญาณตน สวนสนามของเหล่าลูกเสือ เนตรนารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ณ สนามโรงเรียนเพชรพิทยาคม

จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดพิธีปฏิญาณตน สวนสนามของเหล่าลูกเสือ เนตรนารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ณ สนามโรงเรียนเพชรพิทยาคม

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2557 นายชาญวิทย์ อุ่นอนันต์ รอง ผอ. สพม 40 ได้รับมอบหมายจากนายพิทยา ไชยมงคล ผอ.สพม.40 ในฐานะผู้อำนวยการลูกเสือจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีปฏิญาณตน สวนสนามของเหล่าลูกเสือ เนตรนารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ณ สนามโรงเรียนเพชรพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการและผู้แทนร่วมงาน

โดยในวันนี้มีการจัดพิธีระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เพื่อ เป็นการน้อมเกล้าฯ ถวายราชสักการะและน้อมลำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแด่พระผู้ทรงพระราชทานกำเนิด ลูกเสือไทย พิธีมอบเหรียญลูกเสือสดุดี และจัดให้มีการสวนสนามในโรงเรียน มีเหล่าลูกเสือในจังหวัดเพชรบูรณ์มาร่วมเดินสวนสนาม เพื่อแสดงความเคารพ และกล่าวทบทวนคำปฏิญาณต่อองค์พระประมุขคณะลูกเสือแห่งชาติ เพื่อประกาศความเป็นลูกเสืออย่างแท้จริง กิจการ ลูกเสือ เริ่มต้นขึ้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงมีพระบรมราชองค์การโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนากองเสือป่าขึ้นก่อน เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2454 เพื่อฝึกอบรมข้าราชการพลเรือน ให้เรียนรู้วิชาการด้านทหาร เพื่อเป็นกำลังสำรองในยามเกิดศึกสงคราม และเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ต่อประชาชนในยามสงบ นอกจากนี้ ยังทรงเห็นว่า ลูกเสือจะช่วยให้คนไทยรู้จักรักชาติ มีมนุษยธรรม มีความเสียสละ สามัคคี และมีความกตัญญู โดยมีลูกเสือ เนตรนารี และผู้บังคับบัญชาลูกเสือ จาก ร.ร.ต่าง ๆ ในสังกัด และนอกสังกัด ตลอดทั้งลูกเสือชาวบ้านในจังกวัดเพชรบูรณ์มาร่วมงานกว่า 2,000 คน

กระทรวงวัฒนธรรม ขอเชิญทุกภาคส่วนและพุทธศาสนิกชนร่วมรณรงค์สร้างความปรองดองและสมานฉันท์ของคนในชาติโดยใช้มิติทางศาสนา

กระทรวงวัฒนธรรม ขอเชิญทุกภาคส่วนและพุทธศาสนิกชนร่วมรณรงค์สร้างความปรองดองและสมานฉันท์ของคนในชาติโดยใช้มิติทางศาสนา ในงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ประจำปี 2557

ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีนโยบายเรื่องการลดความเลื่อมล้ำทางสังคมและการแก้ปัญหาการทุจริตซึ่งจะสามารถนำความสุขและความสงบให้เกิดขึ้นกับประชาชนได้เร็ววัน อีกทั้งเชื่อว่าแนวโน้มทางเศรษฐกิจของไทยจะดีขึ้น โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้เน้นย้ำถึงคุณธรรมจริยธรรมของสังคมไทยที่ลดน้อยถอยลง จนทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเกิดวิกฤติทางสังคม ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมในสังคม สร้างความสุขให้กับพี่น้องประชาชน ในการนี้กระทรวงวัฒนธรรม ได้พิจารณาเห็นว่าเพื่อเป็นการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมในสังคมไทยและเพื่อสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ของคนในชาติโดยการใช้มิติทางศาสนาไปยังประชาชน ทำให้เกิดความรัก ความผูกพัน เป็นสังคมคุณธรรม ย่างสมดุลและยั่งยืน จึงได้มีการบูรณาการ ประสานความร่วมมือทุกภาคส่วนของสังคมในระดับประเทศ จังหวัดและพื้นที่ โดยใช้กลไกภาคีทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคสื่อมวลชน โดยขอให้ทุกภาคส่วนของสังคมได้ดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานในการร่วมกันปลุกจิตสำนึกคนในชาติด้วยการเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมกิจกรรมทางพุทธศาสนาทั่วประเทศ โดยในช่วงเดือนกรกฎาคม 2557 มีวันสำคัญทางพุทธศาสนา คือวันอาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ซึ่งตรงกับวันที่ 11 และ 12 กรกฎาคม 2557 เป็นโอกาสในการร่วมกันรณรงค์ส่งเสริมธรรมะทั้งแผ่นดิน สร้างความรักความสามัคคีให้กับคนในชาติได้ทั่วประเทศ เพื่อบังเกิดผลในทางปฎิบัติทั่วประเทศและทุกพื้นที่ กระทรวงวัฒนธรรมจึงขอเชิญทุกภาคส่วนและพุทธศาสนิกชนร่วมรณรงค์สร้างความปรองดองและสมานฉันท์ของคนในชาติโดยใช้มิติทางศาสนา ด้วยการประดับธงชาติและธงธรรมจักร นุ่งขาวห่มขาว บำเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญจิตภาวนา ในงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ประจำปี 2557 โดยพร้อมเพรียงกัน
   
   

จังหวัดพิษณุโลก จัดพิธีทบทวนคำปฏิญาณและสวนสนาม เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ประจำปี 2557

จังหวัดพิษณุโลก จัดพิธีทบทวนคำปฏิญาณและสวนสนาม เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ประจำปี 2557

เช้าวันนี้ ( 1 ก.ค.57 ) ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายวิทูรัช ศรีนาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีทบทวนคำปฏิญาณและสวนสนาม เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ ประจำปี 2557 โดยมีลูกเสือ เนตรนารี และผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ในจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 1,908 คน เข้าร่วมกิจกรรม ทั้งนี้เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย และเป็นการแสดงความจงรักภักดี แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์พระประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติ รวมทั้งปลูกฝังอุดมการณ์ให้ลูกเสือ เห็นความสำคัญของกิจกรรมลูกเสือไทย ทางจังหวัดพิษณุโลก จึงได้จัดให้มีพิธีทบทวนคำปฏิญาณและสวนสนามขึ้น เพื่อรำลึกถึงวันสำคัญดังกล่าว

เหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลกขอเชิญผู้มีจิตกุศลร่วมบริจาคโลหิตประจำเดือนกรกฎาคม 2557เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บยามฉุกเฉินและเก็บสำรองในคลังโลหิต

นายระพี ผ่องบุพกิจ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลก ได้นำคณะกรรมการเหล่ากาชาดพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก ร่วมกันออกรับบริจาคโลหิตจากผู้มีจิตกุศล เพื่อนำไปใช้และเก็บสำรองในคลังโลหิตสำหรับช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บยามฉุกเฉิน ทั้งนี้เหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลกได้ออกรับบริจาคโลหิตจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรเอกชน เป็นประจำสม่ำเสมอ แต่เนื่องจากจังหวัดพิษณุโลกเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ มีปริมาณผู้ป่วยและความต้องการใช้โลหิตในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรงพยาบาลต่างๆ ในปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ปริมาณโลหิตที่ได้รับจากผู้มีจิตเป็นกุศลตามโรงพยาบาลและหน่วยรับบริจาคโลหิต ยังไม่เพียงพอต่อความจำเป็นต้องใช้โลหิต เหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลกจึงขอเชิญชวนผู้มีจิตอันเป็นกุศลร่วมบริจาคโลหิต โดยในเดือนกรกฎาคม 2557 นี้เหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลกมีกำหนดการออกบริจาคโลหิต ตามสถานที่ต่างๆดังนี้

วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม 2557 เวลา 08.30 – 12.00 น. ที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลก วันพุธที่ 3 กรกฎาคม 2557 เวลา 08.30 – 12.00 น. ที่บริษัท โตโยต้า สาขาสี่แยกอินโดจีน วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 เวลา 08.30 – 14.00 น. ที่ศูนย์การค้าบิ๊กซี สาขาพิษณุโลก วันพุธที่ 9 กรกฎาคม 2557 เวลา 08.30 – 14.00 น.ที่ศูนย์การค้าบิ๊กซี สาขาพิษณุโลก วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม 2557 เวลา 08.30 – 12.00 น. ที่ที่ว่าการอำเภอนครไทย วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม 2557 เวลา 08.30 – 12.00 น. ที่โรงเรียนประชาสงเคราะห์วิทยา วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม 2557 เวลา 08.30 – 12.00 น. ที่โรงพยาบาลพิษณุเวช วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม 2557 เวลา 08.30 – 15.00 น. ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก วันพุธที่ 23 กรกฎาคม 2557 เวลา 08.30 – 12.00 น. ที่ที่ว่าการอำเภอบางกระทุ่ม วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม 2557 เวลา 08.30 – 12.00 น. ที่บริษัทไทยแอโรว์ จำกัด วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2557 เวลา 08.30 – 12.00 น. ที่กองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม 2557 เวลา 08.30 – 12.00 น. ที่ที่ว่าการอำเภอบางระกำ วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2557 เวลา 08.30 – 12.00 น. ที่ที่ว่าการอำเภอเนินมะปราง สำนักงานเหล่ากาชาดจึงขอเชิญชวนผู้มีจิตกุศลร่วมบริจาคโลหิตได้ตามวัน เวลาและสถานที่ดังกล่าวหรือติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักเหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลก โทรศัพท์หมายเลข 0-5525-1144 ในวันและเวลาราชการ