สำนักงานสาธารณสุข จ.แม่ฮ่องสอน เตรียมพร้อมรับผลกระทบจากปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกพื้นที่และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน รณรงค์สร้างความรู้และแนะนำประชาชนในการมีส่วนร่วมป้องกันและวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องเมื่อมีสถานการณ์หมอกควัน
นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เนื่องจากปัญหาไฟป่าและหมอกควันพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ในปีที่ผ่านมาพบว่ามีค่าเกินมาตรฐานอยู่ 38 วัน ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยพบผู้ป่วยด้วยระบบทางเดินหายใจมารับบริการที่สถานบริการสาธารณสุขหลายหมื่นคน ซึ่งค่าปริมาณฝุ่นละอองไม่เกิน 10 ไมครอน ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง สูงเกินค่ามาตรฐานที่กำหนด 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่าอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตาและจมูก อาทิ มีอาการแสบตา คัดจมูก น้ำมูกไหล หรือ ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคหลอดลมอักเสบ จะมีอาการไอ เจ็บคอ หายใจติดขัดและเกิดผื่นคัน ในปีนี้ทางสำนักงานสาธารณสุข จ.แม่ฮ่องสอน จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกพื้นที่และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน รณรงค์สร้างความรู้และแนะนำประชาชนในการมีส่วนร่วมป้องกันและวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องเมื่อมีสถานการณ์หมอกควันคือ การหลีกเลี่ยงอยู่ในสถานที่ซึ่งมีหมอกควันหรือฝุ่นละออง ควรใช้หน้ากากอนามัยชนิดกรอง 3 ชั้น ปิดปากและจมูก เพราะจะช่วยป้องกันฝุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 ไมครอนได้
ทั้งนี้ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ สำหรับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพราะมีภูมิต้านทานต่ำ ควรปิดหน้าต่าง ประตู เพื่อป้องกันไม่ให้หมอกควันลอยเข้าสู่บ้าน หลีกเลี่ยงการออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น หากมีอาการผิดปกติหลังจากสูดดมฝุ่นละอองหมอกควัน ได้แก่ แน่นหน้าอก หายใจติดขัด แสบตา ให้รีบไปพบแพทย์ทันที กรณีเมื่อเกิดสถานการณ์หมอกควันประชาชนสามารถขอรับหน้ากากอนามัยได้ที่ โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่
นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เนื่องจากปัญหาไฟป่าและหมอกควันพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ในปีที่ผ่านมาพบว่ามีค่าเกินมาตรฐานอยู่ 38 วัน ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยพบผู้ป่วยด้วยระบบทางเดินหายใจมารับบริการที่สถานบริการสาธารณสุขหลายหมื่นคน ซึ่งค่าปริมาณฝุ่นละอองไม่เกิน 10 ไมครอน ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง สูงเกินค่ามาตรฐานที่กำหนด 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่าอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตาและจมูก อาทิ มีอาการแสบตา คัดจมูก น้ำมูกไหล หรือ ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคหลอดลมอักเสบ จะมีอาการไอ เจ็บคอ หายใจติดขัดและเกิดผื่นคัน ในปีนี้ทางสำนักงานสาธารณสุข จ.แม่ฮ่องสอน จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกพื้นที่และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน รณรงค์สร้างความรู้และแนะนำประชาชนในการมีส่วนร่วมป้องกันและวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องเมื่อมีสถานการณ์หมอกควันคือ การหลีกเลี่ยงอยู่ในสถานที่ซึ่งมีหมอกควันหรือฝุ่นละออง ควรใช้หน้ากากอนามัยชนิดกรอง 3 ชั้น ปิดปากและจมูก เพราะจะช่วยป้องกันฝุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 ไมครอนได้
ทั้งนี้ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ สำหรับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพราะมีภูมิต้านทานต่ำ ควรปิดหน้าต่าง ประตู เพื่อป้องกันไม่ให้หมอกควันลอยเข้าสู่บ้าน หลีกเลี่ยงการออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น หากมีอาการผิดปกติหลังจากสูดดมฝุ่นละอองหมอกควัน ได้แก่ แน่นหน้าอก หายใจติดขัด แสบตา ให้รีบไปพบแพทย์ทันที กรณีเมื่อเกิดสถานการณ์หมอกควันประชาชนสามารถขอรับหน้ากากอนามัยได้ที่ โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่
ข่าวโดย : ณัฏฐพันธ์ กีรติกานต์ชัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น