วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ตำรวจเมืองสองแคว แถลงข่าวรวบหนุ่ม ซ่อมมอเตอร์ไซค์ขายอะไหล่ซิ่ง ย่านโคกมะตูม หลังเดินทางผิด คิดรวยทางลัด ขายยาบ้าให้กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่

ตำรวจเมืองสองแคว แถลงข่าวรวบหนุ่ม ซ่อมมอเตอร์ไซค์ขายอะไหล่ซิ่ง ย่านโคกมะตูม หลังเดินทางผิด คิดรวยทางลัด ขายยาบ้าให้กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ทัน จัดการล่อซื้อ สารภาพสิ้นว่างานนี้ทำคนเดียว

เมื่อเวลา 13.00 น.ของวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา พ.ต.ท.นนทวร สีอินทร์ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก พร้อมด้วยชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา ในความผิดฐานจำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย สืบเนื่องจากชุดปฏิบัติการพิเศษ นำโดย พ.ต.ท.ไชยวิญญ์ อินทรทรัพย์ สารวัตรป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ได้ทำการล่อซื้อยาบ้านจากนายนราศักดิ์ หรือบรีส ดำคุ้ม อายุ 23 ปี ที่บริเวณหน้าร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์บรีสอะไหล่ซิ่ง เลขที่ 132/515 ถ.พระองค์ดำ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก โดยได้ของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 200 เม็ด จากนั้นได้ทำการขยายผลไปทำการตรวจค้นยาบ้าได้เพิ่มอีกจำนวน 1 พันเม็ด ที่บริเวณใต้บานเกล็ดหลังตู้ใส่รองเท้า ภายในบ้านเลขที่ 88/255 ม.7 ต.บึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งนายนราศักดิ์ หรือบรีสฯ ได้ให้การรับสารภาพว่า ปกติตนได้ประกอบอาชีพเปิดร้านขายอะไหล่รถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง ชื่อร้านบรีสอะไหล่ซิ่ง ต่อมาช่วงที่มีการประกาศกฎอัยการสึก ประกอบกับหลายหน่วยงาน ได้รณรงค์กวาดล้าง แก๊งค์เด็กซิ่งในพื้นที่อำเภอเมืองพิษณุโลกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ร้านของตนรายได้เริ่มลดลงเนื่องจากกลุ่มเด็กแวนซ์ ไม่ค่อยนำรถมาแต่งซิ่ง เพราะกลัวโดนยึดรถ จึงได้เริ่มนำยาบ้ามาจำหน่ายให้กับกลุ่มผู้เสพในเขตพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกจริง

โดยได้ติดต่อขอซื้อยาบ้ามาจากนายนัท ไม่ทราบนามสกุลที่แท้จริง ซึ่งเป็นนักโทษชาย อยู่ในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก และได้ทำการขยายผลยึดทรัพย์ ตามพระราชบัญญัติมาตรการยาเสพติด ตรวจยึดรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแม๊ค สีขาว หมายเลขทะเบียน กพ 5447 พิษณุโลก จำนวน 1 คัน โครงรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า จำนวน 2 คัน สร้อยคอทองคำจำนวน 1 เส้น สร้อยข้อมือ 1 เส้น และแหวนทองคำจำนวน 1 วง รวมทรัพย์สินที่ทำการตรวจยึดมูลค่า 8 แสนบาท ด้าน พ.ต.ท.นนทวร สีอินทร์ รองผู้กับการป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ขณะนี้จากการสอบสวนขยายผลพบกว่าเกี่ยวข้องกับผู้ค้ายาเครือข่ายเรือนจำ ซึ่งทราบเพียงว่าชื่อนายนัทฯ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง โดยใช้การติดต่อทางโทรศัพท์ออกมาจากเรือนจำ ซึ่งจะมีการเปลี่ยนเบอร์ติดต่อตลอดเวลา ซึ่งนายบรีส ผู้ต้องหาเองก็ไม่เคยเห็นหน้าแต่อย่างใด ประกอบกับการโอนเงินก็จะใช้การหมุนเวียนบัญชีไปเรื่อย ไม่ซ้ำ แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวน อย่างละเอียดและค้นหาผู้ค้ายาเครือข่ายเรือนจำ หากมีตัวตนจริงก็จะดำเนินคดีตามกฏหมายจนถึงที่สุดต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น