นายวิชัย ตินโนเวช ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาลำพูน เปิดเผยว่า สภาวะอากาศทั่วไป ในช่วงวันที่ 24-25 กรกฎาคม 2557 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจาย ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 กรกฎาคม 2557 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ทำให้บริเวณประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น บริเวณภาคเหนือ และจะมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “แมตโม” (MATMO) บริเวณช่องแคบไต้หวัน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเข้าไปทางเมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน โดยไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปเมืองไทเป ไต้หวัน เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 23-25 กรกฎาคม 2557 ขอให้ตรวจสอบลักษณะอากาศก่อนเดินทางด้วย สำหรับภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24-25 กรกฎาคม 2557 มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ จากนั้นช่วงวันที่ 26-29 กรกฎาคม 2557 จะมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณตอนบนและด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส พยากรณ์อากาศ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. วันนี้ (23 ก.ค.57) ถึงเวลา 18.00 น. วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.57) ภาคเหนือมีเมฆมาก โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และน่าน อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส จังหวัดลำพูน มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 26-29 กรกฎาคม 2557 ทางตอนบนและด้านตะวันตกของภาคเหนือจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น สภาพอากาศมีความชื้นสูง และความชื้นในดินมีมาก เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่และพืชผักในระยะนี้ควรป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบจุด โรคราสนิมและโรคเน่าคอดิน เป็นต้น รวมทั้งป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนกระทู้ และหนอนกินใบในพืชตระกูลกะหล่ำ เป็นต้น ในช่วงที่มีฝนตกหนัก ลำไยที่อยู่ในระยะผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวอาจทำให้ผลแตกและร่วงหล่นเน่าเสีย ตามโคนต้นและภายในสวน เกษตรกรควรกำจัด เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของโรคพืช
ข่าวโดย : ชาลิสา วัฒนะโชติ 053525519
หน่วยงาน : สวท.ลำพูน
หน่วยงาน : สวท.ลำพูน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น