สพม.39 จัดอบรมเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจการไกล่เกลี่ยยุติข้อพิพาท ด้วยหลักสมานฉันท์และสันติวิธีในสถานศึกษา
เช้าวันนี้ ( 27 ส.ค.57 ) ที่โรงแรมเรือนแพ รอยัล ปาร์ค อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก นายแดง วรศักดิ์วุฒิพงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 ประธานเปิดการอบรมเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจการไกล่เกลี่ยยุติข้อพิพาท ด้วยหลักสมานฉันท์และสันติวิธีในสถานศึกษา นายแดง วรศักดิ์วุฒิพงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 กล่าวว่า วัยรุ่นเป็นวัยของการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและจิตใจ ถือเป็นช่วงสำคัญที่สุด อนาคตของวัยรุ่นจะเป็นอย่างไรเริ่มจากสิ่งที่ได้รับในวัยนี้ สภาพแวดล้อมและสังคมรอบ ๆ ตัวมีอิทธิพลมากต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หากสังคมที่อยู่เป็นสังคมที่ดีถือเป็นความโชคดี แต่หากอยู่ในสังคมที่ไม่ดี ก็จะได้รับและซึมซับพฤติกรรมที่ไม่ดีนั้นไปด้วย ปัจจุบันปัญหาการทะเลาะวิวาทของวัยรุ่นในสังคมไทยเริ่มรุนแรงขึ้นทุกวัน บ้างก็มีทั้งที่เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ และไม่เป็นข่าว ในแต่ละครั้งจะมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือบาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย สร้างความเดือดร้อนกับผู้ก่อเหตุผู้ปกครองของกลุ่มเด็กวัยรุ่น และทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันการศึกษาซึ่งเป็น "เสาหลัก" ของการผลิตทรัพยากรมนุษย์อันเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ดังนั้น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39
จึงได้จัดอบรมเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจการไกล่เกลี่ยยุติข้อพิพาท ตามโครงการเสริมสร้างความสมานฉันท์ด้วยหลักสันติวิธีในสถานศึกษาขึ้น เพื่อสร้างและพัฒนานักเรียนแกนนำให้มีความรู้ความเข้าใจในการไกล่เกลี่ยยุติข้อพิพาทด้วยหลักสมานฉันท์และสันติวิธี ลดและแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งการทะเลาะวิวาทภายในสถานศึกษา โดยมีเนื้อหาการอบรมเป็นการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเบื้องต้น เทคนิคการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท การแสดงสาธิตการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท โดยคณะผู้ประนีประนอมคดีครอบครัว จากศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลก เป็นวิทยากร เผยแพร่ความรู้ การศึกษากรณีตัวอย่าง และการวางแผนการดำเนินงานรายโรงเรียน ผู้เข้ารับการอบรมเป็นครูและนักเรียนแกนนำจาก 10 โรงเรียน ๆ ละ 11 คน รวมทั้งสิ้น 110 คน ทั้งนี้คณะครูและนักเรียน ที่เข้ารับการอบรมจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ และเป็นแกนนำในการส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์ คอยสอดส่องดูแลและส่งข่าวความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ภายในโรงเรียน สร้างสังคมให้ยอมรับ ส่งเสริม สนับสนุนคนทำดี นักเรียนเป็นผู้ไกล่เกลี่ยรุ่นเยาว์ประจำศูนย์ในสถานศึกษา เป็นกลุ่มภาคีเครือข่ายคนดีของศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 ต่อไป
วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2557
พ่อเมืองสองแคว มอบใบประกาศนียบัตร พร้อมรวมแสดงความยินดี กับหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการที่จบหลักสูตรฝึกเรียนภาษาจีน
พ่อเมืองสองแคว มอบใบประกาศนียบัตร พร้อมรวมแสดงความยินดี กับหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่จบหลักสูตรฝึกเรียนภาษาจีน ตามโครงการ เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 26 สิงหาคม 2557 ที่โรงเรียนสิ่นหมิ่น อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก นาย ระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตร พร้อมรวมแสดงความยินดี กับผู้ที่จบหลักสูตร ฝึกเรียนภาษาจีน ตามโครงการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ก่อนที่ประเทศไทย กำลังจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( AEC ) ในปี 2558 ที่จะถึงนี้ โดยมีเป้าหมาย คือการเป็นตลาดและเป็นฐานการผลิตร่วมกัน จะมีการเคลื่อนย้ายสินค้าบริการ การลงทุน เงินทุนและแรงงานระหว่างประเทศอาเซียนอย่างเสรี จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กลุ่มอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยต้องเร่งเสริมสมรรถนะและความสามารถในการแข่งขัน เพื่อรองรับการเปิดเสรี ทั้งการ ขับเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน เงินทุนแรงงานฝีมือ ดังนั้น ยุทธศาสตร์การบริหารงานระบบราชการของจังหวัดพิษณุโลก จำเป็นอย่างมากที่หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องมีทักษะทางด้านภาษาเพิ่มเติม ให้สามารถสื่อสารหรือคุยโต้ตอบซื้อขายกันได้ ซึ่งถือว่าเป็นกลไกหนึ่ง ในการพาจังหวัดพิษณุโลก ให้ขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไปในการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 26 สิงหาคม 2557 ที่โรงเรียนสิ่นหมิ่น อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก นาย ระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตร พร้อมรวมแสดงความยินดี กับผู้ที่จบหลักสูตร ฝึกเรียนภาษาจีน ตามโครงการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ก่อนที่ประเทศไทย กำลังจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( AEC ) ในปี 2558 ที่จะถึงนี้ โดยมีเป้าหมาย คือการเป็นตลาดและเป็นฐานการผลิตร่วมกัน จะมีการเคลื่อนย้ายสินค้าบริการ การลงทุน เงินทุนและแรงงานระหว่างประเทศอาเซียนอย่างเสรี จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กลุ่มอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยต้องเร่งเสริมสมรรถนะและความสามารถในการแข่งขัน เพื่อรองรับการเปิดเสรี ทั้งการ ขับเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน เงินทุนแรงงานฝีมือ ดังนั้น ยุทธศาสตร์การบริหารงานระบบราชการของจังหวัดพิษณุโลก จำเป็นอย่างมากที่หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องมีทักษะทางด้านภาษาเพิ่มเติม ให้สามารถสื่อสารหรือคุยโต้ตอบซื้อขายกันได้ ซึ่งถือว่าเป็นกลไกหนึ่ง ในการพาจังหวัดพิษณุโลก ให้ขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไปในการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าช่วยเหลือพร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังเป็นข่าว หนุ่มเมืองสองแควป่วยเป็นมะเร็งหลังโพรงจมูก ฐานะยากจน
ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าช่วยเหลือพร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังเป็นข่าว หนุ่มเมืองสองแควป่วยเป็นมะเร็งหลังโพรงจมูก ฐานะยากจน แถมถูกเป็นแพะคดี ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ โดยไม่ได้รับอนุญาต
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 สิงหาคม 2557 นางกัญฐญาณ์ ภู่สวาสดิ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก นาย ธีระชัย ไพรรัตนวัน อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัดพิษณุโลก นายสุทธิวัตต์ ต่ายวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงพระ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้นำถุงน้ำใจ พร้อมเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง จากผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นำไปมอบให้กับ นาย ปานศิริ ทองอยู่เย็น อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 207 หมู่ 6 บ้านหนองไผ่ล้อม ตำบลบึงพระ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก ไม่สามารถทำงานช่วยเหลือครอบครัวได้ แถมยังตกเป็นแพะคดี ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ โดยไม่ได้รับอนุญาต มีไม้ท่อนไว้ในความครอบครองและมีไม้แปรรูปหวงห้าม โดยไม่รู้ตัวนาย ธีระชัย ไพรรัตนวัน อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า หลังจากได้พูดคุยกับนาย ปานศิริ แล้ว ทางตนเอง จะทำเรื่องไปที่ศาลจังหวัดเลย เพื่อจะขอให้ศาลจังหวัดเลยช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงของคดีนี้อีกครั้ง และสำหรับในวันที่ 26 - 27 พฤศจิกายนนี้ ที่ศาลจังหวัดเลย ได้นัดไปฟังคำตัดสิน ว่าจะมีความผิดจริงหรือไม่ ตนเองจะทำเรื่องแจ้งไปยังศาลจังหวัดเลย ว่า ทางนาย ปานศิริ ทองอยู่เย็น ได้ป่วยจริงและไม่ได้คิดที่จะหลบหนีคดีแต่อย่างใด และพร้อมที่จะหาทางช่วยเหลือต่อไป ด้าน นางกัญฐญาณ์ ภู่สวาสดิ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นาย ระพี ผ่องบุพกิจ ได้ห่วงใยกรณีนี้มาก โดยให้ตนเองเข้ามาดูแล หาทางช่วยเหลือ ซึ่งเบื้องต้นตนเองได้ประสานกับหน่วยงานท้องถิ่น ในการจัดหารถนำนาย ปานศิริ ไปหาหมอตามวันเวลาที่หมอนัด พร้อมทั้งจะดำเนินการช่วยเหลือครอบครัวของ นาย ปานศิริ ทองอยู่เย็น ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป ซึ่งหากผู้ใดต้องการช่วยเหลือ ก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 083-163-3881 หรือ หมายเลขบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาพิษณุโลก ชื่อบัญชี นางสุรีรัตน์ ทองอยู่เย็น บัญชีเลขที่ 01-027-8-026366.
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 สิงหาคม 2557 นางกัญฐญาณ์ ภู่สวาสดิ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก นาย ธีระชัย ไพรรัตนวัน อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัดพิษณุโลก นายสุทธิวัตต์ ต่ายวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงพระ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้นำถุงน้ำใจ พร้อมเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง จากผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นำไปมอบให้กับ นาย ปานศิริ ทองอยู่เย็น อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 207 หมู่ 6 บ้านหนองไผ่ล้อม ตำบลบึงพระ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก ไม่สามารถทำงานช่วยเหลือครอบครัวได้ แถมยังตกเป็นแพะคดี ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ โดยไม่ได้รับอนุญาต มีไม้ท่อนไว้ในความครอบครองและมีไม้แปรรูปหวงห้าม โดยไม่รู้ตัวนาย ธีระชัย ไพรรัตนวัน อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า หลังจากได้พูดคุยกับนาย ปานศิริ แล้ว ทางตนเอง จะทำเรื่องไปที่ศาลจังหวัดเลย เพื่อจะขอให้ศาลจังหวัดเลยช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงของคดีนี้อีกครั้ง และสำหรับในวันที่ 26 - 27 พฤศจิกายนนี้ ที่ศาลจังหวัดเลย ได้นัดไปฟังคำตัดสิน ว่าจะมีความผิดจริงหรือไม่ ตนเองจะทำเรื่องแจ้งไปยังศาลจังหวัดเลย ว่า ทางนาย ปานศิริ ทองอยู่เย็น ได้ป่วยจริงและไม่ได้คิดที่จะหลบหนีคดีแต่อย่างใด และพร้อมที่จะหาทางช่วยเหลือต่อไป ด้าน นางกัญฐญาณ์ ภู่สวาสดิ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นาย ระพี ผ่องบุพกิจ ได้ห่วงใยกรณีนี้มาก โดยให้ตนเองเข้ามาดูแล หาทางช่วยเหลือ ซึ่งเบื้องต้นตนเองได้ประสานกับหน่วยงานท้องถิ่น ในการจัดหารถนำนาย ปานศิริ ไปหาหมอตามวันเวลาที่หมอนัด พร้อมทั้งจะดำเนินการช่วยเหลือครอบครัวของ นาย ปานศิริ ทองอยู่เย็น ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป ซึ่งหากผู้ใดต้องการช่วยเหลือ ก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 083-163-3881 หรือ หมายเลขบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาพิษณุโลก ชื่อบัญชี นางสุรีรัตน์ ทองอยู่เย็น บัญชีเลขที่ 01-027-8-026366.
เทศบาลนครพิษณุโลก จัดการอบรมให้ความรู้เรื่องภัยร้ายจากน้ำมันทอดซ้ำให้แก่ผู้ประกอบการและผู้จำหน่ายอาหารในเขตเทศบาล
เช้าวันนี้ ( 27 ส.ค.57 ) ที่ห้องจุฬามณี 1 ชั้น 3 เทศบาลนครพิษณุโลก ทางเทศบาลนครพิษณุโลกได้จัดการอบรมให้ความรู้เรื่องภัยร้ายจากน้ำมันทอดซ้ำให้แก่ผู้ประกอบการและผู้จำหน่ายอาหารในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก เนื่องจากที่ผ่านมา พบว่าเกือบทุกร้านอาหาร หรือสถานประกอบการต่างๆ มีการใช้น้ำมันทอดซ้ำเสื่อมสภาพหรือมีการผสมระหว่างน้ำมันทอดซ้ำกับน้ำมันใหม่ประกอบอาหาร เพื่อต้องการลดต้นทุนโดยอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือมิได้คำนึงถึงอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค การบริโภคน้ำมันทอดซ้ำที่เสื่อมสภาพ มีสารอันตราย ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงและ เป็นสารก่อมะเร็ง พบได้ทั้งในน้ำมันทอดอาหารที่เสื่อมสภาพและในไอที่ระเหยออกมาขณะทอด จึงมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้ทั้งผู้ขายและผู้บริโภค เทศบาลนครพพิษณุโลก ตระหนักถึงพิษภัยของการบริโภคอาหารจากน้ำมันทอดซ้ำ ดังกล่าว จึงได้จัดอบรมให้ความรู้เรื่อง ภัยร้ายจากน้ำมันทอดซ้ำแก่ผู้ประกอบการจำหน่ายอาหารในพื้นที่เทศบาลนครพิษณุโลกขึ้น โดยมีผู้เข้าร่วมอบรม จำนวน 50 คน พร้อมกันนี้ยังได้จัดบรรยายให้ความรู้เรื่อง พิษภัยจากน้ำมันทอดซ้ำและอาหารปลอดภัยในชีวิตประจำวัน อีกทั้งได้รับการสนับสนุนวิทยากรจากกองบิน 46 มาให้ความรู้เรื่องการนำน้ำมันทอดซ้ำไปผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซลเพื่อใช้กับเครื่องสูบน้ำและรถยนต์ เพื่อลดต้นทุนด้านการเกษตร อีกด้วย
จ.เพชรบูรณ์ อบรมผู้ประกอบการอาชีพสามล้อรถสามล้อและรถจักยานยนต์รับจ้างในเขตเทศบาลเมือง สร้างความปรองดอง สมานฉันท์ สามัคคีและเพิ่มศักยภาพด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว
จ.เพชรบูรณ์ อบรมผู้ประกอบการอาชีพสามล้อรถสามล้อและรถจักยานยนต์รับจ้างในเขตเทศบาลเมือง สร้างความปรองดอง สมานฉันท์ สามัคคีและเพิ่มศักยภาพด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว
วันนี้ (27 ส.ค.57) นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.เพชรบูรณ์ เป็นประธานเปิดการอบรม ผู้มีอาชีพรถสามล้อและรถจักยานยนต์รับจ้างในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ สร้างความปรองดอง สมานฉันท์ สามัคคี มีผู้ประกอบอาชีพรถสามล้อและรถจักยานยนต์รับจ้างในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์เข้าร่วมอบรมกว่า 300 คน ณ หอวัฒนธรรมนครบาลเพชรบูรณ์ เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ จัดอบรมผู้ประกอบการอาชีพสามล้อครั้งนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักที่จังหวัดเพชรบูรณ์มากขึ้น โดยขอความร่วมมือทุกคนช่วยกันเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ไม่ฉวยโอกาสเอาเปรียบนักท่องเที่ยวและคิดค่าบริการกับประชาชนด้วยความเป็น ธรรม พร้อมกับมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการจราจร การใช้รถใช้ถนนไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ จาก สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ขนส่งจังหวัด และการประกันภัย จาก คปภ.จังหวัด
การฝึกอบรมให้ความรู้เพิ่มเติมและเสริมทักษะในการประกอบอาชีพ ให้กับกลุ่มอาชีพรถสามล้อและรถจักยานยนต์รับจ้าง โดยเพิ่มพูนความรู้ด้านการท่องเที่ยว ประวัติความเป็นมาของสถานที่สำคัญ เส้นทางท่องเที่ยวชมโบราณสถานในเขตเมือง รวมไปถึงเทคนิคการสร้างความประทับใจในการให้บริการ เพื่อให้มีความพร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักท่องเที่ยว โดยกลุ่มผู้ประกอบอาชีพรถสามล้อและรถจักยานยนต์รับจ้างเป็นกลุ่มอาชีพหนึ่งที่มีความสำคัญเป็นด่านแรกในการต้อนรับนักท่องเที่ยวและที่สำคัญในช่วงปลายปี ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของทุกปี จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์จำนวนมาก และเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 อีกด้วย
วันนี้ (27 ส.ค.57) นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.เพชรบูรณ์ เป็นประธานเปิดการอบรม ผู้มีอาชีพรถสามล้อและรถจักยานยนต์รับจ้างในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ สร้างความปรองดอง สมานฉันท์ สามัคคี มีผู้ประกอบอาชีพรถสามล้อและรถจักยานยนต์รับจ้างในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์เข้าร่วมอบรมกว่า 300 คน ณ หอวัฒนธรรมนครบาลเพชรบูรณ์ เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ จัดอบรมผู้ประกอบการอาชีพสามล้อครั้งนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักที่จังหวัดเพชรบูรณ์มากขึ้น โดยขอความร่วมมือทุกคนช่วยกันเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ไม่ฉวยโอกาสเอาเปรียบนักท่องเที่ยวและคิดค่าบริการกับประชาชนด้วยความเป็น ธรรม พร้อมกับมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการจราจร การใช้รถใช้ถนนไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ จาก สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ขนส่งจังหวัด และการประกันภัย จาก คปภ.จังหวัด
การฝึกอบรมให้ความรู้เพิ่มเติมและเสริมทักษะในการประกอบอาชีพ ให้กับกลุ่มอาชีพรถสามล้อและรถจักยานยนต์รับจ้าง โดยเพิ่มพูนความรู้ด้านการท่องเที่ยว ประวัติความเป็นมาของสถานที่สำคัญ เส้นทางท่องเที่ยวชมโบราณสถานในเขตเมือง รวมไปถึงเทคนิคการสร้างความประทับใจในการให้บริการ เพื่อให้มีความพร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักท่องเที่ยว โดยกลุ่มผู้ประกอบอาชีพรถสามล้อและรถจักยานยนต์รับจ้างเป็นกลุ่มอาชีพหนึ่งที่มีความสำคัญเป็นด่านแรกในการต้อนรับนักท่องเที่ยวและที่สำคัญในช่วงปลายปี ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของทุกปี จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์จำนวนมาก และเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 อีกด้วย
จ.เพชรบูรณ์ จัดโครงการ "สร้างเครือข่ายแกนนำวัยรุ่น เพื่อป้องกันปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น"
จ.เพชรบูรณ์ จัดโครงการ "สร้างเครือข่ายแกนนำวัยรุ่น เพื่อป้องกันปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น" เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ และทรงเจริญพระชนมายุ ครบ 60 พรรษาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย
วันนี้ 27 ส.ค. 57 ที่ห้องประชุม วิทยาลัยเทคนิคเพชรบูรณ์ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการ "สร้างเครือข่ายแกนนำวัยรุ่น เพื่อป้องกันปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น" โดยมีวัยรุ่นและเยาวชนในสถานศึกษา 7 สถาบัน จำนวน 200 คน เข้าร่วม. เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ และทรงเจริญพระชนมายุ ครบ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2558 ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย และแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทย
เหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์ได้ดำเนินโครงการอบรมสร้างเครือข่ายแกนนำ วัยรุ่น และเยาวชน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาตั้งครรภ์ในวัยรุ่น จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงเจริญพระชนมายุ ครบ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2558 และเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของสถานศึกษา ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ของเยาวชนในสถานศึกษาและสามรถถ่ายทอดความรู้ให้แก่เพื่อนในสถานศึกษาได้
ซึ่งในปัจจุบันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น นับเป็นปัญหาสำคัญที่กำลังรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลกระทบต่อประชากรในการพัฒนาประเทศ เนื่องจากวัยรุ่นตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร จะทำให้เกิดผลกระทบที่ตามมา ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ โดยเฉพาะการขาดความพร้อมในการดูแลสุขภาพทั้งตนเองในระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด
วันนี้ 27 ส.ค. 57 ที่ห้องประชุม วิทยาลัยเทคนิคเพชรบูรณ์ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการ "สร้างเครือข่ายแกนนำวัยรุ่น เพื่อป้องกันปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น" โดยมีวัยรุ่นและเยาวชนในสถานศึกษา 7 สถาบัน จำนวน 200 คน เข้าร่วม. เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ และทรงเจริญพระชนมายุ ครบ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2558 ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย และแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทย
เหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์ได้ดำเนินโครงการอบรมสร้างเครือข่ายแกนนำ วัยรุ่น และเยาวชน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาตั้งครรภ์ในวัยรุ่น จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงเจริญพระชนมายุ ครบ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2558 และเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของสถานศึกษา ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ของเยาวชนในสถานศึกษาและสามรถถ่ายทอดความรู้ให้แก่เพื่อนในสถานศึกษาได้
ซึ่งในปัจจุบันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น นับเป็นปัญหาสำคัญที่กำลังรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลกระทบต่อประชากรในการพัฒนาประเทศ เนื่องจากวัยรุ่นตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร จะทำให้เกิดผลกระทบที่ตามมา ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ โดยเฉพาะการขาดความพร้อมในการดูแลสุขภาพทั้งตนเองในระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด
จ.เพชรบูรณ์ ระดมความคิดเห็นการจัดทำแผนที่ธรณีวิทยา
วันนี้ 27 ส.ค.57 นายสุชาติ ราษฎร์ดุษดี รอง ผวจ.พช. ประธานพิธีเปิดการประชุมระดมความคิดเห็นและเผยแพร่องค์ความรู้ งานสำรวจจัดทำแผนที่ธรณีวิทยาใต้ดินฯ ณ ห้องนครบาล โรงแรมโฆษิตฮิลล์ กรมทรัพยากรธรณี มีภารกิจเกี่ยวกับการสงวน อนุรักษ์ ฟื้นฟู และบริหารการจัดการด้านธรณีวิทยา ทรัพยากรธรณี ซากดึกดำบรรพ์ ธรีณีวิทยาสิ่งแวดล้อม และธรณีภับพิบัติ โดยการสำรวจตรวจสอบ และวิจัยสภาพธรณีวิทยาและทัพยากรณ์ธรณี การประเมินศักยภาพแหล่งทรัพยากรณ์ธรณี การกำหนดและกำกับดูแลเขตพื้นที่สงวน อนุรักษ์ ทรัพยากรธรณี และพื้นที่เสี่ยงต่อธรณีพิบัติภัย เพื่อการพัฒนาทรัพยากรธรณี คุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมอย่างยั่งยืนและเกิดประโยชน์สูงสุด
ด้านนักธรณีวิทยา เผยข้อมูลชั้นดินที่น่าเป็นห่วงเรื่องดินโคลนถล่ม จะอยู่บริเวณ ตำบลน้ำก้อ ตำบลน้ำชุน และพื้นที่อำเภอหล่มเก่าติดต่อน้ำหนาว เพราะเป็นดินตะกอนภูเขาไฟ ชั้นดินร่วมซุยมีความหนา เมื่อซับน้ำจนอิ่มตัวโอกาสเกิดการสไลด์ตัวและถล่มได้
ด้านนักธรณีวิทยา เผยข้อมูลชั้นดินที่น่าเป็นห่วงเรื่องดินโคลนถล่ม จะอยู่บริเวณ ตำบลน้ำก้อ ตำบลน้ำชุน และพื้นที่อำเภอหล่มเก่าติดต่อน้ำหนาว เพราะเป็นดินตะกอนภูเขาไฟ ชั้นดินร่วมซุยมีความหนา เมื่อซับน้ำจนอิ่มตัวโอกาสเกิดการสไลด์ตัวและถล่มได้
จังหวัดลำพูน กำหนดจัดงานมอบรางวัลเชิดชูเกียรติ องค์การคณะทำงานร่วมการปฏิบัติงานพัฒนาหมู่บ้านชนบทในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในวันที่ 28 สิงหาคม 2557 ที่ เทศบาลตำบลบ้านโฮ่ง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน รายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ ( 28 สิงหาคม 2557 ) เทศบาลตำบลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน ได้กำหนดจัดงานมอบรางวัลเชิดชูเกียรติ องค์การคณะทำงานร่วมการปฏิบัติงานพัฒนาหมู่บ้านชนบทในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดย นายพัลลภ สุวรรณมาลิก ประธานองค์การคณะทำงานร่วมการปฏิบัติงานพัฒนาหมู่บ้านชนบท ในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นประธาน เพื่อเป็นการยกย่อง เชิดชูเกียรติแก่หน่วยงาน หรือองค์กร ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้านในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
โอกาสนี้ พลตรีสุทัศน์ จารุมณี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 จะได้แสดงปาฐะกาถาพิเศษ เรื่อง การสนองแนวพระราชดำริ ในเรื่อง การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในค่าย ทหาร อีกด้วย
โอกาสนี้ พลตรีสุทัศน์ จารุมณี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 จะได้แสดงปาฐะกาถาพิเศษ เรื่อง การสนองแนวพระราชดำริ ในเรื่อง การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในค่าย ทหาร อีกด้วย
ข่าวโดย : นศ. ฝึกประสบการณ์ นางสาวเกศกนก แสงจันทร์
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน
เชิญร่วมประกวดเขียนเล่าเรื่องราวโครงการ "ตามรอยพ่อ ใช้พลังงานอย่างพอเพียง"
กระทรวงแรงงานขอเชิญประชาชนที่สนใจ เข้าร่วมเขียนเรื่องราวโครงการ "ตามรอยพ่อ ใช้พลังงานอย่างพอเพียง" ส่งผลงานตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 15 กันยายน 2557
นายชุมพล ฐิตยารักษ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน ประธานคณะทำงานโครงการ ฯ เปิดเผยว่า ด้วยกระทรวงพลังงาน ได้จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้ชื่อ “โครงการตามรอยพ่อ ใช้พลังงานอย่างพอเพียง” เพื่อน้อมนำเอาพระราชกรณียกิจ และแนวพระราชดำริด้านพลังงานมาถ่ายทอดให้ประชาชนได้ตระหนักและเกิดแรงบันดาลใจในการนำมาประพฤติปฏิบัติให้สามารถพึ่งตนเองได้ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเพื่อเป็นการสร้างการรับรู้นโยบาย การอนุรักษ์พลังงานทดแทน ประชาชนที่สนใจจะส่งผลงานเพื่อเข้าร่วมโครงการจะคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายจากทั่วประเทศ มาเข้าร่วมกิจกรรมในโครงการ คายรอยพ่อ ใช้พลังงานอย่างพอเพียง จำนวนไม่น้อยกว่า 87 คน จากการเขียนเล่าเรื่องราวไม่น้อยกว่า 1 หน้ากระดาษ พร้อมภาพถ่ายกิจกรรมที่ได้ดำเนินงาน ภายใต้หัวข้อ ดูพ่อทำ แล้วนำมาปรับใช้ด้านพลังงาน ที่แสดงถึงหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในกานำใช้ในชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมศึกษาดูงานในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและโครงการส่วนพระองค์ในด้านพลังงานต่างๆพร้อมกิจกรรมสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องพลังงานเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ เพื่อเกิดแรงบันดาลใจและนำมาปรับใช้ในประจำวัน หรือชุมชนของตนเองหลังจากเสร็จสิ้นโครงการผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้รับประกาศนียบัตรและเผยแพร่ผลงาน เนื้อหาประวัติให้ประชาชนทั่วไปทราบในรูปแบบหนังสือผู้ที่สนใจจะสมัคร สามารถส่งงานเขียนได้โดยไม่จำกัด เพศ อายุ และการศึกษา บุคคลทั่วไป หรือผู้แทนชุมชน ผู้แทนวิสาหกิจชุมชน ผู้แทนองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น ผลงานการเขียนเล่าเรื่องราวจำนวน ไม่น้อยกว่า 1 หน้ากระดาษ พร้อมภาพถ่ายกิจกรรมที่ได้ดำเนินงานที่ส่งเข้าร่วมมาทุกผลงาน ถือเป็นลิขสิทธิ์ของกระทรวงแรงงาน
ทั้งนี้ขอรับใบสมัคร และส่งผลงานได้ที่ศูนย์บริการร่วม กระทรวงพลังงาน สำนักงานพลังงานจังหวัดทั่วประเทศ และสามารถดาวน์โหลดในสมัครได้ที่ Http://www.energy.go.th , Http://www.energyservicecenter.go.th ส่งผลงานมาที่ตู้ ปณ. 97 บางกอกน้อย 10700 ศูนย์บริการร่วม กระทรวงพลังงาน ศูนย์เอเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อาคารบี ชั้น3 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
นายชุมพล ฐิตยารักษ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน ประธานคณะทำงานโครงการ ฯ เปิดเผยว่า ด้วยกระทรวงพลังงาน ได้จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้ชื่อ “โครงการตามรอยพ่อ ใช้พลังงานอย่างพอเพียง” เพื่อน้อมนำเอาพระราชกรณียกิจ และแนวพระราชดำริด้านพลังงานมาถ่ายทอดให้ประชาชนได้ตระหนักและเกิดแรงบันดาลใจในการนำมาประพฤติปฏิบัติให้สามารถพึ่งตนเองได้ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเพื่อเป็นการสร้างการรับรู้นโยบาย การอนุรักษ์พลังงานทดแทน ประชาชนที่สนใจจะส่งผลงานเพื่อเข้าร่วมโครงการจะคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายจากทั่วประเทศ มาเข้าร่วมกิจกรรมในโครงการ คายรอยพ่อ ใช้พลังงานอย่างพอเพียง จำนวนไม่น้อยกว่า 87 คน จากการเขียนเล่าเรื่องราวไม่น้อยกว่า 1 หน้ากระดาษ พร้อมภาพถ่ายกิจกรรมที่ได้ดำเนินงาน ภายใต้หัวข้อ ดูพ่อทำ แล้วนำมาปรับใช้ด้านพลังงาน ที่แสดงถึงหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในกานำใช้ในชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าร่วมศึกษาดูงานในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและโครงการส่วนพระองค์ในด้านพลังงานต่างๆพร้อมกิจกรรมสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องพลังงานเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ เพื่อเกิดแรงบันดาลใจและนำมาปรับใช้ในประจำวัน หรือชุมชนของตนเองหลังจากเสร็จสิ้นโครงการผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้รับประกาศนียบัตรและเผยแพร่ผลงาน เนื้อหาประวัติให้ประชาชนทั่วไปทราบในรูปแบบหนังสือผู้ที่สนใจจะสมัคร สามารถส่งงานเขียนได้โดยไม่จำกัด เพศ อายุ และการศึกษา บุคคลทั่วไป หรือผู้แทนชุมชน ผู้แทนวิสาหกิจชุมชน ผู้แทนองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น ผลงานการเขียนเล่าเรื่องราวจำนวน ไม่น้อยกว่า 1 หน้ากระดาษ พร้อมภาพถ่ายกิจกรรมที่ได้ดำเนินงานที่ส่งเข้าร่วมมาทุกผลงาน ถือเป็นลิขสิทธิ์ของกระทรวงแรงงาน
ทั้งนี้ขอรับใบสมัคร และส่งผลงานได้ที่ศูนย์บริการร่วม กระทรวงพลังงาน สำนักงานพลังงานจังหวัดทั่วประเทศ และสามารถดาวน์โหลดในสมัครได้ที่ Http://www.energy.go.th , Http://www.energyservicecenter.go.th ส่งผลงานมาที่ตู้ ปณ. 97 บางกอกน้อย 10700 ศูนย์บริการร่วม กระทรวงพลังงาน ศูนย์เอเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อาคารบี ชั้น3 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
ข่าวโดย : น.ส.ณัฐพร ขัดทองงาม น.ศ ฝึกประสบการณ์ มร.ลป
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง
จัดหางาน จ .ลำปาง แจ้ง จ.ลำปาง เปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว ที่โรงพยาลำปางศูนย์ลำปาง
จัดหางานจ .ลำปาง แจ้ง จ.ลำปาง เปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว ที่โรงพยาลำปางศูนย์ลำปาง
นางพรปวีร์ วิชิต แจ้งว่า ตามที่จังหวัดลำปางได้จัดตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) เพื่อจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ลาว กัมพูชา ณ โรงพยาบาลลำปาง ซึ่งเปิดบริการรับจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวทั้งสามสัญชาติตั้งแต่วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2557 เป็นต้นมา นั้น
บัดนี้ นายจ้างสถานประกอบการ ที่ได้รับแจ้งบัญชีรายชื่อแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองไว้กับสำนักงานจัดหางานจังหวัด ได้นำแรงงานต่างด้าวมาดำเนินการจดทะเบียนเสร็จสิ้นแล้ว สำนักงานจัดหางานจังหวัดลำปาง จึงขอประชาสัมพันธ์ให้นายจ้างสถานประกอบการ ที่จ้างแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองทำงานและยังไม่ได้แจ้งบัญชีรายชื่อแรงงานต่างด้าวเพื่อจดทะเบียน สามารถแจ้งบัญชีรายชื่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดลำปาง โดยศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ จำเปิดให้บริการเฉพาะวันศุกร์ของทุกสัปดาห์ จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2558 เป็นต้นไป ณ ห้องตรวจไปทำงานต่างประเทศ (ห้อง 20/3 ชั้น 1) ตึกพระสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลลำปาง หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดลำปาง โทรศัพท์ 054-265052-2 ในวันเวลาราชการ
นางพรปวีร์ วิชิต แจ้งว่า ตามที่จังหวัดลำปางได้จัดตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) เพื่อจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ลาว กัมพูชา ณ โรงพยาบาลลำปาง ซึ่งเปิดบริการรับจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวทั้งสามสัญชาติตั้งแต่วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2557 เป็นต้นมา นั้น
บัดนี้ นายจ้างสถานประกอบการ ที่ได้รับแจ้งบัญชีรายชื่อแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองไว้กับสำนักงานจัดหางานจังหวัด ได้นำแรงงานต่างด้าวมาดำเนินการจดทะเบียนเสร็จสิ้นแล้ว สำนักงานจัดหางานจังหวัดลำปาง จึงขอประชาสัมพันธ์ให้นายจ้างสถานประกอบการ ที่จ้างแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองทำงานและยังไม่ได้แจ้งบัญชีรายชื่อแรงงานต่างด้าวเพื่อจดทะเบียน สามารถแจ้งบัญชีรายชื่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดลำปาง โดยศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ จำเปิดให้บริการเฉพาะวันศุกร์ของทุกสัปดาห์ จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2558 เป็นต้นไป ณ ห้องตรวจไปทำงานต่างประเทศ (ห้อง 20/3 ชั้น 1) ตึกพระสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลลำปาง หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดลำปาง โทรศัพท์ 054-265052-2 ในวันเวลาราชการ
ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง
สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง ร่วมกับ สำนักงานปศุสัตว์เขต5 กำหนด จัดโครงการความร่วมมือ "การเชื่องโยงเครือข่ายปศุสัตว์อินทรีย์ ในพื้นที่ปศุสัตว์เขต 5 ประจำปี 2557"
สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง ร่วมกับ สำนักงานปศุสัตว์เขต5 กำหนด จัดโครงการความร่วมมือ "การเชื่องโยงเครือข่ายปศุสัตว์อินทรีย์ ในพื้นที่ปศุสัตว์เขต 5 ประจำปี 2557"
นายศรีสะเกษ สมาน หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ด้วยสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง ร่วมกับ สำนักงานปศุสัตว์เขต5 ได้กำหนด จัดโครงการความร่วมมือระหว่างสภาเกษตรกรจังหวัดลำปางกับสำนักงานปศุสัตว์เขต 5 ประจำปีงบประมาณ 2557 เพื่อให้สมาชิกสภาเกษตรจังหวัดลำปาง และเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์เขต 5 จำนวน 200คน ได้มีความรู้ความเข้าใจในการผลิตปศุสัตว์อินทรีย์ระบบ ส่งเสริมการเรียนรู้โลกทัศน์ของเกษตรกรผู้ผลิตและผู้ประกอบกรสินค้า เกษตรอินทรีย์ เชื่อมโยงเครือข่าย และให้เกิดเวทีการพบปะ การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านแหล่งผลิต ช่องทางการขยายตลาดสินค้าปศุสัตว์อินทรีย์ เพื่อขยายการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ด้านปศุสัตว์ในพื้นที่ปศุสัตว์ เขต5
ภายในงาน พบกับ การเสวนา ในหัวข้อ “ ปศุสัตว์อินทรีย์ จากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภค การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ภูมิปัญญาของผู้นำเกษตรกรและแนวทางการเชื่อมโยงเครือข่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ด้านการปศุสัตว์ และการบรรยายปรับเปลี่ยนการเลี้ยงสัตว์ตามระบบเกษตรอินทรีย์และเข้ามาตรฐานและการรับรอง ทั้งนี้ ขอเชิญชวนเกษตรกร ร่วมในดังกล่าว ณ ศูนย์เกษตรอินทรีย์เพชรล้านนา ต.แม่สุก อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เริ่มตั้งแต่เวลา 08.00น.
นายศรีสะเกษ สมาน หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ด้วยสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง ร่วมกับ สำนักงานปศุสัตว์เขต5 ได้กำหนด จัดโครงการความร่วมมือระหว่างสภาเกษตรกรจังหวัดลำปางกับสำนักงานปศุสัตว์เขต 5 ประจำปีงบประมาณ 2557 เพื่อให้สมาชิกสภาเกษตรจังหวัดลำปาง และเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์เขต 5 จำนวน 200คน ได้มีความรู้ความเข้าใจในการผลิตปศุสัตว์อินทรีย์ระบบ ส่งเสริมการเรียนรู้โลกทัศน์ของเกษตรกรผู้ผลิตและผู้ประกอบกรสินค้า เกษตรอินทรีย์ เชื่อมโยงเครือข่าย และให้เกิดเวทีการพบปะ การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านแหล่งผลิต ช่องทางการขยายตลาดสินค้าปศุสัตว์อินทรีย์ เพื่อขยายการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ด้านปศุสัตว์ในพื้นที่ปศุสัตว์ เขต5
ภายในงาน พบกับ การเสวนา ในหัวข้อ “ ปศุสัตว์อินทรีย์ จากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภค การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ภูมิปัญญาของผู้นำเกษตรกรและแนวทางการเชื่อมโยงเครือข่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ด้านการปศุสัตว์ และการบรรยายปรับเปลี่ยนการเลี้ยงสัตว์ตามระบบเกษตรอินทรีย์และเข้ามาตรฐานและการรับรอง ทั้งนี้ ขอเชิญชวนเกษตรกร ร่วมในดังกล่าว ณ ศูนย์เกษตรอินทรีย์เพชรล้านนา ต.แม่สุก อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เริ่มตั้งแต่เวลา 08.00น.
ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง
ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง จัดโครงการเยาวชนไทย ใส่ใจเรียนรู้ สู้ภัยพิบัติ ออกให้ความรู้เรื่องการป้องกันและเตรียมตัวเมื่อเกิดสาธารณภัยให้แก่เด็กนักเรียนในเขตพื้นที่ภาคเหนือ
ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง จัดโครงการเยาวชนไทย ใส่ใจเรียนรู้ สู้ภัยพิบัติ ออกให้ความรู้เรื่องการป้องกันและเตรียมตัวเมื่อเกิดสาธารณภัยให้แก่เด็กนักเรียนในเขตพื้นที่ภาคเหนือ
นายกอบชัย บุญอรณะ ผอ.ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2557 ได้มอบหมายให้นางพิมลพรรณ มะโนเสน หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์และการจัดการ ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง นำเจ้าหน้าที่ ออกจัดโครงการเยาวชนไทย ใส่ใจเรียนรู้ สู้ภัยพิบัติ รุ่นที่ 3 ณ โรงเรียนแม่ทาวิทยาคม อ.แม่ทา จ.ลำพูน โดยโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประจำปีงบประมาณ 2557
ซึ่งรูปแบบการกิจกรรมครั้งนี้เป็นการสอดแทรกให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันอุบัติภัย การจัดนิทรรศการให้ความรู้ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของหน่วยงาน การสาธิตด้านความปลอดภัย การทดลองปฏิบัติการเรียนรู้ตามหลักการของคาราวานเรียนรู้ สู้ภัยพิบัติ มีการจัดฐานกิจกรรมและปัญหาถามตอบ 6 สถานี คือ สถานีที่ 1 อัคคีภัยไฟป่า หมอกควัน หนาวนี้มีแล้ง สถานีที่ 2 เตรียมพร้อมรับแผ่นดินไหว ทำย่างไรให้ปลอดภัยทุกคน สถานีที่ 3 เตือนพายุ หนีน้ำท่วม ระวังดินถล่ม สถานีที่ 4 มีสติ ขับขี่ ปลอดภัย สถานีที่ 5 สารเคมี และวัตถุอันตราย สถานีที่ 6 อุปกรณ์สู้ภัย ร่วมใจสร้างและประดิษฐ์
โดยที่ผ่านมารุ่นที่ 1 ได้ดำเนินการที่โรงเรียนทองสวัสดิ์วิทยาคาร อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน และรุ่นที่ 2 ดำเนินการที่โรงเรียนแจ้ห่มวิทยา อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ทั้งนี้เพื่อสร้างการเรียนรู้ ความตระหนักและการมีส่วนร่วมในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้แก่กลุ่มนักเรียนซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต
นายกอบชัย บุญอรณะ ผอ.ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2557 ได้มอบหมายให้นางพิมลพรรณ มะโนเสน หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์และการจัดการ ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง นำเจ้าหน้าที่ ออกจัดโครงการเยาวชนไทย ใส่ใจเรียนรู้ สู้ภัยพิบัติ รุ่นที่ 3 ณ โรงเรียนแม่ทาวิทยาคม อ.แม่ทา จ.ลำพูน โดยโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประจำปีงบประมาณ 2557
ซึ่งรูปแบบการกิจกรรมครั้งนี้เป็นการสอดแทรกให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันอุบัติภัย การจัดนิทรรศการให้ความรู้ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของหน่วยงาน การสาธิตด้านความปลอดภัย การทดลองปฏิบัติการเรียนรู้ตามหลักการของคาราวานเรียนรู้ สู้ภัยพิบัติ มีการจัดฐานกิจกรรมและปัญหาถามตอบ 6 สถานี คือ สถานีที่ 1 อัคคีภัยไฟป่า หมอกควัน หนาวนี้มีแล้ง สถานีที่ 2 เตรียมพร้อมรับแผ่นดินไหว ทำย่างไรให้ปลอดภัยทุกคน สถานีที่ 3 เตือนพายุ หนีน้ำท่วม ระวังดินถล่ม สถานีที่ 4 มีสติ ขับขี่ ปลอดภัย สถานีที่ 5 สารเคมี และวัตถุอันตราย สถานีที่ 6 อุปกรณ์สู้ภัย ร่วมใจสร้างและประดิษฐ์
โดยที่ผ่านมารุ่นที่ 1 ได้ดำเนินการที่โรงเรียนทองสวัสดิ์วิทยาคาร อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน และรุ่นที่ 2 ดำเนินการที่โรงเรียนแจ้ห่มวิทยา อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ทั้งนี้เพื่อสร้างการเรียนรู้ ความตระหนักและการมีส่วนร่วมในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้แก่กลุ่มนักเรียนซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต
ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง
ปภ.เขต 10ลำปาง แจ้งประชาชน ในพื้นที่ เตรียมการป้องกันเฝ้าระวังอุทกภัย วาตภัย ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก
ปภ.เขต 10ลำปาง แจ้งประชาชน ในพื้นที่ เตรียมการป้องกันเฝ้าระวังอุทกภัย วาตภัย ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก
นางสุนันท์ โกษาวัง นักวิเคราะห์นโยบาย และแผนชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน ผอ. ปภ.เขต10ลำปาง เปิดเผยว่า ด้วยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ติดตามตรวจสอบสภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า ในช่วงวันที่ 26 - 30 สิงหาคม 2557 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีคลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนผ่านเข้ามาในอ่าวไทยตอนบน ประกอบกับร่องมรสุมที่พาดผ่านจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักมากในหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมต่อเนื่องไว้ด้วย เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มอันเกิดจากฝนตกหนักอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินองประชาชนในระยะ 4-5 วันนี้ จังหวัดที่อาจจะได้รับผลกระทบคือจังหวัด ตาก สุโขทัย พิษณุโลก อตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน
ดังนั้น ขอให้ประชาชนเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม อันเกิดจากสภาวะฝนตกหนักและตกต่อเนื่อง สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินองประชาชนในระยะ 4-5 วันนี้ สำหรับประชาชนและผู้ขับขี่ยานพาหนะบริเวณที่เกิดฝนฟ้าคะนองให้ระมัดระวังอันตรายปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดและระมัดระวังใช้เครื่องมือสื่อสารโทรศัพท์มือถือกลางที่ล่งแจ้งในขณะที่เกิดฝนฟ้าคะนอง พบเห็นอุบัติเหตุหรือภัยพิบัติ กรุณาแจ้งสายด่วน 1784 หรือ โทรศัพท์/โทรสารหมายเลข 0- 5423-0947, 0- 5421-7877, 0- 5421-8124
นางสุนันท์ โกษาวัง นักวิเคราะห์นโยบาย และแผนชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน ผอ. ปภ.เขต10ลำปาง เปิดเผยว่า ด้วยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ติดตามตรวจสอบสภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า ในช่วงวันที่ 26 - 30 สิงหาคม 2557 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีคลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนผ่านเข้ามาในอ่าวไทยตอนบน ประกอบกับร่องมรสุมที่พาดผ่านจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักมากในหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมต่อเนื่องไว้ด้วย เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มอันเกิดจากฝนตกหนักอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินองประชาชนในระยะ 4-5 วันนี้ จังหวัดที่อาจจะได้รับผลกระทบคือจังหวัด ตาก สุโขทัย พิษณุโลก อตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน
ดังนั้น ขอให้ประชาชนเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม อันเกิดจากสภาวะฝนตกหนักและตกต่อเนื่อง สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินองประชาชนในระยะ 4-5 วันนี้ สำหรับประชาชนและผู้ขับขี่ยานพาหนะบริเวณที่เกิดฝนฟ้าคะนองให้ระมัดระวังอันตรายปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดและระมัดระวังใช้เครื่องมือสื่อสารโทรศัพท์มือถือกลางที่ล่งแจ้งในขณะที่เกิดฝนฟ้าคะนอง พบเห็นอุบัติเหตุหรือภัยพิบัติ กรุณาแจ้งสายด่วน 1784 หรือ โทรศัพท์/โทรสารหมายเลข 0- 5423-0947, 0- 5421-7877, 0- 5421-8124
ข่าวโดย : ปัณธวัฒน์ ทวีพรจิรภาคย์
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง
หน่วยงาน : สวท.ลำปาง
เทศบาลแม่ฮ่องสอนจัดโครงกรตลาดสดน่าซื้อ
เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ร่วมกับชุมชนในเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน จัดโครงการตลาดสดน่าซื้อและอาหารปลอดภัย
ที่ห้องประชุมจองคำ เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน นายปกรณ์ จีนาคำ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ประธานการประชุมโครงการตลาดสดน่าซื้อและอาหารปลอดภัย ปี ๒๕๕๗ โดยมีส่วนราชการและผู้นำชุมชนเข้าร่วมประชุม ฯ ดังกล่าว เพื่อเตรียมจัดงานโครงการตลาดสดน่าซื้อและอาหารปลอดภัย โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๐-๑๗ กันยายน ๒๕๕๗ ณ ตลาดสดน่าเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน บริเวณงาน ฯ ดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนได้รับความคุ้มครองสุขภาพด้านปลอดภัยของอาหาร พัฒนาและยกระดับตลาดสดเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ให้สะอาด ปลอดภัยและได้มาตรฐานตามหลักสุขาภิบาลตลาดและเป็นตลาดสดน่าซื้อนอกจากนี้แล้วชุมชนต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ยังจัดกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย
ที่ห้องประชุมจองคำ เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน นายปกรณ์ จีนาคำ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ประธานการประชุมโครงการตลาดสดน่าซื้อและอาหารปลอดภัย ปี ๒๕๕๗ โดยมีส่วนราชการและผู้นำชุมชนเข้าร่วมประชุม ฯ ดังกล่าว เพื่อเตรียมจัดงานโครงการตลาดสดน่าซื้อและอาหารปลอดภัย โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๐-๑๗ กันยายน ๒๕๕๗ ณ ตลาดสดน่าเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน บริเวณงาน ฯ ดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนได้รับความคุ้มครองสุขภาพด้านปลอดภัยของอาหาร พัฒนาและยกระดับตลาดสดเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ให้สะอาด ปลอดภัยและได้มาตรฐานตามหลักสุขาภิบาลตลาดและเป็นตลาดสดน่าซื้อนอกจากนี้แล้วชุมชนต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ยังจัดกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย
ข่าวโดย : ดำเนิน ท้วมจอก ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัด"เวทีระดมความคิดเห็นเพื่อจัดทำข้อเสนอการแก้ไขปัญหาของจังหวัดแม่ฮ่องสอน"
จังหวัดแม่ฮ่องสอนจัด"เวทีระดมความคิดเห็นเพื่อจัดทำข้อเสนอการแก้ไขปัญหาของจังหวัดแม่ฮ่องสอน" ณ ห้องประชุมศาลาประชาคมจังหวัดแม่ฮ่องสอน
นายสุทธา สายวาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิด เวทีระดมความคิดเห็นเพื่อจัดทำข้อเสนอการแก้ไขปัญหาของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อจัดทำข้อเสนอการแก้ไขปัญหาในการพัฒนาของจังหวัดแม่ฮ่องสอนทั้งที่เป็นปัญหาเร่งด่วน ปัญหาที่มาก่อนและยังไม่ได้รับการแก้ไขหรือปัญหาที่ต้องแก้ไขโดยนโยบายของรัฐระดมมติ ครม.ขึ้นไป ในโอกาสที่กำลังจะมีสภาปฎิรูปแห่งชาติในระยะอันใกล้นี้ คณะทำงานองค์กรชุมชนจังหวัดแม่ฮ่องสอนและภาคีเครือข่ายเห็นว่าการปฎิรูปประเทศตามนโยบายของ คสช. นอกจากจะมีการปฎิรูปโครงสร้างแล้ว ระดับฐานรากชุมชนถึงระดับจังหวัดก็ควรแก้ไขปัญหาหรือปฎิรูปไปพร้อมๆกัน โดยทั้งนี้ เพื่อระดมความคิดเห็นของประชาชนและสรุปประมวลเป็นข้อเสนอการแก้ไขปัญหาการพัฒนาในระดับฐานราก สู่การปฎิรูปประเทศไทย โดยบางส่วนที่สามารถแก้ไขได้ในระดับจังหวัด ก็จะเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง และข้อเสนอการแก้ปัญหาที่ต้องใช้อำนาจระดับนโยบายของรัฐ ก็จะนำเสนอต่อ คสช. และสภาปฎิรูปผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดต่อไป
นายสุทธา สายวาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิด เวทีระดมความคิดเห็นเพื่อจัดทำข้อเสนอการแก้ไขปัญหาของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อจัดทำข้อเสนอการแก้ไขปัญหาในการพัฒนาของจังหวัดแม่ฮ่องสอนทั้งที่เป็นปัญหาเร่งด่วน ปัญหาที่มาก่อนและยังไม่ได้รับการแก้ไขหรือปัญหาที่ต้องแก้ไขโดยนโยบายของรัฐระดมมติ ครม.ขึ้นไป ในโอกาสที่กำลังจะมีสภาปฎิรูปแห่งชาติในระยะอันใกล้นี้ คณะทำงานองค์กรชุมชนจังหวัดแม่ฮ่องสอนและภาคีเครือข่ายเห็นว่าการปฎิรูปประเทศตามนโยบายของ คสช. นอกจากจะมีการปฎิรูปโครงสร้างแล้ว ระดับฐานรากชุมชนถึงระดับจังหวัดก็ควรแก้ไขปัญหาหรือปฎิรูปไปพร้อมๆกัน โดยทั้งนี้ เพื่อระดมความคิดเห็นของประชาชนและสรุปประมวลเป็นข้อเสนอการแก้ไขปัญหาการพัฒนาในระดับฐานราก สู่การปฎิรูปประเทศไทย โดยบางส่วนที่สามารถแก้ไขได้ในระดับจังหวัด ก็จะเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง และข้อเสนอการแก้ปัญหาที่ต้องใช้อำนาจระดับนโยบายของรัฐ ก็จะนำเสนอต่อ คสช. และสภาปฎิรูปผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดต่อไป
ข่าวโดย : ทีมข่าว ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
น้ำป่าซัดราษฎรเฝ้านาเสียชีวิต ๑ ราย สูญหาย ๑ ราย รอยตาย ๒ ราย
ฝนตกอย่างหนักที่ชายแดนไทย-พม่า ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากซัดราษฎรที่เฝ้านาเสียชีวิต ๑ ราย สูญหาย ๑ ราย รอยตายอย่างหวุดหวิด ๒ ราย
เหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากซัดราษฎรที่เฝ้านาเสียชีวิตครั้งเกิดขึ้นเมื่อเวลา ๐๑.๓๐ น วันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๗ นายสังคม คัดเชียงแสน ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้รับแจ้งจากนายประจักษ์ พิศไหว ผู้ใหญ่บ้านในสอย ต. ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ว่าเกิดขึ้นฝนตกอย่างหนักตามแนวชายแดนไทย-พม่า ติดกับในสอย ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน และเกิดน้ำป่าไหลหลากบริเวณลำห้วยในสอย ซัดราษฎรที่นอนอยู่กระท่อนกลางนาเพื่อเฝ้าไร่นาสูญหายไปจำนวน ๔ คน จึงได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทราบ กระทั่งเวลา ๐๗.๐๐ น จึงได้นำกำลัง อาสาสมัครรักษาดินแดน ตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๓๓๖ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ ๗ จ.แม่ฮ่องสอน มูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ออกติดตามค้นหาราษฎรดังกล่าว จนกระทั่งเวลา ๑๑.๓๐ น พบศพ นายเด้ ไม่มีนามสกุล อายุ ๔๐ ปี เสียชีวิตอยู่บริเวณลำห้วยห่างจากกระท่อมกลางนาประมาณ ๑ กิโลเมตร มีเศษไม้ดินทับถมร่างกาย ในเวลาต่อมาพบนายฉ่อ ไม่มีนามสกุล อายุ ๒๐ ปี บ้านเลขที่ ๕๑ ป๊อก ๑ นายบูแหละ ไม่มีนามสกุล อายุ ๕๕ ปี บ้านเลขที่ ๑๑๒ ป๊อก ๙ เดินลงมาจากภูเขาสูง โดยทั้งสองเล่าให้ฟังว่า ในช่วงเวลา ๒๑.๐๐ น ของคืนวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๗ ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักบริเวณชายแดนไทย ฟ้าร้องตลอดเวลา จากนั้นก็นอนพักผ่อนที่กระท่อมของนายนิทัศน์ ทัศนถิ่น ราษฎรบ้านในสอย กระทั่งเวลาประมาณ ๐๑.๓๐ น วันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๗ สะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงต้นไม้หักและเสียงกระแสป่าจึงได้เรียกเพื่อน ๆ ทั้งสี่คนตื่นเพื่อจะได้วิ่งขึ้นไปอยู่ที่สูง ซึ่งต่างคนต่างคนต่างก็วิ่งหนีกระแสน้ำป่าที่ไหลเชียวอย่างรุนแรง จนกระทั่งรุ่งเช้าทราบว่านายเด้ เสียชีวิตถูกกระแสน้ำป่าซัด ส่วนนายเต๋อ ไม่มีนามสกุล อายุ ๕๓ ปี สูญหายไปไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ฯ ได้ค้นหายนายเต๋อ ตามลำห้วยตั้งแต่กระท่อมกลางนามาจนถึงลำน้ำปาย ระยะกว่า ๕ กิโลเมตร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ น้ำป่าได้กัดเซาะคอสะพานทางเข้าสำนักสงฆ์พุทธบารมีโลกอุดม ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ขาดชาวบ้านช่วยกันซ่อมแซม และพื้นที่ไร่นาราษฎรได้รับความเสียหายจำนวนมาก ขณะนี้นายสุรพล พนัสอำพล ได้สั่งการให้อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนเร่งสำรวจพื้นที่ไร่นา ถนน สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียดังกล่าวแล้ว
เหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากซัดราษฎรที่เฝ้านาเสียชีวิตครั้งเกิดขึ้นเมื่อเวลา ๐๑.๓๐ น วันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๗ นายสังคม คัดเชียงแสน ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้รับแจ้งจากนายประจักษ์ พิศไหว ผู้ใหญ่บ้านในสอย ต. ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ว่าเกิดขึ้นฝนตกอย่างหนักตามแนวชายแดนไทย-พม่า ติดกับในสอย ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน และเกิดน้ำป่าไหลหลากบริเวณลำห้วยในสอย ซัดราษฎรที่นอนอยู่กระท่อนกลางนาเพื่อเฝ้าไร่นาสูญหายไปจำนวน ๔ คน จึงได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทราบ กระทั่งเวลา ๐๗.๐๐ น จึงได้นำกำลัง อาสาสมัครรักษาดินแดน ตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๓๓๖ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ ๗ จ.แม่ฮ่องสอน มูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ออกติดตามค้นหาราษฎรดังกล่าว จนกระทั่งเวลา ๑๑.๓๐ น พบศพ นายเด้ ไม่มีนามสกุล อายุ ๔๐ ปี เสียชีวิตอยู่บริเวณลำห้วยห่างจากกระท่อมกลางนาประมาณ ๑ กิโลเมตร มีเศษไม้ดินทับถมร่างกาย ในเวลาต่อมาพบนายฉ่อ ไม่มีนามสกุล อายุ ๒๐ ปี บ้านเลขที่ ๕๑ ป๊อก ๑ นายบูแหละ ไม่มีนามสกุล อายุ ๕๕ ปี บ้านเลขที่ ๑๑๒ ป๊อก ๙ เดินลงมาจากภูเขาสูง โดยทั้งสองเล่าให้ฟังว่า ในช่วงเวลา ๒๑.๐๐ น ของคืนวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๗ ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักบริเวณชายแดนไทย ฟ้าร้องตลอดเวลา จากนั้นก็นอนพักผ่อนที่กระท่อมของนายนิทัศน์ ทัศนถิ่น ราษฎรบ้านในสอย กระทั่งเวลาประมาณ ๐๑.๓๐ น วันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๗ สะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงต้นไม้หักและเสียงกระแสป่าจึงได้เรียกเพื่อน ๆ ทั้งสี่คนตื่นเพื่อจะได้วิ่งขึ้นไปอยู่ที่สูง ซึ่งต่างคนต่างคนต่างก็วิ่งหนีกระแสน้ำป่าที่ไหลเชียวอย่างรุนแรง จนกระทั่งรุ่งเช้าทราบว่านายเด้ เสียชีวิตถูกกระแสน้ำป่าซัด ส่วนนายเต๋อ ไม่มีนามสกุล อายุ ๕๓ ปี สูญหายไปไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ฯ ได้ค้นหายนายเต๋อ ตามลำห้วยตั้งแต่กระท่อมกลางนามาจนถึงลำน้ำปาย ระยะกว่า ๕ กิโลเมตร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ น้ำป่าได้กัดเซาะคอสะพานทางเข้าสำนักสงฆ์พุทธบารมีโลกอุดม ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ขาดชาวบ้านช่วยกันซ่อมแซม และพื้นที่ไร่นาราษฎรได้รับความเสียหายจำนวนมาก ขณะนี้นายสุรพล พนัสอำพล ได้สั่งการให้อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนเร่งสำรวจพื้นที่ไร่นา ถนน สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียดังกล่าวแล้ว
ข่าวโดย : ดำเนิน ท้วมจอก ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
หลัก "การไม่ติดตำรา"และ "ขาดทุนคือกำไร" ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
พระราชดำรัส ฯ "การไม่ติดตำรา" และ "ขาดทุนคือกำไร"จากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ เกี่ยวกับการปกครองประเทศ ซึ่งมีใจความว่า
ให้ปกครองแบบคนจน “แบบที่ไม่ติดกับตำรามากเกินไป” ทำอย่างมีสามัคคีเมตตากัน ก็จะอยู่ได้ตลอด ไม่เหมือนกับคนที่ทำตามวิชาการที่เวลาปิดตำราแล้ว ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร รวมทั้งพระราชดำรัสเรื่อง “ขาดทุนเป็นการได้กำไรของเรา” โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นหลักนั้น ขอขยายความหลักหลักของ “การไม่ติดตำรา” และ “ขาดทุนคือกำไร” ดังนี้ หลัก “การไม่ติดตำรา” มีความหมายว่า ไม่ควรนำเอาทฤษฎีหรือหลักวิชาการของผู้อื่นมาดำเนินการโดยปราศจากการพิจารณาให้ถ่องแท้ด้วยสติปัญญาและความรู้ของตนเองว่าเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพของปัญหาผู้คนและสภาพแวดล้อมของประเทศไทยมากน้อยเพียงใด นักวิชาการชั้นสูงที่ได้รับการศึกษามาจากตะวันตก มักจะนำแนวคิดและทฤษฎีต่างๆ มาใช้กับประเทศไทย โดยไม่รอมชอมและไม่พิจารณาถึงความแตกต่างในด้านต่าง ๆ ให้รอบคอบ ในที่สุดก็มักจะประสบความล้มเหลวหรือไม่บังเกิดผลดีอย่างเต็มที่ และทำให้ประเทศถอยหลังเข้าคลอง หลัก “ขาดทุนคือกำไร” หรือ “Our loss is our gain” มีความหมายว่า การดำเนินโครงการ ใดก็ตาม ให้ยึดผลสำเร็จของการดำเนินงานที่ความ “คุ้มค่า” มากกว่า “คุ้มทุน” หรืออีกนัยหนึ่งคือ การพิจารณา “Cost–Effectiveness” มากกว่า “Cost–Benefit ratio” โดยให้ความสำคัญต่อผลสัมฤทธิ์ของการพัฒนาที่เป็นผลประโยชน์ของคนส่วนรวมมากกว่าผลสำเร็จที่เป็นตัวเลขอันเป็นผลประโยชน์ของกลุ่มคนส่วนน้อยนั่นเอง
ให้ปกครองแบบคนจน “แบบที่ไม่ติดกับตำรามากเกินไป” ทำอย่างมีสามัคคีเมตตากัน ก็จะอยู่ได้ตลอด ไม่เหมือนกับคนที่ทำตามวิชาการที่เวลาปิดตำราแล้ว ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร รวมทั้งพระราชดำรัสเรื่อง “ขาดทุนเป็นการได้กำไรของเรา” โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นหลักนั้น ขอขยายความหลักหลักของ “การไม่ติดตำรา” และ “ขาดทุนคือกำไร” ดังนี้ หลัก “การไม่ติดตำรา” มีความหมายว่า ไม่ควรนำเอาทฤษฎีหรือหลักวิชาการของผู้อื่นมาดำเนินการโดยปราศจากการพิจารณาให้ถ่องแท้ด้วยสติปัญญาและความรู้ของตนเองว่าเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพของปัญหาผู้คนและสภาพแวดล้อมของประเทศไทยมากน้อยเพียงใด นักวิชาการชั้นสูงที่ได้รับการศึกษามาจากตะวันตก มักจะนำแนวคิดและทฤษฎีต่างๆ มาใช้กับประเทศไทย โดยไม่รอมชอมและไม่พิจารณาถึงความแตกต่างในด้านต่าง ๆ ให้รอบคอบ ในที่สุดก็มักจะประสบความล้มเหลวหรือไม่บังเกิดผลดีอย่างเต็มที่ และทำให้ประเทศถอยหลังเข้าคลอง หลัก “ขาดทุนคือกำไร” หรือ “Our loss is our gain” มีความหมายว่า การดำเนินโครงการ ใดก็ตาม ให้ยึดผลสำเร็จของการดำเนินงานที่ความ “คุ้มค่า” มากกว่า “คุ้มทุน” หรืออีกนัยหนึ่งคือ การพิจารณา “Cost–Effectiveness” มากกว่า “Cost–Benefit ratio” โดยให้ความสำคัญต่อผลสัมฤทธิ์ของการพัฒนาที่เป็นผลประโยชน์ของคนส่วนรวมมากกว่าผลสำเร็จที่เป็นตัวเลขอันเป็นผลประโยชน์ของกลุ่มคนส่วนน้อยนั่นเอง
ข่าวโดย : ทีมข่าว ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดโครงการอบรมพัฒนาบุคลากรกลุ่มจังหวัด ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดโครงการอบรมพัฒนาบุคลากรกลุ่มจังหวัด ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
เช้าวันนี้ (27 ส.ค. 57) นายทัพพ์เทพ สุนทรพลเชฏฐ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิด โครงการอบรมพัฒนาบุคลากรกลุ่มจังหวัดในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ที่โรงแรมอิมพีเรียล แม่ฮ่องสอน รีสอร์ท จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีผู้เข้าร่วมการอบรม จำนวน 80 คน เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะในด้านการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม และพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ ให้แก่ผุ้ประกอบการ และผู้ที่สนใจจะมุ่งสู่การเป็นผู้ประกอบการในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ในอุตสาหกรรมสุขภาพ อุตสาหกรรมการจัดประชุม และนิทรรศการอุตสาหกรรมบริการการศึกษา อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องกับการท่องเที่ยว
กิจกรรมประกอบด้วย การบรรยาย หัวข้อ โลกาภิวัตน์กับการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม /AEC กับการผสานเชิงวัฒนธรรม /อวจนภาษากับการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม /ฝึกปฎิบัติการใช้ภาษอังกฤษในชีวิตประจำวัน และดำเนินธุรกิจ/การบรรยายและแสดงบทบาทสมมุติ/ความรู้ทั่วไป โอกาสการเตรียมพร้อมปัญหาและความท้าทาย วิทยากรจากคณะรัฐศาสตร์ และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
โครงการดังกล่าวจะมีไปจนถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2557
เช้าวันนี้ (27 ส.ค. 57) นายทัพพ์เทพ สุนทรพลเชฏฐ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิด โครงการอบรมพัฒนาบุคลากรกลุ่มจังหวัดในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ที่โรงแรมอิมพีเรียล แม่ฮ่องสอน รีสอร์ท จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีผู้เข้าร่วมการอบรม จำนวน 80 คน เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะในด้านการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม และพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ ให้แก่ผุ้ประกอบการ และผู้ที่สนใจจะมุ่งสู่การเป็นผู้ประกอบการในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ในอุตสาหกรรมสุขภาพ อุตสาหกรรมการจัดประชุม และนิทรรศการอุตสาหกรรมบริการการศึกษา อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องกับการท่องเที่ยว
กิจกรรมประกอบด้วย การบรรยาย หัวข้อ โลกาภิวัตน์กับการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม /AEC กับการผสานเชิงวัฒนธรรม /อวจนภาษากับการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม /ฝึกปฎิบัติการใช้ภาษอังกฤษในชีวิตประจำวัน และดำเนินธุรกิจ/การบรรยายและแสดงบทบาทสมมุติ/ความรู้ทั่วไป โอกาสการเตรียมพร้อมปัญหาและความท้าทาย วิทยากรจากคณะรัฐศาสตร์ และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
โครงการดังกล่าวจะมีไปจนถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2557
ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน
โครงการพัฒนาประสิทธิภาพชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ประจำปี 2557 ได้สิ้นสุดลงแล้ว
โครงการพัฒนาประสิทธิภาพชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ประจำปี 2557 ได้สิ้นสุดลงแล้ว
เช้าวันนี้ ( 27 สิงหาคม 2557) นายกองเอกสุรพล พนัสอำพล ผู้บังคับการอาสารักษาดินแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานปิดโครงการพัฒนาประสิทธิภาพชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ประจำปี 2557 ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนแม่ฮ่องสอน ที่ 1 อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งจัดมาตั้งวันที่ 25 สิงหาคม 2557 โดยมีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน อำเภอเมือง ปางมะผ้า และอำเภอขุนยวม เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 100 นาย เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับระเบียบกฎหมายที่ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ เช่น การตรวจค้น การตั้งจุดตรวจ พร้อมทั้ง เพิ่มพูนทักษะในการทำงานให้มีประสิทธิภาพ สามารถร่วมปฏิบัติงานกับฝ่ายปกครอง ตำรวจและทหาร ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
เช้าวันนี้ ( 27 สิงหาคม 2557) นายกองเอกสุรพล พนัสอำพล ผู้บังคับการอาสารักษาดินแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานปิดโครงการพัฒนาประสิทธิภาพชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ประจำปี 2557 ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนแม่ฮ่องสอน ที่ 1 อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งจัดมาตั้งวันที่ 25 สิงหาคม 2557 โดยมีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน อำเภอเมือง ปางมะผ้า และอำเภอขุนยวม เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 100 นาย เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับระเบียบกฎหมายที่ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ เช่น การตรวจค้น การตั้งจุดตรวจ พร้อมทั้ง เพิ่มพูนทักษะในการทำงานให้มีประสิทธิภาพ สามารถร่วมปฏิบัติงานกับฝ่ายปกครอง ตำรวจและทหาร ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน
เกิดเหตุฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากพัดราษฎร เสียชีวิต 1 ราย และสูญหาย 1 ราย หลายหน่วยงานระดมให้การช่วยเหลือ
เกิดเหตุฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากพัดราษฎร เสียชีวิต 1 ราย และสูญหาย 1 ราย หลายหน่วยงานระดมให้การช่วยเหลือ
จากเมื่อคืนที่ผ่าน (26 สิงหาคม 2557)จังหวัดแม่ฮ่องสอนเกิดเหตุฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ที่บ้านในสอย ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน น้ำป่าซัดราษฎรที่นอนเฝ้าไร่นา อยู่ที่กระท่อมจำนวน 4 คน กำลังพลจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 /กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 336 / เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัด /สำนักงานป้องและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัด/ อบต.ปางหมู /อบต.ผาบ่อง ระดมกำลังค้นหา ล่าสุดพบศพ นายเด้ ไม่มีชื่อสกุล อายุ 40 ปี เสียชีวิตอยู่บริเวณลำห้วย ห่างจากกระท่อมประมาณ 1 กิโลเมตร มีเศษไม้ และดินทับถมร่างกาย และในเวลาต่อมาพบนายฉ่อ ไม่มีชื่อสกุล อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 51 และนายบูแหละ ไม่มีชื่อสกุล อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 112 ทั้งสองเดินลงมาจากภูเขาสูง และเล่าให้ฟังว่า ได้มานอนเฝ้าไร่นาที่กระท่อมดังกล่าว และเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนัก ได้ยินเสียงต้นไม้หัก และเสียงน้ำป่าไหลหลากจึงได้เรียกเพื่อน ๆ ทั้ง 4 คนตื่น ซึ่งต่างคนต่างคนต่าง ก็วิ่งหนีกระแสน้ำป่าที่ไหลเชียวอย่างรุนแรง จนกระทั่งรุ่งเช้าทราบว่านายเด้ เสียชีวิตถูกกระแสน้ำป่าซัด ส่วนนายเต๋อ ไม่มีนามสกุล อายุ 53 ปี สูญหายไป ไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่
นอกจากนั้นยังพื้นที่ทำการเกษตร ของหมู่บ้านดังกล่าว เสียหายจำนวนหนึ่ง และ บ้านห้วยเสือเฒ่า ตำบลผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ถูกน้ำป่าซัดเครื่องใช้ไฟฟ้า และบ้านเรือนได้รับความเสียหาย เช่นกัน
ขณะนี้นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้สั่งการให้อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เร่งสำรวจความเสียหาย พื้นที่การเกษตร ที่อยู่อาศัย ถนน เพื่อทำการให้ความช่วยเหลือต่อไป/
จากเมื่อคืนที่ผ่าน (26 สิงหาคม 2557)จังหวัดแม่ฮ่องสอนเกิดเหตุฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ที่บ้านในสอย ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน น้ำป่าซัดราษฎรที่นอนเฝ้าไร่นา อยู่ที่กระท่อมจำนวน 4 คน กำลังพลจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 /กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 336 / เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัด /สำนักงานป้องและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัด/ อบต.ปางหมู /อบต.ผาบ่อง ระดมกำลังค้นหา ล่าสุดพบศพ นายเด้ ไม่มีชื่อสกุล อายุ 40 ปี เสียชีวิตอยู่บริเวณลำห้วย ห่างจากกระท่อมประมาณ 1 กิโลเมตร มีเศษไม้ และดินทับถมร่างกาย และในเวลาต่อมาพบนายฉ่อ ไม่มีชื่อสกุล อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 51 และนายบูแหละ ไม่มีชื่อสกุล อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 112 ทั้งสองเดินลงมาจากภูเขาสูง และเล่าให้ฟังว่า ได้มานอนเฝ้าไร่นาที่กระท่อมดังกล่าว และเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนัก ได้ยินเสียงต้นไม้หัก และเสียงน้ำป่าไหลหลากจึงได้เรียกเพื่อน ๆ ทั้ง 4 คนตื่น ซึ่งต่างคนต่างคนต่าง ก็วิ่งหนีกระแสน้ำป่าที่ไหลเชียวอย่างรุนแรง จนกระทั่งรุ่งเช้าทราบว่านายเด้ เสียชีวิตถูกกระแสน้ำป่าซัด ส่วนนายเต๋อ ไม่มีนามสกุล อายุ 53 ปี สูญหายไป ไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่
นอกจากนั้นยังพื้นที่ทำการเกษตร ของหมู่บ้านดังกล่าว เสียหายจำนวนหนึ่ง และ บ้านห้วยเสือเฒ่า ตำบลผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ถูกน้ำป่าซัดเครื่องใช้ไฟฟ้า และบ้านเรือนได้รับความเสียหาย เช่นกัน
ขณะนี้นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้สั่งการให้อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เร่งสำรวจความเสียหาย พื้นที่การเกษตร ที่อยู่อาศัย ถนน เพื่อทำการให้ความช่วยเหลือต่อไป/
ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน
จังหวัดแพร่ แจ้งเตือนประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนหนักในระยะนี้
จังหวัดแพร่แจ้งเตือนประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนหนักในระยะ 26-30 สิงหาคมนี้ อาจส่งผลให้เกิดอุทกภัย ดินโคลนถล่ม
นายศักดิ์ชัย จ.ผลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าวว่า จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า ในช่วงวันที่ 26-30 สิงหาคม 2557 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะนี้มีคลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนผ่านเข้ามาในอ่าวไทยตอนบน ประกอบกับร่องมรสุมที่พาดผ่านจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่
เพื่อเป็นการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากฝนตกหนัก อาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สิน และผลผลิตทางการเกษตร จังหวัดแพร่จึงขอแจ้งเตือนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการรับสถานการณ์ และให้ทุกอำเภอดำเนินการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนภัยให้ราษฎรได้รับทราบถึงสภาวะอากาศ ที่จะมาถึง เพื่อให้สามารถเตรียมรับสถานการณ์ และหาวิธีการป้องกันและแก้ไข หลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ให้ระมัดระวังภัยจากธรรมชาติ ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทั้งบ้านเรือน โรงเรือนและพืชผลทางการเกษตร
และขอให้เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติ ในระยะ 4-5 วันนี้ ควรจัดเจ้าหน้าที่อยู่ปฏิบัติงานเฝ้าระวังเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ รวมถึงใช้ประโยชน์จากมิสเตอร์เตือนภัยที่ประจำอยู่ในหมู่บ้านเสี่ยงภัย ในการแจ้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และรายงานสถานการณ์ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นให้ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจทราบทุกระยะจนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุด ทางโทรศัพท์หมายเลข 0-5553-3680 โทรสาร 0-5552-2513 หรือสายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายศักดิ์ชัย จ.ผลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าวว่า จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า ในช่วงวันที่ 26-30 สิงหาคม 2557 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะนี้มีคลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนผ่านเข้ามาในอ่าวไทยตอนบน ประกอบกับร่องมรสุมที่พาดผ่านจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่
เพื่อเป็นการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากฝนตกหนัก อาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สิน และผลผลิตทางการเกษตร จังหวัดแพร่จึงขอแจ้งเตือนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการรับสถานการณ์ และให้ทุกอำเภอดำเนินการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนภัยให้ราษฎรได้รับทราบถึงสภาวะอากาศ ที่จะมาถึง เพื่อให้สามารถเตรียมรับสถานการณ์ และหาวิธีการป้องกันและแก้ไข หลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ให้ระมัดระวังภัยจากธรรมชาติ ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทั้งบ้านเรือน โรงเรือนและพืชผลทางการเกษตร
และขอให้เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติ ในระยะ 4-5 วันนี้ ควรจัดเจ้าหน้าที่อยู่ปฏิบัติงานเฝ้าระวังเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ รวมถึงใช้ประโยชน์จากมิสเตอร์เตือนภัยที่ประจำอยู่ในหมู่บ้านเสี่ยงภัย ในการแจ้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และรายงานสถานการณ์ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นให้ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจทราบทุกระยะจนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุด ทางโทรศัพท์หมายเลข 0-5553-3680 โทรสาร 0-5552-2513 หรือสายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ฉัตรชัย พวงขจร /ข่าว /พิมพ์
กรมการกงสุลกำหนดจัดหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ ที่จังหวัดแพร่
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดจัดหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่มาให้บริการประชาชนในจังหวัดแพร่ ที่ศาลาประชาคมจังหวัดแพร่ ระหว่างวันที่ 22–26 กันยายน 2557
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รับแจ้งจาก กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศว่า ทางกรมการกงสุลกำหนดจัดหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่มาให้บริการประชาชนในจังหวัดแพร่ ที่บริเวณศาลาประชาคมจังหวัดแพร่ อำเภอเมืองแพร่ ระหว่างวันที่ 22–26 กันยายน 2557 ตั้งแต่เวลา 08.00–16.30 น. โดยเปิดให้บริการรับคำร้องเฉพาะหนังสือเดินทางบุคคลทั่วไป
ผู้สนใจติดต่อยื่นคำร้องเพื่อทำหนังสือเดินทาง ได้ตามวันและเวลาดังกล่าว โดยนำเอกสารประกอบการขอหนังสือเดินทางประกอบด้วย
กรณีบุคคลทั่วไป ใช้บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง) ที่มีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ที่ยังไม่หมดอายุและไม่ถูกยกเลิก
กรณีผู้เยว์ (อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์) ใช้ใช้บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง) กรณียังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ให้ใช้สูติบัตรที่มีเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก (ตัวจริง) ทะเบียนบ้านหรือสำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อผู้ยื่นคำร้องถูกต้อง (ไม่อยู่ระหว่างการย้ายหรืออยู่ในทะเบียนบ้านกลางหรือขัดข้องด้วยเหตุอื่น) บัตรประจำตัวประชาชนของบิดาและมารดา (ตัวจริง) บิดาและมารดาต้องมาลงนามให้ความยินยอมแก่ผู้เยาว์ทั้งสองคน ในขณะยื่นคำร้อง
กรณีบิดาและมารดามิได้จดทะเบียนสมรสและผู้เยาว์อยู่ในความอุปการของมารดาแต่ผู้เดียวให้มารดาเป็นผู้ลงนามพร้อมแสดงหนังสือรับรองการปกครองบุตรที่ออกโดยอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่น (ตัวจริง)
กรณีบิดาและมารดาจดทะเบียนอย่า ให้ผู้ใช้อำนาจปกครองผู้เยาว์แต่เพียงผู้เดียวที่ระบุในบันทึกการหย่าเป็นผู้ลงนามให้ความยินยอมพร้อมกับบันทึกการหย่า (ตัวจริง)
กรณีบิดาหรือมารดาคนใดคนหนึ่งไม่สมารถมาลงนามให้ความยินยอมได้ ให้ผู้นั้นทำหนังสือยินยอมจากอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่น (ตัวจริง) และนำมาแสดงใบเปลี่ยนชื่อหรือสกลของผู้เยาว์ บิดามารดาตัวจริง(หากมี) ทำเนียมการทำหนังสือเดินทาง 1,000.- บาท ค่าส่งไปรษณีย์ (EMS) 40.- บาท
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รับแจ้งจาก กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศว่า ทางกรมการกงสุลกำหนดจัดหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่มาให้บริการประชาชนในจังหวัดแพร่ ที่บริเวณศาลาประชาคมจังหวัดแพร่ อำเภอเมืองแพร่ ระหว่างวันที่ 22–26 กันยายน 2557 ตั้งแต่เวลา 08.00–16.30 น. โดยเปิดให้บริการรับคำร้องเฉพาะหนังสือเดินทางบุคคลทั่วไป
ผู้สนใจติดต่อยื่นคำร้องเพื่อทำหนังสือเดินทาง ได้ตามวันและเวลาดังกล่าว โดยนำเอกสารประกอบการขอหนังสือเดินทางประกอบด้วย
กรณีบุคคลทั่วไป ใช้บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง) ที่มีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ที่ยังไม่หมดอายุและไม่ถูกยกเลิก
กรณีผู้เยว์ (อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์) ใช้ใช้บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง) กรณียังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ให้ใช้สูติบัตรที่มีเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก (ตัวจริง) ทะเบียนบ้านหรือสำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อผู้ยื่นคำร้องถูกต้อง (ไม่อยู่ระหว่างการย้ายหรืออยู่ในทะเบียนบ้านกลางหรือขัดข้องด้วยเหตุอื่น) บัตรประจำตัวประชาชนของบิดาและมารดา (ตัวจริง) บิดาและมารดาต้องมาลงนามให้ความยินยอมแก่ผู้เยาว์ทั้งสองคน ในขณะยื่นคำร้อง
กรณีบิดาและมารดามิได้จดทะเบียนสมรสและผู้เยาว์อยู่ในความอุปการของมารดาแต่ผู้เดียวให้มารดาเป็นผู้ลงนามพร้อมแสดงหนังสือรับรองการปกครองบุตรที่ออกโดยอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่น (ตัวจริง)
กรณีบิดาและมารดาจดทะเบียนอย่า ให้ผู้ใช้อำนาจปกครองผู้เยาว์แต่เพียงผู้เดียวที่ระบุในบันทึกการหย่าเป็นผู้ลงนามให้ความยินยอมพร้อมกับบันทึกการหย่า (ตัวจริง)
กรณีบิดาหรือมารดาคนใดคนหนึ่งไม่สมารถมาลงนามให้ความยินยอมได้ ให้ผู้นั้นทำหนังสือยินยอมจากอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่น (ตัวจริง) และนำมาแสดงใบเปลี่ยนชื่อหรือสกลของผู้เยาว์ บิดามารดาตัวจริง(หากมี) ทำเนียมการทำหนังสือเดินทาง 1,000.- บาท ค่าส่งไปรษณีย์ (EMS) 40.- บาท
วัชระ เพชรพลอย/ข่าว /พิมพ์
เด็กนักเรียนที่จังหวัดแพร่อาหารเป็นพิษถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแพร่จำนวน 21 คน
เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านต้นไคร้ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่รับประทานอาหารเป็นพิษคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแพร่จำนวน 21 คน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (27ส.ค.57) ที่โรงพยาบาลแพร่มีเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านต้นไคร้ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ถูกนำตัวส่งเข้ารับการรักษาจำนวน 21 คน โดยเด็กส่วนใหญ่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย อ่อนเพลีย เนื่องจากอาหารเป็นพิษ ทั้งนี้เด็กนักเรียนได้รับประทานอาหารกลางวันวานนี้(26ส.ค.57) โดยรับประทานข้าวกับน้ำพริกอ่อง จนมีอาการท้องเสียหลายคน ซึ่งบางรายถูกนำส่งโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืน และเช้านี้เด็กก็ป่วยพร้อมกันจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลแพร่ เพื่อให้แพทย์ พยาบาลดูแลอาการไปก่อน
อย่างไรก็ตามในระยะนี้เป็นช่วงอากาศที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ที่อาจจะทำให้อาหารเน่า หรือบูดเสียได้ง่าย ประกอบกับน้ำพริกอ่องมีส่วนประกอบคือมะเขือเทศกับหมู ซึ่งมีรสเปรี้ยวด้วยอาจจะไม่ได้สังเกตว่ามันใกล้บูดหรือเปล่าเด็กๆ เมื่อรับประทานเข้าไปจึงมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสียดังกล่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (27ส.ค.57) ที่โรงพยาบาลแพร่มีเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านต้นไคร้ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ถูกนำตัวส่งเข้ารับการรักษาจำนวน 21 คน โดยเด็กส่วนใหญ่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย อ่อนเพลีย เนื่องจากอาหารเป็นพิษ ทั้งนี้เด็กนักเรียนได้รับประทานอาหารกลางวันวานนี้(26ส.ค.57) โดยรับประทานข้าวกับน้ำพริกอ่อง จนมีอาการท้องเสียหลายคน ซึ่งบางรายถูกนำส่งโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืน และเช้านี้เด็กก็ป่วยพร้อมกันจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลแพร่ เพื่อให้แพทย์ พยาบาลดูแลอาการไปก่อน
อย่างไรก็ตามในระยะนี้เป็นช่วงอากาศที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ที่อาจจะทำให้อาหารเน่า หรือบูดเสียได้ง่าย ประกอบกับน้ำพริกอ่องมีส่วนประกอบคือมะเขือเทศกับหมู ซึ่งมีรสเปรี้ยวด้วยอาจจะไม่ได้สังเกตว่ามันใกล้บูดหรือเปล่าเด็กๆ เมื่อรับประทานเข้าไปจึงมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสียดังกล่าว
ฉัตรชัย พวงขจร /ข่าว /พิมพ์
เจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกพะเยา ร่วมกับฝ่ายปกครอง ตชด. ป่าไม้ เข้าตรวจยึดไม้สักท่อนจำนวนมากที่ถูกซุกซ่อนไว้ในป่าหลังมหาวิทยาลัยพะเยา
วันนี้ (27 ส.ค.57) นายณรงค์ ถูกอย่าง ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.เมืองพะเยา พร้อมด้วยนายวิชาติ ใจสมิงหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่1 พะเยา (แม่นาเรือ) , เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกพะเยา และตำรวจ สภ.เมืองพะเยา ได้เข้าทำการตรวจยึดไม้สักท่อนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ฟุต ยาว 3 เมตร จำนวน 3 กอง รวม 28 ท่อน ที่ถูกตัดและนำมาซุกซ่อนอยู่ในสวนป่าหลังมหาวิทยาลัยพะเยา บ้านหม้อแกงทอง หมู่ 1 ต.แม่กา อ.เมืองพะเยา โดยเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพะเยา พร้อมเร่งทำการสืบสวนหาที่มาของไม้ทั้งหมด เนื่องจากขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจยึดนั้นไม่พบผู้กระทำผิด อีกทั้งบริเวณดังกล่าวเป็นสวนป่าที่มีการปลูกไม้สักจำนวนมากแต่กลับไม่มีร่องรอยการตัดโค่น ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ขบวนการลักลอบตัดไม้ น่าจะตัดโค่นมาจากที่อื่นแล้วนำมาซุกซ่อนไว้อำพรางตาเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.พะเยา
หน่วยงาน : สวท.พะเยา
หน่วยงาน : สวท.พะเยา
อุตสาหกรรมพะเยา เชิญชวนผู้ผลิตชุมชนที่ใบรับรองใกล้หมดอายุหรือหมดอายุแล้วติดต่อขอยื่นการรับรองใหม่ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
นางกฤษนันท์ ทะวิชัย อุตสาหกรรมจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพะเยา ได้ดำเนินงานในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP จังหวัดพะเยา ให้ได้รับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ตามโครงการมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งผลที่ได้จากการได้รับมาตรฐาน มผช. ทำให้สินค้าของกลุ่มผู้ผลิตชุมชนในจังหวัดพะเยาเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค รวมทั้งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ได้รับการคัดเลือกเป็นสินค้าระดับ 5 ดาว ตามโครงการคัดสรรสุดยอด 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) จะมีอายุ 3 ปี ดังนั้นจึงขอให้ผู้ผลิตที่ใบรับรองใกล้หมดอายุหรือหมดอายุแล้วให้ทำการติดต่อขอยื่นการรับรองใหม่ ตลอดจนผู้ผลิตชุมชนใดที่ผลิตภัณฑ์ของตนเองยังไม่ได้เข้าสู่ระบบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนก็สามารถไปยื่นขอการรับรองได้ ที่ สำนักงาน อุตสาหกรรมจังหวัดพะเยา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
สำหรับคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขอ ต้องเป็นผู้ผลิตในชุมชนหรือจากโครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ ที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการอำนวยการ หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งชาติ (กอ.นตผ.) และสมาชิกของกลุ่มเกษตร กลุ่มสหกรณ์หรือกลุ่มอื่นๆ ตามกฎหมายวิสาหกิจชุมชน เช่น กลุ่มอาชีพ กลุ่มอาชีพก้าวหน้า กลุ่มธรรมชาติ เป็นต้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือยื่นขอใบรับรองคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนได้ที่ ฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพะเยา โทร. 054 – 449638 ในวันเวลาราชการ
สำหรับคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขอ ต้องเป็นผู้ผลิตในชุมชนหรือจากโครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ ที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการอำนวยการ หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งชาติ (กอ.นตผ.) และสมาชิกของกลุ่มเกษตร กลุ่มสหกรณ์หรือกลุ่มอื่นๆ ตามกฎหมายวิสาหกิจชุมชน เช่น กลุ่มอาชีพ กลุ่มอาชีพก้าวหน้า กลุ่มธรรมชาติ เป็นต้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือยื่นขอใบรับรองคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนได้ที่ ฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพะเยา โทร. 054 – 449638 ในวันเวลาราชการ
ข่าวโดย : ประมวล อุปกิจ
หน่วยงาน : สวท.พะเยา
หน่วยงาน : สวท.พะเยา
วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2557
งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2557 จังหวัดเชียงใหม่ สำเร็จเกินคาด ปลื้มคนแห่ชมล้นหลาม มียอดผู้เข้าชมทะลุกว่า 850,000 คน
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวผลสำเร็จของการจัดงาน งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ที่เชียงใหม่ ครั้งแรกของการจัดงานส่วนภูมิภาค ผู้คนแห่ชมอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะไฮไลท์สำคัญ คือ โรงหนังสี่มิติ หุ่นยนต์แมมมอธและโครงกระดูกไดโนเสาร์ยาวที่สุดในโลก
วันนี้ (27 สิงหาคม 2557) เวลา 14.30 น. รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมด้วยนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายสาคร ชนะไพฑูรย์ รองผู้อำนวยการ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวความสำเร็จในการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2557 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่
รศ.ดร. วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ เปิดเผยว่า ถือเป็นปีที่ 9 แห่งความสำเร็จของการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำปี 2557 โดยปีนี้เป็นการผนึกกำลังร่วมกับ 7 กระทรวง 5 ประเทศ มากกว่า 100 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเปิดโลกแห่งการเรียนรู้นอกห้องเรียน ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” ซึ่งปีนี้จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นครั้งแรกของการเปลี่ยนสถานที่จัดงานจากกรุงเทพฯ มาเป็นส่วนภูมิภาค ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยมีผู้เข้าชมงานทั้งจากจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงมากกว่าที่คาดไว้ โดยตั้งแต่ วันเปิดงานจนถึงวันที่ 26 สิงหาคม เป็นระยะเวลา เป็นระยะเวลา 15 วัน ได้มีผู้เข้าชมงานกว่า 850,000 คน ทางกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจึงขอขอบคุณชาวเชียงใหม่ รวมทั้งสถาบันการศึกษา โรงเรียนในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงที่ให้ความสนใจเข้าชมงานอย่างหนาแน่น และหวังว่าการจัดงานในครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่นำความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีถ่ายทอดผ่านการเรียนรู้ในรูปแบบ interactive ที่สร้างความตื่นเต้น สร้างแรงบันดาลใจและความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ และเพื่อการจุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้แก่เยาวชนและผู้เข้าชมงานต่อไป
นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวตลอด 15 วันที่ผ่านมางานมหกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ได้สร้างปรากฏการณ์การเรียนรู้ครั้งใหม่ให้กับเยาวชนและประชาชนชาวเชียงใหม่ ในรูปแบบแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน ที่มีความตื่นเต้นและความสนุกสนาน ซึ่งเยาวชนชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงได้สัมผัสกับนิทรรศการแปลกใหม่ เช่น หุ่นยนต์แมมมอธ โครงกระดูกไดโนเสาร์ยาวที่สุดในโลก โรงหนังสี่มิติ และนิทรรศการผลงานความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์มากมาย ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เป็น talk of the town ของชาวเชียงใหม่อีกครั้ง ทางจังหวัดเชียงใหม่จึงขอขอบคุณ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อีกทั้งกระทรวงอื่นๆ และหน่วยงานต่างๆ ที่มอบโอกาสให้แก่เยาวชนเชียงใหม่ได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าประทับใจ และขอขอบคุณที่คัดเลือกจังหวัดเชียงใหม่ให้เป็นสถานที่จัดงานในครั้งนี้
นายสาคร ชนะไพฑูรย์ รองผู้อำนวยการ รักษาการผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ในฐานะผู้ดำเนินการจัดงานครั้งนี้กล่าวเสริมว่า แม้งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะสิ้นสุดวันที่ 28 สิงหาคม นี้แต่ด้วยเสียงเรียกร้องของคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้มีโอกาสมาชมงานที่จังหวัดเชียงใหม่ ทาง (อพวช.) จึงได้นำ 2 นิทรรศการไฮไลท์สำคัญของงานปีนี้ไปจัดแสดงต่อที่องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) คลองห้า ปทุมธานี คือ นิทรรศการโลกและการเปลี่ยนแปลงและโรงหนังสี่มิติ และนิทรรศการไดโนเสาร์เพื่อให้คนไทยที่พลาดชมได้สัมผัสและเรียนรู้อีกครั้ง โดยจะเริ่มจัดแสดงตั้งแต่เดือนกันยายน – ธันวาคมนิยม เช่น นิทรรศการ Science Idol นิทรรศการมหัศจรรย์แห่งผลึก นิทรรศการ Biomimetics (เทคโนโลยีเลียนแบบธรรมชาติ) จากประเทศญี่ปุ่น ทาง อพวช. ก็จะนำไปพัฒนาต่อและจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์เพื่อให้ความรู้กับผู้เข้าชมต่อไป
วันนี้ (27 สิงหาคม 2557) เวลา 14.30 น. รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมด้วยนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายสาคร ชนะไพฑูรย์ รองผู้อำนวยการ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวความสำเร็จในการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2557 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่
รศ.ดร. วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ เปิดเผยว่า ถือเป็นปีที่ 9 แห่งความสำเร็จของการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำปี 2557 โดยปีนี้เป็นการผนึกกำลังร่วมกับ 7 กระทรวง 5 ประเทศ มากกว่า 100 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเปิดโลกแห่งการเรียนรู้นอกห้องเรียน ภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” ซึ่งปีนี้จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นครั้งแรกของการเปลี่ยนสถานที่จัดงานจากกรุงเทพฯ มาเป็นส่วนภูมิภาค ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยมีผู้เข้าชมงานทั้งจากจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงมากกว่าที่คาดไว้ โดยตั้งแต่ วันเปิดงานจนถึงวันที่ 26 สิงหาคม เป็นระยะเวลา เป็นระยะเวลา 15 วัน ได้มีผู้เข้าชมงานกว่า 850,000 คน ทางกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจึงขอขอบคุณชาวเชียงใหม่ รวมทั้งสถาบันการศึกษา โรงเรียนในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงที่ให้ความสนใจเข้าชมงานอย่างหนาแน่น และหวังว่าการจัดงานในครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่นำความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีถ่ายทอดผ่านการเรียนรู้ในรูปแบบ interactive ที่สร้างความตื่นเต้น สร้างแรงบันดาลใจและความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ และเพื่อการจุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้แก่เยาวชนและผู้เข้าชมงานต่อไป
นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวตลอด 15 วันที่ผ่านมางานมหกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ได้สร้างปรากฏการณ์การเรียนรู้ครั้งใหม่ให้กับเยาวชนและประชาชนชาวเชียงใหม่ ในรูปแบบแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน ที่มีความตื่นเต้นและความสนุกสนาน ซึ่งเยาวชนชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงได้สัมผัสกับนิทรรศการแปลกใหม่ เช่น หุ่นยนต์แมมมอธ โครงกระดูกไดโนเสาร์ยาวที่สุดในโลก โรงหนังสี่มิติ และนิทรรศการผลงานความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์มากมาย ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เป็น talk of the town ของชาวเชียงใหม่อีกครั้ง ทางจังหวัดเชียงใหม่จึงขอขอบคุณ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อีกทั้งกระทรวงอื่นๆ และหน่วยงานต่างๆ ที่มอบโอกาสให้แก่เยาวชนเชียงใหม่ได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าประทับใจ และขอขอบคุณที่คัดเลือกจังหวัดเชียงใหม่ให้เป็นสถานที่จัดงานในครั้งนี้
นายสาคร ชนะไพฑูรย์ รองผู้อำนวยการ รักษาการผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ในฐานะผู้ดำเนินการจัดงานครั้งนี้กล่าวเสริมว่า แม้งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะสิ้นสุดวันที่ 28 สิงหาคม นี้แต่ด้วยเสียงเรียกร้องของคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้มีโอกาสมาชมงานที่จังหวัดเชียงใหม่ ทาง (อพวช.) จึงได้นำ 2 นิทรรศการไฮไลท์สำคัญของงานปีนี้ไปจัดแสดงต่อที่องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) คลองห้า ปทุมธานี คือ นิทรรศการโลกและการเปลี่ยนแปลงและโรงหนังสี่มิติ และนิทรรศการไดโนเสาร์เพื่อให้คนไทยที่พลาดชมได้สัมผัสและเรียนรู้อีกครั้ง โดยจะเริ่มจัดแสดงตั้งแต่เดือนกันยายน – ธันวาคมนิยม เช่น นิทรรศการ Science Idol นิทรรศการมหัศจรรย์แห่งผลึก นิทรรศการ Biomimetics (เทคโนโลยีเลียนแบบธรรมชาติ) จากประเทศญี่ปุ่น ทาง อพวช. ก็จะนำไปพัฒนาต่อและจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์เพื่อให้ความรู้กับผู้เข้าชมต่อไป
ข่าวโดย : ณัฏฐ์ สินันตา/สมัชญา หน่อหล้า
หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่
หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่
ปภ.เชียงใหม่จัดประชุมเชิงปฏิบัติการชุมชนต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมเชิงปฏิบัติการตามโครงการชุมชนต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน โดยนำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและมีความพร้อมเข้ามามีส่วนร่วมสร้างชุมชนต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน
วันนี้ (27 ส.ค.57) เวลา 09.00 น. ณ โรงแรม ฮอลิเดย์การ์เด้นท์ แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดเชียงใหม่ นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการชุมชนต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน ซึ่งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่จัดขึ้นเป็นระยะเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 27 – 28 สิงหาคม 2557 โดยมีคณะกรรมการศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงใหม่ ผู้บริหารและผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 15 แห่ง รวม 50 คนเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้
นางวาสนา วปินานนท์ หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์และการจัดการจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ และ สงกรานต์ ปี 2556 – 2557 ซึ่งสร้างความสูญเสียอย่างรุนแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมาก โดยพบว่าสาเหตุส่วนใหญ่ของการเกิดอุบัติเหตุเกิดจากการเมาสุราของผู้ขับขี่ยานพาหนะ การขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด การไม่เคารพกฎจราจร โดยเกิดขึ้นกับรถผู้ขับขี่จักรยานยนต์สูงสุดถึงร้อยละ 88.23 ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุส่วนใหญ่อยู่ในวัยแรงงาน โดยมีช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 43.96 พื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดอยู่ในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง แม่ริม ฝาง สันกำแพง สันทราย หางดง ดอยสะเก็ด และ สารภี ซึ่งจากความสูญเสียดังกล่าวนับเป็นภัยอย่างร้ายแรงที่จะส่งผลเสียหายต่อสังคมในภาพรวมแม้จะมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนระดับจังหวัดและอำเภอ โดยเน้นการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสำคัญเป็นหลัก ด้วยมาตรการต่าง ๆ ที่ภาครัฐพยายามคิดรูปแบบและนำไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม แต่เมื่อพิจารณาถึงจำนวนสถิติที่ผ่านมากลับพบว่าจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนก็ยังเกิดขึ้นให้เห็นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ ดังนั้นจึงพิจารณาเห็นว่าการดำเนินการโดยภาครัฐเพียงฝ่ายเดียวคงไม่เพียงพอ โดยเห็นควรที่จะแสวงหารูปแบบอื่น ๆ โดยเฉพาะการนำภาคประชาชนในท้องถิ่นที่มีความพร้อมหรือมีศักยภาพเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันอุบัติเหตุอีกทางหนึ่ง โดยการนำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและมีความพร้อมเข้ามามีส่วนร่วมสร้างชุมชนต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนนซึ่งน่าจะเป็นทางเลือกใหม่ที่มีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติจึงเป็นที่มาของโครงการนี้ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก โครงการสนับสนุนการดำเนินงานป้องกันอุบัติเหตุจราจรในระดับจังหวัด หรือ สอจร. และคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงใหม่
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลของจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนใหญ่จะเกิดบนถนนในพื้นที่ อบต./เทศบาล และผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเกือบ 100% เป็นคนในพื้นที่ โดยสาเหตุมักจะเกิดจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ยานพาหนะ คือ เมาสุราและขับรถเร็วซึ่งมากกว่าร้อยละ 80 เป็นรถจักรยานยนต์ ดังนั้นควรใช้มาตรการควบคุมทางสังคมในพื้นที่ชุมชน/หมู่บ้าน เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในการเข้าไปบริหารจัดการต่อความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ลงได้
วันนี้ (27 ส.ค.57) เวลา 09.00 น. ณ โรงแรม ฮอลิเดย์การ์เด้นท์ แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดเชียงใหม่ นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการชุมชนต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน ซึ่งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่จัดขึ้นเป็นระยะเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 27 – 28 สิงหาคม 2557 โดยมีคณะกรรมการศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงใหม่ ผู้บริหารและผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 15 แห่ง รวม 50 คนเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้
นางวาสนา วปินานนท์ หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์และการจัดการจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ และ สงกรานต์ ปี 2556 – 2557 ซึ่งสร้างความสูญเสียอย่างรุนแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมาก โดยพบว่าสาเหตุส่วนใหญ่ของการเกิดอุบัติเหตุเกิดจากการเมาสุราของผู้ขับขี่ยานพาหนะ การขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด การไม่เคารพกฎจราจร โดยเกิดขึ้นกับรถผู้ขับขี่จักรยานยนต์สูงสุดถึงร้อยละ 88.23 ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุส่วนใหญ่อยู่ในวัยแรงงาน โดยมีช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 43.96 พื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดอยู่ในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง แม่ริม ฝาง สันกำแพง สันทราย หางดง ดอยสะเก็ด และ สารภี ซึ่งจากความสูญเสียดังกล่าวนับเป็นภัยอย่างร้ายแรงที่จะส่งผลเสียหายต่อสังคมในภาพรวมแม้จะมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนระดับจังหวัดและอำเภอ โดยเน้นการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสำคัญเป็นหลัก ด้วยมาตรการต่าง ๆ ที่ภาครัฐพยายามคิดรูปแบบและนำไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม แต่เมื่อพิจารณาถึงจำนวนสถิติที่ผ่านมากลับพบว่าจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนก็ยังเกิดขึ้นให้เห็นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ ดังนั้นจึงพิจารณาเห็นว่าการดำเนินการโดยภาครัฐเพียงฝ่ายเดียวคงไม่เพียงพอ โดยเห็นควรที่จะแสวงหารูปแบบอื่น ๆ โดยเฉพาะการนำภาคประชาชนในท้องถิ่นที่มีความพร้อมหรือมีศักยภาพเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันอุบัติเหตุอีกทางหนึ่ง โดยการนำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและมีความพร้อมเข้ามามีส่วนร่วมสร้างชุมชนต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนนซึ่งน่าจะเป็นทางเลือกใหม่ที่มีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติจึงเป็นที่มาของโครงการนี้ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก โครงการสนับสนุนการดำเนินงานป้องกันอุบัติเหตุจราจรในระดับจังหวัด หรือ สอจร. และคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงใหม่
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลของจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนใหญ่จะเกิดบนถนนในพื้นที่ อบต./เทศบาล และผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเกือบ 100% เป็นคนในพื้นที่ โดยสาเหตุมักจะเกิดจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ยานพาหนะ คือ เมาสุราและขับรถเร็วซึ่งมากกว่าร้อยละ 80 เป็นรถจักรยานยนต์ ดังนั้นควรใช้มาตรการควบคุมทางสังคมในพื้นที่ชุมชน/หมู่บ้าน เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในการเข้าไปบริหารจัดการต่อความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ลงได้
ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว
หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่
หน่วยงาน : ส.ปชส.เชียงใหม่
วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2557
จังหวัดตาก จัดงานวันแม่แห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๗
จังหวัดตาก จัดงานวันเฉลิมพระชนมพรรษา "๑๒ สิงหามหาราชินีนาถ” พุทธศักราช ๒๕๕๗ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ ณ อาคารกิตติคุณ อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก
วันนี้ (๑๒ ส.ค.๕๗) เวลา ๐๘.๐๐ น. นายสมชัยฐ์ ทหยะตันย์ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นประธานการจัดงานวันแม่แห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๗ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมมายุ ๘๒ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยภาคเช้า เวลา ๐๗.๐๐ น. พิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ พิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำลงในแม่น้ำปิง และพิธีลงนามถวายพระพรรวมทั้งมอบประกาศนียบัตรแม่ดีเด่น ระดับจังหวัด ปะจำปี ๒๕๕๗ ภาคค่ำเวลา ๑๙.๐๐ น. พิธีถวายเครื่องราชสักการะ (พุ่มเงิน พุ่มทอง) และจุดเทียนชัยถวายพระพร โดยมีนายกเหล่ากาชาด ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ผู้แทนองค์กรเอกชนและกลุ่มพลังมวลชน ร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล
วันนี้ (๑๒ ส.ค.๕๗) เวลา ๐๘.๐๐ น. นายสมชัยฐ์ ทหยะตันย์ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นประธานการจัดงานวันแม่แห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๗ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมมายุ ๘๒ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยภาคเช้า เวลา ๐๗.๐๐ น. พิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ พิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำลงในแม่น้ำปิง และพิธีลงนามถวายพระพรรวมทั้งมอบประกาศนียบัตรแม่ดีเด่น ระดับจังหวัด ปะจำปี ๒๕๕๗ ภาคค่ำเวลา ๑๙.๐๐ น. พิธีถวายเครื่องราชสักการะ (พุ่มเงิน พุ่มทอง) และจุดเทียนชัยถวายพระพร โดยมีนายกเหล่ากาชาด ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ผู้แทนองค์กรเอกชนและกลุ่มพลังมวลชน ร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล
จังหวัดพิษณุโลก จัดงานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557
จังหวัดพิษณุโลก จัดงานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 โดยมีบรรดาหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการและพสกนิกรทุกหมู่เหล่า แสดงความจงรักภักดีและเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก
วันที่ 12 สิงหาคม 2557 เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ จังหวัดพิษณุโลก จัดงานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 โดยในเวลา 07.09 น. ที่ลานอเนกประสงค์หน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายระพี ผ่องบุพกิจผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการทุกหมู่เหล่ รัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารและสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน พ่อค้า ประชาชนและกลุ่มพลังมวลชน พร้อมใจกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ จำนวน 83 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ต่อจากนั้นในเวลา 09.09 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีถวายพระพรชัยมงคล ณ หอประชุมบึงราชนก อำเภอวังทอง โดยหัวหน้าส่วนราชการและผู้เข้าร่วมพิธีลงนามถวายพระพร พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ เจริญพระพุทธมนต์ ประธานในพิธีเปิดกรวยถวายราชสักการะ และกล่าวคำถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ จบแล้วพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ทหารกองเกียรติยศยิงปืนสลุต 21 นัด เป็นอันเสร็จพิธี จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตรแก่แม่ดีเด่นในระดับจังหวัด ประจำปี 2557 ให้แก่นางวนิดา เนียมหอม แม่ดีเด่นประเภท แม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และนางชไมพร ตันติกุล แม่ดีเด่นประเภท แม่ผู้มีความมานะอดทนขยันหมั่นเพียร ทั้งนี้เพื่อยกย่องและประกาศเกียรติคุณให้กับผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นแม่ดีเด่นให้ปรากฎแก่สาธารณชน เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557 นี้
วันที่ 12 สิงหาคม 2557 เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ จังหวัดพิษณุโลก จัดงานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 โดยในเวลา 07.09 น. ที่ลานอเนกประสงค์หน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายระพี ผ่องบุพกิจผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการทุกหมู่เหล่ รัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารและสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน พ่อค้า ประชาชนและกลุ่มพลังมวลชน พร้อมใจกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ จำนวน 83 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ต่อจากนั้นในเวลา 09.09 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีถวายพระพรชัยมงคล ณ หอประชุมบึงราชนก อำเภอวังทอง โดยหัวหน้าส่วนราชการและผู้เข้าร่วมพิธีลงนามถวายพระพร พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ เจริญพระพุทธมนต์ ประธานในพิธีเปิดกรวยถวายราชสักการะ และกล่าวคำถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ จบแล้วพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ทหารกองเกียรติยศยิงปืนสลุต 21 นัด เป็นอันเสร็จพิธี จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตรแก่แม่ดีเด่นในระดับจังหวัด ประจำปี 2557 ให้แก่นางวนิดา เนียมหอม แม่ดีเด่นประเภท แม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และนางชไมพร ตันติกุล แม่ดีเด่นประเภท แม่ผู้มีความมานะอดทนขยันหมั่นเพียร ทั้งนี้เพื่อยกย่องและประกาศเกียรติคุณให้กับผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นแม่ดีเด่นให้ปรากฎแก่สาธารณชน เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557 นี้
เทศบาลนครพิษณุโลก ร่วมกับทหารกองพลทหารราบที่ 4 จัด ร่วมใจกันทำความสะอาด ขัดพื้นผิวของตลาดสดเทศบาล 6 ร่วมใจ
เทศบาลนครพิษณุโลก ร่วมกับทหารกองพลทหารราบที่ 4 จัด ร่วมใจกันทำความสะอาด ขัดพื้นผิวของตลาดสดเทศบาล 6 ร่วมใจ หรือ บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาส เฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหามหาราชินี
เมื่อเวลา 19.00 น.ของวันที่ 11 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา ที่ตลาดสดเทศบาล 6 ร่วมใจ เทศบาลนครพิษณุโลก นายบุญทรง แทนธานี นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก พร้อมด้วย พ.อ.นพพร เรือนจันทร์ รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 กองทัพภาคที่ 3 และเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่เทศบาล กว่า 300 นาย ร่วมใจกันทำความสะอาด ขัดพื้นผิวของตลาดสดเทศบาล 6 ร่วมใจ ทั้ง 2 อาคาร หรือ บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาส เฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหามหาราชินี พร้อมทั้งเพื่อจัดระเบียบตลาดสดเทศบาล 6 ใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมามีบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ได้นำสินค้ามาวางจำหน่ายไม่ถูกที่ อีกทั้งเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่มาจากสัตว์ โดยเฉพาะโรคฉี่หนู ตามโครงการตลาดสดน่าซื้อ ซึ่งโครงการนี้ทางเทศบาลนครพิษณุโลก ได้จัดขึ้นที่ตลาดสดเทศบาล 6 ร่วมใจ เป็นแห่งแรก จากนั้นก็จะขยายไปทำตลาดสดอีก 5 แห่งของเทศบาลนครพิษณุโลก เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป
เมื่อเวลา 19.00 น.ของวันที่ 11 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา ที่ตลาดสดเทศบาล 6 ร่วมใจ เทศบาลนครพิษณุโลก นายบุญทรง แทนธานี นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก พร้อมด้วย พ.อ.นพพร เรือนจันทร์ รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 กองทัพภาคที่ 3 และเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่เทศบาล กว่า 300 นาย ร่วมใจกันทำความสะอาด ขัดพื้นผิวของตลาดสดเทศบาล 6 ร่วมใจ ทั้ง 2 อาคาร หรือ บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาส เฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหามหาราชินี พร้อมทั้งเพื่อจัดระเบียบตลาดสดเทศบาล 6 ใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมามีบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ได้นำสินค้ามาวางจำหน่ายไม่ถูกที่ อีกทั้งเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่มาจากสัตว์ โดยเฉพาะโรคฉี่หนู ตามโครงการตลาดสดน่าซื้อ ซึ่งโครงการนี้ทางเทศบาลนครพิษณุโลก ได้จัดขึ้นที่ตลาดสดเทศบาล 6 ร่วมใจ เป็นแห่งแรก จากนั้นก็จะขยายไปทำตลาดสดอีก 5 แห่งของเทศบาลนครพิษณุโลก เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป
จังหวัดพิษณุโลก จัดพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
พสกนิกรชาวจังหวัดพิษณุโลก พร้อมใจกันสวมเสื้อสีฟ้าร่วมประกอบพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหามหาราชินี
ค่ำวันนี้ ( 12 ส.ค.57 ) ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก พสกนิกรทุกหมู่เหล่าซึ่งประกอบไปด้วย ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มพลังมวลชน จำนวนกว่า 5,000 คน ที่พร้อมใจกันสวมเสื้อสีฟ้า ซึ่งเป็นสีประจำพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ร่วมประกอบพิธีวางพานพุ่ม ถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหามหาราชินี จากนั้นในเวลา 19.19 น. นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ประธานในพิธีวางพานพุ่ม พร้อมเปิดกรวย ถวายราชสักการะ จุดเทียนชัย พร้อมกล่าวคำถวายพระพรชัยมงคล ขอให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระเกษมสำราญ มีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง สถิตเป็นมิ่งขวัญและร่มโพธิ์ ร่มไทร ของปวงชนชาวไทยยิ่งยืนนานตลอดไป จากนั้นประธานในพิธีนำผู้เข้าร่วมพิธีร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงสดุดดีมหาราชาโดยพร้อมเพรียงกัน หลังจากนั้นได้มีการจุดพลุเฉลิมพระเกียรติจำนวน 83 นัด อย่างสวยงามและสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้า โดยก่อนหน้านี้พสกนิกรชาวจังหวัดพิษณุโลกได้ร่วมเดินเทิดพระเกียรติจากสามเส้นทางสามขบวนจากเขตตัวเมืองพิษณุโลก แล้วมาบรรจบรวมกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ก่อนที่จะประกอบพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล ดังกล่าว
ค่ำวันนี้ ( 12 ส.ค.57 ) ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก พสกนิกรทุกหมู่เหล่าซึ่งประกอบไปด้วย ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มพลังมวลชน จำนวนกว่า 5,000 คน ที่พร้อมใจกันสวมเสื้อสีฟ้า ซึ่งเป็นสีประจำพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ร่วมประกอบพิธีวางพานพุ่ม ถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหามหาราชินี จากนั้นในเวลา 19.19 น. นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ประธานในพิธีวางพานพุ่ม พร้อมเปิดกรวย ถวายราชสักการะ จุดเทียนชัย พร้อมกล่าวคำถวายพระพรชัยมงคล ขอให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระเกษมสำราญ มีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง สถิตเป็นมิ่งขวัญและร่มโพธิ์ ร่มไทร ของปวงชนชาวไทยยิ่งยืนนานตลอดไป จากนั้นประธานในพิธีนำผู้เข้าร่วมพิธีร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงสดุดดีมหาราชาโดยพร้อมเพรียงกัน หลังจากนั้นได้มีการจุดพลุเฉลิมพระเกียรติจำนวน 83 นัด อย่างสวยงามและสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้า โดยก่อนหน้านี้พสกนิกรชาวจังหวัดพิษณุโลกได้ร่วมเดินเทิดพระเกียรติจากสามเส้นทางสามขบวนจากเขตตัวเมืองพิษณุโลก แล้วมาบรรจบรวมกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ก่อนที่จะประกอบพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล ดังกล่าว
จ. เพชรบูรณ์ ร่วมทำบุญตักบาตรวันแม่แห่งชาติ
จ. เพชรบูรณ์ ร่วมทำบุญตักบาตรวันแม่แห่งชาติ
วันนี้ (12 ส.ค.57) เวลา 06.30 น. ณ บริเวณพุทธอุทยานเพชบุระ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชน ได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ สามเณร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหา โดยมีพระศรีพัชโรดม รองเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ นำพระสงฆ์ สามเณรออกรับบิณฑบาต มีข้าราชการ ประชาชนร่วมใส่บาตรเป็นจำนวนมาก บรรยากาศภายในกิจกรรมเต็มไปด้วยบรรดาข้าราชการ ประชาชนในพื้นที่อำเภอเมืองต่างนำข้าวสารอาหารแห้งมาร่วมทำบุญ ตักบาตรพร้อมรับศีลรับพรจากพระภิกษุสงฆ์
วันนี้ (12 ส.ค.57) เวลา 06.30 น. ณ บริเวณพุทธอุทยานเพชบุระ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชน ได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ สามเณร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหา โดยมีพระศรีพัชโรดม รองเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ นำพระสงฆ์ สามเณรออกรับบิณฑบาต มีข้าราชการ ประชาชนร่วมใส่บาตรเป็นจำนวนมาก บรรยากาศภายในกิจกรรมเต็มไปด้วยบรรดาข้าราชการ ประชาชนในพื้นที่อำเภอเมืองต่างนำข้าวสารอาหารแห้งมาร่วมทำบุญ ตักบาตรพร้อมรับศีลรับพรจากพระภิกษุสงฆ์
ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นำข้าราชการประชาชนลงนามถวายพระพรเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา
เช้าวันนี้ (12 ส.ค.57) ที่หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจงเพชรบูรณ์ นำคณะข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ผู้นำศาสนา พ่อค้า ประชาชน ร่วมพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา พระสงฆ์ทรงสมณะศักดิ์เจริญชัยมงคล ผู้นำศาสนาอิสลาม คริสต์ ถวายพระพร ผู้ว่าราชการจังหวัดวางพานพุ่มมะลิ กล่าวถวายราชสักการะสดุดีเฉลิมพระเกียรติ นำข้าราชการ ประชาชนถวายสัตย์ปฏิญาณหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ โอกาสนี้ได้มอบประกาศเกียรติบัตรแก่แม่ดีเด่นระดับจังหวัด ให้กับนางพรศรี บุญไทย แม่ดีเด่นจังหวัดเพชรบูรณ์ ประเภทแม่ผู้มีความมานะอดทนขยันหมั่นเพียร นางสมใจ อินสลุด แม่ดีเด่นจังหวัดเพชรบูรณ์ ประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ส่วนแม่ดีเด่นจังหวัดเพชรบูรณ์ที่ได้รับคัดเลือกเป็นแม่ดีเด่นระดับชาติ เข้ารับพระราชทานที่ กทม. ได้แก่ นางอาภรณ์ ธรรมมา แม่ดีเด่นประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม นางยูเกียง แซ่โค้ว แม่ดีเด่นประเภทแม่ผู้มีความมานะอดทนขยันหมั่นเพียร และมอบประกาศเกียรติบัตรสตรีไทยดีเด่นระดับอำเภอของจังหวัดเพชรบูรณ์ 4 ราย ได้แก่ นางไพรินทร์ พุ่มมาลา นางสาวละเอียด กลอนกลาง นางณัชพิมพ์ บุญโชติ นางดวงใจ กองพล ส่วนรางวัลสตรีไทยดีเด่นแห่งชาติ 1 ท่าน คือ นางจินตนา ทองใจสด เข้ารับพระราชทานโล่เชิดชูเกียรติสตรีไทยดีเด่น จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากนั้น นางณัฎฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์ มอบแว่นสายตาแก่เด็กนักเรียนที่มีปัญหาด้านสายตา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา มีนักเรียนจากโรงเรียนต่าง ๆ เข้ารับมอบ และมอบให้โรงเรียนต่าง ๆ ที่ห่างไกล มี ดร.พีรพัฒน์ วัชรินทรางกูล ผอ.โรงเรียนเพชรพิทยาคม เป็นผู้แทนรับมอบ
ผู้ว่าฯ จ.เพชรบูรณ์ เปิดกิจกรรมปักดำข้าว “โครงการปักดำวันแม่ เก็บเกี่ยววันพ่อ”เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนพรรษา 82 พรรษา
ผู้ว่าฯ จ.เพชรบูรณ์ เปิดกิจกรรมปักดำข้าว "โครงการปักดำวันแม่ เก็บเกี่ยววันพ่อ”เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนพรรษา 82 พรรษา
วันนี้ (12 ส.ค.57) ณ เรือนจำชั่วคราวแคน้อย สังกัดเรือนจำจังหวัดเพชรบูรณ์ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมปักดำข้าวโครงการปักดำวันแม่ เก็บเกี่ยววันพ่อ พร้อมด้วยพลตรีบรรเจิด ฉางปูนทอง ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 และหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมในพิธี
เรือนจำชั่วคราวแคน้อยจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้จัดกิจกรรมการปักดำข้าวโครงการปักดำวันแม่ เก็บเกี่ยววันพ่อ เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนพรรษา 82 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2557 โดยมีการแห่ขบวนกองยาวให้การต้อนรับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งหลังจากพิธีเปิดได้มีการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
ต่อจากนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และหัวหน้าส่วนราชการได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์ปลา และดำนาข้าวอินทรีย์ โดยใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 ในการปักดำข้าว เป็นแปลงทำนาข้าวเกษตรอินทรีย์ บนเนื้อที่จำนวน 20 ไร่ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการเตรียมกล้าข้าวตั้งแต่ช่วงต้นฤดูฝน เพื่อให้หัวหน้าส่วนราชการได้เรียนรู้วิถีไทยและสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันระหว่างหน่วยงานต่างๆในการปฏิบัติงานต่อไป
วันนี้ (12 ส.ค.57) ณ เรือนจำชั่วคราวแคน้อย สังกัดเรือนจำจังหวัดเพชรบูรณ์ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมปักดำข้าวโครงการปักดำวันแม่ เก็บเกี่ยววันพ่อ พร้อมด้วยพลตรีบรรเจิด ฉางปูนทอง ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 และหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมในพิธี
เรือนจำชั่วคราวแคน้อยจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้จัดกิจกรรมการปักดำข้าวโครงการปักดำวันแม่ เก็บเกี่ยววันพ่อ เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนพรรษา 82 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2557 โดยมีการแห่ขบวนกองยาวให้การต้อนรับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งหลังจากพิธีเปิดได้มีการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
ต่อจากนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และหัวหน้าส่วนราชการได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์ปลา และดำนาข้าวอินทรีย์ โดยใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 ในการปักดำข้าว เป็นแปลงทำนาข้าวเกษตรอินทรีย์ บนเนื้อที่จำนวน 20 ไร่ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการเตรียมกล้าข้าวตั้งแต่ช่วงต้นฤดูฝน เพื่อให้หัวหน้าส่วนราชการได้เรียนรู้วิถีไทยและสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันระหว่างหน่วยงานต่างๆในการปฏิบัติงานต่อไป
จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดงานเกษตรรวมใจบริการประชาชน เทิดไท้องค์ราชินี
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบให้จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดงาน "เกษตรรวมใจบริการประชาชน เทิดไท้องค์ราชินี” ซึ่งเป็นการจัดงานเพื่อบริการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรในพื้นที่ โดยร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัดเพชรบูรณ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)มอบหมาย เพื่อให้เกิดความปรองดองในกลุ่มเกษตรกร
สำหรับการจัดงาน กำหนดจัดวันพุธที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๗ ณ บริเวณลานจอดรถข้างหอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เริ่มตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น.ชมนิทรรศการและร้านค้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร พิธีเปิดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ในเวลา ๑๔.๐๐ น. เยี่ยมชมนิทรรศการ เกษตรกรรับการบริการแก้ไขปัญหาทางการเกษตร ชมการแสดงของกลุ่มผู้สูงอายุบ้านหนองผักบุ้ง ชมการแสดงดนตรีจากจังหวัดเพชรบูรณ์ การจำหน่ายสินค้าจากสหกรณ์การเกษตร จำหน่ายสินค้าราคาถูก เช่น ข้าวสาร เครื่องอุปโภคบริโภค การจำหน่ายสินค้ากลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ร้านธงฟ้าราคาถูกของกระทรวงพาณิชย์ การบริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ทหาร
หน่วยงานที่ให้บริการ เกษตรและสหกรณ์จังหวัด จัดนิทรรศการศูนย์บริการประชาชนด้านการเกษตรแบบเบ็ดเสร็จ การบริการฝนหลวง เกษตรปลอดภัย กองทุนช่วยเหลือเกษตรกรยากจน ศูนยืเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เกษตรจังหวัด บริการให้คำปรึกษา ตรวจวิเคราะห์ปัญหา แจกเอกสาร ศูนย์วิจัยพืชไร่ ให้คำปรึกษาพืชไร่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรที่สูง ให้คำปรึกษาด้านพืชสวน ปศุสัตว์จังหวัด ให้คำปรึกษา แจกจ่ายยาถ่ายพยาธิ ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า ทำหมันสัตว์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ ให้คำปรึกษา แจกเมล็ดพันธุ์พืชอาหารสัตว์ ประมงจังหวัด จัดนิทรรศการด้านการประมง ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด จัดนิทรรศการด้านประมง สาธิตการเลี้ยงกบ แจกพันธุ์กบสถานีพัฒนาที่ดิน ให้คำปรึกษาเรื่องดิน แจกสารเร่ง พด. น้ำหมักชีวภาพ แนะนำปอเทืองเป็นปุ๋ยพืชสด ปฏิรูปที่ดินจังหวัด ให้คำปรึกษา แจกเอกสารกฎหมาย แจก สปก.๔-๐๑ โครงการชลประทานจังหวัด ให้คำปรึกษาและเผยแพร่ความรู้ด้านการชลประทาน สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ ให้บริการเกี่ยวกับการทำบัญชีรายรับรายจ่ายครัวเรือน แจกสมุดบัญชีครัวเรือน สำนักงานสหกรณ์จังหวัด ให้คำแนะนำด้านสหกรณ์ การรวมกลุ่ม ศูนย์ปฏิบัติการสงเคราะห์สวนยาง ให้คำปรึกษาการทำสวนยางพารา เป็นต้น
สำหรับการจัดงาน กำหนดจัดวันพุธที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๗ ณ บริเวณลานจอดรถข้างหอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เริ่มตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น.ชมนิทรรศการและร้านค้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร พิธีเปิดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ในเวลา ๑๔.๐๐ น. เยี่ยมชมนิทรรศการ เกษตรกรรับการบริการแก้ไขปัญหาทางการเกษตร ชมการแสดงของกลุ่มผู้สูงอายุบ้านหนองผักบุ้ง ชมการแสดงดนตรีจากจังหวัดเพชรบูรณ์ การจำหน่ายสินค้าจากสหกรณ์การเกษตร จำหน่ายสินค้าราคาถูก เช่น ข้าวสาร เครื่องอุปโภคบริโภค การจำหน่ายสินค้ากลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ร้านธงฟ้าราคาถูกของกระทรวงพาณิชย์ การบริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ทหาร
หน่วยงานที่ให้บริการ เกษตรและสหกรณ์จังหวัด จัดนิทรรศการศูนย์บริการประชาชนด้านการเกษตรแบบเบ็ดเสร็จ การบริการฝนหลวง เกษตรปลอดภัย กองทุนช่วยเหลือเกษตรกรยากจน ศูนยืเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เกษตรจังหวัด บริการให้คำปรึกษา ตรวจวิเคราะห์ปัญหา แจกเอกสาร ศูนย์วิจัยพืชไร่ ให้คำปรึกษาพืชไร่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรที่สูง ให้คำปรึกษาด้านพืชสวน ปศุสัตว์จังหวัด ให้คำปรึกษา แจกจ่ายยาถ่ายพยาธิ ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า ทำหมันสัตว์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ ให้คำปรึกษา แจกเมล็ดพันธุ์พืชอาหารสัตว์ ประมงจังหวัด จัดนิทรรศการด้านการประมง ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด จัดนิทรรศการด้านประมง สาธิตการเลี้ยงกบ แจกพันธุ์กบสถานีพัฒนาที่ดิน ให้คำปรึกษาเรื่องดิน แจกสารเร่ง พด. น้ำหมักชีวภาพ แนะนำปอเทืองเป็นปุ๋ยพืชสด ปฏิรูปที่ดินจังหวัด ให้คำปรึกษา แจกเอกสารกฎหมาย แจก สปก.๔-๐๑ โครงการชลประทานจังหวัด ให้คำปรึกษาและเผยแพร่ความรู้ด้านการชลประทาน สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ ให้บริการเกี่ยวกับการทำบัญชีรายรับรายจ่ายครัวเรือน แจกสมุดบัญชีครัวเรือน สำนักงานสหกรณ์จังหวัด ให้คำแนะนำด้านสหกรณ์ การรวมกลุ่ม ศูนย์ปฏิบัติการสงเคราะห์สวนยาง ให้คำปรึกษาการทำสวนยางพารา เป็นต้น
จ.เพชรบูรณ์ จัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม
จ.เพชรบูรณ์ จัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม
วันนี้ (12 ส.ค.57) เวลา 19.00 น. ณ บริเวณหน้าศูนย์ราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 โดยมีคณะข้าราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรเอกชน นักเรียน นักศึกษา พ่อค้า และประชาชนทุกหมู่เหล่า แต่งชุดผ้าไทย ชุดสุภาพ หรือเสื้อสีฟ้า เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเข้าร่วมในพิธีจำนวนมาก โดยก่อนเริ่มพิธีได้มีการมอบโล่ และเกียรติบัตรให้แก่ทีมที่ได้รับรางวัลในการประกวดร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
ทั้งนี้ มีหัวหน้าส่วนราชการจากทุกหน่วยงานมาร่วมถวายพระพรชัย และวางพานพุ่มถวายเป็นเครื่องราชสักการะ จากนั้นท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ประธานในพิธี ได้ถวายเครื่องราชสักการะ เปิดกรวยดอกไม้ธูปเทียนแพ และจุดเทียนชัยถวายพระพรหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ต่อจากนี้ผู้เข้าร่วมพิธีได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีมหาราชา เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557
วันนี้ (12 ส.ค.57) เวลา 19.00 น. ณ บริเวณหน้าศูนย์ราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 โดยมีคณะข้าราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรเอกชน นักเรียน นักศึกษา พ่อค้า และประชาชนทุกหมู่เหล่า แต่งชุดผ้าไทย ชุดสุภาพ หรือเสื้อสีฟ้า เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเข้าร่วมในพิธีจำนวนมาก โดยก่อนเริ่มพิธีได้มีการมอบโล่ และเกียรติบัตรให้แก่ทีมที่ได้รับรางวัลในการประกวดร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
ทั้งนี้ มีหัวหน้าส่วนราชการจากทุกหน่วยงานมาร่วมถวายพระพรชัย และวางพานพุ่มถวายเป็นเครื่องราชสักการะ จากนั้นท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ประธานในพิธี ได้ถวายเครื่องราชสักการะ เปิดกรวยดอกไม้ธูปเทียนแพ และจุดเทียนชัยถวายพระพรหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ต่อจากนี้ผู้เข้าร่วมพิธีได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีมหาราชา เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557
จังหวัดอุตรดิตถ์ จัดพิธีทำบุญตักบาตรและลงนามถวายพระพร และงานเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๒ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ และจัดกิจกรรมเนื่องในวันแม่แห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๗
จังหวัดอุตรดิตถ์ จัดพิธีทำบุญตักบาตรและลงนามถวายพระพร และงานเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๒ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ และจัดกิจกรรมเนื่องในวันแม่แห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๗
นายชัช กิตตินภดล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุตรดิตถ์ หัวหน้าส่วนราชการ ตำรวจ ทหาร ข้าราชการพลเรือน นักเรียนนักศึกษา พ่อค้า ประชาชนชาวอุตรดิตถ์ ได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ สามเณรจำนวน ๘๓ รูป เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (๑๒ ส.ค.๕๗) ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางหน้าอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก จากนั้นในเวลา ๐๙.๐๐ น. ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ยังได้นำข้าราชการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ่อค้า ประชาชน องค์กรสาธารณกุศล ร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคล ลงนามถวายพระพร พิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๒ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ รวมทั้งการประกอบพิธีขอพร จากพระอัลลอฮ์ทางศาสนาอิสลาม การประกอบพิธีนมัสการพระเจ้ากล่าวคำอธิษฐานถวายพระพรทางศาสนาคริสต์ นับเป็นโอกาสพิเศษที่ปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าได้แสดงความกตัญญูกตเวที น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดีถวายเป็นราชสักการะอย่างพร้อมเพรียง
ในโอกาสนี้ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้จัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็น พระราชกุศลแด่พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และในภาคค่ำกำหนดจัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะ พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล และถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ ณ บริเวณพิธีสนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหัก มีข้าราชการทุกหมู่เหล่า พนักงานรัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนกลุ่มพลังมวลชนต่าง ๆ ร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง
นายชัช กิตตินภดล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุตรดิตถ์ หัวหน้าส่วนราชการ ตำรวจ ทหาร ข้าราชการพลเรือน นักเรียนนักศึกษา พ่อค้า ประชาชนชาวอุตรดิตถ์ ได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ สามเณรจำนวน ๘๓ รูป เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (๑๒ ส.ค.๕๗) ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางหน้าอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก จากนั้นในเวลา ๐๙.๐๐ น. ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ยังได้นำข้าราชการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ่อค้า ประชาชน องค์กรสาธารณกุศล ร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคล ลงนามถวายพระพร พิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๒ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ รวมทั้งการประกอบพิธีขอพร จากพระอัลลอฮ์ทางศาสนาอิสลาม การประกอบพิธีนมัสการพระเจ้ากล่าวคำอธิษฐานถวายพระพรทางศาสนาคริสต์ นับเป็นโอกาสพิเศษที่ปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าได้แสดงความกตัญญูกตเวที น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดีถวายเป็นราชสักการะอย่างพร้อมเพรียง
ในโอกาสนี้ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้จัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็น พระราชกุศลแด่พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และในภาคค่ำกำหนดจัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะ พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล และถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ ณ บริเวณพิธีสนามกีฬาพระยาพิชัยดาบหัก มีข้าราชการทุกหมู่เหล่า พนักงานรัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนกลุ่มพลังมวลชนต่าง ๆ ร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง
จังหวัดลำพูนจัดพิธีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557
จังหวัดลำพูนจัดงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา โดยจัดกิจกรรม เฉลิมพระเกียรติ และ มอบรางวัล แม่ดีเด่น แห่งชาติระดับจังหวัดลำพูน
พสกนิกรชาว จังหวัดลำพูน ร่วมกิจกรรม เนื่องใน โอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อ ช่วงเช้าวันนี้ ( 12 สิงหาคม 2557 ) ตั้งแต่เวลา 7.09 น. นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้ นำข้าราชการ ประชาชน เข้าร่วมในพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 83 รูป จากนั้น ในเวลา 8.30 น. ที่อาคารคุณธรรม เชิงสะพานท่าขาม ในเขตเทศบาลเมืองลำพูน ผู้แทนจาก หน่วยงานราชการ , รัฐวิสาหกิจ , องค์กรเอกชน ได้เข้าร่วมพิธี เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้ลงนามถวายพระพร และ เป็นประธานกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ , ถวายพระพรชัยมงคล
หลังจากนั้น ได้มีพิธีมอบ โล่รางวัลแม่ดีเด่นจังหวัดลำพูน ประจำปี 2557 ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติระดับจังหวัด ได้คัดเลือกให้ นางจันศรี แสนสะวะ จากอำเภอ แม่ทา เป็นแม่ดีเด่น ระดับชาติประเภท แม่ผู้มีความมานะอดทนขยันหมั่นเพียร ซึ่งวันนี้ได้เดินทางไปรับ ประทาน พระฉายาลักษณ์ พระราชทาน , เกียรติบัตร และ เข็มกลัดแม่ดีเด่นแห่งชาติ จาก พระเจ้า วรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ที่ สวนอัมพร กรุงเทพมหานครฯ ส่วน แม่ดีเด่นระดับจังหวัดอีก 4 ราย ซึ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นผู้มอบโล่เกียรติคุณ ได้แก่ นางลำดวน ภิญโญจิต อายุ 55 ปี ของอำเภอเมืองลำพูน ประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม , นางบุญเนื่อง ลังกาพินธุ์ อายุ 86 ปี ของอำเภอป่าซาง ประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม , นางสีมา ปะวัลละ อายุ 54 ปี ของอำเภอลี้ ประเภท แม่ผู้มีความมานะอดทนขยันหมั่นเพียร และ นางดา ภิระแก้ว อายุ 72 ปี ของอำเภอบ้านโฮ่ง ประเภทแม่ผู้เป็นเกษตรกร
พสกนิกรชาว จังหวัดลำพูน ร่วมกิจกรรม เนื่องใน โอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อ ช่วงเช้าวันนี้ ( 12 สิงหาคม 2557 ) ตั้งแต่เวลา 7.09 น. นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้ นำข้าราชการ ประชาชน เข้าร่วมในพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 83 รูป จากนั้น ในเวลา 8.30 น. ที่อาคารคุณธรรม เชิงสะพานท่าขาม ในเขตเทศบาลเมืองลำพูน ผู้แทนจาก หน่วยงานราชการ , รัฐวิสาหกิจ , องค์กรเอกชน ได้เข้าร่วมพิธี เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้ลงนามถวายพระพร และ เป็นประธานกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ , ถวายพระพรชัยมงคล
หลังจากนั้น ได้มีพิธีมอบ โล่รางวัลแม่ดีเด่นจังหวัดลำพูน ประจำปี 2557 ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกแม่ดีเด่นแห่งชาติระดับจังหวัด ได้คัดเลือกให้ นางจันศรี แสนสะวะ จากอำเภอ แม่ทา เป็นแม่ดีเด่น ระดับชาติประเภท แม่ผู้มีความมานะอดทนขยันหมั่นเพียร ซึ่งวันนี้ได้เดินทางไปรับ ประทาน พระฉายาลักษณ์ พระราชทาน , เกียรติบัตร และ เข็มกลัดแม่ดีเด่นแห่งชาติ จาก พระเจ้า วรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ที่ สวนอัมพร กรุงเทพมหานครฯ ส่วน แม่ดีเด่นระดับจังหวัดอีก 4 ราย ซึ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นผู้มอบโล่เกียรติคุณ ได้แก่ นางลำดวน ภิญโญจิต อายุ 55 ปี ของอำเภอเมืองลำพูน ประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม , นางบุญเนื่อง ลังกาพินธุ์ อายุ 86 ปี ของอำเภอป่าซาง ประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม , นางสีมา ปะวัลละ อายุ 54 ปี ของอำเภอลี้ ประเภท แม่ผู้มีความมานะอดทนขยันหมั่นเพียร และ นางดา ภิระแก้ว อายุ 72 ปี ของอำเภอบ้านโฮ่ง ประเภทแม่ผู้เป็นเกษตรกร
ข่าวโดย : ฝ่ายผลิตข่าว สปชส.ลำพูน
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน
ชาวจังหวัดลำพูน ร่วมพิธี ปล่อยปลา เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
สำนักงาน ประมง จังหวัดลำพูน จัดกิจกรรม เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557
ช่วงสายวันนี้ ( 12 สิงหาคม 2557 ) เวลา 10 .00 น. ที่บริเวณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เชิงสะพานท่าขาม สำนักงานประมงจังหวัดลำพูน จัดพิธี ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 โดยมี นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน , นายอาณัติ วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน , พันเอกบุญยืน อินกว่าง ผู้บัญชาการ กองกำลังรักษาความสงบแห่งชาติ กองพลทหารราบที่ 7 ส่วนแยก 1 จ.ลำพูน และ นางสุภาพันธ์ บุญเจริญ ประมงจังหวัด รวมถึง ข้าราชการ ประชาชน ได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์ สัตว์น้ำซึ่งได้ แก่ ปลายี่สก , ปลาตะเพียน ขาว จำนวน 300,000 ตัว เพื่อเพิ่มปริมาณ สัตว์น้ำ ให้ แหล่งน้ำใน จ. ลำพูน ตามพระราชเสาวนีย์ที่ทรงตรัสให้กรมประมง ฟื้นฟูสัตว์น้ำหลายชนิดให้สามมารถดำรงอยู่ และ คืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ให้มีความอุดมสมบูรณ์ทางอาหาร
นอกจากนี้ สำนักงานประมงจังหวัดลำพูน จะร่วมกับ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด จ.ลำพูน และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปล่อยปลา ลงสู่แหล่งน้ำ ในจังหวัดลำพูน อีก 700,000 ตัว เพื่อ ให้ครบ 1,000,000 ตัว เพื่อ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และ สร้างแหล่งอาหารให้แก่ ประชาชน
ช่วงสายวันนี้ ( 12 สิงหาคม 2557 ) เวลา 10 .00 น. ที่บริเวณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เชิงสะพานท่าขาม สำนักงานประมงจังหวัดลำพูน จัดพิธี ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 โดยมี นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน , นายอาณัติ วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน , พันเอกบุญยืน อินกว่าง ผู้บัญชาการ กองกำลังรักษาความสงบแห่งชาติ กองพลทหารราบที่ 7 ส่วนแยก 1 จ.ลำพูน และ นางสุภาพันธ์ บุญเจริญ ประมงจังหวัด รวมถึง ข้าราชการ ประชาชน ได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์ สัตว์น้ำซึ่งได้ แก่ ปลายี่สก , ปลาตะเพียน ขาว จำนวน 300,000 ตัว เพื่อเพิ่มปริมาณ สัตว์น้ำ ให้ แหล่งน้ำใน จ. ลำพูน ตามพระราชเสาวนีย์ที่ทรงตรัสให้กรมประมง ฟื้นฟูสัตว์น้ำหลายชนิดให้สามมารถดำรงอยู่ และ คืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ให้มีความอุดมสมบูรณ์ทางอาหาร
นอกจากนี้ สำนักงานประมงจังหวัดลำพูน จะร่วมกับ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด จ.ลำพูน และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปล่อยปลา ลงสู่แหล่งน้ำ ในจังหวัดลำพูน อีก 700,000 ตัว เพื่อ ให้ครบ 1,000,000 ตัว เพื่อ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และ สร้างแหล่งอาหารให้แก่ ประชาชน
ข่าวโดย : ฝ่ายผลิตข่าว สปชส.ลำพูน
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำพูน
ประชาชนชาวลำปาง ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นำข้าราชการ และประชาชนชาวจังหวัดลำปางทุกหมู่เหล่า ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557 "วันแม่แห่งชาติ"
นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย พลตรีอุกฤษณ์ อากาศวิภาต ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรีลำปาง นายฤทธิพงศ์ เตชะพันธุ์ และนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมคณะผู้บริหารหน่วยงานองค์กรทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกันประกอบพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ ที่บริเวณด้านหน้าอาคารหอประชุมจันผา มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม “วันแม่แห่งชาติ” โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการทั้งฝ่ายพลเรือน อัยการ ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา รวมถึงพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดลำปางทุกหมู่เหล่า รวมกว่า 1,000 คน ร่วมประกอบพิธีทำบุญตักบาตรพร้อมกัน
ทั้งนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา และเพื่อร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี โดยเหล่าบรรดาข้าราชการ และประชาชนชาวลำปาง ทุกหมู่เหล่า ได้รวมพลังหลอมรวมดวงใจเป็นหนึ่งเดียว ออกมาแสดงความรัก ความเทิดทูน ต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ร่วมกันแสดงความกตัญญูกตเวทิตา ด้วยการทำบุญใส่บาตรถวายเป็นพระราชกุศล โดยมีพระภิกษุสงฆ์ จำนวน 83 รูป ประกอบพิธีทางพุทธศาสนา สวดเจริญพระพุทธมนต์ และร่วมอนุโมทนาออกเดินรับบิณฑบาตสิ่งของ จากประชาชนผู้มาร่วมทำบุญ ซึ่งระหว่างการทำกิจกรรมประชาชนผู้ร่วมในพิธีต่างได้พร้อมใจ ร่วมกันอนุโมทนาตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย ตลอดจนพระบารมีแห่งองค์พระสยามเทวาธิราช พระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ ได้โปรดดลบันดาลให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคาพาธ ทรงพระเกษมสำราญ พระราชหฤทัยชื่นบาน มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร สถิตเป็นมิ่งขวัญแก่ปวงชนชาวไทยไปตราบนานเท่านาน.
นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย พลตรีอุกฤษณ์ อากาศวิภาต ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรีลำปาง นายฤทธิพงศ์ เตชะพันธุ์ และนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมคณะผู้บริหารหน่วยงานองค์กรทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกันประกอบพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ ที่บริเวณด้านหน้าอาคารหอประชุมจันผา มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม “วันแม่แห่งชาติ” โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการทั้งฝ่ายพลเรือน อัยการ ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา รวมถึงพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดลำปางทุกหมู่เหล่า รวมกว่า 1,000 คน ร่วมประกอบพิธีทำบุญตักบาตรพร้อมกัน
ทั้งนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา และเพื่อร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี โดยเหล่าบรรดาข้าราชการ และประชาชนชาวลำปาง ทุกหมู่เหล่า ได้รวมพลังหลอมรวมดวงใจเป็นหนึ่งเดียว ออกมาแสดงความรัก ความเทิดทูน ต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ร่วมกันแสดงความกตัญญูกตเวทิตา ด้วยการทำบุญใส่บาตรถวายเป็นพระราชกุศล โดยมีพระภิกษุสงฆ์ จำนวน 83 รูป ประกอบพิธีทางพุทธศาสนา สวดเจริญพระพุทธมนต์ และร่วมอนุโมทนาออกเดินรับบิณฑบาตสิ่งของ จากประชาชนผู้มาร่วมทำบุญ ซึ่งระหว่างการทำกิจกรรมประชาชนผู้ร่วมในพิธีต่างได้พร้อมใจ ร่วมกันอนุโมทนาตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย ตลอดจนพระบารมีแห่งองค์พระสยามเทวาธิราช พระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ ได้โปรดดลบันดาลให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคาพาธ ทรงพระเกษมสำราญ พระราชหฤทัยชื่นบาน มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร สถิตเป็นมิ่งขวัญแก่ปวงชนชาวไทยไปตราบนานเท่านาน.
ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง
ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใน จ.ลำปาง ร่วมถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นข้าราชการที่ดี และเป็นพลังของแผ่นดิน พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่สนองพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานพิธี นำเหล่าบรรดาข้าราชการทั้งฝ่ายพลเรือน อัยการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ของรัฐ จากทุกสังกัดหน่วยงานในจังหวัดลำปาง รวมกว่า 2,000 คน ร่วมกันแสดงความจงรักภักดี ลงนามถวายพระพร และถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดี เป็นพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2557 ที่ หอประชุมจันทน์ผา มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
ในพิธีนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้นำเหล่าบรรดาข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกหมู่เหล่า ร่วมประกอบพิธีทางศาสนาสวดเจริญพระพุทธมนต์ น้อมเกล้าฯถวายเป็นพระราชกุศล และกล่าวถวายพระพรชัยมงคล แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อร่วมแสดงความกตัญญูกตเวทิตา และร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมตั้งจิตอธิษฐานขออนุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจแห่งสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิในสากล โปรดดลบันดาลประทานชัยมงคล ให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ปราศจากโรคาพาธ มีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใด ขอจงสัมฤทธิ์ดังพระราชหฤทัยปรารถนา พระเกียรติคุณแผ่ไพรศาลไปทั่วทุกศานุทิศ สถิตเป็นมิ่งขวัญปกเกล้าของพสกนิกรชาวไทยตราบจิรัฐติกาล
พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกหมู่เหล่า ได้กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณร่วมกัน ต่อเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเป็นข้าราชการที่ดี เป็นพลังของแผ่นดิน และพร้อมจะปฏิบัติหน้าที่เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ โดยให้คำสัตย์ว่า จะประพฤติตนเป็นข้าราชการที่ดี มีความซื่อสัตย์สุจริต จะรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และจะจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์, จะบำเพ็ญตนเป็นแบบอย่างแก่สาธารณะชน และจะเป็นแกนนำในการสร้างสรรค์ความสามัคคี เพื่อนำความมั่นคง และความสงบสุขมาสู่ประเทศชาติ, จะร่วมมือร่วมใจกันทำนุบำรุง ส่งเสริมเด็กและเยาวชนของชาติให้มีพัฒนาการที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพื่อให้เยาวชนเจริญเติบโตเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ คุณธรรม จริยธรรม ซื่อสัตย์สุจริต รู้รักสามัคคี มีความกตัญญูกตเวที ยึดมั่นในการทดแทนคุณแผ่นดิน เพื่อเป็นพลังในการพัฒนาประเทศ และจะยึดมั่นสนองพระมหากรุณาธิคุณปฏิบัติบำเพ็ญตนเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ในการผดุงรักษา สืบสานศิลปวัฒนธรรม อันเป็นมรดกล้ำค่าของชาติให้ดำรงยั่งยืนตลอดไป
ในพิธีนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้นำเหล่าบรรดาข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกหมู่เหล่า ร่วมประกอบพิธีทางศาสนาสวดเจริญพระพุทธมนต์ น้อมเกล้าฯถวายเป็นพระราชกุศล และกล่าวถวายพระพรชัยมงคล แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อร่วมแสดงความกตัญญูกตเวทิตา และร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมตั้งจิตอธิษฐานขออนุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจแห่งสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิในสากล โปรดดลบันดาลประทานชัยมงคล ให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ปราศจากโรคาพาธ มีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใด ขอจงสัมฤทธิ์ดังพระราชหฤทัยปรารถนา พระเกียรติคุณแผ่ไพรศาลไปทั่วทุกศานุทิศ สถิตเป็นมิ่งขวัญปกเกล้าของพสกนิกรชาวไทยตราบจิรัฐติกาล
พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกหมู่เหล่า ได้กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณร่วมกัน ต่อเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเป็นข้าราชการที่ดี เป็นพลังของแผ่นดิน และพร้อมจะปฏิบัติหน้าที่เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ โดยให้คำสัตย์ว่า จะประพฤติตนเป็นข้าราชการที่ดี มีความซื่อสัตย์สุจริต จะรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และจะจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์, จะบำเพ็ญตนเป็นแบบอย่างแก่สาธารณะชน และจะเป็นแกนนำในการสร้างสรรค์ความสามัคคี เพื่อนำความมั่นคง และความสงบสุขมาสู่ประเทศชาติ, จะร่วมมือร่วมใจกันทำนุบำรุง ส่งเสริมเด็กและเยาวชนของชาติให้มีพัฒนาการที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพื่อให้เยาวชนเจริญเติบโตเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ คุณธรรม จริยธรรม ซื่อสัตย์สุจริต รู้รักสามัคคี มีความกตัญญูกตเวที ยึดมั่นในการทดแทนคุณแผ่นดิน เพื่อเป็นพลังในการพัฒนาประเทศ และจะยึดมั่นสนองพระมหากรุณาธิคุณปฏิบัติบำเพ็ญตนเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ในการผดุงรักษา สืบสานศิลปวัฒนธรรม อันเป็นมรดกล้ำค่าของชาติให้ดำรงยั่งยืนตลอดไป
ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง
ประชาชนใน จ.ลำปาง ร่วมบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
จังหวัดลำปาง โดยเหล่ากาชาดจังหวัดลำปาง ร่วมกับ โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง จัดกิจกรรมโครงการ "หยดโลหิตนี้ เพื่อแม่" เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 12 สิงหาคม 2557 "วันแม่แห่งชาติ" เปิดหน่วยบริการรับบริจาคโลหิต ที่ อาคารบุญชูตรีทอง โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย ตำบลสวนดอก อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง มีนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ให้เกียรติเป็นประธานพิธีเปิดงาน โดยมีข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวลำปางทุกหมู่เหล่า รวมกว่า 1,000 คน ร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิตเพื่อแม่
กิจกรรมดังกล่าวได้จัดขึ้น เพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดลำปาง ได้ร่วมกันแสดงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระกรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่พระองค์ทรงมีต่องานบริการโลหิตของสภากาชาดไทย พร้อมได้ร่วมกันบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และร่วมเฉลิมพระเกียรติแด่พระองค์ท่าน โดยการรับบริจาคโลหิตมีจุดมุ่งหมาย เพื่อต้องการลดปัญหาการขาดแคลนโลหิตที่ต้องใช้สำหรับช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วย และเป็นการรณรงค์ส่งเสริมการจัดหาโลหิต จากผู้บริจาคโลหิตที่มีสุขภาพแข็งแรง และเพื่อให้โลหิตที่ได้รับบริจาคมีคุณภาพ ตลอดจนทำให้เกิดมีผู้บริจาคโลหิตรายใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเยาวชนวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา ที่มีอายุตั้งแต่ 17 ปีขึ้นไป ตลอดจนเพื่อเป็นการปลูกฝัง สร้างคุณธรรมในเรื่องความเสียสละแก่ประชาชน และเยาวชน สร้างความตระหนักรู้ให้เห็นถึงความสำคัญของการให้ ด้วยการเสียสละแบบไม่หวังสิ่งตอบแทน ซึ่งการบริจาคโลหิตถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ประชาชนทั่วไป จะสามารถเสียสละให้แก่บุคคลอื่นได้ ด้วยความสมัครใจ และยังเป็นมหากุศลในการช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์
สำหรับการรับบริจาคโลหิตครั้งนี้ ทางเหล่ากาชาดจังหวัดลำปาง ได้จัดกิจกรรมเชิญชวนให้ประชาชน ได้เข้ามาร่วมบริจาคโลหิต ด้วยการมอบใบประกาศเกียรติคุณพร้อมกับของที่ระลึก เพื่อเป็นการขอบคุณแก่ผู้บริจาคโลหิตทุกคน และมอบเข็มผู้บริจาคโลหิตให้แก่ผู้บริจาครายใหม่ นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมมอบของขวัญพิเศษ ให้แก่ผู้ที่บริจาคโลหิตครบ 100 ครั้งขึ้นไป ตลอดจนได้จัดกิจกรรมร่วมลุ้นรางวัลใหญ่ ให้ผู้บริจาคโลหิตทุกราย ร่วมจับฉลากรับของรางวัลจากเหล่ากาชาดจังหวัด อาทิเช่น ตู้เย็น รถจักรยาน พัดลม หม้อหุงข้าว และเตารีด เป็นต้น
ทั้งนี้ประชาชนในจังหวัดลำปาง ที่มีจิตเป็นกุศลสามารถร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิตได้ทุกวัน ที่ศูนย์รับบริจาคโลหิตสภากาชาดไทย โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง โดยทางศูนย์ฯ จะเปิดบริการรับบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม นี้
กิจกรรมดังกล่าวได้จัดขึ้น เพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดลำปาง ได้ร่วมกันแสดงความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระกรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่พระองค์ทรงมีต่องานบริการโลหิตของสภากาชาดไทย พร้อมได้ร่วมกันบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และร่วมเฉลิมพระเกียรติแด่พระองค์ท่าน โดยการรับบริจาคโลหิตมีจุดมุ่งหมาย เพื่อต้องการลดปัญหาการขาดแคลนโลหิตที่ต้องใช้สำหรับช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วย และเป็นการรณรงค์ส่งเสริมการจัดหาโลหิต จากผู้บริจาคโลหิตที่มีสุขภาพแข็งแรง และเพื่อให้โลหิตที่ได้รับบริจาคมีคุณภาพ ตลอดจนทำให้เกิดมีผู้บริจาคโลหิตรายใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเยาวชนวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา ที่มีอายุตั้งแต่ 17 ปีขึ้นไป ตลอดจนเพื่อเป็นการปลูกฝัง สร้างคุณธรรมในเรื่องความเสียสละแก่ประชาชน และเยาวชน สร้างความตระหนักรู้ให้เห็นถึงความสำคัญของการให้ ด้วยการเสียสละแบบไม่หวังสิ่งตอบแทน ซึ่งการบริจาคโลหิตถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ประชาชนทั่วไป จะสามารถเสียสละให้แก่บุคคลอื่นได้ ด้วยความสมัครใจ และยังเป็นมหากุศลในการช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์
สำหรับการรับบริจาคโลหิตครั้งนี้ ทางเหล่ากาชาดจังหวัดลำปาง ได้จัดกิจกรรมเชิญชวนให้ประชาชน ได้เข้ามาร่วมบริจาคโลหิต ด้วยการมอบใบประกาศเกียรติคุณพร้อมกับของที่ระลึก เพื่อเป็นการขอบคุณแก่ผู้บริจาคโลหิตทุกคน และมอบเข็มผู้บริจาคโลหิตให้แก่ผู้บริจาครายใหม่ นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมมอบของขวัญพิเศษ ให้แก่ผู้ที่บริจาคโลหิตครบ 100 ครั้งขึ้นไป ตลอดจนได้จัดกิจกรรมร่วมลุ้นรางวัลใหญ่ ให้ผู้บริจาคโลหิตทุกราย ร่วมจับฉลากรับของรางวัลจากเหล่ากาชาดจังหวัด อาทิเช่น ตู้เย็น รถจักรยาน พัดลม หม้อหุงข้าว และเตารีด เป็นต้น
ทั้งนี้ประชาชนในจังหวัดลำปาง ที่มีจิตเป็นกุศลสามารถร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิตได้ทุกวัน ที่ศูนย์รับบริจาคโลหิตสภากาชาดไทย โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง โดยทางศูนย์ฯ จะเปิดบริการรับบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม นี้
ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง
หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง
แม่ฮ่องสอนจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนและเพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์คืนความสุขให้ประชาชน
จังหวัดแม่ฮ่องสอนจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนและเพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์คืนความสุขให้ประชาชน ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอแม่ลาน้อย ระหว่างวันที่ 10-14 สิงหาคม 2557
บริเวณที่ว่าการอำเภอแม่ลาน้อย นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนและเพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์คืนความสุขให้ประชาชน โดยอำเภอแม่ลาน้อยได้กำหนดกิจกรรมขึ้นในระหว่างวันที่ 10-14 สิงหาคม 2557 เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนในการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการไทย – เมียนมาร์ ในการนำสินค้ามาจำหน่าย ณ พื้นที่อำเภอที่มีอาณาเขตติดต่อกับชายแดน เพื่อสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ดีระหว่างทั้งสองฝ่าย เป็นการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ประเพณีต่อกัน อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการปรองดองสมานฉันท์คืนความสุขให้กับประชาชนชาวอำเภอแม่ลาน้อยและใกล้เคียงอีกด้วย
บริเวณที่ว่าการอำเภอแม่ลาน้อย นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนและเพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์คืนความสุขให้ประชาชน โดยอำเภอแม่ลาน้อยได้กำหนดกิจกรรมขึ้นในระหว่างวันที่ 10-14 สิงหาคม 2557 เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนในการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการไทย – เมียนมาร์ ในการนำสินค้ามาจำหน่าย ณ พื้นที่อำเภอที่มีอาณาเขตติดต่อกับชายแดน เพื่อสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ดีระหว่างทั้งสองฝ่าย เป็นการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ประเพณีต่อกัน อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการปรองดองสมานฉันท์คืนความสุขให้กับประชาชนชาวอำเภอแม่ลาน้อยและใกล้เคียงอีกด้วย
ข่าวโดย : ศุภวัฒน์ สมบูรณ์
หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : ส.ปชส.แม่ฮ่องสอน
จังหวัดแม่ฮ่องสอน เตรียมจัดกิจกรรมโรดโชว์ส่งเสริมการขายในกลุ่มตลาดเป้าหมาย ครั้งที่สาม ที่ภาคใต้
จังหวัดแม่ฮ่องสอน เตรียมจัดกิจกรรมโรดโชว์ส่งเสริมการขายในกลุ่มตลาดเป้าหมาย ครั้งที่สาม ที่ภาคใต้
นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน เตรียมจัด กิจกรรมโรดโชว์ส่งเสริมการขายในกลุ่มตลาดเป้าหมาย ครั้งที่ 3 ที่ จังหวัดสงขลา และจังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 13-18 สิงหาคม 2557 เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวจากภาคใต้ เดินทางเข้ามาเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอนมากขึ้น พร้อมทั้งแสวงหาตลาดใหม่ๆ ทางการท่องเที่ยวให้ผู้ประกอบการของจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเป็นแนวทางกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคเพิ่มมากขึ้นต่อไป
กิจกรรมในงานประกอบด้วย วันพรุ่งนี้( 13 สิงหาคม 2557)การประชุมสัมมนา หัวข้อ การบริหารจัดการ การท่องเที่ยวและการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน/การบรรยายหัวข้อ การพัฒนาการจัดการของผู้ประกอบการท่องเที่ยว/การบรรยายเชิงวิชาการ หัวข้อ ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวกับการพัฒนาการแข่งขันตลาดอิเลคโทรนิค ที่ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำจังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 14 สิงหาคม 2557 มนัสการองค์พระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และศึกษาดูงานที่เกาะยอ จ.สงขลา วันที่ 15 สิงหาคม 2557 คณะเดินทางศึกษาดูงานด้านการค้า และการท่องเที่ยว ชายแดนไทย-มาเลเซีย /ศึกษาดูงานการปรับปรุงภูมิทัศน์สวนสาธารณะหาดใหญ่ และการพัฒนาภูเขาในเขตเมืองเป็นแหล่งท่องเที่ยว และกิจกรรมพบปะผู้ประกอบการเมืองหาดใหญ่สงขลา และพัทลุง วันที่ 16 สิงหาคม 2557ศึกษาดูงานการบริหารจัดการสินค้าโอท็อป ของจังหวัดพังงา วันที่ 17 สิงหาคม 2557 นมัสการหลวงปู่แม ที่วัดฉลอง จังหวัดภูเก็ต /ศึกษาดูงานการเพาะเลี้ยงมุก และการผลิตมุก/ศึกษาดูงานการแปรรูปอาหารและสินค้าโอท็อป และกิจกรรมพบปะผู้ประกอบการจังหวัดภูเก็ต
นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน เตรียมจัด กิจกรรมโรดโชว์ส่งเสริมการขายในกลุ่มตลาดเป้าหมาย ครั้งที่ 3 ที่ จังหวัดสงขลา และจังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 13-18 สิงหาคม 2557 เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวจากภาคใต้ เดินทางเข้ามาเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอนมากขึ้น พร้อมทั้งแสวงหาตลาดใหม่ๆ ทางการท่องเที่ยวให้ผู้ประกอบการของจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเป็นแนวทางกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคเพิ่มมากขึ้นต่อไป
กิจกรรมในงานประกอบด้วย วันพรุ่งนี้( 13 สิงหาคม 2557)การประชุมสัมมนา หัวข้อ การบริหารจัดการ การท่องเที่ยวและการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน/การบรรยายหัวข้อ การพัฒนาการจัดการของผู้ประกอบการท่องเที่ยว/การบรรยายเชิงวิชาการ หัวข้อ ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวกับการพัฒนาการแข่งขันตลาดอิเลคโทรนิค ที่ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำจังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 14 สิงหาคม 2557 มนัสการองค์พระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และศึกษาดูงานที่เกาะยอ จ.สงขลา วันที่ 15 สิงหาคม 2557 คณะเดินทางศึกษาดูงานด้านการค้า และการท่องเที่ยว ชายแดนไทย-มาเลเซีย /ศึกษาดูงานการปรับปรุงภูมิทัศน์สวนสาธารณะหาดใหญ่ และการพัฒนาภูเขาในเขตเมืองเป็นแหล่งท่องเที่ยว และกิจกรรมพบปะผู้ประกอบการเมืองหาดใหญ่สงขลา และพัทลุง วันที่ 16 สิงหาคม 2557ศึกษาดูงานการบริหารจัดการสินค้าโอท็อป ของจังหวัดพังงา วันที่ 17 สิงหาคม 2557 นมัสการหลวงปู่แม ที่วัดฉลอง จังหวัดภูเก็ต /ศึกษาดูงานการเพาะเลี้ยงมุก และการผลิตมุก/ศึกษาดูงานการแปรรูปอาหารและสินค้าโอท็อป และกิจกรรมพบปะผู้ประกอบการจังหวัดภูเก็ต
ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน
อำเภอแม่ลาน้อย จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดน เพื่อสร้างความสมานฉันท์ คืนความสุขให้ประชาชน
อำเภอแม่ลาน้อย จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดน เพื่อสร้างความสมานฉันท์ คืนความสุขให้ประชาชน
ค่ำวานนี้ (11 ส.ค. 57) นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัด แม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าชายแดนไทย-เมียนม่าร์ เพื่อสร้างความสมานฉันท์ คืนความสุขให้ประชาชน ที่บริเวณหน้าที่ว่าการ อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภายใต้โครงการส่งเสริมการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดน ในการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการไทย-เมียนมาร์ โดยการนำสินค้ามาจำหน่าย อีกทั้งเป็นสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ดีระหว่างทั้งสองฝ่าย รวมถึงเป็นการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ต่อกันและเป็นการส่งเสริมการปรองดองสมานฉันท์คืนความสุขให้กับประชาชนชาวอำเภอแม่ลาน้อย และอำเภอใกล้เคียง ต่อไป
กิจกรรมในงานประกอบด้วย การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย-เมียนมาร์, การแข่งขันกีฬาเซปักตะกร้อ, กีฬาฟุตซอล, กีฬาเปตอง, กีฬาวอลเลย์บอล, การแสดงและจำหน่ายสินค้าไทย – เมียนมาร์ , สินค้า OTOP ,การแสดงนิทรรศการของหน่วยงานต่างๆ,กิจกรรมสร้างความปรองดองสมานฉันท์,การประกวดร้องเพลง และการแสดงคอนเสิร์ตศิลปินลูกทุ่ง งานดังกล่าวจะมีไปจนถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2557/
ค่ำวานนี้ (11 ส.ค. 57) นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัด แม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าชายแดนไทย-เมียนม่าร์ เพื่อสร้างความสมานฉันท์ คืนความสุขให้ประชาชน ที่บริเวณหน้าที่ว่าการ อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภายใต้โครงการส่งเสริมการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดน ในการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการไทย-เมียนมาร์ โดยการนำสินค้ามาจำหน่าย อีกทั้งเป็นสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ดีระหว่างทั้งสองฝ่าย รวมถึงเป็นการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ต่อกันและเป็นการส่งเสริมการปรองดองสมานฉันท์คืนความสุขให้กับประชาชนชาวอำเภอแม่ลาน้อย และอำเภอใกล้เคียง ต่อไป
กิจกรรมในงานประกอบด้วย การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย-เมียนมาร์, การแข่งขันกีฬาเซปักตะกร้อ, กีฬาฟุตซอล, กีฬาเปตอง, กีฬาวอลเลย์บอล, การแสดงและจำหน่ายสินค้าไทย – เมียนมาร์ , สินค้า OTOP ,การแสดงนิทรรศการของหน่วยงานต่างๆ,กิจกรรมสร้างความปรองดองสมานฉันท์,การประกวดร้องเพลง และการแสดงคอนเสิร์ตศิลปินลูกทุ่ง งานดังกล่าวจะมีไปจนถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2557/
ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน
จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557
จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557
เช้าวันนี้( 12 สิงหาคม 2557)นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยนางทหัยชนก พนัสอำพล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวแม่ฮ่องสอน ประกอบพิธีทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ สามเณร จำนวน 83 รูป ที่ วัดจองคำพระอารามหลวง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน และกลุ่มพลังมวลชน ประกอบพิธีถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ อาคารบุญชูตรีทอง โรงเรียนห้องสอนศึกษา เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย พร้อมกันนี้กาชาด จ.แม่ฮ่องสอนร่วมกับโรงพยาบาลศรีสังวาลย์ รับบริจาคโลหิตด้วย
ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน ร่วมกันปลูกต้นราชพฤกษ์ จำนวน 200 ต้น ที่บริเวณถนนเลี่ยงเมือง บ้านนาหมากปิน/ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำจำนวน 2 แสนตัว ที่สะพานแม่น้ำปาย บ้านปางหมู/เลี้ยงอาหารกลางวันพระราชทานพร้อมมอบเครื่องอุปโภค บริโภค แก่ผู้ต้องขัง ที่เรือนจำแม่ฮ่องสอน
ในภาคค่ำเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. ข้าราชการทุกหมู่เหล่า ประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา พร้อมกัน ที่ศูนย์ออกกำลังกายเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน จะประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะและ จุดเทียนชัยถวายพระพร เวลา 19.29 น.พร้อมกันทั่วประเทศ นอกจากนั้นในปีนี้การแสดงประกอบ แสง สี เสียง "เทิดพระเกียรติ เมืองสามหมอก"
เช้าวันนี้( 12 สิงหาคม 2557)นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยนางทหัยชนก พนัสอำพล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวแม่ฮ่องสอน ประกอบพิธีทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ สามเณร จำนวน 83 รูป ที่ วัดจองคำพระอารามหลวง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน และกลุ่มพลังมวลชน ประกอบพิธีถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ อาคารบุญชูตรีทอง โรงเรียนห้องสอนศึกษา เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย พร้อมกันนี้กาชาด จ.แม่ฮ่องสอนร่วมกับโรงพยาบาลศรีสังวาลย์ รับบริจาคโลหิตด้วย
ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน ร่วมกันปลูกต้นราชพฤกษ์ จำนวน 200 ต้น ที่บริเวณถนนเลี่ยงเมือง บ้านนาหมากปิน/ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำจำนวน 2 แสนตัว ที่สะพานแม่น้ำปาย บ้านปางหมู/เลี้ยงอาหารกลางวันพระราชทานพร้อมมอบเครื่องอุปโภค บริโภค แก่ผู้ต้องขัง ที่เรือนจำแม่ฮ่องสอน
ในภาคค่ำเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. ข้าราชการทุกหมู่เหล่า ประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา พร้อมกัน ที่ศูนย์ออกกำลังกายเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน จะประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะและ จุดเทียนชัยถวายพระพร เวลา 19.29 น.พร้อมกันทั่วประเทศ นอกจากนั้นในปีนี้การแสดงประกอบ แสง สี เสียง "เทิดพระเกียรติ เมืองสามหมอก"
ข่าวโดย : วาสนา ไข่แก้ว ข่าว / เอกณรินทร์ ใจมะโน ภาพ
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน
ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดงานวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2557
ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดงานวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2557
วันนี้(12 สิงหาคม 2557)นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดงาน วันแห่งชาติ ประจำปี 2557 ที่ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แม่ของปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 อีกทั้งเป็นการสร้างขวัญ และกําลังใจ ให้กับแม่ผู้เลี้ยงลูกพิการ
โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบเกียรติบัตร แก่ แม่ดีเด่น ประจำปี 2557 จำนวน 5 ราย และมอบเครื่องอุปโภคบริโภค แก่เด็กพิการทุกครอบครัว
นางอ้อยอัจฉรา ไชยชนะ อายุ 34 ปี ผู้ได้รับรางวัลแม่ดีเด่น เล่าว่า รู้ว่าลูกคนที่สอง เริ่มผิดปกติ ตั้งแต่อายุ 7 เดือน ได้พยายามทำทุกวิธีเพื่อให้ลูกกลับมาเป็นปกติ และฝากบอกให้แม่ทุกคนให้เข้มแข็ง และอย่าท้อ ให้กำลังตัวเอง และดูแลลูกให้ดี
พร้อมกันนี้ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เลี้ยงอาหารกลางวันแก่เด็กผู้พิการด้วย
วันนี้(12 สิงหาคม 2557)นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานเปิดงาน วันแห่งชาติ ประจำปี 2557 ที่ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แม่ของปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 อีกทั้งเป็นการสร้างขวัญ และกําลังใจ ให้กับแม่ผู้เลี้ยงลูกพิการ
โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบเกียรติบัตร แก่ แม่ดีเด่น ประจำปี 2557 จำนวน 5 ราย และมอบเครื่องอุปโภคบริโภค แก่เด็กพิการทุกครอบครัว
นางอ้อยอัจฉรา ไชยชนะ อายุ 34 ปี ผู้ได้รับรางวัลแม่ดีเด่น เล่าว่า รู้ว่าลูกคนที่สอง เริ่มผิดปกติ ตั้งแต่อายุ 7 เดือน ได้พยายามทำทุกวิธีเพื่อให้ลูกกลับมาเป็นปกติ และฝากบอกให้แม่ทุกคนให้เข้มแข็ง และอย่าท้อ ให้กำลังตัวเอง และดูแลลูกให้ดี
พร้อมกันนี้ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เลี้ยงอาหารกลางวันแก่เด็กผู้พิการด้วย
ข่าวโดย : เอกณรินทร์ ใจมะโน
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน
หน่วยงาน : สวท.แม่ฮ่องสอน
จังหวัดแพร่ จัดงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557
จังหวัดแพร่จัดงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557 ในภาคเช้าและภาคค่ำ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า เช้าวันนี้(12ส.ค.57) ที่บริเวณถนนหน้าโรงยิม 1,000 สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่เป็นปรานนำคณะข้าราชการพลเรือน ข้าราชการตุลาการ ศาล ทหาร ตำรวจ และพสกนิกรชาวแพร่ทุกหมู่เหล่า พิธีลงนามถวายพระพร พิธีทางศาสนา พิธีกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ได้เวียนมาบรรจบครบอีกวาระหนึ่ง พร้อมกันนี้ได้มอบเกียรติบัตรแม่ดีเด่นระดับจังหวัดประจำปี 2557 จำนวน 3 ราย อีกด้วย
ในส่วนของภาคค่ำ ซึ่งจะประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะ พิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล จัดที่บริเวณสนามกีฬา อบจ.แพร่ โดยจัดขึ้นพร้อมๆไปกับส่วนกลาง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า เช้าวันนี้(12ส.ค.57) ที่บริเวณถนนหน้าโรงยิม 1,000 สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่เป็นปรานนำคณะข้าราชการพลเรือน ข้าราชการตุลาการ ศาล ทหาร ตำรวจ และพสกนิกรชาวแพร่ทุกหมู่เหล่า พิธีลงนามถวายพระพร พิธีทางศาสนา พิธีกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ได้เวียนมาบรรจบครบอีกวาระหนึ่ง พร้อมกันนี้ได้มอบเกียรติบัตรแม่ดีเด่นระดับจังหวัดประจำปี 2557 จำนวน 3 ราย อีกด้วย
ในส่วนของภาคค่ำ ซึ่งจะประกอบพิธีถวายเครื่องราชสักการะ พิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล จัดที่บริเวณสนามกีฬา อบจ.แพร่ โดยจัดขึ้นพร้อมๆไปกับส่วนกลาง
ฉัตรชัย พวงขจร /ข่าว /พิมพ์
วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557
จ.พะเยาประกอบพิธี เนื่องในวันแม่แห่งชาติประจำปี 2557
จ.พะเยาประกอบพิธี เนื่องในวันแม่แห่งชาติประจำปี 2557...
ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา นำข้าราชการทุกเหล่า และประชาชนชาวจังหวัดพะเยา ประกอบพิธีลงนามถวายพระพร ถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พร้อมทั้งมอบเกียรติบัตรแม่ดีเด่นจังหวัดพะเยา เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2557 พร้อมกับร่วมทำบุญตักบาตรและปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำลงสู้กว๊านพะเยา
วันนี้ (12 ส.ค.57) ที่บริเวณถนนชายกว๊านหน้าลานอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง อ.เมือง จ.พะเยา นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดจังหวัด , รองผู้ว่าราชการจังหวัด , ข้าราชการ , ทหาร , ตำรวจ , พ่อค้า , นักเรียน , นักศึกษา และประชาชนกว่า 1,000 คน ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์จำนวน 83 รูป พร้อมทั้งปล่อยพันธุ์ปลา ปลาบ้า และปลาตะเพียน เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อีกจำนวน 400,000 ตัว ลงสู่กว๊านพะเยา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2557 ทั้งยังเป็นการเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำเป็นแหล่งโปรตีนในกว๊านพะเยาด้วย...
จากนั้น นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัด , ข้าราชการ , ทหาร, ตำรวจ, พ่อค้า และประชาชนชาวจังหวัดพะเยา ได้ร่วมกันลงนามถวายพระพร ถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557 ที่บริเวณศาลาประชาคมจังหวัดพะเยา
พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้มอบรางวัลแม่ดีเด่นจังหวัดพะเยา ประจำปี 2557 จำนวน 8 ราย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกย่อง และเผยแพร่เกียรติคุณแม่ที่ได้รับรางวัลแม่ดีเด่นเป็นแบบอย่างที่ดี ให้ปรากฏแก่สาธารณชน ส่วนรางวัลแม่ดีเด่นแห่งชาติของจังหวัดพะเยา ประจำปี 2557 คือนางอรพิณ ตันติตระการวัฒนา อายุ 65 ปี จาก อ.เมืองพะเยา ประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม โดยได้เดินทางรับประทานพระฉายาลักษณ์พระราชทาน ประทานเกียรติบัตร ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร กรุงเทพมหานคร
ส่วนในภาคค่ำนั้น จะเป็นพิธีถวายพานพุ่มเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพรฯ ณ บริเวณลานข่วงวัฒนธรรมริมกว๊านพะเยา เริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาเป็นประธานในพิธี
ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา นำข้าราชการทุกเหล่า และประชาชนชาวจังหวัดพะเยา ประกอบพิธีลงนามถวายพระพร ถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พร้อมทั้งมอบเกียรติบัตรแม่ดีเด่นจังหวัดพะเยา เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2557 พร้อมกับร่วมทำบุญตักบาตรและปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำลงสู้กว๊านพะเยา
วันนี้ (12 ส.ค.57) ที่บริเวณถนนชายกว๊านหน้าลานอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง อ.เมือง จ.พะเยา นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดจังหวัด , รองผู้ว่าราชการจังหวัด , ข้าราชการ , ทหาร , ตำรวจ , พ่อค้า , นักเรียน , นักศึกษา และประชาชนกว่า 1,000 คน ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์จำนวน 83 รูป พร้อมทั้งปล่อยพันธุ์ปลา ปลาบ้า และปลาตะเพียน เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อีกจำนวน 400,000 ตัว ลงสู่กว๊านพะเยา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 2557 ทั้งยังเป็นการเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำเป็นแหล่งโปรตีนในกว๊านพะเยาด้วย...
จากนั้น นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัด , ข้าราชการ , ทหาร, ตำรวจ, พ่อค้า และประชาชนชาวจังหวัดพะเยา ได้ร่วมกันลงนามถวายพระพร ถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557 ที่บริเวณศาลาประชาคมจังหวัดพะเยา
พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้มอบรางวัลแม่ดีเด่นจังหวัดพะเยา ประจำปี 2557 จำนวน 8 ราย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกย่อง และเผยแพร่เกียรติคุณแม่ที่ได้รับรางวัลแม่ดีเด่นเป็นแบบอย่างที่ดี ให้ปรากฏแก่สาธารณชน ส่วนรางวัลแม่ดีเด่นแห่งชาติของจังหวัดพะเยา ประจำปี 2557 คือนางอรพิณ ตันติตระการวัฒนา อายุ 65 ปี จาก อ.เมืองพะเยา ประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม โดยได้เดินทางรับประทานพระฉายาลักษณ์พระราชทาน ประทานเกียรติบัตร ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร กรุงเทพมหานคร
ส่วนในภาคค่ำนั้น จะเป็นพิธีถวายพานพุ่มเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพรฯ ณ บริเวณลานข่วงวัฒนธรรมริมกว๊านพะเยา เริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาเป็นประธานในพิธี
ข่าวโดย : นิรันต์
หน่วยงาน : ส.ปชส.พะเยา
หน่วยงาน : ส.ปชส.พะเยา
จังหวัดพะเยา ร่วมกับจังหวัดทหารบกพะเยา จัดงานเฉลิมพระเกียรติแม่ของแผ่นดินสร้างความสุขให้ประชาชน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันจังหวัดพะเยา
เย็นวานนี้ (11ส.ค.57) จังหวัดพะเยา ได้ร่วมกับจังหวัดทหารบกพะเยา และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพะเยา จัดงาน “เฉลิมพระเกียรติแม่ของแผ่นดินสร้างความสุขให้ประชาชน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันจังหวัดพะเยา” โดยมีนายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธาน โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 สิงหาคม 2557 ณ ลานข่วงวัฒนธรรม ริมกว๊านพะเยา เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และบูรณาการกับกิจกรรมส่งเสริมการตลาดการค้า เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ภายใต้โครงการส่งเสริมความสัมพันธ์และการขยายตลาดการค้า การลงทุนในกลุ่มประเทศ GMS อาเซียน และจีน ซึ่งเป็นโครงการตามแผนบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557
สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ การจำหน่ายผลไม้สดจากเกษตรกรโดยตรง อาทิ มังคุด ลองกอง ทุเรียน สับปะรด และลำไยของจังหวัดพะเยา รวมถึงสินค้าโอทอป การแสดงศิลปวัฒนธรรมบนเวทีตลอดงาน
สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ การจำหน่ายผลไม้สดจากเกษตรกรโดยตรง อาทิ มังคุด ลองกอง ทุเรียน สับปะรด และลำไยของจังหวัดพะเยา รวมถึงสินค้าโอทอป การแสดงศิลปวัฒนธรรมบนเวทีตลอดงาน
ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.พะเยา
หน่วยงาน : สวท.พะเยา
หน่วยงาน : สวท.พะเยา
จังหวัดพะเยา จัดงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557
เช้าวันนี้ (12 ส.ค.57) ที่บริเวณถนนชายกว๊านหน้าลานอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดจังหวัด , รองผู้ว่าราชการจังหวัด,ข้าราชการ , ทหาร , ตำรวจ , พ่อค้า , นักเรียน , นักศึกษา และประชาชนกว่า 1,000 คน ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์จำนวน 83 รูป พร้อมทั้งปล่อยพันธุ์ปลา ปลาบ้า และปลาตะเพียน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อีกจำนวน 400,000 ตัว ลงสู่กว๊านพะเยา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 ทั้งยังเป็นการเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำในกว๊านพะเยาด้ว่ย
จากนั้นนายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัด , ข้าราชการ , ทหาร, ตำรวจ, พ่อค้า และประชาชนชาวพะเยา ได้ร่วมกันลงนามถวายพระพร ถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557 ที่บริเวณศาลาประชาคมจังหวัดพะเยา
พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้มอบรางวัลแม่ดีเด่นจังหวัดพะเยา ประจำปี 2557 จำนวน 8 ราย เพื่อเป็นการยกย่อง และเผยแพร่เกียรติคุณแม่ที่ได้รับรางวัลแม่ดีเด่นเป็นแบบอย่างที่ดี ให้ปรากฏแก่สาธารณชน ส่วนรางวัลแม่ดีเด่นแห่งชาติของจังหวัดพะเยา ประจำปี 255 คือนางอรพิณ ตันติตระการวัฒนา อายุ 65 ปี จาก อ.เมืองพะเยา ประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม โดยได้เดินทางไปรับประทานพระฉายาลักษณ์พระราชทาน ประทานเกียรติบัตร ณ อาคารใหม่สวนอัมพร กรุงเทพมหานครฯ
ส่วนในภาคค่ำนั้นจะเป็นพิธีถวายพานพุ่มเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพรฯ ณ บริเวณลานข่วงวัฒนธรรมริมกว๊านพะเยา เริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาเป็นประธานในพิธี
จากนั้นนายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัด , ข้าราชการ , ทหาร, ตำรวจ, พ่อค้า และประชาชนชาวพะเยา ได้ร่วมกันลงนามถวายพระพร ถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2557 ที่บริเวณศาลาประชาคมจังหวัดพะเยา
พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้มอบรางวัลแม่ดีเด่นจังหวัดพะเยา ประจำปี 2557 จำนวน 8 ราย เพื่อเป็นการยกย่อง และเผยแพร่เกียรติคุณแม่ที่ได้รับรางวัลแม่ดีเด่นเป็นแบบอย่างที่ดี ให้ปรากฏแก่สาธารณชน ส่วนรางวัลแม่ดีเด่นแห่งชาติของจังหวัดพะเยา ประจำปี 255 คือนางอรพิณ ตันติตระการวัฒนา อายุ 65 ปี จาก อ.เมืองพะเยา ประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม โดยได้เดินทางไปรับประทานพระฉายาลักษณ์พระราชทาน ประทานเกียรติบัตร ณ อาคารใหม่สวนอัมพร กรุงเทพมหานครฯ
ส่วนในภาคค่ำนั้นจะเป็นพิธีถวายพานพุ่มเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพรฯ ณ บริเวณลานข่วงวัฒนธรรมริมกว๊านพะเยา เริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาเป็นประธานในพิธี
ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.พะเยา
หน่วยงาน : สวท.พะเยา
หน่วยงาน : สวท.พะเยา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)