วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีติดตามโครงการครัวไทยสู่ครัวโลกและการสู่ประชาคมอาเซี่ยนจังหวัดเพชรบูรณ์

เช้าวันนี้ (21 ก.พ.57)  นางสาวอัมพวัน เจริญกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ประจำเขตตรวจที่ 17 ได้ตรวจติดตามการดำเนินงานโครงการตามนโยบายรัฐบาลที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เกี่ยวกับโครงการครัวไทยสู่ครัวโลก และโครงการสู่ประชาคมอาเซี่ยนในปี 2558 ซึ่งจากการติดตามในประเด็นครัวไทยสู่ครัวโลกทางจังหวัดเพชรบูรณ์ได้มีความพยายามที่จะสร้างมาตรฐานสินค้า เป็นอาหารทั้งด้านเกษตร และสินค้าต่าง ๆ ให้ได้ระดับมาตรฐานพื้นฐานอย่าง จีเอ็มพี และ อย. ซึ่งเป็นตัวย่อของผลิตภัณฑ์มาตารฐานต่าง ๆ แต่ยังมีปัญหาในเรื่องของการทำความเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานเหล่านี้มีประโยชน์อย่างไรกับประชาชนผู้บริโภค กับผู้ประกอบการ เพราะฉะนั้นทางสำนักนายกฯ จะนำส่วนหนึ่งไปเสนอกับหน่วยงานส่วนกลางที่เป็นเจ้ากระทรวงในการทำประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปทราบถึงผลิตภัณฑ์ ประโยชน์ของตัวย่อทางด้านมาตรฐานคุณภาพผลิตภัณฑ์ เพื่อให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้นว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ทำไมต้องมี มีแล้วประชาชนจะได้ประโยชน์คือมีสินค้าที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็จะได้จำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงขึ้น หลาย ๆ อย่างล้วนแต่เป็นสิ่งที่ดี แล้วก็เป็นการสร้างมาตรฐาน สินค้าของเราให้มีความยั่งยืน พร้อมที่จะเปิดตัวไปสู่ตลาดระดับโลก ระดับอาเซียนต่อไป

ในขณะที่ประเด็นเกี่ยวกับอาเซียนทางจังหวัดเพชรบูรณ์ค่อนข้างที่จะเน้นเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์มาก มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ และความสมบูรณ์ หลายจุด แต่ว่าขณะนี้เข้าใจว่ายังขาดในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ไปสู่เวทีภายนอก แล้วก็เวทีระดับนานาชาติที่จะให้คนในต่างประเทศได้รู้จักเพชรบูรณ์ เหมือนกับที่จังหวัดภูเก็ตเป็นที่ติดปากของนักท่องเที่ยว ถ้าจังหวัดเพชรบูรณ์ไปถึงระดับนั้นจังหวัดเพชรบูรณ์จะเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้นรายได้กับประชาชนก็จะมีมากขึ้น โครงการอาเซียนสามารถเชื่อมต่อได้กับโครงการครัวไทยสู่ครัวโลก เพราะเมื่อนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวในพื้นที่ของเราก็ต้องมาจับจ่ายสินค้าของเราซึ่งเป็นสินค้าพื้นถิ่น เพราะฉะนั้นก็ต้องมีนวัตกรรมที่ทำให้สองโครงการนี้เชื่อมต่อกันแล้วก็เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในท้องที่จริง ๆ

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สิ่งที่จะฝากไว้ อยากให้คนในท้องที่สนใจในเรื่องของเกษตรปลอดสาร เพราะเกษตรปลอดภัยเป็นยุทธศาสตร์ที่จังหวัดเพชรบูรณ์กำหนดไว้แล้ว แต่ดูแล้วเกษตรกรที่มาร่วมโครงการอาจจะยังมาเพียงพอ อาจจะยังไม่มีความมั่นใจว่าจะเดินไปด้วยดี เรื่องนี้จริง ๆ แล้วหลายจังหวัดที่ผ่านมากำลังเร่ง และมีเกษตรกรเข้ามาร่วมโครงการเป็นจำนวนมากในการทำเกษตรปลอดภัย เพราะกำลังอยู่ในความนิยมของคนทั้งโลก ว่าต้องการอาหารที่ถูกสุขลักษณะปลอดภัยจากสารเคมี เมื่อเราผลิตขึ้นมาได้ราคาจำหน่ายจะสูงขึ้น ดังนั้นจึงอยากจะให้เกษตรกรของจังหวัดเพชรบูรณ์หันมาให้ความสนใจและลองปรับตัวให้ความร่วมมือกับราชการที่เข้าไปช่วยเหลือท่าน หลังจากนั้นท่านจะก้าวเดินไปในเวที ทำมาค้าขาย เวทีเศรษฐกิจของโลกได้อย่างภาคภูมิ และยั่งยืนเป็นความปลอดภัยต่อตัวท่านเองและผู้บริโภคด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น