วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

รอง ผอ.กอ รมน.พิษณุโลก ลุยตรวจพื้นที่ถูกบุกรุกเขาเรดาห์ ถางเพิ่มจาก 621 ไร่ เป็น 931 ไร่ เจอบ้านหรู 1 หลัง ตั้งเด่นบนยอดเขา

รอง ผอ.กอ รมน.พิษณุโลก ลุยตรวจพื้นที่ถูกบุกรุกเขาเรดาห์ ถางเพิ่มจาก 621 ไร่ เป็น 931 ไร่ เจอบ้านหรู 1 หลัง ตั้งเด่นบนยอดเขาเรดาห์ รุดเจรจาขอคืนพื้นที่ทันที เหตุตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวา

เช้าวันที่ (4 มิ.ย.57 ) พ.อ.โอฬาร หาญสุรภานนท์ รอง ผอ.กอ.รมน.พิษณุโลก พร้อมด้วยนาย ธนัช เนมีย์ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก นายอำเภอวังทองและตำรวจ สภ.วังทอง และเจ้าหน้าที่ป่าไม้จากหน่วยป้องกันและรักษาป่า ร่วมสนธิกำลังที่ อบต.วังนกแอ่น โดยมีเป้าหมายตรวจยึดผืนป่าบริเวณเขาเรดาห์ เบื้องต้นพบว่า มีพื้นที่จำนวนทั้งหมดกว่า 931 ไร่ถูกบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวา บริเวณยอดเขาคลองห้วยไคร้ (เขาเรดาร์) เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าดำเนินการและจับกุมแล้ว แต่บางแปลงยังไม่มีความคืบหน้า โดยทุกแปลงมีชื่อระบุตามแปลงเลขที่ 1 – 20 เริ่มจากคดีการจับกุม เลขที่คดี 18/50 คดีเลขที่ .28/50 คดีเลขที่ 99/51 จนถึงคดีเลขที่ล่าสุด 128/56 โดยให้หัวหน้าหน่วยแต่ละหน่วยเป็นผู้ทำหน้าที่เช็คพิกัด ตรวจสอบสถานะพื้นที่ล่าสุด เนื่องจากทั้ง 20 แปลงหรือคดีนั้น บางคดี ได้ดำเนินการถึงที่สุดแล้ว, ยื่นฟ้องอยู่ในชั้นอัยการ, งดการสอบสวน, ขอทราบผลคดี สั่งไม่ฟ้อง ต่อมาคณะของ รอง ผอ.กอ.รมน.พิษณุโลก, ป่าไม้และสปก.พิษณุโลก เดินทางไปดูพื้นที่แปลงพื้นฟูสภาพป่า ตามยุทธการขอพื้นที่ป่าไม้คืนจำนวน 200 ไร่ ที่บ้านบ้านบ่อหมู่ 3 ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก พร้อมกับตัดต้นยางพาราและถางป่าให้อยู่สภาพสมบูรณ์ จากนั้นทั้งคณะเดินทางต่อไปยังบ้านหรู ซึ่งมีนางสมบัติ บุกิ่ง ชาวบ้านเลขที่ 23/1 หมู่ 3 ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เป็นเจ้าของ โดยที่ พ.อ.โอฬาร กล่าวกับเจ้าของบ้านทันทีว่า บ้านที่อยู่นั้นผิดกฎหมายอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ทำให้นางสมบัติ พูดไม่ออก บอกแต่เพียงว่า ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเนื่องจากเป็นของสามีที่เลิกกันไปแล้ว ไม่มีอาชีพใดๆ หากยึด ก็ไม่มีที่อยู่อาศัย หากไล่ไปก็ขอที่อยู่แห่งใหม่ พ.อ.โอฬาร หาญสุรภานนท์ รอง ผอ.กอ.รมน.พิษณุโลก กล่าวว่า สร้างบ้านหรูตั้งอยู่บนเขาเรดาห์หลังนี้ ผิดกฎหมาย จะต้องยืดคืนเพื่อให้เป็นตัวอย่าง โดยใช้วิธีพยายามเจรจาต่อรอง ให้นางสมบัติ บุกิ่ง ออกจากพื้นที่ แต่ไม่มีการจับกุม จะต้องขอคืนพื้นที่ด้วยการเซ็นยินยอมให้ออกจากป่าสงวน คาดว่า ไม่เกิน 1 สัปดาห์น่าจะรู้ผล หลังจากนี้อาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือ อบต.นำพื้นที่ไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนร่วม สถานที่พักผ่อน ถือว่า เป็นสมบัติสาธารณะประโยชน์สามารถใช้ร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีบ้านหรูลักษณะเดียวกันกับนางสมบัติประมาณ 3-4 แห่ง อยู่ใกล้กัน ก็จะต้องใช้วิธีเจรจาขอคืนพื้นที่เช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น