จังหวัดเชียงใหม่จัดประชุมศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 เพื่อหารือแนวทางป้องกันปัญหาพร้อมติดตามสถานการณ์ หลังมีจุด Hot spot เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (4 ก.พ.57) 11 จุด
วันนี้ (5 ก.พ.57) เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์เฉพาะกิจป้องกันแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าในห้วง 80 วันแห่งการเฝ้าระวังและควบคุมหมอกควันไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 21 เมษายน 2557 ซึ่งสถานการณ์โดยรวม ณ วันนี้คุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่อยู่ในระดับปานกลางถึงดี โดยที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พบค่า PM10 จำนวน 41 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า AQI อยู่ที่ 51 สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย พบค่า PM10 จำนวน 27 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า AQI อยู่ที่ 34 และสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศเคลื่อนที่ ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ พบค่า PM10 จำนวน 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า AQI อยู่ที่ 13 ส่วนจุด ส่วนจุด Hot spot ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์ 2557 พบการเกิดเมื่อวานนี้ (4 ก.พ.57) เพียงวันเดียว โดยพบจำนวน 11 จุด แยกเป็น อำเภอดอยเต่า 6 จุด อมก๋อย 2 จุด ส่วนที่อำเภอจอมทอง แม่แจ่ม และดอยหล่อ พบอำเภอละ 1 จุด ซึ่งสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการในพื้นที่ที่เกิดจุด Hot spot โดยทันที ดังนั้นในวันนี้ (5 ก.พ.57) จึงไม่พบการเกิดจุด Hot spot เกิดขึ้นอีก
สำหรับผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ประจำปี 2557 นั้น ทุกภาคส่วนได้ให้ความสำคัญถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้บูรณาการการดำเนินงานในการรณรงค์ป้องกัน ฯ ร่วมกัน โดยในส่วนของมณฑลทหารบกที่ 33 ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ถึงวิธีการดับไฟป่า เพื่อเป็นแนวทาง ป้องปรามปัญหาที่จะเกิดขึ้นแก่ประชาชนใน 73 หมู่บ้าน 6 ตำบล ในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่อำเภอแม่วาง และอำเภออมก๋อย ส่วน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดอบรมเตรียมความพร้อมรวมถึงแนวทางการเปิดช่องทางพิเศษแก่บุคลากรในสังกัดทุกอำเภอ จัดทำคู่มือการป้องกันภัยจากหมอกควันและไฟป่าแก่ อสม.และประชาชนทั่วไป จัดตั้งศูนย์รับรายงานผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 เป็นต้นมา ดำเนินการประสานหน่วยงานในสังกัดให้สร้างความเข้าใจกลุ่มแกนนำในทุกชุมชนในเรื่องของการสร้างความตระหนักของปัญหาหมอกควันและไฟป่า และสนับสนุนข้อมูลและเอกสารวิชาการ ชุดนิทรรศการแก่ทุกอำเภอเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน ส่วนสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดให้นำประเด็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันบรรจุในวาระการประชุมเกษตรอำเภอและผู้เกี่ยวข้องทุกครั้งพร้อมทั้งกำหนดให้มีการรายงานผลการดำเนินงานทุกวันศุกร์ รวมทั้งมีการประชาสัมพันธ์รณรงค์แก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าแก่เกษตรกร
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญต่อปัญหาหมอกควันและไฟป่า ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและนักท่องเที่ยวด้วย ดังนั้นจึงได้กำหนดประชุมระบบทางไกลระหว่างคณะทำงานศูนย์ ฯ กับ 25 อำเภอเป็นประจำทุกวันพุธ โดยกำหนดให้หัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมประชุมด้วยตนเองเพื่อรับทราบสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและร่วมกันกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อไป
ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว
วันนี้ (5 ก.พ.57) เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์เฉพาะกิจป้องกันแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่าในห้วง 80 วันแห่งการเฝ้าระวังและควบคุมหมอกควันไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 21 เมษายน 2557 ซึ่งสถานการณ์โดยรวม ณ วันนี้คุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่อยู่ในระดับปานกลางถึงดี โดยที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พบค่า PM10 จำนวน 41 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า AQI อยู่ที่ 51 สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย พบค่า PM10 จำนวน 27 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า AQI อยู่ที่ 34 และสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศเคลื่อนที่ ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ พบค่า PM10 จำนวน 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า AQI อยู่ที่ 13 ส่วนจุด ส่วนจุด Hot spot ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์ 2557 พบการเกิดเมื่อวานนี้ (4 ก.พ.57) เพียงวันเดียว โดยพบจำนวน 11 จุด แยกเป็น อำเภอดอยเต่า 6 จุด อมก๋อย 2 จุด ส่วนที่อำเภอจอมทอง แม่แจ่ม และดอยหล่อ พบอำเภอละ 1 จุด ซึ่งสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการในพื้นที่ที่เกิดจุด Hot spot โดยทันที ดังนั้นในวันนี้ (5 ก.พ.57) จึงไม่พบการเกิดจุด Hot spot เกิดขึ้นอีก
สำหรับผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ประจำปี 2557 นั้น ทุกภาคส่วนได้ให้ความสำคัญถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้บูรณาการการดำเนินงานในการรณรงค์ป้องกัน ฯ ร่วมกัน โดยในส่วนของมณฑลทหารบกที่ 33 ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ถึงวิธีการดับไฟป่า เพื่อเป็นแนวทาง ป้องปรามปัญหาที่จะเกิดขึ้นแก่ประชาชนใน 73 หมู่บ้าน 6 ตำบล ในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่อำเภอแม่วาง และอำเภออมก๋อย ส่วน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดอบรมเตรียมความพร้อมรวมถึงแนวทางการเปิดช่องทางพิเศษแก่บุคลากรในสังกัดทุกอำเภอ จัดทำคู่มือการป้องกันภัยจากหมอกควันและไฟป่าแก่ อสม.และประชาชนทั่วไป จัดตั้งศูนย์รับรายงานผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 เป็นต้นมา ดำเนินการประสานหน่วยงานในสังกัดให้สร้างความเข้าใจกลุ่มแกนนำในทุกชุมชนในเรื่องของการสร้างความตระหนักของปัญหาหมอกควันและไฟป่า และสนับสนุนข้อมูลและเอกสารวิชาการ ชุดนิทรรศการแก่ทุกอำเภอเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน ส่วนสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดให้นำประเด็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันบรรจุในวาระการประชุมเกษตรอำเภอและผู้เกี่ยวข้องทุกครั้งพร้อมทั้งกำหนดให้มีการรายงานผลการดำเนินงานทุกวันศุกร์ รวมทั้งมีการประชาสัมพันธ์รณรงค์แก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าแก่เกษตรกร
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญต่อปัญหาหมอกควันและไฟป่า ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและนักท่องเที่ยวด้วย ดังนั้นจึงได้กำหนดประชุมระบบทางไกลระหว่างคณะทำงานศูนย์ ฯ กับ 25 อำเภอเป็นประจำทุกวันพุธ โดยกำหนดให้หัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมประชุมด้วยตนเองเพื่อรับทราบสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและร่วมกันกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อไป
ข่าวโดย : ราตรี จักร์แก้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น