วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

มอดไม้ลำปาง ใช้รถกระบะลักลอบขนไม้สักท่อน ซิ่งไปบนถนนสายหลัก เจอรถเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนตรวจจับ ทิ้งของกลางทั้งรถและไม้ วิ่งหนีหายไปในความมืด

ร้อยตรีสมนึก วงศ์สาไฮ หัวหน้าชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วกรมทหารพรานที่ 31 กองทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์ป้องกันปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ตำรวจภูธรภาค 5 หรือ ศปทส.5 ชุดที่ 2 และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.8 (แม่ทรายคำ) ร่วมกันเข้าตรวจสอบรถยนต์กระบะ ที่บรรทุกไม้สักท่อนมาเต็มคันรถ ปกคลุ่มอำพรางไว้ด้วยผ้าสะแลนสีดำ ซึ่งจอดเสียหลักอยู่ริมถนน ที่บริเวณถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม บ้านแพะหนองแดง หมู่ที่ 6 ตำบลทุ่งฝาย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ส่วนคนขับรถและกลุ่มมอดไม้ ที่แอบลักลอบขนไม้สักออกนอกพื้นที่ในครั้งนี้ ได้อาศัยความชำนาญและความมืด วิ่งหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไปได้ ก่อนทางเจ้าหน้าที่จะได้นำของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรทุ่งฝาย เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

สำหรับการติดตามไล่ล่าจับกุมครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้มีการสืบทราบว่า มีกลุ่มขบวนการมอดไม้ แอบลักลอบตัดไม้ในสวนป่า เขตพื้นที่ของ ออป. ในเขตสวนป่าแม่ทรายคำ ซึ่งทำกันเป็นขบวนการ และมักจะชักลากไม้ออกนอกพื้นที่ช่วงกลางดึก เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ และการติดตามของเจ้าหน้าที่ฯ โดยการปฏิบัติการติดตามไล่ล่า ทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้จัดกำลังกระจายซุ่มอยู่ตามจุดต่างๆ พร้อมทั้งจัดกำลังออกลาดตระเวนด้วยรถยนต์ ตามเส้นทางถนนสายหลักและสายรอง จนกระทั่งได้พบกับรถยนต์ต้องสงสัย สภาพเก่า ด้านท้ายกระบะปกคลุมด้วยผ้าสีดำ ขับตามกันมา 4 คัน เจ้าหน้าที่ฯ จึงทำการขับติดตามและให้สัญญาณหยุดรถ เพื่อขอตรวจสอบ แต่ปรากฏว่ารถยนต์ต้องสงสัยทั้งหมด ได้เร่งเครื่องซิ่งหลบหนี ไปคนละทิศคนละทาง และสามารถวิ่งหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไปได้ 3 คัน จอดเสียหลักอยู่บริเวณริมถนน 1 คัน เป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ติดแผ่นป้ายทะเบียน บจ 8751 น่าน และท้ายกระบะได้บรรทุกไม้สักท่อนมาเต็มคันรถมากกว่า 40 ท่อน ส่วนกลุ่มมอดไม้ที่ขับรถคันดังกล่าวมา ได้อาศัยความชำนาญในพื้นที่ วิ่งหลบหนีหายเข้าไปในป่าพร้อมกับความมืด
ทั้งนี้ไม้ของกลางดังกล่าว จะเกี่ยวข้องกับการลักลอบตัดไม้ ในพื้นที่สวนป่าของ ออป.หรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ฯ จะได้มีการสืบสวนติดตามหาตัวกลุ่มมอดไม้กลุ่มนี้ มาสอบสวนหาข้อเท็จจริง และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น