สืบเนื่องจาก เมื่อ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดน่าน โดยนายกาจพล เอิบสุขสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดน่านได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดน่านให้เชิญหน่วยงานด้านป่าไม้ น่าน แพร่ สำนักงาน ทสจ.น่าน ทภ. 32 ร้อย ตชด. 324 รวมทั้งฝ่ายปกครอง มาประชุมหารือ และจัดตั้ง War Roomเฉพาะกิจในการปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่จังหวัดน่านเพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นการประสานงานด้านการข่าวในการขยายผลการปราบปรามการลักลอบตัดไม้ชิงชันในพื้นที่จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นมาตรการหนึ่งในวาระจังหวัดน่าน "สร้างเมืองน่านน่าอยู่ คุ่ป่าต้นน้ำ" โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่ป่าทำการสำรวจและหาข่าวในพื้นที่ที่คาดว่ามีไม้ชิงชัน ซึ่งอาจจะมีการบุกรุกลักลอบตัด/แปรรูปในพื้นที่รับผิดชอบของแต่ละหน่วย
ซึ่งจากการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว นายฉัตรชัย โยธาวุธ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติขุนสถานได้รายงานให้ทราบว่าตรวจพบการบุกรุกตัดไม้ในพื้นที่รับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติขุนสถาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดน่านจึงได้ประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ร่วมดำเนินการลาดตระเวนตรวจสอบพื้นที่บริเวณกังกล่าว ตั้งแต้วันที่ 6-8 พ.ค.57 และพบว่ามีการลักลอบตัดและแปรรูปไม้ชิงชัน บริเวณห้วยแหงโป้ง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งขวาแม่น้ำน่านตอนใต้ ท้องที่บ้านทัพม่าน หมู่ที่ 4 ตำบลบัวใหญ่ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน บริเวณพิกัด (ในพื้นที่เตรียมการอุทยานแห่งชาติขุนสถาน) พิกัดที่ 47 Q 0662237 E 2031701 N และบริเวณพิกัดที่ 47Q 0662263 E 2031830 N ตลอดระยะทางซึ่งเป็นป่าลึกอุดมสมบูรณ์สูงชันเส้นทางอันตรายยังมีไม้ชิงชันขันขึ้นปะปนกับต้นไผ่เป็นจำนวนมาก(เหตุ ที่ยังเหลืออยู่ในป่าในป่าทั่วไป เนื่องจากเป็นความเชื่อของชาวเมืองน่านถือเป็นไม้มงคลสำหรับผู้ที่มีบุญบารมีเท่านั้นที่จะนำไปสร้างบ้านได้ เนื้อไม้แข็งแกร่งมาก ถ้าหากใครมีบารมีไม่ถึงจะประสบกับความหายนะ )
ก่อนหน้านี้มีการลักลอบตัดและขนออกไปบ้างแล้วเหลือแต่ปีกไม้ทิ้งไว้เป็นระยะ โดยได้ตรวจพบไม้ชิงชันขนาดใหญ่ถูกตัดโค่นและแปรรูปเป็นไม้เสาเหลี่ยม กระจัดกระจายอยู่ หลายจุดจึงได้ร่วมกันตรวจยึดไม้ชิงชันนับจำนวนวัดขนาดและตีตราตรวจยึดไม้ชิงชันแปรรูปไว้เป็นของกลางโดยใช้ดวงตรา ต.8421 ย.1117 ตีประทับไว้เป็นเครื่องหมายแสดงการตรวจยึดรวมเป็นไม้ชิงชันแปรรูปจำนวน 22 ชิ้น/เหลี่ยม ปริมาตร 2.09 ม 3 คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐ12,540 บาท (เมื่อถึงปลายทางมูลค่าเพิ่มกว่าล้านบาท) และได้ตรวจยึดเลื่อยโซ่ยนต์พร้อมด้วยแผ่นบังคับโซ่และโซ่ และลวดสลิงซึ่งเป็นอุปกรณ์ใช้ในการกระทำผิด เจ้าหน้าที่จึงได้ระดมกำลังขนไม้ย้ายดังกล่าวออกจากพื้นที่โดยให้เจ้าหน้าที่ยก/ชักลาก เดินเท้าออกจากพื้นที่ระยะทาง 2 กิโลเมตร และใช้รถปิ๊คอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมพันโซ่ที่ล้อ ขนออกจากพื้นที่ระยะทาง 20 กิโลเมตร โดยในห้วงแรกมีการขัดขวางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ด้วยการโค่นต้นไม้ขวางทางประมาณ 5 จุด
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังสามารถตรวจยึด เลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 2 เครื่อง ไม่ปรากฏหมายเลขเครื่องพร้อมแผ่นบังคับโซ่ ขนาด 22 นิ้ว พร้อมโซ่จำนวน 1 เส้น เครื่องที่2 ไม่ปรากฏยี่ห้อและรุ่น ไม่พบแผ่นบังคับโซ่และโซ่ และลวดสลิง จำนวน 2เส้นพร้อมรอกใช้ในการชักลากไม้ อุปกรณ์เสพยาบ้า 5 ชิ้น ในพื้นที่เกิดเหตุ การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ได้นำส่งคดี ณ สถานีตำรวจภูธรนาน้อย จากการตรวจสอบข่าวสารพบว่ากลุ่ม/ขบวนการลักลอบตัดไม้ชิงชันในพื้นที่จังหวัดน่านได้เปลี่ยนพื้นที่ลักลอบตัดไม้ชิงชันจากบ้านบ่อหอย -บ้านภักดีธรรม ตำบลยาบหัวนา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน เข้ามาในพื้นที่บ้านขุนสถาน - บ้านแสนสุข ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่จังหวัดน่านได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานด้านป่าไม้ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองกดดัน / ปิดล้อม ตรวจค้นการลักลอบตัดไม้ชิงชันในพื้นที่ดังกล่าวอย่างเข้มงวด พื้นที่ที่ตรวจพบไม้ดังกล่าวอยู่บริเวณใกล้เคียงพื้นที่ ทำกินของราษฎรชาวไทยภูเขา บ้านขุนสถาน หมู่ และบ้านแสนสุข หมู่ 9 ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่านซึ่งมีเขตติดต่อกับจังหวัดแพร่ และเป็น หมู่บ้านที่มีความเกี่ยวข้องเป็นเครือญาติกับบ้านบ่อหอยและบ้านภักดีธรรม ตำบลยาบหัวนา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน คาดว่ากลุ่ม/ขบวนการผู้ดำเนินการ และนายทุนน่าจะเป็นกลุ่มบุคคลเดียวกับที่ได้ลักลอบตัด/แปรรูปในพื้นที่บ้านบ่อหอย/บ้านภักดีธรรมฯ ซึ่งชุดเฉาะกิจดังกล่าวได้ดำเนินการตรวจยึดไม้ชิงชันและไม่แปรรูปได้จำนวนมาก ในห้วงตั้งแต่วันที่ 4 - 12เมษายนที่ผ่านมา ในบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้ในพื้นที่ที่มีการลักลอบตัด/แปรรูปไม้ยังพบอุปกรณ์การเสพยาในพื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย
ศรายุทธ ประเสริฐนิรมล ภาพ / ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น