วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

รพ.ลำปาง เริ่มเปิดให้บริการหน่วยตรวจสวนหัวใจและหลอดเลือด รักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจอย่างครบวงจร ด้วยเครื่องมืออันทันสมัย

นายแพทย์ ธำรง หาญวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำปาง พร้อมด้วย นายแพทย์ ยศวีร์ โชติช่วง อายุรแพทย์และมัณฑนากรด้านโรคหัวใจ คณะทีมแพทย์ และคณะผู้บริหาร ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ในโอกาสเปิดห้องตรวจสวนหัวใจและหลอดเลือด ให้บริการแก่ผู้ป่วยโรคหัวใจ ที่ ห้องหน่วยตรวจสวนหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลลำปาง ตำบลสวนดอก อำเภอเมืองลำปาง ซึ่งการเปิดให้บริการครั้งนี้เป็นการเริ่มเปิดให้บริการของหน่วยตรวจสวนหัวใจและหลอดเลือด และถือเป็นความสำเร็จครั้งแรกของโรงพยาบาลลำปาง ในการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจ ซึ่งแต่เดิมที่ผ่านมาโรงพยาบาลลำปาง ต้องส่งตัวผู้ป่วยที่จำเป็นต้องทำการสวนหัวใจ ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เนื่องจากทางโรงพยาบาลขาดเครื่องมือทางการแพทย์

โดยนายแพทย์ธำรง หาญวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำปาง ได้เปิดเผยว่า ปัจจุบันในภาคเหนือมีโรงพยาบาล ที่สามารถรักษาโรคหัวใจได้เพียง 3 แห่ง เท่านั้น คือ โรงพยาบาลเชียงราย โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และล่าสุดคือ โรงพยาบาลลำปาง ที่ขณะนี้มีความพร้อม ที่จะให้บริการรักษาผู้ป่วย ที่ป่วยด้วยโรคหัวใจทุกชนิด ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสวนหัวใจและหลอดเลือด การผ่าตัด รวมถึงการกายภาพบำบัด โดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องรอคิวเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ อีกต่อไป ซึ่งโรงพยาบาลลำปาง จะยังเป็นศูนย์รักษาโรคหัวใจขนาดใหญ่ สามารถรองรับผู้ป่วยที่อยู่ในระบบประกันสุขภาพ ทั้งของจังหวัดแพร่ และน่าน ได้อีกด้วย

ขณะที่ นายแพทย์ ยศวีร์ โชติช่วง อายุรแพทย์และมัณฑนากรด้านโรคหัวใจ โรงพยาบาลลำปาง เปิดเผยว่า จำนวนผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจ ปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ล่าสุดจำนวนผู้ป่วยในของโรงพยาบาลต่างๆ มีรวมกันประมาณ 2,500 ราย และมีผู้ป่วยนอกอีกกว่า 12,000 ราย ขณะที่มีผู้ป่วยที่จะต้องทำการผ่าตัด ถึงปีละ 500 ราย ส่วนที่จังหวัดลำปาง ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่กำลังรอคิวเข้าทำการรักษาอีกกว่า 50 ราย เนื่องจากขณะนี้ทางโรงพยาบาลลำปาง ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของจำนวนบุคลากรแพทย์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ โดยในขณะนี้โรงพยาบาลลำปาง มีตนเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่เป็นบุคลากรแพทย์ด้านโรคหัวใจ ซึ่งจะต้องทำการรักษาผู้ป่วยถึงวันละ 6 ราย

สำหรับสาเหตุที่ทำให้แนวโน้มผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น มาจากหลายสาเหตุ อาทิ สาเหตุจากโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง และการสูบบุหรี่ นอกจากนี้ยังพบว่าอายุของผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจมีอายุโดยเฉลี่ยลดลง คือ จากเดิมจะพบผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจตีบ ในช่วงอายุประมาณ 50 ปี ขึ้นไป แต่ปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยอายุน้อยสุดที่ 20 ปี และมากสุดอยู่ที่ประมาณ 80-90 ปี ทั้งนี้ สิ่งที่จะทำให้ห่างไกลจากโรคหลอดเลือดตีบได้ก็คือ ประชาชนต้องหันมาใส่ใจ ตรวจดูแลสุขภาพ เพื่อควบคุมความดัน ควบคุมเบาหวาน ควบคุมไม่ให้ไขมันในเลือดสูง และต้องไม่สูบบุหรี่ ซึ่งการปฏิบัติตัวดังกล่าว จะสามารถช่วยให้จำนวนผู้ป่วยโรคหัวใจตีบลดลงได้


ข่าวโดย : นายชาญณรงค์ ปันเต
    หน่วยงาน : ส.ปชส.ลำปาง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น