วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2557

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดโครงการการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2557 ที่ห้องเยาวมาลย์ โรงแรมชากังราวริเวอร์วิว อำเภอเมืองจังหวัดกำแพงเพชร สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ร่วมกับผู้สมัคร สว.และผู้สนับสนุน จัดทำโครงการการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 เพื่อสร้างความเข้าใจให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้สนับสนุน ผู้สมัคร และผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเลือกตั้ง มีความรู้ ความเข้าใจในกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งระดับชาติ สร้างความเข้าใจให้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง เพื่อให้ผู้สมัครยอมรับในเรื่องรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และการรู้รักสามัคคี เพื่อรักษาความเป็นมิตรเป็นเพื่อนบ้านและความเป็นญาติพี่น้องในท้องถิ่น ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง เพื่อให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งและผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดการเลือกตั้งได้ทราบบทบาทอำนาจหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภา และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกำแพงเพชร การดำเนินโครงการการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเป็นการทั่วไป พ.ศ.2557

โดยมีกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ประธานคณะอนุกรรมการประจำเขตเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดกำแพงเพชรทุกอำเภอ นักเรียน นิสิต นักศึกษา ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจังหวัดกำแพงเพชร ผู้สมัครรับเลือกตั้ง พนักงาน เจ้าหน้าที่ กกต.ทุกคน โดยมุ่งหวังจะสร้างจิตสำนึกที่ดีของผู้สมัคร ไม่ให้กระทำผิดกฎหมายและสร้างความรัก ความสามัคคี ของผู้เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทุกฝ่าย ให้เป็นไปในแนวทางสร้างสรรค์และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่นโดยตรง ซึ่งกระบวนการสร้างความสมานฉันท์จะสัมฤทธิ์ผลได้ จะต้องอาศัยองค์ประกอบที่สำคัญ คือ (๑) ภาคประชาชน ได้แก่ประชาชนทุกคนในเขตจังหวัดกำแพงเพชร ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้งและผู้สนับสนุนผู้สมัคร หากบุคคลเหล่านี้มีทัศนคติที่ดีต่อการเลือกตั้ง รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย รู้รักสามัคคี ปัญหาและความขัดแย้งต่างๆ จะระงับลงทันที และ (๒) เจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องไม่เป็นผู้สร้างเงื่อนไขในการดำเนินการสมานฉันท์ให้เป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ควรจะเป็นกลไก ที่สนับสนุนและส่งเสริมให้กระบวนการสร้างความสมานฉันท์เป็นไปด้วยความราบรื่น การสร้างความสมานฉันท์ในการเลือกตั้ง จะเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองที่สำคัญของการเมืองไทย การเมืองในเชิงสมานฉันท์ จึงเป็นการเมืองของทุกคน โดยทุกคนและเพื่อทุกคน แม้ผู้สมัครจะต้องแข่งขันกันด้วยความดี คุณธรรม ความรู้สึกรับผิดชอบ ที่สำคัญแข่งขันกันด้วยน้ำใจนักกีฬา เคารพในกติกา ความถูกต้อง เคารพในประชาชนผู้มอบอำนาจอธิปไตย ในที่สุดไม่ว่าใครจะได้โอกาสเข้าไปบริหาร ก็จะทำให้ประชาชนได้นักการเมืองที่มีจิตสาธารณะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเข้าไปบริหาร หรือทำหน้าที่ตรวจสอบให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชนท้องถิ่นต่อไป



นิพนธ์ รอดทรัพย์ / ข่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น