วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

กลุ่มผู้เสียหายจากบริษัททัวร์พะเยา เข้าร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัด หลังถูกบริษัททัวร์ฯ โกงเงินกว่า 40 ล้าน และคดียังไม่มีความคืบหน้า

วันนี้ (2 ก.ค.57) นายสมาน ขันกฤษณ์ อายุ 72 ปี ชาว ต.แม่ต๋ำ อ.เมืองพะเยา แกนนำฯ พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่มเครือข่ายผู้เสียหายจากบริษัทนพิศทัวร์ และเจ้าหน้าที่ สคบ.จังหวัดพะเยา กว่า 20 คน เข้ายื่นหนังสือ ถึงนายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา โดยนายสมาน แกนนำฯ กล่าวว่า เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางบริษัท นพิศทัวร์ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 595 หมู่ 17 ถ.พหลโยธิน ต.เวียง อ.เมืองพะเยา ได้เสนอขายโปรแกรมทัวร์ไปประเทศญี่ปุ่นและประเทศต่างๆ ในเอเชีย ให้กับลูกค้าหลายรายทั้งในจังหวัดพะเยาและต่างจังหวัดภาคเหนือตอนบน แต่กลับเบี้ยวลูกค้าไม่เดินทางตามวันที่กำหนด และเมื่อติดต่อเจ้าของก็ปรากฏว่าได้หลบหนีไป จนกระทั่งทางกลุ่มผู้เสียหาย 8 กลุ่ม ใน อ.เมืองพะเยาได้ร้องเรียนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองพะเยา เพื่อให้ติดตามเจ้าของทัวร์มาดำเนินคดีรวมถึงคืนเงินให้กับลูกทัวร์ ตั้งแต่เมื่อวันที่27 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา แต่เรื่องกลับเงียบหายไปจนกระทั่งวันนี้ ตนจึงได้พาตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายกว่า 20 คน พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ สคบ.จังหวัดพะเยา เข้ามาร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา รวมถึงพล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา และประธานสภาทนายความจังหวัดพะเยา เพื่อให้การช่วยเหลือและติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีเนื่องจากเห็นว่าเวลาล่วงเลยไปมากแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้าของคดีเลย

นายสมาน แกนนำฯ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับผู้เสียหายนั้นมีอยู่จำนวนหลายร้อยคน โดยแยกออกเป็น 8 กลุ่มด้วยกัน ซึ่งขณะนี้เจ้าของบริษัทดังกล่าวก็ยังหลบหนีอยู่ ทั้งนี้จนถึงปัจจุบันการดำเนินการด้านคดียังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ทั้งด้านในการติดตามจับกุมผู้กระทำผิดเพื่อให้มารับโทษตามกฎหมาย ทั้งคดีแพ่งและอาญา รวมถึงหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการกำกับโดยตรงยังไม่สามารถติดตามหรือดำเนินคดีในการแก้ไขปัญหาให้กับกลุ่มผู้เสียหายได้ และที่สำคัญผู้เสียหายแต่ละรายสูญเงินไปคนละ 50,000 – ถึงหลายแสนบาท รวมมูลค่าไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาททั่วจังหวัดพะเยา

ต่อมานายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้สั่งการให้นายชาติชาย มีเกิดมูล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยหัวหน้าสำนักงานจังหวัด เข้ารับเรื่องพร้อมจะประสานสั่งการโดยอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในเรื่องของการเร่งการดำเนินคดีและการติดตามจับกุมตัว รวมถึงจะได้ประสานไปยังในส่วนของจังหวัดเชียงรายเพื่อให้ติดตามจับกุมตัวด้วย เนื่องจากบริษัทดังกล่าวได้มีการขายทัวร์ไปในหลายจังหวัดด้วย



ข่าวโดย : ทีมข่าว สวท.พะเยา
หน่วยงาน : สวท.พะเยา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น