เครือข่ายเยาวชนยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อการรณรงค์โครงการรักไม่เมาเฝ้าระวังสถานที่เสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์หลังการดื่มในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ เพื่อรณรงค์ลดการมีเพศสัมพันธ์หลังจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในคืนเทศกาลแห่งความรัก ลดการแพร่เชื้อ HIV ในกลุ่มนักศึกษา การลดการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร
วันนี้ (11 ก.พ. 2557) เวลา 09.40 น. นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเป็นประธานในกิจกรรม รักไม่เมา ของเครือข่ายป้องกันปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสารเสพติดในกลุ่มนักศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับมูลนิธิพลังชุมชนไทยและสถาบันนานาชาติไอโอจีทีเอ็นทีโอ มูฟเม้นท์ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวทางเครือข่ายเยาวชนนักศึกษาได้ร่วมกับเครือข่าย 4 สถาบันการศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาภาคพายัพเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
จากการสำรวจพฤติกรรมและทัศนคติของเยาวชนนักศึกษากับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในจังหวัดเชียงใหม่ปี พ.ศ.2556 จำนวน 3,000 คน พบว่า เยาวชนอายุระหว่าง 18-24 ปี คิดเป็นร้อยละ 72 มีพฤติกรรมเคยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และร้อยละ 82 ยังคงเป็นนักดื่มในปัจจุบัน โดยประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เยาวชนนิยมดื่มมากที่สุด 3 อันดับได้แก่ เบียร์ เหล้าสี และเหล้าขาว ซึ่งเยาวชนนักศึกษาจำนวนมากนิยมนำเทศกาลและวันสำคัญต่างๆ มาเป็นโอกาสในการสร้างการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น วันคล้ายวันเกิด วันขึ้นปีใหม่ เทศกาลสงกรานต์ และวันวาเลนไทน์ พร้อมทั้งยังพบกลุ่มนักศึกษาที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใช้เวลาเพียง 5 นาทีสามารถหาซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ประกอบกับในช่วงนี้กลุ่มธุรกิจร้านอาหารและสถานบันเทิงได้มีการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายและกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการตลาดในเดือนแห่งความรัก ทั้งนี้ทางเครือข่ายจึงได้จัดกิจกรรมรณรงค์โครงการ “รักไม่เมา Love without Alcohol” เพื่อการรณรงค์โครงการรักไม่เมาเฝ้าระวังสถานที่เสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์หลังการดื่มในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ เพื่อรณรงค์ลดการมีเพศสัมพันธ์หลังจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในคืนเทศกาลแห่งความรัก ลดการแพร่เชื้อ HIV ในกลุ่มนักศึกษา การลดการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร รณรงค์การใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิง พร้อมกันนี้ทางเครือข่าย เห็นว่าการรณรงค์จำเป็นต้องทำไปพร้อมกับการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งประเทศไทยได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 6 ปี ทางเครือข่ายจึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ในฐานะประธานกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัดเชียงใหม่มีเนื้อหาสำคัญดังนี้ 1. ตรวจสอบร้านค้า-สถานบันเทิง ในการจัดโปรโมชันส่งเสริมการขายที่ผิดกฎหมาย และคุมเข้มร้านค้า-สถานบันเทิงในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และให้ปิดสถานบันเทิงตามที่กฎหมายกำหนด 2. ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่สนับสนุนการขับเคลื่อนการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาร้านเหล้ารอบสถาบันการศึกษา และร้านเหล้าใกล้หอพักเอกชน
โดยวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ทางเครือข่ายจะออกรณรงค์ในพื้นที่สาธารณะในจังหวัดเชียงใหม่เพื่อแจกสื่อรณรงค์ ถุงยางอนามัย และการแสดงละครเร่ ทั้งนี้ทางเครือข่าย จะดำเนินการสำรวจความเห็นของเยาวชนในจังหวัดเชียงใหม่กับการใช้เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในวันวาเลนไทน์และจำนำเรียนข้อมูลแก่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง พร้อมทั้งจะรายงานผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (11 ก.พ. 2557) เวลา 09.40 น. นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเป็นประธานในกิจกรรม รักไม่เมา ของเครือข่ายป้องกันปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสารเสพติดในกลุ่มนักศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับมูลนิธิพลังชุมชนไทยและสถาบันนานาชาติไอโอจีทีเอ็นทีโอ มูฟเม้นท์ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวทางเครือข่ายเยาวชนนักศึกษาได้ร่วมกับเครือข่าย 4 สถาบันการศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาภาคพายัพเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
จากการสำรวจพฤติกรรมและทัศนคติของเยาวชนนักศึกษากับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในจังหวัดเชียงใหม่ปี พ.ศ.2556 จำนวน 3,000 คน พบว่า เยาวชนอายุระหว่าง 18-24 ปี คิดเป็นร้อยละ 72 มีพฤติกรรมเคยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และร้อยละ 82 ยังคงเป็นนักดื่มในปัจจุบัน โดยประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เยาวชนนิยมดื่มมากที่สุด 3 อันดับได้แก่ เบียร์ เหล้าสี และเหล้าขาว ซึ่งเยาวชนนักศึกษาจำนวนมากนิยมนำเทศกาลและวันสำคัญต่างๆ มาเป็นโอกาสในการสร้างการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น วันคล้ายวันเกิด วันขึ้นปีใหม่ เทศกาลสงกรานต์ และวันวาเลนไทน์ พร้อมทั้งยังพบกลุ่มนักศึกษาที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใช้เวลาเพียง 5 นาทีสามารถหาซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ประกอบกับในช่วงนี้กลุ่มธุรกิจร้านอาหารและสถานบันเทิงได้มีการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายและกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการตลาดในเดือนแห่งความรัก ทั้งนี้ทางเครือข่ายจึงได้จัดกิจกรรมรณรงค์โครงการ “รักไม่เมา Love without Alcohol” เพื่อการรณรงค์โครงการรักไม่เมาเฝ้าระวังสถานที่เสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์หลังการดื่มในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ เพื่อรณรงค์ลดการมีเพศสัมพันธ์หลังจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในคืนเทศกาลแห่งความรัก ลดการแพร่เชื้อ HIV ในกลุ่มนักศึกษา การลดการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร รณรงค์การใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิง พร้อมกันนี้ทางเครือข่าย เห็นว่าการรณรงค์จำเป็นต้องทำไปพร้อมกับการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งประเทศไทยได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 6 ปี ทางเครือข่ายจึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ในฐานะประธานกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัดเชียงใหม่มีเนื้อหาสำคัญดังนี้ 1. ตรวจสอบร้านค้า-สถานบันเทิง ในการจัดโปรโมชันส่งเสริมการขายที่ผิดกฎหมาย และคุมเข้มร้านค้า-สถานบันเทิงในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และให้ปิดสถานบันเทิงตามที่กฎหมายกำหนด 2. ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่สนับสนุนการขับเคลื่อนการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาร้านเหล้ารอบสถาบันการศึกษา และร้านเหล้าใกล้หอพักเอกชน
โดยวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ทางเครือข่ายจะออกรณรงค์ในพื้นที่สาธารณะในจังหวัดเชียงใหม่เพื่อแจกสื่อรณรงค์ ถุงยางอนามัย และการแสดงละครเร่ ทั้งนี้ทางเครือข่าย จะดำเนินการสำรวจความเห็นของเยาวชนในจังหวัดเชียงใหม่กับการใช้เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในวันวาเลนไทน์และจำนำเรียนข้อมูลแก่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง พร้อมทั้งจะรายงานผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
ข่าวโดย : ณัฏฐ์ สินันตา /อภิรฏา อัลภาชน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น